2208 ข้อความ
- 1 คนสงสัยเพิ่มวันหยุด ปี 68-69 กรณีพิเศษ 3 วันมีมไม่ระบุชื่อ• 7 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยครม.เคาะวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ 3 วันข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 7 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยระเบิด 3 จังหวัด เป็นระเบิดงบประมาณจริงหรือไม่ระเบิด 3 จังหวัด เป็นระเบิดงบประมาณจริงหรือไม่ข่าวการเมืองภาคใต้ เสียดสีAbbas Dueramae• 3 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยวันมาฆบูชา 2568 ขึ้นทางด่วนฟรี 3 สาย รวม 61 ด่านไม่ระบุชื่อ• 4 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยKarl Jacobs ถูกไล่ออกโดย MrBeastKarl ถูกไล่ออกโดย MrBeast เนื่องจากปัญหาเพศที่ 3ล้อเลียน เสียดสีแอคปลอมPatakorn Puttakerd• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยhttps://m.facebook.com/serithai.net/photos/a.173284956060275/609613945760705/?type=3&mibextid=qC1gEaข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสุดปัง! ชาวเน็ตไทยไม่ยอมแพ้ ปั๊มยอดคลิกมินิเกม “Popcat” ขึ้นอันดับ 1 ของโลกThailand Web Stat MGR Online Hot Share หน้าหลัก Online Section Hot Share สุดปัง! ชาวเน็ตไทยไม่ยอมแพ้ ปั๊มยอดคลิกมินิเกม “Popcat” ขึ้นอันดับ 1 ของโลก เผยแพร่: 15 ส.ค. 2564 16:27 ปรับปรุง: 15 ส.ค. 2564 16:27 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ 18,180 จากกรณีแฮชแท็ก #Popcat ติดในเทรนด์ Twitter ของประเทศไทยในช่วงคืนที่ผ่านมา โดยในแฮชแท็กดังกล่าวเกิดจากที่ชาวเน็ตไทยร่วมพูดคุยกันถึงเรื่องมินิเกมที่มีชื่อว่า “POPCAT” ซึ่งล่าสุดนั้นการรวมพลังของคนไทยทำให้ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกแล้ว ad วันนี้ (15 ส.ค.) ในโลกออนไลน์มีชาวเน็ตจำนวนมากพร้อมใจกันลงสนามแข่งขันเกม “Popcat” หรือ “เจ้าแมวอ้าปาก” ที่ไม่ว่าจะเปิดไปที่ไหนก็จะมีคำว่า “Popcat” ขึ้นมาให้เห็นอยู่ตลอด โดยเกมดังกล่าวที่กลายเป็นปรากฎการณ์เพิ่มความสามัคคีให้คนทั้งประเทศ เข้าไปเล่น เนื่องจากเกม “Popcat” มีการแข่งกับหลายประเทศทั่วโลกและนับคะแนนแบบเรียลไทม์ ซึ่งไม่มีใครทราบว่าผู้ชนะนั้นจะได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทน ซึ่งการนับคะแนนจะนับโดยใช้วิธีการใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าจอโทรศัพท์ หรือ ให้คลิกเม้าส์ และจะปรากฎภาพของเจ้าแมวเหมียวหรือที่มีชื่อว่า “โอ๊ตมีล” อ้าปากกว้าง และคะแนนตัวเลขก็จะวิ่งขึ้นตามจำนวนการจิ้มของแต่ละคนรวมทั้งประเทศ ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 16.15 น. ประเทศไทยมีคะแนนรวมกว่า 2.4 หมื่นล้านครั้ง และขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก ส่วนอันดับ 2 คือ ไต้หวันที่มีคะแนน กว่า 1.6 หมื่นล้าน และอันดับ 3 ประเทศมาเลเซีย มีคะแนน กว่า 1.1 หมื่นล้านมีม24phophiangliz• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยน้องทิวป.3/2หล่อจริงไหมน้องทิวป.3/2 โรงเรียนบ้านไคศรี หล่อจริงไหมความสวยความงามน้องทิวป.3/2• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม หมักผมด้วย "กระเทียม" รักษาผมร่วงข้อมูลจากกรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง