ทาง NARIT ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงประเด็นดังกล่าวไว้ดังนี้ ตามประเด็นใน Tiktok ที่ส่งมาไม่เป็นความจริงตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ โดยสนามแม่เหล็กโลกระดับ G4 ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีดังนี้ 1. แสงออโรราที่ปรากฏสว่างชัดเจน (เฉพาะพื้นที่ละติจูดสูง-ใกล้ขั้วโลก) สนามแม่เหล็กโลกจะเบี่ยงให้อนุภาคมีประจุไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์เหล่านี้ลงมาสู่บรรยากาศโลกบริเวณใกล้ขั้วโลก เมื่ออนุภาคมีประจุดังกล่าวชนเข้ากับอนุภาคแก๊สในบรรยากาศชั้นบนของโลก อนุภาคแก๊สจะปล่อยพลังงานในรูปของแสง เกิดเป็นแสงเหนือ-แสงใต้ (Aurora) ที่ปรากฏชัดเจนเหนือประเทศแถบละติจูดสูง หรือใกล้ขั้วโลก 2. ความเสี่ยงต่อระบบส่งไฟฟ้า และไฟดับเป็นบริเวณกว้าง (เฉพาะพื้นที่ละติจูดสูง-ใกล้ขั้วโลก) ฝูงอนุภาคมีประจุใน CMEs ที่รบกวน-ปะทะเข้ากับสนามแม่เหล็กโลก ทำให้เกิดความปั่นป่วนในสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งเรียกว่า “พายุแม่เหล็กโลก (Geomagnetic storm)” ซึ่งความปั่นป่วนของสนามแม่เหล็กโลกจะสามารถเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าที่พื้นผิวโลก หากกระแสไฟฟ้าเพิ่มเติมส่วนนี้เข้าสู่ระบบส่งไฟฟ้า จะทำให้หม้อแปลงเกิดความเสียหาย และสามารถทำให้เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้าง เช่น ไฟดับนาน 9 ชั่วโมง ทางภาคตะวันออกของแคนาดา เมื่อปี ค.ศ. 1989 3. ความเสี่ยงต่อระบบดาวเทียม และระบบนำทาง เมื่อฝูงอนุภาคมีประจุใน CMEs มาปะทะเข้ากับดาวเทียม สามารถทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรที่ตัวดาวเทียม จนดาวเทียมเสียหายได้ และเกิดความเสี่ยงต่อเนื่องถึงระบบนำทาง-ระบุพิกัดตำแหน่ง (เช่น GPS) ที่ต้องใช้เครือข่ายดาวเทียมหลายดวง ขณะที่ “การลุกจ้าบนดวงอาทิตย์” (Solar Flare) ซึ่งเป็นการปะทุปล่อยรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เข้มข้นจากพื้นผิวดวงอาทิตย์ ที่เกิดขึ้นพร้อมกับ CMEs ในครั้งนี้ จะส่งผลกระทบต่อการสื่อสารทางวิทยุในแบบ “สภาวะสัญญาณคลื่นวิทยุขาดหายชั่วคราว” (Radio blackout)

จากที่มีการส่งภาพผู้ป่วยและข้อมูลบรรยายในสื่อออนไลน์และกลุ่มไลน์ว่า พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ มีการส่งต่อข้อมูลออกไปโดยมิได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน เกิดความตื่นตระหนก ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า จากข้อมูลทางระบาดวิทยา 5 ปีที่ผ่านมาและนับแต่เดือนมกราคม 2558 จนถึงปัจจุบัน ยังไม่พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษทั้งนี้ ทีมสอบสวนและควบคุมโรคติดต่อระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล ได้ปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังตรวจจับโรคแอนแทรกซ์อย่างเต็มความสามารถอยู่โดยตลอด

ผู้ป่วยชายไทย ที่มีพฤติกรรมดื่มเหล้า ไม่ค่อยได้แปรงฟันหรือดูแลสุขภาพช่องปาก กรณีไปพบแพทย์ด้วยอาการไข้ หายใจหอบเหนื่อย เมื่อตรวจภาพฟิล์มเอกซเรย์ปอดพบว่า มีโพรงหนองภายในปอด ซึ่งในช่องปากมีฟันผุจำนวนหลายซี่และมีหนองปลายรากฟัน หมายความว่า ภายในช่องปากมีปริมาณเชื้อโรคจำนวนมาก มักพบได้บ่อยในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จนขาดสติสัมปชัญญะ จะมีการสำลักเกิดขึ้น ทำให้เชื้อภายในช่องปากสามารถลงไปในปอดและเกิดฝีหนองในปอดได้

