1 คนสงสัย
ห้ามกินฟ้าทะลายโจรกับยาฟาวิพิราเวียร์
ไม่ระบุชื่อ
 •  3 ปีที่แล้ว
meter: true
1 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)
Sofia Idea เลือกให้ข้อความนี้✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด

เหตุผล

ขณะที่ผู้ป่วยที่มีอาการ แพทย์จะมีการพิจารณาและจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ให้ ทั้งนี้มีข้อควรรู้เกี่ยวกับยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งถือว่

ที่มา

https://www.thansettakij.com/general-news/517374

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ยาต้านไข้หวัดใหญ่เกือบทั้งหมดมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย JAMA Internal Medicine 13 มกราคม 2025 • ยาต้านไข้หวัดใหญ่มีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่ออัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั้งที่มีความเสี่ยงต่ำและมีความเสี่ยงสูง • ยกเว้นบาโลซาเวียร์ตัวเดียวที่อาจเป็นประโยชน์ต่อ“ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง”และ“อาการไม่มาก”แม้ว่ายาตัวนี้อาจส่งผลต่อการดื้อยาได้ 10 % การทบทวนอย่างเป็นระบบและการวิเคราะห์ข้อมูลรวมของการ ศึกษา 73 รายงาน ที่ประเมินผลของ ยาต้านไวรัสใน“ผู้ป่วยนอก”ที่เป็นไข้หวัดใหญ่ พบว่าบาโลซาเวียร์เป็นยาตัวเดียวที่อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงแม้ว่ายาตัวนี้อาจส่งผลต่อการดื้อยาก็ตาม บาโลซาเวียร์อาจดีกว่าการรักษาแบบมาตรฐานหรือยาหลอกในการลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล สำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงที่เป็นไข้หวัดใหญ่ที่ไม่รุนแรง และมีแนวโน้มที่จะลดระยะเวลาในการบรรเทาอาการลงโดยมีผลข้างเคียงเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ตามผลของการทบทวนอย่างเป็นระบบและการวิเคราะห์ข้อมูลรวม เพื่อเปรียบเทียบผลของยาต้านไวรัสในการรักษาไข้หวัดใหญ่แบบไม่รุนแรง นักวิจัยได้ค้นหาฐานข้อมูลออนไลน์ที่เปรียบเทียบ ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ออกฤทธิ์โดยตรง (บาโลซาวิร์ฟาวิพิราเวียร์ ลานินามิเวียร์ โอเซลทามิเวียร์ เปรามิเวียร์ อูมิเฟโนเวียร์ ซานามิเวียร์ และอะแมนทาดีน) กับยาหลอก การดูแลมาตรฐาน หรือยาต้านไวรัสชนิดอื่น ผลลัพธ์ได้แก่ อัตราการเสียชีวิต การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล การเข้ารับการรักษาใน ICU ระยะเวลาในการรักษาในโรงพยาบาล เวลาในการบรรเทาอาการ การเกิดการดื้อยา และเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ • มีการทดลองทั้งหมด 73 รายงาน ซึ่งมีผู้เข้าร่วม 34,332 คนรวมอยู่ในผลการศึกษา ผลการวิจัยได้รับการตีพิมพ์โดย JAMA Internal Medicine เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2025 การวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า • ยาต้านไวรัสทุกชนิดมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่ออัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั้งที่มีความเสี่ยงต่ำและมีความเสี่ยงสูงเมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลมาตรฐานหรือยาหลอก (มีความแน่นอนสูงสำหรับยาทุกชนิด) • ยาทั้งหมดมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่อการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่ำ (ความแน่นอนสูง) ยกเว้นเพอรามิเวียร์และอะมันทาดีน ซึ่งไม่มีข้อมูลให้ สำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง • บาโลซาวิร์“อาจ”ช่วยลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้ (ความแตกต่างของความเสี่ยง [RD] -1.6%; ช่วง CI 95% -2.0% ถึง 0.4%; ความแน่นอนต่ำ) • โอเซลทามิเวียร์มีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่อการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล (RD] -0.4%; ช่วง CI 95% -1.0% ถึง 0.4%; ความแน่นอนสูง) • และยาอื่นๆ ทั้งหมดอาจมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่แน่นอน นอกจากนี้ บาโลซาวิร์อาจลดระยะเวลาของอาการได้ (ค่าความแตกต่างเฉลี่ย [MD] −1.02 วัน; ช่วง CI 95% −1.41 ถึง −0.63 วัน; ความแน่นอนปานกลาง) และอูมิเฟโนเวียร์อาจลดระยะเวลาของอาการได้ (MD −1.10 วัน; ช่วง CI 95% −1.57 ถึง −0.63 วัน; ความแน่นอนต่ำ) โอเซลทามิเวียร์อาจไม่มีผลสำคัญต่อระยะเวลาในการบรรเทาอาการ (MD −0.75 วัน; ช่วง CI 95% −0.93 ถึง −0.57 วัน; ความแน่นอนปานกลาง) นอกจากนี้ บาโลซาวิร์ยังมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย (RD, -3.2%; 95% CI, -5.2% ถึง -0.6%; ความแน่นอนสูง) และโอเซลทามิเวียร์อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาการคลื่นไส้และอาเจียน (RD, 2.8%; 95% CI, 1.2% ถึง 4.8%; ความแน่นอนปานกลาง) ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข และ ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 4 คนสงสัย
    บำบัดโควิดแบบแผนไทย หายได้จริงหรือ
    เมื่อคืนก่อนสองยาม ได้ฟังเรื่องดี ข่าวดี เริ่อง การรักษาโควิด แบบแผนไทย หายได้จริง ในรายการเพลงกับข่าว ของคุณ ทิพวรรณ ปิ่นภิบาล นักร้องชื่อดัง -เล่าเรื่องจริง ครอบครัวที่เธอรู้จักดี สามีติดโควิดจากที่ทำงาน อย่างไม่รู้ตัว พลอยรับเคราะห์ทั้งบ้าน มี ภรรยา พ่อตา แม่ยาย เครียดจนไม่ต้องบรรยาย ติดต่อ รพ. บางแห่งก็เต็มให้รอ ในที่สุดคว้ายาไทยตามที่ได้ยินมา ช่วยตัวเอง และ ทำตัวตามที่ได้ยินมา ว่า โควิด กลัวของร้อน และ น้ำมะนาว เธอตั้งสติ ต้มน้ำขิง กินทั้งวัน และ กินฟ้าทะลายโจร 3 เวลา ครั้งละ 5 เม็ด ดื่มน้ำมะนาว ผสมน้ำอุ่น เช้าเย็น กินอาหารสมุนไพรไทย แบบกินแล้ว เหงื่อแตก-เหงื่อแตน พอ 5 วันผ่านไป ตรวจใหม่ ผล ออกมาเป็น ลบ ไชโย กันทั้งบ้าน พร้อมเล่าเรื่องจริง ให้ทุกคนที่เป็น หรือเสี่ยง ทำตามนี้ืเป็นบุญ เป็นวิทยาทาน--
