1 คนสงสัย
(#)คนขับเกียร์ออโต้ โปรดสละเวลาอ่านสัก 3 นาทีเถอะครับ แล้วจำให้ได้ เผื่อวันนึงเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น จะได้มีสติและสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยิ่งสมัยนี้เราขับรถยนต์เกียร์ออโต้มากกว่าเกียร์ธรรมดา

ในขณะที่ผู้เล่ากำลังขับไปได้ประมาณ 20 นาที รู้สึกว่ารถมีความเร็วมากขึ้น มองหน้าจอความเร็วขึ้นไปที่ 140 กม. จึงได้ถอนคันเร่งและแตะเบรก 2 ครั้ง แต่ความเร็วก็ไม่ลด เลยลองแตะเบรกใหม่อีก 3 ครั้ง พร้อมกับกระชากเบรกมือช่วยอีก 2 ครั้ง ก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

เขารวบรวมสมาธิอีกครั้ง แล้วโยกเกียร์ไปที่ช่อง N ซึ่งเป็นเกียร์ว่าง แล้วดับเครื่อง เมื่อทำวิธีนี้สามารถช่วยชะลอความเร็วลงได้มาก เขาจึงขับประคองรถต่อไปอีกประมาณ 5 กม. กว่ารถจะหยุดได้

เมื่อรถจอดสนิท เขาได้เดินไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่เก็บเงินทางด่วน ทราบว่าที่คันเร่งค้างเป็นเพราะกล่องสัญญาณกันขโมย ซึ่งมีน้ำหนักเกือบครึ่งกิโล ไปทับอยู่ที่ก้านของคันเร่ง

อู่รถแจ้งว่า “ในกรณีแบบนี้ มีโอกาสเป็นไปได้ ที่คันเร่งค้างจากสาเหตุดังกล่าว เนื่องจากกล่องสัญญาณกันขโมย จะติดตั้งอยู่เหนือคันเร่ง ติดตัวถังรถ สิ่งที่ควรกระทำคือ ตั้งสติแล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N ซึ่งเป็นเกียร์ว่าง จากนั้นปิดสวิทช์กุญแจเพื่อดับเครื่องยนต์ และเปิดไฟฉุกเฉิน รถก็จะยังวิ่งอยู่ แล้วค่อยๆเหยียบเบรคเป็นระยะ ความเร็วรถจะค่อยๆลดลง จนสามารถจอดรถได้

เพิ่มเติม : ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ วิธีที่ดีคือ(no)อย่าดึงกุญแจออกจากรูกุญแจ เดี๋ยวพวงมาลัยล็อค จะยิ่งทำให้เหตุการณ์เลวร้ายกว่าเดิม เพราะถ้าดับเครื่องโดยที่กุญแจยังเสียบอยู่ ก็จะยังบังคับเลี้ยวได้ พวงมาลัยจะไม่ล็อค และจะสามารถเปลี่ยนเลนเพื่อหลบรถคันหน้าได้

(ใช่)ทบทวนอีกครั้ง
1. ตั้งสติ แล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N
2. จากนั้น ปิดสวิทช์กุญแจ เพื่อดับเครื่องยนต์ อย่าดึงกุญแจออก ให้กุญแจยังคงเสียบคาอยู่
3. ค่อยๆเหยียบเบรคเป็นระยะๆ ความเร็วรถจะค่อยๆลดลง จนสามารถจอดรถได้
4. เปิดไฟฉุกเฉิน

(no)อย่าเก็บไว้คนเดียว ส่งต่อเพื่อเป็นบุญกุศล
ไม่ระบุชื่อ
 •  9 เดือนที่แล้ว
0 ความเห็น

ผู้บริโภคเฝ้าระวัง

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    “กฎแห่งกรรม” ของ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ มีคนเล่าให้ฟังว่า... สมัยก่อน...คุณพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ...ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต.. > แกอยู่ในป่า...กับเพื่อน ๕ ~ ๖ คน...ทุกวันก็จะเปลี่ยนเวรกัน...ล่าสัตว์ป่า...มาทำอาหาร > วันหนึ่ง...เป็นเวรของคุณพงษ์เทพ คว้าปืนยาว...สะพายบ่า.เดินเข้าป่าไป... > อาหารโปรดของคุณพงษ์เทพ.....คือแกงเนื้อลิง... > พอเดิน เข้าป่าไปได้สักพัก. เห็นลิงตัวหนึ่ง...นั่งอยู่บนต้นไม้...หันหลังให้.. > แกก็รีบยกปืนประทับบ่า...ยิงเปรี้ยง...ไปที่ตัวลิง.. > เหตุการณ์แปลกประหลาดได้เกิดขึ้น... > ปกติ...ลิงพอถูกยิง..จะหล่นตุ๊บ...จาก ต้นไม้ทันที... แต่ลิงตัวนี้...