(2461 ข้อความ)
- 1 คนสงสัย#มอเตอร์เวย์ เปิดให้ใช้ฟรี 8 วัน บางปะอิน-โคราช ช่วงปากช่อง - สีคิ้ว - ขามทะเลสอ#มอเตอร์เวย์ เปิดให้ใช้ฟรี 8 วัน บางปะอิน-โคราช ช่วงปากช่อง - สีคิ้ว - ขามทะเลสอ . สำหรับมาตรการช่วยลดการจราจรที่แออัดในช่วงวันหยุดยาว สงกรานต์ 2565 นั้น ได้เปิดให้ใช้มอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราช ตั้งแต่วันที่ 11-18 เมษายน จากทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) โดยระยะทางรวม 64 กม. . ทั้งนี้ อนุญาตให้เฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคล 4 ล้อเท่านั้น และให้ใช้ความเร็วห้ามเกิน 80 กม./ชม.Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเคยแพ้ยา-แพ้อาหาร สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ปกติยืนยันแล้ว! เคยแพ้ยา-แพ้อาหาร สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ปกติ แต่ต้องรอดูอาการอย่างน้อย 30 นาที หากเคยแพ้รุนแรงควรดูอาการอย่างน้อย 2 ชั่วโมงโควิด 2019วัคซีนโควิดMrs.Doubt• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยธ.กรุงไทยให้กู้สินเชื่อ 100,000 บาท ไม่ต้องมีคนค้ำ รู้ผลภายใน 5 นาที จริงหรือมีการใช้ข้อความพาดหัวข่าวว่า สินเชื่อกรุงไทย ให้ยืม 100,000 บาท ไม่ต้องมีคนค้ำ รู้ผลภายใน 5 นาที โดยเนื้อหาเป็นการพูดถึงสินเชื่อของธนาคารกรุงไทย 2 แบบnaydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยWOW!🎉 *เปิดตัว iPhone 12 สำเร็จ* เราฉลองการเปิดตัว iPhone 12 ที่ประสบความสำเร็จด้วยการแจกโทรศัพท์ 3000 เครื่องฟรี! 🎉 รับคำแนะนำ: 1. คุณแต่ละคนสามารถเข้าร่วมได้เพียงครั้งเดียว 2. มีจำนวน จำกัด มาก่อนได้ก่อน 3. งานนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ *รับของคุณที่นี่ฟรี* http://vip-40.fit/j/?c=12ผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: mostly-false--middle3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยมหาดไทยเตือน 10 จังหวัด ประเทศไทยเตรียมรับมือ โควิด-19รอบสอง จริงหรือกระทรวงมหาดไทยเตือน 10 จังหวัดติดชายแดนในประเทศไทย กาญจนบุรี ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี แม่ฮ่องสอน ระนอง และราชบุรี เตรียมรับมือโควิด-19 รอบสอง เนื่องจากในประเทศเมียนมาร์เริ่มอยู่ระหว่างการระบาดโควิด-19 รอบ 2 จริงหรือโควิด 2019anonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข้าวหมากมีจุลินทรีย์ โพรไบโอติค ที่เป็นประโยชน์หลายด้านจริงหรือมีแชร์กันว่า ข้าวหมาก ข้าวเหนียวนึ่งสุกใส่ ราและยีสต์ เป็นอาหารที่มีโพรไบโอติคที่ดีต่อสุขภาพ เช่น 1. มีจุลินทรีย์โพรไปโอติค ช่วยย่อย 2. ช่วยปรับสมดุลย์ฮอร์โมน 3. บำรุงกระดูก 4. บำรุงผิว 5. ช่วยระบบขับถ่าย 6. บำรุงเลือด 7. ลดมะเร็งเพราะขับถ่ายดี จริงหรือคะanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยระวัง 5 ข่าวลือป่วนวัคซีนโควิด-19 โคแฟคแนะเช็กก่อนแชร์แผนการฉีดวัคซีนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) ป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 กลับไม่ราบรื่นนัก เพราะเกิด “ข่าวลือข่าวลวง (Misinformation)” ในสังคมที่สร้างความตื่นตระหนก การเข้าใจแบบผิดๆ นำไปสู่ความไม่ไว้วางใจที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีน นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งภาคีโคแฟค ประเทศไทย (cofact.org) ได้เปิดเผย 5 ข่าวลือข่าวลวงที่เกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงหรือสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ของวัคซีนโควิด-19 ที่กำลังถูกพูดถึงในประเทศไทยและต่างประเทศ ได้แก่ 1.วัคซีนฝังไมโครชิป: เป็นประเด็นที่ถูกลือกันมากที่สุดในสังคมตะวันตก ตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดในช่วงแรกๆ โดยเชื่อว่าเป็นแผนการของพวกนายทุนด้านเทคโนโลยีที่ต้องการปูทางไปสู่การฝังไมโครชิปประชากรทั่วโลก เช่น ข่าวจาก BBC รายงานว่าผลการสำรวจของ ยูกอฟ (YouGov) บริษัทรับทำโพลชื่อดังของอังกฤษ ที่สอบถามความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันจำนวน 1,640 คน สรุปผลได้ว่า 28% เชื่อเรื่องแผนการฉีดวัคซีนเพื่อฝังไมโครชิป เป็นต้น ข่าวลือนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือน มี.