2435 ข้อความ
- 2 คนสงสัยอย่าแชร์ อาการขี้หนาวเป็นสัญญาณของไตเสื่อมตามที่มีการส่งต่อข้อมูลในสื่อโซเชียลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องอาการขี้หนาวเป็นสัญญาณของไตขวาเสื่อม ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จยาสมุนไพรPhuwadet Takotha• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยระทึก รถบัสส่งนักกีฬาวิ่งเทรล พลิกคว่ำตกเหว ผาพญากูปรี ดับ 4 เจ็บอื้อระทึก รถบัสเทคโนฯ หลวงปู่สรวง ส่งนักกีฬาวิ่งเทรล พลิกคว่ำตกเหว ผาพญากูปรี เทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.ศรีสะเกษ เสียชีวิต 4 ศพ เจ็บสาหัสจำนวนมาก โดยรถคันดังกล่าวได้นำผู้เข้าร่วมกิจกรรมแข่งขันวิ่งตามเส้นทางขึ้นช่องสะงำ ในรายการ "สุรนารี เทรล 2023"std48855• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโควิด-19 : ข่าวลวง 5 เรื่องของวัคซีน จากปนเปื้อนเนื้อหมูสู่เซลล์ตัวอ่อนจากการทำแท้งในขณะที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังเร่งฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่ประชาชน แต่ยังคงมีข้อมูลเท็จที่สร้างความเข้าใจผิด และความลังเลใจในการฉีดวัคซีนแพร่สะพัดไปทั่วโลก ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อความพยายามหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคนี้ ทีมงานตรวจสอบความจริง (Reality Check) ของบีบีซี ได้ตรวจสอบข่าวลือ 5 ข้อที่ถูกเผยแพร่เป็นวงกว้าง และหาคำตอบมาหักล้างว่าทำไมคำกล่าวอ้างเหล่านี้จึงเป็นข้อมูลที่ผิดstd48313• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยทุบสถานีหัวลำโพง เพื่อสร้างเป็นตึกสูงตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลประเด็นเรื่อง ทุบสถานีหัวลำโพง เพื่อสร้างเป็นตึกสูง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กระทรวงคมนาคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จstd47729• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยน้ำสามเกลอ ตัวช่วย ลดไขมันในเลือด สรรพคุณมากมายทำได้จริงหรือกรณีโพสต์ในสื่อออนไลน์ถึง สูตรเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ประกอบด้วย กระเจี๊ยบ มะตูม พุทราจีน แล้วเรียกว่า น้ำสามเกลอ มีสรรพคุณมากมาย เช่น บำรุงสายตา ลดไขมันในเลือด บรรเทาอาการชาปลายนิ้ว ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ตรวจสอบกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ข้อมูลนั้นไม่เป็นความจริง กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า จากข้อมูลสูตรเครื่องดื่มสุขภาพ ให้นำกระเจี๊ยบ พุทราจีน มะตูม มาต้มรวมกัน เรียกว่า น้ำสามเกลอ ยังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่า หากดื่มน้ำสมุนไพร น้ำสามเกลอ จะช่วย ลดไขมันในเลือด ได้จริง หรือแม้แต่บรรเทาอาการชาปลายนิ้วได้ ช่วยบำรุงสายตา ก็ยังไม่อาจสรุปได้ว่า น้ำสามเกลอ จะช่วยได้ อย่างไรก็ตาม สมุนไพรบางชนิดจะช่วยเรื่องระบบการไหลเวียนโลหิต แต่แนะนำให้รับประทานเป็นอาหารมากกว่า เพราะการต้มน้ำสามเกลอ อาจจะต้องเติมรสชาติความหวานเพื่อให้ดื่มง่ายขึ้น อร่อยขึ้น การเติมน้ำตาลเข้าไป คนดื่มก็จะได้รับน้ำตาลเพิ่มเข้าไปในร่างกายstd47925• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยข่าวปลอม! อย่าแชร์ต่ออ้างรัฐทบทวนสิทธิให้เงิน 5,000 บาทวันนี้ (8 มิ.ย.2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่มีการแชร์และส่งต่อข้อมูลรัฐทบทวนสิทธิโอนเงินเข้าบัญชี จำนวน 5,000 บาท ภายในเดือนมิ.ย.นี้ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดstd48923• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยใช้ยาทาเล็บเคลือบฟันได้ ไม่อันตรายต่อช่องปากยาทาเล็บสามารถนำมาทาที่ฟันได้เพื่อเพิ่มสีสันและไม่อันตรายต่อร่างกายเพราะสามารถล้างออกได้std46718• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยMs max to slimหุ่นเป๊ะสัดส่วนปังลดน้ำหนัก 10 กิโลใน 1 เดือนทำได้จริง ไม่จกตา ไม่มโนเปิดใจลองเลยลดความอ้วนstd46640• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยทลายเครือข่ายบริษัท เมจิกสกินทลายเครือข่ายบริษัท เมจิก สกิน เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอาหารเสริมไร้คุณภาพรายใหญ่ ใช้ดารา-เน็ตไอดอล ช่วยรีวิวสินค้ากระตุ้นยอดขาย คาดกระทุ้ง อย.สังคายนาสินค้าสุขภาพปลอมในท้องตลาดNamatsaya Srisongkram• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เผย กรณีที่มีการโพสต์และแชร์ข้อความในสื่อต่าง ๆ ว่า ใช้น้ำปัสสาวะหยอดจมูก รักษาโรคไซนัสได้ พบเป็นข้อมูลเท็จ เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ หรือแชร์ข้อมูลต่อจากที่มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการรักษาโรคไซนัส ด้วยการใช้น้ำปัสสาวะหยอดจมูกทุกวัน ทำให้อาการจะดีขึ้นเรื่อย ๆ จนหายขาดในที่สุดนั้น ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่าขณะนี้ยังไม่มีงานวิจัยทางการแพทย์และทางคลินิกที่น่าเชื่อถือรองรับ โดยน้ำปัสสาวะเป็นของเสีย หรือสารที่เป็นส่วนเกินของร่างกายที่ไตขับออกมาstd47976• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยรักษามะเร็งฟรีข่าวด่วนข่าวด่วนรัฐบาลอนุมัติว่ารักษาโรคมะเร็งฟรีข่าวการเมืองมะเร็งnapapronmongkol• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/l2Jk9GW?utm_source=copyshareไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยยาลดน้ำหนักลองฟังเรื่องราวของคุณกุ๊กกิ๊ก เพราะนี่อาจเป็นสิ่งที่คุณตามหามาทั้งชีวิต ก็ได้…สวัสดีค่ะ ชื่อกุ๊กกิ๊กนะคะ เป็นพริ๊ตตี้เอ็มซีค่ะ บอกได้เลยค่ะว่า ช่วงโควิดที่ผ่านมา กักตัวเป็นเวลาหลายเดือนมากๆ มีแต่กินกับนอน ไม่ได้ไปไหนเลย แถมกุ๊กกิ๊กโยโย่จากอีกตัวนึงมาสรุปแล้วขึ้นมาสิบกว่า กก. เลยค่ะ ยอมรับเลยนะคะว่าเครียดมากๆมีช่วงนึงตัดสินใจไปออกกำลังกาย แต่สุดท้าย ออกบ้าง หยุดบ้าง ไม่มีวินัย เคยทำได้แค่วิ่งลู่ 15 นาทีก็เหนื่อยแล้วค่ะ แถมหิวหนักและกลับมากินเยอะกว่าเดิม ช่วงนี้เวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ทรมานมากๆสำหรับกุ๊กกิ๊กเลยค่ะพอมาส่องกระจกก็รับสภาพตัวเองไม่ได้เลย ไม่มั่นใจ มีพุง ทำให้งานที่เข้ามายกเลิกไปจนเกือบหมด จนกุ๊กกิ๊กไปเจออาหารเสริมตัวนึง ชื่อว่า Ms max to slim เขาบอกลดน้ำหนักได้เดือนนึง 8-10 กก. ตอนแรกกุ๊กกิ๊กก็ไม่เชื่อนะคะ ขนาดออกกำลังกายแทบตาย ยังไม่ลดเลยค่ะ เลยตัดสินใจลองดูสักตั้งค่ะ กินก่อนอาหารเช้า 10 นาที แค่วันละ 1 เม็ดค่ะ กินไป 3 กล่อง ครบ 1 เดือนพอดี ก่อนทานหนัก 59 กิโล ลงมาเหลือแค่ 49 กิโล น้ำหนักกุ๊กกิ๊กลดลงถึง 10 กิโลเลยค่ะ โดยที่ไม่ต้องอดอาหาร การทำงานของตัว Ms max to slim จะช่วยเบิร์นไขมันเก่าและไขมันใหม่ค่ะ เหมือนร่างกายเราออกกำลังกายตลอดเวลา และช่วยทำให้เราอิ่มนานขึ้น ทานอาหารได้น้อยลงไปเองอย่างน่าเหลือเชื่อค่ะ สองปัจจัยนี้ทำให้น้ำหนักลดลงได้จริง ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ทำให้กุ๊กกิ๊กมั่นใจว่าปลอดภัย และไม่มีผลข้างเคียงใดๆทั้งสิ้นเลยนะคะกุ๊กกิ๊กขอเป็นกำลังใจให้คนที่หันมาลดน้ำหนัก เปลี่ยนแปลงตัวเอง เหมือนกุ๊กกิ๊กนะคะ อย่าเครียดมากค่ะ ถ้าเรามีตัวช่วยดีๆแบบ Ms max to slim กุ๊กกิ๊กการันตีเลยค่ะว่าทุกคนต้องลดน้ำหนักได้ และมีหุ่นสวยเอว S ได้แบบกุ๊กกิ๊กแน่นอนค่ะ สู้ๆนะคะ ได้ข่าวว่าตอนนี้ Ms max to slim มีโปรโมชั่นลดราคา 50% และของแถม สามารถแอดไลน์ปรึกษาได้ฟรีเลยจ้าลดความอ้วนdiazp121phoenix• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยMs max to slim สามารถลดน้ำหนัก1เดือนได้8-10 กก.จริงหรอค่ะชื่อกุ๊กกิ๊กนะคะ เป็นพริ๊ตตี้เอ็มซีค่ะ บอกได้เลยค่ะว่า ช่วงโควิดที่ผ่านมา กักตัวเป็นเวลาหลายเดือนมากๆ มีแต่กินกับนอน ไม่ได้ไปไหนเลย แถมกุ๊กกิ๊กโยโย่จากอีกตัวนึงมาสรุปแล้วขึ้นมาสิบกว่า กก. จนมาเจอ Ms max to slim ลดน้ำหนักได้เดือนนึง 8-10 กก.ลดความอ้วนkulanit1363• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยฝีดากลิงงอาการฝีดากลิงโรคฝีดาษลิงมีระยะฟักตัวอยู่ที่ 5 – 20 วันหากสัมผัสเชื้อมากจะแสดงอาการได้เร็ว แต่หากสัมผัสเชื้อไม่มากอาการแสดงจะอยู่ที่ประมาณ 3 สัปดาห์ โดยอาการเริ่มแรกที่สังเกตได้ชัดเจนคือ มีไข้ หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามตัว ปวดหลัง ปวดกระบอกตา ปวดกล้ามเนื้อ เจ็บคอ อ่อนเพลีย หลังจากนั้นประมาณ 4 – 5 วันจะมีผื่นจำนวนมากขึ้นบริเวณแขน ขา ลำตัว ใบหน้า โดยลักษณะผื่นช่วงแรกจะเป็นผื่นแดงหรือปื้นนูนแดง จากนั้นจะเป็นตุ่มน้ำใสขนาดใหญ่ ตุ่มหนองที่มีสะเก็ดคลุมแล้วแตกได้ ซึ่งความรุนแรงของผู้ป่วยแต่ละคนจะขึ้นอยู่กับปริมาณเชื้อที่ได้รับ แต่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตdiazp121phoenix• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยป้องกันฝีดาษลิงได้อย่างไรการป้องกันฝีดาษลิงทำได้โดยสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้บ่อย เลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา จมูก และปาก ระวังสัตว์กัดหรือข่วน ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น ไม่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยฝีดาษลิงKingTVz456za• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยฝีดาษลิงเป็นแล้วหายได้เองไหมเมื่อเป็นฝีดาษลิงสิ่งที่ต้องระวังคือ การแยกตัวออกจากบุคคลอื่นทันที แยกห้องนอน แยกห้องน้ำ แยกของใช้ ห้ามสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่นโดยเด็ดขาด ที่สำคัญคือห้ามแคะ แกะ เกาผื่นหรือตุ่ม เพื่อป้องกันแผลเป็นที่ทำให้เสียความมั่นใจได้KingTVz456za• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเซลล์อสุจิตาย เมื่อผู้ชายติดเชื้อโควิด-19งานวิจัยชิ้นใหม่ของเยอรมนีทำการทดลองพบว่า ผู้ชายที่ติดเชื้อโควิด-19 อาจทำให้เชื้ออสุจิและฮอร์โมนระบบสืบพันธุ์ได้รับความเสียหายโควิด 2019Mr.Sukree 031 {TNSU}• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเพื่อไทยยันต้องได้ปธ.สภา มอบ “ชลน่าน” ดีลก้าวไกลสูตรเดิม 14 บวกหนึ่งพิธา” ฟื้นหายโควิดนำ 150 ส.ส. ลูกพรรคเข้าสภาฯคึกคัก ออนทัวร์ขอบคุณน้ำใจชาวแม่กลอง ลั่นไม่หวั่นอุปสรรคขวากหนาม ทวง ส.ว.โหวตตามบรรทัดฐานปี 62 ยึดมติเสียงข้างมาก โอดรื้อ ม.112 เท่ากับล้มล้างการปกครองเกินจริงไปมาก “ก้าวไกล” เคาะ “ปดิพัทธ์” ชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ “เพื่อไทย” ดับเครื่องชนยึดสูตร 14 บวกหนึ่งต้องได้ประธานสภาฯ “ชลน่าน” รับหน้าเสื่อหอบสูตรเดิมไปเจรจา “ชูศักดิ์” อ้างใช้คนของพรรคงานนิติบัญญัติจะสมบูรณ์ราบรื่นเรียบร้อย “ลุงป้อม” ยิ้มกริ่มข่าวนั่งนายกฯผ่าทางตัน ปัดบินไปอังกฤษพบ “ทักษิณ” ดีลพลิกขั้ว “ชัยวุฒิ” อวย หน.พปชร.คุณสมบัติเป๊ะ “เสรี” ฉีกทิ้งหลักการปี 62 อ้างคนละมาตรฐานและติดเงื่อนไขเสนอแก้ ม.112 ชงข้อมูลหุ้นไอทีวี-ที่ดินปราณบุรีมัดผิด “พิธา” ขู่เข้าชื่อ ม.82 ส่งศาล รธน.ตีความคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เตรียมความ พร้อมรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรก ในวันที่ 3 ก.ค. ก่อนนัดประชุมสภาฯ วันที่ 4 ก.ค. เวลา 09.30 น. เพื่อ เลือกประธานสภาฯ ล่าสุดพรรคเพื่อไทยยืนกรานให้ คณะตัวแทนไปเจรจากับพรรคก้าวไกล โดยยึดสูตร 14 บวกหนึ่ง พรรค พท.