1003 ข้อความ
- 1 คนสงสัยชาวประมงพื้นบ้านตราด ช้อนแมงกะพรุนลอดช่อง ส่งขายทำรายได้วันละพันต่อวันชาวประมงหาแมงกระพุนไปขายให้พ่อค้าที่มารับซื้อถึงที่เพื่อนำไปดองWeerapong Kaewcharoen• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจันทรุปราคา วันลอยกระทง อาถรรพ์แรง ห้ามอาบแสงจันทร์ จันทรุปราคา วันลอยกระทง (8 พ.ย. 65) ฤกษ์อันตราย-อาถรรพ์แรง ห้ามอาบแสงจันทร์จันทรุปราคา วันลอยกระทง อาถรรพ์แรง ห้ามอาบแสงจันทร์ จันทรุปราคา วันลอยกระทง (8 พ.ย. 65) ฤกษ์อันตราย-อาถรรพ์แรง ห้ามอาบแสงจันทร์Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย🔴 ในที่สุดก็ประกาศข่าวร้าย: สหรัฐอเมริกาประกาศอย่างเป็นทางการ: อาหารดัดแปลงพันธุกรรมที่มีสารพิษร้ายแรงได้ระเบิดในที่สุด 🔴 การระบาดของเนื้องอกในวงกว้างเกี่ยวข้องกับอาหารดัดแปลงพันธุกรรม กระจายข่าวด่วนและแจ้งให้ญาติและเพื่อนของคุณ (ของคุณ) ทราบ! อย่าลืมใส่ใจ! 🔴ทุกคนต้องดูให้ดีเมื่อไปซุปเปอร์มาร์เก็ต: 🔴บาร์โค้ดที่ขึ้นต้นด้วย "8" เป็นอาหารดัดแปลงพันธุกรรม! ⭕ ไม่ว่าจะเป็นอาหารอะไร ขอแค่ดัดแปลงพันธุกรรม อย่าซื้อหรือกิน! ไม่ว่าผู้เชี่ยวชาญจะสนับสนุนว่าอาหารดัดแปลงพันธุกรรมนั้นไม่เป็นอันตรายอย่างไร เราก็ต้องจำไว้ว่า: 1. คนอเมริกันไม่กินมัน 2. ห้ามโดยเด็ดขาดโดยสหภาพยุโรป; 3. ห้ามใช้ระบบอาหารพิเศษของจีนโดยเด็ดขาด 4. ห้ามเด็ดขาดในงาน World Expo; 5. ห้ามโดยเด็ดขาดในเอเชียนเกมส์ 6. ชาวแอฟริกันจะไม่นำเข้ายีนดัดแปลงพันธุกรรมแม้ว่าพวกเขาจะอดอาหารจนตายก็ตาม 7. ห้ามอย่างเคร่งครัดในมหาวิทยาลัยโลก 8. รัสเซียยืนยันว่าอาหารดัดแปลงพันธุกรรมทำให้สัตว์สูญพันธุ์มาสามชั่วอายุคน 9.โรคที่ทำให้คนไทยเจ็บป่วยแล้วเสียชีวิตสูงสุดในปัจจุบันคือโรคมะเร็ง อันเกิดจากได้รับสารพิษจากการกินอาหาร 🔴 หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารปลอม (มีพิษ) เหล่านี้: 🔴 1.มะเขือเทศเนื้อแดงมียีนพิษแมงป่อง! 🔴 2. ข้าวโพดหวานเป็นอาหารดัดแปลงพันธุกรรมอย่างแท้จริง! 🔴 3. มันเทศสีม่วงยังเป็นอาหารดัดแปลงพันธุกรรมอีกด้วย! ข้าวโพดหวานเป็นอาหารดัดแปลงพันธุกรรมจากประเทศสหรัฐอเมริกา "ข้าวโพดหวาน" ที่เรากินกันอย่างมีความสุขมานานกลายมาเป็นอาหารดัดแปลงพันธุกรรมที่ประเทศสหรัฐอเมริกาใช้เลี้ยงสัตว์ อย่างไรก็ตาม หลายปีที่ผ่านมา คนธรรมดาๆ หลายคนไม่มีความรู้เรื่องนี้ และยังชอบซื้อข้าวโพดหวานมารับประทานอีกด้วย คนหนุ่มสาว คนที่ยังไม่แต่งงาน และคนที่ยังไม่คลอดบุตร ไม่ควรกิน! แน่นอนว่าหลังจากทราบข่าวนี้แล้วทุกคนเพื่อตนเองและครอบครัว อย่าลืม: อย่ากินอาหารดัดแปลงพันธุกรรมอีกต่อไป 🔴โปรดจำไว้ว่า: ผลไม้นอกฤดูกาลทุกชนิดไม่สามารถรับประทานได้! ไม่ว่าคุณจะยุ่งแค่ไหน กรุณาส่งต่อให้เพื่อนของคุณผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 4 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัย🌼รายละเอียดและข้อห้าม การเข้าน้อมกราบพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว สนามหลวง ... วันนี้เปิดให้น้อมสักการะวันแรก ออกแต่เช้าไปถึงตั้งแต่หกโมงเช้า อยู่ในแถวรอประตูเปิดตั้งแต่ชุดแรก เลยจะมาเล่าให้ฟัง เผื่อท่านใดจะเตรียมตัวเดินทางไปนะคะ 🌸ประตูเปิดให้เข้า 7 โมงเช้านะคะ ปิด 20.00 น. 