    Mrs.Doubt
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    แชร์ประสบการณ์โอไมครอน
    แชร์ประสบการณ์โอไมครอนนิดหนึ่งนะ ถ้าแสบคอให้รีบตรวจเลย และถ้าตรวจแล้วขึ้น2 ขีดให้นับย้อนหลังไปอีก 3-4 วันว่าไปไหนมา แล้วจะรู้เองว่าติดมาจากใครเพราะมันติดไวติดง่าย แต่อาการไม่หนักหรอก เหมือนเราเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดา เมื่อไรที่แสบคอ ให้รีบล้างจมูกด้วยน้ำเกลือทันทีทุก 4-6 ชม. กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ ดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ ที่สำคัญอย่าเผลอ กลืนเสลดตัวเองเด็ดขาดเพราะเชื้อมันจะลงไปข้างใน (ในช่วง3-4วันแรกที่มีอาการใหม่ๆเชื้อมันยังไม่ลงปอด มันจะอยู่ที่โพรงจมูกและลำคอเราเท่านั้นดังนั้นถ้ารู้ตัวไวก็รักษาง่าย) ถ้ามีไข้ก็กินพาราเซตามอล ขาดไม่ได้เลยคือ น้ำขิง กับน้ำผึ้ง2ช้อนโต๊ะ มะนาวครึ่งลูกต่อน้ำร้อน1แก้ว ดื่มได้ทั้งวันครับ และพระเอกสุดคือ ฟ้าทะลายโจรชนิดแคปซูล กินวันละ 3 เวลาก่อนอาหาร ครั้งละ 3 แคปซูล ตกวันละ 9 แคปซูล กินต่อเนื่องไปเลย 5 วันแรก แล้วเว้นไป 1 วัน แล้วค่อยกลับมากินใหม่ (โดยในวันแรกที่กินฟ้าทะลายโจรทุกครั้ง ผมจะแกะแคปซูลออกแล้วเทฟ้าทะลายโจรลงคอไปเลย 1 แคปซูล ประมาณครึ่งชั่วโมงอาการเจ็บคอก็ทุเลาลงทันตาเห็นครับ ที่แปลกคือมันไม่ขม กินไปกินมาฟ้าทะลายโจรหวานในคอเฉยเลย แต่อย่าให้โดนลิ้นเรานะ ให้มันลงคอไปเลยจะหวานในลำคอครับ) ทำแบบนี้ครบ 7 วันลองเอาชุดตรวจ ATK มาตรวจดู เชื้อจะไม่มีเลย ช่วงแรกจะมีไข้อ่อนๆ 3-4 วัน หลังจากนั้นลิ้นจะไม่รู้รสอยู่เกือบอาทิตย์ครับ แต่พอเชื้อหายแล้ว อาการนี้ก็จะหายตาม คืนแรกๆผมเกือบไม่ได้นอน เพราะผมหายใจไม่ออก ปกติผมจะมีอาการหอบหืด ภูมิแพ้ฝุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมก็จะมีวิค และยาดมไว้ตรงหัวเตียงตลอด ก็พอช่วยได้ครับ แต่ต้องนอนคว่ำหน้าถึงจะหายใจได้สะดวก พอคืนที่สองผมนึกขึ้นได้ว่าผมมีน้ำเกลืออยู่ เลยเอามาสวนล้างจมูก อาการที่หายใจตอนนอนไม่ได้ก็หายไปทันทีครับ ใครมีญาติหรือเพื่อนที่กำลังเจอโอไมครอนในช่วงนี้ก็แชร์ข้อมูลได้นะครับ เพราะช่วงนี้คนติดวันละหมื่นกว่าละ รพ.ก็เริ่มเตียงไม่พออีกละ แถมรัฐก็ไม่มีเงินช่วยค่ารักษาแล้ว ตอนนี้ใครป่วยก็ต้องรักษาตามสิทธิ์ตัวเอง หรือ ออกเงินเองนะครับ ดังนั้นการรักษาตัวเองที่บ้านจึงปลอดภัยและประหยัดที่สุดแล้วครับ
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    พญ. กมลพรรณ์ ชีวพันธ์ศรี 28 ธค.64 แนะนำกินฟ้าทะลายโจร 3-4 เม็ด หลังกลับจากท่องเที่ยว ไปงานจากแหล่งแออัด....
