1543 ข้อความ
- 3 คนสงสัยเบอร์อันตราย บอกญาติๆทางเมืองไทยด้วย เบอร์อันตราย (smartphone)(02-6192332) ถ้าเบอร์ข้างบนนี้โทรมาอย่ารับ เด็ดขาด ถ้ารับมันจะยืนยันการสมัครเป็นสมาชิกของมันทันที จะโทรยกเลิก ก็ทำไม่ได้ ต้องเสียเงินให้มันทุกเดือน โดนหลายรายแล้ว แจ้งไลน์เตือนเพื่อนๆ ด้วยนะ ข่าวจากตำรวจภาค 5ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ กะปิมีประโยชน์ถึง 10 ข้อควรกินเป็นประจำกะปิมี 10 ข้อดีที่ควรกินเป็นประจำ โดยอ้างสรรพคุณ ดังนี้ 1. บำรุงกระดูก 2. บำรุงเลือด 3. ช่วยให้ฟันไม่ผุ 4. มีโอเมก้า 3 5. มีจุลินทรีย์ เสริมภูมิต้านทาน 6. บำรุงสายตา 7. มีวิตามินช่วยทำให้ผ่อนคลาย 8. ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี 9. บำรุงสมอง และ 10. บำรุงหัวใจ ควรกินเป็นประจำเพื่อทำให้สุขภาพแข็งแรงnaydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยมีข่าวว่าเมืองไทยสต๊อคยาต้านโควิดไว้ 5 ชนิด 30กว่าล้านเม็ดจริงหรือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่แม้ปัจจุบันจะมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่หากวิกฤตนี้กลับมาอีกครั้ง ยาในบ้านเราจะมีมากพอต่อการดูแลผู้ป่วยหรือไม่...เรื่องนี้ขอให้ทุกคนวางใจได้ เพราะตอนนี้องค์การเภสัชกรรมได้เพิ่มกำลังการผลิตยาสำคัญที่ใช้ต้านโรคโควิด-19 เพื่อสำรองให้เพียงพอ และจะไม่กระทบต่อผู้ป่วยที่ใช้ยาเหล่านี้อยู่เดิม จำนวน 5 รายการโควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยบ้านไหนติดตั้งมิเตอร์ไฟเกิน 5 แอมป์ อย่าเพิ่งจ่ายค่าไฟเดือนเมษา จริงหรือขณะนี้มีการแชร์ข่าวว่ายังไม่ต้องจ่ายค่าไฟเดือนเมษายน 2563 ถ้าบ้านไหนติดมิเตอร์ไฟเกิน 5 แอมป์ เพราะว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะทำการปรับปรุงค่าไฟฟ้าตามมติคณะรัฐมนตรี โดยจะสามารถชำระค่าไฟฟ้าได้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้หากผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มดังกล่าวได้ชำระค่าไฟฟ้าไปแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะดำเนินการคืนค่าไฟฟ้าให้ในภายหลังanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโพสต์นี้เขียนขึ้นตอนเช้าเพราะผมรู้ว่าคุณยังพอมีเวลาอ่าน เขียนขึ้นโดยจะไม่มีการตั้งคำถามใด ๆ หรือต่อว่าใครทั้งสิ้นแล้ว (*ไม่ต้องเอาไปเป็นข่าวนะครับ) แต่เขียนขึ้นเพื่อ "เตือน" ย้ำให้หนักแน่นอีกครั้งหลังผมฟังข้อมูลสำคัญจาก WHO ผ่านทาง TNN 1. ทั่วโลกตายจาก COVID19 เกิน 3 ล้านคนแล้ว ...ล้านคนแรกตายภายใน 5 เดือนแรกที่ระบาด ... ล้านที่ 2 ตายภายใน 4 เดือน และ "ล้านที่ 3" ใช้เวลาทำสถิติอันหดหู่นี้เพียง 3 เดือน ...หมายความว่า "เชื้อมันเร่งการทำลายล้าง" แล้วล่ะ... 2. เชื้อที่กลายพันธุ์ทวีความรุนแรง มีหลายแหล่งที่มา (ตามภาพ) เขาตั้งชื่อเชื้อ ชื่อรหัสไว้หมดแล้ว โดยทั้งหมดเรายังไม่ได้แต่งตั้งว่าเป็นสายพันธุ์ไทย หรือสายพันธุ์วีไอพีไหน ? ...แต่ที่แน่ ๆ เชื้อเข้าร่างกายคนไม่เลือกหน้า ไม่เลือกชื่อชั้น ตำแหน่ง ฐานะ ยากดี มีจน มันโจมตีได้หมด ...หมอ-พยาบาลขนาดระวังตัวมาก ๆ ก็ติดได้ หากหน้ากาก Leak ใส่ไม่ดี ขยับปากพูดมาก ๆ ไหวกายไปมา มันย่อมพลาดได้ 3. เชื้อที่พัฒนามาระลอกนี้มันดันคร่าคนหนุ่มสาวได้ อายุ 20, 30 หรือ 40 ปี ก็มีรายงานการตายออกมาแล้ว (ซึ่งจำนวนตายนี่จริงแท้แน่ เพราะต้องออกใบมรณะบัตร) ฉะนั้นจากความมั่นใจที่เคยมีที่ว่า COVID19 คร่าแต่คนแก่ คนชรา ...ไม่ใช่แล้วนะ ถ้าคุณอ่อนแอ อ้วน นอนน้อย โรครุมเร้า เป็นโรคแนว NCD อยู่แล้ว (โรคไม่ติดต่อแต่เป็นโรคแนว 'ทำเอง' ทั้งหลาย 80% มาจากพฤติกรรม ...ไป Search เอา) ...คุณมีโอกาสม่องเท่ง 4. ผลการศึกษาจากต่างประเทศชี้ว่าบุคคลที่มีกรุ๊ปเลือด A ติดโควิดง่ายกว่ากรุ๊ปอื่น แต่ผู้ป่วยทั้งหมดในเวลานี้ก็มีเลือดคละกันทุกกรุ๊ป ยังไม่มีรายงานว่ากรุ๊ปไหนป่วยมากกว่าใคร ...