เปิดเผยว่า โดยปกติแล้วเส้นผมของคนเรามีประมาณ 80,000 ถึง 1,200,000 เส้น งอกยาวขึ้นวันละประมาณ 0.35 มิลลิเมตรและมีอายุนาน 2 ถึง 6 ปี โดยปกติคนเราจะมีผมร่วงเป็นประจำทุกวัน แต่ไม่เกินวันละ 30 ถึง 50 เส้น สาเหตุของภาวะผมร่วง ได้แก่ 1. ผมร่วงจากกรรรมพันธุ์ สามารถพบได้ทั้งชายและหญิง มักพบในเพศชายมากกว่า เห็นเป็นเส้นขนอ่อน ๆ ทำให้ผมบริเวณนั้นดูบางลง ส่วนมากจะเป็นบริเวณกลางศีรษะและหน้าผาก 2. ผมผลัด เกิดผมร่วงเนื่องจากผมหยุดเจริญชั่วคราวจากการเจ็บป่วยหรือความเครียดหรือขาดสารอาหาร เช่น เหล็กหรือวิตามินดี ทำให้วงจรชีวิตเส้นผมที่กำลังเจริญมีการหยุดเจริญและหลุดร่วงมากกว่าปกติ 3. ผมร่วงเป็นหย่อม เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด จะมีอาการผมร่วงเฉพาะที่ บริเวณผมที่ร่วงจะมีลักษณะกลมหรือรี ขอบเขตชัดเจน ตรงกลางไม่มีเส้นผมหนังศีรษะในบริเวณนั้น ไม่แดง ไม่เจ็บ ไม่คัน ไม่เป็นสะเก็ด หรือเป็นขุย 4. ผมร่วงจากการถอน พบได้บ่อยในผู้ใหญ่และเด็กที่มีความเครียดจากสาเหตุต่าง ๆ ผู้ป่วยจะดึงผมตัวเองจนผมแหว่ง หนังศีรษะบริเวณที่ผมร่วงจะไม่มีผื่นคัน หรือเป็นขุย และจะพบเส้นผม ที่เป็นตอสั้น ๆ 5. ผมร่วงจากเชื้อรา โรคเชื้อราที่ศีรษะ กลากที่ศีรษะ อาจพบได้บ่อยในเด็ก เกิดจากการติดเชื้อราโรคนี้ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ เป็นผื่นแดงคัน และเป็นขุย หรือก้อนอักเสบคล้ายฝี อาจจะมีโรคเชื้อรา (กลาก) ร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ 6. ผมร่วงจากการทำผม การม้วนผม ย้อมสีผม ดัดผม เป่าผมหรือวิธีอื่น ๆ อาจทำให้มีอาการผมร่วงได้จากการที่มีหนังศีรษะอักเสบ หรือเส้นผมเปราะหัก 7. ผมร่วงจากโรคอื่น ๆ ผู้ป่วยที่มีโรคบางอย่าง เช่น โรคเอสแอลอี ก็อาจมีอาการผมร่วง ผมบาง ร่วมกับอาการไข้เรื้อรัง ปวดตามข้อ มีผื่นปีกผีเสื้อขึ้นที่หน้า โรคผมร่วงบางอย่างอาจมีการอักเสบที่บริเวณสเต็มเซลล์ทำให้เกิดผมร่วงแบบเป็นแผลเป็นซึ่งแผลเป็นจะไม่หายstd46493• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยมอเตอร์เวย์ M81 บางใหญ่ - กาญจนบุรี เปิดวิ่งฟรีตลอดสาย เริ่ม 3 พฤษภาคมนี้ไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกรมควบคุมโรคเตือนโรคไอกรนระบาด ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สุขภาพภาคใต้ไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยนายกฯ เตรียมเปิดท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 จริงหรือไม่คะนายกฯ เตรียมเปิดท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 จริงหรือไม่คะภาคตะวันออกWatcharakorn Saensee• 3 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยก่อนนอนคืนนี้ มีเรื่องอยากระบายเล็กน้อย ทำไมขึ้นรูปคุณแดง เพราะข่าวในหลายวันที่ผ่านมา หลายคนเป็นลูกหม้อรุ่นท้ายๆ ของคุณแดงในช่อง 7 ก่อนคุณแดงจะถูกปลดออกไป ป๋าเป็นคนนึงที่เติบโตมากับช่อง 7 ได้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของช่อง 7 และหลายๆ อย่าง ส่วนนึงชัดเจนว่าเป็นผลงานและการทำงานของคุณแดงมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ประมาณปี 2524 (อ้างอิงจากวิกิพีเดีย) จนถึงประมาณต้นปี 2555 ที่บอร์ดผู้บริหารเลือกผลักคุณแดงออกไป การที่บอร์ดช่อง 7 ตัดสินใจตัดคุณแดงออกไป