    พญ. กมลพรรณ์ ชีวพันธ์ศรี 28 ธค.64 แนะนำกินฟ้าทะลายโจร 3-4 เม็ด หลังกลับจากท่องเที่ยว ไปงานจากแหล่งแออัด.... คุณหมอเป็นคนเขียนบทความนี้.... เคล็ดลับ เทคนิคปลอดภัยจากโควิด ไม่นำเชื้อไปฝากญาติ หรือชุมชน โดย หากสัมผัส คนติดโควิด หรือไปเที่ยวแหล่งแออัดมา หรือ ขึ้นลงเครื่องบิน หรือรถสาธารณะ ให้กินฟ้าทะลายโจร 3-4 เม็ดทันที หลังเดินทาง ,หรือขณะเดินทาง ,หรือ หลังไปเที่ยวมา, หรือสัมผัสคนป่วยโควิด หรือกำลังเดินทางไปเยี่ยมญาติ , ท่านจะปลอดภัย จากโควิด ไม่นำเชื้อโควิดไปฝากญาติ หรือคนในชุมชน หรือคนใกล้ชิด เชื่อเถอะ ไม่เสียหาย อะไรเลย เพราะตัวเอง ก็แนะนำให้ลูกทำ เวลาเดินทางไปอเมริกา หรือกลับจากอเมริกา และตนเองก็ทำเองด้วย เวลาไปงานแต่ง ,งานสังสรรค์ ที่ว่าฟ้าทะลายโจรทำลายตับ ตัวดิฉัน เป็นหมอใช้ฟ้าทะลายโจร รักษาคนป่วยโควิด 5 วัน ไม่ค่อยเจอคนไข้ตับเสียหาย แต่กลับเจอว่าคนใช้ ฟาวิพิราเวีย ตับเสียมากกว่า คะ ชัวร์ ไม่มั่วนิ่ม ช่วยเผยแพร่ ให้คนทั่วไปได้ทราบ ส่วนการกระตุ้นให้ฉีดวัคซีนซ้ำ บ่อยๆ เพื่อเพิ่มภูมิต้านทาน แต่เราจะเสี่ยง ต่อผลข้างเคียงของวัคซีน ไปด้วย ได้ของแถมโดยไม่อยากได้ บางรายถึงชีวิต, บางรายผมร่วง, บางรายแขนขาอ่อนแรง แม้นเจอน้อย แต่ก็ไม่อยากให้เกิดกับใคร คะ ฉีด เท่าที่จำเป็นจริงๆ และฉีดชั้นผิวหนัง ( ID :Intradermal ) ปลอดภัยสุดคะ ตัวเองก็ฉีด Moderna ชั้นผิวหนังมาแล้ว คะ พญ. กมลพรรณ์ ชีวพันธ์ศรี 28 ธค 64 https://www.facebook.com/kamolpan.cheewapansri/posts/10160676858077281
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ต้มน้ำขิง กินทั้งวัน และ กินฟ้าทะลายโจร 3 เวลา ครั้งละ 5 เม็ด ดื่มน้ำมะนาว ผสมน้ำอุ่น เช้าเย็น กินอาหารสมุนไพรไทย รักษาโควิดได้
    *** ข่าวดีจาก คุณทิพวรรณ ปิ่นภิบาล นักร้องชื่อดัง เล่าเรื่องจริง..... ครอบครัวที่เธอรู้จักดี สามีติดโควิดจากที่ทำงาน อย่างไม่รู้ตัว พลอยรับเคราะห์ทั้งบ้าน มี ภรรยา พ่อตา แม่ยาย เครียดจนไม่ต้องบรรยาย ติดต่อรพ. บางแห่งก็เต็มให้รอ ในที่สุดคว้ายาไทยตามที่ได้ยินมา ช่วยตัวเอง และ ทำตัวตามที่ได้ยินมา ว่า โควิด กลัวของร้อน และ น้ำมะนาว เธอตั้งสติ ต้มน้ำขิง กินทั้งวัน และ กินฟ้าทะลายโจร 3 เวลา ครั้งละ 5 เม็ด ดื่มน้ำมะนาว ผสมน้ำอุ่น เช้าเย็น กินอาหารสมุนไพรไทย แบบกินแล้ว เหงื่อแตก-เหงื่อแตน พอ 5 วันผ่านไป ตรวจใหม่ ผลออกมาเป็น ลบ ไชโย กันทั้งบ้าน พร้อมเล่าเรื่องจริง ให้ทุกคนที่เป็น หรือเสี่ยง ทำตามนี้ืเป็นบุญ เป็นวิทยาทาน
    Mrs.Doubt
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    หญิงตั้งครรภ์ที่ใช้ยาต้านโควิด ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)และดารุนาเวียร์ (Darunavir) เลี่ยงให้นมบุตร จริงหรือคะ
    สำหรับยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)มีการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่า ยาสามารถผ่านรกและถูกขับออกทางน้ำนมได้ ทำให้เกิดความพิการแก่ตัวอ่อนในสัตว์ทดลอง ในคนอาจจะเกิดอันตรายต่อทารกได้ จริงหรือเปล่าคะ