แอนแทรกซ์ (Anthrax) เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรีย Bacillus anthracis ซึ่งพบในสัตว์กินพืช เช่น วัว ควาย แพะ และแกะ โดยเชื้อสามารถแพร่สู่คนได้ผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ ทางผิวหนัง – สัมผัสกับสัตว์ติดเชื้อหรือเนื้อสัตว์ที่ปนเปื้อน ทางเดินหายใจ – สูดดมสปอร์ของเชื้อจากสัตว์หรือผลิตภัณฑ์ที่ปนเปื้อน ทางเดินอาหาร – รับประทานเนื้อสัตว์ที่มีเชื้อแอนแทรกซ์และปรุงไม่สุก กรณีของผู้เสียชีวิตรายแรกและผู้ติดเชื้อรายที่สองในมุกดาหาร มีประวัติชำแหละวัวและรับประทานเนื้อดิบ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ติดเชื้อ และยังสามารถกินได้ แต่ต้องเลือกเนื้อจากแหล่งที่ปลอดภัย และ ปรุงให้สุกเสมอ หลีกเลี่ยงเมนูดิบหรือกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น ลาบเนื้อดิบ หรือสเต็กที่สุกไม่ทั่วถึง หากมีอาการผิดปกติ เช่น แผลที่ผิวหนัง มีไข้ หรือปวดท้องรุนแรงหลังรับประทานเนื้อวัว ควรรีบพบแพทย์ทันที

WHO ระบุว่าระดับของความดันโลหิตที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 140/90 มม.ปรอท แต่ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด ควรมีความดันโลหิตไม่เกิน 130/80 มม.ปรอท แต่กระนั้น สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด ควรมีความดันโลหิตไม่เกิน 130/80 มม.ปรอท ได้แก่ - หลอดเลือดหัวใจ - โรคเบาหวาน - โรคไตเรื้อรัง - มีความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ

แม้ปกติแล้ว ในช่วงวัยกลางคนจะพบผู้ป่วยความดันโลหิตสูงในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่ยิ่งอายุมากขึ้น ความเสี่ยงความดันโลหิตสูงในผู้หญิงจะเริ่มมากกว่าผู้ชาย แอนเจลา มาส์ ย้ำว่า ความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้หญิง จะพบในระดับความดันโลหิตที่ต่ำกว่าผู้ชาย ดังนั้น ความดันโลหิตสูงจึงเป็นสิ่งที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม นอกจากนี้ ผู้หญิงที่ใช้ยาคุมกำเนิดมีความเสี่ยงความดันโลหิตสูงกว่าปกติ ส่วนผู้หญิงที่มีความดันโลหิตสูงอาจมีปัญหาระหว่างตั้งครรภ์ นอกจากนี้ ผู้หญิงที่มีปัญหาความดันโลหิตสูงระหว่างตั้งครรภ์ ก็อาจมีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงตอนอายุมากขึ้นอีกด้วย

อันตรายจากการหยุดยาลดความดันด้วยตนเอง อาจนำไปสู่ภาวะความดันโลหิตสูงวิกฤต อาจส่งผลเสียอย่างร้ายแรงได้ เช่น หลอดเลือดในสมองแตก อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเสียชีวิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล แนะนำการใช้ยาลดความดันอย่างปลอดภัย 4 ข้อ ได้แก่ 1.กินยาให้ตรงเวลา เพื่อควบคุมระดับความดันโลหิตให้คงที่ 2.ไม่หยุดยาเอง ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนปรับยา 3.วัดความดันโลหิตเป็นประจำ เพื่อใช้ในการประเมินผลการรักษา 4.เลี่ยงการซื้อยารับประทานเอง รวมถึงสมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

