13215 ข้อความ
- 1 คนสงสัยจีนกับความพยายามแพร่ข่าวปลอมเรื่องโควิดมีต้นกำเนิดในสหรัฐฯการระดมเผยแพร่ข้อมูลเท็จที่กล่าวหาว่าเชื้อโรคโควิด-19 มีต้นกำเนิดมาจากฐานทัพทหารในรัฐแมริแลนด์ กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในจีน ก่อนหน้าที่หน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐฯ จะเปิดเผยรายงานการสอบสวนเรื่องต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสชนิดนี้ เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้สั่งการให้เปิดการสอบสวน 90 วัน เพื่อหาว่าเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 นั้น เกิดจากอุบัติเหตุในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ (ห้องแล็บ) หรือเกิดจากการที่มนุษย์สัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ ในตอนนั้น ทฤษฎีเรื่อง "ไวรัสหลุดจากห้องแล็บอู่ฮั่น" ถูกนักวิทยาศาสตร์หลายคนระบุว่าเป็นเพียงทฤษฎีสมคบคิดNatthanicha Lasakhu• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสธ. เปิดตัวรถฟอกไตเคลื่อนที่นวัตกรรมต้นแบบคันแรกของไทย จริงหรือ?ตามที่มีข้อมูลปรากฏถึงประเด็นเรื่อง สธ. เปิดตัวรถฟอกไตเคลื่อนที่นวัตกรรมต้นแบบคันแรกของไทย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริงstd47997• 1 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อ. อุ้มผาง ประกาศปิดน้ำตกทีลอซู 2 เดือน จริงหรือ?กรณีที่มีข่าวสารเผยแพร่เกี่ยวกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อ. อุ้มผาง ประกาศปิดน้ำตกทีลอซู 2 เดือน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริงstd47997• 1 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไต้หวันขยายวีซ่าคนไทยอีก 1 ปี พำนักได้สูงสุด 14 วัน จริงหรือ?ตามที่มีข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องไต้หวันขยายวีซ่าคนไทยอีก 1 ปี พำนักได้สูงสุด 14 วัน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกองประมวลและวิเคราะห์ข่าว กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริงstd47997• 1 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกทม. ส่งถังดับเพลิง 9,000 ถัง แทนถังเก่าใน พท. เสี่ยงสูง จริงหรือ?ตามที่มีข้อมูลบนสื่อออนไลน์เรื่อง กทม. ส่งถังดับเพลิง 9,000 ถัง แทนถังเก่าใน พท. เสี่ยงสูง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลจริงstd47997• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย"อัจฉราพร คงยสวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยชูสามนิ้วในสนามเเข่ง"พลเอก หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล นายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “จุลเจิม ยุคล” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 140,000 บัญชี ตัดสินใจลบโพสต์ที่เขากล่าวหาอัจฉราพร คงยศ นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ว่าแสดงออกทางการเมืองด้วยการ “ชูสามนิ้ว” ในสนามแข่ง และประกาศขอโทษที่สร้างความเข้าใจผิด หลังจากอัจฉราพรออกมายืนยันผ่านสื่อมวลชนว่าสัญลักษณ์ดังกล่าวเป็นรหัสมือสื่อสารแผนการเล่นกับเพื่อนร่วมทีม ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองข่าวการเมืองมีม