(2461 ข้อความ)
- 1 คนสงสัยฝีดาษลิงคนที่5ของไทยไทยเจอฝีดาษลิงรายที่ 5 กลับจากดูไบ เร่งติดตาม 2 ต่างชาติ 15 สิงหาคม : นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 5 เป็นผู้หญิงไทย อายุ 25 ปี มีอาการป่วยที่ต่างประเทศ ก่อนเดินทางกลับมาจากดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถึงไทยวันที่ 14 ส.ค. เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้คัดกรอง ตรวจสอบ และสังเกตอาการ พบว่าเข้าข่ายสงสัย เนื่องจากสังเกตเห็นตุ่ม จากการซักประวัติก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จึงพามารับการตรวจวินิจฉัยใน รพ. โดยผลตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันว่าเป็นโรคฝีดาษลิง เข้าสู่การรักษาตามระบบปกติ ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามคนที่นั่งบนเครื่องบินใกล้กัน 2 ราย ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ เพื่อแนะนำให้มาตรวจต่อไปkulanit1363• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยคำแนะนำ จาก นพ.พรเทพนพ.พรเทพ ได้ฝากทีวี NBT ช่วยประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนทั่วไปที่ยังเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับการตรวจหาเชื้อโควิดเมื่อหลงเข้าไปในสถานที่เสี่ยงหรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิดดังนี้ (1) ควรกักตัวเองเพือรอให้ครบ 5 วันแล้วค่อยไปตรวจหาเชื้อโควิด (2) หากผลตรวจเป็นลบ ควรกักตัวเองต่ออีกจนครบ 14 วันแล้วตรวจหาเชื้อซ้ำเพื่อยืนยัน คนไทยหลายคนเข้าใจผิดหลายประเด็นคือ (1) ตระหนกตกใจแล้วรีบไปตรวจก่อน 5 วันหลังการสัมผัสเสี่ยงโรค จึงไม่พบเชื้อหรือผลเป็นลบ (2) สบายใจว่าผลตรวจเป็นลบ (ข้อ 1) แล้วไม่กักตัวเองต่อ แต่กลับออกตระเวณใช้ชีวิตเหมือนเดิม และแพร่เชื้อให้คนอื่นๆต่อไป นับถึงวันนี้ ไทยต้องเสียค่าใช้จ่ายตรวจเชื้อโควิดไปแล้วกว่า 50 ล้านบาทโดยไม่ได้ประสิทธิผลเท่าที่ควรจากความเข้าใจผิดๆเหล่านี้ ช่วยกันแชร์ต่อเพื่อสังคมไทยจะได้ปลอดภัยครับMrs.Doubt• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอีก6เดือนข้างหน้า ถ้าคนในม็อบด่าเจ้า หรืออีแอบด่าเจ้าติดโควิด19 อย่าไปฉีดวัคซีนนะ.. วัคซีนที่ ฝรั่งมาผลิตในไทย เพราะมีโรงงานมาตรฐานที่สุดเป็นที่2ในโลกที่สร้างจากเงินส่วนพระองค์ของ รัชกาลที่9 จำนวน 3000 ล้านบาท 😏 ยอมตายเลยนะ เสียศักดิ์ศรีนะพวกมรึงงง..... อย่ารักษานะ เงินเจ้านะพวกมึง... 😏 อีก2 ทางก็เงินที่ ลุงตู่ไปหามาไม่ได้เอาเงินภาษีไม่ได้เอางบประมาณแผ่นดิน เพราะคือเงินมัดจำวัคซีน เบิกงบไม่ได้ ไปมัดจำไว้ 2000 ล้านบาท 400ล้าน ให้จุฬากำลังพัฒนา 600ล้าน ให้โรงงาน ที่อ๊อกฟอร์ด จะมาวิจัยและผลิต ทำสัญญา MOU เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว แถมมีสัญญาพ่วงให้ไทยเป็น ผู้ขายวัคซีน ได้.. ประเทศไทยชนะทุกประเทศในแถบนี้ ชังชาติ เกลียดเจ้า ด่านายก อย่าฉีดวัคซีน นะมรึงงงง...ข่าวการเมืองโควิด 2019วัคซีนโควิดไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยถ้าการไฟฟ้าโทรมา ให้เราเปลี่ยนมิเตอร์เราควรเปลี่ยนไหมคะ?พอดีว่าเมื่อ 2-3 วันก่อนหน้านี้ มีเบอร์โทรเข้ามาและบอกว่าเป็นการไฟฟ้า PEA E-Service บอกเราว่าหม้อเรามีปัญหาต้องเปลี่ยนเป็นหม้อดิจิทัลด่วน ๆ และต้อบเสียเงินประมาณ 3,500 บาท เราควรเชื่อและแจ้งเปลี่ยนเลยไหมคะ เพราะว่าเค้าให้แอดไลน์ด้วยการเงินแอคปลอมชนาภรณ์ ผมเงิน• 1 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแชร์ข่าวปลอมแพร่โควิด-19ทำปชช.ตื่นตระหนกมีโทษคุก 5 ปี จริงหรือข่าวลือสะพัดมากช่วงโควิด สร้างความตื่นตระหนก การกระทำลักษณะดังกล่าว อาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14(2) จำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับโควิด 2019anonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยลงทะเบียน คนละครึ่งรอบเก็บตก 1 ล้านสิทธิ วันที่ 20 ม.