(2461 ข้อความ)
- 1 คนสงสัยอย.เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์อ้างลดอ้วน ‘De2xy และ Me2shape’ เสี่ยงอันตรายอย.เตือนสาวอยากผอมระวัง อย่าซื้อผลิตภัณฑ์อวดอ้างลดอ้วน De2xy และ Me2shape พบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ขออนุญาตกับ อย. แถมโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง เสี่ยงได้รับอันตรายถึงชีวิต นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคให้ตรวจสอบการโฆษณาผลิตภัณฑ์ “De2xy และ Me2Shape” ซึ่งพบว่ามีการโฆษณาอ้างสรรพคุณเกินจริงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ นั้น อย.ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบการโฆษณาสรรพคุณอ้างลดน้ำหนักทางเฟซบุ๊กชื่อ Sunisa Lv’tl แสดงข้อความในทำนองช่วยควบคุมน้ำหนัก เปลี่ยนหุ่นเสีย เป็นหุ่นสวย เพราะมีตัวช่วยหุ่นดีที่ไม่ต้องอด ก็ลดได้ เพียงแค่วันละ 1 - 2 แคปซูล ซึ่งข้อความเหล่านี้เป็นการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาตและโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง เพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ อย.ได้สั่งระงับการโฆษณาและดำเนินการทางกฎหมายกับผู้โฆษณาแล้ว นอกจากนี้ จากการสืบค้นข้อมูลในระบบตรวจสอบผลิตภัณฑ์ ไม่พบข้อมูลการอนุญาตผลิตภัณฑ์อาหารในชื่อดังกล่าวแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาต้นตอแหล่งผลิตผลิตภัณฑ์ต่อไป รองเลขาธิการ อย. กล่าวต่อว่า ขอเตือนภัยสาวอยากผอมพึงระวัง อย่าตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อคารมการโฆษณาเกินจริงจากผู้ขายโดยเด็ดขาด นอกจากจะไม่ได้ช่วยให้น้ำหนักลดลงแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพกรณีเป็นยาลดความอ้วนส่วนใหญ่ออกฤทธิ์ลดความอยากอาหาร เป็นยาที่กระตุ้นประสาทส่วนกลางการใช้จะทำให้น้ำหนักลดลงได้ขณะรับประทานยา แต่น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อหยุดยา หรือที่เรียกว่า yo-yo effect และผลข้างเคียงจากการใช้ยาที่พบบ่อย คือ นอนไม่หลับ เวียนศีรษะ วิตกกังวล ตาพร่า ดังนั้น การใช้ยาเพื่อลดความอ้วน ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น อย่าซื้อยามารับประทานเอง ส่วนกรณีเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง มักตรวจพบว่ามีการผสมยาหรือสารอันตราย ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ พร้อมเตือนผู้ขายอย่าโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพอวดอ้างลดความอ้วนผ่านสื่อทุกช่องทาง ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หากตรวจพบจะถูกดำเนินคดีทันที ทั้งนี้ หากผู้บริโภคพบเห็นการอวดอ้างโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพต้องสงสัย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่ สายด่วน อย. 1556 หรือที่ E-mail: 1556@fda.moph.go.th หรือ ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือร้องเรียนผ่าน Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศลดความอ้วนอย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47993• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยข่าวปลอมอย่าแชร์! ผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิงตามที่มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นเรื่องผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีที่มีการแชร์ข้อความว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้า มีความเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิง ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฝีดาษลิงแต่อย่างใด โรคฝีดาษลิงเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxviridae จัดอยู่ในจีนัส Orthopoxvirus เชื้อไวรัสฝีดาษลิงพบได้ในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ เช่น กระรอก หนูป่า เป็นต้น รวมทั้งคนก็สามารถติดโรคได้ จากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัดข่วน การประกอบอาหารจากเนื้อสัตว์ป่า หรือกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ หรืออาจติดทางอ้อมจากการสัมผัสที่นอนของสัตว์ป่วย การแพร่เชื้อจากคนสู่คนแม้มีโอกาสน้อย แต่อาจเกิดขึ้นได้จากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยผ่านทางสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ ผิวหนังที่เป็นตุ่ม หรืออุปกรณ์ที่มีการปนเปื้อนเชื้อ เมื่อคนรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะมีระยะฟักตัวประมาณ 7-14 วัน อาจนานถึง 21 วัน โดยอาการเริ่มแรกจะมีไข้ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ต่อมน้ำเหลืองโต หนาวสั่น อ่อนเพลีย จากนั้นประมาณ 1-3 วัน จะมีผื่นขึ้นบริเวณแขนขา และอาจจะเกิดบนหน้าและลำตัวได้ด้วย ผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนอง ในระยะสุดท้ายตุ่มหนองจะเป็นสะเก็ดแล้วหลุดออกมา อาการป่วยจะประมาณ 2-4 