เนื่องจากน้ำมะพร้าวที่ดื่มมีการเจาะรูตั้งทิ้งไว้ ณ อุณหภูมิห้อง ทำให้เชื้อรา Arthrinium saccharicola ที่ปนเปื้อนในน้ำมะพร้าวเจริญเติบโตขึ้นมาผลิตสารพิษ กรด 3-ไนโทรโพรพิโอนิก (3-NPA) หรือ 3-Nitropropionic Acid : 3-NPA จากการชันสูตรพบว่าสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตเพราะได้รับสารพิษ “กรด 3-ไนโทรโพรพิโอนิก” ซึ่งพบได้ไม่บ่อยนัก สารพิษ “กรด 3-ไนโทรโพรพิโอนิก” ชนิดนี้ทำให้อวัยวะสำคัญล้มเหลว เช่น สมองบวม หัวใจทำงานผิดปกติ ตับวาย กล้ามเนื้อสลาย จึงเสียชีวิตภายในเวลาอันรวดเร็ว ที่อันตรายถึงชีวิตได้เนื่องจากเซลล์ร่างกายต้องใช้พลังงานคือออกซิเจน แต่สารพิษ “กรด 3-ไนโทรโพรพิโอนิก” ตัวนี้จะไปยับยั้งการใช้พลังงานของเซลล์ร่างกาย ทำให้เซลล์ผลิตพลังงานไม่ได้ เมื่อเซลล์ผลิตพลังงานไม่ได้เลือดจะเป็นกรด ถ้าเกิดที่เซลล์สมอง ในเมื่อเซลล์สมองใช้พลังงานไม่ได้เซลล์สมองบวม ความดันในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้นไปกดอวัยวะในกะโหลกศีรษะ ไปกดเซลล์สมองส่วนอื่น ๆ ทำให้หายใจไม่ได้ มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง และเสียชีวิต ปัจจุบันยังไม่มียารักษาพิษจากเชื้อรา Arthrinium saccharicola โดยเฉพาะ แพทย์ให้การรักษาแบบประคับประคองตามอาการเท่านั้น กรณีได้รับพิษไม่มาก แพทย์จะใช้วิธีรักษาแบบประคับประคอง เช่น สมองบวมน้ำก็อาจให้เครื่องช่วยหายใจ ให้ยาลดบวม และร่างกายผู้ป่วยจะค่อย ๆ ขับพิษออกมา จึงฟื้นตัวได้เร็ว

สายพันธุ์นี้ติดต่อง่ายมาก ถ้ามองย้อนตั้งแต่สายพันธุ์โอมิครอน มาจนถึงปัจจุบัน สายพันธุ์โอมิครอน มีอำนาจการติดต่อในประเทศต่างๆกระจายได้จากผู้ป่วยคนหนึ่งไปยังผู้ป่วยคนอื่นๆ 3-6 คน เอาเป็นว่าสายพันธุ์ใหม่นี้ อำนาจการกระจายของโรคเพิ่มขึ้น ให้เป็น 5 คน แสดงว่าผู้ป่วย 1 คน ใช้เวลา 3 ถึง 5 วัน จะแพร่กระจายไปได้ 5 คน อีก 5 วันต่อมา ก็จะกระจายไปเป็น 25 คน อีก 5 วันต่อมา ก็จะเป็น 125 คน และ 625 คน ถ้าเป็นระยะเวลา 1 เดือน เพียงผู้ป่วยรายเดียวจะเพิ่มจำนวนผู้ป่วยไปได้เท่าไหร่ ตัวเลขดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากใช้เวลาอีกไม่นาน ก็จะมีผู้ป่วยติดเป็นส่วนใหญ่ แล้วโรคจึงจะสงบ สายพันธุ์ NB.1.8.1 ในประเทศไทยนี้ จะมีผู้ป่วยจำนวนมาก แต่ความรุนแรงไม่ได้เพิ่มขึ้นมีแนวโน้มลดลง จึงทำให้ยอดผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาล ไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด รวมทั้งยอดผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมีแต่จะน้อยลง

สายพันธุ์นี้ติดต่อง่ายมาก ถ้ามองย้อนตั้งแต่สายพันธุ์โอมิครอน มาจนถึงปัจจุบัน สายพันธุ์โอมิครอน มีอำนาจการติดต่อในประเทศต่างๆกระจายได้จากผู้ป่วยคนหนึ่งไปยังผู้ป่วยคนอื่นๆ 3-6 คน เอาเป็นว่าสายพันธุ์ใหม่นี้ อำนาจการกระจายของโรคเพิ่มขึ้น ให้เป็น 5 คน แสดงว่าผู้ป่วย 1 คน ใช้เวลา 3 ถึง 5 วัน จะแพร่กระจายไปได้ 5 คน อีก 5 วันต่อมา ก็จะกระจายไปเป็น 25 คน อีก 5 วันต่อมา ก็จะเป็น 125 คน และ 625 คน ถ้าเป็นระยะเวลา 1 เดือน เพียงผู้ป่วยรายเดียวจะเพิ่มจำนวนผู้ป่วยไปได้เท่าไหร่ ตัวเลขดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากใช้เวลาอีกไม่นาน ก็จะมีผู้ป่วยติดเป็นส่วนใหญ่ แล้วโรคจึงจะสงบ สายพันธุ์ NB.1.8.1 ในประเทศไทยนี้ จะมีผู้ป่วยจำนวนมาก แต่ความรุนแรงไม่ได้เพิ่มขึ้นมีแนวโน้มลดลง จึงทำให้ยอดผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาล ไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด รวมทั้งยอดผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมีแต่จะน้อยลง

