12432 ข้อความ
- 1 คนสงสัยสหรัฐระงับการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จริงหรือหน่วยงานด้านสุขภาพในสหรัฐฯ 2 แห่ง เรียกร้องให้ระงับการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เนื่องจากพบกรณีผู้ที่ได้รับวัคซีนที่เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน จริงหรือโควิด 2019anonymous• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระบาด มาพร้อมกับโรคติดต่อของหมู จริงหรือมีข้อความปรากฏในสื่อโซเชียลมีเดีย ในประเด็นเรื่อง เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระบาด มาพร้อมกับโรคติดต่อของหมู จริงหรือโควิด 2019anonymous• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแพทย์แนะนำ ทดสอบเดินเร็ว 6 นาที ทุกวันเช้า-เย็น ทดสอบสมรรถภาพปอด จริงหรือนพ.อนุชิต นิยมปัทมะ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ กลุ่มงานอายุรกรรม รพ.มหาราชนครราชสีมา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า #ไม่ต้องแปลกใจถ้าหมอสั่งคนเป็น covid ให้ลงมาเดินออกแรง คนไข้ covid รอบนี้หลายๆคน อาการไม่เยอะ แต่อย่าพึ่งชะล่าใจ อาจจะเป็นปอดอักเสบได้ง่ายๆ หมอจะให้ผู้ป่วยออกแรง เพื่อเป็นการตรวจง่ายๆ คือ การเดิน 6 นาที สามารถเชคอาการปอดได้ จริงหรือโควิด 2019anonymous• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยมีคลิปแพร่ในไลน์ว่า ประเทศจีนดื่มแต่น้ำร้อนฏ้สามารถรักษาป้องกันโควิดได้ จริงหรือมีคลิปว่าประเทศจีนหายจากโควิดเพราะดื่มน้ำร้อนบ่อยๆ สูดไอน้ำร้อนๆบ่อยๆ ฆ่าเชื้อโควิดได้ จริงหรือยาสมุนไพรโควิด 2019anonymous• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยติดเชื้อโควิด รักษาตัวที่ โรงพยาบาลเท่านั้น ห้ามกักตัวที่บ้าน จริงหรือมี เนทไอดอลที่ติดโคงิดออกคลิปว่า ติดโควิดอาการไม่หนัก กักตัวอยู่บ้านก็ได้ แต่ สธ. ออกมายืนยันว่าต้องรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น จริงหรือโควิด 2019anonymous• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสงขลา งด ละหมาดตารอเวียะฮ เพราะพบผู้ติดเชื้อโควิด จริงหรือไม่สงขลา งด ละหมาดตารอเวียะฮ และพิธีกรรมทางศาสนา เพราะมีพบผู้ติดเชื้อโควิดเกินกว่า 50 คนโควิด 2019Ruslina• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยลักษณะอาการไอ แบบต่างๆอัพเดทกันหน่อย (1) ไอแห้ง + จาม = มลพิษทางอากาศ (2) ไอ + มูก + จาม + น้ำมูกไหล = โรคไข้หวัด (3) ไอ + เมือก + จาม + น้ำมูกไหล + ปวดร่างกาย + อ่อนแรง + ไข้อ่อน = ไข้หวัดใหญ่ (4) อาการไอแห้งจาม + + ความเจ็บปวดของร่างกาย + ความอ่อนแอ + มีไข้สูง + หายใจลำบาก = coronavirus แผนกพยาธิวิทยา AIIMS, เดลี ทำให้ข้อความนี้มีให้กับคนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้!โควิด 2019Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยคำแนะนำ จาก นพ.พรเทพนพ.พรเทพ ได้ฝากทีวี NBT ช่วยประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนทั่วไปที่ยังเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับการตรวจหาเชื้อโควิดเมื่อหลงเข้าไปในสถานที่เสี่ยงหรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิดดังนี้ (1) ควรกักตัวเองเพือรอให้ครบ 5 วันแล้วค่อยไปตรวจหาเชื้อโควิด (2) หากผลตรวจเป็นลบ ควรกักตัวเองต่ออีกจนครบ 14 วันแล้วตรวจหาเชื้อซ้ำเพื่อยืนยัน คนไทยหลายคนเข้าใจผิดหลายประเด็นคือ (1) ตระหนกตกใจแล้วรีบไปตรวจก่อน 5 วันหลังการสัมผัสเสี่ยงโรค จึงไม่พบเชื้อหรือผลเป็นลบ (2) สบายใจว่าผลตรวจเป็นลบ (ข้อ 1) แล้วไม่กักตัวเองต่อ แต่กลับออกตระเวณใช้ชีวิตเหมือนเดิม และแพร่เชื้อให้คนอื่นๆต่อไป นับถึงวันนี้ ไทยต้องเสียค่าใช้จ่ายตรวจเชื้อโควิดไปแล้วกว่า 50 ล้านบาทโดยไม่ได้ประสิทธิผลเท่าที่ควรจากความเข้าใจผิดๆเหล่านี้ ช่วยกันแชร์ต่อเพื่อสังคมไทยจะได้ปลอดภัยครับMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสุขภาพทางเลือกโรงพยาบาลธรรมชาติ บอกต่อไป ได้บุญ 🚫 1. ไขมันในเลือดสูง แทนที่จะหายามากินให้ปวดหัวตับพัง ก็หากระเทียมสดมากินวันละ 10 กลีบ กินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว -------------------------- 🚫 2. ปวดหัว ให้หาผักคะน้าหรือปวยเล้ง(แมกนีเซียม)กินวันละ 4 ขีดและกินปลาทูอีกวันละ 2 ตัว(น้ำมันปลาลดการอักเสบได้)หรือจะชงโกโก้กินก็ช่วยได้ ------------------------- 🚫 3. เป็นหวัด ไอ จามบ่อย ให้หมั่นแปรงลิ้น และกินกระเทียม หอม พริกให้มากๆ ____________________ 🚫 4. ภูมิแพ้ แค่กินฝรั่งวันละ 4 ชิ้นกินเมล็ดฝักทองวันละ 1 กำมือ(สังกะสี) -------------------------- 🚫 5. แพ้ฝุ่นละอองไรฝุ่น หาโยเกิร์ตรสธรรมชาติและนมเปรี้ยวไม่หวานจัดมากิน ------------------------------ 🚫 6. โรค หืดหอบ ไอเรื้อรัง กินต้มยำไก่ กินหัวหอมใหญ่ หอมแดง ต้นหอมและเอาหอมซุกไว้ใต้หมอน -------------------------- 🚫 7. ไขข้ออักเสบ หาปลาเนื้อมันกินวันละ 2 ขีด เช่น ปลาทู ปลาสวาย ปลาแซลมอน หรือปลากระป๋อง ------------------------- 🚫 8. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ให้กินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ 3 มื้อ ------------------------ 🚫 9. ท้องอืด แก๊สมาก ให้กินกล้วยหักมุกปิ้งหรือขิงบ่อยๆ --------------------- 🚫 10. ท้องผูก ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ 3 ช้อนโต๊ะและให้กินน้ำมะขามต้มติดเนื้อมาก เช้า/เย็น. ------------------------- 🚫 11. โรคกระเพาะอาหาร หากล้วยหักมุกปิ้งกิน กล้วยน้ำว้า หรือกระหล่ำปลีให้เยอะมาก ------------------------- 🚫 12. เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย ให้หาอาหารทำจากขิงรับประทานเช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง น้ำขิง ชาขิง -------------------------- 🚫 13. วัยทอง วูบวาบ อารมณ์แปรปรวน ให้กินปลาทูน่าให้มากและกินเต้าหู้เหลืองวันละ 1 แผ่นหรือถั่วลิสงวันละ 1 กำมือ ------------------------- 🚫 14. หงุดหงิดง่าย ให้กินอาหารร่าเริง คือข้าวเหนียว ข้าวโพด กลอย กล้วยหอม และทูน่า --------------------------- 🚫 15. กระดูกพรุน ให้กินงาดำวันละ 4 ช้อนโต๊ะ(ได้แคลเซียมมาก) ------------------------ 🚫 16. ความจำไม่ดี ให้กินปลาทูวันละ 2 ขีด หอยแครง และหอยนางรมซึ่งมีธาตุสังกะสีช่วยสมองได้ ------------------------ 🚫 17. มะเร็งเต้านม ให้กินบร็อกโคลี หรือคะน้าวันละ 5 ขีด ------------------------ 🚫 18. มะเร็งปอดทางเดินหายใจ ให้กินเสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วงให้มากเพราะวิตามินซีช่วยสมานหลอดเลือดในปอดได้ดี ------------------------- 🚫 19. ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน กินแอปเปิ้ลเขียววันละ 1-2 ผลหรือน้ำแอปเปิ้ลเขียวปั่นทั้งกากจะเป็นการล้างพิษไปในตัว -------------------------- 🚫 20. เจ็บอกโรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ กินปลาทะเล น้ำมันมะกอก ผลอโวคาโด เพราะเหล่านี้มีไขมันดีไปช่วยขับตะกรันน้ำมันเก่าออก ถ้าชอบดื่มชา ให้หาชาเขียวสดมาชงดื่มวันละถ้วย --------------------------- 🚫 21. ความดันสูง ต้องงดบุหรี่และความเค็ม ลองหาข้าวโอ๊ตไม่ขัดสีมากิน หรือผักคึ่นฉ่ายสดหรือปั่นก็ได้ จะช่วยควบคุมความดันให้ดีขึ้น ------------------------- 🚫 22. เบาหวานถามหา ให้เลี่ยงแป้งกับน้ำตาล และกินผักเขียวจัดอย่างคะน้า บร็อกโคลี ผักโขมให้มาก ถ้าอยากหวานให้กินส้มโอ และฝรั่งเพราะมีน้ำตาลอยู่น้อยมาก โรงพยาบาลธรรมชาติ บอกต่อกันไป ได้บุญ... #สุขภาพทางเลือก.ยาสมุนไพรMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยประวัติวันสงกรานต์ ความเป็นมาของวันสงกรานต์ ประวัติวันสงกรานต์ หรือเรื่องเล่า ตำนานของสงกรานต์นี้มีปรากฎในศิลาจารึกที่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร เป็นเรื่องราวตำนานตั้งแต่อินเดียโบราณเล่าสืบต่อกันมา โดยย่อว่า มีบุตรของเศรษฐีคนหนึ่งชื่อ ธรรมบาลกุมาร เป็นผู้ที่รู้ภาษานกแล้ว เรียนไตรเพทจบ เมื่ออายุได้เจ็ดขวบ ได้เป็นอาจารย์บอกมงคลต่างๆ แก่มนุษย์ทั้งปวง ซึ่งในขณะนั้น โลกทั้งหลายนับถือท้าวมหาพรหมและกบิลพรหมองค์หนึ่งว่า เป็นผู้แสดงมงคลแก่มนุษย์ทั้งปวง เมื่อกบิลพรหมทราบ จึงลงมาถาม ปัญหาธรรมบาลกุมาร ๓ ข้อ สัญญาไว้ว่า ถ้าแก้ปัญหาได้จะตัดศีรษะบูชา ถ้าแก้ไม่ได้จะตัดศีรษะธรรมบาลกุมาร ธรรมบาลขอผลัด ๗ วัน ครั้นล่วงไปได้ ๖ วัน ธรรมบาลกุมารก็ยังคิดไม่ได้ จึงลงจากปราสาทไปนอนอยู่ใต้ต้นตาลสองต้น มีนกอินทรี ๒ ตัวผัวเมียทำรังอาศัยอยู่บนต้นตาลนั้น ครั้งเวลาค่ำนางนกอินทรีจึงถามสามีว่า พรุ่งนี้จะได้อาหารแห่งใด สามีบอกว่า จะได้กินศพธรรมบาลกุมาร ซึ่งท้าวกบิลพรหมจะฆ่าเสีย เพราะทายปัญหาไม่ออก นางนกถามว่า ปัญหานั้นอย่างไรสามีจึงบอกว่า ปัญหาว่าเช้าราศีอยู่แห่งใด เที่ยงราศีอยู่แห่งใด ค่ำราศีอยู่แห่งใด นางนกถามว่า จะแก้อย่างไร สามีบอกว่า เวลาเช้าราศีอยู่หน้า มนุษย์ทั้งหลายจึงเอาน้ำล้างหน้า เวลาเที่ยงราศีอยู่อก มนุษย์ทั้งหลายจึงเอาเครื่องหอมประพรมที่อก เวลาค่ำราศีอยู่เท้า มนุษย์ทั้งหลายจึงเอาน้ำล้างเท้า รุ่งขึ้นท้าวกบิลพรหมมาถาม ปัญหาธรรมบาลกุมารก็แก้ตามที่ได้ยินมา ท้าวกบิลพรหมจึงตรัสเรียกเทพธิดาทั้ง ๗ อันเป็นบริจาริกาพระอินทร์มาพร้อมกัน แล้วบอกว่า เราจะตัดศีรษะบูชาธรรมบาลกุมาร. ศีรษะของเราถ้าจะตั้งไว้บนแผ่นดินไฟก็จะไหม้ทั่วโลก ถ้าจะทิ้งขึ้นบนอากาศ ฝนก็จะแล้ง ถ้าจะทิ้งไว้ในมหาสมุทรน้ำก็จะแห้ง จึงให้ธิดาทั้งเจ็ดนั้นเอาพานมารับศีรษะ แล้วก็ตัดศีรษะส่งให้ธิดา นางจึงเอาพานมารับพระเศียรบิดาไว้แล้ว แห่ทำประทักษิณ รอบเขาพระสุเมรุ ๖๐ นาที แล้วก็เชิญประดิษฐานไว้ในมณฑปถ้ำคัณธุลีเขาไกรลาศ บูชาด้วยเครื่องทิพย์ต่างๆ พระวิศณุกรรมก็นฤมิตรแล้วด้วย แก้วเจ็ดประการชื่อ ภควดีให้เป็นที่ประชุมเทวดา เทวดาทั้งปวงก็นำเอาเถาฉมุลาด ลงมาล้างในสระอโนดาตเจ็ดครั้งแล้วแจกกันสังเวยทุกๆ พระองค์ครั้งถึงครบกำหนด ๓๖๕ วัน โลกสมมติว่า ปีหนึ่งเป็นสงกรานต์นางเทพธิดาเจ็ดองค์ จึงผลัดเวรกันมาเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหม ออกแห่ประทักษิณเขาพระสุเมรุทุกปี แล้วกลับไปเทวโลก ซึ่งลูกสาวทั้งเจ็ดของท้าวกบิลพรหมนั้น เราสมมติเรียกว่า นางสงกรานต์ มีชื่อต่างๆ ดังนี้ ถ้าวันอาทิตย์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม ทุงษะเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกทับทิม อาภรณ์แก้วปัทมราช ภักษาหารอุทุมพร (ผลมะเดื่อ) พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จมาบนหลังครุฑ แต่ทางล้านนาจะมีความเชื่อว่าวันอาทิตย์ ชื่อ นางแพงศรี ถ้าวันจันทร์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม โคราคะเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกปีบ อาภรณ์แก้วมุกดา ภักษาหารเตลัง (น้ำมัน) พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จมาบนหลังพยัคฆ์ (เสือ) แต่ทางล้านนาจะมีความเชื่อว่าวันจันทร์ ชื่อ นางมโนรา ถ้าวันอังคารเป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม รากษสเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกบัวหลวง อาภรณ์แก้วโมรา ภักษาหารโลหิต พระหัตถ์ขวาทรงตรีศูล พระหัตถ์ซ้ายทรงธนู