1003 ข้อความ
- 1 คนสงสัยFrom นายแพทย์สุธี ทุวิรัตน์ 25 ก.ค. 2564 สรุปประสบการณ์ในการดูแลรักษาครอบครัวที่ติดโควิดทั้งบ้าน 10 คน แบบ home isolation ครอบครัวนี้สมาชิก 10 คน ประกอบด้วย อากงและอาม่า อายุ ประมาณ 70 ปี อากงและอาม่า มีลูกชาย 1 คน ลูกสาว 2 คน ลูกชายเป็นพี่ชายคนโต แต่งงานมีลูกมีเมียแล้ว มีลูกอ่อน 2 คน เป็นฝาแฝด อายุ 2 ขวบ ลูกสาวคนโตก็แต่งงานแล้ว มีลูก 2 คน เริ่มเป็นวัยรุ่นแล้ว ทั้งหมด 10 ชีวิต อาศัยอยู่รวมกันอย่างค่อนข้างจะแออัดในห้องแถวย่านตลาดน้อย ครอบครัวนี้เกิดโชคร้าย ติดเชื้อโควิดโดยไม่รู้ตัวว่าติดได้อย่างไร ติดจากใคร โดยมีไทม์ไลน์ดังนี้ วันที่ 12/7/64 อากงเริ่มมีอาการไอ วันที่ 15/7/64 ลูกสาวคนโตเริ่มมีอาการไอ วันที่ 17/7/64 ลูกสะใภ้ กับอาม่า เริ่มมีไข้ ไอ วันที่ 18/7/64 หลาน 2 คนที่เป็นวัยรุ่น เริ่มมีไข้ต่ำๆ, ลูกสาว อาการมากขึ้น เริ่มมีอาการเจ็บคอ ทั้งบ้านก็ยังไม่เฉลียวใจว่าติดเชื้อโควิดกันทั้งบ้านแล้ว วันที่ 19/7/64 ลูกสะใภ้ มีไข้สูง ไปตรวจที่ รพ.กรุงเทพคริสเตียน พยาบาลแนะนำให้แยกกักตัวเอง เพราะสงสัยจะเป็นโควิด ลูกชายและลูกสะใภ้แยกตัวไปนอนที่คอนโด วันที่ 21/7/64 ลูกสะใภ้รู้ผล และรักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม, ลูกชายไปหาซื้อชุดตรวจมาได้ 4 ชุด ตรวจเสียไป 2 ชุด ผลตรวจ อาม่าเป็นบวก ลูกสาวเป็นลบ วันที่ 21/7/64 ผลการตรวจ rapid test ของอาม่าเป็นบวก ลูกชายพาอาม่าไปตรวจที่โรงพยาบาล แจ้งกับทางโรงพยาบาลว่าผลตรวจ rapid test เป็นบวก แต่โรงพยาบาลไม่ตรวจให้, ครอบครัวนี้เริ่มสติแตก พยายามดิ้นรนโทรติดต่อหาที่ตรวจแต่หาไม่ได้เลย มีที่พอจะรับตรวจ ก็อยู่ไกล และจำกัดจำนวนตรวจ ต้องไปวัดดวงรอว่าจะได้รับการตรวจ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่ครอบครัวนี้จะไปตรวจได้ เพราะทุกคนเริ่มป่วยและมีอาการแล้ว รวมทั้งเป็นคนแก่และเด็ก สุดท้ายมีเพื่อนของลูกชายช่วยนัดจองคิวตรวจอากงและอาม่าได้ 2 คน ได้คิวตรวจที่แลบเอกชนในวันที่ 23/7/64 วันที่ 21/7/64 ลูกชายไปต้องไปนอนค้างคืนที่โรงพยาบาลจุฬา เพื่อแย่งจองคิวตรวจที่จำกัดวันละ 50 คน วันที่ 22/7/64 ลูกชายได้รับการตรวจที่ รพ.จุฬา ผลเป็นบวก ได้รับการรักษาที่ รพ.จุฬา วันที่ 22/7/64 หลานอายุ 2 ขวบ 2 คนเริ่มมีไข้ ประมาณ37.5ให้ทานยาลดไข้ และเช็ดตัว ไข้ลง วันที่ 23/7/64 เด็ก 2 คนเริ่มมีไข้สูง 38.8 และ 38.6 เช็ดตัวไข้ไม่ลง นอนซึม วันที่ 24/7/64 เด็ก 2 คนอาการดีขึ้น ไข้ประมาณ 37.5 เริ่มทานขนมได้ วันที่ 25/7/64 ลูกสาว 2 คน และหลาน 2 คนที่เป็นวัยรุ่น จองคิวตรวจได้ที่ หน่วยตรวจเชิงรุกของกทม.ที่เขตดุสิต และไปรับการตรวจแล้ว ได้รับการแจ้งว่าต้องรอผล 2 วัน จะแจ้งทาง sms ตั้งแต่วันที่ 21/7/64 ที่รู้ว่ามีคนในครอบครัวนี้ติดโควิด ครอบครัวนี้พยายามหาทางที่จะติดต่อแจ้งไปหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 1330 1668 1669 สาธารณสุข แต่ก็ถูกปฏิเสธไม่ยอมรับแจ้ง โดยอ้างว่าเป็นกฎที่จะรับแจ้งขึ้นทะเบียนเป็นผู้ติดเชื้อโควิดได้ ต้องมีผลการตรวจแบบ RT PCR เท่านั้น แม้ว่าครอบครัวนี้จะพยายามชี้แจงว่าเป็นผู้ติดเชื้อ เพราะมีคนในครอบครัวติดเชื้อและรักษาตัวในรพ.