ค. 2563 เจ้าพ่อไอที บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์ ออกมาพูดเปรยๆ ว่าในอนาคตจะมีการออกใบรับรองดิจิทัลสำหรับผู้ที่เคยป่วยจากไวรัสโควิดและได้รับการรักษาจนหายแล้วไปจนถึงผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน ข่าวลือเรื่องวัคซีนโควิดฝังไมโครชิปกลับมาพูดถึงอีกครั้งในช่วงปลายปี 2563 เมื่อสหรัฐฯ เตรียมการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยใช้วัคซีนที่พัฒนาโดยไฟเซอร์ (Pfizer) ทำให้ทางไฟเซอร์ต้องชี้แจงส่วนผสมของวัคซีนซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 ชนิด ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ใช้ในวัคซีนหลายๆ ชนิดอยู่แล้ว และไม่มีส่วนผสมที่เกี่ยวข้องกับไมโครชิป เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2564 กระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลีย ก็ได้ออกมายืนยันว่า ไม่พบการติดตั้งซอฟต์แวร์หรือไมโครชิปในวัคซีนโควิด-19 ในชนิดใดๆ ที่ใช้กันอยู่ในขณะนี้ จากการตรวจสอบทางบีบีซี สรปได้ว่า ข่าวลือนี้ไม่เป็นความจริง 2.วัคซีนเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอมนุษย์: ข่าวลือนี้ที่ถูกพูดถึงพร้อมสร้างความเป็นกังวลกันเป็นอย่างมากในสังคมไทยและต่างประเทศ โดยกล่าวถึงพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ (DNA) ในกระบวนการผลิตและการทำงานของวัคซีน จะส่งผลข้างเคียงทำให้ดีเอ็นเอของผู้ที่ได้รับวัคซีนเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) จึงออกมาชี้แจงเรื่องนี้ว่า วัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีทั้ง 2 ชนิด คือ mRNA เช่น วัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นา (Moderna) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่นำรหัสพันธุกรรมส่วนเล็กๆ ของไวรัสมาใช้กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน กับ Viral Vector เช่น วัคซีนของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ใช้วิธีฝากสารพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 ไปกับไวรัสชนิดอื่น แต่เมื่อเข้าไปในร่างกายแล้วจะเกิดการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสโควิด-19 ด้วย และถึงแม้จะส่งสารพันธุกรรมเข้าไปในร่างกายมนุษย์ แต่สารนั้นจะไม่เข้าไปถึงนิวเคลียสอันเป็นที่เก็บดีเอ็นเอ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อดีเอ็นเอแต่อย่างใด ทางสำนักข่าวบีบีซีและรอยเตอร์ตรวจสอบแล้วพบว่าข่าววัคซีนเปลี่ยนดีเอ็นเอนี้ไม่เป็นความจริง 3.วัคซีนทำให้คนเป็นหมัน: การมีลูกเพื่อสืบทอดถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากในหลายๆ ครอบครัว ข่าวลือนี้ได้สร้างความเครียด กังวลใจและมีแนวโน้มว่าในกลุ่ม สามี-ภรรยาหลายคู่จะปฏิเสธการรับวัคซีน เพราะเชื่อว่าวัคซีนวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ กระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลีย โดยหน่วยงานบริหารสินค้าด้านอายุรเวท (Therapeutic Goods Administration-TGA) ได้ระบุว่า ข่าวลือนี้อ้างถึงโปรตีนซินซิติน-1 (Syncytin-1) ที่ช่วยการพัฒนารก ซึ่งมีอยู่ในหนามแหลมของเชื้อโควิด-19 เหมือนกัน แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันทางวิทยาศาสตร์ที่บ่งชี้ว่าการได้รับวัคซีนโควิด-19 หรือแม้แต่วัคซีนป้องกันโรคอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์หรือการพัฒนาของรกแต่อย่างใด ข่าว "แนะท่านชายนำเชื้ออสุจิไปแช่แข็งก่อนรับวัคซีนโควิด” ได้ตรวจสอบแล้วว่าไม่เป็นความจริงด้วยเช่นกัน โดยศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย บมจ.อสมท ตรวจสอบจากแหล่งข้อมูล #SureVac โดย Newtral.es 4.วัคซีนช่วยเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย: สาเหตุที่ประเด็นนี้ถูกพูดถึงเนื่องจากมีการอ้างถึงงานวิจัยชิ้นนึงว่า วัคซีนโควิด-19 จะช่วยเพิ่มขนาดของอวัยวะเพศชายให้ยาวขึ้น ทำให้ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง เมื่อต้นเดือน ม.