มีแต่รายงานจากอังกฤษว่าที่ป่วยแล้วตายส่วนมากคือกลุ่มผู้นอนน้อย มีนิสัยการนอนต่ำกว่า 8 ชั่วโมงมาเป็นเวลานาน ... ติดปุ๊ปเชื้อลงปอดไวกว่า ภูมิต้านทานต่ำล่ะว่าง่าย ๆ 5. โลกยังไม่มียารักษาโควิดโดยตรง (มีแต่ยาต้านไวรัสที่ชื่อว่า ‘ฟาวิพิราเวียร์’ แต่ก็ไม่ใช่ไวรัสโคโรน่าโดยตรง) เครื่องมือที่ดีที่สุดทางการแพทย์ ณ เวลานี้คือ "การฉีดวัคซีน" ... ไทยเรามีสัญญาณอัตราเร่งแล้ว ...40 เอกชนรวมตัวกันในนามหอการค้าจะให้พื้นที่รัฐมาเปิดบริการระดมฉีดแบบปูพรม (แบบอเมริกาที่ฉีดได้เร็วมาก 200 ล้านโดสแล้วและเหลือพอต่อทุก ๆ คนที่เข้าประเทศ ฉีดในห้างยา-ร้านรวงเลย ฉีดได้โดยไม่ต้องจอง *มีไลฟ์ของ beartai แบไต๋ ที่ผมจัดไปแล้ว บ้านเรากำลังจะลงทะเบียนกันอีกแล๊ะ 1 พค.นี้กับแอปตัวใหม่ให้คนไทยงงกันอีกครั้งด้วยนาาาา.. เอ้อ~ไม่เอา ๆ ไม่ว่า ๆ โพสต์นี้ไม่ต้องการจะว่าใคร *แค่จะเตือน) แต่การฉีดวัคซีนที่จะเริ่มเห็นผลแบบสงครามสงบได้ ต้องครอบคลุมให้มากกว่า 25% ของจำนวนประชากร ขณะนี้เรายังไปได้แค่ 1.4% (หากคุณไม่ได้อ่านโพสต์นี้ในวันที่ 28 เมษายน ให้ไปดูรายงานสด ๆ ได้จาก https://ourworldindata.org/covid-vaccinations ) วัคซีนทุกตัวมีรายงานผลข้างเคียงที่อาจเกิดทั้งสิ้น เรียกง่าย ๆ มีความเสี่ยงทุกตัว แต่น้อยมากกับเคสที่เกิดเมื่อเทียบกับจำนวนคนที่ฉีด ...ฉะนั้นฉีดเถอะเมื่อมันมาถึงคิวคุณ การดื้อดึงไม่เป็นผลดีเพราะคิวจะรวน แถวจะแกว่ง สังคมสับสน ~$#%&£€×¥ ฉีดครบ โลกก็กลับมาไหวกายกันได้ไว ...*และ In Case ว่าคุณไม่ยอมฉีด คุณก็เสี่ยงติด Covid อยู่ดี เพราะเชื้อไม่ได้หายไป มันยังล่องลอยอยู่ในโลก ...โลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วทำใจยอมรับซะ ...ความเสี่ยงติดโควิดแล้วตายมีมากกว่าความเสี่ยงในการฉีดแล้วตาย ...ย้อนกลับไปอ่านอัตราเร่งในข้อ 1 ได้นะ สรุป... ทุกวันนี้ให้ทำอย่างไร ? - ออกจากบ้านให้น้อย ล้างมือบ่อย ๆ - สวมหน้ากาก 100% เต็มเมื่อออกนอกชานบ้านหรือมีคนมาหา - รักษาระยะห่าง : อย่าเกรงใจกัน หากกลัวเขามองว่าคุณไม่ไว้ใจเขา ให้เราชิงพูดก่อนเลย "อย่าเข้ามา!! เพราะฉันยังไม่มั่นใจตัวเองเล๊ย~" ... *เมื่อวานผมผ่าน RCA บล็อก D บริษัทอะไรซักอย่างจัดคัดเลือกคน คนตรึมเลย มามุงกันอย่างใกล้ชิด โถ หนุ่มน้อยสาวน้อยทั้งหลาย นาทีนี้ถ้าบริษัทที่คุณทำงานด้วยเขายังไม่มีวิธีป้องกันหรือแสดงออกในการปกป้องคุณ ให้คุณพิจารณางานใหม่เถอะ งานยังมีเยอะแยะ เอกชนยังไม่หยุดจ้างงาน ล็อกดาวน์ก็ไม่กลัวนะเอาจริง ๆ แต่ทั้งนี้ผมก็เชื่อนะว่า การใส่หน้ากากอย่างมิดชิดจริง ๆ (ทับ 2 ชั้นด้วยหลักคิด : หน้ากากอนามัยปิดชั้นแรกแล้วตามด้วยหน้ากากผ้าเพื่อรัดแน่น ไม่ให้ลมหายใจ Leak ออกมา *เช็กได้ด้วยการเป่าปาก หากลมรั่วจะรู้) สามารถบุกตะลุยไปไหนต่อไหนได้เท่าที่จำเป็น ...แล้วผมก็ "เชื่อ" อีกนะว่า ถึงเราจะเผลอสูดไวรัสโคโรน่าเข้าตัวมาแล้ว แต่หากเรา Keep ความแข็งแรงไว้กะร่าง ร่างกายเราจะต่อสู้กับมันได้ ยามว่าง อย่าเอาเวลาไปมัวกิน ให้ยึดหลักสร้างภูมิต้านทานในยามมีศึกสงคราม - ออกกำลังกายในบ้านในแบบที่ทำได้ ทำจำนวนครั้งจนกว่าจะไม่ไหว อย่าปล่อยให้กล้ามเนื้อเหลว ทำให้มันแข็งเข้าไว้ ด้วยการสร้างแรงต้าน - ตัดหวาน เลิกกินน้ำตาล ซึ่งกดภูมิต้านทาน จำไว้ #Sugarเท่ากับฆ่าเรา - เพิ่มภูมิต้านทานด้วยการออกนอกชานบ้านบ้าง มองไปหาแดด ตากแดด ตอนตากแดดถอดรองเท้าด้วย เสียบปลั๊กร่างกายกับผืนโลกหน่อย.. (เรียก #earthing ไปค้นกูเกิล!) พื้นดินกับแดดนี่ปัจจัยลบเพื่อรบกับโควิดเลยนะ ...เชื้อโคโรน่าไม่ชอบอยู่ในอุณหภูมิเกิน 56 องศา ฉะนั้นดื่มน้ำร้อนบ่อย ๆ จิบไว้ตลอดวัน ...ชาร้อน กาแฟดำร้อน ตามชอบ แต่อย่ากินหวาน (ย้ำ) ความขมที่ถมให้หวานได้นี่บัดซบที่สุดฮะ - ส่วนใครจะกินวิตามินใด อาหารเสริม หรือสมุนไพรใด อันนี้ตามศรัทธาของแต่ละคน ผมไม่กล้าแนะนำ เพราะขนาดน้องเภสัชหน้าตาสวยพริ้ม ยังมีดราม่าได้ ... แต่ผมบอกได้เพียงว่า "อะไรที่เขาอัดเม็ดมาขายคุณได้ *มันมีอยู่แล้วในอาหาร" เพียงแต่คุณต้อง "เลือกกิน อย่ากินไม่เลือก" เราอยู่ในยุคอาหารไม่ปลอดภัย ต้องเลือกความ Raw Material อย่าไปถวิลหาการดัดแปรง แปรรูปมากนัก ...