ยืนยันต้องได้ตำแหน่งประธานสภาฯstd4835• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเขาเขียนไว้ก่อนตายเพียงวันเดียวถ้าอยากรู้ความคิดเขา…ลองอ่านดูนะ เป็นเรื่องของหญิงคนหนึ่ง ที่ป่วยเป็นมะเร็งในวัย 26 ปีเศษ เท่านั้น เธอได้เสียชีวิต หลังจากโพสต์ข้อความนี้ ลงใน Facebook เพียง 1 วัน และครอบครัวก็นำมาเผยแพร่ เพื่อให้ผู้อื่นอ่านและรับรู้ว่า..ชีวิตนี้มีค่ามากนะ ความคิดของคนใกล้ตาย รายนี้ ถือว่า ดีมาก ทุกคนควรตระหนัก สังขารมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา จงยังความไม่ประมาท ให้ถึงพร้อมเถิด เธอ ได้โพสต์ข้อความเหล่านี้ ก่อนเสียชีวิต เพียง 1 วัน ว่า มันก็แปลกอยู่นะ ที่ฉันจะต้องยอมรับความตายในวัยแค่ 26 ปีเศษเท่านั้น ความตาย เป็นสิ่งที่คนหนุ่มสาวอย่างเรามักจะเพิกเฉย เพราะเราคิดว่ายังจะมีวันพรุ่งนี้เสมอ เราจะมีชีวิตไปเรื่อยๆ ความตายเป็นเรื่องของวันข้างหน้า ที่ไม่มีใครรู้ว่า จะเกิดเมื่อไหร่ ฉันนึกภาพตัวเองตอนแก่ หน้าเหี่ยว ผมหงอกเต็มหัว……ฉันอยากได้ชีวิตแบบนั้น แต่ไม่มีใคร ควบคุมความตายได้ และ เรามักมองข้ามความตาย และพยายามไม่คิดถึงมัน ฉันก็เคยคิดว่า มันคงไม่ได้จะเกิดกับตัวเองหรือใครที่ฉันรัก ในเร็ววัน สิ่งที่ฉันอยากจะบอก คือ คุณเลิกกังวลกับ ปัญหางี่เง่าเล็กๆน้อยๆ ในแต่ละวัน ที่เกิดกับชีวิตเสียเถอะ ความเครียด อย่าไปสะสมเลย สิ่งที่เราทำได้ ควรจะเป็นการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ด้วยความรู้สึกที่ดี มีคุณค่าในตัวเอง ตัดเรื่องปัญญาอ่อนออกไปเถอะ ในช่วงเวลาที่คุณ เอาแต่บ่นกระปอดกระแปด ขอให้รู้ว่า คนอื่นก็เจอปัญหาแบบเดียวกับคุณ และ อาจจะอยู่ในเงื่อนไขที่แย่มากกว่าคุณอีก แม้บางเรื่องมันกระทบจิตใจ และ สร้างความรำคาญให้ชีวิต แต่อย่าแบกมันเอาไว้ เพราะมันจะส่งต่อผลกระทบทางลบ ต่อตัวเองและคนใกล้ชิด เมื่อคุณเริ่มไม่พอใจเรื่องอะไร ขอให้รีบเดินออกมาจากตรงนั้นก่อน หายใจเข้าลึกๆให้เต็มปอด ออกไปหาจุดมองแล้วสบายตาดีกว่า วันที่คุณเซ็งกับรถติด หรือ ช่างตัดผม ตัดให้คุณสั้นเกินไป หรือ คิดว่าตัวเองนมเล็กเกินไป หรือ มีมอเตอร์ไซต์มาตัดหน้ารถคุณ คุณปล่อยเรื่องบ้าๆ พวกนี้ทิ้งไปเถอะ มันล้วนเป็นขยะ ทำให้เราหมดความสุข บางคน เอาแต่บ่นเรื่องปัญหาจากการทำงาน หรือ อ้างแต่ว่าไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย จงสำนึกในตอนนี้เถอะว่า มันดีแค่ไหนแล้ว ที่ร่างกายคุณ ยังทำงานได้ หรือ ยังขยับเขยื้อนได้ แต่ละวันที่คุณทำงาน หรือ เดินได้ มันดูเหมือนเรื่องเล็กน้อยมากๆนะ แต่มันจะมีค่ามาก ถ้าคุณพบกับ วันที่ไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป จงรักร่างกายของตัวเองเถอะ แม้ว่ารูปร่างเราอาจจะไม่ได้เป๊ะอย่างที่อยากเป็น อยากมีก็ตาม พยายาม กินอาหารที่ใหม่ และเป็นประโยชน์ จำเอาไว้ คำว่าสุขภาพที่ดี คือ สุขภาพทั้งจิตและกาย ดี มีอารมณ์ที่ดี เลิกสนใจข้อความใดๆ ที่คุณอ่านแล้วทำให้ไม่สบายใจ เขึ่ยทิ้งไป หรือเลิกยุ่งเกี่ยวกับเพื่อน หรือใครก็ตามที ที่ทำให้คุณภาพชีวิตคุณตกต่ำ จงดีใจเถอะ ถ้าวันนี้ร่างกายคุณยังแข็งแรงดีอยู่ หรือ อาจจะแค่เป็นหวัด เมื่อยหลัง หรือ ข้อเท้าเคล็ดก็ตาม อาการพวกนี้ ไม่ทำให้ถึงตายหรอก เดี๋ยวก็หาย ต้องบ่นเรื่องต่างๆให้น้อยลง คนเรา มักจะมีความสุข ในเวลาที่ทำสิ่งดีๆให้คนอื่น จงพยายามทำให้มากๆเถิด มันเป็นบุญวาสนา บารมีนะ บางคน อาจจะคิดแต่เรื่องการซื้อชุดใหม่ ของสวยงาม เครื่องประดับ ที่จะใส่ไปงานต่างๆ โดยที่คุณไม่รู้หรอกว่า แท้จริง 1. ไม่มีใครมาสนใจนั่งดูหรอกว่า คุณใส่ชุดซ้ำหรือเปล่า 2.เอาเงินไปใช้ในสิ่งที่จำเป็นในชีวิตมากกว่า ดีกว่า เมื่อมีนัดที่ใด เมื่อไร พยายาม ไปถึงก่อนเวลา ตัวคุณเอง ก็จะได้รับความเคารพจากผู้คนที่เกี่ยวข้อง ใช้เงินของคุณไปกับประสบการณ์ที่ดีเถอะ หรือ อย่างน้อยก็อย่าผลาญเงินไปจนหมด จนคุณไม่ได้ทำอะไร ที่เป็นประโยชน์เลย จงพยายาม หาเวลา อยู่กับธรรมชาติบ้าง ดื่มด่ำ กับสิ่งรอบตัวในช่วงเวลาที่ดี ไม่ใช่เอาแต่ถ่ายรูป หรือ เล่นมือถืออย่างเดียว ชีวิตจริงไม่ใช่ความเคลื่อนไหวที่หน้าจอ หรือ คอยแต่หามุมถ่ายรูป ใช้ชีวิตกับมัน อยู่ตรงนั้น มีความสุข กับช่วงเวลานั้นๆ ให้มากขึ้นเถอะ ลองตื่นให้เช้าขึ้น ฟังเสียงนกร้อง และ ดูความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้น ควรทำงานเพื่อเลี้ยงชีพ แต่ อย่าถึงกับ พลีชีพเพื่อการทำงาน คุณต้องทำให้ หัวใจของคุณมีความสุข ไม่ต้องไปไล่ตามคนอื่น แบบที่คนอื่นทำ คุณอาจต้องการแค่ชีวิตพื้นๆ สบายๆ ที่ไม่มีความทุกข์เท่านั้น มันก็โอเคแล้วนะ! บอกรักคนที่คุณรัก จะเป็น พ่อแม่ ลูก พี่น้อง หรือ คนข้างกาย ในทุกครั้ง ที่มีโอกาส พยายามรักในทุกสิ่ง ทุกอย่างที่คุณมี คุณไม่รู้หรอกว่า คุณเหลือเวลาอยู่บนโลกใบนี้ อีกนานแค่ไหน อย่าไปเสียเวลากับปัญหาปลีกย่อยอีกเลย สิ่งสุดท้าย ถ้าคุณ สามารถ ที่จะทำอะไรดีๆ เพื่อเพื่อนมนุษย์ อย่างเช่น การบริจาคเลือด การให้ทาน จงทำทันที ที่สามารถทำได้ และ ทำเพื่อตนเอง เช่น การรักษาศีล การทำแต่สิงที่ดีๆ สิ่งที่ไม่ดีไม่ทำ การทำให้จิตสงบเย็น ฉันอาจมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ได้อีกไม่นาน จึงขอฝากไว้เพียงแค่นี้ เรียบเรียง จากบางส่วน ที่ฮอลโพสต์ ก่อนเสียชีวิตเพียง 1 วัน ขอให้เธอไปสู่สุคติเถิด Vichit Amornrojworawutสุขภาพมะเร็งมีมไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย*ชีวิตนี้มีค่ามาก*อย่าได้ปล่อยปละละเลย เป็นเรื่องของหญิงคนหนึ่ง ที่ป่วยเป็นมะเร็งในวัย 26 ปีเศษ เท่านั้น เธอได้เสียชีวิต หลังจากโพสต์ข้อความนี้ ลงใน Facebook เพียง 1 วัน และครอบครัวก็นำมาเผยแพร่ เพื่อให้ผู้อื่นอ่านและรับรู้ว่า..