สนามแล้ว และคนที่เหลือในครอบครัวหาที่ตรวจโควิดไม่ได้ ขนาดเอาผลการตรวจของภรรยาลูกชายคนโตและบอกว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ไม่ยอมรับแจ้ง และไล่ให้ต้องไปตรวจด้วย RT PCR มาก่อนเท่านั้น เมื่อรู้ว่าติดโควิดทั้งครอบครัว ก็ดิ้นรนหาซื้อชุดตรวจ และหาซื้อยาฟ้าทะลายโจร กระชาย ทั้งยาไทยและยาจีน ทุกตัวที่โฆษณาว่ารักษาโควิดได้ มากินกันทั้งครอบครัว น้องผมที่เป็นลูกเขยของบ้านนี้ ติดต่อขอความช่วยเหลือจากผมในคืนวันที่ 21/7 ผมได้โทรไปสอบถามอาการของคนในครอบครัวนี้พบว่า อาม่า และน้องสะใภ้ผม เริ่มมีอาการไอมากและหอบเหนื่อย พูดได้ไม่เยอะ พูดไปไอไป เชื้อน่าจะเริ่มลงปอดแล้ว ผมประเมินดูแล้วมั่นใจว่าหาเตียงในโรงพยาบาลไม่ได้แน่ๆ ครอบครัวนี้น่าจะเป็นผู้ติดเชื้อโควิดสีเหลือง และมี 2 คนที่น่าจะกำลังเป็นสีแดง โอกาสที่จะรอดของครอบครัวนี้คือ รักษาตัวที่บ้าน ผมตัดสินใจที่จะไม่เสียเวลาไปในการติดต่อหาเตียงตามโรงพยาบาลต่างๆ การหายาฟาวิพิราเวียมาให้เร็วที่สุด คือทางรอดเดียวของครอบครัวนี้ เพื่อป้องกันไวรัสลงปอด และลดการแพร่เชื้อไวรัส แม้ว่าจะติดเชื้อกันทั้งบ้านแล้ว แต่การอยู่กันอย่างแออัด 10 คนในห้องแถวเล็กๆ จะมีไวรัสออกมากับลมหายใจตลอดเวลา และทุกคนก็หายใจเอาไวรัสของคนในครอบครัวอีก 9 คนตลอดเวลา น่าจะทำให้อาการของโรคกำเริบมากขึ้นทุกคน วันที่ 22/7 ผมและน้องชายพยายามติดต่อหาซื้อยาฟาวิพิราเวีย จากเพื่อนที่อยู่โรงพยาบาลเอกชน แต่ไม่สามารถหาซื้อได้เลย ทุกโรงพยาบาลยืนยันว่าการจะจ่ายยา ต้องสั่งโดยหมอ infectious และต้องมีใบตรวจด้วย RT PCR ของแต่ละคนเท่านั้น ผมและน้องชายพยายามติดต่อหาที่ตรวจ RT PCR และ RAT แต่ก็ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับตรวจ ขนาดน้องชายผมเป็น FT โรงพยาบาลเอกชน บอกว่าเป็นญาติและนามสกุลเดียวกัน ก็ยังไม่รับตรวจ และไม่จ่ายยาฟาวิพิราเวียให้ ผมเลยต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆศิริราช ต้องขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือและให้กำลังใจ และช่วยหายาฟาวิพิราเวีย ได้ 3 ชุด เมื่อได้ยามาแล้ว ผมให้อากง และอาม่า กับลูกสาวที่เริ่มมีอาการหายใจเหนื่อยหอบได้ทานยาก่อน เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงและเริ่มมีอาการหนักแล้ว วันที่ 23/7 หลังจากได้ยาฟาวิพิราเวียไป 2 โดส อาม่าและลูกสาวที่อาการหนักที่สุด อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คุยได้มากขึ้นไอน้อยลง และต้องขอบคุณเพื่อนๆ ที่ช่วยหายาฟาวิพิราเวียร์ มาให้อีก 3 ชุด และส่ง pulse oximeter มาให้ วัดออกซิเจน อาม่าและลูกสาว ได้ประมาณ 94 ส่วนคนอื่นได้ 96 ยกเว้นเด็ก 2 ขวบ 2 คน วัดได้ 93 แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะนิ้วเด็กหรือเปล่าเลยวัดได้ต่ำกว่าความเป็นจริง แต่อาการเด็กก็เริ่มมีไข้สูงและเริ่มซึมแล้ว แนะนำให้ทานยาลดไข้พาราเซต และเช็ดตัวบ่อยๆ และวางแผนว่าถ้าวันที่ 24/7 อาการแย่ลง จะแบ่งยาฟาวิพิราเวียของลูกสาวคนที่ไม่มีอาการ มาให้เด็กทั้ง 2 คน แต่โชคดีที่ เมื่อวานนี้ไข้เริ่มลด และเด็กอาการดีขึ้น วันที่ 25/7 ทุกคนในครอบครัวอาการดีขึ้นแล้ว แต่จมูกยังไม่ได้กลิ่น วัดออกซิเจน ได้ 98 ทุกคน สรุป 1. ยาฟาวิพิราเวีย จำเป็นมากสำหรับการรักษาตัวเองที่บ้าน และต้องรีบให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้อาการหนัก 2. สำคัญที่สุดในการดูแลรักษาทางไกลคือ การให้กำลังใจ เพราะคนไข้จะวิตกกังวลมาก กลัวตาย กลัวไปทุกเรื่อง ผมโทรไปถามอาการและชวนพูดคุยบ่อยมาก ทุก 2-3 ชั่วโมง 3. ควรจะต้องมียาลดไข้ ยาแก้ไอ และฟ้าทะลายโจร ติดบ้านไว้ 4. ตอนนี้โควิดมันแพร่กระจายไปทั่วแล้ว แม้แต่อยู่แต่ในบ้านยังติดโควิดได้ ครอบครัวนี้อากงอาม่าและลูกสาว 2 คนอยู่แต่ในบ้าน มีแต่ลูกชายและลูกสะใภ้ที่ทำงานนอกบ้าน แต่อากงติดเชื้อเป็นคนแรกเลย ยังไม่รู้ว่าติดได้อย่างไร ยิ่งทำให้สงสัยว่าน่าจะติดจาก airborne 5. ให้ทานน้ำเยอะๆ ผมสั่งให้กินน้ำอย่างน้อยวันละ 3 ลิตร และทุกครั้งที่โทรไปจะกระตุ้นให้กินน้ำเยอะๆ เพื่อช่วยเรื่อง hydration 6. ผมให้คนไข้ทุกคน