1 คนสงสัย
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ

ฟาวิพิราเวียร์ ยาโควิดที่จะล้มรัฐบาลประยุทธ์ได้

ยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาสำคัญที่ใช้รักษาโรคโควิด วันนี้เช้ายาตัวนี้ขาดแคลนอย่างหนัก น้องแพทย์ที่โรงพยาบาลได้ขอเบิกยานี้เพื่อใช้กับผู้ป่วยที่จะนะ ทราบว่า ที่คลังโรงพยาบาลหาดใหญ่ที่เป็นจุดสำรองยาของจังหวัดสงขลาเหลือเพียง 150 เม็ด ดีที่รัฐบาลสั่งยามาจากญี่ปุ่นทันเวลา 2 ล้านเม็ด

เล่นเอาใจหายใจคว่ำ ซึ่งเชื่อว่า หากอัตราการใช้เป็นเช่นปัจจุบัน 2 ล้านเม็ดนี้ก็ใช้ได้ไม่เกิน 3 เดือน

ยาฟาวิพิราเวียร์ ในผู้ป่วยโควิด 1 คน จะต้องใช้คนละ 50 เม็ด คือวันแรกทาน 9 เม็ด ทุก 12 ชั่วโมง และอีก 4 วันถัดมาทาน 4 เม็ดทุก 12 ชั่วโมง ดังนั้นยา 2 ล้านเม็ดก็จะใช้ได้กับผู้ป่วย 40,000 คนเท่านั้น ไม่ได้มากมายในสถานการณ์การระบาดเช่นนี้

ประเด็นของยาฟาวิพิราเวียร์ที่อาจเป็นเหตุให้รัฐบาลสะดุดขาตนเองจนรัฐบาลล้มได้ก็คือ เรื่อง การผูกขาดยาจากการขอจดสิทธิบัตรยาของบริษัทเจ้าของยาจากประเทศญี่ปุ่น

บริษัทญี่ปุ่นเป็นผู้ผลิตยาตัวนี้ ยานี้ไม่มีสิทธิบัตรยาตั้งต้นในประเทศไทย แต่บริษัทมายื่นขอจดสิทธิบัตรรูปแบบเม็ดเล็กของยาฟาวิพิราเวียร์ต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งคำขอสิทธิบัตรลักษณะนี้ ไม่มีทั้งความใหม่และนวัตกรรมที่สูงขึ้น จึงไม่สมควรได้รับสิทธิบัตร แต่กรมทรัพย์สินทางปัญญาก็ยึกยักไม่ยอมปฏิเสธคำขอนี้ไปเสียที ทั้งที่ภาควิชาการได้เคยไปยื่นข้อมูล ระบุเหตุที่ควรปฏิเสธตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 แล้ว

อีกทั้งองค์การเภสัชกรรมมีความพร้อมในการผลิตได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนยาเบื้องต้นกับสำนักงานคณะกรรมอาหารและยา (อย.) ไปแล้วด้วย รัฐบาลควรประกาศสนับสนุนองค์การเภสัชกรรมให้เร่งผลิตยาตัวนี้อย่างเป็นทางการ หากกรมทรัพย์สินทางปัญญาไม่ปฏิเสธคำขอนี้ โอกาสที่จะถูกฟ้องในอนาคตก็มี ฉะนั้นรัฐบาลจึงควรแสดงความกล้าหาญทางการเมืองหนุนหลังองค์การเภสัชกรรมผลิตยาเพื่อประชาชน และควรมีนโยบายชัดเจนไปที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาให้ทำหน้าที่เพื่อช่วยสู้ภัยโควิด ปฏิเสธคำขอสิทธิบัตรยาฟาวิพิราเวียร์เสีย

ราคายาฟาวิพิราเวียร์ ปัจจุบันราคาเม็ดละ 150 บาท ต้องใช้ 50 เม็ดต่อคนก็คิดเป็นค่ายาคนละ 7,500 บาท หากองค์การเภสัชกรรมผลิตเองได้ ค่ายาก็จะลดลงได้ครึ่งหนึ่ง ทั้งประหยัดงบประมาณ และเรามีความมั่นคงทางยา ไม่ดีตรงไหน

ภาวะการขาดแคลนยาฟาวิพิราเวียร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เส้นยาแดงผ่าแปดมากๆ สถานการณ์โควิดก็จะยังหลอกหลอนประเทศไทยไปอีกถึงปีหน้า การออกประกาศสนับสนุนให้องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้ผลิตยาฟาวิพิราเวียร์อย่างเป็นทางการ คือคำตอบที่ใช่ ซึ่งไม่ยาก เพราะรัฐบาลได้รวบโอนอำนาจจากกระทรวงต่างๆมาไว้ที่นายกรัฐมนตรีหมดแล้ว จึงต้องการความกล้าหาญทางการเมืองนิดหน่อยจากนายกรัฐมนตรีเท่านั้นเอง

หากอนาคตมีการระบาดหนักจนยาขาดแคลน คนป่วยตายเพราะไม่มียารักษา คงไม่ใช่แค่หมอไม่ทน แต่คนไทยคงไม่ทนด้วย รัฐบาลจะล่มเพราะโควิดอย่างแน่นอน

Cr. เพจ ชมรมแพทย์ชนบท

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=971918113346983&id=206100476595421
ไม่ระบุชื่อ
 •  4 ปีที่แล้ว
1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
meter: true
1 ความเห็น

โควิด 2019วัคซีนโควิด

Ad.tar เลือกให้ข้อความนี้💬 มีความเห็นส่วนตัว

เหตุผล

เพจ ชมรมแพทย์ชนบท ได้เผยแพร่ข้อเขียน เรื่อง “ฟาวิพิราเวียร์ ยาโควิดที่จะล้มรัฐบาลประยุทธ์ได้” โดยระบุว่า
ยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาสำคัญที่ใช้รั

ความเห็นต่าง

https://www.matichon.co.th/politics/news_2695991
  • มี 1 ความเห็น เจ้าของลบไปแล้ว.
  • เพิ่มความเห็นใหม่

    กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

    คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ครม. เพิ่มยาต้านไวรัสโมลนูพิราเวียร์ในบัญชียาของ UCEP Plus
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ดื่มน้ำมะนาวฆ่าเชื้อโควิด19 ไม่ได้
    กรณีที่มีการแชร์ข้อมูลในโลกออนไลน์ ถึงสรรพคุณของมะนาว ที่อ้างว่าสามารถรักษาโรคโควิด-19 จึงนำข้อมูลนี้ สอบถามกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค นายกสมาคมเวชศาสตร์ป้องกัน แห่งประเทศไทย ระบุว่า มะนาวมีวิตามินซีสูง ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันแต่ไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ ดร.นพ.พรเทพ กล่าวว่า “สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เป็นการฆ่าเชื้อโรค แต่ไปทำให้เชื้อโรคไม่สามารถฝังเข้าไปในเซลล์ของทางเดินหายใจและปอดได้ง่าย และให้กำจัดออกทิ้งไป ยังไม่มียาใดๆ ทั้งสิ้น ในการฆ่าเชื้อไวรัส ในโลกนี้ ยาที่มีอยู่ ที่ใช้ตอนนี้คือ ยาฟาวิราเวียร์ ก็เพียงแต่ทำให้เชื้อมันอ่อนแรง และร่างกายกำจัดมันด้วยการกินมันด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาวเท่านั้นเอง แต่อย่าไปเข้าใจผิดว่าถ้าเราป่วยหนัก แล้วไปถินพวกนี้จะทำให้เชื้อหมดไปจากร่างกาย มันเป็นไปไม่ได้” ดร.นพ.พรเทพ กล่าว อ้างอิง: Workpoint Today
    naruemonjoy
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ยาต้านไข้หวัดใหญ่เกือบทั้งหมดมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย JAMA Internal Medicine 13 มกราคม 2025 • ยาต้านไข้หวัดใหญ่มีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่ออัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั้งที่มีความเสี่ยงต่ำและมีความเสี่ยงสูง • ยกเว้นบาโลซาเวียร์ตัวเดียวที่อาจเป็นประโยชน์ต่อ“ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง”และ“อาการไม่มาก”แม้ว่ายาตัวนี้อาจส่งผลต่อการดื้อยาได้ 10 % การทบทวนอย่างเป็นระบบและการวิเคราะห์ข้อมูลรวมของการ ศึกษา 73 รายงาน ที่ประเมินผลของ ยาต้านไวรัสใน“ผู้ป่วยนอก”ที่เป็นไข้หวัดใหญ่ พบว่าบาโลซาเวียร์เป็นยาตัวเดียวที่อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงแม้ว่ายาตัวนี้อาจส่งผลต่อการดื้อยาก็ตาม บาโลซาเวียร์อาจดีกว่าการรักษาแบบมาตรฐานหรือยาหลอกในการลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล สำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงที่เป็นไข้หวัดใหญ่ที่ไม่รุนแรง และมีแนวโน้มที่จะลดระยะเวลาในการบรรเทาอาการลงโดยมีผลข้างเคียงเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ตามผลของการทบทวนอย่างเป็นระบบและการวิเคราะห์ข้อมูลรวม เพื่อเปรียบเทียบผลของยาต้านไวรัสในการรักษาไข้หวัดใหญ่แบบไม่รุนแรง นักวิจัยได้ค้นหาฐานข้อมูลออนไลน์ที่เปรียบเทียบ ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ออกฤทธิ์โดยตรง (บาโลซาวิร์ฟาวิพิราเวียร์ ลานินามิเวียร์ โอเซลทามิเวียร์ เปรามิเวียร์ อูมิเฟโนเวียร์ ซานามิเวียร์ และอะแมนทาดีน) กับยาหลอก การดูแลมาตรฐาน หรือยาต้านไวรัสชนิดอื่น ผลลัพธ์ได้แก่ อัตราการเสียชีวิต การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล การเข้ารับการรักษาใน ICU ระยะเวลาในการรักษาในโรงพยาบาล เวลาในการบรรเทาอาการ การเกิดการดื้อยา และเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ • มีการทดลองทั้งหมด 73 รายงาน ซึ่งมีผู้เข้าร่วม 34,332 คนรวมอยู่ในผลการศึกษา ผลการวิจัยได้รับการตีพิมพ์โดย JAMA Internal Medicine เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2025 การวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า • ยาต้านไวรัสทุกชนิดมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่ออัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั้งที่มีความเสี่ยงต่ำและมีความเสี่ยงสูงเมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลมาตรฐานหรือยาหลอก (มีความแน่นอนสูงสำหรับยาทุกชนิด) • ยาทั้งหมดมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่อการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่ำ (ความแน่นอนสูง) ยกเว้นเพอรามิเวียร์และอะมันทาดีน ซึ่งไม่มีข้อมูลให้ สำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง • บาโลซาวิร์“อาจ”ช่วยลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้ (ความแตกต่างของความเสี่ยง [RD] -1.6%; ช่วง CI 95% -2.0% ถึง 0.4%; ความแน่นอนต่ำ) • โอเซลทามิเวียร์มีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่อการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล (RD] -0.4%; ช่วง CI 95% -1.0% ถึง 0.4%; ความแน่นอนสูง) • และยาอื่นๆ ทั้งหมดอาจมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่แน่นอน นอกจากนี้ บาโลซาวิร์อาจลดระยะเวลาของอาการได้ (ค่าความแตกต่างเฉลี่ย [MD] −1.02 วัน; ช่วง