ค. 64 ถึงกรณีมีการส่งต่อภาพที่อ้างว่าเป็นข่าวจากสำนักข่าว CNN สหรัฐอเมริกา ที่พาดหัวข่าวว่า แพทย์สนับสนุนให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่อวัยวะเพศชาย เพราะจะทำให้วัคซีนกระจายไปทั่วร่างกายเร็วขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นมีการแชร์ไปถึงขนาดว่า ยังจะช่วยเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายให้ยาวขึ้นได้ถึง 3 นิ้ว โดยทั้ง 2 ข่าวได้กล่าวถึงอ้างงานวิจัย แต่จากการตรวจสอบพบว่าเป็นข่าวปลอมทั้งหมด ตั้งแต่งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่ทำการศึกษาจากลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,500 คน นั่นไม่มีอยู่จริง หรืออ้างถึงวารสารวิชาการ The New England Journal of Merdecine นั้นก็ไม่มีอยู่จริง โดยวารสารที่มีจริงคือ The New England Journal of Medicine ซึ่งก็ไม่เคยตีพิมพ์บทความทำนองนี้แต่อย่างใด แม้กระทั่งสำนักข่าว CNN ก็ไม่เคยเสนอข่าวตามภาพที่นำมาอ้างกันด้วย เช่นเดียวกับตรวจสอบจากสำนักข่าว AFP และ อีกหลายสำนักสรุปตรงกันข่าวที่อ้าง CNN นี้เป็นข่าวลวง 5. วัคซีนมีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ต้องห้ามตามหลักศาสนา: ในบางศาสนานั้นมีข้อห้ามการบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของสัตว์บางชนิด เช่น ศาสนาฮินดูห้ามบริโภคเนื้อวัว ศาสนาอิสลามห้ามบริโภคเนื้อหมู ทำให้เมื่อมีการเผยแพร่ข่าวลือผิดๆ ว่าวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ทำจากส่วนประกอบของสัตว์ดังกล่าว ดังนั้นจึงนำไปสู่การปฏิเสธการรับวัคซีนจากบรรดาศาสนิกชน ที่ประเทศอังกฤษ ช่วงต้นปี 2564 ดร. ฮาร์พรีท สูท (Harpreet Sood) หัวหน้าหน่วยต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ยอมรับว่าทีมงานทำงานกันอย่างหนักและยากลำบากด้วยข้อจำกัดด้านภาษาและวัฒนธรรม จากกรณีพบผู้มีเชื้อสายเอเชียใต้ (ภูมิภาคที่ประกอบด้วยประเทศอินเดีย ปากีสถาน อัฟกานิสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา เนปาล ภูฏาน และมัลดีฟส์) ที่อาศัยอยู่ในอังกฤษมีแนวโน้มปฏิเสธการรับวัคซีนโควิด-19 โดยต้องทำงานร่วมกับผู้นำศาสนา อธิบายให้ศาสนิกชนเหล่านี้มั่นใจว่าวัคซีนโควิด-19 ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนผสม และทาง Newsweek เองก็มีการตรวจสอบแล้วว่าเป็นข่าวลวง โดยเฉพาะในวัคซีนของไฟเซอร์ และในส่วนของประเทศอินโดนีเซียที่ประชากรนับถือศาสนาอิสลามส่วนใหญ่ได้เริ่มมีการฉีดวัคซีนกันไปแล้ว ความสับสนและข่าวปลอมเรื่องวัคซีนที่เกิดขึ้นและแพร่กระจายออกไปในวงกว้างดังกล่าวนี้ สุภิญญา ยอมรับว่าข้อมูลข่าวสารเรื่องวัคซีนไม่นิ่งและอลหม่านมากจึงทำให้คนกลัว ไม่ใช่แค่ในประเทศแต่ทั่วโลก มีทั้งมิติวิทยาศาสตร์และการเมืองปนกัน เรื่องวัคซีนยังเป็นนโยบายสาธารณะด้วย ดังนั้นภาครัฐต้องเร่งตอบคำถามจากสังคมให้ชัดเจน เช่น ทำไมเราได้รับฉีดวัคซีนช้า มีตัวเลือกอื่นหรือไม่ การบริหารจัดการโปร่งใสหรือเปล่า และ การเข้าถึงวัคซีนเป็นสิทธิ์ทั่วถึงเป็นธรรม รวมถึงการให้ข้อมูลที่สร้างความมั่นใจในความปลอดภัย เป็นต้น ซึ่งภาครัฐต้องสร้างความเชื่อมั่น ส่วนประชาชนควรแยกแยะว่าอะไรคือข้อเท็จจริง อะไรคือความคิดเห็นหรือความเชื่อ จะได้ไม่สับสนและมีความมั่นใจมากขึ้น ถ้าไม่แน่ใจอะไร ส่งมาให้สื่อมวลชน เช่น สำนักข่าว AFP ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สมาคมนักข่าวฯ และ โคแฟคเพื่อช่วยตรวจสอบได้เช่นกันstd46896• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเสียงกระซิบจากผู้หวังดี: สื่อไทยกับความเสี่ยงต่อการปล่อยข่าวลวงรายงานเชิงวิเคราะห์โดย กุลชาดา ชัยพิพัฒน์ ที่ปรึกษาโคแฟค ประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา องค์กรไม่แสวงผลกำไรสากลที่ทำงานวิจัยเกี่ยวกับข่าวลวง Global Disinformation Index (GDI) ได้เผยแพร่รายงานประเมินความเสี่ยงของสำนักข่าวออนไลน์ในไทยต่อการเผยแพร่ข่าวลวงเป็นครั้งแรก โดยวิเคราะห์จากทั้งเนื้อหาและระบบการปฏิบัติงานของเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ 33 แห่งที่มียอดผู้เข้าชมทางเว็บไซต์และการเข้าถึงทางโซเชียลมีเดีย เป็นลำดับต้นๆ พบว่า ค่าเฉลี่ยความเสี่ยงอยู่ที่ 57 จาก 100 คะแนนซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ความเสี่ยงระดับปานกลางและใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้านเช่น ฟิลิปปินส์ ( 55.32) อินโดนีเซีย (63)และ มาเลเซีย (59 ) ซึ่งได้มีการประเมินไปก่อนหน้านี้ ( ดูรายงานเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ของGDI ) รายงานการวิจัยซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง GDI กับสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า เว็บไซต์ข่าว 15 แห่งมีความเสี่ยงปานกลาง 14 แห่งมีความเสี่ยงสูง 2 แห่งมีความเสี่ยงสูงสุด และอีก 2 แห่งมีความเสี่ยงต่ำ แต่ไม่มีสื่อใดมีความเสี่ยงต่ำสุด โดยในจำนวนนี้ มีสื่อโทรทัศน์ทั้งของภาครัฐและเอกชนและสื่อสิ่งพิมพ์เอกชนที่เผยแพร่เนื้อหาผ่านช่องทางออนไลน์ สื่อสิ่งพิมพ์ที่หันมาทำธุรกิจสื่อออนไลน์อย่างเดียว