เสด็จมาบนหลังวราหะ (หมู) แต่ทางล้านนาจะมีความเชื่อว่าวันอังคาร ชื่อ นางรากษสเทวี ถ้าวันพุธเป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม มณฑาเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้วไพฑูรย์ ภักษาหารนมเนย พระหัตถ์ขวาทรงเข็ม พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จมาบนหลังคัทรภะ (ลา) แต่ทางล้านนาจะมีความเชื่อว่าวันพุธ ชื่อ นางมันทะ ถ้าวันพฤหัสบดีเป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม กิริณีเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกมณฑา อาภรณ์แก้วมรกต ภักษาหารถั่วงา พระหัตถ์ขวาทรงขอช้าง พระหัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จมาบนหลังคชสาร (ช้าง) แต่ทางล้านนาจะมีความเชื่อว่าวันพฤหัส ชื่อ นางัญญาเทพ ถ้าวันศุกร์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม กิมิทาเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกจงกลนี อาภรณ์แก้วบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จมาบนหลังมหิงสา (ควาย) แต่ทางล้านนาจะมีความเชื่อว่าวันศุกร์ ชื่อ นางริญโท ถ้าวันเสาร์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม มโหธรเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว อาภรณ์แก้วนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทรายพระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล เสด็จมาบนหลังมยุรา (นกยูง) แต่ทางล้านนาจะมีความเชื่อว่าวันเสาร์ ชื่อ นางสามาเทวี ซึ่งในปีนี้ วันมหาสงกรานต์เป็นวันจพุธที่ ๑๔ เมษายน เวลา ๓.๓๙ น. นางสงกรานต์ จึงเป็นนางรากษสเทวี (เหตุที่ว่าเป็นเทวีประจำวันอังคารเพราะ ถือว่า เวลาเปลี่ยนย้ายยังไม่รุ่งเช้าวันใหม่) คำว่า " สงกรานต์ " มาจากภาษาสันสฤกตว่า สํ - กรานต แปลว่า ก้าวขี้น ย่างขึ้น หรือก้าวขึ้น การย้ายที่ เคลื่อนที่ คือพระอาทิตย์ย่างขึ้น สู่ราศีใหม่ หมายถึงวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งจะอยู่ช่วงระหว่างวันที่๑๓,๑๔,๑๕,๑๖ เมษายนของทุกปี ปีนี้ วันมหาสงกรานต์เป็นวันพุธที่ ๑๔ เวลา ๓.๓๙ น. วันเนาจึงเป็นวันที่ ๑๕ วันเถลิงศก คือวันที่ ๑๖ ความหมายของคำที่เกี่ยวข้องกับสงกรานต์ มีดังนี้ สงกรานต์ ที่แปลว่า " ก้าวขึ้น " " ย่างขึ้น " นั้นหมายถึง การที่ดวงอาทิตย์ ขึ้นสู่ราศีใหม่ อันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกเดือน ที่เรียกว่าสงกรานต์เดือน แต่เมื่อครบ ๑๒ เดือนแล้วย่างขึ้นราศีเมษอีก จัดเป็นสงกรานต์ปี ถือว่าเป็น วันขึ้นปีใหม่ทางสุริยคติ ในทางโหราศาสตร์ มหาสงกรานต์ แปลว่า ก้าวขึ้นหรือย่างขึ้นครั้งใหญ่ หมายถึงสงกรานต์ปี คือปีใหม่อย่างเดียว กล่าวคือสงกรานต์หมายถึง ได้ทั้งสงกรานต์เดือนและสงกรานต์ปี แต่มหาสงกรานต์ หมายถึง สงกรานต์ปีอย่างเดียว วันเนา แปลว่า " วันอยู่ " คำว่า " เนา " แปลว่า " อยู่ " หมายความว่าเป็นวันถัดจากวันมหาสงกรานต์มา ๑ วัน วันมหาสงกรานต์เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ย่างสู่ราศีตั้งต้นปีใหม่ วันเนาเป็นวันที่ดวงอาทิตย์เข้าที่เข้าทาง ในวันราศีตั้งต้นใหม่เรียบร้อยแล้ว คืออยู่ประจำที่แล้ว วันเถลิงศก แปลว่า " วันขึ้นศก " เป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่ การที่เปลี่ยนวันขึ้นศกใหม่มาเป็นวันที่ ๓ ถัดจากวันมหาสงกรานต์ ก็เพื่อให้หมดปัญหาว่า การย่างขึ้นสู่จุดเดิม สำหรับต้นปีนั้นเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาเพราะอาจมีปัญหาติดพันเกี่ยวกับชั่วโมง นาที วินาที ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ที่จะเปลี่ยนศกถ้าเลื่อนวันเถลิงศกหรือวันขึ้นจุลศักราชใหม่มาเป็น วันที่ ๓ ก็หมายความว่า