นั่งจับกิ่งไม้เฉย...ไม่หล่นลงมา... > จะว่ายิงไม่ถูก...ก็ไม่น่าเป็นไปได้...เพราะคุณพงษ์เทพ...แกยิงปืนแม่น... > ระยะแค่นี้ เป้าใหญ่ขนาดนี้...ไม่พลาดแน่นอน... > ในขณะที่กำลังสงสัยอยู่นั้น...ลิงตัวที่ถูกยิง...ร้องโหยหวน...เสียงดังมาก..... > ฝูงลิงที่แยกย้ายกันออกหากินอยู่บริเวณใกล้ ๆ ... วิ่งแห่กันเข้ามาหาลิงตัวที่ถูกยิง > แล้วร้องโหยหวน...เหมือนกันหมด... > แกตกใจ...ยืนตกตะลึง...ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น... > สักครู่...ลิงตัวที่ถูกยิง. โยนวัตถุเล็ก ๆ...สีดำ ๆ..ชิ้นหนึ่ง...ให้กับลิงตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด... > แล้วก็หล่นตุ๊บ...ลงมาจากต้นไม้... > คุณพงษ์เทพ...รีบวิ่งไปดู...ลิงถูกยิงเข้าที่หลัง... ทะลุหน้าอก...เลือดแดงฉาน..เต็มตัว... > คุณพงษ์เทพเห็นแล้ว...ต้องเบือนหน้าหนี... > ลิงที่ตกลงมาเป็นลิงแม่ลูกอ่อน...ขณะที่ถูกยิง.เธอกำลังให้นม ลูก... > ลูกตัว น้อย...กำลังดูดนมอย่างมีความสุข... > ทันทีที่ถูกยิง..ถ้าเป็นลิงตัวอื่น... จะหล่นตุ๊บ...ลงจากต้นไม้..... > แม่ลิงตัวนี้...ยังหล่นไม่ได้...ยังตายไม่ได้.. > เพราะเธอยังมีภารกิจใหญ่หลวงที่ต้องทำ...คือ... > รักษาชีวิตลูกน้อย...ให้พ้นอันตราย... > เธอกัดฟัน...โหนกิ่งไม้ไว้.แม้จะเจ็บปวดแทบขาดใจ... > มองดูเลือดที่ไหลหยดเป็นทาง ด้วยความตกใจ... > พยายามรวบรวมพละกำลังที่ยังพอมี! เหลือทั้งหมด... > ตะโกนสุดเสียง...ร้องเรียก.ฝูงลิงเข้ามาใกล้ ๆ.. > แล้วก็ฝากฝัง...ให้เลี้ยงลูกน้อยแทนเธอ > หลังจากโยนลูกให้จ่าฝูงแล้ว...มองดูลูก...ถูกพาไป จนลับสายตาแล้ว.. แน่ใจว่า...ลูกปลอดภัยแล้ว... > จึงหลับตา...แล้วหล่นลงมา.....ตาย.. คุณพงษ์เทพ...ก้มมองหน้าลิง..แล้วร้องไห้... > เพราะที่เบ้าตาลิง...มีหยดน้ำตาใส ๆ. กำลังไหลริน... > คุณพงษ์เทพ..รีบเดินกลับที่พัก...เอาปืนไปเผาทิ้ง...ไม่ยอมออกล่าสัตว์อีกเลยตลอดชีวิต.. > และภาพความรักที่ยิ่งใหญ่..ของแม่ลิง...ที่มีต่อลูกน้อย ...... > เป็นแรงบันดาลใจ. ให้พงษ์เทพ...แต่งเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่ง... > ชื่อว่า... “ลิงทะโมน” > เพื่อยกย่อง...เชิดชู...คุณค่าของความรัก...ที่แม่...มีต่อลูก พงษ์เทพต้องเผชิญชตากรรมตามสนองคือ เป็นมะเร็งขั้นรุนแรงที่ตับ ไปผ่าตัดที่ รพ.กรุงเทพ มีทรัพย์สินขายเกือบหมด ตอนนี้เหลือบ้านเพียงแห่งเดียวที่ปากช่องพออยู่อาศัย โรคร้ายปะทุยังไม่หายนอนรอวันดับก็น่าสงสาร เพื่อน ๆ วงคาราบาวก็ไปเยี่ยมพร้อมกัน นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงครับ https://youtu.be/U2jGXwBDClk
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ถามหน่อยค่ะถ้าเรามีเงินในบัญชีแต่ไม่มีแอปธนาคารในโทรศัพท์มันจะดูดเงินในบัญชีของเราได้มั้ยคะ⁉️