และสำนักข่าวออนไลน์เกิดใหม่รวมทั้งสื่อทางเลือก ซึ่งมีคนเข้าชมเป็นลำดับต้นๆจากการจัดลำดับของ www.alexar.com และมียอดการเข้าถึงของผู้ใช้งานในเฟสบุ๊คและทวิตเตอร์สูง (ดูรายชื่อสำนักข่าวออนไลน์ที่ถูกประเมินตามตารางแนบท้ายข่าว) รายงานดังกล่าวถือเป็นกลไกใหม่ในการเสริมสร้างความน่าเชื่อให้กับสื่อมวลชนทั่วโลกที่ถูกโอบล้อมอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรของข้อมูลลวงหรืออาจเป็นส่วนหนึ่งของการเผยแพร่ข้อมูลเหล่านั้นทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ โดยไม่มีการระบุชื่อสื่อที่ถูกประเมินในรายงานว่าได้คะแนนเท่าไหร่ แต่ทาง GDI จะมีการแจ้งให้สื่อเหล่านั้นทราบโดยตรงก่อนลงมือทำงานวิจัย และแจ้งอีกครั้งหลังทำงานเสร็จลุล่วงว่าสื่อนั้นมีความเสี่ยงต่อข้อมูลลวงมากน้อยเพียงใด ด้วยปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้าง พร้อมทั้งให้คำแนะนำว่าควรจัดการกับความเสี่ยงอย่างไร ในการประเมินผล ทีมวิจัยประเทศไทยใช้กระบวนการวิจัยทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพตามมาตรฐานของGDI โดยมีการวิเคราะห์ความเสี่ยงในด้านเนื้อหาและระบบการปฏิบัติงานจากเกณฑ์ชี้วัดหลักในแต่ละด้าน 10 ข้อ และ 6 ข้อตามลำดับ เมื่อนำความเสี่ยงทั้งสองด้านมาถัวเฉลี่ยกันก็จะเป็นค่าความเสี่ยงที่แต่ละสื่อได้รับจากคะแนนเต็ม100 โดยแบ่งระดับความเสี่ยงเป็น 5 ระดับ คือ ระดับต่ำสุด (80.28-100) ต่ำ (68.84-80.27 ) ปานกลาง (57.41-68.83) สูง (45.97-57.40) และสูงสุด (0-45.97 ) ทั้งนี้เนื้อหาที่นำมาวิเคราะห์มาจากการข่าวหรือบทความ 20 ตัวอย่างที่ถูกคัดเลือกจากแต่ละสื่อที่ถูกประเมิน โดยแบ่งเป็นเนื้อหาที่มีผู้แชร์บ่อย 10 ตัวอย่าง และเนื้อหาที่มีความเสี่ยงต่อข้อมูลลวงหรือที่สร้างความขัดแย้ง (adversarial narratives) ด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสุขภาพ เป็นต้นฯ 10 ตัวอย่าง (ดูรายละเอียดกระบวนการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลได้ในรายงานฉบับเต็ม) ค่าเฉลี่ยความเสี่ยงต่ำด้านเนื้อหา (79/100) ค่าเฉลี่ยความเสี่ยงสูงด้านระบบการปฏิบัติงานขององค์กรสื่อและกองบรรณาธิการ (35/100) ผลการประเมินพบว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้สื่อมีความเสี่ยงสูงต่อการเผยแพร่ข่าวลวงมาจากความไม่โปร่งใสหรือชัดเจนในนโยบายขององค์กรสื่อและแนวปฏิบัติของกองบรรณาธิการ (Operation Risk) เช่น ไม่ระบุความเป็นเจ้าของสื่อและแหล่งทุนหรือที่มาของรายได้ และไม่มีนโยบายหรือแนวปฏิบัติในการกลั่นกรองข้อมูลหรือตรวจสอบข้อเท็จชัดเจนของกองบรรณาธิการทั้งก่อนและหลังเผยแพร่เนื้อหา มากกว่าความเสี่ยงด้านเนื้อหา (Content Risk) ของสื่อส่วนใหญ่ที่ถูกประเมิน ซึ่งถือว่าปราศจากความลำเอียง ไม่ใช้ภาษาหรือภาพที่หวือหวาหรือพาดหัวคลาดเคลื่อน และ ไม่ได้มุ่งสร้างความขัดแย้งแม้ว่าสังคมไทยยังตกอยู่ในภาวะแบ่งขั้วทางการเมือง นอกจากนี้ แนวโน้มที่พบคือ สื่อที่ถูกประเมินกว่าครึ่ง มีเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงด้านระบบการปฏิบัติงานในเรื่องนโยบายการเปิดเผยความเป็นจ้าของสื่ออยู่ในระดับที่ต่ำ กล่าวคือไม่มีนโยบายหรือไม่เปิดเผยความเป็นเจ้าของบนหน้าเว็บอย่างชัดเจน และจำนวน 28 แห่งไม่มีนโยบายหรือแนวปฏิบัติในการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนเผยแพร่หรือการแก้ข่าวภายหลังอย่างชัดเจน ทำให้เกณฑ์ชี้วัดในเรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือการแก้ไขข้อผิดพลาดได้รับคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด (3/100) นอกจากนี้สื่อส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความสำคัญกับการระบุชื่อผู้สื่อข่าวหรือทีมงานที่ผลิตข่าวชิ้นนั้น (byline) ตลอดจนไม่ระบุหรือชี้แจงแนวปฏิบัติในการอ้างที่มาของแหล่งข่าวและแหล่งข้อมูลในข่าวอย่างชัดเจน (sources and attribution) ซึ่งเกณฑ์ที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด ถือเป็นแนวปฏิบัติตามหลักวารศาสตร์ที่สำคัญ ( major journalistic practice)ในการแสดงความโปร่งใสขององค์กรสื่อ ความเป็นอิสระของกองบรรณาธิการ และความรับผิดชอบที่สื่อมวลชนพึงมีเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเผยจะเผยแพร่ข้อมูลลวงใหต่อสาธารณะ และสร้างความไว้วางใจต่อผู้รับสารstd47964• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโพสต์ของ พระสมเด็จ วัดระฆัง แท้แรงศรัทธาสร้างบุญใหญ่! เปิดให้บูชา “พระสมเด็จจากหีบโบราณ” อายุกว่า 144 ปี ร่วมสมทบทุนสร้างโรงเรียนสามเณร! 