อย่างน้อยดวงอาทิตย์ได้ก้าวเข้าสู่ราศีใหม่ ไม่น้อยกว่า ๑ องศาแล้วอาจจะย่างเข้าองศาที่ ๒ หรือที่ ๓ ก็ได้ วันสงกรานต์เป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่ ซึ่งกษัตริย์สิงหศะแห่งพม่า ซึ่งเดิมบวชอยู่เป็นพระสงฆ์ และขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ ทรงตั้งขึ้นเมื่อปีกุนวันอาทิตย์ พ . ศ . ๑๑๘๑ โดยกำหนดเอาดวงอาทิตย์เข้าสู่ราศีเมษได้ ๑ องศา เดิมทีแล้ว ไทยเราใช้วันขึ้น๑ ค่ำ เดือนอ้าย(ประมาณเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม) เป็นวันขึ้นปีใหม่ (ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ “ลาลูแบร์ ยังบันทึกว่าปีใหม่ไทยคือวันขึ้น ๑ ค่ำเดือนอ้าย ) แต่ในล้านนา สุโขทัย คงใช้ตามพม่า เพราะใกล้ชิดกัน เคยเป็นเมืองขึ้นกันมา ส่วนไทยภาคกลาง คงมาใช้หลังการเสียกรุง จุลศักราช สงกรานต์จึงเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยด้วย ในปีแรกที่กำหนดเผอิญเป็นวันที่ ๑๓ เมษายน ซึ่งอันที่จริงไม่ใช่วันที่ ๑๓ เมษายนทุกปี แต่เมื่อเป็นประเพณี ก็จำเป็นต้องเอาวันนั้นทุกปี เพื่อมิให้การประกอบพิธี ซึ่งมิได้รู้โดยละเอียดต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา วันที่ ๑๓ จึงเป็นวันสงกรานต์ของทุกปี จนถึง รัชกาลที่ ๕ ทรงเปลี่ยนมาใช้ วันที่ ๑ เมษายน เป็นวันปีใหม่ต่อมา จอมพล ป.พิบูลสงคราม ในปีพ.ศ. ๒๔๘๓ จึงได้เปลี่ยนไหม่ โดยกำหนดเอาวันที่ ๑ มกราคม เป็น วันขึ้นปีใหม่ เพื่อให้เข้ากับ หลักสากลที่นานาประเทศนิยมปฏิบัติ ส่วนใดที่เป็นสิ่งที่ดี เรื่องการทำบุญให้บรรพบุรุษ การระลึกถึงบุพการี เป็นวันครอบครัว เราก็นำมาปฏิบัติได้ แต่การบอกว่า เป็นวันปีใหม่ไทย อาจารย์ยังติดๆ อยู่นิดหน่อย(ไม่อยากเป็นการระลึกถึงการเป็นประเทศเมืองขึ้น😊😊) ในปีนี้ มีปัญหาเรื่องโรคระบาด covid-19 ทำให้พวกเราต้องอยู่บ้าน ทักทายกันด้วยเทคโนโลยี ส่งใจให้กัน ให้ทุกคนแคล้วคลาดปลอดภัย อย่างไรก็ตามขอสวัสดีวันสงกรานต์ด้วยนะครับ อ. วันชัย รวยอารี ๑๐ เมษายน ๒๕๖๔มีมไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยจุฬาราชมนตรี ประกาศ จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 50 คน ให้งดการละหมาดละหมาดวันศุกร์ จริงหรือไม่ ?จุฬาราชมนตรี ประกาศ จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 50 คน ให้งดการละหมาดละหมาดวันศุกร์ จริงหรือไม่ ?Abd Zaaq• 3 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q?accountId=thstickernewyear&openerPlatform=native&openerKey=อย. เพิกถอนภาคอีสานภาคเหนือภาคใต้ภาคตะวันออก ผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 2 คนสงสัย😢อันนี้ของจริง ไหนๆ Covid-19 ก็กลับมา ระบาดใหญ่จนได้😓 🤓ในฐานะคนเรียน จุลชีววิทยาและจบมาเป็น Microbiologist ขอให้ข้อมูลซึ่งเพิ่งหารือกับเพื่อนๆกลุ่มนักจุลชีววิทยาจนเข้าใจรายละเอียดตรงกันแล้วมาแบ่งปันดังนี้😍 1. การแพร่ระบาดในขณะนี้ ติดต่อจากสารคัดหลั่งคือเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย เป็นหลัก 2. เชื้อไวรัสไม่ได้ลอยในอากาศ มันจะตายทันทีที่ออกมาสัมผัสอากาศ ที่มันออกมากระจายได้เพราะมันอยู่ในเซลล์ของเยื่อบุจมูกปากที่หลุดออกมากับน้ำมูก น้ำลาย 3. การติดเชื้อเกิดจากการสัมผัสสารคัดหลั่งเหล่านี้และนำเซลล์เยื่อเมือกนี้ไปเข้าตาหรือทางเดินหายใจ (อวัยวะที่มีเยื่อเมือกบุ เช่น ตา จมูก ปาก) 4. ไวรัสไม่สามารถเจาะผ่านผิวหนังเข้าร่างกาย ถ้าอยู่บนพื้นผิวมันจะตายเมื่อเซลล์ของคนป่วยที่หุ้มมันอยู่แห้งตาย เพราะตัวมันเองไม่มีชีวิต มันอาศัยในเซลล์ที่มีชีวิต ถ้าเซลล์หลุดออกจากร่างกายจะหมดชีวิตในเวลาไม่นานไวรัสก็ตายตามไปด้วย ***ในส่วนของการป้องกันนั้นทำได้ดังนี้*** 1. ใส่มาสก์เพื่อป้องกัน 2 