    anonymous
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ตรวจสอบข่าวข้างล่างนี้หน่อยครับ จริง/เท็จ.. เพราะได้รับมาจากหลายคนแล้วครับ กินมาสองปีแล้วค่ะ ที่บ้านเก็บพาราทิ้งหมด ทำให้ทุกคนในบ้านกินด้วย ยาต้านไวรัสหวัดทุกๆ​รุ่น​(Generation) น้ำส้มสายชู2ชต.+น้ำตาลหรือน้ำผึ้ง3ชต.+น้ำ1ลิตร ทำวันละ3ชุด​กินทุกวันจนหาย เชื้อไวรัสจากหวัดต่างๆ​ที่ร้ายแรงก็จะลดลงเพราะ 1.น้ำส้มสายชู+น้ำตาล+น้ำ​จะถูกเปลี่ยนโมเลกุลเป็นน้ำส้มสายชู​+น้ำจะกลายเป็นโอโซน​คือO3 อยู่ได้5นาทีจะแตกเป็น​ โอ1. โอ2. อย่างนี้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆเพื่อสร้างเม็ดเลือด ส่วนโอ3คือโอโซน CH3COOH คือน้ำส้มสายชู C12H24O12คือน้ำตาล จะถูกเปลี่ยนเป็นC6H12O6 คือกลูโคส เมื่อมีน้ำเป็นตัวทำละลายจะเกิดขบวนการสร้างน้ำส้มสายชู​และสร้างโอโซนต่อเนื่่องจนน้ำตาลถูกสบายหมด​เอาไปสร้างเกล็ดเลือดและฆ่าเชื้อไวรัส1000% ง่ายกว่าการไปกินฟ้าทะลายโจรเป็น100เท่า เพราะถ้ากินฟ้าทลายโจรเข้าไปต้องใช้เวลาย่อย3ชั่วโมง เมื่อย่อยเสร็จส่งไปที่ตับบำรุงตับอีก3ชั่วโมงเพื่อให่เอ็นไซม์ตับย่อยฟ้าทะลายโจรให้โมเลกุลเล็กลงไปอีกจากโพลีแซคคาไลน์ มาเป็นไดแซคคาไลน จากไดแซคคาไลน์ มาเป็นโมโนแซคคาไลน์คือC6H12O6กว่าจะเปลี่ยนเป็นกรดไขมันไปซ่อมเซลนั้นใช้เวลามาก ส่วนน้ำส้มสายชู(ขับลมแล่นทั่วกายคือวิ่งเข้าสู่กระแสเลือดทำงานทันทีทันเวลาเลย ทำปฏิกิริยาต่อเนื่องในการฆ่าเชื้อโรคทุก2นาที สร้างเลือดทุก2นาที MONOคือโมเลกุลเดียวคือน้ำผึ้งกลูโคสC6H12O6 DI และ​TRIคือโมเลกุล2หรือ3คือC12H24O12 Polyคือเส้นไย คือฟ้าทะลายโจรสมุนไพรต่างๆ อาจารย์เจ็ดแก้ว ชาวหินฟ้า
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ฟาวิพิราเวียร์ ยาโควิดที่จะล้มรัฐบาลประยุทธ์ได้ ยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาสำคัญที่ใช้รักษาโรคโควิด วันนี้เช้ายาตัวนี้ขาดแคลนอย่างหนัก น้องแพทย์ที่โรงพยาบาลได้ขอเบิกยานี้เพื่อใช้กับผู้ป่วยที่จะนะ ทราบว่า ที่คลังโรงพยาบาลหาดใหญ่ที่เป็นจุดสำรองยาของจังหวัดสงขลาเหลือเพียง 150 เม็ด ดีที่รัฐบาลสั่งยามาจากญี่ปุ่นทันเวลา 2 ล้านเม็ด เล่นเอาใจหายใจคว่ำ ซึ่งเชื่อว่า หากอัตราการใช้เป็นเช่นปัจจุบัน 2 ล้านเม็ดนี้ก็ใช้ได้ไม่เกิน 3 เดือน ยาฟาวิพิราเวียร์ ในผู้ป่วยโควิด 1 คน จะต้องใช้คนละ 50 เม็ด คือวันแรกทาน 9 เม็ด ทุก 12 ชั่วโมง และอีก 4 วันถัดมาทาน 4 เม็ดทุก 12 ชั่วโมง ดังนั้นยา 2 ล้านเม็ดก็จะใช้ได้กับผู้ป่วย 40,000 คนเท่านั้น ไม่ได้มากมายในสถานการณ์การระบาดเช่นนี้ ประเด็นของยาฟาวิพิราเวียร์ที่อาจเป็นเหตุให้รัฐบาลสะดุดขาตนเองจนรัฐบาลล้มได้ก็คือ เรื่อง การผูกขาดยาจากการขอจดสิทธิบัตรยาของบริษัทเจ้าของยาจากประเทศญี่ปุ่น