🙏 ✨ ของแท้! จากหีบไม้สักเก่าโบราณที่เก็บรักษาไว้อย่างดีมากว่า 144 ปี ต้นกำเนิดแท้จาก “สมเด็จพุฒาจารย์โต” ผู้เรืองฤทธิ์ด้านเมตตา มหาโชค เสริมวาสนา 📿 บูชาวันนี้ = ทำบุญใหญ่ 2 ชั้น! ✅ เสริมดวง เสริมวาสนาให้ชีวิตรุ่งเรือง ✅ ร่วมสร้างโรงเรียนสามเณร แหล่งผลิตพระภิกษุผู้สืบทอดพระพุทธศาสนา 📌 มีให้เลือก 5 พิมพ์มงคลหายาก 🔹 พิมพ์ประธาน – บารมีแผ่ไพศาล 🔹 พิมพ์เส้นด้าย – เมตตามหานิยม 🔹 พิมพ์ฐานแซม – เสริมการค้า การงาน 🔹 พิมพ์เจดีย์ – หนุนโชค เสริมลาภ 🔹 พิมพ์ปรกโพธิ์ – ป้องกันภยันตราย คุ้มครองชีวิต 💸 ราคาบูชาแบบร่วมบุญ (อนุโมทนาได้): 🔸 1 องค์ = 600 บาท 🔸 2 องค์ = 1,000 บาท 🔸 5 องค์ = 2,000 บาท 🔸 10 องค์ = 3,500 บาท (บุญคุ้มที่สุด!) 📲 พิมพ์จองง่าย ๆ: 👉 ชื่อ: 👉 ที่อยู่: 👉 เบอร์โทร: 📞 เฮียบอย 064-908-3005 ❗️จำนวนจำกัด! แท้จากหีบเก่า ผู้ศรัทธาไว = ได้ร่วมสร้างกุศลก่อนใคร! ✨ ศรัทธาในวันนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญเปลี่ยนทั้งชีวิตคุณ และชีวิตของเณรน้อยอีกหลายร้อยรูป!ผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ออกนาม• 16 วันที่แล้ว
- 1 คนสงสัย(รถ) ข้อมูลจากเพื่อนที่เป็น"วิศวกร-ยานยนต์" ที่จบจากไทยแล้วไปเรียนจบวิศวะที่ UK แล้วอยู่ที่นั่นถึงปัจจุบัน(!) รถไฟฟ้า ถ้าไม่รวย อย่าซื้อนะ..(!!)(!!) (*)จงคิดดู ให้ดีๆ ไม่ไหลตามกระแส (1) เวลาซ่อม แพงกว่ารถน้ำมัน มากนัก เข้าศูนย์อย่างเดียว ราคา 3 แสน 5 แสน จะยังเปลี่ยน ซ่อม ขับต่อไหม (2) ล้านห้า ล้านสอง ซื้อมา ขายต่อไม่ได้ หมายความว่า ล้านห้า ล้านสอง นี่คือ ทิ้งไปเลยนะ ถ้าไม่สู้เรื่องค่าซ่อม หลักแสน หลายๆแสน (3) คุยกับศูนย์ซ่อม ได้ไหม ไม่เหมือนรถน้ำมัน มีอู่ข้างนอก นะ แล้ว อะไหล่เปลี่ยนเป็น ตัวๆ ได้นะ แต่ไฟฟ้าคือ ยกทั้งหมด แพงจัด (4) ทุกอย่างต้องอัพเดท ซอฟแวร์ อะไรเนี่ยะ จ่ายเงินทั้งนั้น พอถึงจุดหนึ่งก็ อัพเดทไม่ได้ จะทำไงต่อ (5) ตอนนี้คนเห่อกัน น้ำมันแพง แต่ถ้ารวย ไม่เป็นไรหรอก เพราะรถไฟฟ้า คนจน เขาไม่ซื้อหรอก การขายต่อเป็นมือ (2) จึงไม่ค่อยมี ..เต๊นท์รถก็ไม่เอาด้วย นานๆไป จะเป็นสุสาน นะ?(เอ๊ะ) .. รถน้ำมัน จะจ่ายเป็นเงิน สองพัน ห้าพัน แปดพัน สองหมื่น สามหมื่น รถไฟฟ้าเวลาจ่ายที 200,000, 300,000- 500,000 เงินก้อนเลย ไหวไหมล่ะ .. ต้องคิดเยอะๆ นะครับ แต่ถ้ารวยแล้ว ซื้อได้ (โอเค)(โอเค)ผู้บริโภคเฝ้าระวังมีม เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยอย.เตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อเพจเฟซบุ๊กโฆษณาหลอกขายยาสีฟันผลิตภัณฑ์ ลิควิด ทูธเพสท์ (LIQUID TOOTHPASTE) ชื่อการค้า โอเค เคลียร์ (OK CLEAR) เลขที่ใบรับจดแจ้ง 40-1-6300038347 อวดอ้างรักษาฟันผุ ฟันโยก คลอน เห็นผลใน 2 นาทีพบอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง รักษาฟันผุ เหงือกอักเสบ ปวดฟัน ฟันโยก เสี่ยงได้รับอันตรายในช่องปากการโฆษณาดังกล่าวเป็นการโฆษณาเกินความเป็นจริง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้บริโภค เนื่องจากยาสีฟันเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้กับฟันและเยื่อบุในช่องปาก เพื่อทำความสะอาดเท่านั้น ดังนั้นการอวดอ้างว่าสามารถแก้ปัญหาร้อนใน รักษาฟันผุ เหงือกอักเสบ ปวดฟัน ฟันโยก จึงเป็นข้อความที่เป็นเท็จ โอ้อวดเกินจริงและทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอางอย.แนะนำผู้บริโภคควรแปรงฟันให้ถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟันช่วยทำความสะอาดซอกฟัน เลือกใช้ยาสีฟันผสมสารฟลูออไรด์ เพราะจะสามารถช่วยป้องกันฟันผุได้ และควรไปพบทันตแพทย์ตามนัด หรือทุก 6 เดือน เพื่อสุขภาวะที่ดีของช่องปากและฟัน หากผู้บริโภคที่มีอาการผิดปกติทางช่องปากและฟัน ควรรีบไปพบทันตแพทย์ อย่าหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาใช้อย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังstd46588• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยฝีดาษลิงคนที่5ของไทยไทยเจอฝีดาษลิงรายที่ 5 กลับจากดูไบ เร่งติดตาม 2 ต่างชาติ 15 สิงหาคม : นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 5 เป็นผู้หญิงไทย อายุ 25 ปี มีอาการป่วยที่ต่างประเทศ ก่อนเดินทางกลับมาจากดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถึงไทยวันที่ 14 ส.