12979 ข้อความ
- 1 คนสงสัยมีการแชร์ข่าวบนโลกออนไลน์ว่า ผลข้างเคียงของการ ฉีดวัคซีนโควิด19 มีผลเกี่ยวกับระบบการสืบพันธุ์ของผู้ชายและผู้หญิง โดยทำให้ผู้ชาย มีอสุจิน้อยลง เป็นหมัน และในผู้หญิง มดลูกมีปัญหา มีบุตรยาก เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไร?ก่อนหน้านี้ก็เคยมีความกังวลในหมู่คุณผู้ชาย ว่าหากรับวัคซีนโควิด19 แบบ mRNA เช่น ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์น่าแล้ว จะส่งผลให้ปริมาณน้ำเชื้อ อสุจิลดน้อยลง ซึ่งข้อมูลจาก ดร.เดวิด โคเฮน ผู้อำนวยการร่วมด้านการแพทย์ของสถาบันเพื่อการสืบพันธุ์ของมนุษย์ในชิคาโก ระบุว่า "ตอนนี้หลักฐานน่าจะรับรองได้ว่า ความเสี่ยงของการฉีดวัคซีนโควิด19 ส่งผลต่อจำนวนอสุจิต่ำมาก" แม้ว่าวัคซีนจะไม่มีผลต่อสเปิร์ม แต่ โควิด19 มีผลต่อระบบสืบพันธุ์เพศชาย โดยเมื่อเทียบคุณภาพสเปิร์มของผู้ป่วยกับผู้ชายสุขภาพดี ผลพบว่า มีอัตราการอักเสบในเซลล์อสุจิของผู้ป่วย เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ความเข้มข้นของสเปิร์ม การเคลื่อนไหวและรูปร่าง ได้รับผลกระทบจากไวรัส แต่เพียงเล็กน้อยและชั่วคราวเท่านั้นสุขภาพโควิด 2019มีมeardoil• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผลิตภันฑ์ลดความอ่อนเยาว์ผลิตภันฑ์ Everlift คืนความอ่อนเยาว์ให้20-30ปีความสวยความงามอย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังศุภกฤต หนูเงิน• 1 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! กรมขนส่งฯ เปิดให้ทำข้อสอบใบขับขี่ที่เว็บไซต์ www.thaidriveexam.comตามข้อมูลที่พบบนช่องทางออนไลน์เรื่องกรมขนส่งฯ เปิดให้ทำข้อสอบใบขับขี่ที่เว็บไซต์ www.thaidriveexam.com ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จstd48336• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยอาการหนาวเป็นสัญญาณของไตขวาเสื่อมข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ อาการขี้หนาวเป็นสัญญาณของไตขวาเสื่อม . ตามที่มีการส่งต่อข้อมูลในสื่อโซเชียลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องอาการขี้หนาวเป็นสัญญาณของไตขวาเสื่อม ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ . กรณีที่มีการโพสต์คำแนะนำในสื่อสังคมออนไลน์โดยระบุว่า อาการขี้หนาวเป็นสัญญาณบ่งบอกโรคไตขวาเสื่อม ทางโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า อาการขี้หนาวไม่มีความเกี่ยวข้อง หรือเป็นสาเหตุสัญญาณบ่งบอกโรคไตขวาเสื่อมแต่อย่างใด . ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.rajavithi.go.th หรือ โทร. 02-206-2900 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : อาการขี้หนาวไม่มีความเกี่ยวข้องหรือเป็นสาเหตุสัญญาณบ่งบอกโรคไตขวาเสื่อมแต่อย่างใด . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขstd48339• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! ก.ล.ต ร่วมเอกชนเปิดกองทุนหลักทรัพย์ เริ่มต้น 2,262 บาทตามที่มีข่าวสารในประเด็นเรื่อง ก.ล.ต ร่วมเอกชนเปิดกองทุนหลักทรัพย์ เริ่มต้น 2,262 บาท ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมstd48336• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเชรั่มทำให้จมูกโด่งผลิตภันฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้จมูกดั่งโด่งภายใน7วันความสวยความงามผู้บริโภคเฝ้าระวังศุภกฤต หนูเงิน• 1 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยดื่มฉี่รักษาโรค?