วัดไข้ จับชีพจร และนับการหายใจทุก 1 ชั่วโมง บันทึกไว้ วัตถุประสงค์เพื่อให้คนไข้ได้รู้จักสังเกตุอาการตนเอง ต่อมาเมื่อมี pulse oximeter ผมก็เปลี่ยนมาให้ทุกคนบันทึก ออกซิเจนและชีพจร ของตนเอง ทุก 1 ชั่วโมง เพื่อที่เราจะได้ให้คนไข้ได้รู้การเปลี่ยนแปลงของตนเอง และช่วยให้ผมที่เป็นหมอสามารถที่จะมาประเมินทบทวนอาการของคนไข้ย้อนหลังได้ 7. ในกรณีเลวร้ายสุดๆ คือยาฟาวิพิราเวียไม่ได้ผล และคนไข้เริ่มมีอาการปอดอักเสบชัดเจน ผมจะไม่พยายามไปหาออกซิเจนมาให้ เพราะรู้ว่าไม่ได้ผล มีแต่จะทำให้คนไข้ทรมานมากขึ้น เพราะคนไข้ที่ปอดอักเสบรุนแรง ต้องใส่ท่อช่วยหายใจและใช้เครื่องช่วยหายใจ หรืออย่างน้อยก็ต้องเป็น high flow oxygen แต่ผมจะทดลองให้การรักษา ด้วยวิธีการที่ยังไม่เคยมีใครทดลองมาก่อน แต่อาจจะได้ผลสามารถยื้อชีวิตผู้ป่วยได้ ซึ่งถ้าเพื่อนๆมีญาติหรือคนในครอบครัวที่เริ่มมีปอดอักเสบและไม่สามารถหาเตียงในไอซียูได้ หลังไมค์มาคุยกันนะครับ ยินดีแชร์ให้ฟังครับ แล้วเพื่อนๆให้คนไข้ตัดสินใจเองว่าจะทดลองรักษาตัวตามสูตรของผมหรือไม่ 8. ตอนนี้การติดเชื้อแพร่ระบาดเข้าไปในครัวเรือนแล้ว เมื่อพบผู้ติดเชื้อ 1 คน สมาชิกในครอบครัวจะติดเชื้อไปแล้วทุกคน ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุข ต้องยกเลิกกฎที่บังคับให้ต้องมีผลตรวจ RT PCR ทุกคนถึงจะรับลงทะเบียนเข้าระบบ ควรจะใช้แค่ผลการตรวจ rapid test และกระทรวงสาธารณสุข ต้องมีหน้าทีจัดหาชุดตรวจ ATK ส่งไปให้คนในครอบครัวผู้ป่วยทุกคน เพื่อที่จะรีบตรวจและคัดกรองผู้ติดเชื้อ ไม่ใช่ผลักภาระให้ผู้ป่วยทุกคน ไม่ว่าเด็กหรือคนแก่ต้องไปดิ้นรน หาที่จองคิวตรวจด้วยตัวเอง และก็เอาเชื้อไปแพร่ให้คนรอบข้าง แบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ 9. ครอบครัวนี้น่าจะเริ่มติดเชื้อวันที่ 12/7/64 จนกระทั่งวันนี้ (25/7/64) ก็ยังไม่สามารถที่จะเข้าถึงการตรวจด้วย RT PCR และไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด 10. ช่วยกันเรียกร้องกดดันให้กระทรวงสาธารณสุข ยกเลิกระเบียบคำสั่งที่การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ติดเชื้อต้องมีผลการตรวจยืนยันด้วย RT PCR เท่านั้น ในสถานการณ์ปัจจุบันที่การระบาดอย่างหนัก ควรจะยืนยันด้วยผลการตรวจ ATK ก็น่าจะเพียงพอแล้ว และต้องเป็นหน้าที่ของสธ. สปสช. ที่ต้องจัดหาและจัดส่งชุดตรวจ ATK ไปให้ครอบครัวของผู้ติดเชื้อ เพื่อที่จะคัดกรองหาผู้ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็วทันต่อสถานการณ์ 11. ถ้าคิดว่าโพสนี้เป็นประโยชน์ สามารถแชร์ต่อไปได้ครับ นายแพทย์สุธี ทุวิรัตน์ 25 ก.ค. 2564โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย“กปภ.” แชมป์ข่าวปลอมลวงโลก เตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อนายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึง ผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมวันที่ 31 มี.ค. - 6 เม.ย.ว่า พบข้อความที่เข้ามา 3,156,017 ข้อความ มีข้อความที่ต้องตรวจสอบ (Verify) 195 ข้อความ แบ่งเป็นข้อความที่มาจาก Social listening จำนวน 157 ข้อความ ข้อความที่มาจาก Line Official จำนวน 37 ข้อความ Website จำนวน 1 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องตรวจสอบ 117 เรื่อง ดีอีเอสได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจ เป็น 4 กลุ่ม คือกลุ่มที่ 1 ข่าวปลอมเรื่องนโยบายรัฐบาล 50 เรื่อง กลุ่มที่ 2 ข่าวปลอมเรื่องผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย 47 เรื่อง กลุ่มที่ 3 ข่าวปลอมเรื่องภัยพิบัติ 11 เรื่อง กลุ่มที่ 4 ข่าวปลอมเศรษฐกิจ 