ทาง 1.1 สำหรับคนที่ติดเชื้อใส่แล้วป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อได้เพราะเวลาไอจามเซลล์เยื่อบุซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของไวรัสมีขนาดใหญ่กว่ารูของผ้าจะออกมาไม่ได้ ไม่ต้องห่วงว่าไวรัสจะเล็กกว่าและออกมาได้เพราะไวรัสอยู่ในเซลล์เยื่อเมือกอีกที 1.2 สำหรับคนที่ไม่เป็น การใส่มาสก์ช่วยป้องกันสารคัดหลั่งกระเด็นมาเข้าหน้าหรือจมูกปากและถ้ากระเด็นมาติดที่มาสก์ เชื้อก็ไม่เข้าเพราะมันอยู่ในเยื่อบุซึงใหญ่กว่ารูผ้า นอกจากนี้การใส่มาสก์ช่วยลดโอกาสที่มือจะไปสัมผัส ตา จมูก ปาก 2. ใส่ faceshield ช่วยป้องกันไม่ให้สารคัดหลั่งกระเด็นมาโดนมาสก์ และยังช่วยป้องกันไม่ให้สารคัดหลั่งที่อาจหลุดรอดจากมาสก์กระเด็นออกไปยังผู้อื่น 3. การล้างมือ สำคัญมากๆ เพราะมือคืออวัยวะที่นำเชื้อไม่ว่าจะมีสารคัดหลั่งตกอยู่ที่พื้นผิวใดๆไปเข้า ตา จมูก ปาก แม้แต่การใส่/ถอดมาสก์ ก็ต้องระมัดระวังว่าสารคัดหลั่งที่เปื้อนมาสก์จะโดนมือ และมือนำไปเข้าตา จมูก ปาก ดังนั้นต้องท่องจำไว้เสมอว่า "เราต้องไม่เอามือที่ยังไม่ฟอกล้างสะอาดไปโดนหน้า" 4. ผม โดยเฉพาะผมยาว เป็นที่ๆมีสารคัดหลั่งมาติดได้ง่ายมาก ถ้ามีคนไอใกล้ๆแล้วเสมหะเล็กๆกระเด็นมาติด เมื่อเราเสยผมมือเปื้อนทันที และถ้ามือโดนหน้าโดยไม่ล้างก็นำเชื้อเข้าแล้ว ดังนั้นถ้ามีโอกาสเมื่อกลับเข้าบ้านควรอาบน้ำสระผมทันที และ"เราต้องไม่เอามือที่ยังไม่ฟอกล้างสะอาดไปโดนหน้า" 5. เสื้อผ้า เหมือนกับเรื่องผม ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีเมื่อเข้าบ้านและแช่น้ำใส่น้ำยาซักไว้แค่นี้ไวรัสก็ตายแล้ว 6. ถอดรองเท้าไว้นอกห้องก็เพียงพอแล้ว ไวรัสไม่ได้ทนจนติดรองเท้ากลับไปในบ้านได้ แต่เชื้อแบคทีเรียทนได้ เราถอดก็ดีเป็นการรักษาความสะอาด 🌸หวังใจว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์พอจะช่วยบรรเทาภาระของบุคคลากรทางการแพทย์ที่กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่และหนักหนาสาหัสเป็นที่สุดครั้งนี้ลงได้บ้าง🌼 ปล: ขอเชิญแบ่งปันกันตามสะดวกค่ะทุกๆท่าน ไม่ต้องให้เครดิตแหม่มหรอกค่ะเพราะนี่เป็นการรวบรวมความเห็นจากนักจุลชีววิทยาหลายๆคนค่ะโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยอ่านหน่อยนะ เตรียมตัวไว้นะ คนเยอะแยะบอกเราว่า ทำอย่างไรจึงจะไม่ติดไวรัสโคโรน่า แต่ไม่ยักมีใครสักคนบอกว่า ถ้าเกิดติดไวรัสแล้ว จะต้องทำอย่างไร ขอบคุณนะ คุณพยาบาลในจักรภพอังกฤษที่รวบรวมคำแนะนำนี้ให้เรา นี่เป็นคำแนะนำที่มีเหตุผลบางประการ จากพยาบาลทั่วไปในอังกฤษ นี่เป็นสิ่งที่ดิฉันเจอคำแนะนำว่า แรกที่สุดต้องทำอย่างไร จึงจะหลีกพ้นจากการติดไวรัส: • ล้างมือให้สะอาดหมดจด รักษาอนามัยร่างกาย อยู่ห่างๆ ผู้คน แต่ที่ดิฉันไม่เคยเห็นเลย คือ คำแนะนำว่า ถ้าเกิดติดไวรัสขึ้นมาจริงๆ จะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ซึ่งนี่อาจจะเกิดขึ้นกับพวกเราได้นะ ดังนั้น ในฐานะเป็นพยาบาลเพื่อนใกล้บ้าน ดิฉันขอให้คำแนะนำบางประการ: ถ้าคุณ เกิดติดเชื้อ โควิด-19 ขึ้นมา คุณต้องรู้จักเตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อน คล้ายๆกับว่า คุณรู้แล้วว่าคุณโดนไอ้เจ้าเชื้อทางเดินลมหายใจเล่นงานเข้าแล้ว เช่น เป็นมีภาวะหลอดลมอักเสบ หรือ ภาวะปอดบวม คุณต้องนึกไว้นะว่าอาการเหล่านี้จะเกิดกับตัวคุณ คุณต้องเริ่มทำสิ่งต่อไปนี้เดี๋ยวนี้เลย : ให้แสงแดดชะโลมทั่วตัววันละ 20 นาทีทุกวัน (หรือมากที่สุดเท่าที่จะทำได้) แสงแดดจะเพิ่มระดับไวตามิน D ให้คุณมากมาย นี่จะไปเสริมความสามารถของภูมิคุ้มกันของตัวคุณ ถ้ามีกำลังทรัพย์ ให้กินอาหารเสริมดีๆ ร่วมกับไวตามิน C 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน รวมทั้ง สังกะสี ซิลิเนียม และ สารกลูทาไธโอน