CI 95% −1.41 ถึง −0.63 วัน; ความแน่นอนปานกลาง) และอูมิเฟโนเวียร์อาจลดระยะเวลาของอาการได้ (MD −1.10 วัน; ช่วง CI 95% −1.57 ถึง −0.63 วัน; ความแน่นอนต่ำ) โอเซลทามิเวียร์อาจไม่มีผลสำคัญต่อระยะเวลาในการบรรเทาอาการ (MD −0.75 วัน; ช่วง CI 95% −0.93 ถึง −0.57 วัน; ความแน่นอนปานกลาง) นอกจากนี้ บาโลซาวิร์ยังมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย (RD, -3.2%; 95% CI, -5.2% ถึง -0.6%; ความแน่นอนสูง) และโอเซลทามิเวียร์อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาการคลื่นไส้และอาเจียน (RD, 2.8%; 95% CI, 1.2% ถึง 4.8%; ความแน่นอนปานกลาง) ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข และ ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    พญ. กมลพรรณ์ ชีวพันธ์ศรี 28 ธค.64 แนะนำกินฟ้าทะลายโจร 3-4 เม็ด หลังกลับจากท่องเที่ยว ไปงานจากแหล่งแออัด....
    พญ. กมลพรรณ์ ชีวพันธ์ศรี 28 ธค.64 แนะนำกินฟ้าทะลายโจร 3-4 เม็ด หลังกลับจากท่องเที่ยว ไปงานจากแหล่งแออัด.... คุณหมอเป็นคนเขียนบทความนี้.... เคล็ดลับ เทคนิคปลอดภัยจากโควิด ไม่นำเชื้อไปฝากญาติ หรือชุมชน โดย หากสัมผัส คนติดโควิด หรือไปเที่ยวแหล่งแออัดมา หรือ ขึ้นลงเครื่องบิน หรือรถสาธารณะ ให้กินฟ้าทะลายโจร 3-4 เม็ดทันที หลังเดินทาง ,หรือขณะเดินทาง ,หรือ หลังไปเที่ยวมา, หรือสัมผัสคนป่วยโควิด หรือกำลังเดินทางไปเยี่ยมญาติ , ท่านจะปลอดภัย จากโควิด ไม่นำเชื้อโควิดไปฝากญาติ หรือคนในชุมชน หรือคนใกล้ชิด เชื่อเถอะ ไม่เสียหาย อะไรเลย เพราะตัวเอง ก็แนะนำให้ลูกทำ เวลาเดินทางไปอเมริกา หรือกลับจากอเมริกา และตนเองก็ทำเองด้วย เวลาไปงานแต่ง ,งานสังสรรค์ ที่ว่าฟ้าทะลายโจรทำลายตับ ตัวดิฉัน เป็นหมอใช้ฟ้าทะลายโจร รักษาคนป่วยโควิด 5 วัน ไม่ค่อยเจอคนไข้ตับเสียหาย แต่กลับเจอว่าคนใช้ ฟาวิพิราเวีย ตับเสียมากกว่า คะ ชัวร์ ไม่มั่วนิ่ม ช่วยเผยแพร่ ให้คนทั่วไปได้ทราบ ส่วนการกระตุ้นให้ฉีดวัคซีนซ้ำ บ่อยๆ เพื่อเพิ่มภูมิต้านทาน แต่เราจะเสี่ยง ต่อผลข้างเคียงของวัคซีน ไปด้วย ได้ของแถมโดยไม่อยากได้ บางรายถึงชีวิต, บางรายผมร่วง, บางรายแขนขาอ่อนแรง แม้นเจอน้อย แต่ก็ไม่อยากให้เกิดกับใคร คะ ฉีด เท่าที่จำเป็นจริงๆ และฉีดชั้นผิวหนัง ( ID :Intradermal ) ปลอดภัยสุดคะ ตัวเองก็ฉีด Moderna ชั้นผิวหนังมาแล้ว คะ พญ. กมลพรรณ์ ชีวพันธ์ศรี 28 ธค 64 https://www.facebook.com/kamolpan.cheewapansri/posts/10160676858077281
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ห้ามกินฟ้าทะลายโจรกับยาฟาวิพิราเวียร์
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    หญิงตั้งครรภ์ที่ใช้ยาต้านโควิด ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)และดารุนาเวียร์ (Darunavir) เลี่ยงให้นมบุตร จริงหรือคะ
    สำหรับยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)มีการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่า ยาสามารถผ่านรกและถูกขับออกทางน้ำนมได้ ทำให้เกิดความพิการแก่ตัวอ่อนในสัตว์ทดลอง ในคนอาจจะเกิดอันตรายต่อทารกได้ จริงหรือเปล่าคะ
    anonymous
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    หนังสือเวียนครับพี่น้องแล้วต้องส่งต่อ ไม่ส่งต่อแล้วระบอบทักษิณยังเกาะกินเรื้อรัง ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่หลายคนคงยังไม่รู้ อ่านเสร็จแล้วโปรดส่งต่อ เพื่อเปิดโปงออกไปให้มากที่สุด..... ขอบคุณ อจ.ประพจน์ ท่ีส่งเนื้อความนี้มาแชร์ คล้ายมีทิศทางเดียวกับเนื้อความนี้: "ถาม...ทำไมวงจรอุบาทว์อาจหมุนกลับมาได้อีก" "คำตอบอยู่ข้างล่างนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่ง" ๑. ตระกูลชิน ยึดองคาพยพ รัฐวิสาหกิจเบ็ดเสร็จ ขุมสมบัติหลาย แสนล้านของชาติ ได้ถูกแบ่งขายครั้งแรกในน้ำมือรัฐบาลพี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ ปตท. และหากมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ไม...่ร้องต่อศาลปกครอง กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ......... " เตรียมขาย กฟผ. " จนศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษา........ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2549 ให้เพิกถอนพระราชกฤษฎีกากำหนดอำนาจสิทธิ และประโยชน์ของบริษัท กฟผ.จำกัด (มหาชน) พ.ศ.2548 และหากพี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังอยู่ในอำนาจป่านนี้สมบัติชาติคงถูกขายกินหมดแล้ว ๒. กระนั้นก็ตาม เมื่อมาถึงยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์เรืองอำนาจ ก็เข้ามาทำพฤติกรรมเดิมๆ สูบกินรัฐวิสาหกิจอีกครั้งภายใต้ระบบโครงสร้างความเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ ก็ได้ค่าเบี้ยประชุม โบนัส และเงินตอบแทน ตลอดจนการจัดซื้อจัดจ้าง จากงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ ที่ระดับและอำนาจการตรวจสอบจะอ่อนด้อยกว่่า กระทรวง กรมต่างๆ ซ้ำร้ายกว่านั้น รัฐวิสาหกิจ ที่แปรรูปเป็นเอกชน ผลตอบแทนกรรมการ ตลอดจนการตรวจสอบจากรัฐในการบริหารงบลงทุนต่างๆ และการสนองตอบนโยบายสาธารณะ ก็ยิ่งน้อยลง ยกตัวอย่าง ปตท.