(2229 ข้อความ)
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม! ผลิตภัณฑ์ไวท์โรส พลาเซนต้าครีม ช่วยบำรุงให้หน้าขาวใส และลดจุดด่างดำจากกรณีที่มีการแนะนำผลิตภัณฑ์ ไวท์โรส พลาเซนต้าครีม ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า พบสารประกอบของปรอท ซึ่งเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารห้ามใช้ จัดเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัย อาจทำให้เกิดการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำ ผิวบางลง และเกิดพิษสะสมของสารปรอท ทำให้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และไตอักเสบ ad วันนี้ (3 พ.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ไวท์โรส พลาเซนต้าครีม ช่วยบำรุงให้หน้าขาวใส และลดจุดด่างดำ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีการแนะนำผลิตภัณฑ์ ไวท์โรส พลาเซนต้าครีม ช่วยบำรุงให้หน้าขาวใส และลดจุดด่างดำ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า จากฐานข้อมูลใบรับจดแจ้งเครื่องสำอางไม่พบชื่อผลิตภัณฑ์ “ไวท์โรส พลาเซนต้าครีม” จึงได้ไปตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ พบว่าอย. ได้เคยประกาศผลวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ “ไวท์โรส พลาเซนต้าครีม ครีมรกแกะ หน้าขาวใสลดจุดด่างดำ” ว่าพบสารประกอบของปรอท (Mercury compound) ซึ่งเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารห้ามใช้ จัดเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัย อาจทำให้เกิดการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำ ผิวบางลง และเกิดพิษสะสมของสารปรอท ทำให้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และไตอักเสบ ขอแนะนำให้ประชาชนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ มีฉลากภาษาไทยที่ระบุชื่อที่ตั้งผู้ผลิต/ผู้นำเข้า เลขที่ใบรับจดแจ้งอย่างชัดเจน หากไม่แน่ใจสามารถตรวจสอบข้อมูลการได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ อย.std46750• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยหลุมพรางสร้างความเกลียดชังทางศาสนาอิสลามหลุมพราง บ่มเพาะความเกลียดชังทางศาสนา By ประสาร มฤคพิทักษ์ | pmarukpitak@yahoo.com21 ก.พ. 2565 เวลา 11:49 น. หลุมพราง บ่มเพาะความเกลียดชังทางศาสนา กระบวนการสร้างความเป็นอื่นให้กับบุคคลต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา ต่างผิวพรรณ จะใช้สองมือแบ่งกันทำหน้าที่ มือขวาสร้างโรงน้ำแข็ง เพื่อปั้นน้ำเป็นตัว ส่วนมือซ้าย ขุดหลุมพราง บ่มเพาะความจงเกลียดจงชังให้คนอื่นตกหลุมพรางนั้น ในบรรดาข่าวโกหก (Fake News) ที่อยู่บนหน้าจอไฟฟ้า หรือสื่อออนไลน์ ทั้งหลายนั้น ข่าวโกหกเรื่องศาสนาอิสลามมีพื้นที่ค่อนข้างมาก ส่งกันได้ทุกวัน ทั้งๆ ที่ 90% เป็นข่าวโกหก 1.โกหกว่า ศาสนาอิสลามกำลังยึดครองประเทศไทย โดยมีการออก พ.ร.บ. คุ้มครองศาสนาอิสลาม 10 ฉบับ ว่ามีมัสยิดใหม่เกิดขึ้นมาก ว่ามีการทำลายวัดในพุทธศาสนาหลายแห่ง ความจริง กรมการปกครอง ชี้แจงแล้วว่า มีกฎหมายเกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลามเพียง 4 ฉบับ คือ (1) พ.ร.บ. ว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามในเขตจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล พ.ศ. 2489 (2) พ.ร.บ.ส่งเสริมกิจการฮัจย์ พ.ศ. 2524 (3) พ.ร.บ.การบริหารองค์การศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540 (4) พ.ร.บ.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2545 ไม่ปรากฏว่ามีกฎหมายคุ้มครองศาสนาอิสลามแต่อย่างใดเลย 2.โกหกเรื่องศาสนาอิสลามจะตั้งศาลอิสลาม เพื่อคนมุสลิมไม่ต้องขึ้นศาลไทยปกติ โดยจะระดมรายชื่อ 10 ล้านคน เพื่อถวายฎีกา โดยอ้างว่า “เพื่อเอกราชทางอำนาจของศาลไทยไม่เสียไปอยู่ในมือมุสลิมที่กำลังจะกลืนไทยพุทธหมดแล้ว” ความจริง ไม่มีเรื่องดังกล่าวเลย จะมีก็แต่การนำหลักศาสนาอิสลามเรื่องครอบครัวและมรดกมาใช้สำหรับพิจารณาคดีที่คู่ความทั้งสองฝ่ายเป็นมุสลิม และอยู่ในเขตอำนาจศาลในพื้นที่ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล เท่านั้น ตาม พ.ร.บ. ดังกล่าว (พ.ศ. 2489 ข้อ 3.1) 3.โกหกว่ารัฐบาลต้องเอาภาษีประชาชนสร้างมัสยิดให้ชาวมุสลิมทุกจังหวัด ความจริง มัสยิดเป็นศาสนสถานของอิสลาม ดังที่คาธอลิคมีโบสถ์ พุทธศาสนามีวัด ศาสนาอิสลามมีมัสยิดจำนวน 3,965 แห่ง ตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. ปี 2540 มัสยิดทุกแห่งที่สร้างขึ้นมาจากเงินศรัทธาของชาวไทยมุสลิม รัฐบาลไม่ได้จ่ายเงินสร้างแต่อย่างใด ยกเว้นบางจังหวัดเช่น ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนเงินบูรณะซ่อมแซม ส่วนมัสยิดนครศรีธรรมราชเป็นงบผูกพัน 3 ปี (2557 - 2559) ตามแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนบน 4.