    ⚠️ ถามหน่อยค่ะถ้าเรามีเงินในบัญชีแต่ไม่มีแอปธนาคารในโทรศัพท์มันจะดูดเงินในบัญชีของเราได้มั้ยคะ⁉️ คำตอบ : โดนได้ครับ ถ้าบอกเลขบัญชี + เลขประชาชน + เลขโทรศัพท์มือถือ ให้เขาไป เขาจะไปเปิดบัญชี wallet หรือกระเป๋าเงิน ผูกกับบัญชีธนาคารเรา และโอนเงินออกไป เข้าบัญชี wallet ‼️ วิธีการคนร้าย 1. คนร้ายจะเข้ามาทำทีเป็นลูกค้าขอซื้อของออนไลน์ และขอเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ในบัตรประชาชนของผู้เสียหาย 2. คนร้ายจะนำเอาข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้น ไปเปิดบัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) ขึ้นมาใหม่ และตั้งค่าบัญชี E-Wallet ให้เชื่อมกับบัญชีธนาคารผู้เสียหาย 3. หลังจากนั้นผู้เสียหายจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์มือถือ ในทำนองว่า "คุณต้องการที่จะให้บัญชีธนาคารของคุณเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือไม่" ซึ่งการแจ้งเตือนมีข้อความค่อนข้างยาว ทำให้ผู้เสียหายหลายรายไม่อยากอ่าน และมองว่าไม่น่าจะมีอันตรายอะไรเกิดขึ้น 4. เมื่อผู้เสียหายกด "ยอมรับ" หรือ "ตกลง" บน Mobile Banking การเชื่อมระหว่างบัญชี Mobile Banking ของผู้เสียหาย กับบัญชี E-Wallet ของคนร้ายก็จะสมบูรณ์ ดังนั้น จึงทำให้คนร้ายสามารถยักย้ายถ่ายโอนเงินออกจากบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย ผ่านช่องทาง Mobile Banking ไปยังบัญชี E-Wallet ของคนร้ายจนหมดภายในเวลาไม่กี่นาทีนั่นเอง จึงขอเตือนให้ทุกคนระมัดระวัง และพยายามอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับใคร หากมีการแจ้งเตือนเข้ามาในโทรศัพท์ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน อย่าลืมอ่านข้อความที่แจ้งมาอย่างละเอียด หากอ่านแล้วไม่เข้าใจก็ยังไม่ต้องตอบตกลง เพราะไม่แน่ว่าการแตะหน้าจอเพียงครั้งเดียว อาจจะทำให้เงินในบัญชีถูกถอนออกจนหมดก็ได้ เครดิตข้อมูล และภาพ : เฟซบุ๊ก กองปราบปราม (กฎหมายตำรวจและพนักงานสอบสวน by ภูมิรพี ผลาภูมิ)✅
    Mrs.Doubt
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ระวัง! ไฟไหม้บ้านโดยนึกไม่ถึง.... จุดสะท้อนแสงอาทิตย์ไปยังไม้เฟอร์นิเจอร์ จุดเดียวเป็นเวลานานๆ จนเกิดการลุกไหม้ ดีที่ลูกสาวเห็นได้ทันก่อน เพราะวันนี้ไม่ได้ออกไปไหน ไม่งั้นเกิดโศกนาฏกรรมแน่ๆ.... (เกิดเหตุช่วงก่อนเที่ยงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564) บุญรักษา พระคุ้มครองโดยแท้
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    กรมท่าอากาศยาน ประกาศเพิ่มเส้นทางบินในประเทศ จริงหรือคะ
    ท่าอากาศยานที่สามารถให้บริการการบินภายในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ ท่าอากาศกระบี่ สุราษฎร์ธานี และหัวหิน โดยเปิดให้อากาศยานขึ้นลงได้ตามระยะเวลาที่กำหนด โดยจะเปิดให้บริการ ทุกเส้นทางที่บินทั้งเส้นทางที่เปิดไปแล้วรวมถึงเส้นทางใหม่ ตั้งแต่เวลา 06.00 - 20.00 น. จริงหรือคะ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ตำรวจยืนยันไม่ได้ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมในวันที่ 16 ตค. 63 ตามที่ข่าวแชร์ๆกัน จริงหรือ