บริษัทญี่ปุ่นเป็นผู้ผลิตยาตัวนี้ ยานี้ไม่มีสิทธิบัตรยาตั้งต้นในประเทศไทย แต่บริษัทมายื่นขอจดสิทธิบัตรรูปแบบเม็ดเล็กของยาฟาวิพิราเวียร์ต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งคำขอสิทธิบัตรลักษณะนี้ ไม่มีทั้งความใหม่และนวัตกรรมที่สูงขึ้น จึงไม่สมควรได้รับสิทธิบัตร แต่กรมทรัพย์สินทางปัญญาก็ยึกยักไม่ยอมปฏิเสธคำขอนี้ไปเสียที ทั้งที่ภาควิชาการได้เคยไปยื่นข้อมูล ระบุเหตุที่ควรปฏิเสธตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 แล้ว อีกทั้งองค์การเภสัชกรรมมีความพร้อมในการผลิตได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนยาเบื้องต้นกับสำนักงานคณะกรรมอาหารและยา (อย.) ไปแล้วด้วย รัฐบาลควรประกาศสนับสนุนองค์การเภสัชกรรมให้เร่งผลิตยาตัวนี้อย่างเป็นทางการ หากกรมทรัพย์สินทางปัญญาไม่ปฏิเสธคำขอนี้ โอกาสที่จะถูกฟ้องในอนาคตก็มี ฉะนั้นรัฐบาลจึงควรแสดงความกล้าหาญทางการเมืองหนุนหลังองค์การเภสัชกรรมผลิตยาเพื่อประชาชน และควรมีนโยบายชัดเจนไปที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาให้ทำหน้าที่เพื่อช่วยสู้ภัยโควิด ปฏิเสธคำขอสิทธิบัตรยาฟาวิพิราเวียร์เสีย ราคายาฟาวิพิราเวียร์ ปัจจุบันราคาเม็ดละ 150 บาท ต้องใช้ 50 เม็ดต่อคนก็คิดเป็นค่ายาคนละ 7,500 บาท หากองค์การเภสัชกรรมผลิตเองได้ ค่ายาก็จะลดลงได้ครึ่งหนึ่ง ทั้งประหยัดงบประมาณ และเรามีความมั่นคงทางยา ไม่ดีตรงไหน ภาวะการขาดแคลนยาฟาวิพิราเวียร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เส้นยาแดงผ่าแปดมากๆ สถานการณ์โควิดก็จะยังหลอกหลอนประเทศไทยไปอีกถึงปีหน้า การออกประกาศสนับสนุนให้องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้ผลิตยาฟาวิพิราเวียร์อย่างเป็นทางการ คือคำตอบที่ใช่ ซึ่งไม่ยาก เพราะรัฐบาลได้รวบโอนอำนาจจากกระทรวงต่างๆมาไว้ที่นายกรัฐมนตรีหมดแล้ว จึงต้องการความกล้าหาญทางการเมืองนิดหน่อยจากนายกรัฐมนตรีเท่านั้นเอง หากอนาคตมีการระบาดหนักจนยาขาดแคลน คนป่วยตายเพราะไม่มียารักษา คงไม่ใช่แค่หมอไม่ทน แต่คนไทยคงไม่ทนด้วย รัฐบาลจะล่มเพราะโควิดอย่างแน่นอน Cr. เพจ ชมรมแพทย์ชนบท https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=971918113346983&id=206100476595421
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    กินยาฟาวิพิราเวียร์ รักษาโควิด ตาจะกลายเป็นสีม่วงเรืองแสงออกมา
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ออกจากมือปีศาจโคบ้า(โควิด)ได้แล้ว โดย สิริอัญญา วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 โคบ้าระบาดมาสองปีเศษ ขณะนี้ประเทศต่าง ๆ ได้ถีบหัวส่งปีศาจตนนี้และคืนความปกติแก่สังคม ทำให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่ต้องห่วงว่าใครจะติดเชื้ออีกต่อไป และถ้าใครติดเชื้อก็แนะนำให้ซื้อหายามากินก็จะหายได้ในเวลา 1-3 