ชีวิตนี้มีค่ามากนะ ความคิดของคนใกล้ตาย รายนี้ ถือว่า ดีมาก ทุกคนควรตระหนัก สังขารมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา จงยังความไม่ประมาท ให้ถึงพร้อมเถิด เธอ ได้โพสต์ข้อความเหล่านี้ ก่อนเสียชีวิต เพียง 1 วัน ว่า มันก็แปลกอยู่นะ ที่ฉันจะต้องยอมรับความตายในวัยแค่ 26 ปีเศษเท่านั้น ความตาย เป็นสิ่งที่คนหนุ่มสาวอย่างเรามักจะเพิกเฉย เพราะเราคิดว่ายังจะมีวันพรุ่งนี้เสมอ เราจะมีชีวิตไปเรื่อยๆ ความตายเป็นเรื่องของวันข้างหน้า ที่ไม่มีใครรู้ว่า จะเกิดเมื่อไหร่ ฉันนึกภาพตัวเองตอนแก่ หน้าเหี่ยว ผมหงอกเต็มหัว……ฉันอยากได้ชีวิตแบบนั้น แต่ไม่มีใคร ควบคุมความตายได้ และ เรามักมองข้ามความตาย และพยายามไม่คิดถึงมัน ฉันก็เคยคิดว่า มันคงไม่ได้จะเกิดกับตัวเองหรือใครที่ฉันรัก ในเร็ววัน สิ่งที่ฉันอยากจะบอก คือ คุณเลิกกังวลกับ ปัญหางี่เง่าเล็กๆน้อยๆ ในแต่ละวัน ที่เกิดกับชีวิตเสียเถอะ ความเครียด อย่าไปสะสมเลย สิ่งที่เราทำได้ ควรจะเป็นการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ด้วยความรู้สึกที่ดี มีคุณค่าในตัวเอง ตัดเรื่องปัญญาอ่อนออกไปเถอะ ในช่วงเวลาที่คุณ เอาแต่บ่นกระปอดกระแปด ขอให้รู้ว่า คนอื่นก็เจอปัญหาแบบเดียวกับคุณ และ อาจจะอยู่ในเงื่อนไขที่แย่มากกว่าคุณอีก แม้ บางเรื่องมันกระทบจิตใจ และ สร้างความรำคาญให้ชีวิต แต่อย่าแบกมันเอาไว้ เพราะมันจะส่งต่อผลกระทบทางลบ ต่อตัวเองและคนใกล้ชิด เมื่อคุณเริ่มไม่พอใจเรื่องอะไร ขอให้รีบเดินออกมาจากตรงนั้นก่อน หายใจเข้าลึกๆให้เต็มปอด ออกไปหาจุดมองแล้วสบายตาดีกว่า วันที่คุณเซ็งกับรถติด หรือ ช่างตัดผม ตัดให้คุณสั้นเกินไป หรือ คิดว่าตัวเองนมเล็กเกินไป หรือ มีมอร์เตอร์ไซต์มาตัดหน้ารถคุณ คุณปล่อยเรื่องบ้าๆ พวกนี้ทิ้งไปเถอะ มันล้วนเป็นขยะ ทำให้เราหมดความสุข บางคน เอาแต่บ่นเรื่องปัญหาจากการทำงาน หรือ อ้างแต่ว่าไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย จงสำนึกในตอนนี้เถอะว่า มันดีแค่ไหนแล้ว ที่ร่างกายคุณ ยังทำงานได้ หรือ ยังขยับเขยื้อนได้ แต่ละวันที่คุณทำงาน หรือ เดินได้ มันดูเหมือนเรื่องเล็กน้อยมากๆนะ แต่มันจะมีค่ามาก ถ้าคุณพบกับ วันที่ไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป จงรักร่างกายของตัวเองเถอะ แม้ว่ารูปร่างเราอาจจะไม่ได้เป๊ะอย่างที่อยากเป็น อยากมีก็ตาม พยายาม กินอาหารที่ใหม่ และเป็นประโยชน์ จำเอาไว้ คำว่าสุขภาพที่ดี คือ สุขภาพทั้งจิตและกาย ดี มีอารมณ์ที่ดี เลิกสนใจข้อความใดๆ ที่ คุณอ่านแล้วทำให้ไม่สบายใจ เขึ่ยทิ้งไป หรือเลิกยุ่งเกี่ยวกับเพื่อน หรือใครก็ตามที ที่ทำให้คุณภาพชีวิตคุณตกต่ำ จงดีใจเถอะ ถ้าวันนี้ร่างกายคุณยังแข็งแรงดีอยู่ หรือ อาจจะแค่เป็นหวัด เมื่อยหลัง หรือ ข้อเท้าเคล็ดก็ตาม อาการพวกนี้ ไม่ทำให้ถึงตายหรอก เดี๋ยวก็หาย ต้องบ่นเรื่องต่างๆให้น้อยลง คนเรา มักจะมีความสุข ในเวลาที่ทำสิ่งดีๆให้คนอื่น จงพยายามทำให้มากๆเถิด มันเป็นบุญวาสนา บารมีนะ บางคน อาจจะคิดแต่เรื่องการซื้อชุดใหม่ ของสวยงาม เครื่องประดับ ที่จะใส่ไปงานต่างๆ โดยที่คุณไม่รู้หรอกว่า แท้จริง 1. ไม่มีใครมาสนใจนั่งดูหรอกว่า คุณใส่ชุดซ้ำหรือเปล่า 2.เอาเงินไปใช้ในสิ่งที่จำเป็นในชีวิตมากกว่า ดีกว่า เมื่อมีนัดที่ใด เมื่อไร พยายาม ไปถึงก่อนเวลา ตัวคุณเอง ก็จะได้รับความเคารพจากผู้คนที่เกี่ยวข้อง ใช้เงินของคุณไปกับประสบการณ์ที่ดีเถอะ หรือ อย่างน้อยก็อย่าผลาญเงินไปจนหมด จนคุณไม่ได้ทำอะไร ที่เป็นประโยชน์ฺเลย จงพยายาม หาเวลา อยู่กับธรรมชาติบ้าง ดื่มด่ำ กับสิ่งรอบตัวในช่วงเวลาที่ดี ไม่ใช่เอาแต่ถ่ายรูป หรือ เล่นมือถืออย่างเดียว ชีวิตจริงไม่ใช่ความเคลื่อนไหวที่หน้าจอ หรือ คอยแต่หามุมถ่ายรูป ใช้ชีวิตกับมัน อยู่ตรงนั้น มีความสุข กับช่วงเวลานั้นๆ ให้มากขึ้นเถอะ ลองตื่นให้เช้าขึ้น ฟังเสียงนกร้อง และ ดูความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้น ควรทำงานเพื่อเลี้ยงชีพ แต่ อย่าถึงกับ พลีชีพเพื่อการทำงาน คุณต้องทำให้ หัวใจของคุณมีความสุข ไม่ต้องไปไล่ตามคนอื่น แบบที่คนอื่นทำ คุณอาจต้องการแค่ชีวิตพื้นๆ สบายๆ ที่ไม่มีความทุกข์เท่านั้น มันก็โอเคแล้วนะ! บอกรักคน ที่คุณรัก จะเป็น พ่อแม่ ลูก พี่น้อง หรือ คนข้างกาย ในทุกครั้ง ที่มีโอกาส พยายามรักในทุกสิ่ง ทุกอย่างที่คุณมี คุณไม่รู้หรอกว่า คุณเหลือเวลาอยู่บนโลกใบนี้ อีกนานแค่ไหน อย่าไปเสียเวลากับปัญหาปลีกย่อยอีกเลย สิ่งสุดท้าย ถ้าคุณ สามารถ ที่จะทำอะไรดีๆ เพื่อเพื่อนมนุษย์ อย่างเช่น การบริจาคเลือด การให้ทาน จงทำทันที ที่สามารถทำได้ และ ทำเพื่อตนเอง เช่น การรักษาศีล การทำแต่สิงที่ดีๆ สิ่งที่ไม่ดีไม่ทำ การทำให้จิตสงบเย็น ฉันอาจมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ได้อีกไม่นาน จึงขอฝากไว้เพียงแค่นี้ เรียบเรียง จากบางส่วน ที่ฮอลโพสต์ ก่อนเสียชีวิตเพียง 1 วัน ขอให้เธอไปสู่สุคติเถิดมะเร็งมีมไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยนิยายเรื่องเงินดิจิทัลฉบับลูกทุ่ง ตอนที่2.... เอาละครับ มาถึงตอนนี้คิดว่าทุกคนคงเข้าใจแล้วนะว่าเงินดิจิทัลมันมีที่มาที่ไปอย่างไร เข้าสร้างมันมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไร แม้ว่าวัตถุประสงค์ดั้งเดิมของมันมันจะดูไม่ขาวนักก็หลิ่วตาเสียบ้าง ถ้ามันจะทำให้ท่านรวยได้เป็นหมื่นเป็นแสนล้านบาทได้ภายในห้าหกเดือนหลังที่มันออกมาใช้ ผมไม่ได้พูดเล่นๆนะ พูดเรื่องจริงเลย เรื่องเงินดิจิทัลนี้มันเป็นความฝันของนักการเงินและนักคอมพิวเตอร์ในเมืองไทยกันอย่างมาก ที่จะสร้างเหรียญดิจิทัลของคนไทยให้มันดังกระหึ่มโลก เย่างเช่นบิตคอยล์ แม้กระทั่งธนาคารพาณิชย์อย่าง ธนาคารไทยพาณิชย์เอง