ที่แปรรูปไป ยังเล่นแร่แปรธาตุดูดกินด้วย การถ่ายโอนผลประโยชน์ ทรัพย์สิน การลงทุนผ่านบริษัทลูกปตท. ที่อยู่นอกเขตการตรวจสอบภายใต้อำนาจรัฐออกไปเรื่อยๆ เงินไหลออกไป บริษัทลูก ทำให้บริษัทแม่ผลประกอบการไม่ดี แต่การตรวจสอบบริษัทลูกหรือบริษัทที่ ปตท.ร่วมทุน กลับยิ่งยากขึ้น และมาวันนี้ ยุคน้องสาว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ก็มีพฤติกรรมไม่ต่างกัน แต่คราวนี้ขยายวงกว้างกว่ามาก เกือบจะทุกรัฐวิสาหกิจ ทั้งด้านพลังงานสาธารณูปโภคและธนาคาร ที่เริ่มด้วย (1) การตั้งคนในธุรกิจตนเองมาเป็นกรรมการหวังกระทำบางอย่างหรือไม่ นอกจากนี้ยังต่างตอบแทนผู้ภักดีกล้าหาญด้วย (2) การแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ. คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับ_กรรมการและพนักงาน รัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....ให้คุณสมบัติต่ำลงและมีการเปิดช่องให้ผู้มาดำรงตำแหน่งมีผลประโยชน์ทับซ้อนได้ แล้วแต่ รมว.คลัง จะพิจารณายกเว้น และ (3) การรวบเอาที่ดินของรัฐวิสาหกิจมาจัดสรรเองใหม่ พร้อมหลักฐานการจัดตั้งองค์กรใหม่มาจัดการเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดย (1) ตั้งคนใกล้ชิดเป็นกรรมการเกรดเอ รายชื่อต่อไปนี้ (อย่าได้ปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ธุรกิจครอบครัวชินวัตร) - การท่าเรือแห่งประเทศไทย มีพล.ร.อ.เกียรติศักดิ์ ดามาพงศ์ พี่ชายต่างมารดาของคุณหญิง พจมาน ชินวัตร เป็นกรรมการและมีน้องรักพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างพล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นประธานกรรมการ - การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ตั้งนายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล รองกก.ผู้อำนวยการบริษัท ไทยคม จำกัด(มหาชน) และนายสุนทร ทรัพย์ตันติกุล ทนายความพ.ต.ท. ทักษิณ เป็นกรรมการไปคุมคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ก็ตั้ง ดร.นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการตลาด บมจ.ไทยคม ธุรกิจครอบครัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานคณะกรรมการ - บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด ขุมสมบัติอีกแห่งที่ตั้ง น.ต.ศิธา ทิวารี อดีต สส.ไทยรักไทย และเพื่อนสนิทพานทองแท้ ไปเป็นประธานกรรมการ ส่วนนายธานินทร์ อังสุวรังษี กรรมการอิสระ มาจากผู้บริหารบริษัทแคปปิตอลโอเค และบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ลูกน้องธุรกิจครอบครัว น.ส.ยิ่งลักษณ์และยังได้เป็น กก.ผู้จัดการ ธนาคารอิสลามฯ ก่อนจะมีคดี แล้วต้องเปลี่ยนตัวไม่นานนี้ - นอกจากนี้ยังตั้ง นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อัยการอาวุโสเป็นกรรมการ แต่พอไปดู เหตุใดน.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึงใจป้ำตั้งนายธนพิชญ์ เป็น กรรมการรัฐวิสาหกิจ 3 แห่ง ได้แก่ บ.ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน), บ. ขนส่ง จำกัด และการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้รับค่าตอบแทนรวมทั้งหมด 1,348,825.81 บาท อัยการอาวุโสท่านนี้มีประวัติอย่างไร เป็นอัยการที่รับผิดชอบคดีทุจริต จัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ ที่ไม่ยอมสั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและพวกรวม 25 คน ในคดีซีทีเอ็กซ์ และสั่งไม่ฟ้องคดี การอนุมัติเงินกู้ธนาคารกรุงไทย ให้ บริษัทเอกชน เช่น กลุ่มเครือกฤษดามหานคร วงเงินหลายร้อยล้านบาท ทั้งที่คตส.และป.ป.ช.ตั้งข้อหา นี่หรือไม่คือสาเหตุ -ขณะที่นายวัฒนา เตียงกูล ทนายความพรรคเพื่อไทย ก็เปลี่ยนเป็นมารับเงินเดือนในบอร์ดทอท. แทน - ในขณะที่ปตท.นอกจากจะตั้ง เบญจา หลุยเจริญ ที่ช่วยให้คดีขายหุ้นชินคอร์ป ไม่ต้องเสียภาษีสมัยเป็นรองอธิบดีกรมสรรพากร ก่อนไปเป็นประธานกรุงไทย และเป็น รมช.คลัง - ก็ยังตั้ง อัยการคนเก่งอย่างนาย จุลสิงห์ วสันตสิงห์ ผู้สั่งไม่ฟ้องคดีเลี่ยงภาษีของครอบครัวชินวัตร - ในเหตุผลเดียวกัน ก็ยังพ่วงนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้เร่งดำเนินการคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้เป็นกรรมการ - แต่ก็ยังไม่น่าสนใจเท่าการส่งนาย วรุณเทพ วัชราภรณ์ ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ฯ จำกัด (มหาชน) ลูกน้องตนเองในธุรกิจครอบครัว มานั่งกุมขุมทรัพย์ที่ปตท. ส่วนบริษัทลูกของปตท. อย่าง บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด ก็มีคำสั่งให้ นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ทนายความไทยรักไทย ไปคุม คณะกรรมการสลากกินแบ่งรับาล นายวีรภัทร ศรีไชยา ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณในคดีเลี่ยงภาษี 1.2 หมื่นล้านบาท ของพานทองแท้ และพินทองทา ชินวัตร และเป็นทนายความพรรคเพื่อไทย ที่ยื่นคำร้องขอให้ตุลาการทั้ง 8 คน เพิกถอนมติรับคำร้องและคำสั่งที่ให้รัฐสภารอการดำเนินการลงมติวาระ 3 ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และ ตั้ง พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เพื่อนสนิท พ.