น้ำมันตับปลายี่ห้อ Scott’s Emulsion ก็เป็นอาหารบำรุงชั้นดีทีเดียว (น้ำมันตับปลาค้อด) สิ่งที่คุณจำเป็นต้องซื้อล่วงหน้าเข้าไว้ก่อน คือ: *กระดาษ Kleenex* *ยาพาราเซตามอล Paracetamol* *ยาแก้ไอ ตามที่ชอบ (ให้ดูฉลากยาด้วย เพื่อให้แน่ใจว่า ยาแก้ไอจะไม่มียาพาราเซตามอลไปเพิ่มอีก) *ยาอมผสมสังกะสี *สะเปรย์พ่นคอ เช่น Andolex หรือ TCP *น้ำผึ้งกับมะนาวก็ได้นะ ดีทีเดียวละ ! ยาหม่อง Vicks* vaporub ก็ดีนะ คนใช้กันเยอะ *เครื่องลดความชื้น ก็ควรจะซื้อมาใช้ในห้องที่คุณจะนอนทั้งคืน (คุณอาจจะใช้วิธีอาบน้ำอุ่นจากฝักบัว และนั่งในห้องน้ำ หายใจเอาไอน้ำเข้าตัวก็ได้นะ) ถ้าคุณเคยเป็นหอบหืด และหมอเคยจ่ายยาพ่นให้ ต้องแน่ใจนะว่า มันยังไม่หมดอายุ ให้หายาพ่นมาสำรองไว้นะ *อาหารการกิน* นี่เป็นเวลาเหมาะแก่การทำอาหารดีๆกิน ให้ทำซุบไว้เยอะๆเลย ใส่ตู้เย็นเอาไว้ พร้อมทุกเมื่อ *น้ำ น้ำ น้ำ* ตุนไว้เลยนะ ของเหลวใสๆที่คุณชอบนั่นแหละ เอาไว้ดื่มกิน น้ำประปาก็น่าจะดีนะ บางครั้งบางคราวคุณอาจนะต้องใช้ *การจัดการกับอาการที่เกิดขึ้น เมื่อมีไข้สูงกว่า 38°c ให้กินยา Paracetamol จะดีกว่ายา Ibuprofen. *พักผ่อนเยอะๆ * คุณไม่ควรออกจากบ้านนะ ! ถึงแม้ว่าคุณรู้สึกดีขึ้น ไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ก็อาจจะมีเชื้อไวรัสอยู่กับตัวไปตั้ง 14 วัน ดังนั้น คนแก่กับคนที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว อย่าไปใกล้เขานะ *ใส่ถุงมือและหน้ากากอนามัย* เพื่อป้องกันไม่ให้กระจายเชื้อไปให้คนอื่นในบ้านของคุณเอง *กักตัว* ในห้องนอน ถ้าคุณไม่ได้อยู่แต่ลำพัง ให้บอกเพื่อนและคนในครอบครัวให้ วางสิ่งที่จะส่งให้คุณไว้ภายนอก เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสติดต่อ *ทำความสะอาด* ซักผ้าปูที่นอน เสื้อผ้าบ่อยๆ และล้างห้องน้ำด้วยน้ำยาทำความสะอาดด้วย *คุณไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล เว้นไว้แต่ว่า คุณกำลังหายใจลำบาก หรือมีไข้สูงมาก(มากกว่า 39°C) แล้ว ใช้หยูกยาต่างๆ ไม่ได้ผล กับผู้ใหญ่ ที่มีสุขภาพดีแล้ว 90% สามารถดูแลได้ที่บ้าน โดยการพักผ่อน ดื่มน้ำ กินยาที่หาซื้อได้จากร้านขายยา ถ้าคุณกังวล หรือไม่สบายใจ รู้สึกว่า ตัวเองอาการจะหนักขึ้น *ความเสี่ยงที่มีอยู่แล้ว* ถ้าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับสภาพปอด (เช่น หายใจติดขัด ถุงลมโป่งพอง มะเร็งปอด) หรือกำลังได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ต้องคุยกับหมอแล้วละว่า คุณควรจะทำอย่างไร หากคุณเกิดไม่สบายขึ้นมา *สำหรับเด็กๆ* พ่อแม่ออกจะโล่งใจว่า โคโรนาไวรัส ญาติดีกับเด็กมาก มันมักจะเป็นไม่กี่วันก็หาย (แต่มันก็ยังเป็นเชื้อโรคติดต่อนะ) จึงต้องคำนึงถึงสภาพเด็กๆ ด้วย . *ให้มีสติและตระเตรียมตามควรแก่เหตุ* แล้วทุกอย่างจะไม่เสียหาย จะบอกคุณเอาไว้ว่า ค่า pH ของโคโรนาไวรัสทั้งหลาย มีได้ตั้งแต่ 5.5 ถึง 8.5. สิ่งที่เราต้องทำ ในการจัดการกับไวรัสโคโรนา คือ เราต้องกินอาหารที่มีฤทธิ์เป็นด่าง โดยมีค่า pH สูงกว่าของไวรัส ดังที่บอกไว้ข้างบนนี้ อาหารเหล่านั้น เช่น *มะนาวฝรั่ง - 9.9pH* *มะนาว - 8.2pH* *อะโวคาโด - 15.6pH* *กระเทียม - 13.2pH* *มะม่วง - 8.7pH* *ส้มเขียวหวาน - 8.5pH* *สับปะรด - 12.7pH* *ดอกเก็กฮวย(?) - 22.7pH* *ส้ม - 9.2pH* คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณติดไวรัสโคโรนาเข้าให้แล้ว? 1. คันคอ 2. คอแห้ง 3. ไอแห้งๆ 4. มีไข้ตัวร้อน 5. หายใจถี่ หอบ 6. ไม่ได้กลิ่น และไม่รู้รส 7. นิ้วเท้า มีสีเขียวคล้ำ หรือดำ ดังนั้น เมื่อใดมีอาการอย่างนี้ให้กินน้ำอุ่น ร่วมกับน้ำมะนาวเข้าไปเลย อย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ กรุณาส่งต่อๆไปให้คนในครอบครัวและเพื่อนๆด้วยนะโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยคุณหมอ ศ.