    สลายการชุมนุม พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการสลายการชุมนุมบริเวณแยกปทุมวัน เมื่อวันที่16 ต.ค.63 ว่าเนื่องจากเป็นการชุมนุมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย มีการฝ่าฝืนประกาศสถานการฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยยืนยันว่าตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนักเป็นไปตามหลักสากลอย่างเคร่งครัด มีการประกาศด้วยวาจาหลายครั้งให้ยุติการชุมนุมและให้ออกจากพื้นที่ แต่ผู้ชุมนุมยังคงฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตาม เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องเข้าควบคุมด้วยการใช้อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆมีความเหมาะสม จำเป็นและได้สัดส่วน ส่วนที่มีการใช้น้ำผสมสีและสารเคมี แต่ตำรวจไม่มีการใช้แก๊สน้ำตาหรือกระสุนยางในการเข้าสลายการชุมนุมตามที่มีการแชร์ในโชเชียลมีเดีย
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ข่าวบิดเบือน แพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์
    ข่าวบิดเบือน แพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์ . ตามที่มีการโพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องแพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน . กรณีการโพสต์ให้ข้อมูลโดยระบุว่าพบกรดเบนโซอิกในก๋วยเตี๋ยวประเภทต่างๆ โดยแพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์ ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า จากที่มีการแชร์ข้อมูลผลตรวจวิเคราะห์ดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเมื่อปี 2550 ซึ่งสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในฐานะห้องปฏิบัติการอ้างอิงด้านการตรวจวิเคราะห์อาหารของประเทศ ได้มีการตรวจวิเคราะห์เฝ้าระวังการใช้วัตถุกันเสีย (กรดเบนโซอิคและกรดซอร์บิค) ในอาหารประเภทเส้นมาอย่างต่อเนื่อง . นอกจากนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้รายงานผลการตรวจวิเคราะห์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว ซึ่งการผลิตอาหารประเภทเส้น บางชนิดมีการใช้วัตถุกันเสีย เพื่อช่วยยับยั้งการเจริญเติบโต หรือทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุให้อาหารเน่าเสีย หากใช้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกรดเบนโซอิกทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสีย แต่หากได้รับในปริมาณน้อยร่างกายสามารถขับออกไปได้ ซึ่งข้อมูลของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญว่าด้วยวัตถุเจือปนอาหารขององค์การอาหารและเกษตรและองค์การอนามัยโลกแห่งสหประชาชาติ (The joint FAO/WHO Expert Committee on Food Additives, JECFA) ได้ประเมินและกำหนดค่าความปลอดภัย (ADI) พบว่า มีความเป็นพิษต่อคนและสัตว์น้อย . อย่างไรก็ตามวัตถุกันเสียทั้งสองชนิดมีข้อกำหนดการใช้ในประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 418) พ.ศ.2563 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการใช้ และอัตราส่วนของวัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่ 2) สำหรับกรดเบนโซอิกให้ใช้ได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ในอาหารประเภทเส้นที่ผ่านกระบวนการต้ม การนึ่ง การปรุงให้สุกการพรีเจลาทิไนซ์ (Pre-gelatinized) หรือแช่เยือกแข็ง และเส้นแบบกึ่งสำเร็จรูป ส่วนกรดซอร์บิกให้ใช้ได้ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เฉพาะอาหารประเภทเส้นแบบกึ่งสำเร็จรูป . เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อาหารประเภทเส้นที่ทำจากแป้งอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งพัฒนาผู้ผลิตให้มีความรู้ความเข้าใจการใช้วัตถุกันเสียอย่างถูกต้อง ปฏิบัติตามเกณฑ์ที่ อย.