ต.ท.ทักษิณ - ที่น่าตะลึงพึงเพริดคือ การตั้ง พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร อดีตหัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นกรรมการและผู้อำนวยการกองสลาก ถามว่า หน่วยงานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าของหรือ ?? ธนาคารกรุงไทย ที่นอกจากจะตั้ง นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ เป็นกรรมการแล้ว ยังตั้งลูกน้องในเครือชินคอร์ป อย่าง นางอรุณภรณ์ ลิ่มสกุล ที่ใครๆก็รู้ว่าคือ ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ที่มีอีกตำแหน่งในฐานะ กรรมการ บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น - ธนาคารออมสิน นอกจากจะตั้ง ดร.นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ ผู้บริหารระดับสูง ไทยคม อย่างที่กล่าวแล้ว ยังตั้งนายชัยธวัช เสาวพนธ์ กรรมการบริษัท วินโคสท์อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (มหาชน) ให้ไปเป็นกรรมการออมสินเพื่อหวังทำอะไร - องค์การเภสัชกรรมเหตุใด จึงตั้งเอานายสมชัย โกวิทเจริญกุล พี่เขยนายกฯเอง (สามี นางมณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล (ชินวัตร) กรรมการ และ ผู้ถือหุ้น บริษัท เอ็มลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ธุรกิจในครอบครัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ - แต่ที่น่าสนใจคือ นายสมชัย โกวิทเจริญกุล คือ ผู้ถือหุ้นในบริษัท ฮัวถอ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์ จากประเทศจีน จึงน่าคิดว่าตั้งให้เข้าไปทำอะไรในองค์การเภสัชกรรม ?? - การประปานครหลวง ตั้ง นายเอกราช ช่างเหลา ที่เคยถูกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) สั่งอายัดเงิน และ การทำธุรกรรมการเงินในช่วงชุมนุมคนเสื้อแดงปี 2553 เนื่องจากศอฉ.เชื่อว่า เป็นท่อน้ำเลี้ยงกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะพบเงินหมุนเวียนในบัญชีร่วม 1,200 ล้านบาท - ขณะที่การประปาส่วนภูมิภาค ตั้ง พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ แกนนำนปช.และกลุ่มคนเสื้อแดงผู้ถูกออกหมายจับในคดีก่อความวุ่นวายปี’53 ไปนั่งคุม - นอกจากนี้ยังตั้ง นางอัมพร นิติสิริ ที่เป็นภรรยา ของ นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม ไปเป็นกรรมการคุมการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ทั้งหมดกระทำภายใต้อำนาจ น.ส.ยิ่งลักษณ์เองโดยตรง ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ประธานคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ (กนท.) - และล่าสุดประธานคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ แม้จะมอบให้ใครดูแล แต่ด้วยตามกฎหมายการกำกับรัฐวิสาหกิจทุกฉบับ ก็สั่งให้มาเคาะครั้งสุดท้ายบนโต๊ะครม.ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้บริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั่งที่หัวโต๊ะ ขณะที่ การกระทำตาม (2) การแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจฯ และ. 3) การจัดตั้งองค์กรใหม่มาจัดการเรื่อง อสังหาริมทรัพย์รัฐวิสาหกิจ นั้นจะได้กล่าวเจาะในตอนต่อไป หมดประเทศหรือยัง..........? เขาเป็นเจ้าของประเทศหรือ ? คุณ.....ยินยอม.....หรือ......? ลุกขึ้นเถิด...พี่น้องไทย.... อย่าให้....ชีวิตสูญเปล่า.... รักชาติ....แผ่นดินของเรา.. เหมือนดังพงศ์เผ่า......... ต้นตระกูลไทย........... ! .................. อ่านจบก็เข้าใจได้หรือยังครับ ว่าทำไมจึงต้องมีขบวนการ "ล้ม เจ้า"..เพื่อเข้ายึด "อำนาจใหม่"..ล้มล้างเจ้าทิ้งไป แล้ว เข้ายึดครองสร้างอำนาจใหม่ ภายใต้ระบบ "ประธานาธิบดี" ผู้มีอำนาจสูงสุด (ทีนี้ล่ะ..ได้สิ้นชาติทันตาเห็น) ...ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ก็จะต้องตกไปสู่มือของผู้มีอำนาจใหม่ที่จะทำเพื่อพวกพ้องและบริวาลตนเท่านั้น ประวัติศาสตร์กษัตริย์นักรบ ก็จะหายไปสิ้น เหลือแต่ประวัติใหม่ของโจรปล้นบัลลังก์ ที่นั่งเทียนเขียนอุปโหลกเรื่องดีให้เลวร้าย เรื่องเลวร้ายที่พวกมันทำฉิบหาย ให้ดูดี ตื่นนะ..พี่น้องไทย อย่าปล่อยให้ไฟไหม้ประเทศ กษัตริย์..ทำให้ชาติ นักการเมือง..ทำให้โคตร ของพวกมัน เปิดโปง ออกไปให้มากที่สุด.....หนังสือเวียนครับพี่น้องแล้วต้องส่งต่อ ไม่ส่งต่อแล้วระบอบทักษิณยังเกาะกินเรื้อรัง ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่หลายคนคงยังไม่รู้ อ่านเสร็จแล้วโปรดส่งต่อ เพื่อเปิดโปงออกไปให้มากที่สุด..... ขอบคุณ อจ.ประพจน์ ท่ีส่งเนื้อความนี้มาแชร์ คล้ายมีทิศทางเดียวกับเนื้อความนี้: "ถาม...