โกหกว่ารัฐบาลจ่ายเงินค่าเดินทาง ที่พัก อาหาร ให้ชาวมุสลิมไปประกอบพิธีฮัจย์ที่ซาอุดิอาระเบีย ความจริง ไม่มีเรื่องดังกล่าวเลย ผู้แสวงบุญทุกคนจ่ายเงินเองทั้งสิ้น 5.โกหกว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีสมาชิกที่เป็น สนช. ถึง 63 คน (จากสมาชิกทั้งหมด 233 คน) ที่เป็นมุสลิม กล่าวหาว่า สนช. จำนวนนี้ผลักดัน “ให้มีกฎหมายจัดตั้งศาลซารีอะห์เพื่อให้คนไทยที่มีคดีความกับคนมุสลิมต้องขึ้นศาลนี้ โดยมีผู้พิพากษาเป็นคนมุสลิม” นี่เป็นข่าวเก่าที่แพร่กระจายกันมา ตั้งแต่ 5 ปีก่อน แต่ยังกระจายกันอยู่จนเดี๋ยวนี้ ความจริง สนช. ชุดนั้นมีมุสลิมเพียง 4 คน คือ นิพนธ์ นราพิทักษ์กุล วิทยา ฉายสุวรรณ อนุมัติ อาหมัด และ ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ (ถืออิสลามตามคู่สมรส) เท่านั้น ไม่มีการร่างกฎหมาย ดังกล่าว ไม่มีการเสนอ ไม่มีการพิจารณาใดๆ ทั้งนั้น ยังมีข่าวโกหกอีกหลายอย่าง เช่น สัญลักษณ์ Green Industry ของ กท.อุตสาหกรรม สีเขียวบนสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็หาว่า “เป็นตราฮาลาลเพื่อเอาใจมุสลิม” ข่าวโกหกว่าชาวไทยมุสลิมกู้เงินธนาคารอิสลาม “โดยไม่ต้องใช้หนี้คืนได้” ข่าวโกหกว่า พ.ร.บ.ฮัจย์ “ทำให้อิสลามเข้าควบคุมการปกครอง” กระทรวงมหาดไทย ข่าวโกหกว่าผู้นำซาอุดิอาระเบียแต่งตั้ง “ให้นายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำคนอิสลามเข้าไทยแบบผิดกฎหมายได้” ทั้งหมดนี้เป็นข่าวโกหกอย่างสิ้นเชิงที่นำมาเผยแพร่กันโดยเฉพาะในกลุ่มไลน์ที่แพร่กระจายอย่างเสรีและยากต่อการควบคุม บทเรียน 6 ตุลาคม 2519 ของขบวนการขวาพิฆาตซ้ายที่ปั้นข่าวเท็จกลายเป็นโศกนาฏกรรมล้อมปราบที่ ม. ธรรมศาสตร์ มีการเผานั่งยางนักศึกษา มีการฆ่าแขวนคอ ที่สนามหลวง แม้แต่การโฆษณาชวนเชื่อของ ฮิตเลอร์ และนาซีเยอรมันที่สร้างความรังเกียจทางเชื้อชาติ สังหารคนยิวไป 6 ล้านคน จะไม่เก็บรับบทเรียนกันบ้างหรือไร เมื่อ 16 ก.พ. 2565 ณ วัดราชบพิธฯ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระวโรกาสให้ ดร.มูฮัมหมัด บิน อับดุลการีม อัลอีซา เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลก (OIC) เข้าเฝ้า ทรงรับสั่งว่า “คนไทยคุ้นเคยกับวัฒนธรรมประเพณีของศาสนาอิสลามมานานแล้ว อย่างน้อยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีชาวมุสลิมจากตะวันออกกลางเข้ามาค้าขายหรือรับราชการในเมืองไทย มีผู้สืบเชื้อสายมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นสกุลใหญ่ที่รู้จักกว้างขวาง..... .....ยามที่ชาวมุสลิมมีการงานประเพณีใด ชาวพุทธก็นำสิ่งของไปช่วยงาน ในขณะที่ ถ้าชาวพุทธมีการงานประเพณีใด ชาวมุสลิมก็นำสิ่งของมาช่วยงานเช่นเดียวกัน ทรงสามารถยืนยันได้ เพราะได้เคยทอดพระเนตรเห็นประจักษ์มาด้วยพระองค์เอง ทั้งนี้ “พระมหากษัตริย์ไทย” ทุกพระองค์ มีพระบรมราชปณิธานที่จะพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์บำรุงทุกศาสนา พระบรมราโชบายเช่นนี้ จึงทำให้เมืองไทย มีความสงบร่มเย็นด้วยสามัคคีธรรมเสมอมา” เลขาธิการ OIC กราบทูลแสดงความปิติยิ่งในพระดำรัส และยังกราบทูลถวายคำยืนยันว่า “บุคคลใดผู้ยุยงให้ผู้คนในสังคมรู้สึกแตกแยกบาดหมางกัน โดนอ้างความแตกต่างกันทางศาสนา บุคคลนั้นไม่ได้ชื่อว่าเป็นมุสลิมที่แท้จริง....... ......เพราะการก่อให้เกิดความร้าวฉานนั้น เป็นความชั่วร้ายที่ไม่อาจกล่าวได้ว่า เป็นตัวแทนของศาสนาใดๆ ในโลก ผู้ที่กระทำการเช่นนั้น ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของเขาเอง” สมเด็จพระสังฆราช และผู้นำองค์กรมุสลิมโลก ได้แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์แห่งความสมานฉันท์ที่มีมายาวนานตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุธยาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และไม่ปรารถนาจะเห็นความขัดข้องหมองใจใดๆ เลย กลุ่มสร้างความเกลียดชังทางศาสนา ไม่เรียนรู้เลยหรือว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงทำให้ชาวไทยมุสลิมในภาคใต้ ภาคภูมิใจที่ได้เป็นคนไทย ในแผ่นดินแห่งนี้ เมื่อปี 2511 พระองค์ท่านเสด็จไปงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติองค์ศาสดาพระมูฮัมหมัด โดยมีการเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน เป็นการเปิดงาน พระองค์ตรัสกับ นายต่วน สุวรรณศาสน์ อดีตจุฬาราชมนตรีว่า “พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานที่ถูกเชิญในวันนี้ เขาอ่านได้จับใจไพเราะเหลือเกิน แต่ทำอย่างไรที่จะให้พสกนิกรเรา ทั้งชาวไทยหรือไม่ใช่ก็ตามที และทุกหน่วยงานองค์กรของรัฐได้เข้าใจว่า อัลกุรอานซึ่งเป็นธรรมนูญชีวิต และเป็นคำบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ มีความหมายอย่างไร” แล้วพระองค์ท่าน ก็พระราชทานทุนทรัพย์ก้อนแรกให้กับอดีตจุฬาราชมนตรี เพื่อหาคนแปล จึงได้เกิด “พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน” ฉบับแปลเป็นภาษาไทยที่เป็นคุณูปการยิ่งต่อการศึกษาศาสนาอิสลามของชาวไทยมุสลิมทั้งปวง ต่อเนื่องมาถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่เสด็จงานเมาลิดกลาง และพระราชทานพระกรุณาให้กับชาวไทยมุสลิมโดยไม่ทรงแบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนาใดๆ เลย การเอาเรื่องเท็จมาปั้นแต่งโฆษณาว่าเป็นเรื่องจริง การหยิบเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาเป็นเรื่อง การเอาเรื่องเล็กมาขยายเป็นเรื่องใหญ่ การเอาเฉพาะส่วนมาแทนที่ส่วนทั้งหมดเป็นวิสัยของมนุษย์ จำพวกไหน กระบวนการด้อยค่าบุคคลต่างศาสนา ด้วยวิธีสร้างความเป็นอื่น ขุดหลุมพรางบ่มเพาะความเกลียดชังทางศาสนา จะใจร้ายอำมหิตไปถึงไหน จึงโกหกมดเท็จรายวันไม่หยุดหย่อน เหมือนไม่เกรงนรกหมกไหม้ หรืออย่างไร.ภาคใต้ผู้บริโภคเฝ้าระวังชุมพล ศรีสมบัติ• 4 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยคลังประกาศเตือนห้ามกดรหัส *179* ตามด้วยเลขบัตร ปชช. เพื่อตรวจสอบสิทธิ์เงิน 5,000 บาทเนื่องจากมีการแชร์กันในโลกออนไลน์ว่า ให้กดรหัส *179* ตามด้วยเลขบัตรประชาชน กด # แล้วโทรออกเพื่อตรวจสอบสิทธิ์เงิน 5,000 บาทของโครงการ "เราไม่ทิ้งกัน" ไม่เป็นความจริง ทางธนาคารกรุงไทยแจ้งว่าสามารถตรวจสอบสิทธิ์ผลการลงทะเบียนได้ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com คลิกที่ตรวจสอบสถานะบนหน้าเว็บไซต์ หรือรอผล SMS และทาง call center เท่านั้นโควิด 2019anonymous• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ยังเปิดให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์โอนเงินไม่สำเร็จลงทะเบียนได้ต่อเนื่องเราไม่ทิ้งกัน” กระทรวงการคลัง เปิดปุ่มสีเขียวเข้ม สำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิ์โอนเงินไม่สำเร็จจำนวน 7 หมื่นรายลงทะเบียนผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com เพื่อรับเงินเยียวยา 15,000 บาทโควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยการ Detox โดยไม่ต้องสวนก้นการ Detox โดยไม่ต้องสวนก้น เอาอะไรเข้าไปก่อกวนลำไส้ ซึ่งอาจมีโทษข้างคียง เช่น ทำลายระบบนิเวศของ แบคทีเรียดีในลำไส้ นำสู่การขาดวิตามิน B12 เว้นแต่มีข้อบ่งชี้ เช่น ท้องผูก อวัยวะขับพิษ ทั้ง 6 บทความตอนหนึ่ง ของ นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ร่างกายของเรา เขาทำงานของเขาเองอยู่แล้ว โดยอาศัยอวัยวะ ขับพิษทั้ง 6 คือ (1) ตับ (2) ไต (3) ปอด (4) ลำไส้ใหญ่ (5) ต่อมเหงื่อที่ผิวหนัง (6) น้ำเหลือง ถ้าท่านอยากจะล้างพิษ ผมแนะนำให้ท่าน ช่วยให้อวัยวะ ทั้งหกนี้ ทำงานได้ดีขึ้น ดังนี้ (1) ท่านช่วย “ตับ” ของท่านได้ ด้วยการกินอาหาร ที่ตับต้องใช้ในการขจัดพิษ ที่เรียกว่า สารต้าน อนุมูลอิสระ นั่นแหละ ได้แก่ อาหารพืชที่หลากสี (เน้นสีม่วงแดง) หลากรส (เน้นรสขม) ตามฤดูกาล (เน้นเห็ด) และ เน้นขมิ้นชัน ในภาพรวมว่าเป็นสาร ต้านอนุมูลอิสระ ที่โดดเด่น นอกจากนี้ ควรขยันออกแดด เพื่อให้ไมโตคอนเดรีย ในเซลร่างกายของท่าน ทุกเซลช่วยกันสร้าง สารต้านอนุมูลอิสระ ชื่อเมลาโทนิน ขึ้นมาช่วยการทำงานของตับ (2) ท่านช่วย “ไต” ของท่านได้ ด้วยการระวัง ไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ กินเกลือให้น้อย กินยาให้น้อยที่สุด ไม่กินยาที่ทำให้ เป็นโรคไตเรื้อรัง โดยตรง เช่น ยาลดการหลั่งกรด (เช่น omeprazole) ยาแก้ปวด แก้อักเสบข้อ และอย่าฉีดสี เพื่อวินิจฉัยโรคบ่อย โดยไม่จำเป็น เพราะ สีเหล่านั้น เป็นพิษต่อไตมาก..