ก็ยังมาลงทุนในธุรกิจนี้เลย แต่มาติดขัดในกฎเกณฑ์ที่ออกมาโดย กกต., กลต., ธปท., และหน่วยงานอื่นๆอีกเยอะ เพื่อเบรกการทำธุรกิจเรื่องเงินดิจิทัลในเมืองไทย ใครจะทำธุรกิจในเรื่องนี้ต้องไปขออนุญาตจากหน่วยงานต่างๆมากมาย ที่อาจจะผ่าน อาจจะไม่ผ่าน อาจจะต้องรอฟังผลคำพิจารณา อาจะต้องรอแก้กฎหมายในสภาผู้แทนราษฎร์ก่อน ที่รวมๆแล้วไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานกี่สิบปี ธุรกิจนี้ก็เลยยังไม่รุ่งเรืองในเมืองไทย ซะที อีกประเด็นหนึ่งที่เป็นปัญหาอุปสรรคอันใหญ่หลวงของวงการเงินดิจิทัล ที่ทำให้ธุรกิจนี้ไม่มั่นคง ก็คือการรับประกันค่าเงินเหรียญที่ตนออกมาว่าจะมีค่าอย่างน้อยที่สุดเท่านี้ เท่านั้น ไม่มีวันต่ำกว่านี้ เช่นจะมีค่าต่ำสุดหนึ่งบาท ไม่มีวันต่ำกว่านี้ แม้ว่าทุกวันนี้จะมีบางเหรียญจะเริ่มมีคนออกมาค้ำประกันบ้างแล้วก็ตาม แต่ว่าเครดิตของคนค้ำประกันนั้น คนไม่ค่อยเชื่อถือ วันหนึ่งถ้าคนค้ำประกันอาจจะมุดดินหายไปแบบนาย Nakamoto จะไปตามเอากับใคร โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ผ่านมามีผู้ที่ทำธุระกิจเกี่ยวกับเงินดิจิทัลในต่างประเทศมีการล้มละลายไปแล้วหลายแห่ง พอมาถึงยุคพรรคเพื่อไทยเจ้าพ่อโปรแจ๊ค นักคิดแบบศรีธนนทชัย ก็มองออกว่า ช่องทางเดินมันจะทำอย่างไรจึงจะเลี้ยวลดผ่านวงเขาวงกตไปได้อย่างสบายบื้อ สะดือโบ๋ แก้ปัญหาข้างต้นได้ทั้งหมด ซึ่งต้องขอปรบมือให้นักคิดแห่งพรรคเพื่อไทยจริงๆ วิธีการของพรรคเพื่อไทยก็คือ 1) เอาเรื่องการแจกเงินดิจิทัล ที่มีมูลค่า 10,000 บาทให้กับประชาชน มาเป็นตัวดึงดูดเสียงสนับสนุนจากประชาชนหลายล้านคนที่ไม่รู้เรื่องในรายละเอียดของเงินแบบนี้ ทำให้เกิดความกดดันกับทุกหน่วยงานที่คุมกฎ 2) วางหมากให้นายกรัฐมนตรีควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ควบคุมบังคับบัญชาหน่วยงานต่างๆที่คุมกฎเรื่องนี้ ดังนั้นเมื่อรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยจะทำเรื่องเงินดิจิทัลนี้ แทนที่ขั้นตอนต้องมายื่นเรื่องเพื่อขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแบบ Buttom Up จากข้างล่างไปข้างบน แบบนักธุรกิจทั่วไป มันกลายเป็นการสั่งลงมาจากข้างบนลงมาข้างล่าง แบบ Top Down เพื่อที่การแก้ไขกฎระเบียบต่างๆที่ขัดขวางการทำงานในโครงการนี้ ให้มันคล่องตัว หรืออนุมัติมาเลย แบบหลักการที่ว่ากฎนั้นคนออกมาได้ คนก็แก้ได้ แก้แล้วอะไรมันจะเกิด ก็ไม่รู้แล้ว แม้กระทั่งผู้ว่าแบ็งค์ชาติท่านยังเรียกมานั่งคุยเลย ถึงแม้ว่าไม่เปิดเผยเรื่องที่คุยกัน เราก็เดาได้ว่าคุยกันเรื่องอะไร 3) ปัญหาที่เป็นจุดอ่อนที่สุดของเงินดิจิทัล คือการประกันค่าเงินขั้นต่ำของเหรียญที่ต้องทำให้คนเชื่อมั่นว่าค่าเงินจะมั่นคง ทางพรรคก็บอกว่า รัฐบาลไทยจะค้ำประกันว่าค่าเงินของเหรียญที่พรรคออกมานั้นจะเท่ากับหนึ่งบาท หลังจากออกเหรียญไปแล้วหกเดือน ผู้ถือเหรียญสามารถนำมาขึ้นเงินกับรัฐบาลได้ ในอัตรา หนึ่งเหรียญต่อหนึ่งบาท โดยไม่ได้ระบุวันหมดอายุ หรือวันที่สิ้นสุดของการเอาเหรียญมาแลกเป็นเงินสดแดงๆ นั่นคือไม่ว่ารัฐบาลท่านเศรษฐาจะหมดสมัยไปด้วยสาเหตุอะไรก็ตามรัฐบาลใหม่ที่มาก็ต้องให้แลกเงินต่อไปในอัตราหนึ่งบาทเช่นเดิม นี่คือสววรค์ของพวกฟอกเงินชัดๆ ที่ไม่มีรัฐบาลใดในโลกนี้ที่จะกล้าออกมาค้ำประกันเงินดิจิทัลที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้ออก เห็นไม๊ครับ ไม่ให้ผมปรบมือให้ได้อย่างไร เพราะกุนซือแห่งพรรคเพื่อไทยสามารแก้ปัญหาทั้งสามข้อที่เป็นจุดอ่อนของเงินดิจิทัลของโลกได้อย่างสวยงาม ไชโย! ไชโย! ไชโย! ขอให้โครงการนี้ของพรรคเพื่อไทยสำเร็จโดยเร็ว....... ไม่ใช่ผมอยากได้เงินหมื่นบาทที่จะมาแจกนะครับ เงินแค่หมื่นบาทมันกระจอกสำหรับผม เพราะโครงการนี้มันจะทำเงินให้ผมหลายแสนบาท หรืออาจจะหลายล้านบาท หรืออาจะหลายร้อยล้านบาทหากผมมีแรงทำ คุณคิดออกหรือยังว่าเราจะทำเงินกันได้อย่างไร? ผมหมดเวลาเขียนต่อพอดี ผมอยากให้ท่านไปลองคิดดูสักพักว่าเราจะทำเงินจำนวนมากๆจากโครงการนี้ได้อย่างไร? แล้วผมจะมาเฉลย มาดูว่าที่ท่านคิดกับที่ผมคิดมีอะไรตรงกันบ้าง และอะไรที่ไม่ตรงกันแต่เอามาปรับใช้หาประโยชน์จากโครงการนี้ไปด้วยกัน เขียนมาถึงตอนนี้มีคนข้างห้องตะโกนถียงกับโฆษกทีวีว่า “แล้วมันจะเอาเงิน 560,000 ล้านบาทมาจากไหนมาแจกให้ชาวบ้าน?” ทำให้ผมนึกถึงประเด็นนี้ขึ้นได้ ผมจะเฉลยคร่าวๆตรงนี้ก่อน แล้วจะอธิบายรายละเอียดต่อไปภายหลัง คำตอบของผมก็คือ มันจะมีคนมาขอขึ้นเป็นเงินสดแดงๆน้อยมาก น้อยพอๆกับภาษีมูลค่าเพิ่มที่รัฐบาลคาดการว่าจะเก็บมาได้นั่นแหละ ส่วนที่เหลือทำไมมันไม่มีคนมาขึ้นเงินหว่า???? ............ ผมจะมาเฉลยในตอนที่สามครับ ..... ...ณรงค์ กุลาข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย##วิกฤตมหาวิทยาลัย Lay off อาจารย์ - ขาย - ยุบเลิกกิจการ เผยแพร่: 26 ส.ค. 2561 07:29 โดย: ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ผู้อำนวยการหลักสูตร Ph.D. และ M.Sc. (Business Analytics and Data Science) สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ผมต้องออกมายอมรับว่าตัวเองพยากรณ์พลาดไปมาก เพราะได้เขียนบทความว่า เมื่อมหาวิทยาลัยไทยต้อง lay off อาจารย์และเจ้าหน้าที่ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2561 แต่สิ่งที่ผมคาดไว้กลับเกิดขึ้นไวกว่าที่ผมพยากรณ์ไว้มาก วันก่อนลูกศิษย์ผมที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนมาเล่าให้ฟังว่าตัวเธอเองต้องรับหน้าที่ไปบอกเพื่อนอาจารย์ว่าต้อง lay off แล้วเพราะไม่มีภาระงานสอน มหาวิทยาลัยต้องเลิกจ้างโดยไม่มีความผิดใด ๆ มีมหาวิทยาลัยเอกชนหนึ่งแห่ง ได้ขายให้กลุ่มทุนจีนแล้ว และเปลี่ยนผู้บริหารชุดใหม่ และเริ่ม lay off อาจารย์ที่สอนได้แต่ภาษาไทยและภาษาอังกฤษออกไป และเริ่มหาอาจารย์ชาวจีนที่สอนเป็นภาษาจีนได้เข้ามาทำงานแทน ไม่มีนักเรียนไทยเพียงพอแล้ว เด็กไทยมีอัตราการเกิดต่ำมาก เราเป็นสังคมสูงอายุรุนแรงมาก ถ้าไม่มีนักศึกษาจีนเลยไม่มีทางไปรอดสำหรับมหาวิทยาลัยเอกชน และที่ผ่านมาก็เอาเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาเป็นเครื่องจูงใจให้เด็กมากู้เงินแล้วเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนกันมาก แต่ก็ไม่ยั่งยืนและไปไม่รอด นอกจากนี้ยังมีมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง มีนักเรียนจีนเยอะ เด็กนักเรียนไทยหายไปมากกว่าสองในสาม กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาให้ได้ข้อตกลงเพื่อจะซื้อขายกัน แน่นอนว่าทุนจีนจะเป็นคนซื้ออีกเช่นกัน ยังไม่ได้ราคาที่ลงตัว ผมได้ยินข่าวมาว่ากลุ่มทุนจีนที่ทำธุรกิจพานักเรียนจีนเข้ามาเรียนในประเทศไทยจะลงทุนซื้อมหาวิทยาลัยเอกชนเอง และบริหารเอง และหาอาจารย์จีนมาสอนเอง และหานักเรียนจีนมาเรียนด้วยตัวเอง ครบวงจรอย่างยิ่งครับ เข้าใจว่าจะทำหอพักและร้านอาหารรอบมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำไป เรื่องนี้น่าจะมีเค้าความจริง ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวลแต่อย่างใด ที่น่ากังวลกว่าคือนักเรียนมาแล้วไม่เรียนกลับมาสนใจแต่ค้าขายรอบมหาวิทยาลัยหรือมาทำธุรกิจอย่างอื่น เรื่องนี้ต่างหากที่ไทยเราโดยเฉพาะตรวจคนเข้าเมืองต้องดำเนินการจริงจังได้แล้ว เอาเป็นว่า ณ บัดนี้ เริ่มมีการ lay off อาจารย์มหาวิทยาลัยที่ไม่มีภาระการสอนกันแล้วอย่างเป็นเรื่องเป็นราวหลายๆ ที่ครับ ที่แย่สุดคือ รองอธิการบดี หรือ คณบดี ไม่ลงไปพูดกับผู้ถูก lay off เอง แต่ให้หัวหน้าภาควิชาลงไปพูด ทำไมไม่ลงไปบอกเองหนอ สาขาวิชาที่เสี่ยงจะถูก lay off คือสาขาวิชาที่ไม่มีนักศึกษาเรียนครับได้แก่ เศรษฐศาสตร์ วันก่อนอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยออกมาพูดเองเลย สถิติคณิตศาสตร์ฟิสิกส์ วิทยาการคอมพิวเตอร์การจัดการระบบสารสนเทศ วิชาพวกนี้ยากไป เด็กไทยไม่อยากเรียน ปรัชญาประวัติศาสตร์ วิชาพวกนี้จบไปไม่มีงานโดยตรง เด็กไทยก็ไม่อยากเรียน อาจารย์มหาวิทยาลัยในสาขาวิชาพวกนี้น่าจะไปก่อนครับผม เอาเข้าจริงเห็นอาจารย์ในสาขาวิชาเหล่านี้เริ่มถูก lay off แล้วครับ ส่วนสาขาวิชาบางสาขากลับขาดแคลนหนักมาก เช่น พยาบาลศาสตร์ ผลิตเท่าไหร่ก็ไม่พอ หาอาจารย์พยาบาลก็ยากลำบากเหลือเกิน สาขาแพทย์ก็ขาดแคลนแต่ไม่เท่าพยาบาล เพราะเราเข้าสังคมผู้สูงอายุ การเจ็บป่วยก็มากขึ้น ต้องการคนดูแลมากขึ้น การปรับตัวเป็นเรื่องจำเป็นมาก โดยเฉพาะการปรับตัวหลังถูก lay off จะไปทำอะไร อายุก็มากแล้ว และอยู่ใน comfort zone ในมหาวิทยาลัยมีอำนาจเหนือนักศึกษา และหลายคนไม่ได้ทำงานจริง ๆ มานานมาก สอนหนังสืออย่างเดียว จนทำอะไรไม่เป็นแล้วก็มีมาก TCAS รอบนี้ หนักหนามากครับ ระบบห่วย ซับซ้อน และซ้ำซ้อนมากเกินไป เพราะทุกมหาวิทยาลัยแย่งเด็กที่มีจำกัดมาก มีที่นั่งให้เรียนมากกว่าจำนวนเด็กที่อยากเข้าเรียนมหาวิทยาลัย วันก่อนได้สนทนากับรองเลขาธิการ สกอ. ได้เล่าให้ผมฟังว่าปีที่ผ่านมามีมหาวิทยาลัยไทยขอเลิกกิจการไปสองแห่ง และขณะนี้มีการยื่นเรื่องเพื่อขอปิดมหาวิทยาลัยอีก 5 แห่ง มีบางมหาวิทยาลัยในต่างจังหวัดเล็ก ๆ รับเด็กได้สิบกว่าคนทั้งมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ไม่รอด ต้องเลิกกิจการแน่นอน ปีหน้าน่าจะหนักหนากว่านี้ TCAS ปีนี้ที่มีปัญหามาก ส่วนหนึ่งคือนักเรียนสมัครน้อย และเกิดการชิงเปรต แย่งเด็กกัน TCAS เที่ยวนี้เอาเข้าจริงคือ 7 รอบ (รวม 3/1 และ 3/2) ใช้เวลานานเกือบครึ่งปี และมีระบบสอบมากกว่า 50 ระบบ มหาวิทยาลัยแย่งเด็กกันเพราะสถานการณ์เช่นข้างบน รอดูครับ มีแต่จะเลวร้ายลงไปกว่านี้ พวกมหาวิทยาลัยราชภัฎ ในต่างจังหวัด ที่นักศึกษาลดลงมากก็มีการเลิกจ้างและเลย์ออฟอาจารย์ที่เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยกันมากมาย ที่ยังอยู่กันไล่ไม่ได้คืออาจารย์มหาวิทยาลัยที่เป็นข้าราชการเท่านั้น ซึ่งก็เหลืออยู่ไม่มากนัก พวกพนักงานมีสัญญากันไม่กี่ปีตอนนี้จะเริ่มถูกเลย์ออฟครับ ถ้าไม่มีภาระงานสอน และไม่มีภาระงานอย่างอื่น ใครจะขึ้นมาเป็นคณบดี อธิการบดี รองอธิการบดี โปรดเตรียมตัวมาทำหน้าที่นี้เพื่อความอยู่รอดของหน่วยงานของตัวเอง โปรดเตรียมตัวไปศาลปกครองด้วย ขอให้โชคดีกันนะครับ มหาวิทยาลัยของรัฐก็อย่าชะล่าใจ มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ จะมีวิธีการบริหารที่เด็ดขาดกว่า เช่น สาขาวิชาไหน ไม่มีนักศึกษาเรียนพอแล้วทำให้ขาดทุน ก็ต้องยุบไป ต้องเกลี่ยอาจารย์ไปสอนในสาขาวิชาที่มีนักศึกษา หากปรับตัวไม่ได้หรือไม่มีสาขาวิชาไหนต้องการก็ต้องลาออกไป ไม่ต่อสัญญาจ้าง จะถูกบีบให้ออก เพราะไม่มี value และ ไม่มี contribution อะไรที่มาทดแทนกันได้ หรือไม่ก็ให้โอกาสให้ไปเขียนหลักสูตรมาใหม่ ทำให้มีนักศึกษามาเรียนให้ได้ เวลานี้สถานการณ์มหาวิทยาลัยไทย ย่ำแย่มาก ไม่มีนักศึกษา และอาจารย์กำลังจะถูก lay off มากขึ้นเรื่อยๆ ประเทศเล็กๆ มีมหาวิทยาลัยมากเกือบสามร้อยแห่ง ยุบๆ ไปบ้าง หรือยุบรวมกันไปบ้าง มากกว่าครึ่งหนึ่งยังเหลือแหล่เกินพอเพียง โรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาก็ควรยุบไปบ้างครับ ตำแหน่งครูก็ยุบลงไปรวมกันในโรงเรียนใหญ่กว่าได้ครับ ที่พูดมานี้ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำอำมหิต หรือไม่เห็นใจครูบาอาจารย์มหาวิทยาลัย แต่สถานการณ์จะเป็นนายของทุกคน เด็กไม่มี เงินไม่มี ก็ไม่มีเงินจะจ้าง สถานการณ์จะบีบให้ผู้บริหารต้องบีบอาจารย์มหาวิทยาลัยลาออกไปครับ ดังนั้นอาจารย์มหาวิทยาลัย ควรมีอาชีพอื่นหรือแหล่งรายได้อื่นสำรองได้แล้วครับ ที่จะเอาทุนไปเรียนต่อปริญญาเอกก็คิดกันให้ดี ๆ กลับมาอาจจะไม่มีนักศึกษาให้สอน แล้วต้องไปทำงานธุรการก็ได้ ใครจะไปรู้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ สวัสดีอาจารย์มหาวิทยาลัยไทย นี่คือความจริงอันเจ็บปวดที่ท่านกำลังต้องเผชิญ แต่ที่ผมห่วงยิ่งกว่าคือเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัย ซึ่งมีจำนวนมากยิ่งกว่าอาจารย์มหาวิทยาลัย และมีวุฒิการศึกษาน้อยกว่าอาจารย์ ซึ่งน่าจะถูกเลย์ออฟไปด้วย จะไปอยู่ที่ไหน จะไปทำงานอะไรหลังถูก lay off นี่ก็เป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก เพราะโอกาสน่าจะน้อยกว่าอาจารย์มหาวิทยาลัยค่อนข้างมาก ก็ต้องเตรียมตัวกันให้ดีครับ.