วัน ซึ่งไม่ต่างอะไรกับไข้หวัดใหญ่ เป็นเรื่องตรงกันข้ามกับก่อนหน้านี้ที่สร้างกระแสให้หวาดกลัวว่าโคบ้าคือปีศาจร้าย ใครสัมผัสแล้วก็จะกลายเป็นผีดิบและเสียชีวิตได้โดยง่าย ในขณะที่มีกระบวนการถ่วงเวลาการดูแลรักษาเพื่อให้ไวรัสลงปอด หายใจไม่ออก และเสียชีวิต ซึ่งเป็นแผนอุบาทว์ชาติชั่วที่ล้างผลาญชีวิตมนุษย์อย่างอำมหิต แต่ปรากฏว่าจีน รัสเซีย อิหร่าน และประเทศในเครือข่ายองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้รู้เท่าทันแผนอุบาทว์นี้มาตั้งแต่ต้นจึงไม่หลงกลเป็นเครื่องมือ และในวันนี้ก็ได้ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าที่จีน รัส เซีย อินเดีย อิหร่านและพันธมิตรจัดการกับโคบ้านั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์แก่มวลมนุษย์มากที่สุด ทั้งทำลายล้างแผนอุบาทว์จากบริษัทยานักล่าอาณานิคม ยกตัวอย่างประเทศจีน นับตั้งแต่ถูกใส่ร้ายว่าเป็นต้นตอของโคบ้ามาจนถึงวันนี้ประเทศจีนมีคนป่วยรวมทั้งสิ้นแค่แสนคน ปีที่ผ่านมาไม่มีใครเสียชีวิตเลย รัฐบาลจีนไม่ได้เน้นการฉีดวัคซีน แต่ประกาศรายการยาที่ใช้รักษาโคบ้าให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป ซึ่งใครมีอาการติดเชื้อก็สามารถซื้อหากินกันเองได้โดยง่าย 2-3 วันก็หายขาด นี่คือความสำเร็จอันเป็นที่ประจักษ์ อีกตัวอย่างซึ่งตรงกันข้ามคือสหรัฐซึ่งเป็นต้นตอของการสร้างความตกใจกลัวในเรื่องโคบ้า ซึ่งวันนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าคนอเมริกันติดโคบ้าเกือบสิบล้านคนและมีผู้เสียชีวิตหลายล้านคน ประเทศยากจน ประชาชนยากเข็ญ จนต้องพิมพ์เงินดอลลาร์ออกมาอย่างไม่บันยะบันยัง ประเทศไทยของเราทำตัวเป็นสมุนบริวารที่เอาแบบอย่างสหรัฐ ดังนั้นถึงวันนี้ประเทศไทยซึ่งมีประชากรเพียง 66 ล้านคน มีผู้ป่วยมากกว่าประเทศจีนซึ่งมีประชากร 1,400 ล้านคน กว่า 20 เท่า และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากมาย ผู้ประกอบการทั่วประเทศถูกปิดกิจการ ขาดทุนย่อยยับ คนตกงานทั่วทั้งประเทศ เศรษฐกิจยับเยิน คนไทยยากจนเพิ่มขึ้นเกือบสิบล้านคนในชั่วระยะเวลาเพียงสองปีเศษ ประเทศเป็นหนี้สินเพิ่มขึ้นร่วมกว่า 2 ล้านล้านบาทในช่วงสองปีเศษ หนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้นร่วม 4 ล้านล้านบาท ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้การปกครองตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นประเทศเดียวของโลกที่ใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเรื่องโคบ้าที่ยาวนานที่สุดและล้มเหลวมากที่สุด มีการใช้เงินแผ่นดินเกี่ยวกับเรื่องโคบ้ามากมายมหาศาล มีข่าวคราวการทุจริตอย่างกว้างขวาง ถึงขนาดสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแถลงที่จะตรวจสอบการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณและงบกลางซึ่งมีจำนวนร่วม 2 ล้านล้านบาท