เป็นความคิดที่พลาดมากๆ สำหรับป๋า ดาราหลายคนของช่อง 3 มีไม่น้อยที่ยังเลือกตัดสินใจอยู่กับช่องต่อไปและต่อสัญญาต่อไป หรือแม้แต่เป็นดาราช่อง 7 เองที่เลือกมาอยู่ช่อง 3 และก็ยังอยู่จนถึงทุกวันนี้ ขณะที่ดาราแถวอโศก ก็มีไม่น้อยที่ยังอยู่กับช่อง เหตุผลหลักๆ เพราะความเอาใจใส่ของผู้บริหารและปัจจัยหลายอย่าง แต่ไม่ใช่กับช่อง 7 ซึ่งหลังจากนั้นปรากฎว่ามีหลายคน ออกไปจากช่อง ทั้งดารา ผู้จัดละคร หรือแม้แต่บริษัทที่คุ้นเคยคุ้นชินมานานอย่างกันตนา ก็ไม่วายจะถูกเฉดหัวออกไปทีละนิดจนกระทั่งพ้นเงาไปสมบูรณ์ ความจริง คุณแดงยังไม่ได้หายไปจากวงการจอแก้ว ออกจะแสบกว่านั้นตรงที่ไปช่วยช่อง 3 ทำละครอีกต่างหาก แต่คนที่ทำพลาดจริงๆ ก็คือช่อง 7 สำหรับป๋า แสงสุดท้ายของช่อง 7 คือ สารวัตรใหญ่ (2562) มีหลายคนเลิกดูช่อง 7 ไปแล้ว กลับมาดูเพราะติดใจเนื้อหาละครเรื่องนี้ เนื้อหาละครไม่ได้มีแค่จิกกัดวงการตำรวจ แต่ยังส่งเสริมและชี้ทางให้ถูกต้อง ซึ่งน้อยรายที่จะทำ หลังจากนั้นเป็นต้นมา ช่อง 3 ที่ว่าซบเซาไม่ต่างกัน ยังมีมาตาลดา ขณะที่ช่องวัน ก็มีละครใหม่ๆ ส่วนช่อง 7 ก็ไม่มีระดับพีคๆ อีกเลย มีแต่เอาละครเก่าๆ มาฉายซ้ำมีมไม่ระบุชื่อ• 8 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอนุทิน ให้ทุกจังหวัด เปิดวอล์กอินฉีดวัคซีน COVID-19 เข็มแรกได้ จริงหรือที่ประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 2 /2564 มีมติเห็นชอบเพิ่มการจัดหาจำนวนวัคซีน COVID-19 อีก 50 ล้านโดส เพื่อเตรียมไว้ฉีดให้กับประชากร ทำให้ไทยจะมีวัคซีน COVID-19 ในปี 2565 จำนวน 150 ล้านโดส และเร่งเจรจากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีน เพื่อจัดหาวัคซีนให้ครอบคลุมการกลายพันธุ์ รวมทั้งปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้เร็วที่สุด เพื่อลดความรุนแรงของโรค เริ่มได้ทันทีตามความพร้อมของแต่ละจังหวัด โดยการฉีดวัคซีนจะมี 3 รูปแบบ คือ 1.นัดหมายผ่าน แอปหรือไลน์ หมอพร้อม 2.การนัดหมายเป็นกลุ่มก้อน ของทางหน่วยงาน เพื่อขอรับวัคซีน 3.รับการฉีดแบบไม่นัดหมายล่วงหน้า หรือ วอร์กอินโควิด 2019วัคซีนโควิดanonymous• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยนายกฯ แถลง www.เราไม่ทิ้งกัน.com เงินเยียวยา 5,000 บาท รัฐบาลมีจ่ายแค่ 1 เดือน ที่เหลือรอพ.ร.ก.เงินกู้ ส่วนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รอประเมินจาก ศบค.15 เม.ย. 63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ข้อความส่วนนึงได้กล่าวว่า "เงินที่รัฐบาลจะนำมาเยียวยานั้นมาจากงบกลางจำนวน 50,000 ล้านบาท เดิมจะเยียวยา 3 ล้านคน ซึ่งจะเยียวยาได้ 3 เดือน หรือ 15,000 บาทต่อคน แต่เมื่อจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน.com มีมากถึง 9 ล้านคน ทำให้รัฐบาลมีเงินเยียวยาได้เพียงเดือนเดียว ในจำนวน 9 ล้านคน"โควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแก้วิธีการรักษา อาการตื่นมาฉี่บ่อย (nocturia) ของผู้สูงอายุตื่นขึ้นมาปัสสาวะบ่อย รุ่นพี่ที่เคารพท่านหนึ่ง ได้ส่ง VDO link ที่น่าสนใจมาให้ จาก NHK on demand video ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ ส.ว. ทั้งหมด (เกิน 250) แต่คนที่ยังไม่เป็น ส.