ก (3) ท่านช่วย “ปอด” ของท่านได้ ด้วยการ ฝึกหายใจให้ลึก ฝึกกลั้นหายใจนิดหนึ่ง ขณะลมเต็มปอด ฝึกหายใจออก ให้ยาวกว่า การหายใจเข้า เพื่อเอาลมค้างออกมา ให้มากที่สุด ใช้วิธีนับ 4-4-8 อย่างที่ผมเคยสอน ในบล็อกก่อนๆ ก็ได้ (เข้า 1 2 3 4, กลั้นไว้ 1 2 3 4 ออก 1 2 3 4 5 6 7 8 ) และขยันพาตัวเอง ไปอยู่ในบรรยากาศธรรมชาติ อากาศดีๆ (4) ท่านช่วย “ลำไส้ใหญ่” ของท่านได้ ด้วยการเอาใจใส่ เลี้ยงดูชุมชนจุลินทรีย์ (microbiomes) ในลำไส้ของท่าน ให้เจริญเติบโต หลากหลาย เพราะพวกเขา เป็นผู้ขับพิษ ที่แท้จริงของท่าน วิธีเลี้ยง ก็คือ กินของที่พวกเขา ใช้เป็นอาหาร (prebiotic) เช่น กากต่างๆ และถั่วต่างๆ และ ขยันกินอาหาร ที่มีจุลินทรีย์ (probiotic) เช่น อาหารหมักๆดองๆ ชาหมัก เป็นต้น (5) ท่านช่วย “ต่อมเหงื่อบนผิวหนัง” ของท่านได้ ด้วยการขยันออกกำลังกาย ให้เหงื่อออกมากๆ ขณะเดียวกัน ก็ดื่มน้ำตามไม่ให้ขาด ถ้ามีซาวน่า ก็ขยันอบซาวน่า ให้เหงื่อไหลโทรมกาย ก็ช่วยได้ (6) ท่านช่วย “ระบบน้ำเหลือง” ของท่านได้ ด้วยการขยัน ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว อย่างน้อย ให้ขยันเดินทั้งวัน วิ่งเหยาะๆบ้าง เมื่อมีโอกาส เพราะการขยับแขนขา เป็นปัจจัยเดียว ที่จะขับเคลื่อน การไหลเวียน ของน้ำเหลือง เอาของเสียไปทิ้งได้ ทำทั้งหกอย่าง นี่แหละ เป็นการ “ดีท๊อกซ์” ที่ได้ผลดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด ไม่ต้องไปเสียเงิน ฉีดอะไรที่เสี่ยงๆเข้าตัวเอง ทุกเดือนเลย นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ บรรณานุกรม 1. Knudston ML, Wyse DG, Galbraith PD, et al. Chelation therapy for ischemic heart disease, a randomized controlled trial. JAMA. 2002;287(4):481-486.Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยถ้าใครมีเส้นเลือดในสมองเริ่มตีบแล้ว จะไม่สามารถยืนด้วยขาข้างเดียวถึง 20 วินาทีถ้าใครมีเส้นเลือดในสมองเริ่มตีบแล้ว จะไม่สามารถยืนด้วยขาข้างเดียวถึง 20 วินาที ซึ่งน่าจะจริง เพราะ ได้ไปทำ MRI ที่สมองแล้ว แพทย์พบว่า มีเส้นเลือดในสมองตีบ และ ได้มาพบคลิบนี้ ลองยืนขาเดียว ปรากฏว่า ยืนได้เพียง 3 วินาทีเท่านั้น จึงคิดว่า มีความเชื่อมโยงกันจริง ขอเชิญแต่ละท่านทดสอบว่า เส้นเลือดในสมองของท่านยังปกติ ดีหรือไม่ https://youtu.be/rRSZtkvIXCcMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย12 จังหวัดภาคใต้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน 30 พ.ย. – 3 ธ.ค.63 จริงหรือ ?เตือน‼ 12 จังหวัดภาคใต้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรง 30 พ.ย. – 3 ธ.ค.63AZ• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยธนาคาร ออมสิน ปล่อยกู้ฉุกเฉิน 5 หมื่น ดอกเบี้ยปีแรก 0% สำหรับผู้ประสปภัยน้ำท่วม จริงหรือธนาคารออมสิน ช่วยภัยน้ำท่วมภาคเหนือให้กู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท ดอกเบี้ยปีแรก 0% โดย 3 เดือนแรกไม่ต้องจ่าย ซ่อมแซมบ้าน-ที่พักอาศัย ให้กู้ 500,000 บาท ดอกเบี้ยปีแรก 0%naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยขนส่งฯ แก้กฎหมาย เพิ่มโทษความผิดเกี่ยวกับใบอนุญาตขับรถ จริงหรือจากกรณีที่มีการแชร์ข้อความว่ากรมการขนส่งทางบกมีการแก้กฎหมายใหม่ เพิ่มโทษผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถ หรือใบอนุญาตขับรถหมดอายุ เป็นจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท และสำหรับการไม่แสดงใบอนุญาตขับรถเมื่อถูกเรียกตรวจ ปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 จริงหรือanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ ผลวิจัยล่าสุดจาก WHO พบกลุ่มวัยรุ่น ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นถึง 3 เท่าในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา เหตุจากเที่ยวกลางคืนและชายหาดองค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลงว่า กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวซึ่งแห่เที่ยวไนท์คลับและชายหาด กลายเป็นกลุ่มผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กลุ่มใหม่ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยสัดส่วนของอายุอยู่ระหว่าง 15-24 ปี การติดเชื้อเพิ่มขึ้น 3 เท่าในช่วงประมาณ 5 เดือนที่ผ่านโควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผู้สูงอายุที่ได้เงินเยียวยา 5,000 บาทไปแล้วไม่สามารถรับเงินกลุ่มเปราะบาง 3,000 บาทอีก จริงหรือคะผู้สูงอายุที่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท 3 เดือน "เราไม่ทิ้งกัน" จากมาตรการดูแลกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ลูกจ้าง อาชีพอิสระ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 "จะไม่ได้รับสิทธิ์ในมาตรการเยียวยากลุ่มเปราะบาง" จริงหรือคะโควิด 2019anonymous• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยครม. เคาะมาตรการช่วยโควิด-19 เพิ่มค่าไฟฟรี 90 หน่วยต่อเดือน ขยายเวลาจ่ายค่าไฟ 3 เดือน จริงหรือไม่โควิด 2019naydoitall• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยเศรษฐีอินเดียแห่เช่าเหมาลำ บินหนีโควิด-19 บางลำบินเข้าไทย🛬#เพื่อนบอกโปร - เศรษฐีอินเดียแห่เช่าเหมาลำ บินหนีโควิด-19 บางลำบินเข้าไทย🛬 . 