สัปดาห์ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากโรคเองได้ในปัจจุบันยังไม่มีการรักษาโรคฝีดาษลิงที่เฉพาะเจาะจง แต่สามารถควบคุมการระบาดได้ด้วย การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้ทรพิษ ซึ่งสามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ 85% ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมควบคุมโรค สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.ddc.moph.go.th หรือโทร 1422 ได้ตลอด 24 ชม. บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ไม่เป็นความจริงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฝีดาษลิง และเชื้อไวรัสฝีดาษลิงพบได้ในสัตว์หลายชนิดโดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะรวมทั้งคนก็สามารถติดโรคได้ จากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัดข่วน การประกอบอาหารจากเนื้อสัตว์ป่า หรือกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกไม่เพียงพอดลยา ซื่อตรง เลขที่36• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยทะลวงหลอดเลือดด้วยภูมิปัญญาโบราณ เพียง 2 นาที🌹ทะลวงหลอดเลือดด้วยภูมิปัญญาโบราณ เพียง 2 นาที ทะลวงหลอดเลือดด้วยภูมิปัญญาโบราณ เพียง 2 นาที เป็นของขวัญอันล้ำค่าแก่พ่อแม่และเพื่อนๆ ของคุณ 📍ชายชาวลอนดอนคนหนึ่งได้เล่าประสบการณ์ส่วนตัว เมื่อเขาไปประชุมที่ปากีสถาน เกิดมีอาการเจ็บหน้าอกอย่างเฉียบพลัน แพทย์ตรวจพบว่าเส้นเลือดหัวใจของเขา 3 เส้นอุดตันอย่างรุนแรง จำเป็นต้องผ่าตัดทำบายพาส. กำหนดการผ่าตัดคืออีก 1 เดือน ในช่วงระหว่างนั้นเขาไปพบหมอบำบัดมุสลิมโบราณ หมอบำบัดให้เขาทำยาทานเองที่บ้าน เมื่อทานครบ 1 เดือน ก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลเดียวกันก่อนผ่าตัด พบว่าเส้นเลือดทั้ง 3 เส้นใสสะอาด ที่เคยอุดตันก็ถูกทะลวงออกหมด เพื่อช่วยให้คนอื่นได้รับประโยชน์ เขาได้บอกเล่าประสบการณ์ของตัวเองบนอินเทอร์เน็ต รวมทั้งโชว์ภาพถ่ายเส้นเลือดของเขาก่อนและหลัง เพื่อให้แสดงความแตกต่างก่อนและหลังทานยา ▪️วัตถุดิบที่ใช้ ... - 1 น้ำมะนาว 1 ถ้วย - 1 น้ำขิง 1 ถ้วย - 1 น้ำคั้นกระเทียม 1 ถ้วย - 1 น้ำส้มสายชูแอปเปิล 1 ถ้วย ▪️วิธีเตรียม.. 1.ลอกเปลือกกระเทียมและขิง หั่นขิงเป็นชิ้นบางๆ นำทั้งสองอย่างใส่เครื่องปั่นเครื่องคั้นน้ำผลไม้ ปั่นละเอียดแล้วเทลงบนผ้ากรอง เพื่อบีบน้ำคั้นออกมา 2.นำน้ำคั้นกระเทียมและขิงลงไปในหม้อ เติมน้ำมะนาวและน้ำส้มสายชูแอปเปิลลงไป ต้มจนเดือด แล้วค่อยๆเคี่ยวไปโดยไม่ต้องปิดฝาหม้อ เพื่อให้น้ำระเหยออก ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ก็จะได้ยาที่เคี่ยวแล้วประมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณเริ่มต้น 3. ตั้งทิ้งไว้จนอุณหภูมิลดลง ก็ให้เติมน้ำผึ้งลงไปผสมเพื่อให้ทานได้ง่าย (ใส่มากเท่าที่รสชาดพอจะทานได้) 4.ใส่น้ำสมุนไพรนี้ในขวดแก้ว แช่ในตู้เย็นเก็บไว้ ▪️วิธีรับประทาน : ทาน 1 ช้อนโต๊ะก่อนอาหารเช้าทุกวัน สามารถขจัดโรคหัวใจและหลอดเลือดให้หายขาดได้ คนทั่วไปยังสามารถใช้เป็นเครื่องดื่มในชีวิตประจำวัน เพื่อป้องกันโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง รวมทั้งป้องกันโรคหวัดและโรคภัยอื่นๆ ได้อีกด้วย เมื่อทานได้ 1 เดือน ให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล คุณจะพบหลอดเลือดสะอาด เส้นที่มีการอุดกั้นถูกทะลวงไปแล้ว 📍สูตรลับนี้จะต้องบันทึกเก็บไว้นะครับ...! และต้องเผยแพร่ส่งต่อให้คนที่ท่านรักและปรารถนาดี! **** หมายเหตุ น้ำส้มสายชูที่ทำจากแอปเปิ้ล มีจำหน่ายตามห้างต่างๆ "ถ้าข้อมูลนี่เป็นประโยชน์และสามารถช่วยใครได้อีกหลายๆ คน อย่าเก็บไว้อ่านคนเดียวละอย่าลืมส่งให้กับคุณที่คุณรักได้อ่านกันนะค่ะ" ———————SK—————ยาสมุนไพรAZ• 1 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยส่งกลับตามคำแนะนำนะครับ ¤¤¤¤¤¤¤ ♥ โภชนาการบำบัด ♥ ~~~~~~~~~~~~~~~ ■ ใครที่มีเพื่อนรัก! ช่วยกันส่งกันต่อๆไป ความรู้ใหม่ โภชนาการบำบัดโรค ♥ 1. ดื่มน้ำร้อน ปลอดทุกโรค ♥ 2. กินไข่ลวกวันละ 2 ฟอง ใส่พริกไทยดำที่ตำเองหนึ่งช้อนชาจะห่างไกลจากอัลไซเมอร์ ไม่ต้องไปหาหมอ ♥ 3. หยุดกินน้ำตาลทราย เพราะเป็นสาเหตุในการก่อให้เกิดโรคต่างๆ ♥ 4. กินทุเรียน ช่วยรักษาโรคมะเร็ง และแก่ช้า ♥ 5. กินแตงโม ช่วยแก้เลือดอุดตัน ลิ่มเลือด และช่วยบำรุงเลือด ถ้าเป็นผู้ชาย จะทำให้สมรรถภาพทางเพศแข็งแรง ♥ 6. สตรีกินสับปะรด ช่วยกระช้บช่องคลอด ♥ 7. กินกล้วยไข่ ช่วยบำรุง ตับ ไต ผิว ตา กระดูก (เหมาะสำหรับคนทำงานหน้าคอมส์) ทำให้หน้าอกโตด้วย ♥ 8. กล้วยน้ำว้า นำไปเผาทั้งเปลือก ช่วยรักษา อาการปวดหัว ตัวร้อน และเบาหวาน ♥ 9. กล้วยหอม เด็กถ้ากินจะช่วยให้มีความจำดี และสตรีวัยทองช่วยปรับฮอร์โมน ให้กินกับน้ำมะพร้าวอ่อนจะดีมาก ช่วยรักษาโรคฮันจิสัน (สตรีถ้ากินมากจะเซ็กส์จัดนะ) ♥ 10. น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ใช้กิน และนวดหน้า นวดร่างกายทำให้ดูอ่อนกว่าวัย รักษาฝ้า กระ ดีมาก เพราะน้ำมันมะพร้าวเป็นสารตั้งต้นของเครื่องสำอางค์ทุกชนิด ♥ 11. กินน้ำมันหมูดีที่สุด เพราะช่วยซ่อม