ค. อย่าพลาดโครงการคนละครึ่ง รอบเก็บตกในวันที่ 20 มกราคม 2564 ซึ่งคาดว่าจะมีสิทธิ์คงเหลือมากกว่า 1 ล้านสิทธิ โดยเป็นสิทธิที่คงเหลือจากเฟสแรก จำนวน 5 แสนสิทธิ์ และเฟส 2 จำนวน 5 แสนสิทธิ์ ซึ่งมาจากที่ผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านเกณฑ์ และผู้ที่ได้รับสิทธิ์ แต่ยังไม่มีการใช้จ่ายภายใน 14 วัน ซึ่งจะต้องรอสรุปตัวเลขอีกครั้งanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ ราคาค่าฉีดวัคซีนโควิด 19 ใกล้เคียงกับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และต้องฉีด 2 เข็ม ปีหน้ามีความเป็นไปได้ในการเริ่มใช้วัคซีนวช. เปิดเผยผลวิเคราะห์ ราคาวัคซีน COVID -19 เป็นครั้งแรก คาดน่าจะอยู่ที่เข็มละ 620 บาท ใกล้เคียงกับราคาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และต้องฉีด 2 เข็ม ทั่วโลกมีความคืบหน้าการพัฒนาอย่างช้าภายในปี 2564 น่าจะเริ่มใช้ในคนโควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยองค์การเภสัชกรรมทำ"ยาฟาวิพิราเวียร์" รักษาโควิด ได้สำเร็จ เตรียมผลิตเป็นเม็ดยาในปี64 จริงหรือคะเนื่องจากว่าในขณะนี้ทั่วโลกต้องการยารักษาโควิดอย่างมาก ทางองค์การเภสัชกรรมเลยเริ่มผลิตยาขึ้นมาสำหรับคนในประเทศที่อาจจะต้องใช้ เพราะคาดการณ์ว่าจะมีการแพร่ระบาดต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานประมาณ 1-2 ปี จริงหรือคะโควิด 2019anonymous• 6 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--last3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยให้ระวังอย่าโดนฝน! จะมีพายุฝนเหลืองจากประเทศจีนที่จะมีทั้งเชื้อโรคและสารเคมีมาด้วย ข่าวนี้เชื่อได้ไหม?มีข่าวลืออีกหนึ่งข่าว บอกทำนองว่า "ให้ระวัง วันที่ 2-3-4 นี้ จะมีพายุฝนมาจากประเทศจีน มีเชื้อโรค พร้อมทั้งสารเคมี เขาเรียกว่า ฝนเหลือง อย่าโดนฝนเด็ดขาด เป็นไปตามพุทธทำนาย" ?!?โควิด 2019naruemonjoy• 6 ปีที่แล้วmeter: false3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยการ Detox โดยไม่ต้องสวนก้นการ Detox โดยไม่ต้องสวนก้น เอาอะไรเข้าไปก่อกวนลำไส้ ซึ่งอาจมีโทษข้างคียง เช่น ทำลายระบบนิเวศของ แบคทีเรียดีในลำไส้ นำสู่การขาดวิตามิน B12 เว้นแต่มีข้อบ่งชี้ เช่น ท้องผูก อวัยวะขับพิษ ทั้ง 6 บทความตอนหนึ่ง ของ นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ร่างกายของเรา เขาทำงานของเขาเองอยู่แล้ว โดยอาศัยอวัยวะ ขับพิษทั้ง 6 คือ (1) ตับ (2) ไต (3) ปอด (4) ลำไส้ใหญ่ (5) ต่อมเหงื่อที่ผิวหนัง (6) น้ำเหลือง ถ้าท่านอยากจะล้างพิษ ผมแนะนำให้ท่าน ช่วยให้อวัยวะ ทั้งหกนี้ ทำงานได้ดีขึ้น ดังนี้ (1) ท่านช่วย “ตับ” ของท่านได้ ด้วยการกินอาหาร ที่ตับต้องใช้ในการขจัดพิษ ที่เรียกว่า สารต้าน อนุมูลอิสระ นั่นแหละ ได้แก่ อาหารพืชที่หลากสี (เน้นสีม่วงแดง) หลากรส (เน้นรสขม) ตามฤดูกาล (เน้นเห็ด) และ เน้นขมิ้นชัน ในภาพรวมว่าเป็นสาร ต้านอนุมูลอิสระ ที่โดดเด่น นอกจากนี้ ควรขยันออกแดด เพื่อให้ไมโตคอนเดรีย ในเซลร่างกายของท่าน ทุกเซลช่วยกันสร้าง สารต้านอนุมูลอิสระ ชื่อเมลาโทนิน ขึ้นมาช่วยการทำงานของตับ (2) ท่านช่วย “ไต” ของท่านได้ ด้วยการระวัง ไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ กินเกลือให้น้อย กินยาให้น้อยที่สุด ไม่กินยาที่ทำให้ เป็นโรคไตเรื้อรัง โดยตรง เช่น ยาลดการหลั่งกรด (เช่น omeprazole) ยาแก้ปวด แก้อักเสบข้อ และอย่าฉีดสี เพื่อวินิจฉัยโรคบ่อย โดยไม่จำเป็น เพราะ สีเหล่านั้น เป็นพิษต่อไตมาก..ก (3) ท่านช่วย “ปอด” ของท่านได้ ด้วยการ ฝึกหายใจให้ลึก ฝึกกลั้นหายใจนิดหนึ่ง ขณะลมเต็มปอด ฝึกหายใจออก ให้ยาวกว่า การหายใจเข้า เพื่อเอาลมค้างออกมา ให้มากที่สุด ใช้วิธีนับ 4-4-8 อย่างที่ผมเคยสอน ในบล็อกก่อนๆ ก็ได้ (เข้า 1 2 3 4, กลั้นไว้ 1 2 3 4 ออก 1 2 3 4 5 6 7 8 ) และขยันพาตัวเอง ไปอยู่ในบรรยากาศธรรมชาติ อากาศดีๆ (4) ท่านช่วย “ลำไส้ใหญ่” ของท่านได้ ด้วยการเอาใจใส่ เลี้ยงดูชุมชนจุลินทรีย์ (microbiomes) ในลำไส้ของท่าน ให้เจริญเติบโต หลากหลาย เพราะพวกเขา เป็นผู้ขับพิษ ที่แท้จริงของท่าน วิธีเลี้ยง ก็คือ กินของที่พวกเขา ใช้เป็นอาหาร (prebiotic) เช่น กากต่างๆ และถั่วต่างๆ และ ขยันกินอาหาร ที่มีจุลินทรีย์ (probiotic) เช่น อาหารหมักๆดองๆ ชาหมัก เป็นต้น (5) ท่านช่วย “ต่อมเหงื่อบนผิวหนัง” ของท่านได้ ด้วยการขยันออกกำลังกาย ให้เหงื่อออกมากๆ ขณะเดียวกัน ก็ดื่มน้ำตามไม่ให้ขาด ถ้ามีซาวน่า ก็ขยันอบซาวน่า ให้เหงื่อไหลโทรมกาย ก็ช่วยได้ (6) ท่านช่วย “ระบบน้ำเหลือง” ของท่านได้ ด้วยการขยัน ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว อย่างน้อย ให้ขยันเดินทั้งวัน วิ่งเหยาะๆบ้าง เมื่อมีโอกาส เพราะการขยับแขนขา เป็นปัจจัยเดียว ที่จะขับเคลื่อน การไหลเวียน ของน้ำเหลือง เอาของเสียไปทิ้งได้ ทำทั้งหกอย่าง นี่แหละ เป็นการ “ดีท๊อกซ์” ที่ได้ผลดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด ไม่ต้องไปเสียเงิน ฉีดอะไรที่เสี่ยงๆเข้าตัวเอง ทุกเดือนเลย นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ บรรณานุกรม 1. Knudston ML, Wyse DG, Galbraith PD, et al. Chelation therapy for ischemic heart disease, a randomized controlled trial. JAMA. 2002;287(4):481-486.Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยการกระตุ้นฉีดวัคซีนภูมิสูงๆ ต้องระวัง Lymphoma (มะเร็งต่อมน้ำเหลือง)ส่งมาโดย อ.ภิรมย์ หมอจุฬา การกระตุ้นฉีดวัคซีนภูมิสูงๆ ต้องระวัง Lymphoma (มะเร็งต่อมน้ำเหลือง) เก็บมาฝาก แค่ให้รู้และเฝ้าระวัง ไม่ต้องตื่นกลัว คอยติดตามข่าวกันต่อไปแค่นั้น เมื่อวานและวันนี้ ห้องไลน์หมอ ผมคุยกันเรื่องนี้เยอะ มีทั้งคำเตือนจาก อจ.แพทย์ไทย และรายงานจากต่างประเทศ สรุปคร่าวๆ ได้ว่า ตอนนี้เชื้อโควิดแรงขึ้น หลายๆ คน (รวมทั้งผมเอง) ก็พยายามหาวัคซีนที่จะช่วยกระตุ้นภูมิให้สูงมากๆ ขึ้นเพื่อให้เกิดภูมิต้านทานสูง สู้กับโรคได้แบบไม่ต้องกังวล แต่ภูมิต้านทานอย่างพวก IgG หรือ แอนติบอดี้ ที่สร้างขึ้นมาในร่างกายเรานั้น มันสร้างมาจากการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิด Lymphocyte ถ้าได้รับการกระตุ้นมากจนเกินไป อาจจะทำให้เกิดเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้ นอกจากนี้ยังอาจต้องระวังโรค Autoimmune หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง คือ โรค SLE หรือโรคพุ่มพวงที่เรารู้จักกันดี) ดังนั้น การจะกระตุ้นให้ขึ้นมากน้อย ตอนนี้คงต้องคำนึงถึงความจำเป็นและความเสี่ยงด้วย จากเคยคิดที่จะกระตุ้นกันแบบไม่ยั้ง เอาภูมิต้านทานแบบเกราะเหล็กหนาๆ อาจจะต้องเพลาๆ ลง เมื่อคำนึงถึงความเสี่ยงต่อโรคว่าคุ้มมั้ย และจักต้องติดตามรายงานศึกษาจากทั่วโลกตลอดจนปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ซึ่งแน่นอนว่าเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ข้อมูลข้างล่างนี้ คือที่หมอๆคุยปรึกษากัน โดยส่วนตัว ก็เคยคิดอยากกระตุ้นให้สูงมากเผื่อเหนียวไว้ แต่พอนักวิชาการท้วง ก็คงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เอาเท่าที่จำเป็นก่อน โดยความเห็นส่วนตัว ที่เราใช้กันตอนนี้… SV + AZ 2SV + AZ 2SV + mRNA 2AZ 2mRNA AZ + mRNA เหล่านี้ผมว่าภูมิคุ้มกันสูงพอและใกล้เคียงมาตรฐาน แต่ที่เกรงก็คือ ผู้ที่จะกระตุ้นให้ภูมิสูงไปกว่านี้ เช่น 2AZ + mRNA 2SV + AZ + mRNA AZ + mRNA + mRNA หรือ mRNA 3 เข็ม --------------------------- งานวิจัยของเยอรมันบ่งชี้ว่า AZ + mRNA ผลข้างเคียงหลังเข็ม 2 พอๆ กับ mRNA + mRNA และกระตุ้นเม็ดเลือดขาวชนิด B-cell (IgG) ที่ต่อสู้กับ Covid-19 ได้สูงมาก แต่ใครฉีด AZ + AZ ไปแล้วหมอไม่แนะนำให้ซ้ำ mRNA ในปีนี้อีก เพราะถ้า IgG ขึ้น สูงมากๆ อาจเสี่ยงต่อโรค B-cell Lymphoma --------------------------- ตามที่มีข่าวว่า ถ้าหาก ภูมิคุ้มกันมีระดับสูงมากเกินไป เพิ่มความเสี่ยงเรื่อง Lymphoma แต่ตอนนี้ยังไม่มีรายงานเรื่อง Lymphoma โดยทฤษฏี เห็นด้วยว่าไม่ควรฉีดบ่อยเกินไป อย่างน้อยๆ คือรอ 6 เดือนหลังเข็ม 2 เพราะสิ่งที่หวั่นเกรง คือ autoimmune disease VACCINE เป็นเหมือน antigen ชนิดหนึ่ง กระตุ้น innate และ adaptive หากมีการกระตุ้นบ่อยๆ T cell จะคุยกับ B cell บ่อยๆ เราเรียกว่า T-B