🦠 สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่อินเดีย มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงกว่าวันละ 300,000 คน ทำลายสถิติโลกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ทำสถิติสูงสุดในวันเสาร์ที่ 24 เม.ย. 64 จำนวน 346,786 คน . การระบาดหนักรุนแรงทำให้หลายประเทศทั่วโลก มีคำสั่งห้ามผู้เดินทางจากประเทศอินเดียเดินทางเข้าประเทศเพื่อป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย เล็ดลอดเข้าประเทศ . ในระหว่างนี้เศรษฐีอินเดียจึงพากันช่วงชิงโอกาสเดินทางไปยังประเทศที่ยังไม่มีมาตรการห้ามผู้เดินทางจากอินเดียเข้าประเทศ . สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนเศรษฐีอินเดียในช่วงนี้ ส่งผลให้ราคาตั๋วเครื่องบินโดยสารพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว . สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ราคาตั๋วเครื่องบินเมื่อวันศุกร์ที่ 23 เม.ย. เที่ยวบินจากเมืองมุมไบไปยังดูไบ ราคาพุ่งขึ้น 10 เท่าตัว และราคาตั๋วจากกรุงนิวเดลีไปยังดูไบพุ่งขึ้น 5 เท่าตัว . สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประกาศระงับเที่ยวบินไปยังประเทศอินเดียตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 25 เม.ย. 64 . เที่ยวบินจากอินเดียไปยังดูไบในวันเสาร์ที่ 24 เม.ย. เต็มทุกเที่ยวบิน . สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า เครื่องบินเจ็ตเช่าเหมาลำก็บินออกจากอินเดียกันขวักไขว่ . “ลูกค้าส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดบินไปดูไบ แต่มีบางรายที่บินไปประเทศไทย” บริษัทบริการเครื่องบินเช่าเหมาลำรายหนึ่งบอกกับเอเอฟพี . 📲 แหล่งข่าว : https://bit.ly/3njqsVE ภาพจาก AP . #เพื่อนบอกข่าวโควิด 2019Mrs.Doubt• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย(#)คนขับเกียร์ออโต้ โปรดสละเวลาอ่านสัก 3 นาทีเถอะครับ แล้วจำให้ได้ เผื่อวันนึงเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น จะได้มีสติและสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยิ่งสมัยนี้เราขับรถยนต์เกียร์ออโต้มากกว่าเกียร์ธรรมดา ในขณะที่ผู้เล่ากำลังขับไปได้ประมาณ 20 นาที รู้สึกว่ารถมีความเร็วมากขึ้น มองหน้าจอความเร็วขึ้นไปที่ 140 กม. จึงได้ถอนคันเร่งและแตะเบรก 2 ครั้ง แต่ความเร็วก็ไม่ลด เลยลองแตะเบรกใหม่อีก 3 ครั้ง พร้อมกับกระชากเบรกมือช่วยอีก 2 ครั้ง ก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขารวบรวมสมาธิอีกครั้ง แล้วโยกเกียร์ไปที่ช่อง N ซึ่งเป็นเกียร์ว่าง แล้วดับเครื่อง เมื่อทำวิธีนี้สามารถช่วยชะลอความเร็วลงได้มาก เขาจึงขับประคองรถต่อไปอีกประมาณ 5 กม. กว่ารถจะหยุดได้ เมื่อรถจอดสนิท เขาได้เดินไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่เก็บเงินทางด่วน ทราบว่าที่คันเร่งค้างเป็นเพราะกล่องสัญญาณกันขโมย ซึ่งมีน้ำหนักเกือบครึ่งกิโล ไปทับอยู่ที่ก้านของคันเร่ง อู่รถแจ้งว่า “ในกรณีแบบนี้ มีโอกาสเป็นไปได้ ที่คันเร่งค้างจากสาเหตุดังกล่าว เนื่องจากกล่องสัญญาณกันขโมย จะติดตั้งอยู่เหนือคันเร่ง ติดตัวถังรถ สิ่งที่ควรกระทำคือ ตั้งสติแล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N ซึ่งเป็นเกียร์ว่าง จากนั้นปิดสวิทช์กุญแจเพื่อดับเครื่องยนต์ และเปิดไฟฉุกเฉิน รถก็จะยังวิ่งอยู่ แล้วค่อยๆเหยียบเบรคเป็นระยะ ความเร็วรถจะค่อยๆลดลง จนสามารถจอดรถได้ เพิ่มเติม : ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ วิธีที่ดีคือ(no)อย่าดึงกุญแจออกจากรูกุญแจ เดี๋ยวพวงมาลัยล็อค จะยิ่งทำให้เหตุการณ์เลวร้ายกว่าเดิม เพราะถ้าดับเครื่องโดยที่กุญแจยังเสียบอยู่ ก็จะยังบังคับเลี้ยวได้ พวงมาลัยจะไม่ล็อค และจะสามารถเปลี่ยนเลนเพื่อหลบรถคันหน้าได้ (ใช่)ทบทวนอีกครั้ง 1. ตั้งสติ แล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N 2. จากนั้น ปิดสวิทช์กุญแจ เพื่อดับเครื่องยนต์ อย่าดึงกุญแจออก ให้กุญแจยังคงเสียบคาอยู่ 3. ค่อยๆเหยียบเบรคเป็นระยะๆ ความเร็วรถจะค่อยๆลดลง จนสามารถจอดรถได้ 4. เปิดไฟฉุกเฉิน (no)อย่าเก็บไว้คนเดียว ส่งต่อเพื่อเป็นบุญกุศลผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเรื่อง mobile application@Pantip เมื่อเช้าได้ข้อเท็จจริงและแนวทางปฏิบัติมาจากฝ่าย cybersecurity แล้วค่ะ เรื่อง mobile application 1) โจรสามารถเข้ามือถือเราผ่านระบบ remote ได้ หากเราอนุญาต ผ่านการ click link ที่โจรส่งมา => ดังนั้นไม่ควร click link ใดๆ 2) แม้ remote มาเข้าหน้าจอได้ โจรก็จะเข้า mobile app ไม่ได้ หากไม่มี Pin นอกจากเจ้าของ app บอกเอง หรือพิมพ์ PIN ไว้ใน note หรือตรงไหนสักแห่งในมือถือที่โจรสามารถมองเห็นจากการ remote ได้ แต่โจรจะไปเอา pin ออกมาเองจาก mobile application ไม่ได้ แต่ทั้งนี้ พบว่า มี user ที่ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ที่ยอมบอก PIN ให้กับโจรเอง เพราะรู้เท่าไหม่ถึงการณ์ จึงนำไปสู่การป้องกันข้อที่ 3 ที่กำลังดำเนินการคือ 3) ปี 2023 ทุกธนาคารกำหนดให้ การ remote เข้าหน้าจอมือถือ จะไม่สามารถเข้า mobile application ได้ อดีตอาจเข้าได้หากมี PIN แต่ตอนนี้ ต่อให้มี PIN ก็เข้าไม่ได้ PIN จะทำงานก็ต่อเมื่อเจ้าของมือถือกดจากหน้าจอเองเท่านั้น และต้องไม่ใช่ในระหว่างที่มีการ remote ด้วย 4. สำหรับความเสี่ยงเรื่อง เอาข้อมูลส่วนตัวไปลงแอพใหม่ในมือถือเครื่องใหม่ อดีตอาจทำได้ เพราะธนาคารอำนวยความสะดวกให้คนที่มีอุปกรณ์หลายเครื่องใช้พร้อมกันได้ แต่ตอนนี้ธนาคารใหญ่ๆ ทั้งหมด กำหนดเรื่อง single device แล้ว คือ ลง mobile application ได้ ในมือถือเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น หากจะลงเครื่องใหม่ จะต้อง disable เครื่องเก่าก่อนค่ะ คนที่ถือเครื่องที่ใช้อยู่จะต้องมีการอนุญาตให้ลงเครื่องใหม่ จึงจะลงได้ ดังนั้นค่ะ *แนวทางในการป้องกัน* คือ 1.อย่าคลิกลิงค์ใดๆ จากคนไม่รู้จักและที่ดูดีมีประโยชน์เกินจริง 2.อย่ายอมให้ใคร remote เข้าเครื่องได้ การ remote เจ้าของเครื่องต้อง accept เขาจึงจะเข้าได้ หากเราไม่ accept ผ่านหน้าจอเราเข้าก็เข้าไม่ได้ 3.อย่าพิมพ์ PIN หรือรหัสผ่านอะไรไว้ตาม note หรืออะไรในมือถือ ถ้าจะพิมพ์ก็เอาที่ใกล้เคียง พอให้เราช่วยนึกออกก็พอ อย่าเขียนตรงๆ เพราะโจรจะเดายาก ถ้าเดาผิดหลายครั้ง ระบบก็จะ lock โจรก็ทำรายการไม่ได้ เราอาจจะลำบากไปปลดล็อคกับด้วยตัวเอง แต่ก็ปลอดภัยกว่าให้โจรเข้าระบบเราได้ค่ะ ประมาณนี้ค่ะทุกท่าน ขอให้ปลอดภัยในการใช้ mobile application ค่ะผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยครม.ผ่าน โครงการคนละครึ่ง และ เพิ่มวงเงินบัตรคนจน 3 เดือน จริงหรือ1. “โครงการคนละครึ่ง” ในลักษณะการร่วมจ่าย (Co-pay) ระหว่างประชาชนที่เข้าร่วมโครงการและรัฐบาล โดยจะสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการเป็นประชาชนสัญชาติไทยที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่เกิน 10 ล้านคน ภาครัฐจะสนับสนุนโยร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่มและสินค้าทั่วไป ไม่รวมสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบและบริการต่าง ๆ ร้อยละ 50 ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวันหรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ผ่าน g-wallet (“เป๋าตัง” สำหรับประชาชน และ “ถุงเงิน” สำหรับร้านค้า) ระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ตุลาคม- 31 ธันวาคม 2563 โดยมีวงเงินจำนวน 30,000,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน 10 ล้านคน สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการรายย่อยอย่างน้อย 100,000 ร้านค้า เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 60,000 ล้านบาท ส่งผลให้ GDP ขยายตัวร้อยละ 0.18 2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้า) จำนวน 500 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยเป็นกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13,948,518 คน วงเงิน 20,922.7770 ล้านบาท รวมระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ตุลาคม - ธันวาคม 2563 เนื่องจากกลุ่มผู้มีบัตรฯ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้มีรายได้ลดลงและไม่สามารถหารายได้จากแหล่งอื่นมาทดแทนได้ โครงการ ฯ จะทำให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้ง 13,948,518 คนได้รับการช่วยเหลือ เยียวยา เพิ่มกำลังซื้อ และลดภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคที่จำเป็น รวมทั้งยังก่อให้เกิดการใช้จ่ายในท้องถิ่นผ่านร้านธงฟ้าฯ อีกด้วยanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยร่างกายอับเสบตัวร้อนเสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ ร่างกายอักเสบ ตัวร้อน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกได้ . ตามที่มีการแชร์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นเรื่องร่างกายอักเสบ ตัวร้อน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ . จากที่มีการให้ข้อมูลโดยระบุว่า ร่างกายอักเสบ ตัวร้อน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกได้ ทางสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า โรคหลอดเลือดสมอง มี 2 ประเภทคือ สมองขาดเลือด