1 คนสงสัย
สุขภาพที่ดี
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอยู่เสมอในการดูแลสุขภาพ เนื่องจากมีงานวิจัยมากมายที่สรุปออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า การออกกำลังการอย่างสม่ำเสมอช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคได้มากมาย

การออกกำลังกายในระดับที่เหมาะสมจะช่วยปรับปรุงสุขภาพหัวใจ หลอดเลือด และกระดูกให้ดีขึ้นเป็นการดูแลสุขภาพด้วยตัวเองง่าย ๆ และใครที่ต้องการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ลดไขมัน หรือต้องการดูแลรูปร่างให้ดี การออกกำลังกายก็ช่วยได้เรื่องเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
anywaystravel02
 •  2 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    โรงพยาบาลราชวิถี ศาสตราจารย์เฉิน หุ่ยเหริน เน้นย้ำว่า หากทุกคนที่ได้รับข้อความนี้ สามารถส่งต่อให้คนอื่นได้สิบคน รับรองว่าจะมีชีวิตหนึ่งอย่างน้อยที่จะได้รับการช่วยชีวิต... ฉันได้ทำส่วนของฉันแล้ว หวังว่าคุณจะช่วยทำส่วนของคุณด้วย ขอบคุณ! 🍋 น้ำมะนาวร้อนสามารถช่วยชีวิตคุณได้ตลอดไป 🍋 ถึงจะยุ่งแค่ไหนก็ต้องดู แล้วบอกคนอื่น ส่งต่อความรักออกไป! 🍋 น้ำมะนาวร้อน - ฆ่าเซลล์มะเร็งเท่านั้น! 🍋 หั่นมะนาว 2-3 ชิ้นบางๆ ใส่ในแก้ว เติมน้ำร้อน มันจะกลายเป็น "น้ำด่าง" ดื่มทุกวัน จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน 🍋 น้ำมะนาวร้อนสามารถปล่อยสารต้านมะเร็งที่ขมขื่น ซึ่งเป็นความก้าวหน้าใหม่ในการรักษามะเร็งในวงการแพทย์ น้ำมะนาวแช่แข็งมีแค่วิตามินซี เหมือนกับมะเขือเทศที่ต้องปรุงสุกถึงจะมีไลโคปีน 🍋 น้ำมะนาวร้อนมีผลต่อซีสต์และเนื้องอก ได้รับการพิสูจน์ว่าสามารถรักษามะเร็งทุกประเภทได้ 🍋 การใช้สารสกัดจากมะนาวในการรักษา จะทำลายเซลล์มะเร็งเท่านั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์ที่มีสุขภาพดี 🍋 นอกจากนี้... กรดมะนาวและฟลาโวนอยด์ในน้ำมะนาว สามารถปรับความดันโลหิต ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำลึก ปรับการไหลเวียนของเลือด ลดการเกิดลิ่มเลือด อ่านเสร็จแล้ว บอกคนอื่น ครอบครัว เพื่อน ส่งต่อความรักออกไป! ดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีนะคะ 🙏🏻💖
    ไม่ระบุชื่อ
     •  6 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    คนปลูกเห็ดไม่กินเห็ด คนขายเห็ดไม่กินเห็ด เห็ดมีอันตรายจริงหรือ
    คนชอบกินเห็ดต้องอ่านให้จบ คนปลูกเห็ดไม่กินเห็ด ? คนขายเห็ดไม่กินเห็ด ? เห็ดนานาชนิด ที่เรารู้จักและคนก็ชอบกิน เพราะรสชาติที่อร่อยกินง่าย และเรารู้แต่ประโยชน์ที่มีอยู่ในเห็ดมากมาย แต่เราไม่เคยรู้ถึง....ผลเสียของเห็ด หมายเหตุ เห็ดที่พูดถึงนั้นไม่ได้หมายถึง ทุกโรงเพาะเห็ดหรือเห็ดทั้งหมด แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า เห็ดชนิดใดที่ปลอดภัย จึงอยากให้ทุกคนโปรดใคร่ครวญพิจารณา ยังไม่มีนักวิชาการคนใด พูดถึงผลเสียของเห็ด เราจะรู้กันแต่ประโยชน์ของเห็ด โดยเฉพาะถ้าเรากินเห็ด 3 ชนิดจะช่วยป้องกันมะเร็งและมีผลดีต่อสุขภาพ แต่เราไม่เคยรู้ที่มาที่ไป จากผลเสียที่ติดมากับเห็ดเลย จนมาวันนี้ ได้คุยกับคนขายเห็ดโดยเฉพาะเห็ดนางฟ้า วันนี้เรื่องราวที่จะมาเล่า. คำพูดคือความจริงทุกคำ ถ้าผู้อ่านช่วยส่งต่อเอาบุญ จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ขอให้ทุกคนที่ชอบกินเห็ด ได้ป้องกันที่ตัวเรา ว่าเราควรจะกินเห็ดต่อไปหรือจะเลิกกินเห็ด จะได้ป้องกันตนเองจากโรคร้ายที่จะตามมาจากรูปแบบที่เราคาดไม่ถึง จากการได้คุยเปิดใจ กับคนขายเห็ดหรือคนเพาะเห็ดขาย คุณมนัสมีอาชีพขายเห็ด ขายส่งต่อกับพ่อค้าแม่ค้าต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทำมาจนเข้าปีที่ 20 สิ่งหนึ่งที่รู้ในใจคือ จะไม่ให้ลูกและครอบครัวตัวเองกินเห็ดที่ขายเลย จนกระทั่งผลที่สุด....ร่างกายตัวเองทรุด หมดเรี่ยวหมดแรง ทั้งที่ไม่มีโรคประจำตัว เป็นมาแบบนี้มาเป็นเดือน ๆ จนไปให้หมอตรวจร่างกาย หมอบอกว่ามีเชื้อมะเร็งในกระแสเลือด แต่หาจุดที่เป็นไม่เจอ แต่ฟังจากหมอพูดว่า มะเร็งถ้าเป็นระยะที่ 1 หรือที่ 2 คงไม่พบ นี่อาจจะเป็นระยะ 3 หรือ 4 แต่หมอก็ยังเช็คไม่ได้ว่าเป็นตรงไหน คุณมนัสก็กลับบ้านมาด้วยใจหดหู่หมดกำลังใจ แต่มีลูกที่น่ารักถึง 7 คน มีภรรยาที่น่ารัก แม่พ่อและญาติที่รักอีกหลายชีวิต ที่จะทำให้ต้องสู้กับโรคร้าย จนกระทั่งคุณมนัสได้เปิดใจ เล่าให้ฟังถึงเรื่องราวที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนเลยคือ สาเหตุที่ทำให้เป็นมะเร็ง คือน่าจะมาจากสาเหตุ จากการสูดดมสารในตัวเห็ดที่ตัวเองต้องทำขายทุกวันนั้นเอง เราถามว่าทำไมถึงทำให้คิดอย่างนั้น คุณมนัสเลยเล่าให้ฟังว่า การปลูกเห็ดนางฟ้าหรือเห็ดเข็ม จะต้องใช้ยาฆ่าหนอนหรือยาฆ่าแมลง และต้องใช้เป็นจำนวนมากทุกรอบ ที่ต้องการผลผลิตที่มากและดี ต้องไม่ให้มีหนอนและแมลง แล้วคุณมนัสไม้รู้หรือถึงได้เอามาขาย คุณมนัสตอบรู้ครับ เลยไม่ให้คนในครอบครัวกินเลย รวมทั้งเพื่อนพ้องที่ตัวเองรักก็ไม่แนะนำให้กิน เพื่อนบางคนถามผมว่า ทำไมไม่เอาเห็ดมาฝากบ้าง ทั้งที่มีอาชีพขายส่งเห็ด ในใจผมรู้แต่ไม่รู้จะตอบเพื่อนว่าไง แต่ไม่เคยเอาเห็ดนางฟ้าไปฝากใครเลย จนมาวันนี้เหมือนกับว่า สิ่งที่เจอจะเป็นเวรกรรมที่เราไม่ได้ตั้งใจหรือไม่ ที่มาทำให้เป็นมะแร็ง ทั้งที่ไม่ได้กินเห็ดนางฟ้า ครอบครัวก็ไม่เคยกินเห็ดนางฟ้าหรือเห็ดเลย แต่ส่งขายให้คนกินทั้งประเทศ เวรกรรมจะมาย้อนที่หรือไม่ จึงถามไปว่าทำไมถึงคิดอย่างนั้น คุณมนัสเล่าต่อว่า