cell crosstalk เพื่อให้สร้าง antibody เยอะๆ ความผิดพลาดเกิดได้หลายตำแหน่ง 1. ยิ่งคุยกันมาก ยิ่งพลาดได้ ทำให้สร้าง b cell clone ผิดปกติได้ โดยทฤษฏีจึงอาจเกิด lymphoma ได้ 2. ยิ่งสร้าง antibody มาก ยิ่งอาจมี antibody ที่จับกับ self antigen อาจเกิด autoimmune disease แต่ทั้งหมดคือทฤษฏี ต้องรอ real world data หลังฉีดไปอีก 2-3 ปี ว่า โรคเหล่านี้จะปรากฏเยอะขึ้นกว่าตอนก่อนฉีดหรือไม่ ดังนั้น ให้ยึดทางสายกลางไว้ก่อน หากได้ AZ + AZ หรือ mRNA + mRNA หรือ Mix & Match สลับกัน ก็ยังไม่ต้อง booster ให้รอข้อมูลจากอเมริกา อังกฤษ ตอนที่เค้า boost เข็มสาม ซึ่งน่าจะเป็นปีหน้าวัคซีนโควิดMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยครูยโสธรถูกมิจฉาชีพให้กดลิงค์สรรพากร ถูกดูดทุกบัญชี หายไป 2 ล้านบาทข่าวสด ๆๆ ช่อง 23 ครูยโสธรถูกมิจฉาชีพให้กดลิงค์สรรพากร ถูกดูดทุกบัญชี หายไป 2 ล้านบาทแทบร้องไห้ โทรให้ธนาคารรีบบล็อกบัญชีก็ทำงานเชื่องช้าจนหมดตัวๆๆให้ระวังมากๆๆเมื่อวานก็ถูกดูดไปหลักล้านเช่นกัน บัญชีม้ารับเงินสบายๆๆๆMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจากกรณีมีข่าว ลูกนายทหารเรือเสียชีวิตไล่เลี่ยกัน 2 ราย มีข่าวลือหนาหูว่าติดเชื้อโควิด-19 จริงหรือเมื่อสัปดาห์ก่อนมีข่าวการเสียชีวิตของลุกนายทหารเรือ 2 คนเสียชีวิตไล่เลี่ยกัน มีข่าวว่าเสียชีวิตเพราะติดเชื้อโควิด จริงหรือโควิด 2019anonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเติมตระกูล ลูกชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ประกาศแจกเงินหมื่น คนแจ้งเบาะแสบ่อนทั่วประเทศ จริงหรือคะมีโพสท์ส่วนตัวของนาย เติมตระกูล กมลวิศิษฎ์ โพสต์เฟซบุ๊กไว้ว่า “ให้รูปละ 2 หมื่น, คลิปละ 4หมื่น" ของบ่อนการพนันทั่วประเทศ โดยระบุเวลา สถานที่ให้ชัดเจน ให้ส่งมาทางข้อความส่วนตัว ไม่โพสท์ที่หน้าวอลล์ จริงหรือคะanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย“มะเร็งลำไส้” กำลังมาแรงมาก แถมลามมายังคนอายุน้อยแบบ 20 ปลายๆก็เป็นกันแล้ว เราทำอะไรได้บ้าง? 1. สารเคมีในอาหารเป็นผู้ต้องสงสัยใหญ่ ลด ละ เลิก เลี่ยง อาหาร fast food, UPF, ขนมปังขาวถุงใส, ขนมปังสวยๆมีครีมมีสตรอเบอร์รี่ในถุงใสๆตามสะดวกซื้อ, ขนมถุงๆ รวมถึงชานมไข่มุก, นมข้นหวาน 2. ภูมิตกอาจเป็นจำเลยร่วม คนยุคใหม่นอนดึก ตี 1 ตี 2 เป็นเรื่องปกติ ทำให้การซ่อมการอักเสบ เสียหายในร่างกาย ดังนั้นนอกจากมะเร็ง เราจะเห็นคนรุ่นใหม่มีภูมิแพ้สูง ป่วยง่าย พึ่งยาเยอะ นอนไม่หลับ และมีอาการซึมเศร้าปน 3. การใช้ยาปฏิชีวนะเกินความจำเป็นทำลายจุลินทรีย์ดีของเรา ผมเองใช้ยาปฏิชีวนะมาเพียง 2 ครั้งในรอบเกือบ 11 ปี แต่คนรุ่นใหม่ใช้กันหนัก จึงทำลายจุลินทรีย์จำนวนมหาศาลที่คอยเป็นผู้สร้างภูมิคุ้มกันในอวัยวะต่างๆของร่างกาย 4. เครื่องสำอางค์ ลิปสติก ยาย้อมผม จำนวนมากมีสารปรอท ผมจึงแนะนำให้ใช้ให้น้อย ใช้เมื่อออกงาน ไม่ใช่ใช้ 7 วันต่ออาทิตย์ 5. ความนิยมทานอาหารปิ้งย่างที่เพิ่มขึ้นมาก แต่ไหนแต่ไร คนทานหมูปิ้งข้าวเหนียว มีการเป็นมะเร็งลำไส้สูงอยู่แล้ว แต่ความนิยมอาหารปิ้งย่างญี่ปุ่น เกาหลีที่เพิ่มในไทย รวมถึงเสต็คแบบฝรั่ง ทำให้มะเร็งลำไส้พุ่งกว่าเดิม เราจึงควรลดการกินสิ่งเหล่านี้ลงในระดับ moderate พอ 6. ไม่โดนแดดทำให้ภูมิตก เมื่อภูมิต่ำ การอักเสบจากการกิน ก็ทำให้ลามเป็นมะเร็งง่าย 6 ข้อ ที่ฝากเตือนเพื่อนๆในสังคมไทยครับ มะเร็งลำไส้ มาแรงจริงไม่ระบุชื่อ• 3 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัย(#)คนขับเกียร์ออโต้ โปรดสละเวลาอ่านสัก 3 นาทีเถอะครับ แล้วจำให้ได้ เผื่อวันนึงเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น จะได้มีสติและสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยิ่งสมัยนี้เราขับรถยนต์เกียร์ออโต้มากกว่าเกียร์ธรรมดา ในขณะที่ผู้เล่ากำลังขับไปได้ประมาณ 20 นาที รู้สึกว่ารถมีความเร็วมากขึ้น มองหน้าจอความเร็วขึ้นไปที่ 140 กม. จึงได้ถอนคันเร่งและแตะเบรก 2 ครั้ง แต่ความเร็วก็ไม่ลด เลยลองแตะเบรกใหม่อีก 3 ครั้ง พร้อมกับกระชากเบรกมือช่วยอีก 2 ครั้ง ก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขารวบรวมสมาธิอีกครั้ง แล้วโยกเกียร์ไปที่ช่อง N ซึ่งเป็นเกียร์ว่าง แล้วดับเครื่อง เมื่อทำวิธีนี้สามารถช่วยชะลอความเร็วลงได้มาก เขาจึงขับประคองรถต่อไปอีกประมาณ 5 กม. กว่ารถจะหยุดได้ เมื่อรถจอดสนิท เขาได้เดินไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่เก็บเงินทางด่วน ทราบว่าที่คันเร่งค้างเป็นเพราะกล่องสัญญาณกันขโมย ซึ่งมีน้ำหนักเกือบครึ่งกิโล ไปทับอยู่ที่ก้านของคันเร่ง อู่รถแจ้งว่า “ในกรณีแบบนี้ มีโอกาสเป็นไปได้ ที่คันเร่งค้างจากสาเหตุดังกล่าว เนื่องจากกล่องสัญญาณกันขโมย จะติดตั้งอยู่เหนือคันเร่ง ติดตัวถังรถ สิ่งที่ควรกระทำคือ ตั้งสติแล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N ซึ่งเป็นเกียร์ว่าง จากนั้นปิดสวิทช์กุญแจเพื่อดับเครื่องยนต์ และเปิดไฟฉุกเฉิน รถก็จะยังวิ่งอยู่ แล้วค่อยๆเหยียบเบรคเป็นระยะ ความเร็วรถจะค่อยๆลดลง จนสามารถจอดรถได้ เพิ่มเติม : ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ วิธีที่ดีคือ(no)อย่าดึงกุญแจออกจากรูกุญแจ เดี๋ยวพวงมาลัยล็อค จะยิ่งทำให้เหตุการณ์เลวร้ายกว่าเดิม เพราะถ้าดับเครื่องโดยที่กุญแจยังเสียบอยู่ ก็จะยังบังคับเลี้ยวได้ พวงมาลัยจะไม่ล็อค และจะสามารถเปลี่ยนเลนเพื่อหลบรถคันหน้าได้ (ใช่)ทบทวนอีกครั้ง 1. ตั้งสติ แล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N 2. จากนั้น ปิดสวิทช์กุญแจ เพื่อดับเครื่องยนต์ อย่าดึงกุญแจออก ให้กุญแจยังคงเสียบคาอยู่ 3. ค่อยๆเหยียบเบรคเป็นระยะๆ ความเร็วรถจะค่อยๆลดลง จนสามารถจอดรถได้ 4. เปิดไฟฉุกเฉิน (no)อย่าเก็บไว้คนเดียว ส่งต่อเพื่อเป็นบุญกุศลผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสูตรชาแก้โรคเก๊าต์ ตะไคร้-ใบเตย ทำง่ายหายปวดเข่า-ลืมเก๊าต์-ไม่ต้องพึ่งยา ไม่น่าเชื่อ แค่ “ตะไคร้ กับ ใบเตย” ก็เป็น “สูตรสมุนไพรแก้โรคเก๊าต์” ได้จริงสูตรชาแก้โรคเก๊าต์ ตะไคร้-ใบเตย ทำง่ายหายปวดเข่า-ลืมเก๊าต์-ไม่ต้องพึ่งยา ไม่น่าเชื่อ แค่ “ตะไคร้ กับ ใบเตย” ก็เป็น “สูตรสมุนไพรแก้โรคเก๊าต์” ได้จริง เตรียมส่วนผสมดังนี้คือ 1. ตะไคร้ 5 ต้น 2. ใบเตย 3 ใบ 3. น้ำสะอาด 2 ลิตร (หากต้องการทำให้ดื่มได้หลายวัน ให้เพิ่มสัดส่วนตามสูตร) วิธีทำ ใส่น้ำในหม้อ ทุบตะไคร้ใส่หม้อ ใส่ใบเตยลงไป ต้มให้เดือดพล่าน เมื่อเดือดแล้วให้ลดไฟลงกลางๆ ปิดฝาต้มต่ออีก 15 นาที ห้ามเปิดฝา เมื่อครบ 15 นาทีแล้ว ปิดไฟ ยกหม้อลง ทิ้งไว้ให้เย็น จะได้น้ำชาตะไคร้-ใบเตย จะเก็บใส่ขวดแช่ตู้เย็นไว้ก็ได้ วิธีกิน ให้นำมาดื่มแทนน้ำเปล่าติดต่อกัน 1 สัปดาห์ สรรพคุณสมุนไพรของตะไคร้ กับ ใบเตย จะช่วยล้างกรดยูริกในเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของการปวดเข่าจากโรคเก๊าต์ได้ดีมาก ลืมปวดเข่า ลืมเก๊าต์ ลืมกินยาไปได้เลย *สูตรนี้ได้รับการยืนยันจากผู้เป็นเก๊าต์ว่าได้ผลดีเกินคาดจริงๆ ผลข้างเคียง อาจทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น วิธีแก้คือ ให้หลีกเลี่ยงการดื่มก่อนเข้านอน 2 ชั่วโมง ******* ******* ชีวอโรคยา แบ่งปันความรู้ทั่วไป เพื่อเป็นวิทยาทาน เพื่อความพอเพียง เพื่อสุขภาพที่ดี โปรดใช้วิจารณญาณ และใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานไปต่อยอดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตนเอง ไม่ตอบคำถามเพิ่มเติม ไม่รับปรึกษาปัญหาสุขภาพ เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ประจำหน้าเพจ สงวนลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ 2558 แชร์ได้ห้ามคัดลอกไปโพสต์ใหม่ เรียบเรียงโดย ชีวอโรคยา อ้างอิงข้อมูลจาก แพทย์พื้นบ้าน /ตำราโบราณ / สมุนไพรหมอศุภ ภาพโดย ชีวอโรคยา สงวนลิขสิทธิ์ ชีวอโรคยา อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดีไม่พึ่งสารเคมี ไม่ต้องรอให้ป่วยไปเสียค่ารักษาพยาบาลราคาแพง Cr ชีวอโรคยายาสมุนไพรMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกรุงเทพฯแตกแล้วครับ / ดร.สันต์ //// หลังจากรักษาพระนครมาได้ยาวนาน แต่ในที่สุดตัวเลขและกราฟ 6 วันที่ผ่านมาตั้งแต่ 1 เม.