ข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอ่านหน่อยนะ เตรียมตัวไว้นะ คนเยอะแยะบอกเราว่า ทำอย่างไรจึงจะไม่ติดไวรัสโคโรน่า แต่ไม่ยักมีใครสักคนบอกว่า ถ้าเกิดติดไวรัสแล้ว จะต้องทำอย่างไร ขอบคุณนะ คุณพยาบาลในจักรภพอังกฤษที่รวบรวมคำแนะนำนี้ให้เรา นี่เป็นคำแนะนำที่มีเหตุผลบางประการ จากพยาบาลทั่วไปในอังกฤษ นี่เป็นสิ่งที่ดิฉันเจอคำแนะนำว่า แรกที่สุดต้องทำอย่างไร จึงจะหลีกพ้นจากการติดไวรัส: • ล้างมือให้สะอาดหมดจด รักษาอนามัยร่างกาย อยู่ห่างๆ ผู้คน แต่ที่ดิฉันไม่เคยเห็นเลย คือ คำแนะนำว่า ถ้าเกิดติดไวรัสขึ้นมาจริงๆ จะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ซึ่งนี่อาจจะเกิดขึ้นกับพวกเราได้นะ ดังนั้น ในฐานะเป็นพยาบาลเพื่อนใกล้บ้าน ดิฉันขอให้คำแนะนำบางประการ: ถ้าคุณ เกิดติดเชื้อ โควิด-19 ขึ้นมา คุณต้องรู้จักเตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อน คล้ายๆกับว่า คุณรู้แล้วว่าคุณโดนไอ้เจ้าเชื้อทางเดินลมหายใจเล่นงานเข้าแล้ว เช่น เป็นมีภาวะหลอดลมอักเสบ หรือ ภาวะปอดบวม คุณต้องนึกไว้นะว่าอาการเหล่านี้จะเกิดกับตัวคุณ คุณต้องเริ่มทำสิ่งต่อไปนี้เดี๋ยวนี้เลย : ให้แสงแดดชะโลมทั่วตัววันละ 20 นาทีทุกวัน (หรือมากที่สุดเท่าที่จะทำได้) แสงแดดจะเพิ่มระดับไวตามิน D ให้คุณมากมาย นี่จะไปเสริมความสามารถของภูมิคุ้มกันของตัวคุณ ถ้ามีกำลังทรัพย์ ให้กินอาหารเสริมดีๆ ร่วมกับไวตามิน C 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน รวมทั้ง สังกะสี ซิลิเนียม และ สารกลูทาไธโอน น้ำมันตับปลายี่ห้อ Scott’s Emulsion ก็เป็นอาหารบำรุงชั้นดีทีเดียว (น้ำมันตับปลาค้อด) สิ่งที่คุณจำเป็นต้องซื้อล่วงหน้าเข้าไว้ก่อน คือ: *กระดาษ Kleenex* *ยาพาราเซตามอล Paracetamol* *ยาแก้ไอ ตามที่ชอบ (ให้ดูฉลากยาด้วย เพื่อให้แน่ใจว่า ยาแก้ไอจะไม่มียาพาราเซตามอลไปเพิ่มอีก) *ยาอมผสมสังกะสี *สะเปรย์พ่นคอ เช่น Andolex หรือ TCP *น้ำผึ้งกับมะนาวก็ได้นะ ดีทีเดียวละ ! ยาหม่อง Vicks* vaporub ก็ดีนะ คนใช้กันเยอะ *เครื่องลดความชื้น ก็ควรจะซื้อมาใช้ในห้องที่คุณจะนอนทั้งคืน (คุณอาจจะใช้วิธีอาบน้ำอุ่นจากฝักบัว และนั่งในห้องน้ำ หายใจเอาไอน้ำเข้าตัวก็ได้นะ) ถ้าคุณเคยเป็นหอบหืด และหมอเคยจ่ายยาพ่นให้ ต้องแน่ใจนะว่า มันยังไม่หมดอายุ ให้หายาพ่นมาสำรองไว้นะ *อาหารการกิน* นี่เป็นเวลาเหมาะแก่การทำอาหารดีๆกิน ให้ทำซุบไว้เยอะๆเลย ใส่ตู้เย็นเอาไว้ พร้อมทุกเมื่อ *น้ำ น้ำ น้ำ* ตุนไว้เลยนะ ของเหลวใสๆที่คุณชอบนั่นแหละ เอาไว้ดื่มกิน น้ำประปาก็น่าจะดีนะ บางครั้งบางคราวคุณอาจนะต้องใช้ *การจัดการกับอาการที่เกิดขึ้น เมื่อมีไข้สูงกว่า 38°c ให้กินยา Paracetamol จะดีกว่ายา Ibuprofen. *พักผ่อนเยอะๆ * คุณไม่ควรออกจากบ้านนะ ! ถึงแม้ว่าคุณรู้สึกดีขึ้น ไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ก็อาจจะมีเชื้อไวรัสอยู่กับตัวไปตั้ง 14 วัน ดังนั้น คนแก่กับคนที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว อย่าไปใกล้เขานะ *ใส่ถุงมือและหน้ากากอนามัย* เพื่อป้องกันไม่ให้กระจายเชื้อไปให้คนอื่นในบ้านของคุณเอง *กักตัว* ในห้องนอน ถ้าคุณไม่ได้อยู่แต่ลำพัง ให้บอกเพื่อนและคนในครอบครัวให้ วางสิ่งที่จะส่งให้คุณไว้ภายนอก เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสติดต่อ *ทำความสะอาด* ซักผ้าปูที่นอน เสื้อผ้าบ่อยๆ และล้างห้องน้ำด้วยน้ำยาทำความสะอาดด้วย *คุณไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล เว้นไว้แต่ว่า คุณกำลังหายใจลำบาก หรือมีไข้สูงมาก(มากกว่า 39°C) แล้ว ใช้หยูกยาต่างๆ ไม่ได้ผล กับผู้ใหญ่ ที่มีสุขภาพดีแล้ว 90% สามารถดูแลได้ที่บ้าน โดยการพักผ่อน ดื่มน้ำ กินยาที่หาซื้อได้จากร้านขายยา ถ้าคุณกังวล หรือไม่สบายใจ รู้สึกว่า ตัวเองอาการจะหนักขึ้น *ความเสี่ยงที่มีอยู่แล้ว* ถ้าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับสภาพปอด (เช่น หายใจติดขัด ถุงลมโป่งพอง มะเร็งปอด) หรือกำลังได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ต้องคุยกับหมอแล้วละว่า คุณควรจะทำอย่างไร หากคุณเกิดไม่สบายขึ้นมา *สำหรับเด็กๆ* พ่อแม่ออกจะโล่งใจว่า โคโรนาไวรัส ญาติดีกับเด็กมาก มันมักจะเป็นไม่กี่วันก็หาย (แต่มันก็ยังเป็นเชื้อโรคติดต่อนะ) จึงต้องคำนึงถึงสภาพเด็กๆ ด้วย . *ให้มีสติและตระเตรียมตามควรแก่เหตุ* แล้วทุกอย่างจะไม่เสียหาย จะบอกคุณเอาไว้ว่า ค่า pH ของโคโรนาไวรัสทั้งหลาย มีได้ตั้งแต่ 5.5 ถึง 8.5. สิ่งที่เราต้องทำ ในการจัดการกับไวรัสโคโรนา คือ เราต้องกินอาหารที่มีฤทธิ์เป็นด่าง โดยมีค่า pH สูงกว่าของไวรัส ดังที่บอกไว้ข้างบนนี้ อาหารเหล่านั้น เช่น *มะนาวฝรั่ง - 9.9pH* *มะนาว - 8.2pH* *อะโวคาโด - 15.6pH* *กระเทียม - 13.2pH* *มะม่วง - 8.7pH* *ส้มเขียวหวาน - 8.5pH* *สับปะรด - 12.7pH* *ดอกเก็กฮวย(?) - 22.7pH* *ส้ม - 9.2pH* คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณติดไวรัสโคโรนาเข้าให้แล้ว? 1. คันคอ 2. คอแห้ง 3. ไอแห้งๆ 4. มีไข้ตัวร้อน 5. หายใจถี่ หอบ 6. ไม่ได้กลิ่น และไม่รู้รส 7. นิ้วเท้า มีสีเขียวคล้ำ หรือดำ ดังนั้น เมื่อใดมีอาการอย่างนี้ให้กินน้ำอุ่น ร่วมกับน้ำมะนาวเข้าไปเลย อย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ กรุณาส่งต่อๆไปให้คนในครอบครัวและเพื่อนๆด้วยนะโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัย⏰ถ้าไม่อ่าน..