เสียดสีstd47997• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยครีมวิตามินซี ใช้รักษาสิวได้กรณีโฆษณาชวนเชื่อแนะนำครีมวิตามินซี โดยระบุว่าสามารถช่วยรักษาสิวได้ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง วิตามินซีไม่สามารถแทรกซึมผ่านผิวหนังเข้าไปรักษาสิวได้ เนื่องจากสิวเกิดจากความผิดปกติของต่อมไขมัน แม้วิตามินซีจะมีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิว ละลายน้ำได้ดี อาจช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้บ้าง แต่รักษาสิวไม่ได้std48431• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยมูลนิธิไทยรัฐจัดสัมมนาครู ร.ร.ไทยรัฐวิทยาภาคกลาง-ตะวันออกที่ จ.สุพรรณบุรีมูลนิธิไทยรัฐ จัดสัมมนาครูโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ภาคกลาง และภาคตะวันออก ปี 2565 ที่ จ.สุพรรณบุรี โดยเน้นย้ำครูให้ถ่ายทอดเรื่องสื่อยุคใหม่ไม่ยัดเยียด หรือใส่ความรุนแรง สู้ข่าวปลอมข่าวลวงในโซเชียลstd48100• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยบุกทลายพ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รรท.ผบก.ปคบ. นำเจ้าหน้าที่ อย. จับกุมนายสกนท์ หงษ์หาด ภายในโกดังหลังบ้านเลขที่ 69/14 ซอยนิมิตใหม่ 49 พบครีมปลอมกว่า 30 ชื่อ และสารสเตียรอยด์ห้ามใช้ในเครื่องสำอางจำนวนมาก รับสารภาพผลิตขายเกือบ 1 ปี ส่งขายตามตลาดนัดstd48100• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยตอนนี้อย่าผ่านไป สะพานไทย-เบลเยี่ยม นะ สะพานแอ่นลง กลัวอันตราย จส.100 แจ้งมาค่ะตอนนี้อย่าผ่านไป สะพานไทย-เบลเยี่ยม นะ สะพานแอ่นลง กลัวอันตราย จส.100 แจ้งมาค่ะ และต้องไม่ขับลอดใต้สะพานด้วยนะครับ ให้ขับวนซ้ายไปU turnไกลหน่อย ก็ต้องยอม ต้องฟัง! และฟังกันทุกคนนะแล้วช่วยกันแชร์ให้ญาติพี่น้องทราบด่วนครับ!!Mrs.Doubt• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเตือนข่าวปลอม อสม. รับบริจาคเงินทุก 100 บาท ทำหน้ากากผ้า 66 ผืนข่าวปลอม อสม. แจงไม่มีการขอรับบริจาคเงินทุก 100 บาท ทำหน้ากากผ้า 66 ผืน เตือนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ วันที่ 9 กรกฎาคม 2565 แฟนเพจ Anti-Fake News Center Thailand โพสต์ข้อความว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องอสม. ขอรับบริจาคเงินทุก 100 บาท ทำหน้ากากผ้า 66 ผืน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลเท็จ หลังจากที่มีผู้โพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์ว่ากำลังมีการระดมทุนเพื่อจัดหาวัตถุดิบเพื่อการผลิตหน้ากากผ้า สำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรืออสม. โดยเงินบริจาคทุก 100 บาท จะพอสำหรับผ้าทำหน้ากากผ้า 66 ผืน ทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า ทาง อสม. ไม่มีการเปิดรับบริจาคเงินตามที่มีการเผยแพร่ในสื่อออนไลน์แต่อย่างใด ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความรวมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ของเชื้อไวรัส COVID-19 ในประเทศไทย รวมถึงข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันตนเอง จากกระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.moph.go.th หรือโทร. 