ทำไมวงจรอุบาทว์อาจหมุนกลับมาได้อีก" "คำตอบอยู่ข้างล่างนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่ง" ๑. ตระกูลชิน ยึดองคาพยพ รัฐวิสาหกิจเบ็ดเสร็จ ขุมสมบัติหลาย แสนล้านของชาติ ได้ถูกแบ่งขายครั้งแรกในน้ำมือรัฐบาลพี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ ปตท. และหากมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ไม...่ร้องต่อศาลปกครอง กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ......... " เตรียมขาย กฟผ. " จนศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษา........ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2549 ให้เพิกถอนพระราชกฤษฎีกากำหนดอำนาจสิทธิ และประโยชน์ของบริษัท กฟผ.จำกัด (มหาชน) พ.ศ.2548 และหากพี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังอยู่ในอำนาจป่านนี้สมบัติชาติคงถูกขายกินหมดแล้ว ๒. กระนั้นก็ตาม เมื่อมาถึงยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์เรืองอำนาจ ก็เข้ามาทำพฤติกรรมเดิมๆ สูบกินรัฐวิสาหกิจอีกครั้งภายใต้ระบบโครงสร้างความเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ ก็ได้ค่าเบี้ยประชุม โบนัส และเงินตอบแทน ตลอดจนการจัดซื้อจัดจ้าง จากงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ ที่ระดับและอำนาจการตรวจสอบจะอ่อนด้อยกว่่า กระทรวง กรมต่างๆ ซ้ำร้ายกว่านั้น รัฐวิสาหกิจ ที่แปรรูปเป็นเอกชน ผลตอบแทนกรรมการ ตลอดจนการตรวจสอบจากรัฐในการบริหารงบลงทุนต่างๆ และการสนองตอบนโยบายสาธารณะ ก็ยิ่งน้อยลง ยกตัวอย่าง ปตท.ที่แปรรูปไป ยังเล่นแร่แปรธาตุดูดกินด้วย การถ่ายโอนผลประโยชน์ ทรัพย์สิน การลงทุนผ่านบริษัทลูกปตท. ที่อยู่นอกเขตการตรวจสอบภายใต้อำนาจรัฐออกไปเรื่อยๆ เงินไหลออกไป บริษัทลูก ทำให้บริษัทแม่ผลประกอบการไม่ดี แต่การตรวจสอบบริษัทลูกหรือบริษัทที่ ปตท.ร่วมทุน กลับยิ่งยากขึ้น และมาวันนี้ ยุคน้องสาว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ก็มีพฤติกรรมไม่ต่างกัน แต่คราวนี้ขยายวงกว้างกว่ามาก เกือบจะทุกรัฐวิสาหกิจ ทั้งด้านพลังงานสาธารณูปโภคและธนาคาร ที่เริ่มด้วย (1) การตั้งคนในธุรกิจตนเองมาเป็นกรรมการหวังกระทำบางอย่างหรือไม่ นอกจากนี้ยังต่างตอบแทนผู้ภักดีกล้าหาญด้วย (2) การแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ. คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับ_กรรมการและพนักงาน รัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....ให้คุณสมบัติต่ำลงและมีการเปิดช่องให้ผู้มาดำรงตำแหน่งมีผลประโยชน์ทับซ้อนได้ แล้วแต่ รมว.คลัง จะพิจารณายกเว้น
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    กินยาฟาวิพิราเวียร์ รักษาโควิด ตาจะกลายเป็นสีม่วงเรืองแสงออกมา
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ออกจากมือปีศาจโคบ้า(โควิด)ได้แล้ว โดย สิริอัญญา วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 โคบ้าระบาดมาสองปีเศษ ขณะนี้ประเทศต่าง ๆ ได้ถีบหัวส่งปีศาจตนนี้และคืนความปกติแก่สังคม ทำให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่ต้องห่วงว่าใครจะติดเชื้ออีกต่อไป และถ้าใครติดเชื้อก็แนะนำให้ซื้อหายามากินก็จะหายได้ในเวลา 1-3 วัน ซึ่งไม่ต่างอะไรกับไข้หวัดใหญ่ เป็นเรื่องตรงกันข้ามกับก่อนหน้านี้ที่สร้างกระแสให้หวาดกลัวว่าโคบ้าคือปีศาจร้าย ใครสัมผัสแล้วก็จะกลายเป็นผีดิบและเสียชีวิตได้โดยง่าย ในขณะที่มีกระบวนการถ่วงเวลาการดูแลรักษาเพื่อให้ไวรัสลงปอด หายใจไม่ออก และเสียชีวิต ซึ่งเป็นแผนอุบาทว์ชาติชั่วที่ล้างผลาญชีวิตมนุษย์อย่างอำมหิต แต่ปรากฏว่าจีน รัสเซีย อิหร่าน และประเทศในเครือข่ายองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้รู้เท่าทันแผนอุบาทว์นี้มาตั้งแต่ต้นจึงไม่หลงกลเป็นเครื่องมือ และในวันนี้ก็ได้ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าที่จีน รัส เซีย อินเดีย อิหร่านและพันธมิตรจัดการกับโคบ้านั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์แก่มวลมนุษย์มากที่สุด ทั้งทำลายล้างแผนอุบาทว์จากบริษัทยานักล่าอาณานิคม ยกตัวอย่างประเทศจีน นับตั้งแต่ถูกใส่ร้ายว่าเป็นต้นตอของโคบ้ามาจนถึงวันนี้ประเทศจีนมีคนป่วยรวมทั้งสิ้นแค่แสนคน ปีที่ผ่านมาไม่มีใครเสียชีวิตเลย รัฐบาลจีนไม่ได้เน้นการฉีดวัคซีน แต่ประกาศรายการยาที่ใช้รักษาโคบ้าให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป ซึ่งใครมีอาการติดเชื้อก็สามารถซื้อหากินกันเองได้โดยง่าย 2-3 วันก็หายขาด นี่คือความสำเร็จอันเป็นที่ประจักษ์ อีกตัวอย่างซึ่งตรงกันข้ามคือสหรัฐซึ่งเป็นต้นตอของการสร้างความตกใจกลัวในเรื่องโคบ้า ซึ่งวันนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าคนอเมริกันติดโคบ้าเกือบสิบล้านคนและมีผู้เสียชีวิตหลายล้านคน ประเทศยากจน ประชาชนยากเข็ญ จนต้องพิมพ์เงินดอลลาร์ออกมาอย่างไม่บันยะบันยัง ประเทศไทยของเราทำตัวเป็นสมุนบริวารที่เอาแบบอย่างสหรัฐ ดังนั้นถึงวันนี้ประเทศไทยซึ่งมีประชากรเพียง 66 ล้านคน มีผู้ป่วยมากกว่าประเทศจีนซึ่งมีประชากร 1,400 ล้านคน กว่า 20 เท่า และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากมาย ผู้ประกอบการทั่วประเทศถูกปิดกิจการ ขาดทุนย่อยยับ คนตกงานทั่วทั้งประเทศ เศรษฐกิจยับเยิน คนไทยยากจนเพิ่มขึ้นเกือบสิบล้านคนในชั่วระยะเวลาเพียงสองปีเศษ ประเทศเป็นหนี้สินเพิ่มขึ้นร่วมกว่า 2 ล้านล้านบาทในช่วงสองปีเศษ หนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้นร่วม 4 ล้านล้านบาท ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้การปกครองตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นประเทศเดียวของโลกที่ใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเรื่องโคบ้าที่ยาวนานที่สุดและล้มเหลวมากที่สุด มีการใช้เงินแผ่นดินเกี่ยวกับเรื่องโคบ้ามากมายมหาศาล มีข่าวคราวการทุจริตอย่างกว้างขวาง ถึงขนาดสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแถลงที่จะตรวจสอบการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณและงบกลางซึ่งมีจำนวนร่วม 2 ล้านล้านบาท แต่กลับเงียบหายไปดื้อ ๆ เพราะอำนาจผีสางตนใดก็ไม่รู้ มีการสั่งยาฟาวิพิราเวียร์ถึง 430 ล้านเม็ดเข้ามาใช้ ทั้งที่ประเทศผู้ผลิตทั้งสามประเทศคือเยอรมัน อินเดีย และญี่ปุ่นพิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถใช้รักษาโคบ้าได้ และไม่อนุญาตให้ประเทศของตนเองใช้ แต่ประเทศไทยก็ยังดันทุรังใช้กันอยู่แต่ต้องใช้คู่กับยารักษาอื่นที่ใช้รักษาโคบ้าได้ ประเทศไทยเดินตามหนทางสหรัฐ โหมและบังคับการฉีดวัคซีนอย่างไม่บันยะบันยัง เฉพาะปี 2565 ก็มีข่าวว่าสั่งซื้อเข้ามาถึง 165 ล้านโดส และกำลังบังคับให้ผู้คนฉีดวัคซีนเข็ม 3 เข็ม 4 เข็ม 5 กันต่อไป ทั้ง ๆ ที่ความจริงได้พิสูจน์ชัดเจนแล้วว่าจะฉีดวัคซีนสักกี่เข็มก็ตาม จะฉีดไขว้หรือไม่ไขว้ก็ตามไม่สามารถป้องกันการติดโคบ้าได้เลย แต่ยังดันทุรังฉีดกันอยู่ จนกระทั่งขณะนี้มีผู้ตั้งข้อสังเกตแล้วว่าคนไทยตายและพิการป่วยเจ็บ เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต เพราะการฉีดวัคซีนมากหรือเท่ากับตายเพราะโคบ้ากันแน่ บรรดาหมอทั้งหลายไม่เคยปริปากแนะนำคนไทยว่าจะใช้ยาอะไรในการรักษาโคบ้า และน่าแปลกใจว่าหมอทั้งประเทศก็ประพฤติอย่างเดียวกัน พากันเงียบปากสนิทท่ามกลางผลประโยชน์ที่ได้รับจากความเดือดร้อนทุกข์เข็ญของประชาชน ในขณะที่มีหมอจัญไรราว 10 คน ที่แต่ละวันแถลงข่าวหรือให้สัมภาษณ์ปั่นกระแสหลอกลวงให้ผู้คนตื่นตระหนกตกใจกลัวเพื่อจะได้ไปฉีดวัคซีน หมอจัญไรเหล่านี้ประชาชนต้องจดจำหน้าตาชื่อเสียงไว้ให้แม่น จะได้บอกลูกบอกหลานว่าคนไทยล้มหายตายจาก ประเทศชาติเสียหายยับเยินก็เพราะหมอจัญไรราว 10 คนนี้ที่สร้างกรรมทำเข็ญไว้กับบ้านเมืองสุดคณานับ ฟ้ามืดเมื่อมีได้ ก็ฟ้าใหม่ย่อมคงมี ขณะนี้ได้เกิดขบวนการต่อต้านบรรดาทุนยาที่ทำมาหากินกับชีวิตมนุษย์ขึ้นในขอบเขตทั่วโลกแล้ว แพทย์กว่า 20,000 คนทั่วโลกรุมกันแฉแผนอุบาทว์ที่ต้องการให้มนุษย์ตกอยู่ในอำนาจวัคซีน ซึ่งอาจนำไปสู่การกำกับบงการสุขภาพและชีวิตมวลมนุษย์ในวันข้างหน้า แพทย์ชาวเยอรมันได้สำนึกผิดเปิดเผยความจริงให้ชาวโลกทราบว่าโรคโคบ้านั้นไม่ได้ร้ายแรงอะไร แค่เอาน้ำเกลืออุ่น ๆ กลั้วคอไว้เป็นระยะ ๆ ก็สามารถป้องกันและรักษาการติดโคบ้าได้อย่างชะงัด ล่าสุดคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ของศิริราชก็ได้ทำคลิปออกเปิดเผยปลุกให้คนไทยตื่นขึ้นแล้วหนีออกจากเงื้อมมืออสูร โดยคลิประบุว่าเพียงแค่ใช้กระเทียมสดและพริกสดเคี้ยวร่วมกันก็จะป้องกันและรักษาโคบ้าได้ ในขณะที่แพทย์จำนวนหนึ่งก็เริ่มเปิดเผยถึงกระบวนการทำมาหากินที่แสวงหาประโยชน์ทุจริตในทุกกระบวนการและขั้นตอนของการเยียวยารักษาโคบ้าในประเทศไทย ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่ประชาชนไทยจะได้ตื่นขึ้นจากความกลัวและก้าวออกมาจากเงื้อมมือปีศาจที่อำมหิตนี้ให้ทันท่วงที.
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    โพสต์นี้เขียนขึ้นตอนเช้าเพราะผมรู้ว่าคุณยังพอมีเวลาอ่าน เขียนขึ้นโดยจะไม่มีการตั้งคำถามใด ๆ หรือต่อว่าใครทั้งสิ้นแล้ว (*ไม่ต้องเอาไปเป็นข่าวนะครับ) แต่เขียนขึ้นเพื่อ "เตือน" ย้ำให้หนักแน่นอีกครั้งหลังผมฟังข้อมูลสำคัญจาก WHO ผ่านทาง TNN 1. ทั่วโลกตายจาก COVID19 เกิน 3 ล้านคนแล้ว ...ล้านคนแรกตายภายใน 5 เดือนแรกที่ระบาด ... ล้านที่ 2 ตายภายใน 4 เดือน และ "ล้านที่ 3" ใช้เวลาทำสถิติอันหดหู่นี้เพียง 3 เดือน ...หมายความว่า "เชื้อมันเร่งการทำลายล้าง" แล้วล่ะ... 2. เชื้อที่กลายพันธุ์ทวีความรุนแรง มีหลายแหล่งที่มา (ตามภาพ) เขาตั้งชื่อเชื้อ ชื่อรหัสไว้หมดแล้ว โดยทั้งหมดเรายังไม่ได้แต่งตั้งว่าเป็นสายพันธุ์ไทย หรือสายพันธุ์วีไอพีไหน ? ...แต่ที่แน่ ๆ เชื้อเข้าร่างกายคนไม่เลือกหน้า ไม่เลือกชื่อชั้น ตำแหน่ง ฐานะ ยากดี มีจน มันโจมตีได้หมด ...หมอ-พยาบาลขนาดระวังตัวมาก ๆ ก็ติดได้ หากหน้ากาก Leak ใส่ไม่ดี ขยับปากพูดมาก ๆ ไหวกายไปมา มันย่อมพลาดได้ 3. เชื้อที่พัฒนามาระลอกนี้มันดันคร่าคนหนุ่มสาวได้ อายุ 20, 30 หรือ 40 ปี ก็มีรายงานการตายออกมาแล้ว (ซึ่งจำนวนตายนี่จริงแท้แน่ เพราะต้องออกใบมรณะบัตร) ฉะนั้นจากความมั่นใจที่เคยมีที่ว่า COVID19 คร่าแต่คนแก่ คนชรา ...