9 เรื่อง ทั้งนี้ จากการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบล่าสุดได้รับผลการตรวจสอบ 62 เรื่อง อยู่ระหว่างประสานงาน 49 เรื่อง จึงอยากเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ ข่าวปลอมที่มีคนสนใจสูงสุด 10 อันดับมีอาทิ อันดับที่ 1 : เจ้าหน้าที่การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ติดต่อขอเลขบัญชีธนาคาร เพื่อคืนเงินค่าน้ำประปาเกิน อันดับที่ 2 : ผลิตภัณฑ์ L’ebss Ampoule Skin booster ใช้ฉีดใบหน้า อันดับที่ 3 : โทรศัพท์มือถือส่งผลต่อคลื่นสมอง ทำให้ก่อนนอนไม่สงบ หลับยาก อันดับที่ 4 :กฟภ.ส่ง SMS ให้ประชาชนตรวจสอบสิทธิการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า อันดับที่ 5 : เหงื่อซึมออกจากมือ แสดงว่ามีปัญหาทางหัวใจ อันดับที่ 6 : สปสช.ส่ง SMS แจ้งอัปเดตข้อมูลบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า อันดับที่ 7 : กรมการจัดหางาน รับสมัครผู้ช่วยโปรโมตวิดีโอและสินค้า อันดับที่8:บางจาก และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดลงทุนซื้อกองทุนรวมหุ้น PCL เพียง 1,056 บาท รับปันผล 29%.std46402• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วันกรณีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มที่ระบุสรรพคุณว่า หากทาสามารถช่วยทำให้จมูกโด่งภายใน 7 วัน ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ไม่มีครีมหรือเซรั่มใดที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกโด่งภายใน 7 วัน ได้จริง เนื่องจากครีมหรือเซรั่มเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใดๆ ของร่างกายได้ วันนี้ (24 ธ.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการโฆษณาทางสื่อโซเชียลเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วัน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มที่ระบุสรรพคุณว่า หากทาสามารถช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าไม่มีครีมหรือเซรั่มใดที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน ได้จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายนอกเพื่อทำความสะอาด สวยงามแต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ โดยเภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้ให้ข้อมูลว่า โครงสร้างของจมูกประกอบด้วย 2 ส่วน คือ โครงสร้างส่วนด้านบนเป็นกระดูกแข็ง ด้านล่างเป็นกระดูกอ่อน โดยห่อหุ้มด้วยผิวหนังและไขมัน ดังนั้นครีมที่ทำให้ดั้งโด่งจึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระดูก ส่งผลให้จมูกโด่งอย่างแน่นอน ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับภายนอกร่างกายของมนุษย์ รวมถึงฟันและเยื่อบุในช่องปาก เพื่อความสะอาด ความสวยงาม แต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ การโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ทำให้ดั้งโด่งได้อย่างรวดเร็วภายใน 7 วัน ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณที่โกหก เพราะครีมหรือเซรั่มเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ผลิตหรือขายผลิตภัณฑ์ที่หลอกลวงสรรพคุณให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ถือเป็นการโฆษณาที่แสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือเกินความจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และขอเตือนผู้บริโภคให้คิดก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีการโฆษณาสรรพคุณต่าง ๆ ว่า