แอบอ้างหุ้นที่มีอยู่จริง, อวดอ้างผลตอบแทนสูงเว่อร์เกินจริง

การกดตัวเลข (ทั้ง SMS หรือระบบ IVR) นั้นไม่เพียงพอที่จะดูดเงินได้ ต้องมีอย่างอื่นประกอบด้วย

-

ปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มกลับมาระบาดอีกครั้ง และกรมควบคุมโรคได้เปิดเผยยอดผู้ป่วยโควิดรายใหม่ของสัปดาห์นี้มีจำนวนสูงถึง 23,536 ราย และมียอดผู้ป่วยสะสมสูงถึง 235,561 ราย เมื่อนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 และสายพันธุ์ที่มีการระบาดอยู่ในตอนนี้คือ “XEC” แม้อาการจะไม่รุนแรงมาก แต่มีการแพร่กระจายที่รวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ขานรับนโยบายนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมกรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ (DC3) เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) ให้กลับมามีความสามารถในการผ่อนชำระเงินงวดได้ตามปกติ เพื่อรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเงินงวด นานสูงสุด 1 ปี ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการผ่าน Application : GHB ALL BFRIEND และสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน – 31 ธันวาคม 2568

ตามที่ได้มีข้อมูลปรากฏเกี่ยวกับเรื่อง มะเร็งเทอร์โบ พบในคนอายุน้อย ที่ฉีดวัคซีนโควิดแล้ว ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ และไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันว่า วัคซีนโควิด 19 เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งในมนุษย์ ซึ่งวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) เป็นวัคซีนที่กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสร้างสารแอนติบอดีต้านเชื้อไวรัสซาร์ส-โควี-2 (SARS-CoV-2) ที่เป็นสาเหตุของโรคโควิด 19 โดยผู้ที่รับวัคซีนโควิด 19 อาจมีอาการข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีน เช่น ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด ซึ่งส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรงและสามารถหายได้เองโดยไม่ต้องใช้ยา แม้ว่าวัคซีนชนิดนี้ยังไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100% แต่สามารถลดความรุนแรงของโรคได้ จากการสืบค้นข้อมูลในปัจจุบันพบว่า วัคซีนโควิด 19 ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ทุกชนิด จะต้องได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization, WHO) และจะต้องผ่านการทดลองทางการแพทย์ที่เข้มงวด เพื่อพิสูจน์ว่า วัคซีนแต่ละตัวนั้นมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์มาตรฐานด้านประสิทธิภาพความปลอดภัย และมีความเสี่ยงในระดับที่ยอมรับได้ของวัคซีนตามข้อกำหนดของภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern-PHEIC) ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์

การที่จะติดเชื้อไวรัส HIV ได้ จะต้องผ่านการรับสารคัดหลั่งในร่างกายของผู้ติดเชื้อ เช่น เลือด น้ำอสุจิ ของเหลวในช่องคลอด หรือน้ำนมแม่ ซึ่งมักจะเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน และการติดต่อจากแม่สู่ลูก การที่อ้างว่าติดเชื้อ HIV หลังจากที่ฉีดวัคซีนนั้น ก็เป็นไปไม่ได้เลย เพราะการฉีดวัคซีนจะต้องใช้เข็มใหม่ทุกครั้ง ไม่ใช่ว่าจะมาติดข้ามกันระหว่างคนฉีด ที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน เช่น เพื่อเสพยาเสพติด การฉีดวัคซีนโควิด ก็ไม่ได้ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่บกพร่อง เหมือนคนเป็นโรคเอดส์จากเชื้อไวรัส HIV นะครับ .. ความจริงต้องนับว่ามีภูมิคุ้มกันดีขึ้นด้วยซ้ำ เพราะว่าเป็นช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสามารถจะต่อต้านกับเชื้อโควิด ที่เข้ามาสู่ร่างกายได้ ส่วนน้ำยา CDS ที่ชอบอ้างว่าเอามาใช้ล้างพิษของวัคซีน รวมถึงใช้เป็นยาครอบจักรวาล รักษาโรคอื่นๆ นั้น ความจริงก็คือ สารละลาย คลอรีนไดออกไซด์ (Chlorine Dioxide ) ซึ่งไม่ได้ผลในการรักษาอะไร ปกติก็มาใช้เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อบนพื้นผิววัตถุ เพราะมีคลอรีนเป็นส่วนประกอบอยู่ กินเข้าไป จะทำให้เกิดอาการพิษ และระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร จะทำให้เจ็บปาก เจ็บคอ คลื่นไส้อาเจียน หรือปวดท้องได้