ว. รู้ไว้ก็ไม่เสียหลาย เพราะอนาคตเราก็จะได้เลื่อนขั้นขึ้นไปกันทุกคนอยู่แล้ว เรื่องที่ว่านั้นก็คือ ปัญหาของการที่ต้องตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ (nocturia) เพื่อไปฉี่ ปัญหานี้ ได้มีการทำวิจัยเมื่อต้นปีนี้เอง (กุมภาพันธ์ -เมษายน) ควบคุมโดย Toromoto Kazumasa อาจารย์หมอทางด้านระบบทางเดินปัสสาวะ (urologist) แห่งมหาวิทยาลัยแพทย์นารา (Nara Medical University) เนื่องจากโควิดมา ผลการวิจัยนี้จึงเพิ่งจะเผยแพร่สู่สาธารณชน เมื่อต้นเดือนธันวาคมนี้เอง การวิจัย ดำเนินการโดยให้ หนุ่ม Terakita เดินทางไปอยู่ที่บ้านคุณลุง Hayashi ทั้งวัน และทำกิจกรรมต่างๆเหมือนกัน โดยฉี่ให้หมดกระเพาะปัสสาวะ (bladder) ในตอนเช้า จากนั้น ให้กินอาหารเหมือนกัน ดื่มน้ำเท่ากัน ออกกำลังกายเหมือนกัน แล้วฉี่ใส่ถ้วยตวง วัดปริมาณเปรียบเทียบกันดู @07:30 เริ่มกินข้าว เป็นอาหารญี่ปุ่น มีน้ำอยู่ในอาหาร 600 mL (คำนวณโดย Yamaguchi Chikage นักโภชนาการ ของ Nara Medical University Hospital) และดื่มน้ำชา 530 mL รวม 1,130 mL ตอนสาย เจ้าหนุ่ม ฉี่ไป 4 รอบ 300+400+300+100 mL ส่วนลุงฉี่แค่ 2 รอบ 100+110 mL @12:30 มื้อกลางวัน เป็นแซนวิช มีน้ำแค่ 140 mL และดื่มน้ำเปล่าอีกคนละ 380 mL ตอนบ่าย ออกกำลังกาย ไปทำสวนด้วยกัน เข้ามาในบ้าน เล่น VDO game ด้วยกัน (ลุงแกเล่นได้ด้วยแฮะ) ตอนบ่าย เจ้าหนุ่มฉี่อีก 3 ครั้ง 350+200+150 mL คุณลุงก็ฉี่ 3 ครั้งเหมือนกัน แต่ปริมาณน้อยกว่า 40+180+70 mL จนเย็น @18:30 ได้เวลาจากกัน หลังจากอยู่ด้วยกันมาทั้งวัน ค่ำคืนนั้น ก่อนเข้านอน เจ้าหนุ่มฉี่อีก 4 ครั้ง 320+150+180+150 mL แต่ลุงฉี่แค่ครั้งเดียว 180 mL หมอใช้ ultrasound ตรวจดูน้ำในกระเพาะปัสสาวะ - เกือบไม่มีทั้งคู่ ก่อนเข้านอนตอนเที่ยงคืน ในวันนั้น น้ำ เข้าไปร่างกาย คนละ 2,730 mL เท่าๆกัน แต่ลุงมีน้ำเหลืออยู่ในร่างกายเยอะมาก ผลก็คือ เจ้าหนุ่มหลับรวด ไม่ได้ตื่นขึ้นมาฉี่ แต่ลุงต้องตื่นไปฉี่ 3 รอบ 130+420+280 mL วันต่อมาจึงรู้สึกเพลีย การที่กลางวันง่วง และต้องงีบบ่อยๆ เพราะกลางคืนตื่นบ่อย (nocturia) เพื่อไปฉี่ เนื่องจากน้ำที่ดื่มระหว่างวันยังค้างอยู่ในร่างกาย แต่น้ำนั้น ... ไม่ได้อยู่ในกระเพาะปัสสาวะ ! เชื่อหรือไม่ว่า มีความลับในร่างกายของเราอย่างหนึ่ง ก็คือ คนเรามีกระเพาะปัสสาวะที่สอง (2nd bladder) !! ในเมื่อน้ำ ไม่อยู่ในกระเพาะปัสสาวะ แล้วมันไปเก็บอยู่ที่ไหน? ที่ตับ (liver) หรือเปล่า เพราะแอลกอฮอล์ก็ยังไปกำจัดที่ตับ น้ำก็น่าจะไปด้วย … ไม่ใช่ ที่ไต (kidney) ใช่ไหม เพราะเป็นด่านแรก ที่น้ำจะต้องผ่าน ก่อนไปที่กระเพาะปัสสาวะ … ไม่ใช่อีก ที่เส้นเลือด (blood vessels) กระมัง เพราะในเลือดมีน้ำ อาจเก็บน้ำเพิ่มขึ้นได้ … ก็ไม่ใช่ แม้แต่ลำไส้ (intestine) ที่น่าจะมีที่เก็บน้ำไว้ได้มากทีเดียว … ไม่ใช่เหมือนกัน เพราะคำตอบที่ถูกคือ - น่อง (calves) ครับ ! เพื่อเป็นการพิสูจน์ เจ้าหน้าที่ได้ทำการวัดรอบน่องของลุง Hayashi ตอนตื่นนอนและก่อนนอน พบว่า น่องโตขึ้นจริงๆ (ขวา 40.5 => 42.7 ซ้าย 41.5 => 45.7 cm) ทีมงาน ได้นำอุปกรณ์วัดทันสมัย ไปที่บ้านลุง Hayashi เพื่อวัดปริมาณน้ำในส่วนต่างๆของร่างกาย แล้ว plot มาเป็นกราฟ พบว่า ช่วงเช้า น้ำในลำตัวและแขน เกือบคงที่ แต่น้ำในขา จะค่อยพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ช่วงบ่าย น้ำในขาเกือบคงที่ แต่ในแขนและลำตัวค่อยๆลด ส่วนตอนค่ำ ก่อนนอน