และภาวะเลือดออกในเนื้อสมอง โดยพบโรคหลอดเลือดตีบตันมากกว่าเส้นเลือดแตกในสมอง . ซึ่งภาพรวมพบภาวะสมองขาดเลือดมากกว่าเลือดออกในสมอง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญทั้งสองภาวะนี้คือ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ โรคไต โรคภาวะอุดกั้นลมหายใจขณะนอน (OSA) เป็นต้น . อาการแสดงสำคัญที่ควรรู้ และควรสังเกตอย่างสม่ำเสมอ มีดังนี้ 1. ชา หรืออ่อนแรงที่หน้า แขน หรือขา ซีกใดซีกหนึ่งอย่างทันทีทันใด 2. พูดลำบาก พูดไม่ได้หรือไม่ชัด หรือไม่เข้าใจคำพูดอย่างทันทีทันใด 3. มีปัญหาการมองเห็น ตามัว หรือเห็นภาพซ้อนของตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างอย่างทันทีทันใด 4. มีอาการมึนงง เวียนศีรษะ เดินไม่ได้ เดินลำบาก เดินเซ หรือสูญเสียการทรงตัวในการยืนและเดินอย่างทันทีทันใด 5. ปวดศีรษะรุนแรงอย่างทันทีทันใดโดยไม่ทราบสาเหตุ . ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.pni.go.th หรือ โทร. 02-306-9899 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : อาการร่างกายอักเสบ ตัวร้อน ไม่ได้เป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมองดังที่ถูกกล่าวอ้างในข้างต้น แต่เป็นอาการเหล่านี้ได้แก่ หน้า แขน ขา ชาหรืออ่อนแรง , พูดลำบาก , ตามัว มีปัญหาด้านการมองเห็น , เวียนหัวจนเดินไม่ได้ และปวดศีรษะรุนแรง . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . LINE : @antifakenewscenter (http://nav.cx/uyKYnsG) Website : https://www.antifakenewscenter.com/ Twitter: https://twitter.com/AFNCThailand Tiktok : @antifakenewscenter สายด่วน : ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111 ต่อ 87 . #ข่าวปลอม #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #ข่าวสุขภาพ #ร่างกายอักเสบ #ตัวร้อน #เส้นเลือดในสมองแตกSpark Forme• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกาแฟลดน้ำหนักแบบชงดื่ม ลดพุงได้โดยไม่ต้อง ออกกำลังกายกาแฟดำ(ไม่ใส่น้ำตาล/นม) อาจช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันเล็กน้อย(ประมาณ100แคลอรี่/วัน)แต่ไม่เพียงพอ ต่อการลดน้ำหนักหรือไขมันสะสม ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์แสดงว่ากาแฟแบบชงลดน้ำหนักอะลดพุงได้บางผลิตภัณฑ์ อาจมีสารต้องห้าม เช่น ไซบูทรามีนซึ่งอันตรายต่อหัวใจ ดั้งนั้นกาแฟลดน้ำหนักที่มีการโฆษณาว่า"ลดพุงได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย" นั้น ไม่ใช่ความจริง ทางเลือกที่ปลอดภัยและได้ผล คือ โภชนาการสมดุลและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ข้อแนะนำ 1. หากดื่มกาแฟเพื่อลดน้ำหนัก ควรเลือกกาแฟดำ ไม่มีน้ำตาล และไม่ใช่กาแฟผงสูตรสำเร็จแบบชงลดความอ้วน 2. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าชงครั้งเดียวแล้ว “เห็นผลชัดเจน” โดยไม่ออกกำลังกาย — เพราะอาจมีสารอันตรายเจือปน 3. หากต้องการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ยึดหลัก ลดพลังงาน รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอลดความอ้วนWarinlada Sangchot• 6 เดือนที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยหมักผมด้วย "กระเทียม" รักษาผมร่วงตามที่ได้มีการเผยแพร่ข้อมูล เรื่อง หมักผมด้วยกระเทียม เพื่อรักษาผมร่วง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ โดยการแชร์สูตรหมักผมด้วยกระเทียม ระบุสรรพคุณว่าช่วยรักษาผมร่วง ทำให้ผมแข็งแรง ได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากยังไม่มีเอกสารทางวิชาการหรืองานวิจัยที่น่าเชื่อถือ สำหรับนำมายืนยันว่ากระเทียมสามารถรักษาผมร่วงได้จริง โรคผมร่วง หรือผมบางเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเกิดจากกรรมพันธุ์ผมบาง เส้นผมเปราะแล้วหัก ผมไม่ขึ้น อาจเกิดจากโรคประจำตัว การได้รับยาหรือสารเคมีบางประเภท การได้รับเคมีบำบัด การฉายรังสี ก็สามารถทำให้ผมร่วงได้ และกระเทียมนั้นมีสรรพคุณตามข้อมูลสมุนไพรที่ใช้ในงานสาธารณสุขมูลฐาน คือ แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่น จุกเสียด รักษาอาการกลากเกลื้อน จึงไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาผมร่วง ข้อมูลจากกรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง เปิดเผยว่า โดยปกติแล้วเส้นผมของคนเรามีประมาณ 80,000 ถึง 1,200,000 เส้น งอกยาวขึ้นวันละประมาณ 0.35 มิลลิเมตรและมีอายุนาน 2 ถึง 6 ปี โดยปกติคนเราจะมีผมร่วงเป็นประจำทุกวัน แต่ไม่เกินวันละ 30 ถึง 50 เส้น สาเหตุของภาวะผมร่วง ได้แก่ 1. ผมร่วงจากกรรรมพันธุ์ สามารถพบได้ทั้งชายและหญิง