แต่กลับเงียบหายไปดื้อ ๆ เพราะอำนาจผีสางตนใดก็ไม่รู้ มีการสั่งยาฟาวิพิราเวียร์ถึง 430 ล้านเม็ดเข้ามาใช้ ทั้งที่ประเทศผู้ผลิตทั้งสามประเทศคือเยอรมัน อินเดีย และญี่ปุ่นพิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถใช้รักษาโคบ้าได้ และไม่อนุญาตให้ประเทศของตนเองใช้ แต่ประเทศไทยก็ยังดันทุรังใช้กันอยู่แต่ต้องใช้คู่กับยารักษาอื่นที่ใช้รักษาโคบ้าได้ ประเทศไทยเดินตามหนทางสหรัฐ โหมและบังคับการฉีดวัคซีนอย่างไม่บันยะบันยัง เฉพาะปี 2565 ก็มีข่าวว่าสั่งซื้อเข้ามาถึง 165 ล้านโดส และกำลังบังคับให้ผู้คนฉีดวัคซีนเข็ม 3 เข็ม 4 เข็ม 5 กันต่อไป ทั้ง ๆ ที่ความจริงได้พิสูจน์ชัดเจนแล้วว่าจะฉีดวัคซีนสักกี่เข็มก็ตาม จะฉีดไขว้หรือไม่ไขว้ก็ตามไม่สามารถป้องกันการติดโคบ้าได้เลย แต่ยังดันทุรังฉีดกันอยู่ จนกระทั่งขณะนี้มีผู้ตั้งข้อสังเกตแล้วว่าคนไทยตายและพิการป่วยเจ็บ เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต เพราะการฉีดวัคซีนมากหรือเท่ากับตายเพราะโคบ้ากันแน่ บรรดาหมอทั้งหลายไม่เคยปริปากแนะนำคนไทยว่าจะใช้ยาอะไรในการรักษาโคบ้า และน่าแปลกใจว่าหมอทั้งประเทศก็ประพฤติอย่างเดียวกัน พากันเงียบปากสนิทท่ามกลางผลประโยชน์ที่ได้รับจากความเดือดร้อนทุกข์เข็ญของประชาชน ในขณะที่มีหมอจัญไรราว 10 คน ที่แต่ละวันแถลงข่าวหรือให้สัมภาษณ์ปั่นกระแสหลอกลวงให้ผู้คนตื่นตระหนกตกใจกลัวเพื่อจะได้ไปฉีดวัคซีน หมอจัญไรเหล่านี้ประชาชนต้องจดจำหน้าตาชื่อเสียงไว้ให้แม่น จะได้บอกลูกบอกหลานว่าคนไทยล้มหายตายจาก ประเทศชาติเสียหายยับเยินก็เพราะหมอจัญไรราว 10 คนนี้ที่สร้างกรรมทำเข็ญไว้กับบ้านเมืองสุดคณานับ ฟ้ามืดเมื่อมีได้ ก็ฟ้าใหม่ย่อมคงมี ขณะนี้ได้เกิดขบวนการต่อต้านบรรดาทุนยาที่ทำมาหากินกับชีวิตมนุษย์ขึ้นในขอบเขตทั่วโลกแล้ว แพทย์กว่า 20,000 คนทั่วโลกรุมกันแฉแผนอุบาทว์ที่ต้องการให้มนุษย์ตกอยู่ในอำนาจวัคซีน ซึ่งอาจนำไปสู่การกำกับบงการสุขภาพและชีวิตมวลมนุษย์ในวันข้างหน้า แพทย์ชาวเยอรมันได้สำนึกผิดเปิดเผยความจริงให้ชาวโลกทราบว่าโรคโคบ้านั้นไม่ได้ร้ายแรงอะไร แค่เอาน้ำเกลืออุ่น ๆ กลั้วคอไว้เป็นระยะ ๆ ก็สามารถป้องกันและรักษาการติดโคบ้าได้อย่างชะงัด ล่าสุดคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ของศิริราชก็ได้ทำคลิปออกเปิดเผยปลุกให้คนไทยตื่นขึ้นแล้วหนีออกจากเงื้อมมืออสูร โดยคลิประบุว่าเพียงแค่ใช้กระเทียมสดและพริกสดเคี้ยวร่วมกันก็จะป้องกันและรักษาโคบ้าได้ ในขณะที่แพทย์จำนวนหนึ่งก็เริ่มเปิดเผยถึงกระบวนการทำมาหากินที่แสวงหาประโยชน์ทุจริตในทุกกระบวนการและขั้นตอนของการเยียวยารักษาโคบ้าในประเทศไทย ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่ประชาชนไทยจะได้ตื่นขึ้นจากความกลัวและก้าวออกมาจากเงื้อมมือปีศาจที่อำมหิตนี้ให้ทันท่วงที.
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false