🪷แถวที่เข้า มีเตนท์ให้นั่งรอ และจะให้ลุกเข้าทีละ 100 คน เรียงไปทีละแถว 🪷ลุกแล้ว ไปผ่านเครื่องตรวจกระเป๋า ตรวจบัตรประชาชน ดังนั้น ห้ามลืมบัตรประชาชนนะคะ เตรียมบัตรประชาชนไปด้วยนะ ⛔️ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้า ดังนั้น หากจะพกน้ำดื่ม ขนม ใส่กระเป๋าเข้าข้างใน นำเข้าไม่ได้นะคะ ห้ามของเหลวเข้า มีเครื่องเอกซเรย์ สายพานนะคะ ไม่ใช่เปิดเดินผ่าน อย่าคิดว่าซ่อนได้ ⛔️ดอกไม้,พวงมาลัย พานบายศรี ทุกสิ่ง ห้ามนำเข้านะคะ น้อมใจแล้ว วางไว้บนโต๊ะตรงจุดรอแถว หน้าทางเข้าตรวจบัตร ดังนั้น มาลัยสวยแค่ไหนก็นำเข้าไปถวายเองไม่ได้นะคะ เผื่อใจไว้ 🌼เข้าไปแล้ว ด้านในมีดอกบัวประดิษฐ์ ไว้ให้น้อมถวาย หยิบได้เลยพร้อมบทสวด จุดวางดอกบัว มีโดยรอบ เดินน้อมสวดมนต์ เดินเวียนเทียน แล้ววางได้โดยรอบนะคะ ไม่ต้องไปรอวางด้านข้างจุดแรกจุดเดียว ⛔️สัตว์เลี้ยงห้ามนำเข้านะคะ ใส่กระเป๋า รถเข็น เข้าไม่ได้ทั้งนั้น วางแผนดีๆ อย่าพาน้องๆมา เอาเข้าไปด้วยไม่ได้ ⛔️📌ชุดดำห้ามเข้านะคะ📌 ย้ำ ชุดดำห้ามเข้าจริงๆ มีป้ายบอกไว้ และห้ามจริง ⛔️ขาสั้น สายเดี่ยวเกาะอก เสื้อบาง กางเกงยีนส์ขาดก็ห้ามค่ะ มีป้ายบอกเช่นกัน 📌 ห้ามเข้าหมดนะคะ กรุณาแต่งกายให้สุภาพ เคารพสถานที่นะ ⛔️วัตถุมีคม ของไวไฟ ไฟแช็ค มีด คัตเตอร์ นำเข้าไม่ได้นะคะ อย่าพกไปนะ 🌼เข้าไปข้างในแล้ว ออกตอนไหนก็ได้ค่ะ ไม่จำกัดเวลา จะอยู่กี่ชั่วโมงก็ได้ ด้านในมีจุดนิทรรศการโดยรอบ 5 จุด หามุมหลบแดดนั่งได้ตามสบาย ด้านข้างสองข้างมีรถสุขา 📌ผู้สูงอายุ มีรถเข็นให้บริการตั้งแต่เตนท์รอเข้า ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ขอรถได้เลยถ้าจะใช้ หรือพาผู้สูงอายุไป แนะนำนะคะ เดินไกลอยู่ 🌼ถ้าไปตอนเช้าก่อนแปดโมง อากาศจะดี แสงสวย ถ้าไปตอนเย็น อากาศก็น่าจะดี ไฟสวยมาก และคนน่าจะเยอะมากด้วยเช่นกัน เลือกเอานะคะ ไปตอนไหนก็ได้ แต่กลางวัน จะร้อนมากๆแน่นอน 😇ใครว่างตอนไหน,ไปได้ตามสะดวกนะคะ ประดิษฐาน 5 ธันวา ถึง 14 กุมภา อยู่จนผ่านการจัดงานสวดมนต์ข้ามปี งานตรุษจีน และงานมาฆบูชา ที่ท้องสนามหลวงด้วย นับเป็นมงคลยิ่งนักadmin• 6 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกทม จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย เครื่องละ 4 แสน เครือข่าย STRONG ต้านทุจริตประเทศไทยพบเห็นความผิดปกติในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ส่อแพงจริงภายใน ศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ และ ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ - Wachirabenchathat รวมกัน 2 ที่เกือบ 10 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นที่ศูนย์วารีภิรมย์ 4,999,990 บาท จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย 11 รายการ ดังนี้ 1.