มักพบในเพศชายมากกว่า เห็นเป็นเส้นขนอ่อน ๆ ทำให้ผมบริเวณนั้นดูบางลง ส่วนมากจะเป็นบริเวณกลางศีรษะและหน้าผาก 2. ผมผลัด เกิดผมร่วงเนื่องจากผมหยุดเจริญชั่วคราวจากการเจ็บป่วยหรือความเครียดหรือขาดสารอาหาร เช่น เหล็กหรือวิตามินดี ทำให้วงจรชีวิตเส้นผมที่กำลังเจริญมีการหยุดเจริญและหลุดร่วงมากกว่าปกติ 3. ผมร่วงเป็นหย่อม เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด จะมีอาการผมร่วงเฉพาะที่ บริเวณผมที่ร่วงจะมีลักษณะกลมหรือรี ขอบเขตชัดเจน ตรงกลางไม่มีเส้นผมหนังศีรษะในบริเวณนั้น ไม่แดง ไม่เจ็บ ไม่คัน ไม่เป็นสะเก็ด หรือเป็นขุย 4. ผมร่วงจากการถอน พบได้บ่อยในผู้ใหญ่และเด็กที่มีความเครียดจากสาเหตุต่าง ๆ ผู้ป่วยจะดึงผมตัวเองจนผมแหว่ง หนังศีรษะบริเวณที่ผมร่วงจะไม่มีผื่นคัน หรือเป็นขุย และจะพบเส้นผม ที่เป็นตอสั้น ๆ 5. ผมร่วงจากเชื้อรา โรคเชื้อราที่ศีรษะ กลากที่ศีรษะ อาจพบได้บ่อยในเด็ก เกิดจากการติดเชื้อราโรคนี้ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ เป็นผื่นแดงคัน และเป็นขุย หรือก้อนอักเสบคล้ายฝี อาจจะมีโรคเชื้อรา (กลาก) ร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ 6. ผมร่วงจากการทำผม การม้วนผม ย้อมสีผม ดัดผม เป่าผมหรือวิธีอื่น ๆ อาจทำให้มีอาการผมร่วงได้จากการที่มีหนังศีรษะอักเสบ หรือเส้นผมเปราะหัก 7. ผมร่วงจากโรคอื่น ๆ ผู้ป่วยที่มีโรคบางอย่าง เช่น โรคเอสแอลอี ก็อาจมีอาการผมร่วง ผมบาง ร่วมกับอาการไข้เรื้อรัง ปวดตามข้อ มีผื่นปีกผีเสื้อขึ้นที่หน้า โรคผมร่วงบางอย่างอาจมีการอักเสบที่บริเวณสเต็มเซลล์ทำให้เกิดผมร่วงแบบเป็นแผลเป็นซึ่งแผลเป็นจะไม่หายผู้บริโภคเฝ้าระวังstd48297• 2 ปีที่แล้ว
- 4 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! เตรียมรับมือพายุอินเดียเข้าไทย ทุกภูมิภาคระวังน้ำท่วมใหญ่ ในช่วงวันที่ 3 – 8 ก.ค. 66ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเรื่องเตรียมรับมือพายุอินเดียเข้าไทย ทุกภูมิภาคระวังน้ำท่วมใหญ่ ในช่วงวันที่ 3 – 8 ก.ค. 66 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จอันดามันVathanee Jansrinak• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเราไม่ทิ้งกันรอบใหม่รับ8,000บาท ส่วนคนละครึ่งเพิ่มเป็น5,000บาท3เดือนมาตรการเยียวยารอบใหม่ โครงการเราไม่ทิ้งกัน ได้รับเงิน 4,000 บาท เป็นเวลา 2 เดือน และโครงการคนละครึ่ง เพิ่มเงินเป็น 5,000 บาท นาน 3 เดือนข่าวการเมืองผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47794• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเอลิซาเบธ โฮล์มส์ เริ่มรับโทษจำคุก 11 ปีโฮล์มส์ในวัย 39 ปี ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงในข้อหาสมคบคิดหลอกลวงนักลงทุน 1 กระทง และข้อหาเกี่ยวกับการฉ้อโกงเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อีก 3 กระทง ในการพิจารณาคดีเมื่อต้นปี 2565 และเมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ศาลปฏิเสธคำร้องของเธอที่ยื่นขอประกันตัวเพื่อสู้คดีข่าวการเมืองstd47994• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยคนติดโควิด ต้องหายกี่เดือนจึงจะฉีดวัคซีนได้กันแน่คนติดโควิด ต้องหายกี่เดือนจึงจะฉีดวัคซีนได้กันแน่ อบจ.อุบลฯแจ้งว่า 1 เดือนขึ้นไป! ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข แนะนำ 3 เดือนขึ้นไปวัคซีนโควิดภาคอีสานChalita khatawong• 3 ปีที่แล้วmeter: middle3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยกเว้นค่าบริการจอดรถที่ลานจอดรถยนต์ระยะยาว โซน C ระหว่างวันที่ 12 - 17 พ.ค. 65 จริงไหมกระทรวงคมนาคมอำนวยความสะดวกการเดินทาง ช่วงวันหยุดยาว ระหว่างวันที่ 12 - 17 พ.ค. 2565 - ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยกเว้นค่าบริการจอดรถที่ลานจอดรถยนต์ระยะยาว โซน C ระหว่างวันที่ 12 - 17 พ.ค. 65 - การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษ 3 สายทาง ในวันพืชมงคล วันที่ 13 พ.ค. 65 และวันวิสาขบูชา วันที่ 15 พ.ค. 65Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจะมีโครงการสร้างรถไฟฟ้าในหาดใหญ่ จริงหรอโครงการ “รถไฟฟ้าโมโนเรลหาดใหญ่” จ.สงขลา ล่าสุดนายก อบจ.สงขลา เผยในอีก 2-3 เดือนข้างหน้าจะมีการคัดเลือกบริษัทผู้ดำเนินการก่อสร้าง พร้อมยืนยันว่าโครงการรถไฟฟ้าหาดใหญ่จะต้องคืบหน้ากว่าจังหวัดอื่นๆอย่างแน่นอน โดยจะเริ่มก่อสร้างในปี 2562 แล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการในปี 2565 คิดค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายSofia Idea• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