น้ำในลำตัวค่อยๆลด ในแขนคงที่ แต่ในขายังพุ่งขึ้นต่อ สุดท้ายก่อนเข้านอน น้ำในขาของลุง Hayashi มีมากกว่าตอนเช้าถึง หนึ่งลิตรครึ่ง ! ทั้งนี้เพราะ ขาทั้งสองข้าง เป็นเหมือนแท็งค์น้ำ โดยน้ำจะแทรกอยู่ระหว่างกระดูกและผิวหนัง เรียกว่า “interstitium” เมื่อไม่มีน้ำ จะแฟบ พอมีน้ำก็จะพองหนาขึ้น น่อง จึงเหมือนถังน้ำ เก็บไว้ฉี่ทิ้งภายหลัง และนั่นเป็นสาเหตุที่ต้องตื่นขึ้นมาฉี่บ่อย คุณหมอ Sone Atsushi Director, Miyazu Takeda Hospital ยืนยันว่า มีคนไข้เป็นอย่างนี้หลายคน มีคำอธิบาย เขียนเป็นไดอะแกรมง่ายๆ เป็นวงจรของเส้นเลือดแดงจากหัวใจลงมาที่น่อง แล้วก็กลับขึ้นหัวใจทางเส้นเลือดดำ ส่วนกระเพาะปัสสาวะอยู่ตรงกลางระหว่างหัวใจกับน่อง การเต้นของหัวใจ กับการเคลื่อนไหวของน่อง จะเหมือนกับปั๊มสองตัวช่วยกันสูบฉีดน้ำในร่างกาย ถ้าน้ำมากไปก็จะไปปล่อยทิ้งที่กระเพาะปัสสาวะ เมื่ออายุยังน้อย ปั๊มที่น่องก็ยังแข็งแรงดีอยู่ ยิ่งเป็นเด็ก วิ่งกระโดดโลดเต้น น่องจึงแข็งแรง (เพราะฉะนั้น ถึงจะวิ่งไม่ไหว ก็ขยันเดินกันหน่อยนะครับ) แต่เมื่ออายุมากขึ้น น่องไม่ค่อยได้ทำงาน น้ำจึงมาบวมอยู่ที่ขา ด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก พอล้มตัวลงนอนตอนดึก น้ำส่วนเกินนี้จึงค่อยๆกลับมาที่กระเพาะปัสสาวะ จนทำให้ต้องลุกไปฉี่บ่อยๆ ดังนั้น ในปีนี้ ทางการแพทย์ที่ญี่ปุ่น จึงมีการปรับแก้วิธีการรักษา อาการตื่นมาฉี่บ่อย (nocturia) ซึ่งไม่มีการแก้ไขมาเลยในรอบสิบปี คุณลุง Ando เป็นคนหนึ่งที่ได้รับการรักษาวิธีหนึ่งในแผนใหม่นี้ สี่ปีมาแล้วที่เขาต้องตื่นมาฉี่ 4~5 ครั้ง ทุกคืน แถมลำบากที่ต้องปีนบันไดขึ้นลง เพราะห้องน้ำอยู่คนละชั้นกับห้องนอน พลาดพลั้งเกิดตกบันไดขึ้นมาก็ยุ่งอีก ชีวิตช่างน่าหดหู่เสียจริงๆ การฉี่บ่อย (nocturia) นำไปสู่ ความรู้สึกหดหู่ และกระดูกหัก !? พูดให้เว่อร์ไปหน่อย ... ความรู้สึกหดหู่ หรือ depression ก็เพราะอดนอน และกระดูกหัก ไม่ใช่เพราะฉี่บ่อยตรงๆ แต่เป็นสาเหตุเกี่ยวเนื่อง โดยเกิดจากการงัวเงียเมื่อตื่นขึ้นมา อาจจะทำให้หกล้ม หรือ ตกบันได แต่กระดูกหักในกลุ่มผู้สูงอายุนี่เรื่องใหญ่นะ วันหนึ่ง ลุง Ando ได้รับ “กล่อง” เพื่อการรักษา หนึ่งเดือนผ่านไป คุณลุงนอนรวดเดียวยันเช้า ไม่ต้องลุกไปฉี่เลย คุณลุง Ando ได้พบ “ทางรอด” แล้ว ที่สามารถจะใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง “ทางรอด” ในกล่องเล็กๆ ที่ทำให้ชีวิตของลุง Ando เปลี่ยนไปเลยนั้น คืออะไร ? คุณ Toshida Masaki Assit. Director, ศูนย์ศึกษาผู้สูงอายุ (แห่ง National Center for Geriatric & Gerontology) มาเฉลยว่า ภายในกล่องนั้น คือ ... “ถุงเท้ารัดน่อง” (compression stockings) ครับ ถ้าสวมมันไว้ตอนกลางวัน จะช่วยทำให้ขาไม่บวม และไม่เก็บน้ำไว้ ทำให้ฉี่ตอนกลางวันมากขึ้น ไม่เก็บไว้ไปฉี่ตอนดึกอีก นอกจากนั้น ยังมีคำแนะนำง่ายๆอีกอย่าง เป็นวิธีการบำบัดข้อที่สอง ที่คุณหมอได้แนะนำให้ลุง Hayashi ที่เข้าร่วมการทดลองในตอนแรก ลองกลับไปทำดู คือการนอนยกขาให้สูงขึ้นหน่อย ประมาณครึ่งฟุต สักครึ่งชั่วโมงในตอนบ่าย แต่อย่างีบหลับไปนะ เดี๋ยวกลางคืนจะนอนไม่หลับอีก คุณลุง Hayashi ได้ลองทำดูประมาณหนึ่งเดือน โดยเริ่มทำตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ด้วยการนอนยกขาพาด อ่านหนังสือ หนึ่งเดือนผ่านไป จากการต้องลุกไปฉี่ 3 หนในตอนก่อน ก็เหลือเพียง 1.5 ครั้งโดยเฉลี่ย การรักษานี้เป็นการบำบัดโดยเปลี่ยนอุปนิสัย (behavior therapy) ดีกว่าการใช้ยา เพราะว่าไม่มีผลข้างเคียง (side effect) คำแนะนำเพื่อการบำบัดดังกล่าว มี 3 วิธี คือ :- • สวมถุงน่องแบบรัด • ยกขา • งดกินเค็ม การงดกินเค็มที่แถมมาด้วยนั้น เพราะ การกินเค็ม นอกจากจะทำให้ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นแล้ว ยังทำให้ร่างกายเก็บน้ำไว้ด้วย ของแถมอีกอย่างที่บางคนอาจจะเมิน คือ หมอเขาแนะนำให้เลิกการ “กรุ๊บๆ กรั๊บๆ” ในตอนเย็น เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แถมกับแกล้มกินเล่นซึ่งมักจะมีเกลือเยอะ จะช่วยกันเรียกความกระหายให้ร่างกายดื่มน้ำมากขึ้น สังเกตได้ว่าถ้ากินเลี้ยงตอนเย็น คืนนั้นก็จะฉี่มากขึ้น คำถามว่า สวมถุงรัดน่องด้วย พร้อมกับนอนยกขาด้วย ได้ไหม - Dr. Yoshida บอกว่า ไม่มีปัญหา แต่สวมถุงรัดน่องไปกินเลี้ยงตอนเย็นนี่คงไม่ช่วยเท่าไหร่นะ งานนี้ สงสัยจะมีคนขอเลี่ยงบาลีไปดื่มตอนเที่ยงแทน คำแนะนำแนวทางทั้งสามนั้น คงจะเป็นประโยชน์กับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ส่วนเรื่องถุงรัดน่องนั้น ถ้าไปหาตามร้านขายยา ก็จะมีถึงสามชนิดให้เลือก คือ สูงแค่เข่า ซึ่งสวมง่ายหน่อย ยาวขึ้นมาหน่อยคือสวมทั้งขา และที่ยาวสุดคือ สวมขึ้นมาถึงเอว ชอบแบบไหนก็เลือกได้ตามสะดวกครับ รวมทั้ง น่าจะมีขนาดให้เลือกด้วย และสามารถสวมใส่ได้ทั้งวัน อย่างไรก็ตาม คุณหมอมีคำเตือนสำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจหรือเบาหวานว่า ให้ปรึกษาหมอหน่อยก็ดีนะ เรื่องที่จะหาอะไรมารัดน่องนี่น่ะ ที่ง่ายคือการนอน (อย่าหลับ) ยกขาขึ้นมาพาดอะไรที่สูงหน่อยในตอนบ่ายนั้น ก็ต้องบริหารเรื่องเวลาเหมือนกัน ไม่เร็วไป (เพิ่งผ่านเวลาเช้ามาหยกๆ) หรือช้าไป (จะเข้านอนอยู่แล้ว) เพราะจะไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรทั้งคู่ เวลาแดดร่มลมตก นึกถึงเปลญวนขึ้นมาทีเดียว เพราะเป็นเปลที่ขาถูกยกขึ้นมา ไม่ได้นอนราบๆ แต่ไม่มีเปลญวนก็ไม่เป็นไร หาอะไรหนุนขาเอาก็ได้ อย่างไรก็ตาม วันนี้ ผมเลยได้ไอเดีย ที่ทำให้ชีวิตสบายขึ้นเยอะ เพราะว่า ... แทนที่จะนั่งเขียนบทความ บ่ายวันนี้ ผมนอนยกขาเขียนครับ !! ... @_@ ... วัชระ นูมหันต์ 20 ธันวา 63ผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยอัยการสั่งฟ้อง 2 ทหารยิงชาวบ้านตัดไม้ดับ 3 ศพเขาตะเว จริงหรือไม่ ?อัยการสั่งฟ้อง 2 ทหารยิงชาวบ้านตัดไม้ดับ 3 ศพเขาตะเวภาคใต้AZ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเล็บเหลืองเป็นสัญญาณเตือนของโรคเบาหวาน โรคปอด และโรคไทรอยด์จากกรณีมีบทความในสื่อออนไลน์ระบุว่า เรื่องเล็บเหลืองอาจเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น กลุ่มอาการเล็บเหลือง การติดเชื้อราที่เล็บ การแพ้ยาทาเล็บ รวมถึงอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคเบาหวาน โรคปอด โรคไทรอยด์ และโรคทางเดินหายใจอื่น ๆ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุและทำการรักษาอย่างเหมาะสม ทางสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เล็บสีเหลืองไม่ได้เป็นสัญญาณเตือนของโรคเบาหวาน โรคปอด และโรคไทรอยด์ ซึ่งกลุ่มโรคเล็บเหลือง (Yellow nail syndrome) จะมีอาการเล็บเป็นสีเหลืองทุกเล็บ จะเป็นโรคที่พบร่วมกับทางเดินน้ำเหลืองที่มีการอุดตัน ทำให้เกิดแขนหรือขาบวม และมีน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดหรือการอักเสบของหลอดลม และไซนัสได้ เล็บที่มีสุขภาพดี คือเล็บที่มีสีออกชมพูจาง ๆ จากสีผิวของเนื้อข้างใต้เล็บ มีพื้นผิวเรียบ ผิวหนังรอบเล็บมีความแข็งแรงและเล็บมีความหนาไม่มาก และไม่น้อยจนเกินไป ถ้าเล็บมีความแตกต่างไปจากนี้ถือว่าเป็นเล็บที่ไม่ปกติ จะเป็นสัญญาณบอกโรคได้ เช่น โรคเชื้อรา ที่นอกจากเล็บจะหนาขึ้นแล้ว อาจมีสีเปลี่ยนไปเป็นสีเหลืองหรือขาวหรือน้ำตาลร่วมกับมีปลายเล็บร่อน โรคสะเก็ดเงินมักจะมีอาการเล็บหนามีสีเหลืองได้มักเป็นหลาย ๆ เล็บที่มีสีขาวครึ่งเล็บพบได้ในคนที่เป็นโรคไตวายเรื้อรัง เล็บที่มีสีขาว 2 ใน 3 ของเล็บพบได้ในคนเป็นโรคเบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง โรคตับแข็งและโรคหัวใจวาย เล็บที่มีสีขาวเป็นแถบขวางอาจเป็นโรคโปรตีนในร่างกายต่ำ เป็นต้นpacharagunjitjueawong• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยคลิกลิงก์ เพื่อแก้ไขแอปฯ ทางรัฐค้างอยู่ขั้นตอนที่ 3 และ 4การเงินแอคปลอมไม่ระบุชื่อ• 8 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอาหาร 3 ชนิด ช่วยให้หลับสบายไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอาหาร 3 ชนิดช่วยให้หลับสบายไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยขึ้นทางด่วน ฟรี 5 วันรวด ดีเดย์ 30 ธ.ค. 64 - 3 ม.ค. 65ขึ้นทางด่วน ฟรี 5 วันรวด ดีเดย์ 30 ธ.ค. 64 - 3 ม.ค. 65Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยขอตรวจสอบข่าวนี้ครับ เพื่อนส่งมาครับ จาก FB อ. สมเกียรติ โอสถสภา ครับ Covid-19: Red Alert in Myanmar "พม่าแตกแล้ว" เตือนภัยระดับสูงมากนะครับ เมียนมา เข้าสู่ 2nd Wave ที่รุนแรงอย่างแน่นอนแล้ว ทุกๆคนครับ คงต้องเตรียมยกการ์ดสูงสุด และถ้าเป็นไปได้ กองทัพบกและทัพเรือควรรีบปิดชายแดนทางบก และทางทะเลโดยทันทีครับ ณ จุดนี้ต้องตามสถานการณ์เมียนมาทุกวัน และพร้อมล็อคพรมแดนตะวันตกทั้งแนวครับ ถ้าเมียนมาเอาไม่อยู่ เราน่าจะมีเวลาจากวันนี้ไปอีกไม่ถึง 1 สัปดาห์ที่จะยัน ทางฝั่งเรา หรือส่งกองหนุนไปช่วยเมียนมารบ Covid ในบ้านของเขาเลยครับ ถ้าเมียนมาแพ้ เราก็อันตรายมากครับ Time Line: วันที่ 16 ส.ค. 63 ที่ผ่านมาตรวจพบ Local Transmission ในเมียนมาขึ่้น 1 กรณี หลังจากที่ไม่เกิดมาเลย 1 เดือนเต็ม นี่คือวันแรกของ 2nd Wave ในเมียนมา วันที่ 21 ส.ค. 63 ตรวจพบ Total Case ของ 2nd Wave รวม 45 คนหลังจากผ่านมาได้ 6 วันนับจากวันแรก วันที่ 24 ส.ค. 63 ตรวจพบ Total Case ของ 2nd Wave รวม 100 คน เพิ่มขึ้น 2 เท่าภายใน 3 วัน มีแนวโน้มว่าจะเป็นสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็ว มี Doubling Day แค่ 3 วัน วันที่ 26 ส.ค. 63 ตรวจพบ Total Case ของ 2nd Wave รวม 206 คนยืนยัน Doubling Day แค่ 2-3 วัน สถานการณ์ช่วง 10 วันที่ผ่านมา ยืนยันได้แน่นอนว่า 2nd Wave แน่นอนแล้ว และรุนแรงกว่า 1st Wave มาก ตอนนี้รัฐบาลเมียนมารับรู้แล้ว และเริ่ม Partial Lockdown บางส่วน ซึ่งต้องตามดูสถานการณ์ต่อไปว่าจะได้ผลแค่ไหนนะครับ แต่เชื่อได้ว่า รอบนี้ผู้ติดเชื้อมีโอกาสหลุดไประดับอย่างน้อย 2000 - 3000 สูงมาก และอาจไปไกลกว่านั้นมากถ้าเอาไม่อยู่ กรณีนี้ตัวเลขเริ่มต้นแย่และร้ายแรงกว่ากรณีดานังของเวียดนามที่เพิ่งผ่านมามากครับ Prediction: จุดเช็คว่ารัฐบาลเมียนมาเอาอยู่หรือไม่ จุดที่ 1 : ตัวเลขเฉพาะ 2nd Wave ถึง 800 คน ก่อน 1 ก.