ย. 2021 ได้ยืนยันการเข้าสู่ Wave3 อย่างแน่นอนและรุนแรงมาก .. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้รุนแรงมากกว่า Wave2 ที่เริ่มที่สมุทรสาครเป็นอย่างมาก จากตัวเลขและกราฟ ตอนนี้เราเข้าสู่ Exponential แล้ว Total Case ของ Wave#3 ใกล้แตะระดับ 1,000 แล้ว ก้าวข้ามสถานการณ์ของ Wave#1 เมื่อตอน Lockdown ปีที่แล้วและก้าวข้าม Wave#2 ตอนเปิดตัวเลขที่สมุทรสาครไปแล้ว ดังนั้นไม่ต้องหวังแล้วว่าจะจบต่ำกว่าหมื่นคน #ขอแค่หยุดไม่ให้ถึงแสนคนได้ก็เก่งมากแล้วสำหรับรอบนี้ คำแนะนำ : Lockdown กรุงเทพมหานคร ทันทีตั้งแต่คืนนี้เถิด ไม่มีใครสมควรได้ออกจากบ้านโดยไม่จำเป็นตั้งแต่คืนนี้พรุ่งนี้เป็นต้นไป ถ้าเรายังคิดว่าอยากจะหยุด Wave#3 นี้ไว้แค่หลักหมื่น สำหรับประชาชนทั่วไป ไม่ว่าใครจะ Encourage ท่านมากอย่างไรก็ตาม หรือภาครัฐและธุรกิจจะเอาน้ำเย็นเข้ารูปอย่างไรก็ตาม ผมแนะนำด้วยความปราถนาดีต่อท่านและครอบครัวว่า ตั้งแต่พรุ่งนี้ จงอยู่บ้าน และอยู่ไปยาวๆ 2 เดือน Wave3 นี้แตกต่างจาก Wave2 มาก เพราะครั้งนี้เราถูกโจมตีกลางเมืองหลวง ซึ่งที่ผ่านมาเมียนมาสูญเสียย่างกุ้ง มาเลเซียสูญเสีย KL ฟิลิปปินส์สูญเสียมะนิลา และถึงที่สุดตัวเลขยังวิ่งไม่หยุด ไปไกลมากจนต้อง Lockdown อยู่ดี และยังไม่มีใครกอบกู้กลับมาได้เลย เรามาดูสถานการณ์และกราฟต่างๆว่า คณิตศาสตร์บอกอะไรเราบ้าง ตัวเลขและกราฟในวันนี้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า นี่ไม่ใช่แค่ Cluster แต่คือ Wave ใหม่แน่นอน การติดเชื้อในวงกว้างน่าจะเริ่มมาก่อน 1 เม.ย.พอสมควร และเราน่าจะเจอช้าไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ และมี Doubling Day ที่สั้นมากจนน่าใจหายมาก กราฟของ Total Case ในเขตกรุงเทพฯ ยืนยันหายนะที่ชัดเจน ว่ากำลังเป็น Exponential ที่เพิ่มเป็นสองเท่าภายในทุกๆ 1-2 วันเท่านั้น ถึงแม้ส่วนหนึ่งเกิดจากการตรวจเชิงรุก แต่ตัวเลขการตรวจเจอจากโรงพยาบาลก็สูงมาก และโดยทั่วไป Doubling Day แค่ 3 วันก็หนักแล้ว นี่ผ่านไปแค่ 6 วันเฉพาะ Wave3 แค่กรุงเทพก็ราวๆ 505 คนแล้ว และทุกคนอยู่กระจายไปทั่ว เดินทางไปทั่วเมืองและทั่วประเทศ ที่นี่เป็นเมืองศูนย์กลางการเดินทางที่มีฐานประชากรมากกว่า 10 ล้านคน ไม่ใช่แค่ 1 ล้านแบบสมุทรสาคร และไม่ใช่แรงงานต่างด้าวที่จะกักจขังได้ตามใจชอบ นี่คือสัญญาณว่า เราได้สูญเสียกรุงเทพฯไปแล้ว และสถานการณ์มันร้ายแรงมาก กราฟของ Wave3 ทั่วประเทศไทย กราฟมีความคล้ายกับของกรุงเทพฯ ยืนยันลักษณะกราฟเป็น Exponential ที่รุนแรงเช่นกัน Doubling Day ยังสั้นกว่า 2 วัน ยังไม่นิ่ง แต่น่าจะใกล้ Stabilized ซึ่งจะทำให้เราเห็น Trend ระยะกลางได้ และจะสามารถประเมินจำนวนผู้ติดเชื้อในช่วงเวลาต่างๆของ Wave ที่จะเกิดขึ้นได้ แต่ต้องจับตาดูอีก 1 สัปดาห์ Total Case และ Daily New Case ที่กราฟพุ่งทะยานทันทีในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ยืนยันว่าการติดเชื้อหลักรอบนี้ไม่ใช่แรงงานพม่าแต่เป็นชาวกรุงทั้งไทยและเทศ Character ของ Wave3 จึงจะต่างจาก Wave2 โดยสิ้นเชิง ........ ความน่ากลัวในการจู่โจมของ Wave3 1. เกิดขึ้นกลางกรุงเทพฯ ที่เป็น Hub ประชากร> 10 ล้านคน ยากแก่การปิดเมือง และทำ Contact Tracing มากๆ 2. คณะรัฐมนตรีโดนไวรัสไปแล้วเรียบร้อย 3. เรายังไม่หายเหนื่อยจาก Wave2 พักมาไม่ถึง 2 เดือนแบบตาปิดไม่สนิทด้วย 4. ผู้คนมากมายในกรุงเทพฯเริ่มออกเดินทางไปต่างจังหวัด และพร้อมจะเดินทางในอีกไม่กี่วันข้างหน้า 5. ธุรกิจท่องเที่ยวกำลังรอลูกค้าสงกรานต์ 10 วัน พวกเขาจะต้องร้องไห้กันอีกเท่าไหร่ พวกเขาไม่เหลือสายป่านแล้ว และเที่ยวนี้ก็จะไม่เหลืออะไรให้พวกเขากล้าที่จะคาดหวังอีกต่อไปแล้ว 6. ผู้มีอำนาจตัดสินใจทางนโยบายในประเทศนี้ได้รับวัคซีนกันหมดแล้ว ทั้งภาครัฐและเอกชน ดังนั้นพวกเขาจะกล้าเดินนโยบาย GDP ที่แลกมาด้วยเลือดเนื้อและน้ำตา ณ จุดนี้ต้นทุนความเสี่ยงตายของคนในชาติไม่เท่ากันแล้วและผู้มีอำนาจไม่จำเป็นต้องกลัวตายเหมือนครั้งก่อนมีวัคซีน สิ่งที่ควรทำที่สุด : 1. Lockdown กรุงเทพฯ ทันที และยึดเมืองหลวงคืนมาให้ได้ แต่ผมเชื่อว่าไม่มีใครจะกล้าประกาศ Lockdown เร็วๆนี้แน่ แต่เราต้องทำอะไรบางอย่าง เวลามีค่ามาก ถ้าเราไม่ทำอะไรเอาแค่สั่งปิดเล็กๆน้อยๆเป็นน้ำจิ้ม ไม่รอดแน่ ถ้าจะทำหลังสงกรานต์ก็หนักแล้ว 2. ธุรกิจท่องเที่ยวที่หยุดไม่ได้แล้ว ต้องตั้งการ์ดสูงสุดในการรอรับลูกค้า 3. คนที่เดินทางออกไปต่างจังหวัดแล้ว จองโรงแรมจ่ายตังค์ไปแล้ว ต้องมีสำนึกในการป้องกันตัวเอง ไม่ทำสิ่งที่คนอื่นจะเสี่ยงเพราะตัวเรา 4. จังหวัดต่างๆ ต้องพิจารณาประกาศควบคุม 14 วันด้วยตนเอง เมืองหลวงแตกแล้ว หัวเมืองต้องเข้มแข็ง แล้วช่วยกันกลับมายึดกรุงเทพฯคืนมา 5. ฉลองสงกรานต์อยู่บ้าน #พยายามงดเว้นสถานที่ติดแอร์ทั้งหมด และหลังสงกรานต์ Work from Home ทันที 6. วัคซีนต้องเร่งให้เร็วขึ้นอีกอย่างมาก ไม่มีวัคซีนเราไม่ชนะหรอก 7. ติดตาม Timeline และฟังศบค.และข้อมูลจากบุคลากรสาธารณสุขอย่างใกล้ชิดทุกๆวัน สำคัญมากๆ ........ ครั้งนี้เราเสียเมืองหลวงเพราะคนไทยเสพติดอบายมุข สุรา กามา บันเทิง ไม่ละเว้นทั้งๆที่เป็นช่วงที่ประเทศอยู่ในวิกฤตเจียนอยู่เจียนไป นับจากวันนี้ คนกรุงเทพฯ Mind Set ต้องรีบเปลี่ยน กลับมาตั้งหลักกันใหม่ ช่วยกันกอบกู้พระนครกลับมาให้ได้ ต้องเรียนตามตรงว่า ภาระกิจนี้กับ Covid แทบไม่มีชนชาติใดที่โดนตัวเลขระดับนี้แล้วกู้กลับมาได้เลย แต่ผมมั่นใจว่าเราจะเป็นชาติแรกๆ พวกเราต้องช่วยกัน ผมเชื่อว่ายังไม่สายเกินไป ดร.สันต์ ****** ครั้งนี้กรุงเทพแตกแล้วของจริงครับ lockdown ก็ไม่ทันการณ์แล้ว แต่ละคนต้องป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัดในระดับสูงสุดเท่านั้นโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วันตามที่มีการโฆษณาทางสื่อโซเชียลเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วัน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มที่ระบุสรรพคุณว่า หากทาสามารถช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าไม่มีครีมหรือเซรั่มใดที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน ได้จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายนอกเพื่อทำความสะอาด สวยงามแต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ โดยเภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้ให้ข้อมูลว่า โครงสร้างของจมูกประกอบด้วย 2 ส่วน คือ โครงสร้างส่วนด้านบนเป็นกระดูกแข็ง ด้านล่างเป็นกระดูกอ่อน โดยห่อหุ้มด้วยผิวหนังและไขมัน ดังนั้นครีมที่ทำให้ดั้งโด่งจึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระดูก ส่งผลให้จมูกโด่งอย่างแน่นอน ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับภายนอกร่างกายของมนุษย์ รวมถึงฟันและเยื่อบุในช่องปาก เพื่อความสะอาด ความสวยงาม แต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ การโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ทำให้ดั้งโด่งได้อย่างรวดเร็วภายใน 7 วัน ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณที่โกหก เพราะครีมหรือเซรั่มเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกเท่านั้นทั้งนี้ ผู้ผลิตหรือขายผลิตภัณฑ์ที่หลอกลวงสรรพคุณให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ถือเป็นการโฆษณาที่แสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือเกินความจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และขอเตือนผู้บริโภคให้คิดก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีการโฆษณาสรรพคุณต่าง ๆ ว่า ไม่มีผลิตภัณฑ์ใดสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของร่างกายได้std46329• 2 ปีที่แล้ว