ค. เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้คัดกรอง ตรวจสอบ และสังเกตอาการ พบว่าเข้าข่ายสงสัย เนื่องจากสังเกตเห็นตุ่ม จากการซักประวัติก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จึงพามารับการตรวจวินิจฉัยใน รพ. โดยผลตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันว่าเป็นโรคฝีดาษลิง เข้าสู่การรักษาตามระบบปกติ ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามคนที่นั่งบนเครื่องบินใกล้กัน 2 ราย ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ เพื่อแนะนำให้มาตรวจต่อไปkulanit1363• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยคำแนะนำ จาก นพ.พรเทพนพ.พรเทพ ได้ฝากทีวี NBT ช่วยประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนทั่วไปที่ยังเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับการตรวจหาเชื้อโควิดเมื่อหลงเข้าไปในสถานที่เสี่ยงหรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิดดังนี้ (1) ควรกักตัวเองเพือรอให้ครบ 5 วันแล้วค่อยไปตรวจหาเชื้อโควิด (2) หากผลตรวจเป็นลบ ควรกักตัวเองต่ออีกจนครบ 14 วันแล้วตรวจหาเชื้อซ้ำเพื่อยืนยัน คนไทยหลายคนเข้าใจผิดหลายประเด็นคือ (1) ตระหนกตกใจแล้วรีบไปตรวจก่อน 5 วันหลังการสัมผัสเสี่ยงโรค จึงไม่พบเชื้อหรือผลเป็นลบ (2) สบายใจว่าผลตรวจเป็นลบ (ข้อ 1) แล้วไม่กักตัวเองต่อ แต่กลับออกตระเวณใช้ชีวิตเหมือนเดิม และแพร่เชื้อให้คนอื่นๆต่อไป นับถึงวันนี้ ไทยต้องเสียค่าใช้จ่ายตรวจเชื้อโควิดไปแล้วกว่า 50 ล้านบาทโดยไม่ได้ประสิทธิผลเท่าที่ควรจากความเข้าใจผิดๆเหล่านี้ ช่วยกันแชร์ต่อเพื่อสังคมไทยจะได้ปลอดภัยครับMrs.Doubt• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอีก6เดือนข้างหน้า ถ้าคนในม็อบด่าเจ้า หรืออีแอบด่าเจ้าติดโควิด19 อย่าไปฉีดวัคซีนนะ.. วัคซีนที่ ฝรั่งมาผลิตในไทย เพราะมีโรงงานมาตรฐานที่สุดเป็นที่2ในโลกที่สร้างจากเงินส่วนพระองค์ของ รัชกาลที่9 จำนวน 3000 ล้านบาท 😏 ยอมตายเลยนะ เสียศักดิ์ศรีนะพวกมรึงงง..... อย่ารักษานะ เงินเจ้านะพวกมึง... 😏 อีก2 ทางก็เงินที่ ลุงตู่ไปหามาไม่ได้เอาเงินภาษีไม่ได้เอางบประมาณแผ่นดิน เพราะคือเงินมัดจำวัคซีน เบิกงบไม่ได้ ไปมัดจำไว้ 2000 ล้านบาท 400ล้าน ให้จุฬากำลังพัฒนา 600ล้าน ให้โรงงาน ที่อ๊อกฟอร์ด จะมาวิจัยและผลิต ทำสัญญา MOU เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว แถมมีสัญญาพ่วงให้ไทยเป็น ผู้ขายวัคซีน ได้.. ประเทศไทยชนะทุกประเทศในแถบนี้ ชังชาติ เกลียดเจ้า ด่านายก อย่าฉีดวัคซีน นะมรึงงงง...ข่าวการเมืองโควิด 2019วัคซีนโควิดไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยถ้าการไฟฟ้าโทรมา ให้เราเปลี่ยนมิเตอร์เราควรเปลี่ยนไหมคะ?พอดีว่าเมื่อ 2-3 วันก่อนหน้านี้ มีเบอร์โทรเข้ามาและบอกว่าเป็นการไฟฟ้า PEA E-Service บอกเราว่าหม้อเรามีปัญหาต้องเปลี่ยนเป็นหม้อดิจิทัลด่วน ๆ และต้อบเสียเงินประมาณ 3,500 บาท เราควรเชื่อและแจ้งเปลี่ยนเลยไหมคะ เพราะว่าเค้าให้แอดไลน์ด้วยการเงินแอคปลอมชนาภรณ์ ผมเงิน• 1 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแชร์ข่าวปลอมแพร่โควิด-19ทำปชช.ตื่นตระหนกมีโทษคุก 5 ปี จริงหรือข่าวลือสะพัดมากช่วงโควิด สร้างความตื่นตระหนก การกระทำลักษณะดังกล่าว อาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14(2) จำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับโควิด 2019anonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยลงทะเบียน คนละครึ่งรอบเก็บตก 1 ล้านสิทธิ วันที่ 20 ม.ค. อย่าพลาดโครงการคนละครึ่ง รอบเก็บตกในวันที่ 20 มกราคม 2564 ซึ่งคาดว่าจะมีสิทธิ์คงเหลือมากกว่า 1 ล้านสิทธิ โดยเป็นสิทธิที่คงเหลือจากเฟสแรก จำนวน 5 แสนสิทธิ์ และเฟส 2 จำนวน 5 แสนสิทธิ์ ซึ่งมาจากที่ผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านเกณฑ์ และผู้ที่ได้รับสิทธิ์ แต่ยังไม่มีการใช้จ่ายภายใน 14 วัน ซึ่งจะต้องรอสรุปตัวเลขอีกครั้งanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ ราคาค่าฉีดวัคซีนโควิด 19 ใกล้เคียงกับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และต้องฉีด 2 เข็ม ปีหน้ามีความเป็นไปได้ในการเริ่มใช้วัคซีนวช. เปิดเผยผลวิเคราะห์ ราคาวัคซีน COVID -19 เป็นครั้งแรก คาดน่าจะอยู่ที่เข็มละ 620 บาท ใกล้เคียงกับราคาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และต้องฉีด 2 เข็ม ทั่วโลกมีความคืบหน้าการพัฒนาอย่างช้าภายในปี 2564 น่าจะเริ่มใช้ในคนโควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยองค์การเภสัชกรรมทำ"ยาฟาวิพิราเวียร์" รักษาโควิด ได้สำเร็จ เตรียมผลิตเป็นเม็ดยาในปี64 จริงหรือคะเนื่องจากว่าในขณะนี้ทั่วโลกต้องการยารักษาโควิดอย่างมาก ทางองค์การเภสัชกรรมเลยเริ่มผลิตยาขึ้นมาสำหรับคนในประเทศที่อาจจะต้องใช้ เพราะคาดการณ์ว่าจะมีการแพร่ระบาดต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานประมาณ 1-2 ปี จริงหรือคะโควิด 2019anonymous• 6 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--last3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยให้ระวังอย่าโดนฝน! จะมีพายุฝนเหลืองจากประเทศจีนที่จะมีทั้งเชื้อโรคและสารเคมีมาด้วย ข่าวนี้เชื่อได้ไหม?