ทุกฉลากมี อ่านเยอะ ๆ ตรงนี้เขาโกหกคุณไม่ได้ แต่เขาแค่เขียนตัวเล็กมาก พยายามมองก่อนเอาเข้าปาก (ไว้ผมจะจัดไลฟ์สอนอ่านอีกที) เอาเท่านี้ก่อน....พอแก่แล้วพิมพ์เยอะชิบเป๋งเลย ...แต่เพราะห่วงใยคุณนะถึงเขียน https://www.facebook.com/nuishow/posts/10157850217666976โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 2 คนสงสัยอย่าเชื่อข้อมูลเท็จ ยืนตากแดดไม่ฆ่าเชื้อโควิดหนึ่งในหลายๆเรื่องเกี่ยวกับการฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการส่งมาให้ cofact.org ตรวจสอบ และพบว่าเป็นข่าวปลอมที่ถูกนำมาแชร์ซ้ำคือประเด็นการยืนตากแดดจะสามารถฆ่าเชื้อได้ 28 มี.ค.2563 เป็นครั้งแรกที่โซเชียลมีเดียมีการแชร์ข้อมูลว่าการยืนตากแดดสามารถช่วยฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ โดยมีคนแสดงความคิดเห็นว่า อยากให้มีการรณรงค์ให้ประชาชนออกมาตากแดดตอนเช้า เพื่อให้แดดฆ่าเชื้อโรคเหมือนนักเรียนสมัยก่อน เพราะเชื่อว่าเชื้อโรคชอบความเย็นมากกว่าความร้อน ซึ่งครั้งนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมายืนยันว่า การยืนตากแดดไม่สามารถช่วยให้ต้านเชื้อโควิด-19 ได้จริง กระทั่ง 13 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา ประเด็นนี้ถูกนำมาแชร์ในโลกออนไลน์อีกครั้งหนึ่ง โดยระบุว่ายืนตากแดด วันละ 20 นาทีช่วยฆ่าเชื้อ โควิด-19 ได้ คราวนี้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ออกมายืนยันอีกรอบว่าประเด็นดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลเท็จ กรมควบคุมโรค ยืนยันว่า กรณีชวนเชื่อเคล็ดลับฆ่าเชื้อโควิด-19 โดยระบุว่าให้แสงแดดชโลมทั่วตัววันละ 20 นาทีทุกวัน (หรือมากที่สุดเท่าที่จะทำได้) แสงแดดจะไปเสริมภูมิคุ้มกันฆ่าเชื้อโควิด-19 ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าการยืนตากแดดนั้นสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ โดยเชื้อไวรัสตระกูลโควิด-19 นั้นสามารถทนทานต่อความร้อนได้ถึง 90 องศา ซึ่งในความเป็นจริงแล้วความร้อนจากแสงแดดนั้น มีความร้อนไม่ถึง 90 องศาแน่นอน แม้จะมีการยืนยันจากกรมควบคุมโรคแล้ว แต่ในเวลาไม่ถึงเดือน วันที่ 5 ม.ค. 2564 ก็มีการนำประเด็นนี้มาแชร์ซ้ำอีกในสื่อโซเชียลมีเดีย ด้วยข้อความเดิมๆว่า ให้ยืนตากแดด วันละ 20 นาทีจะช่วยฆ่าโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้กรมควบคุมโรคให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการแชร์ต่อ โดยระบุว่ามีข้อมูลจากการศึกษาค้นคว้า พบว่าไวรัสชนิดนี้จะตายเมื่อโดนความร้อนที่อุณหภูมิ 56 องศาเซลเซียส เป็นเวลานานต่อเนื่อง 30 นาที ซึ่งแสงแดดไม่สามารถทำให้เกิดความร้อนในระดับนี้ได้ อีกทั้งผิวหนังของมนุษย์ก็ไม่สามารถทนทานต่อความร้อนและแสงแดดได้นานเช่นกัน ดังนั้น การตากแดดหรืออาบแดดจึงไม่สามารถรักษาและฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ โดยความร้อนจากแสงแดดนั้น มีไม่ถึง 90 องศาแน่นอน สรุปการแชร์บนโลกออนไลน์ซ้ำๆ ในประเด็นยืนตากแดด เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เนื่องจาก ไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าการยืนตากแดดนั้นสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ โดยเชื้อไวรัสตระกูลโควิด-19 นั้นสามารถทนทานต่อความร้อนได้ถึง 90 องศา แต่ความร้อนจากแสงแดดนั้นไม่ถึง 90 องศาสุชญา ชูจันทร์• 2 ปีที่แล้ว
- 3 คนสงสัย(warning)ระวัง! ทั้งข้าวหอมและไม่หอม "ยี่ห้อ"ที่ไม่ควรซื้อในช่วงเวล(warning)ระวัง! ทั้งข้าวหอมและไม่หอม "ยี่ห้อ"ที่ไม่ควรซื้อในช่วงเวลานี้เพราะมีอันตรายครับ (Zombie)พิธีกร "คนค้นคน" ช่อง 9 ออกมาเผยข้าวโครงการรับจำนำที่ฉีดพ่นสารเคมีฆ่าหนูตายภายใน 5 นาที แถมซาวข้าวในน้ำแล้วยังล้างไม่ออก กำลังถูกจัดส่งไปแพ็กขายตามบริษัทดังๆ หลังออกมาเผย เพจเข้าไม่ได้ (murdered heart)โรงสีข้าวที่กำลังเตรียมตัวส่งข้าวในสต็อก ออกจำหน่ายให้กับผู้ผลิตรายใหญ่ ได้แก่ *(Zombie)โรงสีข้าวทรัพย์อนันต์ *(Zombie)โรงสีไฟวิญูยโสธร *(Zombie)โรงสีทรัพย์สิรินธร เป็นโรงสีของภาคอีสาน เป็นโรงงานของ สส.