1422หนูเล็ก ผู้มากด้วยปัญญา• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไขข้อสงสัย รับสายมิจฉาชีพ คุยเกิน 3 นาที โดนแฮกข้อมูลจริงไหมไขข้อสงสัย หลังมีคลิปเสียงมิจฉาชีพแอบอ้างใช้ชื่อธนาคาร หากคุยเกิน 3 นาที จะโดนแฮกข้อมูลเพื่อไปเปิดบัญชี จริงหรือไม่ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 มีรายงานว่า แฟนเพจ Anti-Fake News Center Thailand โพสต์ข้อความว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวเรื่องมิจฉาชีพแอบอ้างใช้ชื่อธนาคารแห่งหนึ่ง โทรหาประชาชน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และธนาคารกสิกรไทย พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีที่ปรากฏคลิปเสียงมิจฉาชีพแอบอ้างใช้ชื่อธนาคาร โดยอ้างว่าหากผู้เสียหายคุยกับมิจฉาชีพ เกิน 3 นาที จะโดนแฮกข้อมูล เพื่อเอาไปทำบัญชีม้านั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และธนาคารกสิกรไทย ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ปัจจุบันมีการหลอกลวงแอบอ้างใช้ชื่อธนาคารพูดคุยกับผู้เสียหายผ่านทาง Call Center ซึ่งหากผู้ใช้งานหลงเชื่อหรือให้ข้อมูลทางธุรกรรมด้านการเงินกับมิจฉาชีพผ่านทางโทรศัพท์โดยในระยะเวลา 3 นาที อาจจะเป็นการพูดคุยข้อมูลเบื้องต้นเพื่อให้ผู้ใช้งานคล้อยตามแต่ไม่สามารถแฮกข้อมูลได้ เพียงแค่หลอกเอาข้อมูลหรือให้ผู้ใช้งาน ดาวน์โหลดโปรแกรม ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลทางโทรศัพท์ได้ อีกทั้งทางธนาคารกสิกรก็ไม่มีนโยบายใช้เบอร์ส่วนตัวโทรหาประชาชนก่อน และสำหรับการเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารกสิกรไทย ธนาคารจะต้องมีการยืนยันข้อมูลและพิสูจน์ตัวตนจากผู้เปิดบัญชีโดยตรง หากมีบุคคลอื่นทราบข้อมูลเจ้าของบัญชีแต่ไม่ใช่เจ้าของตัวจริง จะไม่สามารถเปิดบัญชีกับธนาคารได้ ... ADVERTISEMENT ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.ncsa.or.th/committee.html หรือโทร. 02 142 6888 และสามารถติดตามข่าวสารการเงินได้จากธนาคารกสิกรไทย https://www.kasikornbank.com/th/personal หรือโทร. 02 888 8888 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ปัจจุบันมีการหลอกลวงแอบอ้างใช้ชื่อธนาคารพูดคุยกับผู้เสียหายผ่านทาง Call Center ในระยะเวลา 3 นาที อาจจะเป็นการพูดคุยข้อมูลเบื้องต้นเพื่อให้ผู้ใช้งานคล้อยตามแต่ไม่สามารถแฮกข้อมูลได้ อีกทั้งทางธนาคารกสิกรก็ไม่มีนโยบายใช้เบอร์ส่วนตัวโทรหาประชาชนก่อน และสำหรับการเปิดบัญชีเงินฝาก หากไม่ใช่เจ้าของตัวจริง จะไม่สามารถเปิดบัญชีกับธนาคารได้หนูเล็ก ผู้มากด้วยปัญญา• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยไขข้อสงสัย บะหมี่ดิบขยำผงปรุงรส กินแล้วพองในท้อง ถึงขั้นช็อกจริงหรือไม่ไขข้อสงสัย กินบะหมี่ดิบขยำผงปรุงรส ทำให้พองในท้องและเกิดภาวะช็อก จริงหรือไม่ ตรวจสอบพบเป็นข้อมูลเท็จ วอนอย่าแชร์ต่อ วันที่ 25 ธันวาคม 2565 มีรายงานว่า แฟนเพจ Anti-Fake News Center Thailand ระบุข้อความว่า ตามที่มีข้อมูลเตือนด้านสุขภาพเกี่ยวกับเรื่องกินบะหมี่ดิบที่ขยำใส่ผงปรุงรส ทำให้พองในท้องและเกิดภาวะช็อก ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีผู้บอกต่อว่ากินบะหมี่ดิบที่ขยำใส่ผงปรุงรส ทำให้พองในท้องและเกิดภาวะช็อก ทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยที่ผ่านมาทาง สสส. ได้ร่วมกับเครือข่ายลดบริโภคเค็ม ส่งเสริมประชาชนลดการกินเค็มที่มากเกิน และพบในปี 2563 โดยคนไทยมีอัตราการบริโภคโซเดียมเฉลี่ย 3,636 มก./วัน ซึ่งเกินมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำเกือบ 2 เท่า ทั้งจากเครื่องปรุงรส อาหารแปรรูปแช่แข็ง รวมถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาจส่งผลให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง กล้ามเนื้อหัวใจห้องซ้ายหนา เกิดการสะสมของพังผืดในกล้ามเนื้อหัวใจ ไต และหลอดเลือด อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลเรื่องการกินบะหมี่ดิบจะพองในท้องจนอาจเกิดภาวะช็อกได้ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.thaihealth.or.th หรือโทร 02-343-1500หนูเล็ก ผู้มากด้วยปัญญา• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม เกาหลีขึ้นบัญชีดำนักท่องเที่ยวไทย 4 จังหวัดภาคอีสาน เป็นพื้นที่สีแดงกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เผย เกาหลีขึ้นบัญชีดำนักท่องเที่ยวไทย 4 จังหวัดภาคอีสาน ให้เป็นพื้นที่สีแดง เป็นข้อมูลเท็จ เตือนอย่าแชร์ วันที่ 15 มีนาคม 2566 มีรายงานว่า แฟนเพจ Anti-Fake News Center Thailand โพสต์ข้อความว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องเกาหลีขึ้นบัญชีดำนักท่องเที่ยวไทย 4 จังหวัดภาคอีสาน ขอนแก่น ศรีสะเกษ อุดรธานี และยโสธร ให้เป็นพื้นที่สีแดง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีผู้บอกต่อข้อมูลที่ระบุว่า เกาหลีขึ้นบัญชีดำนักท่องเที่ยวไทย 4 จังหวัดภาคอีสาน ขอนแก่น ศรีสะเกษ อุดรธานี และยโสธร ให้เป็นพื้นที่สีแดง ทางกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ตรวจสอบข้อมูล และชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลปลอม ซึ่งทางรัฐบาลของประเทศเกาหลีใต้ไม่ได้มีการออกมาตรการดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากทางกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.mfa.go.th/th หรือโทร 0-2203-5000.หนูเล็ก ผู้มากด้วยปัญญา• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ คนละ 100 บาท ให้ไปรายงานตัวที่เขตเตือนข่าวปลอม อย่าหลงเชื่อ เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ คนละ 100 บาท ให้ทุกคนไปรายงานตัวที่เขต ตรวจสอบแล้วเป็นข้อมูลเท็จ ปัจจุบันยังคงจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันไดช่วงอายุตามเดิม วันที่ 24 มิถุนายน 2565 แฟนเพจ Anti-Fake News Center Thailand โพสต์ข้อความว่า ตามที่มีข้อความแจ้งในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ คนละ 100 บาท ให้ทุกคนไปรายงานตัวที่เขต ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีข้อความที่ระบุว่ามีการปรับเบี้ยผู้สูงอายุ เพิ่มขึ้นคนละ 100 บาท โดยให้ผู้มีสิทธิ์ทุกคนไปรายงานตัวที่เขตด่วนนั้น ทางกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากยังคงจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเท่าเดิม ตามแนวทางปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 และในปัจจุบันจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันไดตามช่วงอายุ คือ – อายุ 60 - 69 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพเดือนละ 600 บาท – อายุ 70 - 79 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพเดือนละ 700 บาท – อายุ 80 - 89 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพเดือนละ 800 บาท – และอายุ 90 ปี ขึ้นไป ได้รับเบี้ยยังชีพเดือนละ 1,000 บาท แต่สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับการจ่ายเงินช่วยเหลือเพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุ ที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำปีงบประมาณ 2565 ดังนี้ 1. ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 100 บาทต่อเดือน 2. ผู้สูงอายุที่มีรายได้มากกว่า 30,000 - 100,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 50 บาท ต่อเดือน ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารกรมกิจการผู้สูงอายุ สามารถติดตามได้ที่โทร. 02-642-4336.ข่าวการเมืองหนูเล็ก ผู้มากด้วยปัญญา• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยนักฟิสิกส์ฝรั่งเศสขอโทษ ใช้ไส้กรอกแทนภาพดาวจากกล้องเจมส์เว็บบ์นักฟิสิกส์ฝรั่งเศสขอโทษ ใช้ไส้กรอกแทนภาพดาวจากกล้องเจมส์เว็บบ์มีมstd47986• 1 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วันตามที่มีการโฆษณาทางสื่อโซเชียลเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วัน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มที่ระบุสรรพคุณว่า หากทาสามารถช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าไม่มีครีมหรือเซรั่มใดที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน ได้จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายนอกเพื่อทำความสะอาด สวยงามแต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ โดยเภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้ให้ข้อมูลว่า โครงสร้างของจมูกประกอบด้วย 2 ส่วน คือ โครงสร้างส่วนด้านบนเป็นกระดูกแข็ง ด้านล่างเป็นกระดูกอ่อน โดยห่อหุ้มด้วยผิวหนังและไขมัน ดังนั้นครีมที่ทำให้ดั้งโด่งจึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระดูก ส่งผลให้จมูกโด่งอย่างแน่นอน ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับภายนอกร่างกายของมนุษย์ รวมถึงฟันและเยื่อบุในช่องปาก เพื่อความสะอาด ความสวยงาม แต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ การโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ทำให้ดั้งโด่งได้อย่างรวดเร็วภายใน 7 วัน ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณที่โกหก เพราะครีมหรือเซรั่มเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกเท่านั้นความสวยความงามstd48007• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเคสลวงโลกสื่อโซเชียลมีทั้งมุมดีๆและด้านที่แย่ๆ ปะปนกันไป...อยู่ที่ใครจะเลือกเสพให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง ทั้งในแง่สาระความรู้ความบันเทิง หรือแม้แต่จิตอาสายังประโยชน์ ส่วนรวม!!