ไม่ใช่แล้วนะ ถ้าคุณอ่อนแอ อ้วน นอนน้อย โรครุมเร้า เป็นโรคแนว NCD อยู่แล้ว (โรคไม่ติดต่อแต่เป็นโรคแนว 'ทำเอง' ทั้งหลาย 80% มาจากพฤติกรรม ...ไป Search เอา) ...คุณมีโอกาสม่องเท่ง 4. ผลการศึกษาจากต่างประเทศชี้ว่าบุคคลที่มีกรุ๊ปเลือด A ติดโควิดง่ายกว่ากรุ๊ปอื่น แต่ผู้ป่วยทั้งหมดในเวลานี้ก็มีเลือดคละกันทุกกรุ๊ป ยังไม่มีรายงานว่ากรุ๊ปไหนป่วยมากกว่าใคร ...มีแต่รายงานจากอังกฤษว่าที่ป่วยแล้วตายส่วนมากคือกลุ่มผู้นอนน้อย มีนิสัยการนอนต่ำกว่า 8 ชั่วโมงมาเป็นเวลานาน ... ติดปุ๊ปเชื้อลงปอดไวกว่า ภูมิต้านทานต่ำล่ะว่าง่าย ๆ 5. โลกยังไม่มียารักษาโควิดโดยตรง (มีแต่ยาต้านไวรัสที่ชื่อว่า ‘ฟาวิพิราเวียร์’ แต่ก็ไม่ใช่ไวรัสโคโรน่าโดยตรง) เครื่องมือที่ดีที่สุดทางการแพทย์ ณ เวลานี้คือ "การฉีดวัคซีน" ... ไทยเรามีสัญญาณอัตราเร่งแล้ว ...40 เอกชนรวมตัวกันในนามหอการค้าจะให้พื้นที่รัฐมาเปิดบริการระดมฉีดแบบปูพรม (แบบอเมริกาที่ฉีดได้เร็วมาก 200 ล้านโดสแล้วและเหลือพอต่อทุก ๆ คนที่เข้าประเทศ ฉีดในห้างยา-ร้านรวงเลย ฉีดได้โดยไม่ต้องจอง *มีไลฟ์ของ beartai แบไต๋ ที่ผมจัดไปแล้ว บ้านเรากำลังจะลงทะเบียนกันอีกแล๊ะ 1 พค.นี้กับแอปตัวใหม่ให้คนไทยงงกันอีกครั้งด้วยนาาาา.. เอ้อ~ไม่เอา ๆ ไม่ว่า ๆ โพสต์นี้ไม่ต้องการจะว่าใคร *แค่จะเตือน) แต่การฉีดวัคซีนที่จะเริ่มเห็นผลแบบสงครามสงบได้ ต้องครอบคลุมให้มากกว่า 25% ของจำนวนประชากร ขณะนี้เรายังไปได้แค่ 1.4% (หากคุณไม่ได้อ่านโพสต์นี้ในวันที่ 28 เมษายน ให้ไปดูรายงานสด ๆ ได้จาก https://ourworldindata.org/covid-vaccinations ) วัคซีนทุกตัวมีรายงานผลข้างเคียงที่อาจเกิดทั้งสิ้น เรียกง่าย ๆ มีความเสี่ยงทุกตัว แต่น้อยมากกับเคสที่เกิดเมื่อเทียบกับจำนวนคนที่ฉีด ...ฉะนั้นฉีดเถอะเมื่อมันมาถึงคิวคุณ การดื้อดึงไม่เป็นผลดีเพราะคิวจะรวน แถวจะแกว่ง สังคมสับสน ~$#%&£€×¥ ฉีดครบ โลกก็กลับมาไหวกายกันได้ไว ...*และ In Case ว่าคุณไม่ยอมฉีด คุณก็เสี่ยงติด Covid อยู่ดี เพราะเชื้อไม่ได้หายไป มันยังล่องลอยอยู่ในโลก ...โลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วทำใจยอมรับซะ ...ความเสี่ยงติดโควิดแล้วตายมีมากกว่าความเสี่ยงในการฉีดแล้วตาย ...ย้อนกลับไปอ่านอัตราเร่งในข้อ 1 ได้นะ สรุป... ทุกวันนี้ให้ทำอย่างไร ? - ออกจากบ้านให้น้อย ล้างมือบ่อย ๆ - สวมหน้ากาก 100% เต็มเมื่อออกนอกชานบ้านหรือมีคนมาหา - รักษาระยะห่าง : อย่าเกรงใจกัน หากกลัวเขามองว่าคุณไม่ไว้ใจเขา ให้เราชิงพูดก่อนเลย "อย่าเข้ามา!! เพราะฉันยังไม่มั่นใจตัวเองเล๊ย~" ... *เมื่อวานผมผ่าน RCA บล็อก D บริษัทอะไรซักอย่างจัดคัดเลือกคน คนตรึมเลย มามุงกันอย่างใกล้ชิด โถ หนุ่มน้อยสาวน้อยทั้งหลาย นาทีนี้ถ้าบริษัทที่คุณทำงานด้วยเขายังไม่มีวิธีป้องกันหรือแสดงออกในการปกป้องคุณ ให้คุณพิจารณางานใหม่เถอะ งานยังมีเยอะแยะ เอกชนยังไม่หยุดจ้างงาน ล็อกดาวน์ก็ไม่กลัวนะเอาจริง ๆ แต่ทั้งนี้ผมก็เชื่อนะว่า การใส่หน้ากากอย่างมิดชิดจริง ๆ (ทับ 2 ชั้นด้วยหลักคิด : หน้ากากอนามัยปิดชั้นแรกแล้วตามด้วยหน้ากากผ้าเพื่อรัดแน่น ไม่ให้ลมหายใจ Leak ออกมา *เช็กได้ด้วยการเป่าปาก หากลมรั่วจะรู้) สามารถบุกตะลุยไปไหนต่อไหนได้เท่าที่จำเป็น ...แล้วผมก็ "เชื่อ" อีกนะว่า ถึงเราจะเผลอสูดไวรัสโคโรน่าเข้าตัวมาแล้ว แต่หากเรา Keep ความแข็งแรงไว้กะร่าง ร่างกายเราจะต่อสู้กับมันได้ ยามว่าง อย่าเอาเวลาไปมัวกิน ให้ยึดหลักสร้างภูมิต้านทานในยามมีศึกสงคราม - ออกกำลังกายในบ้านในแบบที่ทำได้ ทำจำนวนครั้งจนกว่าจะไม่ไหว อย่าปล่อยให้กล้ามเนื้อเหลว ทำให้มันแข็งเข้าไว้ ด้วยการสร้างแรงต้าน - ตัดหวาน เลิกกินน้ำตาล ซึ่งกดภูมิต้านทาน จำไว้ #Sugarเท่ากับฆ่าเรา - เพิ่มภูมิต้านทานด้วยการออกนอกชานบ้านบ้าง มองไปหาแดด ตากแดด ตอนตากแดดถอดรองเท้าด้วย เสียบปลั๊กร่างกายกับผืนโลกหน่อย.. (เรียก #earthing ไปค้นกูเกิล!) พื้นดินกับแดดนี่ปัจจัยลบเพื่อรบกับโควิดเลยนะ ...เชื้อโคโรน่าไม่ชอบอยู่ในอุณหภูมิเกิน 56 องศา ฉะนั้นดื่มน้ำร้อนบ่อย ๆ จิบไว้ตลอดวัน ...ชาร้อน กาแฟดำร้อน ตามชอบ แต่อย่ากินหวาน (ย้ำ) ความขมที่ถมให้หวานได้นี่บัดซบที่สุดฮะ - ส่วนใครจะกินวิตามินใด อาหารเสริม หรือสมุนไพรใด อันนี้ตามศรัทธาของแต่ละคน ผมไม่กล้าแนะนำ เพราะขนาดน้องเภสัชหน้าตาสวยพริ้ม ยังมีดราม่าได้ ... แต่ผมบอกได้เพียงว่า "อะไรที่เขาอัดเม็ดมาขายคุณได้ *มันมีอยู่แล้วในอาหาร" เพียงแต่คุณต้อง "เลือกกิน อย่ากินไม่เลือก" เราอยู่ในยุคอาหารไม่ปลอดภัย ต้องเลือกความ Raw Material อย่าไปถวิลหาการดัดแปรง แปรรูปมากนัก ...ทุกฉลากมี อ่านเยอะ ๆ ตรงนี้เขาโกหกคุณไม่ได้ แต่เขาแค่เขียนตัวเล็กมาก พยายามมองก่อนเอาเข้าปาก (ไว้ผมจะจัดไลฟ์สอนอ่านอีกที) เอาเท่านี้ก่อน....พอแก่แล้วพิมพ์เยอะชิบเป๋งเลย ...แต่เพราะห่วงใยคุณนะถึงเขียน https://www.facebook.com/nuishow/posts/10157850217666976
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false