(stars)เผาไทย(stars)จะมีสารพิษตกค้าง เพราะสารตัวนี้ไม่สามารถละลายในน้ำได้ เมื่อหนูสัมผัสจะตายภายใน 5 นาที (stunned)ห้ามซื้อ (black star)"ข้าวหอมปทุมธานี" ทุกยี่ห้อ ตอนนี้ข้าวถูกจำหน่ายออกในนามข้าวหอมปทุมธานี เนื่องจากคนกลัวข้าวจากอีสาน(black star) *และสต็อกต่อไปคือ (Broken Heart)ข้าวเสาไห้ยี่ห้อ "เบญจรง" (Broken Heart)ห้ามเด็ดขาด "ข้าวตราฉัตร" ทุกประเภทห้ามทาน เป็นสต็อกจากต้นปีที่แล้วจัดจำหน่าย (grateful)ขอบคุณ นสพ.แนวหน้าข่าวการเมืองภาคอีสานผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยราชาแห่งผลไม้คืออะไร? ถ้าตอบ: ทุเรียน คำตอบ ไม่ถูกต้อง ครับ สิ่งที่คุณอาจไม่รู้ก็คือ PAPAYA ผลไม้เขตร้อนที่ดูต่ำต้อย ซึ่งมีให้บริการตลอดทั้งปีกลายเป็น ราชาแห่งผลไม้ มะละกอ ได้รับการคัดเลือกจาก WHO (องค์การอนามัยโลก) เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันให้เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงสุด เหตุผล ทำไม? นี่คือข้อเท็จจริงบางประการเกี่ยวกับมะละกอ คุณค่าทางโภชนาการของมะละกอมีดังนี้: 1. * แคลเซียม * เป็นสองเท่าของแอปเปิ้ล 2. * วิตามินซี * เป็น 13 เท่าของแอปเปิ้ล 7 เท่าของ กล้วย 7 เท่าของแตงโม 8 เท่าของเชอร์รี่ 1.3 เท่าของสับปะรด 3. * วิตามินเอ * เป็น 10 เท่าของผลไม้กีวี 18 เท่าของแอปเปิ้ล 1.5 เท่าของกล้วย 1.5 เท่าของแตงโม 15 เท่าของเชอร์รี่ และ 16 เท่าของสับปะรด 4. * วิตามินเค * เป็น 5 เท่าของกล้วย 2.5 เท่าของแตงโม และ 4 เท่าของสับปะรด 5. * แคโรทีนอยด์ * ที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องดวงตา ได้แก่ ไลโคปีนเบต้าแคโรทีนลูทีนและซีแซนทีน มีมากกว่าผลไม้กีวี แอปเปิ้ล เชอร์รี่ และสับปะรดถึง 2,000 เท่า (กล้วยและฝรั่งไม่มีส่วนผสมดังกล่าว) แหล่งข้อมูลข้างต้นมาจากกระทรวงเกษตรของ สหรัฐอเมริกา (USDA) 2016 ไม่น่าเชื่อว่ามะละกอเป็นราชาแห่งผลไม้ สุดทึ่ง! “ ส้มตำจงเจริญ” มีที่ก็ปลูกมะละกอกันเถอะ เชื่อผม!ความสวยความงามไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยผงชูรสเป็นอันดับหนึ่งในการก่อมะเร็ง! ตอนนี้คนจีนเป็นโรคมะเร็งสูง! บัญชีดำอาหารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง 1. ผงชูรส (MSG) 2. หมากฝรั่ง 3. ตับหมู 4. ผักดอง หัวไชเท้าแห้ง 5. น้ำผลไม้บรรจุขวด 6. ไข่เยี่ยวม้า 7. เต้าหู้เหม็น 8. ปาท่องโก๋ ส่งต่อให้คนที่คุณห่วงใยมากที่สุดด้วยนะครับมะเร็งผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยคนไม่ฉีดวัคซีนต่อไป จะทำอะไรจะกลายเป็นอุปสรรค กลายเป็นบุคคลต้องห้ามของสังคม 1.ห้ามเข้าห้างฯ 2.ห้ามเข้าตลาด 3.ห้ามเข้าอาคารสถานที่ต่างๆ ที่เป็นแหล่งชุมชน 4.ห้ามเข้าโรงแรม 5.ห้ามขับรถยนต์โดยสาร 6.ห้ามขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างทุกประเภท 7.ห้ามขึ้นเครื่องบิน 8.ห้ามขึ้นรถโดยสาร 9.ห้ามเข้าวัด 10.ห้ามเข้าโรงเรียน 11.ห้ามเข้าปั้มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ ร้านชา-กาแฟ 12.ห้ามเข้าโรงพยาบาล 13.ห้ามเข้าสนามไดร์กอล์ฟ และสนามกอล์ฟ ทุกสนาม ยกเว้นเข้าไปเพื่อฉีดวัคซีน ห้าม......ฯลฯ สรุป..ว่าจะกลายเป็นบุคคลต้องห้ามของสังคมโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย# ด่วน...เขตสายไหม แตกแล้ว น่ากลัวมาก...!!!! 1. หมู่บ้านสายไหมริมชล ซ.สายไหม 85 2. หมู่บ้านลีลาวดี ถ.วัดเกาะ ติดเชื้อทั้งหมู่บ้าน 3. หมู่บ้านรุ่งเรืองเฮ้าส์ แยก 10, 12 ซ.พหลโยธิน 54 4. หมู่บ้านอัมรินทร์ 3 ผัง 4 5. ห้องเช่า ถ.วัชรพล ซ.3 6. หมู่บ้านสราญสิริ ถ.สายไหม 7. หมู่บ้านเอื้ออาทร ถ.สายไหม ซ.33/1 8. หมู่บ้านมนชญา 2 ถ.สายไหม ซ.49 # ไม่จำเป็น คนที่อยู่บริเวณเขตสายไหม พยายามอย่าออกจากบ้าน อันตรายมาก และบุคคลที่ไม่มีความจำเป็น อย่าเข้าไปในเขตสายไหมครับ เพราะไม่รู้ว่าผู้ติดเชื้อเดินทางไปไหนมาบ้างในบริเวณอื่น ในเขตสายไหม...ด้วยความหวังดี..โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยผงชูรสเป็นอันดับหนึ่งในการก่อมะเร็ง! ตอนนี้คนจีนเป็นโรคมะเร็งสูง! บัญชีดำอาหารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง 1. ผงชูรส (MSG) 2. หมากฝรั่ง 3. ตับหมู 4. ผักดอง หัวไชเท้าแห้ง 5. น้ำผลไม้บรรจุขวด 6. ไข่เยี่ยวม้า 7. เต้าหู้เหม็น 8. ปาท่องโก๋ เพื่อสุขภาพของคุณ ส่งต่อ WeChat นี้ให้คนที่คุณห่วงใยมากที่สุด!มะเร็งไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle4 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นประกาศผ่อนคลายให้ชาวไทย เข้าประเทศได้เริ่ม 5 สิงหาคมนี้ แต่ต้องเป็นที่เคยพักอาศัยมาก่อนเท่านั้น จริงหรือตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคมชาวต่างชาติที่ได้สิทธิพำนักอาศัย รวมถึงนักเรียน นักศึกษา นักธุรกิจและผู้รับการฝึกงานจากประเทศที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีต้องห้ามเดินทางเข้าญี่ปุ่น สามารถขอจดหมายรับรองการเดินทางกลับประเทศได้ที่สถานทูตญี่ปุ่น พร้อมแสดงใบรับรองแพทย์เพื่อยืนยันผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทางnaydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสุดช็อค ธนาคารโลกประจานเศรษฐกิจไทยกำลังเจ๊งทั้งระบบเพราะรัฐบาลโกง ยอดคนอดตาย พุ่งเกินครึ่งของประชากรหรือราว 40 ล้านคน (57%) คนไทยรายได้ต่ำกว่า 150 บาท/วัน เพิ่มขึ้น 100% ตัวเลขหนี้ประเทศพุ่งทะลุเพดานสูงสุดในรอบ 18 ปี รวม 13 ล้านล้านบาท สูงแตะ 88-90% ต่อจีดีพี การคลังถังแตก-คนจนไม่มีจะกิน รัฐบาลกู้มือเติบ 7 ล้านล้านบาท ผลาญงบประมาณต่อท่อน้ำเลี้ยงคอร์รัปชั่น . [[[ เจ๊งทั้งประเทศ ]]] . ธนาคารโลก (World Bank) [1] เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไทยในสภาวะวิกฤติ ผู้มีรายได้น้อย/คนไม่มีรายได้พุ่ง 40 ล้านคน หรือเกือบเท่ากับ 2 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ จากการขอรับสิทธิ์ช่วยเหลือช่วงโควิดจากรัฐบาล คอร์รัปชั่นรัฐบาลประยุทธ์ ถูกสื่อต่างชาติ รายงานผลการประเมิน ว่า ไทยเป็นประเทศที่มีการคอรัปชั่น โกงกิน เป็นอับดับที่ 1 ของโลก ฉุดประเทศถอยหลัง เศรษฐกิจพุ่งดิ่งลงเหว การคลังถังแตก-คนจนไม่มีจะกิน สอดคล้องกับตัวเลขคนจนที่พุ่งสูงขึ้น 100% โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าวันละ 150 บาท (ครึ่งนึงของค่าแรงขั้นต่ำ) มีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 4.7 ล้านคน เป็น 9.7 ล้านคนในปัจจุบัน นอกจากนี้ธนาคารโลกยังงัดตัวเลขตอกย้ำความเน่าเฟะในยุคลุงตู่อีกด้วยว่า อัตราความยากจนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 7.2 ปี 2558 เป็นร้อยละ 9.8 ปี 2561 สวนทางกับการเติบโตของเศรษฐกิจ ทั้งที่รัฐบาลไทยกู้เงินมือเติบ 1.9 ล้านล้านบาท ถือว่ามากสุดในภูมิภาคอาเซียน คิดเป็น 13% ของ GDP แต่ผลทีได้คือเศรษฐกิจเจ๊งมากสุดในเอเชีย กระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ 6 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 4% ของ GDP และทำเงินหายไป 1.3 ล้านล้านบาท . [[[ หนี้ท่วมทะลุเพดาน ]]] . ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ รัฐบาลที่สร้างหนี้มากสุดในประวัติศาสตร์ แต่เศรษฐกิจไทยก็เจ๊งมากสุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน ตัวเลขหนี้ล้นเพดานเติบโตพุ่งพรวดไปพ้อมกับความเหลื่อมล้ำ ตอกย้ำเศรษฐกิจลิเกหลวงที่ใช้ระบบเอื้อศักดินาแล้วปล่อยปลาเล็กปลาน้อยตายเรียบ ตัวเลขหนี้ครัวเรือนของประเทศพุ่งสูงแตะ 88-90% ต่อจีดีพี สูงสุดในรอบ 18 ปี สอดคล้องกับปัญหาเศรษฐกิจพังจากฐานราก คนไทยชักหน้าไม่ถึงหลัง รายได้เท่าเดิมแต่หนี้สินเพิ่มขึ้น . ไทยเหลื่อมล้ำพุ่งรอบ 10 ปี รวยจนห่างกันสูงสุด 20 เท่า หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีเพิ่มทะลุ 80% คนจนมีโอกาสเรียน ป.