อุปกรณ์ลู่วิ่งไฟฟ้า 1 เครื่อง 759,000 บาท 2.จักรยานนั่งเอนปั่นแบบมีผนักพิง 1 เครื่อง 483,000 บาท 3.จักรยานนั่งปั่นแบบนั่งตรง 2 เครื่อง เครื่องละ 451,000 บาท 4.อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหน้า 1 เครื่อง 466,000 บาท 5.อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อขาด้านหน้าและขาด้านหลัง 1 เครื่อง 477,500 บาท 6.อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อห้วงไหล่ อก และหลังแขน 1 เครื่อง 483,000 บาท 7.อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้ออเนกประสงค์ 1 เครื่อง 652,000 บาท 8.ชุดดัมเบลพร้อมชั้นวาง 1 เครื่อง 276,000 บาท 9.อุปกรณ์บาร์โหนฝึกกล้ามเนื้ออเนกประสงค์ 1 เครื่อง 302,490 บาท 10.เก้าอี้ฝึกกล้ามเนื้อหน้าท้อง 1 เครื่อง 103,000 บาท 11.เก้าอี้ฝึกตัมเบลดัมเบลแบบปรับระดับได้ 1 เครื่อง 96,000 บาท และอีกที่คือ ศูนย์วชิรเบญจทัศ 4,998,800 บาท 11 รายการ ราคาสูงผิดปกติเช่นกัน รายการเครื่องออกกำลังกายต่างๆที่ กทม.จัดซื้อ เมื่อเทียบกับราคาตลาดแล้ว ราคาช่างแตกต่างกันสูงมาก เช่น เก้าอี้ฝึกดัมเบลแบบปรับระดับได้ ราคาตลาดเกรดดี ไม่เกิน 3 หมื่นบาท แต่ กทม.จัดซื้อ 96,000 บาท งานนี้ส่วนต่างเพียบ.. เมื่อลองขุดลึกๆลงไปอีกพบว่า เฉพาะ ปี 2567 กทม. จัดซื้อครุภัณฑ์เครื่องออกกำลังกาย กว่า 9 โครงการ ด้วยงบประมาณกว่า 77.73 ล้านบาท ซึ่งการจัดซื้อจัดจ้างที่ส่อแพงเกินจริงเหล่านี้ ทำให้รัฐสูญเสียเงินไปอย่างสิ้นเปลือง ต้องตรวจแบบเข้มๆอย่างเร่งด่วน #สร้างสังคมไม่ทนต่อการทุจริต สมาชิกสามารถแสดงความคิดเห็นเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการในการรักษาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ . พบเห็นการทุจริตฯ สะกิด STRONG เข้าร่วมกลุ่มโอเพนแชท ได้ที่.. STRONGภาคตะวันออก https://bit.ly/2V4hjmF STRONGภาคอีสาน https://bit.ly/36boBvd STRONGภาคเหนือ https://bit.ly/3nVHYOE STRONGภาคกลาง https://bit.ly/3fIvoQe STRONGภาคใต้ https://bit.ly/2JdysYD STRONGภาคตะวันตก https://bit.ly/33ipUGz STRONG ประเทศไทย https://bit.ly/39gB9TX . สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สื่อสารองค์กร สำนักงาน ป․ป․ท․ ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคเหนือ ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคใต้ ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคตะวันออก ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคตะวันตก ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคกลาง ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคอีสาน สำนักข่าวอิศรา ต้องแฉ จิตอาสาต้านโกง @แฟนตัวยงข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย๏ทำไมยาเสพติด ไม่หมดไปจากประเทศ๏ 30 วิธีนอกรีต-สืบ-จับ คดียาเสพติด ตำรวจไทย ทุกท่านควรอ่านไว้ เพราะอาจเจอกับตัวเอง! 1. ยัดยาเสพติด สร้างผลงานให้ตนเอง 2. จับแล้ว ลดจำนวนยาเสพติด โดยเรียกเงินผุ้ต้องหา หรือนำยา ไปขายต่อ 3. รับวิ่งเต้นจากผุ้ต้องหา โดยอ้างว่าสามารถลดจำนวนยาเสพติดได้ 4. ลดของกลางยาบ้า โดยเรียกเม็ดละ 5,000 บาท 5. จับผุ้ต้องหา แล้วพาไปกดเงินตู้ เอทีเอ็ม ถ้าไม่พอใจให้ญาติไปกดเงินมาให้เพิ่ม 6. จับผุ้ต้องหาพร้อมยา แต่นำเงินผุ้ต้องหา เข้ากระเป๋าตนเอง 7. จับตัวผุ้ต้องหา และพาทัวร์ ให้ไปหาเงินมาให้ หรือกักตัวใจเซฟเฮ้าส์ 8. จับยาเสพติดในรถยนต์ ถ้าเป็นผัวเมีย ปล่อยเมียไปหาเงินมาให้ 9. จับยาบ้า พร้อมเงินสด และปล่อยผุ้ต้องหาไป นำเงินเข้ากระเป๋า 10. ปลอมปนยาบ้า เอาของปลอมมาผสม และเอาของจริงไปขายต่อ 11. จับผู้ต้องหามาแล้ว ปล่อยตัวไป ให้ไปหาเงินมาส่งส่วยเป็นรายเดือน 12. จับผู้ต้องหาที่ไม่ส่งส่วย ให้ขายยาบ้าได้เฉพาะที่ส่งส่วย 13. จับผู้ต้องหาได้ และซักทอด ก็ออกหมายเรียก และนัดหมายนอกสถานที่รีดเงิน บอกว่าไม่ส่งฟ้อง 14. รับจ้างวิ่งเต้นล้มคดี กับพนักงานสอบสวนด้วยกัน และวิ่งเต้นชั้นอัยการ 15. รับเงินจากผู้ต้องหา เพื่อไม่คัดค้านการประกันตัว ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวน และชั้นศาล โดยอ้างว่านำไปให้อัยการ เพื่อไม่ให้คัดค้านการประกันตัว 16. รับเงินเพื่อทำบันทึกการจับกุมใหม่ เพื่อให้สำนวนอ่อน กลับคำให้การ 17. ถ่ายสำเนา สำนวนดำเนินคดีผู้ต้องหา ให้กับญาติผู้ต้องการ เพื่อให้ทนายความเตรียมการต่อสู้คดีในชั้นสอบสวน และ ชั้นศาล 18. จัดทำบันทึกกาจับกุมเป็นเท็จ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยนำรายชื่อตำรวจไม่เกี่ยวข้องมาร่วมเพื่อสร้างผลงาน 19. จัดหา ทนายความให้ผุ้ต้องหา เพื่อเรียกเงิน 20. จัดหา นายประกันให้ผู้ต้องหา และเรียกเงิน 21. จับผู้ต้องหา แต่ไม่ได้ของกลาง เลยยัดยาเสพติด บังคับให้รับสารภาพ และเขียนด้วยลายมือตนเอง โดยซ้อมผู้ต้องหา 22. รับจ้างเคลียร์คดีให้ผุ้ต้องหา โดยเรียกเงิน โดยเสนอเงินให้พนักงานสอบสวน เป็นค่าตอบแทน 23. รับจ้าง ลบประวัติอาชญากร เพื่อไม่ให้มีการนับโทษต่อ หรือเป็นประโยชน์ให้ผุ้ต้องหา เพียงรอการรับโทษ 24. เรียกเงินจากผู้ต้องหา เพื่อไม่ให้ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน 25. รับเงินจาก ญาติพี่น้อง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเยี่ยม 26. นำภรรยา ผู้ต้องหา ไปร่วมประเวณี 27. ปล่อยตัวผู้ต้องหาหญิง และนำมาเป็นสายลับ และ บังคับร่วมประเวณี 28. จับผู้ต้องหา ในอาคารชุด โดยไม่มีหมายจับ จากนั้นทำบันทึกการจับกุมเป็นเท็จ ว่า ทำที่สาธารณะ 29. เดินสายหาเหยื่อ นอกเขตพื้นที่ตนเอง เพื่อเรียกเงินให้ส่งส่วยเป็นรายเดือน 30. นำรถยนต์ของกลางที่จับได้ขณะขายยาเสพติด ไปใช้ส่วนตน และปลอมแปลงทะเบียนและไปขายต่อ” #มิตรสหายท่านหนึ่งผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยประเทศต่อไปนี้ประกาศยกเลิกกระบวนการกักกันทั้งหมด การทดสอบโคโรนา และการฉีดวัคซีนภาคบังคับ และพิจารณาว่าโคโรนาเป็นเพียงไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล: 1) ตุรกี 🇹🇷 2) บราซิล 🇧🇷 3) สหราชอาณาจักร 🇬🇧 4) สวีเดน 🇸🇪 5) สเปน 🇪🇸 6) สาธารณรัฐเช็ก 🇨🇿 7) เม็กซิโก 🇲🇽 8) เอลซัลวาดอร์ 🇸🇻 9) ญี่ปุ่น 🇯🇵 10) สิงคโปร์ 🇸🇬 : จุดจบของไวรัสโคโรน่าด้วยการป้องกันแบบเยอรมันนี นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันประกาศหลังจากการศึกษาหลายครั้งว่า ไวรัสโคโรน่าไม่เพียงแต่แพร่พันธุ์ในปอดเหมือนไวรัสซาร์สในปี 2545 แต่ยังแพร่กระจายอย่างกว้างขวางในลำคอในช่วงสัปดาห์แรกของการติดเชื้อ นักวิทยาศาสตร์ได้แนะนำให้นายกรัฐมนตรีเยอรมนีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสั่งให้พวกเขาทำภารกิจง่ายๆ หลายๆ ครั้งต่อวัน ซึ่งก็คือการกลั้วคอด้วยสารละลาย Abmonak แบบกึ่งร้อน พวกเขาเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการทำเช่นนี้มานานแล้ว และหลังจากผลการทดลองที่ดำเนินการโดยนักชีววิทยาชาวเยอรมันเกี่ยวกับการเพิ่มจำนวนของไวรัสโคโรน่าในลำคอ พวกเขาได้เน้นย้ำอีกครั้งถึงความจำเป็นในการกลั้วคอด้วยน้ำและเกลืออุ่นๆ .. นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันให้คำมั่นกับกระทรวงสาธารณสุขของเยอรมนีว่า หากทุกคนล้างคอวันละหลายๆ ครั้งด้วยการกลั้วคอด้วยน้ำเกลือกึ่งร้อน ไวรัสก็จะถูกกำจัดไปทั่วทั้งเยอรมนีภายในหนึ่งสัปดาห์ การทดลองแสดงให้เห็นว่าการกลั้วคอด้วยน้ำและเกลือจะทำให้คอของเรามีสภาพแวดล้อมที่เป็นด่างโดยสมบูรณ์ และสภาพแวดล้อมนี้เป็นสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุดสำหรับ coronavirus เพราะน้ำเกลือ pH ของปากจะเปลี่ยนเป็นด่าง ค่า pH และหากเรากลั้วคอวันละหลายๆ ครั้งด้วยการกลั้วคอด้วยน้ำเกลือ เกือบร้อนแล้ว เราจะไม่ให้โอกาสที่ coronavirus ทวีคูณ ทุกคนจึงจำเป็นต้องกลั้วคอด้วยน้ำเกลือกึ่งร้อนวันละหลายๆ ครั้ง โดยเฉพาะช่วงเช้า ก่อนออกจากบ้าน และหลังกลับบ้าน เพื่อไม่ให้เชื้อโคโรน่าเพิ่มจำนวนขึ้นแต่อย่างใด ในช่วงเริ่มต้นเดียวกัน ขอให้ทุกคนนำเคล็ดลับสุขภาพที่สำคัญและเรียบง่ายเหล่านี้ไปใช้ด้วยความมุ่งมั่น เมื่อบทความนี้กลายเป็นกระแสไวรัล คุณเองก็จะอยู่ในแวดวงของผู้ที่ต่อสู้กับการแพร่กระจายของ coronavirus ข่าวดี ๆ อย่างนี้ สื่อบ้านเราไม่เอามาลงหรอก กรุณาส่งให้คนที่คุณรักด้วยนะโควิด 2019ยาสมุนไพรผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเปิดโทษนำเข้า‘กัญชา- กัญชง’ แต่ละชาติ ‘เกาหลีใต้’จำคุก5ปี -ห้ามเข้าประเทศอีก เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตือนประชาชนคนไทยห้ามนำเข้า กัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าวไปยังต่างประเทศ ยืนยันรัฐบาลปลดล็อกกัญชากัญชงเพื่อประโยชน์ทางด้านการแพทย์และเศรษฐกิจ ซึ่งมีผลบังคับใช้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ขอให้ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ หรือยา ที่มีส่วนผสมของกัญชา ตลอดจนมีส่วนต่าง ๆ ของกัญชา กัญชงในครอบครอง ที่จะเดินทางไปต่างประเทศตรวจสอบกฎหมายของประเทศปลายทางเกี่ยวกับข้อกำหนด การอนุญาต ข้อห้ามโดยละเอียด หากพกติดตัวไปจะได้รับโทษ โดยทางกระทรวงการต่างประเทศได้รวบรวมข้อมูล ดังนี้ อินโดนีเซีย ปรับขั้นต่ำ 1 พันล้านรูเปียห์ โทษจำคุก 5 ปี – ตลอดชีวิต หรือโทษสูงสุดประหารชีวิต ญี่ปุ่น โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี (กรณีนำเข้า/ส่งออก) โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 3 ล้านเยน (กรณีจำหน่าย) เวียดนาม โทษปรับ 5,000,000 – 500,000,000 ดองเวียดนาม โทษจำคุกตลอดชีวิต หรือโทษสูงสุดประหารชีวิต เนปาล โทษจำคุกตั้งแต่ 1 เดือน – 10 ปี โทษปรับ 2,000- 900,000 รูปี เกาหลีใต้ โทษจำคุก 5 ปีขึ้นไป หรือตลอดชีวิต (กรณีลักลอบนำเข้า) โทษจำคุกอย่างน้อย 1 ปี (กรณีปลูก/จำหน่าย) โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และถูกเนรเทศห้ามเดินทางเข้าเกาหลีใต้อีก (กรณีครอบครองหรือเสพ) สิงคโปร์ โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือทั้งจำทั้งปรับ (กรณีครอบครองหรือเสพ) โทษประหารชีวิต (กรณีลักลอบค้า/นำเข้า/ส่งออก) โทษจำคุก 5-14 ปี หรือปรับ หรือทั้งจำและปรับ จอร์แดน,อิรัก,ปาเลสไตน์ โทษอย่างรุนแรงตามกฎหมายท้องถิ่น (กรณีครอบครองหรือเสพ) บรูไนฯ โทษจำคุกอย่างต่ำ 20 ปี สูงสุด 30 ปี และโบย 15 ครั้ง หรือโทษประหารชีวิต (กรณีลักลอบนำเข้า) กัมพูชา โทษปรับ 100 ล้านเรียล โทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต ออสเตรเลีย โทษจำคุกและปรับ (กรณีนำเข้ากัญชา) หมายเหตุ: บุคคลทั่วไปสามารถนำเข้ากัญชงได้เฉพาะบางรายการ และ เซเนกัล, โกตดิวัวร์,บูร์กินาฟาโซ, กินี, กินี-บิสเซา,มาลี, แกมเบีย, เซียร์ราลีโอน,โตโก, กาบอง, กาบูร์เวร์ดี,ไลบีเรีย, ไนเจอร์ โทษตามกฎหมายประเทศนั้น ๆ ทั้งจำคุกและปรับ “นอกจากกัญชา กัญชงแล้ว ขอให้ประชาชนคนไทยระมัดระวังการรับฝากสิ่งของผิดกฎหมายเข้าไปในประเทศต่าง ๆ ด้วย ห้ามรับฝากสิ่งของจากผู้อื่นโดยเด็ดขาด แม้กระทั่งญาติพี่น้องขอให้ตรวจสอบสิ่งของที่ฝากอย่างละเอียด เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งแต่ละประเทศกำหนดโทษไว้อย่างชัดเจน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ย้ำชัดหลังจากที่ประมวลกฎหมายยาเสพติดบังคับใช้ ขอให้ผู้บริหารส่วนราชการทุกท่านทำความเข้าใจกฎหมายใหม่ ร่วมกันขับเคลื่อนสร้างความพร้อม มีแผนขั้นตอนในการทำงาน ติดตามแก้ไขปัญหาในระยะเปลี่ยนผ่านกฎหมาย นำประมวลกฎหมายยาเสพติดไปใช้อย่างเป็นรูปธรรม มีความชัดเจน” น.