ก่อนที่จะเป็นแบบนี้ เขาได้เห็นเจ้าของโรงเพาะเห็ด ที่ส่งเห็ดมาให้เป็นประจำ เป็นมะแร็งเต้านมและตัดเต้านมไปแล้ว และก็ไม่รู้ว่าจะหายหรือไม่ และลูกน้องที่ทำงานกับโรงเพาะเห็ด ก็มีอาการเจ็บป่วยไปทีละคนสองคนอย่างต่อเนื่อง และทุกคนที่ทำงานโรงเพาะเห็ด แต่ละคนมีสุขภาพไม่ดีกันเกือบทุกคน คุณมนัสไม่ได้เพาะเห็ดเอง แต่ผมเป็นผู้รับมาจำหน่ายต่อ ซึ่งล่าสุดก็มาพบเชื้อมะเร็งในกระแสเลือด จากนั้นจึงตั้งคำถามไปว่า เพราะอะไรที่ทำให้ทุกคนที่ทำงานตรงจุดนี้ จึงมีร่างกายไม่แข็งแรง คุณมนัสเลยเล่าให้ฟังว่า การเพาะเห็ดต้องใช้ยาสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหนอนอย่างมาก อาจจะเป็นเพราะเจ้าของโรงงานเพาะเห็ดและลูกน้อง ต้องสูดดมสารเคมีเหล่านั้น ถึงแม้คนปลูกเห็ดจะไม่กินเห็ด คนขายเห็ดไม่กินเห็ด แต่การสูดดมสารพิษพวกนี้ทุก ๆ วัน. มันก็สะสมในร่างกาย พอสะสมมาก ๆ ทุกวัน ๆ เลยมาแสดงอาการตอนมันเต็มที่แล้ว เมื่อขายเห็ดให้คนกินทั้งประเทศ แล้วผลเสียที่มีต่อคนอื่นต่อประชาชนคนที่ไม่รู้ เราก็จะเป็นบาปโดยที่ไม่รู้ตัวไหม เลยย้อนถามคุณมนัสว่า คุณมนัสเชื่อเรื่องเวรกรรมไหม โดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวร คุณมนัสตอบมาวันนี้เข้าใจและเชื่อเรื่องเวรเรื่องกรรม หลังจากเจอด้วยตัวเอง และคุณมนัสฝากบอกมาว่า ให้ประชาชนทุกคนจงรู้ว่า เห็ดถึงมีประโยชน์มาก แต่ก็มีโทษที่แอบแฝงมามากเช่นกัน เพราะถ้าคนที่เพาะเห็ดขายเพื่อหาผลกำไรมาก หรือต้องการกำไรมาก ก็จะใช้ยาฉีดที่เป็นอันตรายมากต่อสุขภาพ โดยเฉพาะคนที่ชอบกินเห็ด เริ่มแรกอาจมีผลข้างเคียง แต่นานไปถ้าสะสมมาก ๆ ก็จะเป็นเหมือนเจ้าของโรงเพาะเห็ดและคุณมนัสผู้ขายส่งต่อ หรือคนใกล้ชิดที่ทำอาชีพนี้ ซึ่งแต่ละคนก็มีสุขภาพที่ย่ำแย่กันทุกคน เรื่องราวที่เล่าให้ฟังนี้ ขอให้ประชาชนผู้บริโภค ได้เตรียมพร้อมและรู้ทัน ว่าควรกินเห็ดต่อหรือควรหลีกเลี่ยงการกินเห็ด เนื่องจาก คนปลูกเห็ดไม่กินเห็ด คนขายเห็ดไม่กินเห็ด เพราะแบบนี้นี่เองหรือ โปรดส่งต่อเป็นวิทยาทาน
    Mrs.Doubt
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จริงหรือ พบเชื้อโควิด บนอุปกรณ์ฟิตเนส สถานที่กักตัวของชาวฝรั่งเศส
    ผลสอบสวนโรคชาวฝรั่งเศสติด COVID-19 ในไทย ผลตรวจเลือดไม่พบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิด-พนักงานสถานที่กักกันโรค ไม่พบเชื้อ แต่!! พบเชื้อ COVID-19 ที่พื้นผิวอุปกรณ์ออกกำลังกายภายในห้องฟิตเนส จำนวน 1 ตัวอย่าง จึงมีความเสี่ยงจากการที่ผู้ถูกกักกันไม่ครบ 14 วันออกมาแพร่เชื้อในห้องฟิตเนส และพื้นที่ส่วนกลางบางจุด
    naydoitall
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 2 คนสงสัย
    กินข้าวกล้องควบคุมน้ำหนักได้จริงหรอ???