โลกโซเชียลสามารถร้อยรัดความเป็นหนึ่งในด้านดี กระทั่งสร้างความแตกแยกให้เกิดในสังคม สุดแล้วแต่สำนึกความรับผิดชอบของแต่ละคนจะเลือกทางใด? สัก 3-4 วันก่อน มีเรื่องน่าคิดที่เกิดจากการสร้างกระแสในโลกโซเชียล นำพาไปสู่สิ่งที่คาดไม่ถึง ถึงขนาดหลอกลวงสังคมให้เกิดความไม่สบายใจแก่หลายฝ่ายมีมstd47990• 1 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโควิด-19 : ทฤษฎีสมคบคิดและข้อมูลเท็จที่ทำให้คนยุโรปต่อต้านมาตรการโควิดช่วงไม่นานมานี้ มีผู้คนออกมาประท้วงในหลายประเทศในยุโรปจนเกิดการปะทะรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากพวกเขาไม่พอใจที่ทางการกลับมาบังคับใช้มาตรการรับมือโควิด-19 อย่างเข้มงวดอีกครั้ง การประท้วงทั้งบนท้องถนนและในโลกโซเชียลมีเดีย มีการตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของทางการในการตัดสินใจดำเนินมาตรการดังกล่าว แต่ขณะเดียวกันก็มีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จโดยคนที่ออกไปร่วมการประท้วงด้วย อาทิ การกล่าวหาอย่างเลื่อนลอย ตั้งแต่ การฉีดวัคซีนคือแผนการวางยาพิษต่อประชากร ไปจนถึงการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลราวกับว่า "เผด็จการในการปราบปรามการประท้วง" เป็นต้น "จำเป็นต้องมีความรุนแรงเนื่องจากจำเป็นต้องทำให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น" ริคาร์โด ผู้จัดการประท้วงบอกกับรายการ BBC Newsnight หลังจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจลในเนเธอร์แลนด์ ส่วนที่ออสเตรีย กลุ่มต่อต้านวัคซีนที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่ที่ชื่อ "People, Freedom, Fundamental Rights" (MFG - หรืออาจแปลได้ว่า กลุ่มประชาชน เสรีภาพ และสิทธิพื้นฐาน) ได้มีบทบาทสำคัญในการวางแผนการประท้วงบนถนนหลายครั้ง ในช่วงเวลาที่ผ่านมา กลุ่ม MFG เปรียบเทียบมาตรการล็อกดาวน์กับการปกครองสมัยนาซีเยอรมนี โดยมีการใช้คำแรง ๆ อาทิ เผด็จการและนโยบายการแบ่งแยกสีผิวstd47978• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยชาวบ้านงง ช่างก็งง ถนนงบ 6.9 ล้าน สร้างไม่ตรงกัน อบต.แจงแล้ว ทำไมเป็นแบบนี้โดยจุดที่เป็นประเด็น อยู่ห่างจากปากซอยบ้านหนองแฝกเข้าไปประมาณ 500 เมตร มีการเทคอนกรีตแบ่งออกเป็น 2 เลน โดยเลนที่กำลังเทไปแล้วคือเลนซ้าย ส่วนฝั่งที่เทมาบรรจบกันได้มีการเริ่มเทมาจาก บ้านโนนดู่ มีส่วนที่เหลื่อมกันอยู่ประมาณ 1.5 เมตร และส่วนที่เกินออกไปประมาณ 1 เมตร จากการสอบถาม คนงาน (ไม่เปิดเผยชื่อ) ทราบว่า ที่เทแบบนี้เนื่องจากชาวบ้านชี้แนวเขตไม่ตรงกัน ทำให้ช่างเข้าใจผิดคิดว่าที่ถนนเดิมซึ่งความจริงเป็นที่นาชาวบ้าน จึงทำให้เทคอนกรีตเลื่อมเข้าไปในที่นาชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านมาร้องว่าล้ำเข้าไปในที่นา จึงหยุดการเทเอาไว้ จากนั้นจึงไปเทจากอีกหมู่บ้านถึงมาบรรจบกัน และจะแก้ไขส่วนที่ผิดทีหลัง ด้าน นายวินัย อายุ 48 ปี ชาวบ้านหนองแฝก ที่ใช้เส้นทางนี้สัญจรไปมาเป็นประจำ เผยว่า จุดดังกล่าวที่ไม่ตรงกันนั้น ได้สร้างมาแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ ตอนแรกก็งงอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงทำแบบนี้ แต่มาดูการสร้างแล้วพบว่า ไม่มีแนวเขตที่ชัดเจน ไม่มีการวางผังให้ตรงกับเจ้าของที่ ทำให้เจ้าของที่ไม่ยอมจึงได้หยุดเอาไว้ก่อน เช่นเดียวกันกับ นายสมบัติ อายุ 48 ปี ชาวบ้านหนองแฝก เผยว่า