สร้างเนื้อเยื่อ ที่เหลือขับทิ้งได้ ไม่เหมือนน้ำมันพืช ที่ผ่านกรรมวิธีที่มีสารเคมีตกค้างมากมาย เป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาวแน่นอน ♥ 12. กินหอมแดง หอมหัวใหญ่ กระเทียม และตามด้วยมะนาวฝานบางๆทั้งเปลือก 2-3 ชิ้น เพื่อดับกลิ่น เพื่อลดไขมันตัวร้ายในหลอดเลือด ดีกว่ากินยาลดไขมัน ซึ่งมีผลข้างเคียงที่อันตรายมาก ▪▪▪▪▪▪▪▪▪ ★ ส่งต่อเป็นวิทยาทานนะครับ ■ ใครคือเพื่อน 18 คน ที่คุณจะไม่สามารถลืมได้เลยในชีวิต ส่งให้แค่ 18 คน แล้วคอยดูว่า คุณเองจะได้รับกลับมาเท่าไหร่ เริ่มส่งได้เลยนะครับ! อย่าลืมส่งให้เพื่อนคนพิเศษของคุณ (รวมถึงส่งกลับมาให้ข้าพเจ้าด้วย ถ้าข้าพเจ้าเป็นคนพิเศษ) กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่น่ารักมากๆ เลยนะ ถ้าคุณหรือกลุ่มได้รับกลับมา อย่างน้อย 5 คน ลองดูเลยสุขภาพมะเร็งไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย∆ ด่วน..!!! และสำคัญ..!! ∆ ผู้มีรถ.. ** ต้องอ่าน..!!! 😧😲😟😦😖😤😴😆😅🎯👻 ตอนนี้มันเล่นทั้งชายหญิงเลยนะ เคยประสบเหตุนี้แล้วกับตัวเอง ที่ถนนมเหศักดิ์ ซึ่งเชื่อม ถนนสาธรกับถนนสีลมเป็นเวลากลางวันระหว่างที่รถผมหยุดรอไฟเขียว มีชาย 2 คนเดินมาข้างหลัง ทั้งคู่กระตุกประตูหลัง คนละข้าง โชคดีที่ประตูล๊อก 1 ใน 2 คนนั้นพยายามดึงแรงขึ้นอีก แล้วทั้งคู่ก็เดินเร็วผ่านรถผม แล้วปนไปในฝูงชน เดี๋ยวนี้ เหตุร้ายเกิดได้ตลอด ไม่ว่ามืดหรือสว่าง เราคงต้องระวังอย่าเผลอเชียวละ 😀😷😖😦😟🎆🌺🌺🎯🎇🌀 เหตุการณ์ที่ 1 ดิฉันจะมีนิสัยเมื่อขึ้นรถแล้วต้องกดเซ็นทรัลล๊อคทั้งก่อนสตาร์ทเครื่อง และก่อนดับเครื่อง มีรถเก๋งคันหนึ่งสีเงิน มีคนสองคนเดินลงมาจากรถแล้วก็เดินมาอย่างสุภาพ ขณะที่กำลังจัดของอยู่ เพลินๆก็ได้ยิน เสียงตึ๊กจากข้างหลัง ก็ตกใจรู้สึกตัวว่ามีคนพยายามเปิดประตูหลังของรถ แต่เพราะรถล๊อคพวกมันก็เดินกลับไปขึ้นรถเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิดว่าเหลือเชื่อจริงๆ กลางวันแสกๆแท้ๆ ถ้าหากบังเอิญรถไม่ได้ล๊อค ไม่กล้าคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น อยากจะให้ทุกคนมีนิสัย ขึ้นรถต้องล๊อครถพวกผู้ร้ายมักจะลงมือจากเบาะหลัง เพราะจะควบคุมสถานการณ์ได้ง่าย 🎈😅😋🌷🎯🌺😆😅😋😖😦 เหตุการณ์ที่ 2 หลังจาก จ่ายเงินค่าจอดรถเลี้ยวออกจากโรงพยาบาล ก็จอดติดไฟแดง ขณะนั้น ( ยังไม่ ถึง 3 นาที ระบบล๊อคอัตโนมัติคงยังไม่ทำ งาน ) ชายหนุ่ม สองคนก็เข้ามานั่งที่เบาะหลังของรถ โชคดีที่พ่อแม่ของผมไหวตัวเร็วมาก รีบถอดเข็มขัดนิรภัย ดับเครื่อง ดึงกุญแจออกแล้วออกมายืนนอกรถโดยเร็ว คนทั้งสองคนนั้นก็ยังนั่งอยู่ในรถหน้าตาเฉย จนกระทั่งคุณแม่ของผมตะโกนใส่พวกเขาว่า พวกเรายังมีเพื่อนฝูงอยู่ในโรงพยาบาลอีกเยอะ จะให้ เรียกพวกเขาลงมาคุยกับพวกแกไหม ? พวกเขาจึงออกมาจากรถแล้วบอกว่าขอโทษขึ้นผิดคัน(นี่มันปล้นกันชัดๆ ) แล้วรถคันข้างหลัง ( มีคนอยู่ในรถสองคน ) ก็ขับมารับพวกเขาจากไป น่ากลัวที่สุด 🌀😧😆😲😷😤😴😖🎯🌺💟 เหตุการณ์ที่ 3 ตอนจอดติดไฟแดง รถของผมอยู่ห่างจากทางแยกประมาณคันที่สามหรือสี่ สักครู่ หนึ่ง จู่ ๆ ก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดอยู่ท้ายรถผม บนรถมีชายหนุ่มอายุ ประมาณ 20 กว่า สองคน แล้วที่น่าสงสัยก็คือ พวกเขาพยายามมองเข้ามาในรถของผม ผมจึงจ้องพวกเขาอยู่ครู่หนึ่ง พอไฟเขียวก็ออกรถพร้อมมัน ผมบังเอิญได้ยินหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า "รถมันล๊อคหมด" แล้วก็ขับเลยไป 🎇🎆🌀🎯🌺💟🌷🎈🎇🎈🎆 ขอให้ช่วยกัน Forward มากๆ ทั้งชายทั้งหญิงนะครับ ตำรวจเคยบอกว่ามักจะพบผู้หญิงถูกลอกคราบ ข่มขืน และถ่ายรูปแบล็คเมลล์ ตบทรัพย์มากราย ส่วนมากถูกยาสลบ ส่งแค่คนสองคนก็ได้บุญมากแล้วครับผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัย🌹ทะลวงหลอดเลือดด้วยภูมิปัญญาโบราณ เพียง 2 นาที ทะลวงหลอดเลือดด้วยภูมิปัญญาโบราณ เพียง 2 นาที เป็นของขวัญอันล้ำค่าแก่พ่อแม่และเพื่อนๆ ของคุณ 📍ชายชาวลอนดอนคนหนึ่งได้เล่าประสบการณ์ส่วนตัว เมื่อเขาไปประชุมที่ปากีสถาน เกิดมีอาการเจ็บหน้าอกอย่างเฉียบพลัน แพทย์ตรวจพบว่าเส้นเลือดหัวใจของเขา 3 เส้นอุดตันอย่างรุนแรง จำเป็นต้องผ่าตัดทำบายพาส. กำหนดการผ่าตัดคืออีก 1 เดือน ในช่วงระหว่างนั้นเขาไปพบหมอบำบัดมุสลิมโบราณ หมอบำบัดให้เขาทำยาทานเองที่บ้าน เมื่อทานครบ 1 เดือน ก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลเดียวกันก่อนผ่าตัด พบว่าเส้นเลือดทั้ง 3 เส้นใสสะอาด ที่เคยอุดตันก็ถูกทะลวงออกหมด เพื่อช่วยให้คนอื่นได้รับประโยชน์ เขาได้บอกเล่าประสบการณ์ของตัวเองบนอินเทอร์เน็ต รวมทั้งโชว์ภาพถ่ายเส้นเลือดของเขาก่อนและหลัง เพื่อให้แสดงความแตกต่างก่อนและหลังทานยา ▪️วัตถุดิบที่ใช้ ... - 1 น้ำมะนาว 1 ถ้วย - 1 น้ำขิง 1 ถ้วย - 1 น้ำคั้นกระเทียม 1 ถ้วย - 1 น้ำส้มสายชูแอปเปิล 1 ถ้วย ▪️วิธีเตรียม.. 1.ลอกเปลือกกระเทียมและขิง หั่นขิงเป็นชิ้นบางๆ นำทั้งสองอย่างใส่เครื่องปั่นเครื่องคั้นน้ำผลไม้ ปั่นละเอียดแล้วเทลงบนผ้ากรอง เพื่อบีบน้ำคั้นออกมา 2.