    เมื่อเปรียบเทียบคุณค่าทางโภชนาการของข้าวกล้อง กับข้าวขาว จะพบว่ามีปริมาณพอ ๆ กันแต่ข้าวกล้องจะมีวิตามิน และเกลือแร่ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า และเนื่องจากข้าวกล้องยังมีเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวอยู่ ทำให้ร่างกายย่อยข้าวกล้องได้ช้ากว่าข้าวขาว ร่างกายจึงนำเอาน้ำตาลที่ได้จากการย่อยข้าวไปใช้เป็นพลังงานได้น้อยกว่า นอกจากนี้ใยอาหารที่มีในข้าวกล้องยังช่วยให้อิ่มนาน ดังนั้นหากบริโภคข้าวกล้องในปริมาณที่เหมาะสม ลดการกินจุบจิบ ควบคู่กับการออกกำลังกายจะช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
    anonymous
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สาเหตุอาการบ้านหมุน อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม
    ใครที่มีอาการบ้านหมุน อย่าคิดว่าแค่นอนไม่พอเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วอาการบ้านหมุนมีหลายสาเหตุ อาจอันตรายกว่าที่คิดก็ได้ อาการ “บ้านหมุน” เป็นอย่างไร ทุกคนอาจคุ้นเคยกับอาการ “เวียนศีรษะ” ตามปกติ แต่สำหรับอาการบ้านหมุน จะเป็นอาการที่รู้สึกว่าตัวเองหมุนหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุนได้ ซึ่งที่จริงแล้วไม่มีการเคลื่อนไหวนั้นเกิดขึ้นจริง สาเหตุของอาการบ้านหมุน อาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุน อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งความผิดปกติของระบบการทรงตัวของร่างกายตลอดจนความเจ็บป่วยอื่นๆ เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคเบาหวาน เป็นต้น ความผิดปกติของหูชั้นในหรือระบบสมองที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทรงตัว ความผิดปกติของระบบอื่นๆ เช่น ระบบไหลเวียนโลหิต หรือสายตา ฤทธิ์ข้างเคียงจากการรับประทานยาบางชนิด ปัจจัยอื่นๆ เช่น พักผ่อนไม่เพียงพอ เมารถ หรือเมาเรือ วิธีรักษาอาการบ้านหมุน ปกติแล้วแพทย์จะทำการรักษาตามสาเหตุ วิธีรักษาในแต่ละคนจึงแตกต่างกันออกไป เช่น อาจมีการให้ยาไปกินที่บ้าน เพื่อลดอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หรือฝึกทรงตัว เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับสมดุลของระบบประสาททรงตัวได้ เป็นต้น วิธีป้องกันการเกิดอาการบ้านหมุน หลีกเลี่ยงปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดอาการบ้านหมุน เช่น เครียด วิตกกังวล นอนหลับไม่เพียงพอ เป็นต้น หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม ลดการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกาย และบริหารประสาททรงตัวอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงเสียงดัง และการกระทบกระเทือนบริเวณหู
    somkid.so.63
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    กีฬาแบดมินตัน เสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันจริงหรือไม่?
    กีฬาแบดมินตันเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้จริงหรือไม่? จากการสัมภาษณ์คุณพีระ นนทะคำจันทร์ นักวิชาการศึกษา โรงพยาบาลสุทธาเวช และนักกีฬาแบดมินตันของทีมบุคลากรมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ได้ให้ข้อมูลว่า กีฬาแบดมินตันเป็นกีฬาที่มีความเข้มข้นสูงและเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้จริง เนื่องจากลักษณะของกีฬาแบดมินตันต้องเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่เข้มข้น ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับการออกกำลังกายแบบ HIIT (High-Intensity Interval Training) ซึ่งสามารถทำให้อัตราการเต้นของหัวใจพุ่งสูงถึง 170-180 ครั้งต่อนาที หากผู้เล่นมีโรคประจำตัวซ่อนอยู่ อัตราการเต้นของหัวใจที่สูงมากอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นการเล่นกีฬาแบดมินตันหรือกีฬาชนิดอื่นๆที่มีจะต้องมีการขยับร่างกายอย่างรวดเร็วและมีอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงในระยะเวลาอันสั้นหรือกีฬาที่จะต้องรับแรกกระแทกในการเล่น ก็สามารถก่อให้เกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้จริง สนามกีฬาทุกแห่งจึงควรมีเครื่อง AED หรือเครื่องกระตุกไฟฟ้าอัตโนมัติ ที่สามารถใช้ช่วยผู้ป่วยที่หมดสติและหัวใจวายฉับพลันขณะเล่นกีฬา ขั้นตอนการใช้เครื่อง AED -เปิดเครื่อง AED ติดแผ่นแพดแผ่นแรกที่หน้าอกตอนบน และแผ่นที่สองที่หน้าอกตอนล่าง (ทำตามคำแนะนำบนเครื่อง) ให้เครื่องวิเคราะห์จังหวะการเต้นของหัวใจ ห้ามสัมผัสผู้ป่วยระหว่างนี้ -หากเครื่องแนะนำให้กดปุ่ม “Shock” ให้กดปุ่มนี้โดยห้ามสัมผัสผู้ป่วย และทำ CPR ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 นาที -หากเครื่องแนะนำว่า “สามารถสัมผัสผู้ป่วยได้” ให้ทำ CPR ทันที ควรทำ CPR อย่างต่อเนื่อง จนกว่าเครื่องจะเริ่มวิเคราะห์จังหวะการเต้นของหัวใจอีกครั้ง ทุกนาทีที่ผ่านไปมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรอดชีวิต
    wararat.bs
     •  6 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จากข่าวร้ายที่ ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยได้ถึงแก่กรรม ในวัยแค่ 41 ปี สาเหตุจากเส้นเลือดในสมองตีบ ซึ่งไม่คาดคิดมาก่อน เนื่องจากน้องอายุยังน้อย และมีลูกชายฝาแฝดที่ยังอยู่ในวัยเรียนประถมศึกษาตอนต้นเท่านั้น โรคนี้จึงเป็นภัยเงียบที่น่ากลัว และได้รับข้อความที่คิดว่าเป็นที่มาของโรคนี้ และเป็นประโยชน์แก่ทุกคน จึงขอนำมาบอกต่อ เพื่อทุกๆคนจะได้ดูแลตัวเองกันด้วย ⚫สุขภาพทุกวันนี้ยิ่งไม่ดูแลยิ่งอันตรายมาก 🔵อาหารการกินนี่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะน้ำตาลและผลิตภัณฑ์จากน้ำตาลทั้งหลาย 🔷️ด่วน... เส้นเลือด "ตีบ" ในสมองเกิดขึ้นทุก 4 นาที ทำไมตรวจหาสาเหตุไม่เจอ แล้วจะมีวิธีป้องกันได้อย่างไร ? ทุกวันนี้ ผมเจอคนป่วยเส้นเลือดตีบทุกวัน ตั้งแต่อายุ 13 ปี ยัน 95 ปี มันเกิดอะไรขึ้น