ถ้าแบบนี้ตนเองคิดว่าไม่ผ่าน ต้องแก้ไขโดยเร็วเพราะถึงจะเทแค่เลนเดียวแต่ชาวบ้านมีความจำเป็นต้องใช้ จึงควรทำให้สามารถสัญจรได้ ทั้งนี้ พบว่า ถนนเส้นดังกล่าวได้มีการขยายแนวเขตจากเดิม มีการนำดินมาถมใหม่ พบว่าดินบางจุดมีการทรุดตัวเนื่องจากถูกน้ำกัดเซาะ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องฝากผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดให้มากกว่านี้ข่าวการเมืองล้อเลียนstd47988• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยรัสเซีย ยูเครน : กลุ่มเฟซบุ๊กลึกลับที่คอยสนับสนุนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแจ็ค กูดแมน และโอลกา โรบินสัน บีบีซีนิวส์ ขณะที่ทั่วโลกต่างพากันประณามที่รัสเซียตัดสินใจรุกรานยูเครน มีเครือข่ายกลุ่มเฟซบุ๊กที่ดำเนินการโดยกลุ่มคนลึกลับที่พยายามจะเปลี่ยนทัศนคติที่คนทั่วไปมีต่อผู้นำรัสเซีย คนหลายล้านคนได้เห็นโพสต์ที่พยายามจะวาดภาพให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ดูยิ้มแย้มและรักสันติภาพ พวกเขาเหล่านี้เป็น "ซูเปอร์แฟน" ของปูติน บีบีซีลองไปสืบค้นดูว่าพวกเขามาจากที่ไหนและกำลังพยายามทำอะไรบีบีซีร่วมสืบค้นเรื่องนี้กับสถาบันเพื่อการเจรจาเชิงยุทธศาสตร์ (Institute for Strategic Dialogue - ISD) ซึ่งพบว่า มีกลุ่มเฟซบุ๊กสนับสนุนปูตินที่เปิดให้เข้าถึงแบบสาธารณะอยู่ 10 กลุ่ม โดยกลุ่มหนึ่งมีชื่อว่า "Vladimir Putin - Leader of the Free World" หรือ "วลาดิเมียร์ ปูติน - ผู้นำแห่งโลกเสรี" เนื้อหาในกลุ่มเหล่านี้พยายามจะสรรเสริญผู้นำรัสเซียโดยโพสต์เนื้อหาหลายภาษาด้วยกัน อาทิ อังกฤษ รัสเซีย เปอร์เซีย อารบิก และเขมรstd47978• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยตร.เร่งสืบ เหตุพัสดุระเบิดเจ้าหน้าที่ ม.ดังบอสตันเจ็บ 1 ส่อเป็นการจัดฉากตำรวจเมืองบอสตันกำลังสืบสวนข้อเท็จจริงของ เหตุพัสดุระเบิดที่วิทยาเขตของมหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์น ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย โดยพวกเขาสงสัยว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็นการจัดฉาก สำนักข่าว WCVB รายงานว่า ตำรวจหลายนายบอกกับทีมข่าวสืบสวนของพวกเขา เหตุการณ์พัสดุระเบิด ซึ่งทำให้ลูกจ้างวัย 45 ปี ของมหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์น วิทยาเขตบอสตัน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 รายเมื่อวันอังคารที่ 13 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา กำลังได้รับการสืบสวนว่าอาจเป็นการจัดฉากstd47990• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยแผ่นดินไหวในตุรกีและซีเรีย HAARP : ศูนย์วิจัยฮาร์ปของสหรัฐฯ ทำหน้าที่อะไร ทำไมถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุหายนะตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ถล่มตุรกีและซีเรียเมื่อ 6 ก.พ. ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 44,000 คน มีการส่งต่อข้อมูล ภาพถ่าย และคลิปวิดีโอของภัยพิบัตินี้ทางทวิตเตอร์แล้วหลายล้านโพสต์ แต่บีบีซีพบว่า มีโพสต์บางส่วนที่มีการกล่าวหา HAARP หรือ ฮาร์ป ตัวแปลงสัญญาณอันทรงพลังที่ตั้งอยู่ในรัฐอะแลสกาของสหรัฐฯ ว่า เป็นตัวทำให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้น ฮาร์ป มีชื่อเต็มว่า โครงการวิจัยพลังงานลำแสงออโรราจากความถี่สูง (High-frequency Active Auroral Research Program—HAARP) ก่อตั้งขึ้นโดยกองทัพสหรัฐฯ ในปี 1990 และมหาวิทยาลัยอะแลสกา (University of Alaska) ในเมืองแฟร์แบงก์ส เป็นผู้ดูแลตั้งแต่ปี 2014 มีการใช้ตัวแปลงสัญญาณนี้ในการศึกษาชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ ซึ่งเป็นบริเวณที่ชั้นบรรยากาศของโลกเชื่อมต่อกับอวกาศ ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ ฮาร์ป หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว มีบัญชีผู้ใช้งานจำนวนมากโพสต์เกี่ยวกับฮาร์ปทางทวิตเตอร์ การตรวจสอบข้อมูลของบีบีซีพบว่า มีการพูดถึงฮาร์ปมากกว่า 550,000 ครั้งstd47978• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยรัสเซีย ยูเครน : พิสูจน์ทฤษฎีสมคบคิดที่อ้างว่าสงครามยูเครนไม่ใช่เรื่องจริงวาระครบรอบ 1 ปีที่รัสเซียยกทัพเข้ารุกรานยูเครนทำให้ทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับสงครามนี้พุ่งสูงขึ้นในโซเชียลมีเดีย โดยที่บางโพสต์มียอดการเข้าไปมีส่วนร่วมจำนวนหลายล้าน บัญชีโซเชียลมีเดียของฝ่ายนิยมขวาในสหรัฐฯ ที่มีผู้ติดตามจำนวนมากได้โพสต์ข้อความไร้หลักฐานอ้างอิงต่าง ๆ ที่มีเนื้อหาว่าสงครามในยูเครนอาจเป็นเรื่องหลอกลวงที่สื่อมวลชนและรัฐบาลชาติตะวันตกอยู่เบื้องหลัง ผู้โพสต์ข้อความลักษณะนี้และได้รับความสนใจเป็นวงกว้าง รวมถึงบรรดาเจ้าของบัญชีที่เคยถูกทวิตเตอร์ระงับการใช้งาน แต่ได้รับอนุญาตให้กลับมาใช้งานอีกครั้งหลังจากอีลอน มัสต์ เข้าซื้อกิจการstd47978• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปู่ฤาษีอุดร วิดีโอคอลขอโทษสาว ยอมรับผิดทุกอย่าง จากนี้ขอเดินสายขาว7 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี น.ส.นิ (นามสมมติ) ชาว จ.อุดรธานี แจ้งความดำเนินคดีกับ ปู่ฤาษีอุดร มหามุณีชัยภักดี หรือ นายวีระยุทธ ชัยภักดี อายุ 36 ปี ชาว จ.อุดรธานี ที่อ้างตัวเป็นพ่อปู่ฤาษีอุดร หลังจากก่อนหน้านี้ ปู่ฤาษีอุดร ได้ชวนไปทำพิธีมุดถ้ำเปิดขุมทรัพย์รับโชค พร้อมกับพูดคุยผ่านแชตไลน์ ลักษณะคุกคามทางเพศ แต่หญิงสาวไม่หลงกล พยายามชวนคุยเพื่อเก็บหลักฐานนำมาแจ้งความเอาผิด ซึ่งเมื่อวานนี้ พ่อปู่ฤาษีอุดร ไปออกรายการทีวีรายการดังขอโทษผู้เสียหาย และผู้ที่ตัวเองพาดพิงว่าเป็นลูกศิษย์ดารา ล่าสุดเวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักของ พ่อปู่ฤาษีอุดรอีกครั้ง พบแม่และพ่อปู่ฤาษีอุดรนั่งอยู่ในอาศรม โดยบอกว่า มาถึงบ้านตั้งแต่เมื่อคืน โดยพ่อปู่ดูท่าทางเหนื่อยจากการเดินทาง โดยพ่อปู่ฤาษีบอกว่า ตนเองยอมรับผิดทั้งหมดแล้ว วันนี้จะเดินทางไป สภ.โนนสูง ถอนแจ้งความน้องนิ จะไม่เอาเรื่องเอาราว และไม่อยากให้น้องนิเอาเรื่องด้วย จากนั้น พ่อปู่ฤาษี ได้วิดีโอคอลขอโทษน้องนิว่า "ขอขมาลาโทษที่ทำผิด ต้องขอน้องนิ ยอมรับว่ากระทำผิดไปจริง การทำผิดนั้นยอมรับว่าไม่มีสติ ต่อไปเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก จากนี้สัญญาจะไม่มีการกระทำแบบนี้อีกแล้ว ขอให้อโหสิ หากน้องนิจะไม่อโหสิ หรืออโหสิ ในฐานะตนขอขมาลาโทษในการกระทำที่ล่วงเกินไปในครั้งนี้" ขณะที่น้องนิได้แต่มองหน้าและไม่พูดอะไรstd47990• 1 ปีที่แล้ว