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้เปิดเผยแล้วว่า ในกรณีนี้ หากเกิดพายุสุริยะขึ้นนั้น จะทำให้ระบบอินเทอร์เน็ต และการสื่อสารขัดข้องใช้งานไม่ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ใช้งานสื่อออนไลน์ไม่ได้ชั่วคราว สำหรับโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์เงินในบัญชีหายไปนั้น ถือว่า เป็นไปไม่ได้

ปลอมมาก

* True ขัดข้องเพราะระบบไฟฟ้าในศูนย์โครงข่าย * ผลกระทบจากพายุสุริยะมักเกิดกับนอกโลก เช่น ดาวเทียม สถานีอวกาศ

มีทฤษฎีสมคบคิดที่เกี่ยวข้อง เรื่อง "chemtrail"

"โทร จ่าย จบ" หรือ "เจอ แจก จบ" เป็นโครงการเก่าในช่วงยุคโควิด ปัจจุบันยุติลงแล้ว

"เจอ-แจก-จบ" ของ สปสช.ที่ดูแลสิทธิบัตรทอง 30 บาท กรณีที่เจ็บป่วยด้วยโรคโควิด-19 ให้ใช้สิทธิรักษาพยาบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่ "หน่วยบริการปฐมภูมิ" ถ้าผู้ป่วยมีอาการรุนแรง ก็ให้เข้ารับบริการที่ "โรงพยาบาลตามสิทธิ" นอกจากนี้ ถ้าเจ็บป่วยเล็กน้อย ยังขอปรึกษาเภสัชกร และรับยาตามอาการ ได้ที่ร้านยาที่เข้าร่วม (ติดสติกเกอร์ "30 บาทรักษาทุกที่" หรือสติกเกอร์ "ร้านยาคุณภาพของฉัน" ) ดูรายชื่อร้านยาที่เข้าร่วมได้ที่ https://wdrugapi.nhso.go.th/public/ และยังสามารถรับบริการ "การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) " รอรับยาจัดส่งถึงบ้าน ผ่าน 1. แอปพลิเคชัน Clicknic (คลิกนิก) 2. แอปพลิเคชัน Mordee (หมอดี) และ 3. แอปพลิเคชัน Saluber MD (ซาลูเบอร์ เอ็ม ดี)

สหภาพยุโรปเตรียมใช้ระบบตรวจคนเข้า - ออกเมืองแบบใหม่ เป็นระบบ EES - Entry/Exit System สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางระยะสั้นด้วยวีซ่าเชงเก้น ระบบนี้จะใช้เทคโนโลยีไบโอเมตริกในการบันทึกข้อมูลแทนการตรวจแบบรายบุคคลกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะไม่มีการประทับตราหนังสือเดินทาง แต่จะใช้การสแกนหนังสือเดินทาง พร้อมให้ข้อมูลชีวมิติผ่านเครื่อง เช่น ลายนิ้วมือ และภาพถ่ายใบหน้า รวมถึงการบันทึก วัน เวลา และสถานที่ ที่เดินทางเข้าออกพรมแดนทุกครั้งในเขตเชงเก้น เป็นระบบที่จะช่วยให้การตรวจคนเข้าเมืองสะดวกและรวดเร็วขึ้น และทำให้รู้ว่าบุคคลใดอยู่เกินวีซ่าอีกด้วย ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ มีคำสั่งไปยังสถานฑูตสหรัฐฯ ทั่วโลกให้หยุดการนัดสัมภาษณ์สำหรับผู้ที่ยื่นขอวีซ่านักเรียน นักเรียนแลกเปลี่ยน และนักศึกษาใหม่ เป็นการชั่วคราว และเตรียมพิจารณาบังคับใช้มาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียของผู้ที่ยื่นขอวีซ่านักเรียนทุกคนก่อนเดินทางเข้าศึกษาในสหรัฐอเมริกา สำหรับผู้ที่มีการนัดหมายสัมภาษณ์สำหรับการขอวีซ่าอยู่แล้ว ยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ แต่สำหรับผู้ที่เป็นผู้ยื่นสัมภาษณ์รายใหม่ต้องยกเลิกการนัดหมายทั้งหมดออกจากปฏิทินการศึกษาของสหรัฐออกไปก่อน คาดว่ามาตรการนี้อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสถานศึกษาและมหาวิทยาลัยที่มีนักศึกษามากกว่า 1 ใน 4 เป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากค่าเล่าเรียนของนักศึกษาต่างชาติมักจะสูงกว่านักศึกษาสหรัฐฯ