ความพิการจะหยุดได้หรือไม่ได้?? สำหรับผม ผมตอบได้เลยว่า"หยุดได้" เส้นเลือดตีบในสมอง เกิดขึ้นทุก 4 นาที ปีละเป็นแสนคน ดารานักแสดง.. คนจน.. คนรวย.. ก็ไม่เว้น จนเป็นเรื่องน่าวิตกมาก วันนี้การแพทย์สหรัฐยังบอกเลยว่า มันยากมากที่สุด การรักษาคนป่วยเหล่านี้ แทบจะเลือนลาง เสียงบประมาณมากมายกับคนป่วยเหล่านี้ อาการเส้นเลือดตีบ เป็นอย่างไร? เส้นเลือดตีบ อาการที่ส่งสัญญาณ คือ 1. มึนหัว 2. บ้านหมุน 3. อาจมีอาการอาเจียนร่วม 4. อาการร่วมอ่อนแรงที่แขน 5. อาการร่วมอ่อนแรงที่ขา 6. มีกลุ่มก้อนแข็งอุดตาม คอ บ่า ไหล่ อาจส่งสัญญาณปวด จากพฤติกรรมที่ทำ คือ.- 1. พักผ่อนน้อย 2. ดื่มน้ำน้อย 3. นอนดึก 4. ดื่มน้ำเย็นเป็นประจำ 5. ชอบทานอาหารมันๆ 6. ชอบดื่มเหล้า สูบบุหรี่ 7. ขาดการออกกำลังกาย 8. ไม่เคยปรับสมดุล ดูแลระบบหลอดเลือด และการไหลเวียนให้สมดุล 9. นั่งนาน 10. ยืนนาน 11. ทำงานหนัก 12. ชอบดื่มน้ำอัดลม กินหวานเป็นต้น ภาวะเส้นเลือดตีบในสมอง ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เกิดจากพฤติกรรมที่สะสมมานาน ไม่ต่ำกว่า 4-5 ปี การอุดตันในเส้นเลือดถึงจะเกิดขึ้นได้ การรักษาฟื้นฟูสามารถทำได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลานานไม่ต่ำกว่า 5 ปี ส่วนคนที่เป็นมีอาการก่อนเส้นเลือดจะตีบตัน สามารถรักษาได้ ใช้ระยะเวลาไม่เกิน 3-6 เดือน อาการเส้นเลือดตีบในสมองถึงจะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้ายังกลับไปทำพฤติกรรมเดิมๆ ก็อาจกลับมาได้อีก เพราะเส้นเลือดตีบในสมอง เกิดจากพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค!!
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    กินนมเปรี้ยวผสมโซดาผอมจริงไหม
    โดยข้อเท็จจริงนี้ รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ชี้แจงเอาไว้ในเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ว่าการดื่มโซดากับนมเปรี้ยวนั้นไม่ใช่สูตรการลดน้ำหนักแต่อย่างใด เพราะการดื่มเครื่องดื่มเพียงแค่ 2 อย่างนี้ ไม่ว่าอย่างไรน้ำหนักก็ต้องลงอยู่แล้วเนื่องจากโซดาไม่มีแคลอรี หรือแม้นมเปรี้ยวจะมีแคลอรีจากนมและน้ำตาล แต่ก็สามารถช่วยในการขับถ่ายได้ ซึ่งถ้าหากใครนำสูตรนี้ไปลองทำแล้วไม่มีการควบคุมน้ำหนัก หรือออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ก็ไม่มีทางที่น้ำหนักจะลงอย่างแน่นอน มิหนำซ้ำอาจจะทำให้อ้วนขึ้นจากการดื่มนมเปรี้ยวอีกด้วย เช่นเดียวกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่ออกมาเตือนว่า สามารถดื่มโซดานมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตได้ แต่ไม่ควรหวังผลว่าจะช่วยลดน้ำหนัก เพราะไม่มีงานวิจัยใดรับรอง
    61011215017
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ยาสมุนไพรจีนแผ่นแปะลดน้ำหนัก ผอมได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย เผาผลาญไขมัน
