1 คนสงสัย
ศพผู้ป่วยโควิด-19 แพร่กระจายเชื้อได้ จริงหรือ
สถาบันพยาธิวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยวิธีการจัดการการศพผู้เสียชีวิต กรณีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต เพื่อการจัดการเชื้อ แปลว่าศพผู้ป่วยโควิดสามารถแพร่เชื้อได้ด้วยหรือ
anonymous
 •  4 ปีที่แล้ว
meter: true
1 ความเห็น

โควิด 2019

Ad.tar เลือกให้ข้อความนี้✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด

เหตุผล

ศพผู้ป่วยโควิด-19 แพร่กระจายเชื้อได้ กระทรวงสาธารณสุข เผยวิธีเก็บ จัดการ

ที่มา

https://www.prachachat.net/general/news-654358

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    สิงคโปร์กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ทำการชันสูตรพลิกศพ (ชันสูตรพลิกศพ) ศพผู้ป่วยโควิด-19 หลังจากการสอบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว พบว่าโควิด-19 ไม่มีอยู่จริงในรูปของไวรัส แต่เป็นแบคทีเรียที่ได้รับรังสีและทำให้มนุษย์เสียชีวิตจากการแข็งตัวของเลือด
    สิงคโปร์กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ทำการชันสูตรพลิกศพ (ชันสูตรพลิกศพ) ศพผู้ป่วยโควิด-19 หลังจากการสอบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว พบว่าโควิด-19 ไม่มีอยู่จริงในรูปของไวรัส แต่เป็นแบคทีเรียที่ได้รับรังสีและทำให้มนุษย์เสียชีวิตจากการแข็งตัวของเลือด พบโรคโควิด-19 ทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือด ซึ่งทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือดในมนุษย์ และทำให้เลือดแข็งตัวในเส้นเลือด ทำให้คนหายใจลำบาก เพราะสมอง หัวใจ และปอดไม่สามารถรับออกซิเจนได้ ทำให้คนเสียชีวิต อย่างรวดเร็ว. เพื่อหาสาเหตุของการขาดแคลนพลังงานระบบทางเดินหายใจ แพทย์ในสิงคโปร์ไม่ฟังระเบียบการของ WHO และทำการชันสูตรพลิกศพสำหรับ COVID-19 หลังจากที่แพทย์เปิดแขน ขา และส่วนอื่นๆ ของร่างกายและตรวจดูอย่างระมัดระวัง พวกเขาสังเกตเห็นว่าหลอดเลือดขยายตัวและเต็มไปด้วยลิ่มเลือด ซึ่งขัดขวางการไหลเวียนของเลือดและลดการไหลของออกซิเจน ในร่างกายทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ หลังจากเรียนรู้เกี่ยวกับงานวิจัยนี้ กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ได้เปลี่ยนโปรโตคอลการรักษาสำหรับ Covid-19 ทันทีและให้แอสไพรินแก่ผู้ป่วยที่เป็นบวก ฉันเริ่มทาน 100 มก. และอิมโรแมค ส่งผลให้ผู้ป่วยเริ่มฟื้นตัวและสุขภาพก็เริ่มดีขึ้น กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์อพยพผู้ป่วยมากกว่า 14,000 คนในหนึ่งวันและส่งพวกเขากลับบ้าน หลังจากช่วงระยะเวลาของการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ แพทย์ในสิงคโปร์อธิบายวิธีการรักษาโดยกล่าวว่าโรคนี้เป็นกลอุบายทั่วโลก "ไม่ใช่แค่การแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือด (ลิ่มเลือด) และวิธีการรักษา ยาเม็ดยาปฏิชีวนะ ต้านการอักเสบและ ทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด (แอสไพริน). แสดงว่าสามารถรักษาโรคได้ ตามที่นักวิทยาศาสตร์ชาวสิงคโปร์คนอื่น ๆ ระบุว่าไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและห้องไอซียู (ICU) โปรโตคอลสำหรับเอฟเฟกต์นี้ได้รับการเผยแพร่แล้วในสิงคโปร์ จีนรู้เรื่องนี้แล้ว แต่ไม่เคยเปิดเผยรายงานของตน แบ่งปันข้อมูลนี้กับครอบครัว เพื่อนบ้าน คนรู้จัก เพื่อนฝูง และเพื่อนร่วมงาน เพื่อที่พวกเขาจะได้กำจัดความกลัวของ Covid-19 และตระหนักว่านี่ไม่ใช่ไวรัส แต่เป็นแบคทีเรียที่ได้รับรังสีเท่านั้น เฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำมากเท่านั้นที่ควรระวัง รังสีนี้ยังทำให้เกิดการอักเสบและขาดออกซิเจน ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อควรรับประทาน Asprin-100mg และ Apronik หรือ Paracetamol 650mg ที่มา: กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์
    Mrs.Doubt
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ด่วน! ยอดผู้ป่วยโควิดทั่วโลกทะลุ 2 ล้านราย
    วันนี้ (15 เม.ย) เว็บไซต์เวิลโดมิเตอร์ส (WorldoMeters) รายงานว่า ณ เวลา 13.20 น.ตามเวลาไทย ยอดผู้ป่วยโควิดทั่วโลกอยู่ที่ 2,000,231 คน และเสียชีวิต 126,758 คน ส่วนผู้ป่วยที่รักษาหายรวม 484,729 คน
    Ad.tar
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ใช้ยาไฮดรอกซีคลอโรควินร่วมกับยาตัวอื่นในผู้ป่วยโควิด-19 ที่เป็นมะเร็ง พบว่า เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เสียชีวิตใน 30 วันถึง 3 เท่า จริงหรือคะ
    ผลการศึกษาเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่าแพทย์อาจต้องการละเว้นการสั่งยาไฮดรอกซีคลอโรควินร่วมกับการใช้ยาปฏิชีวนะอซิโธรไมซิน (azithromycin) สำหรับผู้ป่วยเหล่านี้จนกว่าจะมีการศึกษาเพิ่มเติม ดร.ฮาวเวิร์ด เบอร์ริส (Howard Burris) ประธานสมาคมมะเร็งวิทยาคลินิกแห่งอเมริกา (ASCO) กล่าวในการแถลงข่าวเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการศึกษาว่า “การรักษาด้วยยาไฮดรอกซีคลอโรควินร่วมกับอซิโธรไมซิน มีความสัมพันธ์อย่างมากกับความเสี่ยงของการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นในผู้ป่วยโควิด-19 ที่เป็นมะเร็ง” จริงหรือเปล่าคะ
    anonymous
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 จะแพร่กระจายเชื้อโรคได้มากที่สุด ในช่วงที่เริ่มแสดงอาการ เช่น เริ่มเจ็บคอ ไอ จาม จริงหรือ
    องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยแพร่งานวิจัยที่บ่งชี้ว่า ผู้ป่วยโควิด-19 จะแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้มากที่สุด ในช่วงที่เริ่มแสดงอาการ เช่นเริ่มเจ็บคอ ไอ จาม การเข้าสู่ร่างกายมนุษย์นั้น เชื้อไวรัสโควิด-19 จะเริ่มฝังตัวตั้งแต่ระบบทางเดินหายใจส่วนบน ก่อนจะค่อยๆกระจายไปยัง ส่วนอื่นๆของร่างกาย ดังนั้น ละอองฝอย จากผู้ที่เริ่มมีอาการ ในจำนวนไม่มาก ก็สามารถแพร่สู่ร่างกายผู้อื่นได้แล้ว
    naydoitall
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false