มีการแชร์ว่าการดื่มปัสสาวะช่วยให้รักษาโรคได้ยาสมุนไพรstd48335• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยดื่มน้ำตอนเล่นมือถือข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ ห้ามดื่มน้ำขณะชาร์จโทรศัพท์โดยใช้สายไปด้วย เพราะกระแสไฟจะวิ่งเข้าหัวใจและเสียชีวิต . ตามที่มีข้อมูลแนะนำเกี่ยวกับเรื่องห้ามดื่มน้ำขณะชาร์จโทรศัพท์โดยใช้สายไปด้วย เพราะกระแสไฟจะวิ่งเข้าหัวใจและเสียชีวิต ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ . จากที่มีผู้ส่งต่อข้อมูลว่า ห้ามดื่มน้ำขณะชาร์จโทรศัพท์โดยใช้สายไปด้วย เพราะกระแสไฟจะวิ่งเข้าหัวใจและเสียชีวิต ทางศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า คลิปที่มีการเผยแพร่ต่อ ๆ กันดังกล่าว เป็นเพียงการแสดงเท่านั้น เพราะหากถูกไฟดูดจริง จะต้องมีการสะบัดมือที่จับโทรศัพท์ หรือร่างกายต้องกระตุกจากการโดนไฟช็อต รวมทั้งกระแสไฟจะต้องครบวงจรก่อน ซึ่งไม่ต้องรอถึงขั้นดื่มน้ำก็สามารถที่จะโดนไฟดูดได้แล้ว . ทั้งนี้ การเสียชีวิตโดยที่มีกระแสไฟวิ่งเข้าหัวใจหลังจากดื่มน้ำขณะชาร์จโทรศัพท์นั้น ไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด ซึ่งการเสียชีวิตดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับวัสดุที่มีแรงดันไฟฟ้ามาอยู่ใกล้กับอวัยวะในร่างกายที่ค่อนข้างบอบบาง เช่น หู แก้ม เป็นต้น . ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.nectec.or.th/ หรือ โทร. 02-564-6900 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การเสียชีวิตโดยที่มีกระแสไฟวิ่งเข้าหัวใจหลังจากดื่มน้ำขณะชาร์จโทรศัพท์นั้น ไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด ซึ่งการเสียชีวิตดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับวัสดุที่มีแรงดันไฟฟ้ามาอยู่ใกล้กับอวัยวะในร่างกายที่ค่อนข้างบอบบาง เช่น หู แก้ม เป็นต้น . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมผู้บริโภคเฝ้าระวังมีมstd48339• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยดื่มฉี่รักษาโรค?มีการแชร์ว่าการดื่มปัสสาวะข่วยให้รักษาโรคได้std48335• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวิตามินบีลดภาวะไหลตายวิตามินบีช่วยลดภาวะการเกิดไหลตายหรือหัวใจล้มเหลวศุภกฤต หนูเงิน• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอย่าแชร์! ข่าว "พายุฤดูร้อนถล่ม กทม.-ปริมณฑล" ไม่ใช่ข่าวจริงศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เตือนอย่าแชร์ข่าว "คลื่นความหนาวจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยทุกภาค และพายุฤดูร้อนกำลังจะเข้าถล่มกรุงเทพฯ กับปริมณฑล" ระบุเป็นข่าวลือที่วนซ้ำในสื่อสังคมออนไลน์ และยังไม่มีการประกาศเตือนสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา วันนี้ (17 ก.พ.2565) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย หรือ Anti-Fake News Center Thailand โพสต์ข้อความในเว็บไซต์ว่า "ข่าวปลอม อย่าแชร์! คลื่นความหนาวจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยทุกภาค และพายุฤดูร้อนกำลังจะเข้าถล่มกรุงเทพฯ กับปริมณฑล" โดยระบุว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อเกี่ยวกับประเด็น คลื่นความหนาวจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยทุกภาค และพายุฤดูร้อนกำลังจะเข้าถล่มกรุงเทพฯ กับปริมณฑล ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีข้อความบนสื่อออนไลน์กล่าวว่าคลื่นความหนาวจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยทุกภาค และพายุฤดูร้อนกำลังจะเข้าถล่มกรุงเทพฯ กับปริมณฑล ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงว่า เป็นข่าวลือที่วนซ้ำในสื่อสังคมออนไลน์ และยังไม่มีการประกาศเตือนสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาแต่ประการใด ทั้งนี้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณหัวเกาะสุมาตรา ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ จะทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ดังนั้น ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากทาง กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.tmd.go.th/index.php หรือโทร. สายด่วน 1182 และหมายเลขโทรศัพท์ 0 2399 4547 ตลอด 24 ชั่วโมงสภาพอากาศstd46673• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยสปสช.แจ้งเตือนมิจฉาชีพแอบอ้างส่ง SMS ให้อัปเดทข้อมูลบัตรทอง มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ ย้ำอย่าหลงเชื่อ ระวังโดนแฮกข้อมูลหรือถูกหลอกให้โอนเงิน ยันบัตรทองเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานสำหรับคนไทยทุกคน ไม่มีการตัดสิทธิแน่นอน หากสงสัยอะไรให้โทรสอบถามที่สายด่วน 1330 ก่อนวันที่ 31 มีนาคม 2566 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ในระยะนี้พบว่ากลุ่มมิจฉาชีพได้แอบอ้างชื่อ สปสช. ส่ง SMS ไปยังโทรศัพท์มือถือของประชาชน โดยอ้างว่า สปสช.มีนโยบายให้อัปเดทข้อมูลบัตรบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทองให้เป็นข้อมูลปัจจุบัน มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิทันที พร้อมแนบลิงก์สำหรับให้คลิกเข้าไปอัปเดทข้อมูล ทพ.อรรถพร กล่าวว่า สปสช. ไม่มีนโยบายโทรหรือส่ง SMS สอบถามข้อมูลส่วนบุคคลแต่อย่างใด SMS เหล่านี้ไม่ได้ส่งจาก สปสช. แต่เป็นการแอบอ้างชื่อเพื่อหลอกให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่กลุ่มมิจฉาชีพ ดังนั้น โปรดอย่าได้หลงเชื่อคลิกลิงก์ที่แนบมาด้วย เพราะมีความเสี่ยงที่อาจจะถูกแฮกข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางการเงิน หรืออาจถูกหลอกล่อด้วยวิธีการต่างๆ จนผู้เสียหายหลงโอนเงินไปให้ดังที่มักปรากฎเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้งในระยะนี้ ทพ.อรรถพร กล่าวว่า สิทธิบัตรทองนั้น เป็นสิทธิที่ติดตัวตั้งแต่เกิดจนตายสำหรับคนไทยทุกคน ไม่มีการตัดสิทธิใด ๆ ทั้งสิ้น มีแต่การเปลี่ยนไปใช้สิทธิอื่น เช่น หากเข้ารับราชการก็จะเปลี่ยนมาใช้สิทธิสวัสดิการของราชการ หรือหากเข้าทำงานในบริษัทเอกชน ก็จะเปลี่ยนสิทธิมาใช้ระบบประกันสังคม และหากมีการเปลี่ยนสถานะ เช่น ลาออกจากราชการหรือลาออกจากบริษัท ก็จะเปลี่ยนกลับมาเป็นสิทธิบัตรทองโดยอัตโนมัติ แต่ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม คนไทยทุกคนจะต้องมีสิทธิการรักษาพยาบาลอย่างน้อย 1 สิทธิเสมอ ไม่มีการตัดสิทธิ/ยกเลิกสิทธิ จนกลายเป็นคนที่ไม่มีสิทธิในการรักษาพยาบาลใดๆ เลยแน่นอน “ระบบบัตรทองเป็น Social safety net หมายความว่า ถ้าคุณใช้สิทธิอะไรในการรักษาพยาบาลแล้วหลุดจากสิทธินั้น ก็จะมีระบบบัตรทองรองรับเสมอ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐธรรมนูญกำหนด ไม่มีการหมดสิทธิหรือยกเลิกสิทธิแน่นอน” ทพ.อรรถพร กล่าว ทพ.อรรถพร กล่าวย้ำว่า ปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพได้พัฒนารูปแบบการหลอกลวงให้แนบเนียนมากขึ้นเรื่อยๆ มีการแอบอ้างชื่อหน่วยงานราชการเพื่อความน่าเชื่อถือ รวมทั้ง สปสช. ก็เป็นอีกหน่วยงานที่ระยะนี้ถูกแอบอ้างชื่อบ่อยครั้งมากขึ้น ทั้งการโทรมาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ สปสช. หรือการส่ง SMS อ้างชื่อ สปสช. รวมทั้งในอนาคตอาจมีการแอบอ้างในช่องทางอื่นๆอีก ดังนั้น หากประชาชนมีข้อสงสัยใดๆ ขอให้โทรตรวจสอบมาที่สายด่วน สปสช. 1330 หรือสอบถามทางไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso ก่อน เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อจนสูญเสียเงินผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมstd48333• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยNRG Victor นักแข่งวาโลชื่อดังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยNRG Victor นักแข่งวาโลชื่อดังหายตังไปอน่างไร้ร่องรอยจึงทำให้ผู้คนในทีมเกินตามให้กันและตะโกนว่า VICTORRRR!!!