ตรีแค่ 3% เมื่อพิจารณาในส่วนของผู้ที่มีรายได้มากที่สุดแตกต่างจากผู้ที่มีรายได้น้อยสุดกว่า 20 เท่า โดยมีกลุ่มคนชนชั้นกลางอยู่ประมาณ 35% สะท้อนถึงการกระจุกตัวของรายได้ในกลุ่มบน และการแบ่งปันผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ทั่วถึงไปสู่คนกลุ่มล่าง แม้ดูจะดีขึ้นจากปี 2550-2561 แต่จำนวนคนยากจนในปี 2560-2563 มีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าจำนวนคนจนจะเพิ่มขึ้นมาในช่วง 3 ปีหลัง . [[[ โกง-จน-เจ๊ง]]] . ธนาคารโลกระบุถึงสาเหตุหลักที่เศรษฐกิจไทยถดถอย คือ ปัญหาการคอร์รัปชั่นของภาครัฐบาล [3] ซึ่งเป็นอันดับที่ 1 ในโลก นำไปสู่ ‘ความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน’ ซึ่งเป็นปัญหาการขับเคลื่อนจีดีพีตามหลักเศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะปัญหาธรรมาภิบาล หรือการทุจริต มีปัญหาทั้งภาคราชการและฝ่ายการเมือง นำไปสู่ปัญหาเกี่ยวเนื่องที่ไทยกำลังเผชิญ คือ การโกงงบประมาณ ความเหลื่อมล้ำ หรือการบังคับใช้กฎหมายสองมาตรฐาน . ‘ผู้นำบ้าอำนาจ’ คือเหตุผลที่ธนาคารโลกประจานไทยว่าเป็นต้นตอของการคอร์รัปชั่นในยุครัฐบาลประยุทธ์ เนื่องจากคนที่เข้ามามีอำนาจและมีหน้าที่ทางการเมืองไม่สามารถประนีประนอม (compromise) และหาจุดร่วมกันได้เพื่อนำพาประเทศให้ดีขึ้นได้ตามนโยบายที่ตนวางไว้ ผลคือในสายตาต่างประเทศ ประเทศเรามีปัญหาสนามแข่งขันที่ไม่ตรงหรือเอียง (Unlevel Playing Field) ระหว่างบริษัทไทยขนาดเล็ก บริษัทต่างชาติ เทียบกับบริษัทไทยขนาดใหญ่ . เห็นได้จากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ การจัดซื้อจัดจ้าง การให้สัมปทานสิทธิในการใช้ประโยชน์ทรัพยากรที่จัดสรรโดยรัฐมักจะไม่มีบริษัทที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศในธุรกิจนั้นๆ เข้าแข่งขัน ผู้ได้สัมปทานจะเป็นบริษัทใหญ่ของประเทศกับบริษัทแนวร่วมต่างชาติที่จัดตั้งขึ้น ผลคืออำนาจทางเศรษฐกิจของบริษัทใหญ่นับวันจะมากขึ้น ผลวิจัยของธนาคารแห่งประเทศไทยปี 2562 ชี้ว่า บริษัทขนาดใหญ่ 5% แรกของประเทศมีสัดส่วนรายรับสะสมสูงถึง 85% ของรายรับทั้งหมด มีส่วนแบ่งยอดขายมากถึง 46% และสัดส่วนกำไรกว่า 60% อำนาจทางธุรกิจแบบนี้ไม่จูงใจให้ผู้เล่นรายใหม่เข้าแข่งขัน ขณะที่ผู้บริโภคเสียประโยชน์ . อ้างอิง [1] https://www.posttoday.com/finance-stock/news/639770 [2] https://www.matichon.co.th/economy/news_2359806 [3] https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/910375ข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยตร.ล่าคนร้ายลวงหญิงสาวหน้าตาดีฆ่าชิงทรัพย์นับล้าน5 เม.ย. 61 - จากกรณีพบศพสาวเสียชีวิตภายในรถเก๋งฮอนด้า สีขาว ทะเบียน กข.6485 อจ. จอดอยู่ถนนลูกรัง ริมคลองชลประทาน เป็นถนนเข้านา ห่างหมู่บ้านน้ำท่วม ต.ไร่ขี อ.ลืออำนาจ 1 กม. ช่วงคืนดึกที่ผ่านมา ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.ดวงจันทร์ ทวีพันธ์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ที่ 4 บ้านกุดซวย ต.คำพระ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญจากการชันสูตรพลิกศพ พบบาดแผลถูกทำร้ายที่ใบหน้า กกหู และนำส่ง ร.พ.ลืออำนาจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตและนำส่งต่อเพื่อผ่าพิสูจน์ศพที่ ร.พ.สรรพสิทธิ์ประสงค์ จ.อุบลราชธานี เพื่อหาสเหตุการณ์ตายในครั้งนี้ พ.ต.อ.ชัชนันต์ พรบุตร ผกก.สภ.ลืออำนาจ อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ เผยว่าเบื้องต้น ตั้งสาเหตุการตายครั้งนี้ไว้ 2 ประเด็น คือ ฆ่าชิงทรัพย์และหักหลังทางธุรกิจ เพราะทรัพย์สินของผู้ตายหาย มีเพียงโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ตกอยู่ในรถ ซึ่งจะได้สืบสวนสอบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ได้ในไม่ช้านี้ เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญมาก ด้านนายพิชิต โสภาลุน ผช.ป้องกัน จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า น.ส.ดวงจันทร์ ทวีพันธ์ เป็นลูกพี่ลูกน้อง ตน ทำอาชีพธุรกิจส่วนตัว เมื่อวานนี้( 4 เม.ย.61) มีคนโทร.หาตั้งแต่เช้า และออกจากบ้านพักที่บ้านกุดซวย ต.คำพระ อ.