กำหนด ซึ่งผู้ผลิตจะต้องควบคุมกระบวนการผลิตให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน GMP สำหรับผู้บริโภคควรเลือกซื้อและบริโภคอาหารที่ปรุงสุก สดใหม่ สะอาด ถูกสุขอนามัย และไม่ควรรับประทานอาหารซ้ำๆ กันเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ . ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www3.dmsc.moph.go.th หรือโทร. 02 9510000 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ข้อมูลที่มีการบอกต่อดังกล่าวเป็นข้อมูลผลการตรวจวิเคราะห์เมื่อปี 2550 แต่ปัจจุบันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ประเภทเส้นที่ทำจากแป้งให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน GMP . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . Website : https://www.antifakenewscenter.com/
    ชุมพล ศรีสมบัติ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ด่วน‼ Mike Yeadon อดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Pfizer กล่าวว่าตอนนี้สายเกินไปที่จะช่วยชีวิตผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน Covid-19 เขาขอเรียกร้องให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดสารพิษร้ายแรงนี้ ให้ต่อสู้เพื่อการดำรงอยู่ของมนุษย์และชีวิตของลูกหลานในอนาคต นักภูมิคุ้มกันวิทยาที่ได้รับการยกย่องทั่วโลกกล่าวต่อไป....ถึงกระบวนการ/แผนการ ที่จะฆ่าคนส่วนใหญ่ที่ยังมีชีวิตอยู่ ทันทีที่ได้รับการฉีดเข็ม แรกประมาณ 0.8% ของผู้คนที่รับ จะเสียชีวิตภายใน 2 สัปดาห์. ผู้ที่ยังรอดชีวิต...มีจะอายุขัยโดยเฉลี่ย 2 ปี แต่จะลดลงเรื่อยๆเมื่อ ฉีดเสริม(เข็มต่อๆมา) หรือ ฉีด "บูสเตอร์ * ทุกครั้ง วัคซีนเสริม...อยู่ในระหว่างการพัฒนาเพื่อทำให้เกิดความเสื่อมโทรมของอวัยวะอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น หัวใจ ปอด และสมอง ... ด้วยความคุ้นเคยอย่างใกล้ชิดกับการทำงานและเป้าหมายของการวิจัยและพัฒนาของยักษ์ใหญ่ด้านเภสัชกรรม..ไฟเซอร์เป็นเวลา 2 ทศวรรษ ศาสตราจารย์ Yeadon กล่าวว่าเป้าหมายสุดท้ายของปัจจุบันของการฉีดวัคซีน..อาจเป็นเพียงเหตุการณ์การลดจำนวนประชากร..ซึ่งจะทำให้สงครามโลกทั้งหมดที่รวมกันดูเหมือนเป็นเพียงการสร้างมิกกี้เมาส์ 'หลายพันล้านคนได้รับผลร้ายไปแล้ว... ความตายและเจ็บปวดรวดร้าว ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ผู้ที่ได้รับการฉีดแต่ละคนจะต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควรอย่างแน่นอน และ 3 ปีเป็นการประมาณที่เมตตาแล้วสำหรับระยะเวลาที่พวกเขาคาดหวังว่าจะมีชีวิตอยู่ " https://www.lifesitenews.com/news/exclusive-former-pfizer-vp-your-government-is-lying-to-you-in-a-way-that-could-lead-to-your-death
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สำหรับเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ถึงวันที่ 5 มิย 63 นี้จริงหรือ