- 5 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! ผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วันตามที่มีการโฆษณาทางสื่อโซเชียลเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วัน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มที่ระบุสรรพคุณว่า หากทาสามารถช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าไม่มีครีมหรือเซรั่มใดที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน ได้จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายนอกเพื่อทำความสะอาด สวยงามแต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ โดยเภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้ให้ข้อมูลว่า โครงสร้างของจมูกประกอบด้วย 2 ส่วน คือ โครงสร้างส่วนด้านบนเป็นกระดูกแข็ง ด้านล่างเป็นกระดูกอ่อน โดยห่อหุ้มด้วยผิวหนังและไขมัน ดังนั้นครีมที่ทำให้ดั้งโด่งจึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระดูก ส่งผลให้จมูกโด่งอย่างแน่นอน ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับภายนอกร่างกายของมนุษย์ รวมถึงฟันและเยื่อบุในช่องปาก เพื่อความสะอาด ความสวยงาม แต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ การโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ทำให้ดั้งโด่งได้อย่างรวดเร็วภายใน 7 วัน ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณที่โกหก เพราะครีมหรือเซรั่มเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ผลิตหรือขายผลิตภัณฑ์ที่หลอกลวงสรรพคุณให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ถือเป็นการโฆษณาที่แสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือเกินความจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และขอเตือนผู้บริโภคให้คิดก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีการโฆษณาสรรพคุณต่าง ๆ ว่า ไม่มีผลิตภัณฑ์ใดสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของร่างกายได้std46750• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย1. มีข้อความส่งจากเบอร์นี้มาว่า “ +66631041402 พยายามโทรหาคุณ กรุณาโทรกลับ Please call back this number “ โดยปกติแล้ว ข้อความ การปฏิเสธสายจะขึ้นมา ” พยายามติดต่อคุณเวลา xx.xx น.This number tried to contact you. “ 2.โดยปกติแล้ว ข้อความแจ้งปฏิเสธสาย จะถูกส่งมาหลังจากที่เรากด ปฏิเสธสาย แต่กรณีนี้ ไม่ได้กดปฏิเสธ แต่มีข้อความส่งมาเอง. รูปแบบข้อความนี้ เป็นมิจฉาชีพหรือไม่?ภาคอีสานAIล้อเลียน เสียดสีแอคปลอมไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย*ทำบุญ*โดยไม่ต้องใช้เงินคะ วัดพระบาทน้ำพุ ขอข้าวสาร-ขนมปัง เลี้ยงคน 2 พันชีวิต โดยขอให้ช่วยแชร์ข้อความนี้หน่อย ถ้าเราช่วยกันแชร์ไป ให้ใครคนหนึ่ง คนใดก็ตามหรือเป็นไลน์กลุ่มก็ยิ่งดีที่เป็นสายบุญกุศล ทางวัดพระบาทน้ำพุจะได้รับ เงิน 15 บาท สาธุๆๆมีมไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยล่าสุดปี 2566 ธนาคารโลกจัดอันดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยอยู่อันดับที่ 25 ของโลกอาเซียน งงหนัก!!! ประชาชนไทยในประเทศ บอก 8 ปี ไม่มีอะไรพัฒนา …แต่ล่าสุดปี 2566 ธนาคารโลกจัดอันดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยอยู่อันดับที่ 25 ของโลก อันดับ 2 ของอาเซียน เป็นรองแค่สิงคโปร์ …และยังถือเป็นปีแรกในประวัติศาสตร์ของการจัดอันดับนี้ ที่ประเทศไทยแซงประเทศมาเลเซียอีกด้วยMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยลวงฆ่าโหด "เบส ทุ่งสง" นัดเคลียร์ ไม่สำเร็จ ชักปืนจ่อยิงดับลวงฆ่าโหด "เบส ทุ่งสง" คาดคนร้ายนัดมาเคลียร์ปัญหา แต่ตกลงไม่ได้ชักลูกซองจ่อยิง 2 นัด ทิ้งศพริมถนนเปลี่ยว พบผู้ตายยืมรถเพื่อนออกมารับแฟนสาวกลางดึกเพื่อพาไปฉีดวัคซีนโควิด จนเช้ามีชาวบ้านมาพบเป็นศพแล้ว ค้นตัวเจอเงินสดและยาบ้า ตร.ยังไม่ฟันธงปมสังหารโหด เร่งหามือสังหารstd47421• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเราไม่ทิ้งกันรอบใหม่รับ8,000บาท ส่วนคนละครึ่งเพิ่มเป็น5,000บาท3เดือนมาตรการเยียวยารอบใหม่ โครงการเราไม่ทิ้งกัน ได้รับเงิน 4,000 บาท เป็นเวลา 2 เดือน และโครงการคนละครึ่ง เพิ่มเงินเป็น 5,000 บาท นาน 3 เดือนข่าวการเมืองผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47794• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