ย. คือเอาไม่อยู่ (คำนวณจาก Total Case ลบด้วย 374 คนของเวฟแรก) จุดที่ 2 : ตัวเลขเฉพาะ 2nd Wave ถึง 5,000 คน ก่อน 8 ก.ย. คือ เอาไม่อยู่อยู่และหนักมาก ด้วยความเคารพต่อท่านนายกประยุทธ รัฐบาลและกองทัพนะครับ ผมเชื่อว่า ภายใน 2-3 วันข้างหน้านี้ เราอาจจะต้องตัดสินใจในด้านปฏิบัติการทางทหารบางอย่าง เพื่อป้องกันชายแดนตะวันตกของเรา และรักษาประเทศของเราให้ปลอดภัยครับ ณ ปัจจุบัน ชายแดนฝั่งนั้น มีคนลักลอบเดินข้ามไปมามากมายเหลือเกิน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถยอมรับได้นับจากนี้ไปแล้วครับ ผมจะตาม Update สถานการณ์ในเมียนมารายวัน คาดว่าภายใน 2-3 วันข้างหน้า เราน่าจะเห็นความเสี่ยงต่างๆชัดเจนมากขึ้นอีกมาก ซึ่งน่ากังวลใจเหลือเกินว่าอาจจะหนักครับ และถ้าเมียนมาพังหนักแบบฟิลิปปินส์ เราไม่รอดแน่ครับ ถ้าเป็นไปได้ ส่งกองหนุนไปช่วยเมียนมารบ Covid ในบ้านของเขาเลย น่าจะเป็นการต่อสู้เชิงรุกที่ดีที่สุดครับ ยังหวังอยู่ว่าอีก 2-3 วันตัวเลขจะกลายเป็นข่าวดีมากกว่าข่าวร้ายครับโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยกรมอุทยานแห่งชาติฯ ประกาศเปิดฤดูกาลท่องเที่ยว 3 อุทยานแห่งชาติในทะเลอันดามันไม่ระบุชื่อ• 8 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเผย 6 แนวโน้มข่าวลวงสุขภาพ ปี 2022! ระวังหยด "น้ำมันกัญชา" เอง เสี่ยงอันตรายข่าวลวงยังเป็นปัญหาสำคัญของสังคมไทย โดยเฉพาะข่าวลวงด้านสุขภาพที่ส่งผลต่อร่างกาย รุนแรงได้ถึงชีวิต หากไม่รู้เท่าทัน! เมื่อวันที่ 23 ส.ค. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับภาคีโคแฟค (COFACT) ประเทศไทย จัดเวทีสัมมนาไฮบริด นักคิดดิจิทัล ครั้งที่ 23 จากมะนาวโซดา ถึงกัญชารักษา (ไม่) ทุกโรค บทเรียนการรับมืออินโฟเดอมิกของสังคมไทย ณ ห้องประชุม 201 ชั้น 2 สสส. โดยเปิดเผย 6 แนวโน้มข่าวลวงสุขภาพ ปี 2022 Cofact Health Infodemics Trends 2022 โดย ChangeFusion เปิดเผยข่าวลวงที่พบได้ ดังนี้ 1.ข่าวลวงด้านสุขภาพยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเด็นที่เป็นกระแสสังคม เช่น กัญชา วัคซีน 2.พื้นที่ข่าวลวงใน Social Media แบบเปิดสาธารณะมีแนวโน้มดีขึ้นบ้าง แต่มีแนวโน้มขยายและเพิ่มความลึกขึ้นในพื้นที่เทคโนโลยีแบบปิด เช่น กลุ่มเฉพาะที่ไม่เปิดสาธารณะและกลุ่มไลน์ ซึ่งยากต่อการเฝ้าระวังด้วยเครื่องมือ Social Listening 3.ผู้ริเริ่มเผยแพร่ข่าวลวงอาจแบ่งได้เป็นอย่างน้อย 5 กลุ่ม (BBC) แต่ละกลุ่มมีบทบาทแตกต่างไปในข่าวลวงแต่ละลักษณะ แบ่งเป็น Joker, Scammer, Politicians, Conspiracy theorist, Insider 4.ข่าวลวงที่ตอกย้ำอคติหรือความเชื่อ/การเมืองในสังคม มีผลมากทั้งในเชิงความเสี่ยงสุขภาพและความแตกแยกในสังคม เช่น เรื่องฝีดาษลิงกับรักร่วมเพศ วัคซีนกับประเด็นทางศาสนา 5.เนื้อหาของข่าวลวงมีความเป็นสากลมากขึ้น เชื่อมโยงข้ามประเทศมากขึ้น จากหลายเหตุปัจจัย และ 6.การแสวงหาความจริงร่วมมีความสำคัญต่อการสร้างภูมิทางสังคมร่วมกัน โดยเฉพาะในประเด็นที่มีความซับซ้อน เช่น เรื่องข้าวหุงสุกแช่ตู้เย็นกับค่าน้ำตาลในเลือดสุขภาพstd47848• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