    แจ้งการเปิดระยะเวลาอุทธรณ์เงินเยียวยาเกษตรกร โดยเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนโครงการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ไว้แล้ว แต่ยังคงประสบปัญหาไม่ได้รับเงินเยียวยาเนื่องจากสาเหตุต่างๆ ขอให้เร่งดำเนินการอุทธรณ์เงินเยียวยา ประกอบด้วย เกษตรกรที่ปรับปรุงข้อมูลปี 62/63 ภายในวันที่ 30 เม.ย.2563 สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ตั้งแต่วันนี้ - 5 มิ.ย.นี้ ไม่เว้นวันหยุด เกษตรกรที่ปรับปรุงข้อมูลระหว่างวันที่ 1-15 พ.ค.2563 สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. - 5 มิ.ย.นี้
    naydoitall
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    "ศาลโลก" รับฟ้อง "พญาอินทรีย์" ปล่อยโควิด-19 สงครามชีวภาพ ในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิดเผย โดย ผู้ตัดต่อพันธุกรรมเชื้อโควิด-19 คือพญาอินทรีย์เอง... ************** โควิด-19 มาจากฝีมือมนุษย์ สั่งทำโดย โดนัล ทรัมป์ มีแหล่งที่มาจากห้องแลป ไวรัส P3 ในมลรัฐคาโรไลน่าเหนือ ของสหรัฐอเมริกา!!! นาย Greg Roubini ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองชื่อดังของสหรัฐอเมริกาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทีวีที่ 1 ของอเมริกาได้เป็นผู้เผยความลับนี้ นาย Greg เผยว่า ไวรัสโควิด-19 ได้รับการออกแบบทางพันธุกรรมเพื่อใช้เป็นอาวุธชีวภาพ หรือสงครามเชื้อโรค:- - มีแหล่งที่มาจากห้องแลป BSL-3 ในมลรัฐคาโรไลน่าเหนือ พัฒนาโดย ศาสตราจารย์ราล์ฟ บาร์ริก - พร้อมกันนั้น เขาระบุว่า ไวรัสถูก “รัฐบาลมืด” จากรัฐคาโรไลน่าเหนือ ทดลองในทหารส่งไปแพร่ระบาดในการแข่งขันกีฬาในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ลุกลามไปอิตาลี และอเมริกาทั้งประเทศ ##..ก่อนหน้านี้ในวันที่ 15 มีนาคม 2564 นายเกรก ก็ได้ ทวิตข้อความถามนายทรัมป์ว่า - เหตุใดจึงไม่บอกประชาชนอเมริกาว่า ไวรัสผลิตจากอเมริกา? ทำไมไม่อธิบายให้ชัดเจนว่าตัวไวรัสเองแท้จริงแล้วคืออาวุธชีวภาพ? **บังเอิญ ศาสตราจารย์ Luc Montanier ผู้ได้รับรางวัลโนเบลเนื่องจากเป็นผู้ค้นพบไวรัสเอชไอวี (HIV) ได้เปิดเผยกับนักข่าวชาวฝรั่งเศสเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า - โควิด-19 ไม่ใช่มาจากธรรมชาติ หากแต่ได้รับการพัฒนาอย่างประณีตโดยนักวิทยาศาสตร์ชีวโมเลกุล ***ศาสตราจารย์ Luc Montanier ยืนยันว่า เป็นเรื่องเด่นชัดที่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้นำเชื้อไวรัสที่มาจาก ค้างคาวเข้าไปเพิ่มความเข้มข้นของเชื้อเอชไอวีเข้าไปด้วย - นี่คือ การวางยาพิษที่ชั่วร้ายที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลก! ***นั่นคือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สุดโหด ข่าวเกี่ยวกับ “เชื้อโควิด-19 เป็นอาวุธชีวภาพที่มาจากการตัดต่อพันธุกรรมโดยฝีมือมนุษย์” มีมาโดยตลอด ***นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพยายามทำงานหาแหล่งที่มาของเชื้อไวรัสโดยนักวิทยาศาสตร์อินเดียค้นพบว่า เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่ มีเชื้อเอชไอวีแทรกอยู่ด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าไวรัสตัวนี้มาจากการตัดต่อทางพันธุกรรม ***กลางเดือนมีนาคม นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์พบว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 จากผู้ป่วยรายหนึ่งในรัฐวอชิงตันพบว่าวัฏจักรวิวัฒนาการของมันมียาวนานกว่าครึ่งปีมาแล้ว พร้อมๆกับการศึกษาลึกซึ้งลงไปว่า ประเทศต่างๆในโลกไม่น้อยได้เบนสายตาแห่งความสงสัยไปที่อเมริกา ประเทศต่างๆ ทั้งญี่ปุ่น อิตาลี ออสเตรเลีย ล้วนมีผู้ป่วยทียืนยันว่ามีแหล่งที่มาจากอเมริกาทั้งสิ้น *** ในเวลาต่อมา ROBERT REDFIELD ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกายอมรับว่า ผู้ป่วยตายจากไข้หวัดใหญ่ในเดือนกันยายน 2019 มีอยู่ไม่น้อยที่ตายจากเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ (เกิดก่อนการระบาดที่อู่ฮั่น) - ต่อปัญหานี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน นายจ้าว ลี่เจียง ได้ทวิตข้อความในทวิตเตอร์ถามผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกาว่า ผู้ป่วยรายแรกของอเมริกาเกิดขึ้นตอนไหน? ชื่ออะไร? อยู่โรงพยาบาลอะไร? และเป็นไปได้อย่างมากที่ทหารอเมริกาที่มาแข่งกีฬาทหาร นำเชื้อมาแพร่ที่เมืองอู่ฮั่น ในจีน >>>>สหรัฐอเมริกาต้องโปร่งใส ต้องเปิดเผยข้อมูลนี้ให้โลกได้รู้ความจริง **ด้วยความพยายามอย่างสุดความสามารถของคณะผู้สื่อข่าวคณะหนึ่งแห่งรัฐเวอร์จิเนีย ในที่สุดก็ได้ตามหาผู้ป่วยรายแรกจนพบ นั่นก็คือ ทหารอเมริกาที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทหารที่เมืองอู่ฮั่นของจีนในเดือนตุลาคม 2019 นางมีชื่อว่า "Maatje Benassi" >>>นายทหารหญิงของอเมริกาคนนี้มีภูมิหลังพิเศษตรงที่นางมีความเกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการชีวเคมี P4 ของนาย FORT DETRICK *** คนในครอบครัวก็มีหลายคนที่ยืนยันว่าผู้ติดเชื้อในจำนวนนี้มีอยู่คนหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อรายแรกในฮอลแลนด์ ก่อนติดเชื้อ เขาเคยไปในเขตพื้นที่ลอมบาร์เดียของอิตาลี ทำให้เขตพื้นที่นั้นเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ***มาถึงตรงนี้ หลักฐานเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด-19 มีต้นกำเนิดมาจากสหรัฐอเมริกาอย่างแน่นอน มีห่วงโซ่เชื่อมร้อยอย่างครบถ้วน ทหารพิเศษ 5 คนที่อเมริกาส่งเครื่องบินมารับกลับไปภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสและห้องแลป ที่ถูกปิดตาย ก็สามารถนำมาปะติดปะต่อกันได้แล้ว หากว่ากันตามตรรกะของนายทรัมป์ เราก็สามารถเรียกเชื้อโควิด-19 ว่า เป็น "ไวรัสนอร์ธคาโรไลนา" (Virus North Carolina) หรือ "ไวรัสอเมริกา" ***ในขณะที่หลักฐานทั้งหมดต่างชี้ไปที่อเมริกา เจ้าหน้าที่ชั้นสูงของสหรัฐอเมริกายอมรับอย่างเปิดเผยว่า เชื้อโควิด-19 ไม่จัดอยู่ในชั้นของโรคระบาดเท่านั้น แต่จัดอยู่ในชั้นของอาวุธชีวภาพ กรืออาวุธเชื้อโรค เหมือนไวรัสโรคไข้หวัดเสปน เมื่อ 100 ปีก่อนที่ทหารอเมริกานำไปแพร่ในเสปน >>>ความไร้ยางอายนี้ ทำให้โลกตะลึงและได้เพิ่มข้อน่าสงสัยว่าสหรัฐอเมริกา เป็นฆาตกรผู้วางยาพิษคนทั้งโลก เพียงเพื่อจะขายวัคซีนป้องกันมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ขาดดุลการค้า” >>>เรื่องทั้งหมดได้ปรากฏชัดเจนแล้ว