นำน้ำคั้นกระเทียมและขิงลงไปในหม้อ เติมน้ำมะนาวและน้ำส้มสายชูแอปเปิลลงไป ต้มจนเดือด แล้วค่อยๆเคี่ยวไปโดยไม่ต้องปิดฝาหม้อ เพื่อให้น้ำระเหยออก ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ก็จะได้ยาที่เคี่ยวแล้วประมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณเริ่มต้น 3. ตั้งทิ้งไว้จนอุณหภูมิลดลง ก็ให้เติมน้ำผึ้งลงไปผสมเพื่อให้ทานได้ง่าย (ใส่มากเท่าที่รสชาดพอจะทานได้) 4.ใส่น้ำสมุนไพรนี้ในขวดแก้ว แช่ในตู้เย็นเก็บไว้ ▪️วิธีรับประทาน : ทาน 1 ช้อนโต๊ะก่อนอาหารเช้าทุกวัน สามารถขจัดโรคหัวใจและหลอดเลือดให้หายขาดได้ คนทั่วไปยังสามารถใช้เป็นเครื่องดื่มในชีวิตประจำวัน เพื่อป้องกันโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง รวมทั้งป้องกันโรคหวัดและโรคภัยอื่นๆ ได้อีกด้วย เมื่อทานได้ 1 เดือน ให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล คุณจะพบหลอดเลือดสะอาด เส้นที่มีการอุดกั้นถูกทะลวงไปแล้ว 📍สูตรลับนี้จะต้องบันทึกเก็บไว้นะครับ...! และต้องเผยแพร่ส่งต่อให้คนที่ท่านรักและปรารถนาดี! **** หมายเหตุ น้ำส้มสายชูที่ทำจากแอปเปิ้ล มีจำหน่ายตามห้างต่างๆ "ถ้าข้อมูลนี่เป็นประโยชน์และสามารถช่วยใครได้อีกหลายๆ คน อย่าเก็บไว้อ่านคนเดียวละอย่าลืมส่งให้กับคุณที่คุณรักได้อ่านกันนะค่ะ" ———————SK—————ไม่ระบุชื่อ• 6 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยทุจริตการเลือกตั้งผ่านพ้นการเลือกตั้งมาแล้ว 3 อาทิตย์ หลังเข้าคูหาหย่อนบัตรเลือกตั้งไปเมื่อ 14 พ.ค.2566 จนถึงป่านนี้ยังไม่มีวี่แววว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะประกาศรับรองส.ส.อย่างเป็นทางการออกมา อย่างไรก็ตามยังมีเวลาเหลือเฟือในการพิจารณารับรองส.ส.เพราะกฎหมายกำหนดให้กกต.มีเวลาในการประกาศรับรองส.ส.ไม่เกิน 60 วัน หลังการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นระยะเวลาในการประกาศรับรองส.ส.จึงยังมีเวลายาวไปถึงวันที่ 13 ก.ค.2566 หลังประกาศรับรองส.ส.ได้ถึง 95 % คือ 475 คน จาก 500 คน ภายในระยะเวลา 15 วัน จะต้องมีการนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกประธานสภาจากนั้นก็จะกำหนดเวลาในการโหวตเลือกนายกฯ บวกลบคูณหารไม่เกินวันที่ 27 ก.ค.จะมีการนัดประชุมสภาแน่นอนเพื่อเลือกประธานสภาคนใหม่ที่จนถึงตอนนี้ยังตกลงกันไม่ได้ว่าจะเป็นโควต้าของก้าวไกลหรือเพื่อไทย อย่างไรก็ตามประเด็นร้อนการเมืองล่าสุด น่าจะอยู่ที่กรณีอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต.ออกมาเปิดเผยการพิจารณารับรองส.ส. 500 คนของกกต. ที่มีความคืบหน้าไปมากอย่างไรก็ตามในจำนวนนี้มีราว 20 เขตที่ผู้ชนะการเลือกตั้งในเขตนั้นมีปัญหาถูกร้องเรียนซึ่งอาจจะนำไปสู่การแจกใบเหลืองใบแดงหรือตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใดของกกต. ” ตัวเลขคำร้องมีกว่า 280 เรื่อง ส่วนผู้ที่เลือกตั้งชนะถ้าจำไม่ผิดมีประมาณ 20 กว่าคน ซึ่งตอนนี้จะต้องขอตรวจสอบก่อนว่ามีหลักฐานชัดเจนหรือไม่ โดยจะต้องมีการสั่ง 3 อย่างคือ 1.สั่งเลือกตั้งใหม่ 2.สั่งนับคะแนนใหม่ และ 3.สั่งออกเสียงลงคะแนนใหม่” ประธานกกต.ระบุ ถ้าเป็นไปตามที่ประธานกกต.ระบุ รับรองว่าการเมืองวุ่นแน่ๆ หากมีการเลือกตั้งใหม่แจกใบเหลืองสัก 20-30 เขต รับรองว่าการเมืองสะเทือนแน่ ถ้าเป็นฝั่งรัฐบาลปัจจุบันอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเขตที่แจกใบเหลืองอยู่ในกลุ่มรัฐบาลใหม่เป็นก้าวไกลกับเพื่อไทยรับรองว่ามันส์แน่ๆข่าวการเมืองเลือกตั้งPalmZx• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสาเหตุของการนอนไม่หลับ1. ปัญหาสิ่งแวดล้อม เสียงดังรบกวน สว่างเกินไป หรือคับแคบเกินไป ทำให้นอนหลับยาก 2. อาการเจ็บป่วย เช่น ปวดท้อง ปวดตามเนื้อตัว เป็นโรคเกี่ยวกับการนอนหลับ มีปัญหาเรื่องระบบการหายใจ มีอาการไอ 3. ความเครียด อาการวิตกกังวล แรงกดดัน หรือมีอาการซึมเศร้าและท้อแท้ หมดกำลังใจ หมดหวังในการใช้ชีวิต คิดว่าตัวเองไร้ค่า ยึดติดและอยู่กับตัวเองมากเกินไป 4. แอลกอฮอล์ คาเฟอีนในกาแฟ บุหรี่ หรือการใช้ยาบางชนิดนั้นอาจส่งผลเกี่ยวกับการนอนหลับ 5. ท้องว่าง ทำให้เกิดอาการอึดอัด หิวขึ้นมาในช่วงดึก หรืออิ่มมากเกินไป จนทำให้มีอาการแน่นท้องกลางดึก จนนอนไม่หลับ 6. ภาวะการนอนหลับ เช่น การนอนละเมอ ฝันร้าย หรือนอนไม่หลับจนติดเป็นนิสัย 7. หน้าที่การงานที่ต้องเปลี่ยนเวลาการนอนอยู่สม่ำเสมอ เช่น พยาบาล ยามanywaystravel02• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกฏจราจรใหม่เริ่มใช้แล้ววันนี้(ปรับสุดโหด) 1.ขับเร็วเกินกำหนด ปรับ 4,000 บาท 2. ผ่าไฟแดงปรับ 4,000 บาท 3. ไม่หยุดรถคนข้ามทางม้าลายปรับ 4,000 บ. 4. ย้อนศรปรับ 2,000 บาท 5.ไม่คาดเข็มขัด ปรับ 2,000บาท 6.ไม่สวมหมวกกันน๊อก ปรับ 2,000บาท 7. ขับทำให้คนอื่นเดือดร้อน แซงซ้ายแซงขวา เบรคจะให้เขาชนท้าย ปรับ 5,000-20,000บาท 8.เมาแล้วขับ 8.1. จับครั้งที่1 ปรับ 5,000-20,000บาท ติดคุก 1ปี 8.2.จับครั้งที่2 เมาอีกในรอบ2ปี ปรับ50,000-100,000 ติดคุก 2ปี 8.3.