มีมstd48342• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสอท.ทลายรัง ทําของปลอมเครื่องสําอาง ขาย “ว่อนเน็ต”ตำรวจ บช.สอท.ร่วมกับ อย.ทลายแหล่งผลิตเครื่องสำอางเถื่อนที่ จ.สงขลา พร้อมของกลางลอตใหญ่ อ้างสรรพคุณ “เปลี่ยนผิวดำตามกรรมพันธุ์ สู่ผิวขาวสดใสภายใน 7 วัน” ขายว่อนทางออนไลน์ ขณะที่ อย.เตือนชาวบ้านอย่าซื้อมาใช้ เพิ่มโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังและส่งผลให้ไตอักเสบ ตำรวจบุกทลายเครื่องสำอางเถื่อน เปิดเผยเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 25 ส.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. และ ภญ.สุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาการรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ลักลอบผลิต และจำหน่ายเครื่องสำอางโดยไม่ได้รับอนุญาต ตรวจยึดผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบ สารเคมี และเครื่องมือที่ใช้ในการผลิตมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตรวจสอบพบการโฆษณาเกินจริงของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง “ดีเอ็น ออร่า ไวท์ บอดี้ โลชั่น” เลขที่ ใบรับจดแจ้ง 11-1-6300052215 ทางสื่อออนไลน์และอีมาร์เกตเพลสเป็นจำนวนมากด้วยข้อความ เช่น “เปลี่ยนผิวดํากรรมพันธุ์ สู่ผิวขาวใสใน 7 วัน” เป็นข้อความที่แสดงสรรพคุณเกินขอบข่ายความเป็นเครื่องสำอาง และไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ตรวจสอบพบว่า เครื่องสำอางดังกล่าวยกเลิกเลขที่ใบรับจดแจ้งแล้ว เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2564 พล.ต.ท.กรไชยกล่าวอีกว่า ชุดสืบสวนทราบแหล่งลักลอบผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ยี่ห้อดังกล่าว นำหมายค้นเข้าบ้านพักใน อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา อยู่กลางสวนยางพาราใช้เป็นสถานที่ลักลอบผลิตเครื่องสำอางประเภทครีมจำนวนหลายยี่ห้อ เช่น ยี่ห้อดีเอ็น (DN) ยี่ห้อใหม่ (MAI) ยี่ห้อเคที (KT) ตรวจยึดของกลางผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป 460 ชิ้น ยาคีโตโคนาโซล 240 กล่อง บรรจุภัณฑ์เปล่ากว่า 10,000 ชิ้น เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต ครีมรอบรรจุ และฉลากสติกเกอร์ รวมมูลค่าของกลางกว่า 300,000 บาท และนําตัวอย่างของกลางส่งตรวจหาสารต้องห้ามที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ฝากความห่วงใยถึงประชาชน ควรตรวจสอบผลิตภัณฑ์ทุกครั้งก่อนที่จะทําการสั่งซื้อจากสื่อออนไลน์ กรณีเป็นสินค้า อุปโภค บริโภค ควรตรวจดูเลขที่จดแจ้ง เลข อย. หรือฉลากสินค้าว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ เว็บไซต์ ผู้จำหน่ายมีความน่าเชื่อถือเพียงใด และแจ้งเตือนกลุ่มผู้ขายสินค้าไม่ซื่อสัตย์ สินค้าไม่ปลอดภัยในการใช้ หรือโฆษณาชวนเชื่อสรรพคุณเกินจริงผ่านสื่อออนไลน์ อาจเข้าข่ายการกระทําผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี หรือปรับสูงสุด 100,000 บาท ด้าน ภญ.สุภัทรา บุญเสริม กล่าวว่า ครีมเถื่อนที่ยึดในครั้งนี้ ขายตามร้านค้า ออนไลน์ ตลาดนัดรถขายเร่หรือตามแพลตฟอร์ม มักโฆษณาอวดอ้างเกินความเป็นจริงว่าสามารถรักษาสิว รอยแผลเป็นฝ้า และกระ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสเห็นผลใน 7 วัน ที่ผ่านมา อย.