ไม่มีผลิตภัณฑ์ใดสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของร่างกายได้ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th และหากพบเห็นการโฆษณาโอ้อวดเกินจริงขอให้แจ้งร้องเรียนมาที่สายด่วน อย. 1556 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ไม่มีครีมหรือเซรั่มใดที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน ได้จริง เนื่องจากครีมหรือเซรั่มเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ความสวยความงามผู้บริโภคเฝ้าระวังstd46432• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยปู่ฤาษีอุดร วิดีโอคอลขอโทษสาว ยอมรับผิดทุกอย่าง จากนี้ขอเดินสายขาว7 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี น.ส.นิ (นามสมมติ) ชาว จ.อุดรธานี แจ้งความดำเนินคดีกับ ปู่ฤาษีอุดร มหามุณีชัยภักดี หรือ นายวีระยุทธ ชัยภักดี อายุ 36 ปี ชาว จ.อุดรธานี ที่อ้างตัวเป็นพ่อปู่ฤาษีอุดร หลังจากก่อนหน้านี้ ปู่ฤาษีอุดร ได้ชวนไปทำพิธีมุดถ้ำเปิดขุมทรัพย์รับโชค พร้อมกับพูดคุยผ่านแชตไลน์ ลักษณะคุกคามทางเพศ แต่หญิงสาวไม่หลงกล พยายามชวนคุยเพื่อเก็บหลักฐานนำมาแจ้งความเอาผิด ซึ่งเมื่อวานนี้ พ่อปู่ฤาษีอุดร ไปออกรายการทีวีรายการดังขอโทษผู้เสียหาย และผู้ที่ตัวเองพาดพิงว่าเป็นลูกศิษย์ดารา ล่าสุดเวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักของ พ่อปู่ฤาษีอุดรอีกครั้ง พบแม่และพ่อปู่ฤาษีอุดรนั่งอยู่ในอาศรม โดยบอกว่า มาถึงบ้านตั้งแต่เมื่อคืน โดยพ่อปู่ดูท่าทางเหนื่อยจากการเดินทาง โดยพ่อปู่ฤาษีบอกว่า ตนเองยอมรับผิดทั้งหมดแล้ว วันนี้จะเดินทางไป สภ.โนนสูง ถอนแจ้งความน้องนิ จะไม่เอาเรื่องเอาราว และไม่อยากให้น้องนิเอาเรื่องด้วย จากนั้น พ่อปู่ฤาษี ได้วิดีโอคอลขอโทษน้องนิว่า "ขอขมาลาโทษที่ทำผิด ต้องขอน้องนิ ยอมรับว่ากระทำผิดไปจริง การทำผิดนั้นยอมรับว่าไม่มีสติ ต่อไปเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก จากนี้สัญญาจะไม่มีการกระทำแบบนี้อีกแล้ว ขอให้อโหสิ หากน้องนิจะไม่อโหสิ หรืออโหสิ ในฐานะตนขอขมาลาโทษในการกระทำที่ล่วงเกินไปในครั้งนี้" ขณะที่น้องนิได้แต่มองหน้าและไม่พูดอะไรstd47990• 2 ปีที่แล้ว
- 7 คนสงสัย‘อนามัยโลก’ ปลด ‘โควิด’ พ้นสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ ‘ข่าวปลอม’ ยังคงถูกแชร์1) “พยาบาลศิริราชส่งไลน์มาค่ะ ด่วน ด่วน ด่วน อ.หมอประสิทธิ์ ออกประกาศให้ประชาชนปิดพื้นที่ (lockdown) ครอบครัวของตนเอง ไวรัสระบาดหนัก หมอจะเอาไม่อยู่แล้ว อ่านแล้วส่งต่อออกไปกันมากๆ หน่อย เหตุเกิดที่มีนบุรี น่าจะเป็นสายพันธุ์แลมบ์ดา กำลังระบาด อาการไอเป็นเลือดแล้วเสียชีวิตแล้ว มีเพื่อนกี่คน มีกลุ่มไลน์กี่กลุ่มส่งไปให้หมดเลยนะคะ ช่วยกันเพื่อตัวเราเองและเพื่อนร่วมโลก” (2) “* ประกาศ **ด่วนที่สุดและสำคัญมาก!!!! คุณหมอที่โรงพยาบาลรามา แนะนำว่า ต่อไปนี้ออกจากบ้านต้องสวมหน้ากากซ้อนกัน 2 ชั้นให้แนบสนิท ทุกครั้งที่ออกจากบ้านเลยนะ และห้ามถอดออกเด็ดขาด อาจารย์บอกว่า ยอดคนที่ติดเชื้อแล้วแต่ไม่ออกอาการ ไม่น่าเชื่อว่า..จะมีจำนวนสูงมากขนาดนี้ หมอบอกว่า มันน่ากลัวแล้วล่ะทีนี้ เวลาเราเดินสวนกับคนอื่นๆ ที่ไม่ออกอาการ สามารถเจอได้ทั่วไป ตามห้าง ตลาด ท้องถนน อาคารสำนักงาน รถโดยสาร โดยที่เราไม่ทันระวังตัว เพราะด้วยความไม่รู้หรือประมาท คิดว่าไม่เป็นไรหรอก ‘คุณคิดผิด‘ จะบอกว่าไม่จำเป็นอย่าไปพบปะกับใครนอกบ้าน ห้ามคนนอกครอบครัวเข้ามาในบ้านเราเด็ดขาด อันนี้ขอเลย ไม่ต้องนัดให้ใครมาหาที่บ้าน ระบบของโรงพยาบาลที่ช่วยเหลือโควิด มันแน่นและแทบจะทะลักอยู่แล้ว ถ้าทุกคนไม่ให้ความร่วมมือตามคำแนะนำ จะเกิดความสูญเสียที่มหาศาลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ต้องร่วมใจกัน สถานการณ์ตอนนี้มันหนักขึ้นกว่าเดิม” (3) “###คำแนะนำในโรงพยาบาลกักกัน (เราสามารถนำไปใช้ที่บ้านได้) ยาที่ดำเนินการในโรงพยาบาลกักกัน 1.