หัวตะพาน ตลอดทั้งวันจนเวลา 18.00 น.ไม่กลับบ้านเลย ประกอบกับโทรศัพท์ก็ปิดเครื่อง จึงเป็นห่วง ก็เลย ประกาศหาผ่านสังคมโซเซียล ในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ กระทั่งมีผู้พบรถเก๋งสีขาว ตามที่ประกาศหา ที่บริเวณถนนลูกรัง ริมคลองชลประทาน บ้านน้ำท่วม ต.ไร่ขี อ.ลืออำนาจ จึงเดินทางไปดูพร้อมญาติ ปรากฏว่า เป็นน้องสาว ที่หายไปทั้งวันจริงๆ นายพิชิต เชื่อว่าน้องสาวถูกลวงไปฆ่าเพื่อชิงทรัพย์สิน ซึ่งกระเป๋ามีเงินอยู่หลายแสนบาทรวมถึงทองรูปพรรณ จำนวนหนึ่งหายไป มูลค่าร่วม 1 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า เป็นคนรู้จักกัน ลวงมาฆ่า โดยถูกทำร้ายจนสลบ และใช้ถุงพลาสติกครอบศรีษะทำให้ขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตในที่สุด และเชื่อว่าฆ่ามาจากตัวเมืองอำนาจเจริญ เพราะสัญญาณโทรศัพท์มือถือขาดหายในเขต ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จากนั้นคนร้าย ได้นำศพไปที่ทางลูกรัง ริมคลองชลประทาน บ้านน้ำท่วม ต.ไร่ขี อ.ลืออำนาจ ซึ่งเป็นทางเปลี่ยว เพื่ออำพรางคดี แต่ว่าไม่ชินทาง ถนนแคบรถชนกับขอบปูนคลองไปต่อไม่ได้ ก็เลยทิ้งรถหลบหนีไป ขณะนี้ศพอยู่ ร.พ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อบลฯ หลังจากเสร็จขั้นตอนทางการแพทย์แล้ว ตนจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 65 หมู่ที่ 4 บ้านกุดซวย ต.คำพระ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ประมาณ 3 วัน จึงจะมีพิธีฌาปนกิจศพต่อไป.std47421• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโลกใบนี้ มี193 ประเทศ มี10ประเทศ ที่น่าอยู่ที่สุดในโลก พิจารณาจากค่าครองชีพ ความปลอดภัยในการดำรงชีวิต ความสะดวกสบายในการคมนาคม อัธยาศัยไมตรีขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ เฟ้นหา 10 ประเทศ ที่น่าอยู่ที่สุดในโลก https://youtu.be/WcnWHhvgr5Q 10.เดนมาร์ก 9. แคนาดา 8. ฟินแลนด์ 7. ญี่ปุ่น 6. เนเธอร์แลนด์ 5. ออสเตรเลีย 4. สิงคโปร์ 3. โปรตุเกส 2. นิวซีแลนด์ 1. ไทยแลนด์ (*)(two thumbs up) (*)ประเทศไทย ติดอันดับ1 ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลกข่าวการเมืองมีมไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยตลท. เปิดให้ลงทุนหุ้นทองเพียง 1,000 บาทตามที่มีการแชร์ข้อมูลบนสื่อออนไลน์เรื่อง ตลท. เปิดให้ลงทุนหุ้นทองเพียง 1,000 บาท ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ จากการตรวจพบข่าวสารถูกส่งต่อเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดให้ลงทุนหุ้นทอง เพียง 1,000 บาท ลุ้นทองคำหนัก 5 บาท สร้างผลกำไร 30 – 70% ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลข้างต้น เนื่องจากเพจดังกล่าวเป็นเพจปลอมที่มีการแอบอ้างชื่อ และโลโก้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)ข่าวการเมืองstd48134• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยมิจฉาชีพมาแนวใหม่ ลงทุนแจกข้าวสารตามบ้านๆละ 1 ถุง 5 กก.มิจฉาชีพมาแนวใหม่ ลงทุนแจกข้าวสารตามบ้านๆละ 1 ถุง 5 กก. โดยขอหลักฐานการแจกว่า ได้รับแจกแล้ว ด้วยการขอถ่ายรูปสแกนใบหน้า และ ถ่ายบัตรประชาชน ของผู้ได้รับแจก แต่ปรากฏว่า มิจฉาชีพ เอาข้อมูลไปเปิดบัญชี ไปกู้เงิน ไปทำธุรกรรมอื่น ชาวบ้านที่พนัสนิคม ชลบุรี เดือดร้อน ไป 200 กว่าคน อย่าโลภ เห็นแก่ได้ โดยให้ข้อมูลส่วนตัวใดๆกับคนที่ไม่รู้จักดี ความเดือดร้อนจะตามมาได้ มิจฉาชีพ มาในหลากหลายรูปแบบ ต้องระวังตัวให้มากๆภาคตะวันออก ผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยมิจฉาชีพมาแนวใหม่ ลงทุนแจกข้าวสารตามบ้านๆละ 1 ถุง 5 กก. โดยขอหลักฐานการแจกว่า ได้รับแจกแล้ว ด้วยการขอถ่ายรูปสแกนใบหน้า(forbidden) มิจฉาชีพมาแนวใหม่ ลงทุนแจกข้าวสารตามบ้านๆละ 1 ถุง 5 กก. โดยขอหลักฐานการแจกว่า ได้รับแจกแล้ว ด้วยการขอถ่ายรูปสแกนใบหน้า และ ถ่ายบัตรประชาชน ของผู้ได้รับแจก แต่ปรากฏว่า มิจฉาชีพ เอาข้อมูลไปเปิดบัญชี ไปกู้เงิน ไปทำธุรกรรมอื่น ชาวบ้านที่พนัสนิคม