มีข่าวลืออีกหนึ่งข่าว บอกทำนองว่า "ให้ระวัง วันที่ 2-3-4 นี้ จะมีพายุฝนมาจากประเทศจีน มีเชื้อโรค พร้อมทั้งสารเคมี เขาเรียกว่า ฝนเหลือง อย่าโดนฝนเด็ดขาด เป็นไปตามพุทธทำนาย" ?!?โควิด 2019naruemonjoy• 6 ปีที่แล้วmeter: false3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยการ Detox โดยไม่ต้องสวนก้นการ Detox โดยไม่ต้องสวนก้น เอาอะไรเข้าไปก่อกวนลำไส้ ซึ่งอาจมีโทษข้างคียง เช่น ทำลายระบบนิเวศของ แบคทีเรียดีในลำไส้ นำสู่การขาดวิตามิน B12 เว้นแต่มีข้อบ่งชี้ เช่น ท้องผูก อวัยวะขับพิษ ทั้ง 6 บทความตอนหนึ่ง ของ นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ร่างกายของเรา เขาทำงานของเขาเองอยู่แล้ว โดยอาศัยอวัยวะ ขับพิษทั้ง 6 คือ (1) ตับ (2) ไต (3) ปอด (4) ลำไส้ใหญ่ (5) ต่อมเหงื่อที่ผิวหนัง (6) น้ำเหลือง ถ้าท่านอยากจะล้างพิษ ผมแนะนำให้ท่าน ช่วยให้อวัยวะ ทั้งหกนี้ ทำงานได้ดีขึ้น ดังนี้ (1) ท่านช่วย “ตับ” ของท่านได้ ด้วยการกินอาหาร ที่ตับต้องใช้ในการขจัดพิษ ที่เรียกว่า สารต้าน อนุมูลอิสระ นั่นแหละ ได้แก่ อาหารพืชที่หลากสี (เน้นสีม่วงแดง) หลากรส (เน้นรสขม) ตามฤดูกาล (เน้นเห็ด) และ เน้นขมิ้นชัน ในภาพรวมว่าเป็นสาร ต้านอนุมูลอิสระ ที่โดดเด่น นอกจากนี้ ควรขยันออกแดด เพื่อให้ไมโตคอนเดรีย ในเซลร่างกายของท่าน ทุกเซลช่วยกันสร้าง สารต้านอนุมูลอิสระ ชื่อเมลาโทนิน ขึ้นมาช่วยการทำงานของตับ (2) ท่านช่วย “ไต” ของท่านได้ ด้วยการระวัง ไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ กินเกลือให้น้อย กินยาให้น้อยที่สุด ไม่กินยาที่ทำให้ เป็นโรคไตเรื้อรัง โดยตรง เช่น ยาลดการหลั่งกรด (เช่น omeprazole) ยาแก้ปวด แก้อักเสบข้อ และอย่าฉีดสี เพื่อวินิจฉัยโรคบ่อย โดยไม่จำเป็น เพราะ สีเหล่านั้น เป็นพิษต่อไตมาก..ก (3) ท่านช่วย “ปอด” ของท่านได้ ด้วยการ ฝึกหายใจให้ลึก ฝึกกลั้นหายใจนิดหนึ่ง ขณะลมเต็มปอด ฝึกหายใจออก ให้ยาวกว่า การหายใจเข้า เพื่อเอาลมค้างออกมา ให้มากที่สุด ใช้วิธีนับ 4-4-8 อย่างที่ผมเคยสอน ในบล็อกก่อนๆ ก็ได้ (เข้า 1 2 3 4, กลั้นไว้ 1 2 3 4 ออก 1 2 3 4 5 6 7 8 ) และขยันพาตัวเอง ไปอยู่ในบรรยากาศธรรมชาติ อากาศดีๆ (4) ท่านช่วย “ลำไส้ใหญ่” ของท่านได้ ด้วยการเอาใจใส่ เลี้ยงดูชุมชนจุลินทรีย์ (microbiomes) ในลำไส้ของท่าน ให้เจริญเติบโต หลากหลาย เพราะพวกเขา เป็นผู้ขับพิษ ที่แท้จริงของท่าน วิธีเลี้ยง ก็คือ กินของที่พวกเขา ใช้เป็นอาหาร (prebiotic) เช่น กากต่างๆ และถั่วต่างๆ และ ขยันกินอาหาร ที่มีจุลินทรีย์ (probiotic) เช่น อาหารหมักๆดองๆ ชาหมัก เป็นต้น (5) ท่านช่วย “ต่อมเหงื่อบนผิวหนัง” ของท่านได้ ด้วยการขยันออกกำลังกาย ให้เหงื่อออกมากๆ ขณะเดียวกัน ก็ดื่มน้ำตามไม่ให้ขาด ถ้ามีซาวน่า ก็ขยันอบซาวน่า ให้เหงื่อไหลโทรมกาย ก็ช่วยได้ (6) ท่านช่วย “ระบบน้ำเหลือง” ของท่านได้ ด้วยการขยัน ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว อย่างน้อย ให้ขยันเดินทั้งวัน วิ่งเหยาะๆบ้าง เมื่อมีโอกาส เพราะการขยับแขนขา เป็นปัจจัยเดียว ที่จะขับเคลื่อน การไหลเวียน ของน้ำเหลือง เอาของเสียไปทิ้งได้ ทำทั้งหกอย่าง นี่แหละ เป็นการ “ดีท๊อกซ์” ที่ได้ผลดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด ไม่ต้องไปเสียเงิน ฉีดอะไรที่เสี่ยงๆเข้าตัวเอง ทุกเดือนเลย นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ บรรณานุกรม 1. Knudston ML, Wyse DG, Galbraith PD, et al. Chelation therapy for ischemic heart disease, a randomized controlled trial. JAMA. 2002;287(4):481-486.Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยการกระตุ้นฉีดวัคซีนภูมิสูงๆ ต้องระวัง Lymphoma (มะเร็งต่อมน้ำเหลือง)ส่งมาโดย อ.ภิรมย์ หมอจุฬา การกระตุ้นฉีดวัคซีนภูมิสูงๆ ต้องระวัง Lymphoma (มะเร็งต่อมน้ำเหลือง) เก็บมาฝาก แค่ให้รู้และเฝ้าระวัง ไม่ต้องตื่นกลัว คอยติดตามข่าวกันต่อไปแค่นั้น เมื่อวานและวันนี้ ห้องไลน์หมอ ผมคุยกันเรื่องนี้เยอะ มีทั้งคำเตือนจาก อจ.