เคยตรวจพบสารห้ามใช้ในเครื่องสำอางประเภทนี้ เช่น สารปรอทไฮโดรควิโนน กรดวิตามินเอ สเตียรอยด์ หากใช้เป็นเวลานานอาจทําให้ผิวหน้าดำผิวบางลง แพ้แสงแดดหรือแสงไฟได้ง่าย ผิวแตกลายถาวร เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังและส่งผลให้ไตอักเสบ หากพบการลักลอบผลิตนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย.1556ความสวยความงามอย. เพิกถอนภาคใต้ผู้บริโภคเฝ้าระวังstd46631• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยค้องฉีดวัคซีนไปเลือกตั้งจะไปเลือกตั้งต้องฉัดวัคซีนข่าวการเมืองเลือกตั้งสุขภาพวัคซีนโควิดศุภกฤต หนูเงิน• 1 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! กรมการขนส่งทางบกรับทำใบขับขี่แบบเร่งด่วนทุกชนิดผ่านไลน์ตามที่มีการแชร์ข่าวสารในสื่อออนไลน์ถึงประเด็นเรื่องกรมการขนส่งทางบกรับทำใบขับขี่แบบเร่งด่วนทุกชนิดผ่านไลน์ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีข้อมูลระบุว่า กรมขนส่งเปิดอบรมใบขับขี่ออนไลน์ที่บ้าน ทางกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เป็นการแอบอ้างใช้ชื่อของกรมการขนส่งทางบกโดยมิจฉาชีพ ซึ่งการขอรับใบอนุญาตขับรถทุกชนิดมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ คือ ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถต้องดำเนินการด้วยตนเองทุกขั้นตอนที่สำนักงานขนส่ง ตั้งแต่การตรวจสอบเอกสาร การทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย การอบรม การทดสอบข้อเขียน การทดสอบขับรถ และการถ่ายรูปเพื่อออกใบอนุญาตขับรถ ขอเตือนประชาชนอย่าให้บัตรประชาชนหรือเอกสารสำคัญที่มีข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้อื่น เสี่ยงข้อมูลถูกนำไปก่อคดีต่าง ๆ หรือใช้แอบอ้างทำธุรกรรมผิดกฎหมายได้ ดังนั้นขอประชาชนอย่าหลงเชื่อหากมีผู้ใดแอบอ้างอาสาดำเนินการด้านใบอนุญาตขับรถให้โดยเด็ดขาด ขอให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร หากเผยแพร่โดยบัญชีที่ไม่คุ้นเคยหรือเป็นบุคคลธรรมดา สามารถแจ้งเบาะแสมายังกรมการขนส่งทางบกได้โดยตรง หรือโทรสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การขอรับใบอนุญาตขับรถทุกชนิดมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ คือ ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถต้องดำเนินการด้วยตนเองทุกขั้นตอนที่สำนักงานขนส่งผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมstd46631• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเช็กอีกครั้ง! ข้อมูลทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง อันไหนจริง อันไหนหลอกไม่มีน้ำและอาหารติดตัวก่อนเข้าถ้ำ ก่อนหน้านี้สื่อหลายสำนักรายงานว่า ได้ลงพื้นที่สัมภาษณ์พ่อค้าแม่ค้าบริเวณหน้าถ้ำหลวง และอ้างว่าพ่อค้าแม่ค้ากลุ่มนี้บอกว่า เด็กๆและโค้ชมาซื้อขนมตุนไว้ก่อนเข้าถ้ำ แต่ที่จริงแล้ว นายเอกพล จันทะวงษ์ (โค้ชเอก) เผยว่า ไม่มีน้ำหรือาหารติดตัวเลย โค้ชเอกไม่ได้สละอาหารให้น้องๆ ข้อมูลนี้ต่อเนื่องมาจากข้อแรก ที่ไม่มีใครนำขนม อาหาร หรือน้ำติดตัวเข้าไป ดังนั้นโค้ชเอกจึงเสียสละอาหารและน้ำให้น้องๆ ไม่ได้ เพราะไม่มีตั้งแต่แรก ทีมแพทย์ให้โค้ชเอกเลือกน้องๆ ออกจากถ้ำ เด็กทั้งหมดทุกคนแข็งแรง จะนำใครออกก่อนหรือออกมาที่หลังก็ได้ หมอริชาร์ดให้หน่วยซีล ตัดสินใจ ซีลให้โค้ชเอกตัดสินใจ ซึ่งเด็กทั้งหมด พร้อมที่จะออกมาก่อนหรือหลังได้ โค้ชเอกเลือกเด็กที่มีบ้านอยู่ไกลก่อน เพื่อจะได้ปั่นจักรยานไปบอกพ่อแม่ ทุกคนว่ายน้ำเป็น ก่อนหน้านี้ สื่อไทยและสื่อต่างประเทศต่างรายงานว่า น้องๆ ทีมหมูป่าว่ายน้ำไม่เป็น แต่ที่จริงแล้ว โค้ชเอกเปิดเผยว่า น้องๆ ส่วนใหญ่ว่ายน้ำได้ แต่อาจจะมีบางคนที่ยังว่ายไม่แข็งนัก ซึ่งตัวเองจะพาน้องๆ ไปฝึกว่ายน้ำหลังเตะฟุตบอล ไม่ได้ฉลองวันเกิดในถ้ำ มีข่าวว่า สมาชิกหมูป่า เข้าไปภายในถ้ำเพื่อไปฉลองวันเกิดให้กับสมาชิกของทีมภายในถ้ำภาคเหนือมีมstd48917• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยร่างกายอับเสบตัวร้อนเสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ ร่างกายอักเสบ ตัวร้อน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกได้ . ตามที่มีการแชร์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นเรื่องร่างกายอักเสบ ตัวร้อน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ . จากที่มีการให้ข้อมูลโดยระบุว่า ร่างกายอักเสบ ตัวร้อน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกได้ ทางสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า โรคหลอดเลือดสมอง มี 2 ประเภทคือ สมองขาดเลือด และภาวะเลือดออกในเนื้อสมอง โดยพบโรคหลอดเลือดตีบตันมากกว่าเส้นเลือดแตกในสมอง . ซึ่งภาพรวมพบภาวะสมองขาดเลือดมากกว่าเลือดออกในสมอง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญทั้งสองภาวะนี้คือ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ โรคไต โรคภาวะอุดกั้นลมหายใจขณะนอน (OSA) เป็นต้น . อาการแสดงสำคัญที่ควรรู้ และควรสังเกตอย่างสม่ำเสมอ มีดังนี้ 1. ชา หรืออ่อนแรงที่หน้า แขน หรือขา ซีกใดซีกหนึ่งอย่างทันทีทันใด 2. พูดลำบาก พูดไม่ได้หรือไม่ชัด หรือไม่เข้าใจคำพูดอย่างทันทีทันใด 3. มีปัญหาการมองเห็น ตามัว หรือเห็นภาพซ้อนของตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างอย่างทันทีทันใด 4. มีอาการมึนงง เวียนศีรษะ เดินไม่ได้ เดินลำบาก เดินเซ หรือสูญเสียการทรงตัวในการยืนและเดินอย่างทันทีทันใด 5. ปวดศีรษะรุนแรงอย่างทันทีทันใดโดยไม่ทราบสาเหตุ . ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.pni.go.th หรือ โทร. 02-306-9899 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : อาการร่างกายอักเสบ ตัวร้อน ไม่ได้เป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมองดังที่ถูกกล่าวอ้างในข้างต้น แต่เป็นอาการเหล่านี้ได้แก่ หน้า แขน ขา ชาหรืออ่อนแรง , พูดลำบาก , ตามัว มีปัญหาด้านการมองเห็น , เวียนหัวจนเดินไม่ได้ และปวดศีรษะรุนแรง . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . LINE : @antifakenewscenter (http://nav.cx/uyKYnsG) Website : https://www.antifakenewscenter.com/ Twitter: https://twitter.com/AFNCThailand Tiktok : @antifakenewscenter สายด่วน : ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111 ต่อ 87 . #ข่าวปลอม #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #ข่าวสุขภาพ #ร่างกายอักเสบ #ตัวร้อน #เส้นเลือดในสมองแตกSpark Forme• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกรมการแพทย์ เผยใช้น้ำปัสสาวะหยอดจมูก รักษาโรคไซนัสได้ เป็นข้อมูลเท็จstd47786• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม! กรมการขนส่งทางบกเปิดอบรมใบขับขี่ออนไลน์ที่บ้านผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมstd47786• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยห้างทองเปิดพอร์ตหุ้นทองคำข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ ห้างทองชื่อดังเปิดพอร์ตหุ้นทองคำ รับผลตอบแทน 37% และลุ้นสิทธิ์รับทอง . จากที่มีการปรากฏข้อมูลบนสื่อออนไลน์เรื่องห้างทองชื่อดังเปิดพอร์ตหุ้นทองคำ รับผลตอบแทน 37% และลุ้นสิทธิ์รับทอง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยบริษัทห้างทองชื่อดังแห่งหนึ่ง พบว่าเพจดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ . ตามที่พบเจอข่าวสารชวนลงทุนของบริษัทห้างทองเอกชนชื่อดัง ชวนเปิดพอร์ตลงทุนหุ้นทองคำ รับผลตอบแทน 37% และมีสิทธิ์ได้รับทองคำ เริ่มต้นเพียง 1,000 บาท ทางบริษัทห้างทองชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เพจดังกล่าวได้มีการนำรูปภาพผู้บริหาร และรูปร้านทองของบริษัท ไปตั้งเป็นเพจเพื่อหลอกลวงให้บุคคลอื่นหลงเชื่อ . นอกจากนี้ยังมีการหลอกให้กดลิงก์แอดไลน์ แล้วชวนให้ลงทุน โดยการหลอกให้โอนเงินก่อน เพื่อเปิดพอร์ตลงทุน โดยมีการนำไปโพสต์ตามกลุ่มลงทุนต่าง ๆ . ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เพจดังกล่าวได้มีการนำรูปภาพผู้บริหาร และรูปร้านทองของบริษัทไปตั้งเป็นเพจเพื่อหลอกลวงให้บุคคลอื่นหลงเชื่อ และมีการหลอกให้กดลิงก์แอดไลน์ แล้วชวนให้ลงทุน โดยการหลอกให้โอนเงินก่อน เพื่อเปิดพอร์ตลงทุน . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : บริษัทห้างทองชื่อดังแห่งหนึ่ง . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . LINE : @antifakenewscenter (http://nav.cx/uyKYnsG) Website : https://www.antifakenewscenter.com/ Twitter: https://twitter.com/AFNCThailand Tiktok : @antifakenewscenter สายด่วน : ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111 ต่อ 87 . #ข่าวปลอม #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #ข่าวการเงิน #หุ้นทองคำ #พอร์ตหุ้น #ผลตอบแทนผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมSpark Forme• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม! กรมการขนส่งทางบกรับทำใบขับขี่แบบเร่งด่วนทุกชนิดผ่านไลน์ผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมstd47786• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยภัยอินเตอร์เน็ตภัยอินเทอร์เน็ต 4 กลลวง มุกเก่าที่มิจฉาชีพยังนิยม . เช็กให้ดีก่อนคลิก คิดให้ดีก่อนโดนหลอก . 1. สินค้าราคาถูก แต่ของจริงไม่ตรงปก โดนกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเด็ก วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ โดนลวงด้วยของคุณภาพดี ราคาถูก ซื้อแล้วไม่ได้ของ หรือส่งของไม่ตรงปก หรือโดนหลอกเงินเพิ่มซ้ำเพื่อให้ได้ของชิ้นนั้น . 2. เฟซบุ๊กปลอม สวมบทบาทหลอกเงิน วิธีนี้มีหลายแบบมาก ๆ ทั้งโดนแฮกเฟซบุ๊ก โทรศัพท์ เพื่อที่จะปลอมเป็นตัวบุคคลนั้น ๆ หลอกเอาเงินเพื่อน ญาติ หรือคนที่เรารู้จัก โดยจะมีการสืบข้อมูลเบื้องต้นมาแล้วพอสังเขป . 3. โรแมนซ์สแกม หลอกให้รัก หลอกลงทุน ใช้ชื่อปลอม รูปปลอม ข้อมูลปลอม มาหลอกให้รัก ส่วนมากจะมาในแอปพลิเคชันหาคู่ต่าง ๆ หรือช่องทางออนไลน์ทุกช่องทาง ระวังให้ดี! อย่าคิดลงทุน หรือโอนเงินให้ถ้ายังไม่รู้จัก ยังไม่เคยเจอตัวเป็น ๆ . 4. ใช้รูปคนอื่นมาตีสนิท แต่คิดหลอกลวง ในยุคอินเทอร์เน็ตแพร่หลาย มิจฉาชีพสามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยจะใช้รูปบุคคลที่มีหน้าตาสวย หล่อ พิมพ์นิยมมาใช้เป็นตัวเอง ตั้งชื่อ สร้างข้อมูลปลอม หลอกคุยกัน เหยื่อเชื่อใจ แล้วขอนัดเจอในสถานที่ลับตาคน เจอแบบนี้ต้องคิดไว้ก่อนว่ามาร้ายแน่ ๆ . ที่มา : ตำรวจภูธรภาค 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ . #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #ภัยอินเทอร์เน็ต #มิจฉาชีพ #ของไม่ตรงปก #โดนหลอกผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอมSpark Forme• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย.https://www.sanook.com/campus/1409560/มีมล้อเลียนstd47774• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปคบ.-อย.