ชลบุรี เดือดร้อน ไป 200 กว่าคน อย่าโลภ เห็นแก่ได้ โดยให้ข้อมูลส่วนตัวใดๆกับคนที่ไม่รู้จักดี ความเดือด ร้อนจะตามมาได้ มิจฉาชีพ มาในหลากหลายรูปแบบ ต้องระวังตัวให้มากๆMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกรมทางหลวงชนบท จะเปิดไฟประดับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลกรมทางหลวงชนบท จะเปิดไฟประดับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ที่อยู่ในความดูแล จำนวน 13 แห่ง ได้แก่ - สะพานพระราม 3 - สะพานพระราม 4 - สะพานพระราม 5 - สะพานพระราม 7 - สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ - สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า - สะพานพระพุทธยอดฟ้า - สะพานพระปกเกล้า - สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช - สะพานกรุงธน - สะพานกรุงเทพ - สะพานภูมิพล 1 - สะพานภูมิพล 2 โดยจะทำการเปิดไฟประดับ ระหว่างเวลา 19.00 น. - 22.00 น. และในคืนวันที่ 12 สิงหาคม 2565 จะทำการเปิดไฟระหว่างเวลา 19.00 น. - 24.00 น.Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยองค์การอนามัยโลกรายงานตอนนี้ไทยเป็นมะเร็งเบอร์ 1 ของเอเชียแล้วช็อค!!! ไทยได้เป็นอันดับที่ 1 แล้ว อัตราส่วน1 คนจาก 8 คน สาเหตุเกิดจาก 1. กินเนื้อสัตว์ย่าง 2. กินอาหารกะทิค้างคืน 3. กินกล้วยแขกปาท่องโก๋ขนมครก 4. กินผัดผักค้างคืน 5. ใช้กล่องโฟมใส่อาหาร สัมผัสสารก่อมะเร็งจากกล่องโฟม กรุณาส่งต่อเป็นธรรมทานมะเร็งผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 4 คนสงสัยคนฉีดวัคซีนเริ่มทยอยตายมากกว่าคนติดโควิด (question)*** ยุ่งแล้วปรากฏว่าตอนนี้ คนฉีดวัคซีนเริ่มทยอยตายมากกว่าคนติดโควิด (question) หมอเกือบสองหมื่นคน ออกมาเตือนคนที่ฉีดแล้วอย่าฉีดเพิ่มอีก..คนที่ยังไม่ฉีดก็ไม่ต้องฉีด...ฟังเอา ผู้ที่ฉีดวัคซีน..โปรดเปิดดูคลิปนี้..แล้วหยุดการไปต่อ..เข็มที่ 2 - 3 - 4 - 5 - 6 ก่อนที่จะจบชีวิตในวัยอันควรด้วยตัวคุณเอง.!.วัคซีนโควิดไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยนั่งเบาะหลังต้องคาดเข็มขัดนิรภัยในขณะที่โดยสารรถยนต์ส่วนตัว และรถยนต์สาธารณะ จริงไหม📣 ปรับจริง ไม่จกตา #ราชกิจจาฯประกาศ นั่งเบาะหลังต้องคาดเข็มขัดนิรภัยในขณะที่โดยสารรถยนต์ส่วนตัว และรถยนต์สาธารณะ 🚗 หากฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 2,000 บาท บังคับใช้หลังประกาศ 120 วัน ประมาณวันที่ 5 ก.ย. 65 🤔 ปลอดภัยไว้ก่อน รัดเข็มขัดนิรภัยทั้งคนขับและคนโดยสาร จะช่วยเซฟตัวเองจากเหตุที่ไม่คาดคิดได้ . . ห่วงๆ ทุกคนน้าาาา 🥰 📍 อ้างอิง >> https://salehere.co.th/r/cOqSJS #SaleHere #เซลเฮียร์Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย1. (ชมโดยที่ไม่ต้องลงทะเบียน) ไวรัสระบาดจริงหรือไม่ - ดร. คอฟแมน https://rookon.com/read-blog/109 2. ศ. ดร. สุจริต ภักดี - Over Reaction และ Immune Dependent Enhancement https://rookon.com/read-blog/102 3. ดร. คอฟแมน - วัคซีนเปลี่ยน DNA มนุษย์ https://rookon.com/read-blog/103 4. แอนีเมชั่น วัคซีน mRNA: https://rookon.com/read-blog/104 5. วัคซีน ป้องกันโควิดไม่ได้ - https://rookon.com/read-blog/105 6. สิทธิประเมินนโยบายการฉีดยาทดลองในมนุษย์ ตามมาตรา 11 - https://rookon.com/read-blog/100โควิด 2019วัคซีนโควิดไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยดีเดย์ 1 เม.ย. นี้ #เก็บค่าเหยียบแผ่นดิน จากนักท่องเที่ยวต่างชาติคนละ 300 บาท📣 ดีเดย์ 1 เม.ย. นี้ #เก็บค่าเหยียบแผ่นดิน จากนักท่องเที่ยวต่างชาติคนละ 300 บาท เพื่อเอาไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในประเทศ เช่น ทางขึ้น-ลงคนพิการ การสร้างห้องน้ำในที่เที่ยวต่างๆ นอกจากนั้นก็เอาไปซื้อประกันภัยให้กับนักท่องเที่ยวด้วย 👉 คาดว่าปีนี้จะเก็บได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท จากนักท่องเที่ยวประมาณ 5 ล้านคนข่าวการเมืองMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