วิตามินซี –1000 2.วิตามินอี (E) 3.เวลา 10.00-11.00 น. นั่งตากแดด 15-20 นาที 4.อาหารไข่วันละครั้ง 5.พักผ่อน/นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง 6.ทุกวันเราดื่มน้ำ 1.5 ลิตร 7.อาหารทุกมื้อต้องทานแบบร้อน (ไม่เย็น) นี่คือสิ่งที่เราทำในโรงพยาบาลเพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน” (4) “โปรดทราบว่า ค่าความเป็นด่างหรือค่า pH ของ COVID-19 อยู่ระหว่าง 5.5-8.5 ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำเพื่อกำจดไวรัส คือการกินอาหารที่มีฤทธิ์เป็นด่าง และเป็นกรดมากกว่าโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เช่น สัปปะรด มะนาวเขียว มะนาวเหลือง ส้มโอ ส้ม มังคุด มะปราง” (5) “คุณรู้ได้อย่างไรว่าคุณติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่? 1.คันคอ 2.คอแห้ง 3.อาการไอแห้ง 4.อุณหภูมิร่างกายสูง 5.หายใจถี่ 6.การสูญเสียกลิ่น ก่อนที่ไวรัสจะติดเชื้อในปอด น้ำอุ่นผสมมะนาวสามารถกำจัดไวรัสได้”โควิด 2019std47964• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! กฎใหม่เงินบำนาญสมาชิกรัฐสภารับสูงสุด 79,492 บาทตามที่มีการแชร์ข้อมูลเรื่องกฎใหม่เงินบำนาญสมาชิกรัฐสภารับสูงสุด 79,492 บาท ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีมีภาพข้อมูลถูกเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ว่า “ข้าราชการผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา” ต้องมีอายุราชการนาน 25 ปี ถึงมีสิทธิ์ได้รับบำนาญ แต่ ส.ส. รวมกันออกกฎหมายให้สิทธิ์ ส.ส. ให้ได้รับเงินบำนาญ ตามระยะเวลาการเป็น ส.ส. ดังนี้ 2 ปีรับบำนาญ 22,712 บาท, 3 ปีรับบำนาญ 34,068 บาท, 7 ปี รับบำนาญ 45,424 บาท, 11 ปี รับบำนาญ 58,280 บาท, 15 ปี รับบำนาญ 64,136 บาท, 20 ปี รับบำนาญ 79,492 บาท ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลเงินบำนาญข้าราชการ ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงว่า สิทธิประโยชน์ในการรับเงินทุนเลี้ยงชีพของผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภานั้น เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาว่าด้วยการบริหารค่าใช้จ่าย ในการดำเนินงานการรับเงิน การเก็บรักษาเงิน การอนุมัติการเบิกจ่ายเงิน การจ่ายเงินการจัดหาผลประโยชน์ และการจ่ายเงินช่วยเหลือกองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 โดยระเบียบดังกล่าว กำหนดการรับเงินทุนเลี้ยงชีพของผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา กำหนดให้ได้รับเป็นรายเดือนตามเกณฑ์ที่กำหนดโดยไม่ได้รับตลอดชีพ แต่ให้ได้รับเป็นระยะเวลา 2 เท่าของเวลาสำหรับคำนวณเงินทุนเลี้ยงชีพstd46343• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยมอเตอร์เวย์สาย 7 - สาย 9 ใช้ฟรี วันที่ 4-7 กย. จริงหรือวันที่ 4-7 กันยายน 2563 เป็นวันหยุดชดเชยวันสงกรานต์ ทาง ครม. มีมติให้มีการยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางการใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ในช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้การจราจรมีความคล่องตัวประชาชนสามารถเดินทาง ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นรวมทั้งเป็นการลดการใช้พลังงานของประเทศอันเนื่องมาจากการจราจรติดขัดหน้าด่าน และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน จริงหรือคะanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยททท.ภูเก็ตแจกคูปอง 1 พันบาท 500 ใบ แก่ผู้ขับรถมาเที่ยวแบบครอบครัว จริงหรือคะททท.สำนักงานภูเก็ต จัดโครงการ Drive Thru Phuket มอบคูปองเงินสด 1 พันบาท 500 ใบ แก่ผู้เดินทางรถยนต์เข้ามาท่องเที่ยวแบบครอบครัว New Normal ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป และเข้าพักในโรงแรมที่เสนอขายในเว็บไซต์ www.phuketgreattime.com เพื่อนำไปใช้จ่ายแทนเงินสดกับร้านค้าและ/หรือร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ Drive Thru Phuket ระหว่างวันที่ 7 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2563 โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนรับคูปองเงินสดในรูปแบบ E-Coupon ผ่านทาง Line Official Account : @tatphuket ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไปโควิด 2019anonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสังเกตุตัวเองด้วยนะคะ สัญญาณ Covid-19 สรุปจาก สธ น่าจะช่วยกันได้บ้าง อาการวันต่อวัน วันที่ 1-3 1. คล้ายหวัด 2. ปวดในคอเล็กน้อย 3. ไม่มีไข้ ไม่เหนื่อย 4. กิน/ดื่มปกติ วันที่ 4 1. เจ็บคอเล็กน้อย 2. พูดเริ่มเจ็บในคอ 3. ไข้ดูปกติ 36.5°C 4. รบกวนกับการกิน 5. ปวดหัวเล็กน้อย 6. ท้องเสียออ่อนๆ 7. รู้สึกเหมือนเมา วันที่ 5 1. ปวดในคอ พูด_เจ็บ 2. อ่อนเพลียเล็กน้อย 3. ปรอทไข้ 36.5° -36.7°C 3. อ่อนเพลีย ปวดข้อต่อ วันที่ 6 1. ปรอทไข้ 37 ° C+ 2. ไอแห้ง 3. ปวดคอขณะกิน/พูด 4. อ่อนเพลีย คลื่นไส้ 5. หายใจลำบากเป็นครั้งคราว 6. นิ้วรู้สึกเจ็บปวด 7. ท้องร่วง อาเจียน วันที่ 7 1. มีไข้ 37.4° -37.8°C 2. ไอต่อเนื่อง มีเสมหะ 3. ปวดร่างกาย/ศีรษะ 4. ท้องร่วงมาก 5. อาเจียน วันที่ 8 1. ไข้ 38°C+++ 2. หายใจลำบาก 3. ไอต่อเนื่อง 4. ปวดหัว ข้อต่อ กล้ามเนื้อ 5. ง่อยและปวดก้น วันที่ 9 1. ไม่ดีขึ้น และแย่ลง 2. ไข้สูงมาก 3. อาการทรุดลงมาก 4. ต้องต่อสู้เพื่อหายใจ อาการในวันที่ 9 ต้องตรวจเลือด CT Scan ทรวงอก เพื่อประโยชน์ร่วมกัน แชร์ต่อนะคะ ขอขอบคุณค่ะโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยอย.เตือน ครีมขาวใสใน 3 วัน ส่วนผสมทองคำ โฆษณาเกินจริง ชี้โทษติดคุกถึง 1 ปีโพสต์ขาย หัวเชื้อผิวขาว โดยมีรูป เน็ตไอดอลสาวชื่อดังถือขวดผลิตภัณฑ์ พร้อมมีข้อความอวดอ้างสรรพคุณว่าผิวขาวขึ้นแน่นอนภายใน 3-7 วันในรูปเปลี่ยนผิวดำด้านเป็นผิวขาว ยิ่งใช้หลายขวดยิ่งขาวมากขึ้นคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่าหัวเชื้อผิวขาวตัวดังกล่าวจากการตรวจสอบพบว่ามีความผิดเข้าข่ายการโฆษณาเกินจริงและที่มีข้อความว่าสามารถขาวขึ้นได้ภายใน 3 วัน หรือ 7 วัน ถือว่าเป็นการโฆษณาเกินจริงอย่างแน่นอนเนื่องจากปกติแล้วไม่สามารถยับยั้งหรือเปลี่ยนแปลงการผลิต เม็ดสีเมลานิน จึงไม่สามารถทําให้สีผิวเกิดการเปลี่ยนแปลงได้std46588• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย7 ข้อเลี่ยง ลดเสี่ยงมะเร็ง7 ข้อเลี่ยง ลดเสี่ยงมะเร็ง 1. เลี่ยงการอยู่กลางแดดจ้า 2. เลี่ยงบุหรี่ แอลกอฮอล์ 3. เลี่ยงอาหารรสจัด หมักดอง 4. เลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีมลพิษ ฝุ่น ควัน 5. เลี่ยงอาหารสดหรืออาหารแปรรูปที่ใส่ดินประสิวหรือสารกันเสีย 6. เลี่ยงอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ 7. เลี่ยงอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ปิ้ง ย่าง ทอดไหม้ กรมอนามัย ส่งเสริมให้คนไทยสุขภาพดี https://www.facebook.com/anamaidohมะเร็งMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย7-Eleven ขายแบรนด์เนมออนไลน์ จริงหรือไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ รัฐบาล จัดเก็บอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็น 10 %นายกจะจัดเก็บภาษีเพิ่มจาก 7% เป็น 10%ลดความอ้วนnaydoitall• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเปิดโผ 7 "ทางด่วน - มอเตอร์เวย์" ผ่านฟรีช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566เปิดโผ 7 "ทางด่วน - มอเตอร์เวย์" ผ่านฟรีช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566Mrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเกิดเหตุระเบิดร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรถยนต์ อายุเกิน 7 ปี จักรยานยนต์ 5 ปี จ่ายภาษีออนไลน์ได้รถยนต์ อายุเกิน 7 ปี จักรยานยนต์ 5 ปี จ่ายภาษีออนไลน์ได้Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผลิตภัณฑ์ Harina Bio ช่วยกระตุ้นให้ผมหนา ดกดำภายใน 7 วันความสวยความงามอย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 6 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยประกาศจัดตั้งจังหวัดใหม่เพิ่มอีก 7 จังหวัด ทำให้ประเทศไทยมี 84 จังหวัดไม่ระบุชื่อ• 9 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ สรยุทธ เตรียมร่วมงานกับช่อง 7 หลังได้รับการปล่อยตัวสรยุทธ เตรียมร่วมงานกับช่อง 7 หลังได้รับการปล่อยตัวnaydoitall• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดรักษาตัวตามรพ.ต่างๆในเขตชลบุรี และยอดยังไม่หยุดนิ่งน่ะคับ 😷😷😷😷😷😷 #ระมัดระวังให้มากๆน่ะคับ ยกระดับชลบุรีเป็นพื้นที่สีแดงแล้วคับ #แก้ไขข้อมูลแร้วน่ะคับ ⛔️⛔️⛔️⛔️⛔️⛔️⛔️⛔️ รพ.ชลบุรี 6 ราย รพ.สมิติเวช ศรีราชา 9 ราย รพ.สมเด็จ ณ ศรีราชา 7 ราย รพ.กรุงเทพพัทยา 7 ราย รพ.พยาไท ศรีราชา 5 ราย รพ.บางละมุง 4 ราย รพ.ค่าบนวมินทราชินี 4 ราย รพ.วิภารามอมตะ 3 ราย รพ.บ้านบึง 3 ราย รพ.พานทอง 3 ราย รพ.เอกชล1 2 ราย รพ.เมืองพัทยา 2 ราย รพ.พัทยาเมโมเรียล 2 ราย รพ.เอกชล2 1 ราย รพ.พนัส 1 ราย รพ.สมิติเวช ชลบุรี 1 รายโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยจริงหรือ มอเตอร์เวย์สาย 7 ส่วนต่อขยายพัทยา-มาบตาพุด เปิดให้บริการใช้ฟรีถึงเดือนสิงหาคม 2563ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ส่วนต่อขยายช่วงพัทยา-มาบตาพุด พร้อมเปิดทดลองให้ประชาชนได้ใช้บริการแล้ว โดยผู้ใช้ทางสามารถเข้ามาใช้บริการได้ 2 ทาง คือ วิ่งต่อเนื่องจากทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ช่วงชลบุรี – พัทยา ที่บริเวณทางแยกต่างระดับมาบประชัน หรือเข้าจากทางหลวงหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิท ที่ด่านอู่ตะเภา ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2563 เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2563 โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง ซึ่งแสดงถึงความสำเร็จของกระทรวงคมนาคมในการผลักดันโครงการต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนnaydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยพระเขมรอายุ 147 ปี กับ หลานสาวรุ่นที่ 7 ช่างเหลือเชื่อนะพระเขมรอายุ 147 ปี กับ หลานสาวรุ่นที่ 7 ช่างเหลือเชื่อนะภาคอีสานMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย"นายกฯ" สั่ง "คมนาคม" ให้ประชาชนขึ้น "รถไฟฟ้า - รถ ขสมก." ฟรี 7 วัน พรุ่งนี้ไม่ระบุชื่อ• 5 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเซรั่มจมูกโด่ง7 วันสร้างดั้งโด่ง บอกลาจมูกแบน มีดั้งได้โดยไม่ต้องศัลยกรรมความสวยความงามzxsr• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