เมาขับชนคนตาย ปรับ60,000-200,000 ติดคุก 3-10 ปี พอหรือยังสำหรับพฤติกรรม เมาแล้วขับ หัวร้อนบนถนน ขับเร็วแซงซ้ายแซงขวาไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวางโทรศัพท์ไว้มือถือใกล้หัวนอนอันตรายหรือไม่การวางโทรศัพท์มือถือใกล้หัวนอนอันตรายหรือไม่ ? นอกจากความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งแล้วนั้น คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นความร้อนยังส่งผลก่อกวนระบบประสาทและสมองขณะที่คุณหลับได้หากวางไว้ใกล้ตัว แม้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้งานอยู่ก็ตามแต่ก็ยังมีคลื่นสัญญาณอ่อน ๆ ที่ถูกปล่อยมาส่งผลให้คุณเกิดอาการนอนหลับยาก นอนหลับไม่สนิท บางคนอาจมีอาการปวดหัวเล็กน้อยหลังจากตื่นนอน แม้จะดูไม่ได้มีอันตรายรุนแรงแต่หากสะสมกันเป็นระยะเวลานานอาจส่งผลให้คุณมีอาการหงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า อ่อนล้า อ่อนเพลีย และนอนหลับไม่เพียงพอ อีกทั้งการวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ที่นอนอาจกระตุ้นให้คุณมีพฤติกรรมติดโทรศัพท์มือถือได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ทางที่ดีคือวางโทรศัพท์มือถือของคุณไว้ไกลตัวหน่อย อย่างน้อย 2 เมตรขึ้นไปstd48382• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสเปรย์พ่นคอ’ อ้างป้องกันเชื้อโควิด19สเปรย์ฟ้าทะลายโจรสำหรับพ่นปากและลำคอ’ อ้างสรรพคุณป้องกันโควิด-19 จึงแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการโฆษณาสเปรย์สำหรับพ่นลำคอข้างต้นว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ขณะนี้ อย. ตอบกลับมาในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมาว่าได้ตรวจสอบโฆษณาผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 รายการ ได้แก่ 1. วีเฟรช เม้าท์สเปรย์ (V-FRESH) เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ได้จดทะเบียนไว้กับ อย. เลขที่ใบจดแจ้ง 65-1-6400022581 2. เฉิดฉาย เม้าท์ สเปรย์ (CHERDCHINE MOUTH SPRAY) เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ได้จดทะเบียนไว้กับ อย. เลขที่ใบจดแจ้ง 13-1-6400026579 3. เดนทิสเต้ แอนโดรกาฟิส พานิคูลาต้า เม้าท์สเปรย์ (Dentiste Mouth Spray) ไม่ปรากฏเลขที่จดแจ้งในแพลตฟอร์มออนไลน์ มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานผลิตภัณฑ์เป็นสเปรย์ระงับกลิ่นปากผู้บริโภคเฝ้าระวังstd48008• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยครีมจมูกโด่งอย. ชี้แจง ไม่มีครีมหรือเซรั่มใดที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน ได้จริง เป็นเพียงการอ้างสรรพคุณเกินจริง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างใด ๆ ของร่างกายได้ เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากกรณีมีผู้แชร์ข้อมูลบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกดั้งโด่งขึ้น ภายใน 7 วัน นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอเรียนว่า โครงสร้างของจมูกประกอบด้วย 2 ส่วน คือ โครงสร้างส่วนด้านบนเป็นกระดูกแข็ง ด้านล่างเป็นกระดูกอ่อน โดยห่อหุ้มด้วยผิวหนังและไขมัน ดังนั้น ครีมที่ทำให้ดั้งโด่งจึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระดูก ส่งผลให้จมูกโด่งอย่างแน่นอนความสวยความงามstd48008• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวัคซีนฉีดแค่พอดี 2-3 เข็มก็พอแล้ว เพราะเชื้อไวรัสกลายพันธ์ไปเรื่อยๆๆ ตอนนี้รอก่อนให้วัคซีนดีๆออกมาเพราะเจอรายงาน ADR(adverse drug reaction) ออกมาค่อนข้างเยอะ มีผลต่อระบบร่างกายเกือบทุกอวัยวะคือสมอง หัวใจ ภูมิแพ้ ปอด ระบบเส้นประสาท ฯลฯ เช่นเจอBell’ s pulsy หน้าเบี้ยวครึ่งซีก ชาปลายประสาท ฯลฯ รอก่อนฉีดดีกว่าแบบว่าพยายามป้องกันตัวเองโดยหลักUniversal Precautions ล้างมือบ่อยๆ ไม่ไปที่คนหนาแน่น ใส่มาสก์ ตามความจำเป็น อยู่ที่โล่งแจ้งมีแสงแดด พักผ่อนเพียงพอ ฯลฯ ถึงติดโควิทแล้วเฝ้าระวังไปพบแพทย์เนิ่นๆๆ ทานยารักษาโควิทเท่าที่จำเป็น ตามแพทย์สั่ง รักษาแบบคนเคยติด โควิทก็จะมีภูมิตามธรรมชาติ ดีกว่านะ ดูแลสุขภาพกันด้วยเพื่อนๆทุกคนโควิด 2019วัคซีนโควิดไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย🤔รู้ไหมว่า.. ยักษ์ในสนามบินสุวรรณภูมิมีทั้งหมดกี่ตน ..ชื่ออะไรบ้าง😏🤔รู้ไหมว่า.. ยักษ์ในสนามบินสุวรรณภูมิมีทั้งหมดกี่ตน ..ชื่ออะไรบ้าง😏 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มียักษ์ทั้งหมด 12 ตน ดังนี้ 1. ทศกัณฐ์ 2. มังกรกัณฐ์ 3. จักรวรรดิ 4. อินทรชิต 5. สหัสเดชะ 6. ไมยราพ 7. สุริยาภพ 8. อัศกรรณมาลา 9. วิรุญจำบัง 10. วิรูฬหก 11. ทศคีรีธร 12. ทศคีรีวัน #SuvarnabhumiAirportMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยLive ขายของบน Instagram สามารถ CF รหัสสินค้าผ่านคอมเมนต์ได้แล้วInstagram สามารถ live พร้อมกับใช้ระบบ CF รหัสสินค้าผ่านคอมเม้นท์ได้แล้ว ! พ่อค้าแม่ค้าหลายคน ที่ทำแบรนด์ของตัวเองหรือขายสินค้าแฟชั่นที่ส่วนมากมักมีหลักฐานลูกค้าหรือแฟนคลับอยู่ที่ Instagram การ Live สด ขายสินค้าก่อนหน้านี้อาจจะลำบากกว่าเฟสบุ๊กเพราะต้องใช้วิธีการแคปสินค้าแล้วทักแชท หรือเปลี่ยนช่องทางไป