แต่ทว่าทรัมป์ยังพยายามโยนบาปอย่างไม่คิดชีวิต กล่าวหาให้จีนรับเคราะห์แทนอย่าง น่ารังเกลียดที่สุด ***เชื้อโควิด-19 ได้ก่อให้เกิดภัยพิบัติและความสูญเสียที่ยากจะประเมินได้ บาปนี้มันใหญ่หลวงเกินกว่าจะโยนออกไป แล้วโทษคนอื่น ***ยังมีข้อน่าสงสัยที่นาย เกรกได้ตีแผ่ออกมา นายราล์ฟ บาร์ริค ผู้รับผิดชอบพัฒนาไวรัส รัฐคาโรไลนาเหนือคนนี้เป็นใคร *** นาย บาร์ริค มาจากมหาวิทยาลัยคาโรไลนาเหนือ เขาเป็นหัวหน้านักไวรัสวิทยาที่เปลี่ยนโฉมใหม่ของโรคซาร์สโคโรนาไวรัสโดยการตัดต่อยีนในปี 2015 - และเขายังเป็นผู้นำในการวิจัยและพัฒนาไวรัสดังกล่าวอีกด้วย ที่น่าตกใจก็คือ เขาเป็นบุคคลที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาทางคลินิกของยาวิเศษ "RADEXIVIR" เป็นไปอย่างที่โบราณว่าไว้ คนที่วางยาพิษก่อนอื่นต้องเตรียมผลิตยาแก้ยาพิษนั้นๆไว้ก่อนเสมอ!!!! - ยา RIDESIVIR ภายหลังจากปฏิบัติการทางคลินิกและถูกตั้งข้อสงสัยโดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของมันจึงทำให้ตกกระป๋องไปพร้อมๆกับการแพร่ระบาดที่ลุกลามออกไปทั่วโลก ***สหรัฐอเมริกากลายเป็น “ศูนย์กลางการล้างโลก” ไปแล้ว - การแพร่ระบาดในช่วงแรกของอเมริกา ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้ให้ความสาคัญกับมันเลยโดยมองว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ที่หนักกว่าปกติเท่านั้นเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าคนของตนเองผลิตมันขึ้นมาจนกระทั่งเพื่อนรักของเขาคือ "นายสแตนลี่ย์ เชล่า" เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งมลรัฐนิวยอร์กเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 !! >>>>ถึงเวลานี้จีนได้ฟ้องร้องต่อศาลโลกว่า อเมริกาเป็นต้นเหตุในการแพร่เชื้อโรคไวรัสโควิด-19 อย่างตั้งใจเพื่อทำลายล้างจีนและประชาชนทั่วโลก*** >>>ตอนนี้คงต้องรอดูการสืบสวนของศาลโลกว่า จะตัดสินออกมาเช่นไร? ซึ่งถึง ณ เวลานี้ ทรัมป์เริ่มรู้สึกตัว และให้ความสาคัญในระดับสูง แต่ว่าสายไปเสียแล้ว!!! https://youtu.be/Y04Qm8QVQXE ขอบคุณข้อมูลจาก นพ.ขวัญชัย เสธนันท์
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จริงหรือ ร้านนวด สปา ที่จะเปิดทำการในวันที่ 1 มิย 63 ต้องลงทะเบียนประเมินตนเองผ่านเว็บไซต์ สบส.ก่อน ถึงได้ใบ e-Certificate มาแปะในร้าน ต้องประเมินตนเองทุก 7 วัน ลงทะเบียนไทยชนะ และหมอนวดกลับจากต่างประเทศต้องกักตัว 14 วัน มั่นใจว่าปลอดเชื้อถึงทำงานได้
    ผู้ประกอบการสปาและนวด จะต้องลงทะเบียนเพื่อขอรับยูสเซอร์เนมและพาสเวิร์ดได้ที่เว็บไซต์ สบส. และเข้าสู่ระบบเพื่อกรอกข้อมูลสถานประกอบการให้ครบถ้วน และทำแบบประเมินตนเอง และส่งเข้ามาในระบบ พนักงานจะตรวจสอบว่าผ่านหลักเกณฑ์ สบส.หรือไม่ ถ้าไม่ผ่านจะกดปฏิเสธ ให้สถานประกอบการปรับปรุงแก้ไข และประเมินตัวเองเข้ามาใหม่ แต่เมื่อผ่านจะกดยอมรับ ร้านสามารถพิมพ์ใบ e-Certificate เพื่อติดไว้ที่สถานประกอบการ และจะต้องรายงานประเมินผลทุก 7 วัน หรือสัปดาห์ละ 1 ครั้ง นอกจากนี้ ต้องลงทะเบียนแพลตฟอร์มไทยชนะเพื่อพิมพ์คิวอาร์โคดให้ผู้รับบริการได้สแกนเพื่อเช็กอินเช็กเอาต์ด้วย
    naydoitall
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false