    จากที่มีผู้ให้คำแนะนำว่า ยาสมุนไพรจีนแผ่นแปะลดน้ำหนัก ผอมได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย เผาผลาญไขมัน ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า แผ่นแปะลดน้ำหนัก เผาผลาญไขมัน ตามที่ปรากฏดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรส่วนประกอบของสมุนไพร โดยมีการกล่าวอ้างสรรพคุณ คือ ใช้สำหรับลดน้ำหนัก ผอมได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย ช่วยเผาผลาญไขมัน ซึ่งจากการสืบค้นในระบบฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว ไม่พบผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแต่อย่างใด ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวนี้
    tachin12403
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    อ่านหน่อยนะ เตรียมตัวไว้นะ คนเยอะแยะบอกเราว่า ทำอย่างไรจึงจะไม่ติดไวรัสโคโรน่า แต่ไม่ยักมีใครสักคนบอกว่า ถ้าเกิดติดไวรัสแล้ว จะต้องทำอย่างไร ขอบคุณนะ คุณพยาบาลในจักรภพอังกฤษที่รวบรวมคำแนะนำนี้ให้เรา นี่เป็นคำแนะนำที่มีเหตุผลบางประการ จากพยาบาลทั่วไปในอังกฤษ นี่เป็นสิ่งที่ดิฉันเจอคำแนะนำว่า แรกที่สุดต้องทำอย่างไร จึงจะหลีกพ้นจากการติดไวรัส: • ล้างมือให้สะอาดหมดจด รักษาอนามัยร่างกาย อยู่ห่างๆ​ ผู้คน แต่ที่ดิฉันไม่เคยเห็นเลย คือ คำแนะนำว่า ถ้าเกิดติดไวรัสขึ้นมาจริงๆ​ จะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ซึ่งนี่อาจจะเกิดขึ้นกับพวกเราได้นะ ดังนั้น ในฐานะเป็นพยาบาลเพื่อนใกล้บ้าน ดิฉันขอให้คำแนะนำบางประการ: ถ้าคุณ เกิดติดเชื้อ โควิด-19 ขึ้นมา คุณต้องรู้จักเตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อน คล้ายๆกับว่า คุณรู้แล้วว่าคุณโดนไอ้เจ้าเชื้อทางเดินลมหายใจเล่นงานเข้าแล้ว เช่น เป็นมีภาวะหลอดลมอักเสบ หรือ ภาวะปอดบวม คุณต้องนึกไว้นะว่าอาการเหล่านี้จะเกิดกับตัวคุณ คุณต้องเริ่มทำสิ่งต่อไปนี้เดี๋ยวนี้เลย : ให้แสงแดดชะโลมทั่วตัววันละ 20 นาทีทุกวัน (หรือมากที่สุดเท่าที่จะทำได้) แสงแดดจะเพิ่มระดับไวตามิน D ให้คุณมากมาย นี่จะไปเสริมความสามารถของภูมิคุ้มกันของตัวคุณ ถ้ามีกำลังทรัพย์ ให้กินอาหารเสริมดีๆ ร่วมกับไวตามิน C 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน รวมทั้ง สังกะสี ซิลิเนียม และ สารกลูทาไธโอน น้ำมันตับปลายี่ห้อ Scott’s Emulsion ก็เป็นอาหารบำรุงชั้นดีทีเดียว (น้ำมันตับปลาค้อด) สิ่งที่คุณจำเป็นต้องซื้อล่วงหน้าเข้าไว้ก่อน คือ: *กระดาษ Kleenex* *ยาพาราเซตามอล Paracetamol* *ยาแก้ไอ ตามที่ชอบ (ให้ดูฉลากยาด้วย เพื่อให้แน่ใจว่า ยาแก้ไอจะไม่มียาพาราเซตามอลไปเพิ่มอีก) *ยาอมผสมสังกะสี *สะเปรย์พ่นคอ เช่น Andolex หรือ TCP *น้ำผึ้งกับมะนาวก็ได้นะ ดีทีเดียวละ​ ! ยาหม่อง Vicks* vaporub ก็ดีนะ คนใช้กันเยอะ *เครื่องลดความชื้น ก็ควรจะซื้อมาใช้ในห้องที่คุณจะนอนทั้งคืน (คุณอาจจะใช้วิธีอาบน้ำอุ่นจากฝักบัว และนั่งในห้องน้ำ หายใจเอาไอน้ำเข้าตัวก็ได้นะ) ถ้าคุณเคยเป็นหอบหืด และหมอเคยจ่ายยาพ่นให้ ต้องแน่ใจนะว่า มันยังไม่หมดอายุ ให้หายาพ่นมาสำรองไว้นะ *อาหารการกิน* นี่เป็นเวลาเหมาะแก่การทำอาหารดีๆกิน ให้ทำซุบไว้เยอะๆเลย ใส่ตู้เย็นเอาไว้ พร้อมทุกเมื่อ *น้ำ น้ำ น้ำ* ตุนไว้เลยนะ ของเหลวใสๆที่คุณชอบนั่นแหละ เอาไว้ดื่มกิน น้ำประปาก็น่าจะดีนะ บางครั้งบางคราวคุณอาจนะต้องใช้ *การจัดการกับอาการที่เกิดขึ้น เมื่อมีไข้สูงกว่า 38°c ให้กินยา Paracetamol จะดีกว่ายา Ibuprofen. *พักผ่อนเยอะๆ * คุณไม่ควรออกจากบ้านนะ​ ! ถึงแม้ว่าคุณรู้สึกดีขึ้น ไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ก็อาจจะมีเชื้อไวรัสอยู่กับตัวไปตั้ง 14 วัน ดังนั้น คนแก่กับคนที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว อย่าไปใกล้เขานะ *ใส่ถุงมือและหน้ากากอนามัย* เพื่อป้องกันไม่ให้กระจายเชื้อไปให้คนอื่นในบ้านของคุณเอง *กักตัว* ในห้องนอน ถ้าคุณไม่ได้อยู่แต่ลำพัง ให้บอกเพื่อนและคนในครอบครัวให้ วางสิ่งที่จะส่งให้คุณไว้ภายนอก เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสติดต่อ *ทำความสะอาด* ซักผ้าปูที่นอน เสื้อผ้าบ่อยๆ และล้างห้องน้ำด้วยน้ำยาทำความสะอาดด้วย *คุณไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล เว้นไว้แต่ว่า คุณกำลังหายใจลำบาก หรือมีไข้สูงมาก(มากกว่า 39°C) แล้ว ใช้หยูกยาต่างๆ​ ไม่ได้ผล กับผู้ใหญ่ ที่มีสุขภาพดีแล้ว 90% สามารถดูแลได้ที่บ้าน โดยการพักผ่อน ดื่มน้ำ กินยาที่หาซื้อได้จากร้านขายยา ถ้าคุณกังวล หรือไม่สบายใจ​ รู้สึกว่า ตัวเองอาการจะหนักขึ้น *ความเสี่ยงที่มีอยู่แล้ว* ถ้าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับสภาพปอด (เช่น​ หายใจติดขัด ถุงลมโป่งพอง มะเร็งปอด) หรือกำลังได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ต้องคุยกับหมอแล้วละว่า คุณควรจะทำอย่างไร หากคุณเกิดไม่สบายขึ้นมา *สำหรับเด็กๆ* พ่อแม่ออกจะโล่งใจว่า โคโรนาไวรัส ญาติดีกับเด็กมาก มันมักจะเป็นไม่กี่วันก็หาย (แต่มันก็ยังเป็นเชื้อโรคติดต่อนะ) จึงต้องคำนึงถึงสภาพเด็กๆ​ ด้วย . *ให้มีสติและตระเตรียมตามควรแก่เหตุ* แล้วทุกอย่างจะไม่เสียหาย จะบอกคุณเอาไว้ว่า ค่า pH ของโคโรนาไวรัสทั้งหลาย มีได้ตั้งแต่ 5.5 ถึง 8.5. สิ่งที่เราต้องทำ ในการจัดการกับไวรัสโคโรนา คือ เราต้องกินอาหารที่มีฤทธิ์เป็นด่าง โดยมีค่า pH สูงกว่าของไวรัส ดังที่บอกไว้ข้างบนนี้ อาหารเหล่านั้น เช่น *มะนาวฝรั่ง - 9.9pH* *มะนาว - 8.2pH* *อะโวคาโด - 15.6pH* *กระเทียม - 13.2pH* *มะม่วง - 8.7pH* *ส้มเขียวหวาน - 8.5pH* *สับปะรด - 12.7pH* *ดอกเก็กฮวย(?) - 22.7pH* *ส้ม - 9.2pH* คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณติดไวรัสโคโรนาเข้าให้แล้ว? 1. คันคอ 2. คอแห้ง 3. ไอแห้งๆ 4. มีไข้ตัวร้อน 5. หายใจถี่ หอบ 6. ไม่ได้กลิ่น และไม่รู้รส 7. นิ้วเท้า มีสีเขียวคล้ำ หรือดำ ดังนั้น เมื่อใดมีอาการอย่างนี้ให้กินน้ำอุ่น ร่วมกับน้ำมะนาวเข้าไปเลย อย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ กรุณาส่งต่อๆไปให้คนในครอบครัวและเพื่อนๆด้วยนะ
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false