Live ขายบนเฟสบุ๊คแทน ก็อาจจะไม่ได้ลูกค้ามากนัก แต่ข่าวดีล่าสุด ! ทีม Meta (ชื่อใหม่บริษัท Facebook ) มาอัปเดตกับทีมงานอายุน้อยร้อยล้านแล้วว่าตอนนี้ Instagram รองรับระบบ CF ดูดรหัสสินค้าผ่านคอมเม้นท์ได้แล้ว ทำให้ไลฟ์ขายสินค้าและการปิดการขายง่ายๆเหมือน Facebook ได้แล้ว โดยสามารถใช้งานผ่านโปรแกรมช่วยขายที่เป็น Partner กับทาง Facebook ได้เลย ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 5 แบรนด์ ที่ทีม Facebook เปิดเผยอย่างเป็นทางการว่า รองรับระบบ CF ได้แก่ 1. Zwiz.Al 2.Shipnity 3. V Rich App 4.Kaojao และ 5. Page 365amatasneem• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยบันทึกไว้ "มโน"จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือภายหลัง จากข้อตกลงการซื้อวัคซีนไฟเซอร์ (แน่นอนข้อความในสัญญาเป็นความลับ แต่ร่องรอยที่ตามกันทำให้รู้ว่าตัวแทนในการเจรจาคือหน่วยงานไหนของสหรัฐ) 1 ไต้หวันตกซื้ออาวุธจากสหรัฐ ในที่สุดก็ซื้อวัคซีนได้ (ไม่ระบุว่าจะได้เมื่อไหร่ แต่ทำสัญญาแล้ว) 2 ฟิลิปปินส์ ตกลงต่ออายุสัญญาฐานทัพและการฝึกร่วม ทำให้ฟิลิปปินส์สามารถซื้อวัคซีน 3 ไทยทำสัญญาซื้อวัคซีนเพิ่มและได้รับบริจาค อีกไม่นานก็มีข่าวไทยซื้ออาวุธจากสหรัฐ ในอดีต ความช่วยเหลือจากต่างประเทศที่มีพันธะผูกพันเรียกว่า Tied-aid แบบนี้ชุดของสองเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันเกิดขึ้นต่อเนื่องในหลายประเทศเหมือนกับ Tied-vaccine tradeไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโรงพยาบาลในเครือบางปะกอกและปิยะเวท ได้เปิดให้ลงทะเบียนรับวัคซีน COVID-19 ฟรี จริงหรือไม่เรียน ผู้บริหารและพนักงาน ด้วยโรงพยาบาลในเครือบางปะกอกและปิยะเวท ได้เปิดให้ลงทะเบียนรับวัคซีน COVID-19 ฟรี จัดสรรโดยรัฐบาล สำหรับประชาชนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยเริ่มนัดฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป และสามารถเลือกสถานที่ฉีดวัคซีนนอกสถานที่ได้ 7 แห่ง ได้แก่ 1. ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ 2. Central World 3. Big C บางบอน 4. เอเชียทรีค 5. โรบินสัน ลาดกระบัง 6. Central Eastville 7. โลตัส มีนบุรี ทั้งนี้พนักงาน และบุคคลในครอบครัวของท่านที่สนใจฉีดวัคซีน COVID-19 สามารถลงทะเบียนตาม Link ด้านล่างโดยด่วนที่สุด เนื่องจากวัคซีนจัดสรร First Come First Serve ตามคิวการลงทะเบียน (ไม่ควรเกินวันที่ 16 พฤษภาคม 2564) โดยระบุวัน และสถานที่ฉีดวัคซีน พร้อมกับอัพโหลดรูปหน้าบัตรประชาชน และลงลายมือชื่อครับ http://bpkconnect.com/survey/form/survey-bpk9-Vaccine_Covid *** วัคซีนที่ดีที่สุด คือวัคซีนที่ฉีดได้เร็วที่สุด ***โควิด 2019วัคซีนโควิดMrs.Doubt• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัย* ข่าวดีคือ * ในที่สุด Ram นักศึกษาชาวอินเดียที่มหาวิทยาลัยพอนดิเชอร์รีได้พบยาสามัญประจำบ้านสำหรับ * Covid 19 * ซึ่งได้รับการอนุมัติจาก WHO เป็นครั้งแรก เขาพิสูจน์แล้วว่า * พริกไทยป่น 1 ช้อนชาน้ำผึ้ง 2 ช้อนชาน้ำขิงเล็กน้อยที่รับประทานติดต่อกัน 5 วันสามารถกำจัดผลของโคโรนาได้ถึง 100% * ทั่วโลกเริ่มรับการรักษานี้ในที่สุดก็เป็นประสบการณ์แห่งความสุขของปี 2021 * ส่งถึงทุกกลุ่มของคุณ ... * ไม่มีอะไรจะหลวมจากการลองสิ่งนี้โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยประเทศไทยติดโควิด: 1 เมย. 64 - 26 คน 2 เมย 64 - 58 คน 3 เมย. 64 - 69 คน 4 เมย. 64 - 96 คน 5 เมย. 64 - 194 คน 6 เมย. 64 - 250 คน 7 เมย. 64 - 334 คน 8 เมย. 64 - 405 คน 9 เมย. 64 - 559 คน 10 เมย. 64 - 789 คน 11 เมย. 64 - 967 คน 12 เมย. 64 - 985 คน 13 เมย. 64 - 965 คน 14 เมย. 64 - 1,335 คน 15 เมย. 64- 1543 คน 16 เมย. 64 - 1582 คน 17 เมย. 64 - 1547 คน 18 เมย. 64 - 1767 คน 19 เมย. 64 - 1390 คน 20 เมย. 64 - 1443 คน 21 เมย. 64 - 1458 คน 22 เมย. 64 - 1470 คน 23 เมย. 64 - 2070 คนโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ไปเลือกตั้งอบจ. ต้องแจ้งเหตุจำเป็น ภายใน 27 ธ.ค.นี้ เพื่อป้องกันการเสียสิทธิ 6 ประการ จริงหรือสำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใดไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และไม่ได้แจ้งเหตุ หรือแจ้งแล้วแต่เหตุนั้นไม่เป็นเหตุอันสมควร จะถูกจำกัดสิทธิตามมาตรา 42 พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 6 ประการ คือ สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา สมัครเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน เข้าชื่อถอดถอน ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น และดำรงตำแหน่งเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น และเลขานุการรองประธานสภาท้องถิ่น ซึ่งการถูกจำกัดสิทธิ กำหนดเวลาครั้งละ 2 ปี นับแต่วันเลือกตั้งครั้งที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสถานพยาบาลปฎิเสธผู้ป่วยฉุกเฉิน มีโทษเคยมีข่าวว่าผู้ป่วยฉุกเฉินถูกปฏิเสธเข้าการรับการรักษา เพราะไม่มีเงินจ่าย แต่ตาม พรบสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มาตรา 36 ประกอบกับมาตรา 66 โดยมีหลัก ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการของสถานพยาบาลต้องควบคุมและดูแลให้มีการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วย ซึ่งอยู่ในสภาพอันตรายและจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ป่วยพ้นจากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพและประเภทของสถานพยาบาลนั้นๆ หากผู้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ.นอกจากนั้น หากพิจารณาตามประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ก็อาจจะเข้าข่ายฆ่าคนตายโดยการงดเว้นไม่กระทำการช่วยเหลือด้วย ดังนั้น ถ้าสถานพยาบาลไม่รับผู้ป่วยฉุกเฉินอาจมีความผิดได้ จริงหรือanonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ ประเทศไทยยังต้องการพลาสมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาพัฒนาระหว่างที่รอวัคซีนรักษาโควิด 19การรักษาด้วยพลาสมา ในอเมริกา มีการใช้รักษาแล้วมากกว่า 10,000 ถุง ในคนไข้ประมาณ 5,000 คน (ค่าเฉลี่ยคนป่วย 1 คนจะใช้ 1-2 ถุง) พบว่ามีความปลอดภัยสูงมาก อาการข้างเคียงไม่รุนแรง เหมือนกับผู้ที่รับบริจาคพลาสมาในกรณีอื่นๆ ถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาโควิด-19 ที่ระหว่างรอวัคซีน สำหรับประเทศไทย ถ้ามีผู้มาบริจาคพลาสมาที่มีภูมิต้านทานมากกว่านี้ คือประมาณ 600-1,000 ถุง ศูนย์บริการโลหิตฯ จะสามารถนำมาทำเป็นเซรุ่มเข้มข้น บรรจุขวดและสามารถเก็บได้นานขึ้น เพื่อนำมาใช้รักษาผู้ป่วยในอนาคต แต่ต้องย้ำว่า พลาสมาเป็นการรักษาเพื่อให้ร่างกายสร้างแอนติบอดี้ในทางอ้อม ส่วนวัคซีนเป็นทางตรง แต่ระหว่างรอนี่คือความหวังที่สามารถสร้างให้เป็นจริงได้โควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือ รถไฟใต้ดิน MRT อณุญาติให้ผู้โดยสารนั่งติดกันได้แล้วพร้อมมีนโยบายลดราคาค่าโดยสารเพื่อช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายให้ประชาชนการคลายล็อกมาตรการการเว้นระยะห่างภายในรถไฟฟ้านั้น จะอนุญาตให้ผู้โดยสารนั่งติดกันได้ สำหรับการยืนจะกำหนดจุดยืนเว้นระยะและหันหน้าตามทิศทางที่แนะนำในขบวนรถ โดยจะควบคุมความหนาแน่นในขบวนรถไม่เกิน 70% และในวันที่ 1 ก.ค.63 รฟม.ได้ขยายระยะเวลาโปรโมชั่นลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงจ่ายสูงสุด 20 บาทตลอดสาย ไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย.63 และสำหรับผู้ที่เดินทางเชื่อมต่อ 2 สาย ระหว่างรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง และสายสีน้ำเงิน จะจ่ายค่าโดยสารร่วมสูงสุดเพียง 48 บาท (เดินทางได้ถึง 53 สถานี) นอกจากนั้น ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป จะได้รับส่วนลดค่าโดยสาร 50% และนักเรียน/นักศึกษาที่มีอายุไม่เกิน 23 ปี จะได้รับส่วนลดค่าโดยสาร 10% เพิ่มเติมจากโปรโมชั่นดังกล่าวโควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ คาดไทยผลิตวัคซีนโควิดใช้เองได้ปลายปี 64 จริงหรือคะเรามีความก้าวหน้าวัคซีนต้นแบบ 2 ชนิด คือวัคซีน DNA กับ mRNA ซึ่งเป็นรูปแบบที่ทันสมัยพัฒนาได้อย่างรวดร็ว และเริ่มทดลองในสัตว์ทดลองแล้ว ในส่วนของ DNA วัคซีน บริษัทไบโอเนท-เอเชีย ได้เริ่มทำการทดลองในหนูแล้ว และ mRNA วัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้ผ่านการทดลองในหนู และเริ่มทดลองในลิงแล้ว อย่างไรก็ตาม หากทดสอบวัคซีนแล้วว่ามีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพได้ผลดี ป้องกันโควิด-19 ได้ ไทยน่าจะมีความพร้อมในการผลิตวัคซีนอีกประมาณ 1 ปีครึ่ง หรือหากทดสอบแล้วเป็นไปตามแผนที่วางไว้ทุกขั้น น่าจะเริ่มทดสอบวัคซีนในคนปลายปี 2563 หรือต้นปี 2564 และคาดว่าปลายปี 2564 ประเทศไทยจะสามารถผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อให้คนไทยหลายล้านคนได้ใช้anonymous• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยตัวเเทนผู้ส่งสารพระเจ้าของศาสนาคริสต์การประกาศเป็นบุญราศี (อังกฤษ: Beatification) คือกระบวนการที่คริสตจักรโรมันคาทอลิกกำหนดขึ้นเพื่อรับรองว่าบุคคลหนึ่งได้เข้าสู่สวรรค์และสามารถวอนขอพรจากพระเป็นเจ้าแทนมนุษย์บนโลกได้ กระบวนการนี้ถือเป็นขั้นตอนที่สี่ของการประกาศเป็นนักบุญ ประวัติ แก้ไข แต่เดิมการประกาศเป็นบุญราศีเป็นกระบวนการที่แต่ละมุขมณฑลดำเนินการเอง และมักจะเป็นการยกย่องมรณสักขีในท้องถิ่นนั้น ๆ ตั้งแต่ ค.