คุณจะเสียใจ💥 ■ รองเท้าเด็กน้อยถูกคลื่นทะเลซัดหายไป..เด็กน้อยเขียนที่ริมหาด ว่า.⭐." ทะเลคือขโมย " (black small square)อีกชายฝั่งของทะเลชาวประมงหาปลาได้เป็นจำนวนมาก..ชาวประมงเขียนที่หาดทรายว่า... " ⭐ทะเลคือผู้ให้ " ◾ชายหนุ่มคนหนึ่งจมทะเลตาย..แม่ของเขาเขียนที่ชายหาดว่า.. " ⭐ทะเลคือฆาตกร " . ◾ชายชราเดินหลังค่อม ก้มหน้าเดินถือไม้เท้า พบไข่มุกอันล้ำค่า จึงเขียนว่า ⭐." ทะเลคือผู้เมตตา " . ทันใดนั้น " คลื่น " ได้ซัดยังชายฝั่งและลบการเขียนทั้งหมด ! พร้อมกล่าวขึ้นเบาๆ ว่า.. ▪️."อย่าไปสนใจคำตัดสินของผู้อื่น หากเจ้าคิดจะเป็นทะเล " ▪️.อย่าไปวิตกกับสิ่งที่ผ่านมา ความพ่ายแพ้ หรือความผิดหวัง ความสุข หรือความทุกข์ เพราะหากชีวิตมนุษย์จะเรียบง่าย คงไม่เริ่มต้นด้วยการร้องไห้เมื่อแรกเกิด ▪️คนเรา " เกิดมา " พร้อมกับเสียงร้องไห้ของตัวเอง แต่ ▪️ " ตายไป " พร้อมกับเสียงร้องไห้ของผู้อื่น ช่วงเวลาระหว่างนั้น เรียกว่า " ชีวิตคน " ▪️แมวชอบกินปลา แต่แมวลงน้ำไม่ได้ ▪️ปลาชอบกินไส้เดือน แต่ขึ้นฝั่งมากินไส้เดือนไม่ได้ ▪️ ชีวิตคนเรา " มีได้ - มีเสีย " มีทั้ง "ได้เลือก" และต้อง "ล้มเลิก" ▪️.ในชีวิตคนเราไม่มีทางที่ทุกอย่างจะเป็นไปดั่งใจนึกได้หมด .▪️จงอย่าไปคิดเล็กคิดน้อยกับใครเพราะมันไม่คุ้ม ▪️จงอย่าจริงจังกับ ตัวเองเกินไปเพราะจะทำร้ายตัวเอง ▪️จงอย่าไปจมอยู่แต่อดีต เพราะมันไม่ได้อะไรขึ้นมา.. ▪️จงอย่าจริงจังกับปัจจุบันมากไปเพราะชีวิตยังคงต้องเดินต่อไป.. ▪️ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นของๆ เรานอกจากสุขภาพกายที่แข็งแรง (⭐อันมาจากสุขภาพใจที่เข้มแข็ง เปี่ยมกำลังใจ) ▪️อย่าได้อวดเรื่องเงินเรื่องทอง ตายไปก็กลายเป็นเพียงเศษกระดาษ ▪️.อย่าได้อวดเรื่องหน้าที่การงาน ลาออกไปแล้วจะมีคนมาแทนที่คุณและอาจทำได้ดีกว่าคุณ ▪️อย่าอวดเรื่องบ้านเรื่องรถ ตายไปแล้วก็เป็นของทายาท..คุณหมดเวลา ▪️คุณอวดเรื่อง"สุขภาพแข็งแรง"จะดีกว่า คนอื่นตายไปแล้วคุณยังนอนเล่นริมทะเลนั่งจิบชามองดูลูกหลาน..อย่างมีความสุขและเข้าใจในชีวิต. ⭐ "10 ปี 7 ครั้ง" ค่อยๆตั้งใจอ่าน เปิดใจรับแล้วจะพบแต่ความสุขที่ได้เกิดมาบน โลกใบนี้..... ▪️"ชีวิตคนเราจะมีสิบปีสักกี่ครั้งกัน" ชอบประโยคนี้มากมันจริงอย่างยิ่ง ▪️ถ้าคนเราอายุเฉลี่ย 70 ปี เราก็มี 10 ปีแค่ 7 ครั้ง ▪️1. สิบปีแรก...หมดไปกับความไร้เดียงสา ▪️2. สิบปีต่อมา...หมดไปกับการศึกษาเล่าเรียน ▪️3. สิบปีต่อมา...หมดไปกับการทำงานและการใช้ชีวิต ▪️4. สิบปีต่อมา...หมดไปกับการสร้างฐานะ สร้างครอบครัว ▪️5. สิบปีต่อมา...หมดไปกับการลงหลักปักฐาน รักษาสิ่งที่หามา ▪️6.สิบปีต่อมา...หมดไปกับการดูแลรักษาสุขภาพกายใจให้แข็งแรง ▪️7.สิบปีสุดท้าย...หมดไปกับการปล่อยวางทุกสิ่งรอคอยการกลับบ้าน ▪️แต่ละสิบปีผ่านไป... ไวเหมือนโกหกอีกไม่นานปีนี้ก็จะผ่านไป ▪️มีอะไรที่เราทำไปแล้วมากมายและก็ยังมีอะไรอีกมากมายที่เรายังไม่ได้ทำ ▪️ เวลา คือ หน่วยเงินในกำมือของเราที่เอาไปแลกสิ่งอื่น - เราเอาเวลาไปแลกงาน - เราเอางานไปแลกเงิน - แต่เราก็ไม่เคยเอาเงินไปแลกเวลาคืนกลับมาได้สักที ▪️ถ้า 'ธนาคารเวลา'มีจริง เราก็ไม่เคยมีสมุดบัญชีสักเล่มที่จะให้เราดูได้..ว่าตอนนี้เหลือเวลาอยู่เท่าไหร่? ◾เรารู้ว่าเราใช้"สิบปี"ของเราไปกี่ครั้งแล้ว ◾แต่เราไม่อาจรู้ว่า... เราจะใช้"สิบปี"ที่เหลือของเราได้ครบมั้ย ▪️แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับเราใช้เวลาสิบปีของเราไปคุ้มค่าหรือเปล่า ▪️เมื่อเราหันหลังกลับมาขอให้พูดได้เต็มปากว่าเราใช้มันไปอย่างไม่น่าเสียดาย ⭐ ชี วิ ต ค น เ ร า จ ะ มี "สิ บ ปี" สั ก กี่ ค รั้ ง กั น? ⭐ ใช้สิบปี เจ็ดครั้งของเรา ใ ห้ คุ้ ม ค่า สวัสดีกับสิบปีปัจจุบันของท่าน เขียนดีมาก อ่านให้จบ คุณอาจจะหัน มารักตัวเอง... ⭐สรุป: ชีวิตที่เรียบง่าย ให้สนุกกับการใช้ชีวิต 30% ที่เป็นของคุณ ⭐- ไม่เจ็บปวดแต่ก็ต้อง บำรุง ⭐- ไม่กระหายแต่ก็ต้อง ดื่มน้ำ ⭐- ว้าวุ่นแค่ไหนก็ต้อง ปล่อยวาง ⭐- มีเหตุมีผลแต่ก็ต้อง ยอมคน ⭐- มีอำนาจแต่ก็ต้องรู้จัก ถ่อมตน ⭐- ไม่เหนื่อยแต่ก็ต้อง พักผ่อน ⭐- ไม่รวยแต่ก็ต้อง รู้จักพอเพียง ⭐- ธุระยุ่งแค่ไหนก็ต้องรู้จัก พักผ่อน ⭐- หมั่นเตือนตน : ชีวิตนี้สั้นนัก 🔺️# อยากกิน...กิน 🔺️# อยากเที่ยว....เที่ยว 🔺️# เรื่องกลุ้มอย่าเก็บไว้ 🔺️# ไม่เครียด ปล่อยวาง 🔺️# สุขสบายทุกเพลา ◾ เวลาที่ยังจับมือไหว ให้เชิญเพื่อนมาสังสรรค์ หรือออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆบ้าง ◾ เวลาที่ยังกอดไหว ให้โอบกอดให้ชื่นใจ ◾ ทำหน้าที่พ่อ แม่ ลูก สามี ภรรยา พี่ น้อง และเพื่อนที่ดีต่อไป ▪️ ครอบครัวสุขสรรค์ มาก่อนเสมอ !!! ▪️ เวลาที่อยู่ด้วยกัน อย่าได้โกรธกันง่ายๆ ▪️ที่สำคัญ ต้องเป็น "ผู้ให้" ก่อนเสมอ ▪️เต็มใจ - สุขใจ ที่เป็นผู้ "ให้" ▪️รู้จัก "ขอโทษ" และ "สำนึกผิด" ทุกครั้งที่ทำ "ผิด" ▪️ ท้ายสุด "ปล่อยวาง" และ "พอเพียง" ⭐ คิดดี ทำดี พูดดี...มีสุข # ถ้าคุณส่งให้เพื่อนๆแสดงว่าคุณเป็นคนรักและหวังดีกับเพื่อนคุณ #ถ้าไม่ส่งแสดงว่าคุณรักแต่ตัวเองไม่คิดจะเผื่อแผ่ความสุขให้คน รอบข้างและเตือนสติเพื่อนของคุณไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