(#)คนขับเกียร์ออโต้ โปรดสละเวลาอ่านสัก 3 นาทีเถอะครับ แล้วจำให้ได้ เผื่อวันนึงเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น จะได้มีสติและสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยิ่งสมัยนี้เราขับรถยนต์เกียร์ออโต้มากกว่าเกียร์ธรรมดา
ในขณะที่ผู้เล่ากำลังขับไปได้ประมาณ 20 นาที รู้สึกว่ารถมีความเร็วมากขึ้น มองหน้าจอความเร็วขึ้นไปที่ 140 กม. จึงได้ถอนคันเร่งและแตะเบรก 2 ครั้ง แต่ความเร็วก็ไม่ลด เลยลองแตะเบรกใหม่อีก 3 ครั้ง พร้อมกับกระชากเบรกมือช่วยอีก 2 ครั้ง ก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เขารวบรวมสมาธิอีกครั้ง แล้วโยกเกียร์ไปที่ช่อง N ซึ่งเป็นเกียร์ว่าง แล้วดับเครื่อง เมื่อทำวิธีนี้สามารถช่วยชะลอความเร็วลงได้มาก เขาจึงขับประคองรถต่อไปอีกประมาณ 5 กม. กว่ารถจะหยุดได้
เมื่อรถจอดสนิท เขาได้เดินไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่เก็บเงินทางด่วน ทราบว่าที่คันเร่งค้างเป็นเพราะกล่องสัญญาณกันขโมย ซึ่งมีน้ำหนักเกือบครึ่งกิโล ไปทับอยู่ที่ก้านของคันเร่ง
อู่รถแจ้งว่า “ในกรณีแบบนี้ มีโอกาสเป็นไปได้ ที่คันเร่งค้างจากสาเหตุดังกล่าว เนื่องจากกล่องสัญญาณกันขโมย จะติดตั้งอยู่เหนือคันเร่ง ติดตัวถังรถ สิ่งที่ควรกระทำคือ ตั้งสติแล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N ซึ่งเป็นเกียร์ว่าง จากนั้นปิดสวิทช์กุญแจเพื่อดับเครื่องยนต์ และเปิดไฟฉุกเฉิน รถก็จะยังวิ่งอยู่ แล้วค่อยๆเหยียบเบรคเป็นระยะ ความเร็วรถจะค่อยๆลดลง จนสามารถจอดรถได้
เพิ่มเติม : ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ วิธีที่ดีคือ(no)อย่าดึงกุญแจออกจากรูกุญแจ เดี๋ยวพวงมาลัยล็อค จะยิ่งทำให้เหตุการณ์เลวร้ายกว่าเดิม เพราะถ้าดับเครื่องโดยที่กุญแจยังเสียบอยู่ ก็จะยังบังคับเลี้ยวได้ พวงมาลัยจะไม่ล็อค และจะสามารถเปลี่ยนเลนเพื่อหลบรถคันหน้าได้
(ใช่)ทบทวนอีกครั้ง
1. ตั้งสติ แล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N
2. จากนั้น ปิดสวิทช์กุญแจ เพื่อดับเครื่องยนต์ อย่าดึงกุญแจออก ให้กุญแจยังคงเสียบคาอยู่
3. ค่อยๆเหยียบเบรคเป็นระยะๆ ความเร็วรถจะค่อยๆลดลง จนสามารถจอดรถได้
4. เปิดไฟฉุกเฉิน
(no)อย่าเก็บไว้คนเดียว ส่งต่อเพื่อเป็นบุญกุศล
ในขณะที่ผู้เล่ากำลังขับไปได้ประมาณ 20 นาที รู้สึกว่ารถมีความเร็วมากขึ้น มองหน้าจอความเร็วขึ้นไปที่ 140 กม. จึงได้ถอนคันเร่งและแตะเบรก 2 ครั้ง แต่ความเร็วก็ไม่ลด เลยลองแตะเบรกใหม่อีก 3 ครั้ง พร้อมกับกระชากเบรกมือช่วยอีก 2 ครั้ง ก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เขารวบรวมสมาธิอีกครั้ง แล้วโยกเกียร์ไปที่ช่อง N ซึ่งเป็นเกียร์ว่าง แล้วดับเครื่อง เมื่อทำวิธีนี้สามารถช่วยชะลอความเร็วลงได้มาก เขาจึงขับประคองรถต่อไปอีกประมาณ 5 กม. กว่ารถจะหยุดได้
เมื่อรถจอดสนิท เขาได้เดินไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่เก็บเงินทางด่วน ทราบว่าที่คันเร่งค้างเป็นเพราะกล่องสัญญาณกันขโมย ซึ่งมีน้ำหนักเกือบครึ่งกิโล ไปทับอยู่ที่ก้านของคันเร่ง
อู่รถแจ้งว่า “ในกรณีแบบนี้ มีโอกาสเป็นไปได้ ที่คันเร่งค้างจากสาเหตุดังกล่าว เนื่องจากกล่องสัญญาณกันขโมย จะติดตั้งอยู่เหนือคันเร่ง ติดตัวถังรถ สิ่งที่ควรกระทำคือ ตั้งสติแล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N ซึ่งเป็นเกียร์ว่าง จากนั้นปิดสวิทช์กุญแจเพื่อดับเครื่องยนต์ และเปิดไฟฉุกเฉิน รถก็จะยังวิ่งอยู่ แล้วค่อยๆเหยียบเบรคเป็นระยะ ความเร็วรถจะค่อยๆลดลง จนสามารถจอดรถได้
เพิ่มเติม : ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ วิธีที่ดีคือ(no)อย่าดึงกุญแจออกจากรูกุญแจ เดี๋ยวพวงมาลัยล็อค จะยิ่งทำให้เหตุการณ์เลวร้ายกว่าเดิม เพราะถ้าดับเครื่องโดยที่กุญแจยังเสียบอยู่ ก็จะยังบังคับเลี้ยวได้ พวงมาลัยจะไม่ล็อค และจะสามารถเปลี่ยนเลนเพื่อหลบรถคันหน้าได้
(ใช่)ทบทวนอีกครั้ง
1. ตั้งสติ แล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N
2. จากนั้น ปิดสวิทช์กุญแจ เพื่อดับเครื่องยนต์ อย่าดึงกุญแจออก ให้กุญแจยังคงเสียบคาอยู่
3. ค่อยๆเหยียบเบรคเป็นระยะๆ ความเร็วรถจะค่อยๆลดลง จนสามารถจอดรถได้
4. เปิดไฟฉุกเฉิน
(no)อย่าเก็บไว้คนเดียว ส่งต่อเพื่อเป็นบุญกุศล