ศ. 1983 เป็นต้นมาศาสนจักรคาทอลิกกำหนดว่าต้องมีปาฏิหาริย์หนึ่งอย่างที่ (เชื่อว่า) เกิดจากการที่ผู้นั้นได้อ้อนวอนขอพรพระเจ้าตามการอธิษฐานของคริสต์ศาสนิกชน ในกรณีที่ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นมรณสักขี ศาสนจักรจะดำเนินการประกาศเป็นบุญราศีให้โดยไม่จำเป็นต้องมีเรื่องปาฏิหาริย์มารับรองความศักดิ์สิทธิ์ เพราะถือว่าการพลิชีพเพื่อยืนยันความเชื่อในคริสต์ศาสนาถือเป็นวีรคุณธรรมที่แสดงความศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว ความเคารพและการเฉลิมฉลองบุญราศีจะจำกัดเฉพาะภายในภูมิภาคหรือประชาคมที่บุญราศีนั้นเคยเกี่ยวข้องขณะยังมีชีวิตอยู่ จนเมื่อได้รับการประกาศเป็นนักบุญแล้วจึงจะได้รับความเคารพและจัดงานฉลองจากคริสต์ศาสนิกชนได้ทั่วโลก[1] เช่น คริสตจักรโรมันคาทอลิกในประเทศไทยกำหนดให้ฉลองเจ็ดบุญราศีมรณสักขีแห่งสองคอนในวันที่ 16 ธันวาคม[2] และฉลองบุญราศีนิโคลัส บุญเกิด กฤษบำรุง ในวันที่ 12 มกราคม[3] บุญราศีชาวไทย แก้ไข ชาวไทยได้รับการประกาศเป็นบุญราศี 2 ครั้ง รวม 8 องค์ ได้แก่ เจ็ดบุญราศีมรณสักขีแห่งสองคอน ผู้สร้างวีรกรรมความศรัทธาเมื่อ ค.ศ. 1940 ในสมัยที่ไทยมีกรณีพิพาทอินโดจีนกับฝรั่งเศส กรณีดินแดนในแถบอินโดจีน ช่วงนั้นมีคนไทยหลายคนเข้าใจผิดว่าศาสนาคริสต์เป็นศาสนาของฝรั่งเศส ทางการไทยจึงได้มีคำสั่งให้ชาวบ้านเลิกนับถือศาสนาคริสต์ แต่มีชาวบ้านอยู่ 7 คนที่ไม่ยอมละทิ้งศาสนา นำโดยนายสีฟอง อ่อนพิทักษ์ (อายุ 33 ปี) , ภคินี 2 รูปคือ ซิสเตอร์พิลา ทิพย์สุข (อายุ 31 ปี) และซิสเตอร์คำบาง สีฟอง (อายุ 23 ปี) , สตรีสูงวัย 1 ท่านคือนางพุดทา ว่องไว (อายุ 59 ปี) , และเด็กสาวอีก 3 ท่านคือ นางสาวบุดสี ว่องไว (อายุ 16 ปี ), นางสาวคำไพ ว่องไว (อายุ 15 ปี) และเด็กหญิงพร ว่องไว (อายุ 14 ปี) ทั้งหมดถูกยื่นคำขาดว่าจะต้องถูกฆ่า หากไม่ยอมละทิ้งศาสนาคริสต์ ทั้ง 7 คนจึงพร้อมใจกันยอมสละชีวิตที่ป่าศักดิ์สิทธิ์ โดยมีตำรวจเป็นคนคร่าชีวิต ปี 1989 สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ได้ประกาศสดุดีให้ทั้ง 7 คน เป็น "บุญราศีมรณสักขี" หมายถึง คริสตชนผู้ที่ประกอบกรรมดีและพลีชีพเพื่อประกาศยืนยันความเชื่อในพระเจ้าไม่ยอมละทิ้งศาสนา อีกทั้งประกาศให้มีพิธีรำลึกบุญราศีสองคอนทั้ง 7 ในวันที่ 16 ธันวาคม โดยมีการฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในมหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม ซึ่งหลังจากการสถาปนาบุญราศีทั้ง 7 แล้ว โบสถ์สองคอน จึงได้จัดงานชุมนุมครั้งใหญ่ เพื่อฉลองบุญราศีที่ประเทศไทย เรียกงานนี้ว่า “งานสันติร่วมจิตใจเดียว” ในปีต่อ ๆ มา จัดเป็นงานวันรำลึกบุญราศีทั้ง 7 แต่เพื่อความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจอยากไปร่วมงาน การฉลองที่โบสถ์สองคอนจึงกำหนดให้จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ใกล้เคียงกับวันที่ 16 ธันวาคมที่สุด [4] บุญราศีนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง[5] เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 1895 และรับศีลล้างบาปวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1895 ที่โบสถ์นักบุญเปโตร สามพราน นครปฐม และรับศีลอนุกรมเป็นบาทหลวง โดยมุขนายกเรอเน-มารี-โฌแซ็ฟ แปโร เมื่อวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 1926 ที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก กรุงเทพฯ บาทหลวงบุญเกิดทำงานอภิบาลที่โบสถ์หลายแห่ง คือ อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก, โบสถ์เซนต์นิโคลาส พิษณุโลก, อาสนวิหารพระหฤทัย เชียงใหม่, โบสถ์คาทอลิกในลำปาง, อาสนวิหารแม่พระประจักษ์ที่เมืองลูร์ด นครราชสีมา และโบสถ์นักบุญเทเรซา โนนแก้ว บาทหลวงบุญเกิดถูกจับในวันสมโภชพระคริสต์แสดงองค์ หลังจากประกอบศาสนกิจที่โบสถ์นักบุญยอแซฟ บ้านหัน เมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1941 ในข้อหาเป็นกบฏภายนอกราชอาณาจักร ถูกตัดสินจำคุก 15 ปี ระหว่างอยู่ในคุกที่เรือนจำกลางบางขวางเป็นปีที่สาม ท่านป่วยเป็นวัณโรคเป็นเวลา 9 เดือน และถึงแก่กรรมในคุกนั้นเอง เมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1944 รวมอายุ 49 ปี ศพของท่านถูกนำไปฝังไว้ที่วัดบางแพรกซึ่งเป็นวัดที่อยู่ใกล้เรือนจำ หลังจากนั้นในเดือนมีนาคม มุขนายกเรอเน-มารี-โฌแซ็ฟ แปโรจึงได้รับอนุญาตให้นำศพของท่านมาฝังที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก กรุงเทพฯ บาทหลวงนิโคลาสเป็นบาทหลวงที่เอาใจใส่งานอภิบาล มีใจเมตตาต่อคนยากจน และมีความกระตือรือร้นในการประกาศข่าวดี ระหว่างที่อยู่ในคุก ท่านได้สอนคำสอนและโปรดศีลล้างบาปให้นักโทษด้วยกันที่ใกล้ตายจำนวน 68 คน พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ได้เสนอกรณีของท่านให้สมณะกระทรวงการสถาปนานักบุญพิจารณา หลังจากตรวจสอบอย่างถ้วนถี่ชัดแจ้งว่าท่านเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ พลีชีพเพราะเห็นแก่ความเชื่อในพระเป็นเจ้า สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ได้ประกาศรับรองความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน เมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2000 และประกอบพิธีสถาปนาเป็นบุญราศีมรณสักขี ในวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 2000 ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม ประเทศอิตาลีข่าวการเมืองภาคอีสานputilp148• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: middle1 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