ดร.นิธิ มหานนท์มา คุยยาวเรื่องโควิด สรุปว่า 1. อาทิตย์หน้าจะเป็นช่วง peak ของความเสี่ยงสูงสุด ไม่จำเป็นให้อยู่กับบ้าน 100% 2. แล้ว 2 อาทิตย์หลังจากนั้น เป็นช่วงที่จะเห็นกราฟชัดเจน ถ้าพุ่งขึ้น ก็เตรียมตัวรับการปิดเมืองได้เลย ถ้าลงก็แปลว่ายังมีทางรอด 3. วัคซีนล๊อตใหญ่กำลังจะเข้ามา แต่มีปัญหาเรื่อง distribution กำลังเสนอให้คลีนิคเอกชนช่วยฉีดให้นอกเหนือจากโรงพยาบาล 4. รพ.ปิยะเวทเปิดรับเทสต์โควิดอีกได้แล้ว แต่ถ้าติดต้องไปกักตัวที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถ้ามีอาการต้องเข้าโรงแพทย์สนาม (มีอยู่ 150 เตียง) 4. หมอนิธิฟันธงว่า กว่าจะได้ชีวิตปกติกลับมาอีกครั้ง คงต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่งจากนี้ไป 😭😭😭😭😭😭😭😭 สรุปคือ ต้องระวังตัวสูงสุดในอาทิตย์หน้า อย่าออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น —————————โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยฟ้าะลายโจร ทดสอบกับผู้ป่วย Covid แล้วหายฟ้าทะลายโจร ตอนนี้ได้ทดสอบกับผู้ป่วย Covid แล้ว 104 รายใน 5 วัน ปรากฏว่าหมอให้กลับบ้านหมดแล้ว กำลังรอแถลงอย่างเป็นทางการจากกระทรวงในไม่กี่วันนี้ ใครที่คิดจะฉีดวัคซีน ก็ทบทวนก่อน เพราะออกมาเร็วมาก ฟ้าทะลายโจรน่าจะเป็นทางเลือกหรือทางออกเลยก็ได้นะ https://www.youtube.com/watch?fbclid=IwAR21pNVDP7cFxpiBDfTVRdhKOCxkidxrxJfwldiAeEVwJ6sHBtAt4ca7fyY&v=HUw5rKnEB-A&feature=youtu.beโควิด 2019Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--last4 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไปรษณีย์ไทย ชี้แจงกรณีพัสดุมีเชื้อโควิด-19 ยืนยันไม่เป็นความจริงแจ้งเตือนผู้ใช้บริการโปรดอย่าหลงเชื่อกรณีมีคลิปเสียงข้อมูลข้อความปรากฎบนสื่อออนไลน์ว่า ขอให้ทุกท่านที่ได้รับจดหมาย หรือพัสดุไปรษณีย์ให้ใส่ถุงไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเปิด หรือฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนนำเข้าบ้านเพราะว่ามีคนได้รับเชื้อ COVID – 19โควิด 2019anonymous• 3 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผู้ประกันตนตรวจโควิด-19 ฟรี กทม. เริ่ม 17 เม.ย. นี้ จริงหรือผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ฟรี เริ่มต้นวันที่ 17 เมษายนนี้ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย – ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร จริงหรือโควิด 2019anonymous• 3 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรัฐบาล เรียกคืนน้ำยาตรวจโควิด จากโรงพยาบาลเอกชน จริงหรือมีการแชร์ข้อมูลว่าที่โรงพยาบาลเอกชนน้ำยาสำหรับตรวจเชื้อโควิด-19 ไม่เพียงพอ เพราะว่ารัฐฯ เรียกคืนน้ำยา จริงหรือโควิด 2019anonymous• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแชร์กันว่า มี10 จังหวัด ล็อกดาวน์ ห้ามเดินทางเข้า-ออก จริงหรือมีการแชร์รูปภาพ ที่มีข้อความระบุถึงรายชื่อ 10 จังหวัด ที่ห้ามเดินทางเข้าออก ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดน่าน จังหวัดตาก จังหวัดตราด จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสงขลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดสตูล จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส จริงหรือโควิด 2019anonymous• 3 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยต้นจักรนารายณ์ ช่วยรักษามะเร็งได้ จริงหรือมีการเผยแพร่ข้อมูลชวนเชื่อถึงสมุนไพรต้นจักรนารายณ์ ว่ามีสรรพคุณช่วยรักษามะเร็งได้ จริงหรือanonymous• 3 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น