แพทย์ไทย และรายงานจากต่างประเทศ สรุปคร่าวๆ ได้ว่า ตอนนี้เชื้อโควิดแรงขึ้น หลายๆ คน (รวมทั้งผมเอง) ก็พยายามหาวัคซีนที่จะช่วยกระตุ้นภูมิให้สูงมากๆ ขึ้นเพื่อให้เกิดภูมิต้านทานสูง สู้กับโรคได้แบบไม่ต้องกังวล แต่ภูมิต้านทานอย่างพวก IgG หรือ แอนติบอดี้ ที่สร้างขึ้นมาในร่างกายเรานั้น มันสร้างมาจากการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิด Lymphocyte ถ้าได้รับการกระตุ้นมากจนเกินไป อาจจะทำให้เกิดเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้ นอกจากนี้ยังอาจต้องระวังโรค Autoimmune หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง คือ โรค SLE หรือโรคพุ่มพวงที่เรารู้จักกันดี) ดังนั้น การจะกระตุ้นให้ขึ้นมากน้อย ตอนนี้คงต้องคำนึงถึงความจำเป็นและความเสี่ยงด้วย จากเคยคิดที่จะกระตุ้นกันแบบไม่ยั้ง เอาภูมิต้านทานแบบเกราะเหล็กหนาๆ อาจจะต้องเพลาๆ ลง เมื่อคำนึงถึงความเสี่ยงต่อโรคว่าคุ้มมั้ย และจักต้องติดตามรายงานศึกษาจากทั่วโลกตลอดจนปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ซึ่งแน่นอนว่าเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ข้อมูลข้างล่างนี้ คือที่หมอๆคุยปรึกษากัน โดยส่วนตัว ก็เคยคิดอยากกระตุ้นให้สูงมากเผื่อเหนียวไว้ แต่พอนักวิชาการท้วง ก็คงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เอาเท่าที่จำเป็นก่อน โดยความเห็นส่วนตัว ที่เราใช้กันตอนนี้… SV + AZ 2SV + AZ 2SV + mRNA 2AZ 2mRNA AZ + mRNA เหล่านี้ผมว่าภูมิคุ้มกันสูงพอและใกล้เคียงมาตรฐาน แต่ที่เกรงก็คือ ผู้ที่จะกระตุ้นให้ภูมิสูงไปกว่านี้ เช่น 2AZ + mRNA 2SV + AZ + mRNA AZ + mRNA + mRNA หรือ mRNA 3 เข็ม --------------------------- งานวิจัยของเยอรมันบ่งชี้ว่า AZ + mRNA ผลข้างเคียงหลังเข็ม 2 พอๆ กับ mRNA + mRNA และกระตุ้นเม็ดเลือดขาวชนิด B-cell (IgG) ที่ต่อสู้กับ Covid-19 ได้สูงมาก แต่ใครฉีด AZ + AZ ไปแล้วหมอไม่แนะนำให้ซ้ำ mRNA ในปีนี้อีก เพราะถ้า IgG ขึ้น สูงมากๆ อาจเสี่ยงต่อโรค B-cell Lymphoma --------------------------- ตามที่มีข่าวว่า ถ้าหาก ภูมิคุ้มกันมีระดับสูงมากเกินไป เพิ่มความเสี่ยงเรื่อง Lymphoma แต่ตอนนี้ยังไม่มีรายงานเรื่อง Lymphoma โดยทฤษฏี เห็นด้วยว่าไม่ควรฉีดบ่อยเกินไป อย่างน้อยๆ คือรอ 6 เดือนหลังเข็ม 2 เพราะสิ่งที่หวั่นเกรง คือ autoimmune disease VACCINE เป็นเหมือน antigen ชนิดหนึ่ง กระตุ้น innate และ adaptive หากมีการกระตุ้นบ่อยๆ T cell จะคุยกับ B cell บ่อยๆ เราเรียกว่า T-B cell crosstalk เพื่อให้สร้าง antibody เยอะๆ ความผิดพลาดเกิดได้หลายตำแหน่ง 1. ยิ่งคุยกันมาก ยิ่งพลาดได้ ทำให้สร้าง b cell clone ผิดปกติได้ โดยทฤษฏีจึงอาจเกิด lymphoma ได้ 2. ยิ่งสร้าง antibody มาก ยิ่งอาจมี antibody ที่จับกับ self antigen อาจเกิด autoimmune disease แต่ทั้งหมดคือทฤษฏี ต้องรอ real world data หลังฉีดไปอีก 2-3 ปี ว่า โรคเหล่านี้จะปรากฏเยอะขึ้นกว่าตอนก่อนฉีดหรือไม่ ดังนั้น ให้ยึดทางสายกลางไว้ก่อน หากได้ AZ + AZ หรือ mRNA + mRNA หรือ Mix & Match สลับกัน ก็ยังไม่ต้อง booster ให้รอข้อมูลจากอเมริกา อังกฤษ ตอนที่เค้า boost เข็มสาม ซึ่งน่าจะเป็นปีหน้าวัคซีนโควิดMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยครูยโสธรถูกมิจฉาชีพให้กดลิงค์สรรพากร ถูกดูดทุกบัญชี หายไป 2 ล้านบาทข่าวสด ๆๆ ช่อง 23 ครูยโสธรถูกมิจฉาชีพให้กดลิงค์สรรพากร ถูกดูดทุกบัญชี หายไป 2 ล้านบาทแทบร้องไห้ โทรให้ธนาคารรีบบล็อกบัญชีก็ทำงานเชื่องช้าจนหมดตัวๆๆให้ระวังมากๆๆเมื่อวานก็ถูกดูดไปหลักล้านเช่นกัน บัญชีม้ารับเงินสบายๆๆๆMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจากกรณีมีข่าว ลูกนายทหารเรือเสียชีวิตไล่เลี่ยกัน 2 ราย มีข่าวลือหนาหูว่าติดเชื้อโควิด-19 จริงหรือเมื่อสัปดาห์ก่อนมีข่าวการเสียชีวิตของลุกนายทหารเรือ 2 คนเสียชีวิตไล่เลี่ยกัน มีข่าวว่าเสียชีวิตเพราะติดเชื้อโควิด จริงหรือโควิด 2019anonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเติมตระกูล ลูกชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ประกาศแจกเงินหมื่น คนแจ้งเบาะแสบ่อนทั่วประเทศ จริงหรือคะมีโพสท์ส่วนตัวของนาย เติมตระกูล กมลวิศิษฎ์ โพสต์เฟซบุ๊กไว้ว่า “ให้รูปละ 2 หมื่น, คลิปละ 4หมื่น" ของบ่อนการพนันทั่วประเทศ โดยระบุเวลา สถานที่ให้ชัดเจน ให้ส่งมาทางข้อความส่วนตัว ไม่โพสท์ที่หน้าวอลล์ จริงหรือคะanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