ทลายโกดังสินค้า จับครีมปลอม เลียนแบบยี่ห้อดังทีมดารานักแสดง พรีเซ็นเตอร์ ผลิตภัณฑ์ทาใบหน้ายี่ห้อหนึ่ง เข้าติดตามคดีปลอมแปลงสินค้าจัดจำหน่ายให้ประชาชน โดยตำรวจ ปคบ.ร่วมกับ อย.บุกปิดโกดังสินค้า ยึดผลิตภัณฑ์ได้มากกว่า 4,000 กล่อง วันนี้ (8 มิ.ย.2564) ตำรวจ ปคบ.และเจ้าหน้าที่ อย.เข้าตรวจค้นโกดังเก็บสินค้า ซอยกำนันแม้น 13 แขวงคลองบางพราน เขตบางบอน พบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ยี่ห้อ ดร.จิลล์ จำนวน 4,400 กล่อง และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Facial Mark BLOOD ORANGE จำนวน 38,400 ซอง หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีการลักลอบผลิตเครื่องสำอางประเภทครีมทาใบหน้าและจัดจำหน่ายในราคาถูกกว่าราคาท้องตลาด จึงสงสัยว่าอาจเป็นการปลอมแปลงสินค้า พ.ต.อ.เนติ วงศ์กุหลาบ ผู้กำกับการ 4 ปคบ.เปิดเผยว่า การตรวจค้นจับผู้ต้องหาชาวจีนได้ 1 คน และพบว่าสินค้าในโกดังทั้งหมดเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางปลอม ผลสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาสารภาพว่าอยู่เมืองไทยมานานและทราบว่าผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนี้มีชื่อเสียง มีดารา นักแสดงหลายคนเป็นพรีเซ็นเตอร์ จึงเลือกปลอมสินค้ายี่ห้อโดยผลิตในต่างประเทศและนำเข้ามาติดสลากเลียนแบบนี้ ก่อนจำหน่ายในตลาดออนไลน์ และจัดจำหน่ายในราคาถูกกว่าราคาปกติค่อนข้างมาก ด้านเภสัชกรหญิง สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการ อย.กล่าวว่า การตรวจสอบเบื้องต้น ผลิตภัณฑ์ล็อตของผู้ต้องหา ผลิตไม่ตรงตามสูตรที่แจ้งไว้กับทาง อย. และไม่ได้ผลิตในโรงงานที่แจ้งไว้เช่นกัน จีงมีความชัดเจนว่าเป็นผลิตภัณฑ์ปลอม ส่วนสูตรผสมที่ปลอมขึ้น ยังไม่ได้ตรวจแยกสารว่าจะมีอันตรายต่อผู้ใช้หรือไม่ ตำรวจยังระบุด้วยว่าที่ผู้ต้องหาจัดจำหน่ายราคาถูก แล้วผู้บริโภคหลงเชื่อ เพราะอ้างว่าสินค้าซื้อตัดล็อตของไม่เสียภาษี และขายในที่ราคาถูก เตือนประชาชนควรระวังการซื้อของในราคาถูกกว่าราคาโดยทั่วไปจนเกินปกติ หรือซื้อกับบริษัทโดยตรง ขณะเดียวกัน ทีมดารานักแสดง ผู้เป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์เข้าร่วมติดตามการจับผู้ต้องหา เปิดเผยว่า อยากให้ประชาชนระมัดระวังการเลือกซื้อสินค้าผ่านตัวแทน หรือช่องทางอื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ หรือหน้าร้านของสินค้าโดยตรง เพราะเห็นว่ามีราคาถูก แต่สินค้าปลอมเมื่อซื้อไปใช้แล้ว แม้อาจจะไม่เกิดผลร้าย แต่ก็อาจจะไม่เกิดคุณ หรือประโยชน์ต่อผู้บริโภค เป็นการสูญเงินเปล่า นอกจากนี้ อย.เตือนผู้บริโภคก่อนซื้อยา ผลิตภัณฑ์สมุนไพร อาหาร เครื่องสำอาง ควรตรวจสอบข้อมูลอนุญาตทาง Oryor Smart Application หรือเว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th ก่อนทุกครั้ง และไม่ซื้อเครื่องสำอางที่ไม่มีเลขจดแจ้ง ไม่มีฉลากหรือแสดงฉลากเป็นภาษาต่างประเทศ หรือที่มีราคาถูกเกินไป และอย่าหลงเชื่อโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณที่เกินไปจากความเป็นเครื่องสำอาง สำหรับผู้กระทำความผิด เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ฐาน "ขายเครื่องสำอางปลอม" มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, "ขายเครื่องสำอางที่มีฉลากไม่ถูกต้อง" มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, "ขายเครื่องสำอางที่มิได้จดแจ้ง" มีอัตราโทษ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ฐาน "จำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร" มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับความสวยความงามอย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังธนวิชญ์ วินารัตน์• 1 ปีที่แล้ว