ส.รัชดา กล่าวยาสมุนไพรผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเมื่อวาน นักข่าวของคลื่นวิทยุ FM101 ก็โทรมาสัมภาษณ์เรื่อง "การทำ ice bathing นอนแช่น้ำแข็ง" นี้เหมือนกันครับ ... ซึ่งผมก็เตือนไปว่า วิธีแช่น้ำแข็งนี้ มันเป็นวิธีการรักษาของนักกีฬาที่เกิดอาการปวดบวมอักเสบกล้ามเนื้อ แต่ไม่ได้จะไปฆ่าเชื้อโรคในร่างกายอย่างที่เชื่อกันตามแนวรักษาทางเลือกแบบนั้น แถมจะมีอันตรายเอาด้วย กับคนที่มีปัญหาทางโรคหัวใจ หรือเกิดภาวะ hypothermal ร่างกายผิดปรกติจากอุณหภูมิต่ำเกินไปด้วยครับ --------------- (รายงานข่าว) กรณี นักร้องชื่อดังอย่าง แพท วง KLEAR โพสต์คลิปตัวเองนอนแช่น้ำแข็งในถีง ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมระบุว่า เป็นการทำ Ice Bathing ตามข้อมูลมีการบรรยายสรรพคุณ ว่า เป็นการกระตุ้นเซลล์คนเป็นมะเร็ง และเป็นโควิด ทำแล้วอาการดีขึ้น ล่าสุด ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ชี้ทางการแพทย์ไม่มีงานวิชาการรองรับว่าการทำ Ice Bathing จะช่วยรักษาหรือยับยั้งเซลล์โรคมะเร็งได้ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลิปวิดีโอ ที่ น.ส.รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย หรือ แพท วง KLEAR โพสต์คลิปลงในอินสตาแกรมส่วนตัว เป็นคลิปที่เธอลงไปนอนแช่ในถังน้ำที่มีน้ำแข็งอยู่เต็มถัง พร้อมข้อความระบุว่า “มาแชร์ประสบการณ์ Ice Bathing ครั้งที่สองในชีวิต” เนื้อหาของโพสต์นี้ แพท บอกว่า Ice Bathing คือ การน็อคเชื้อโรคในตัว ฆ่าเซลล์ที่ไม่ค่อยดี เซลล์ที่มีสิทธิ์กลายพันธุ์ หรือ ส่วนอักเสบในร่างกาย แพท เชื่อว่า การทำแบบนี้เป็นการกระตุ้นให้เซลล์ที่แข็งแรงดีมากขึ้น แพทย์ ยัน Ice Bathing รักษาเซลล์มะเร็งไม่ได้ หลังนักร้องดังอ้างทำแล้วอาการดีขึ้น นอกจากนี้ ยังบอกด้วยว่า “คนที่ป่วยหนักมาก ๆ แม้แต่โควิดหรือเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ถ้าได้ลงน้ำแข็ง อาการก็จะดีขึ้นทุกคน” โดยภายหลังคลิปนี้ถูกโพสต์มีคนเข้าไปแสดงความสนใจ บางคนถามแพทว่าทำเองที่บ้านได้ไหม ซึ่งแพทบอกว่าทำได้ พร้อมแนะนำวิธีการ ทีมข่าว PPTV ตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้กับนายแพทย์สกานต์ บุญนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ถึงการทำ ice bathing แล้วจะช่วยรักษารักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือไม่ แพทย์ ยัน Ice Bathing รักษาเซลล์มะเร็งไม่ได้ หลังนักร้องดังอ้างทำแล้วอาการดีขึ้น โดย คุณหมอสกานต์ กล่าวว่า ไม่เคยมีข้อมูลว่าวิธีการดังกล่าวรักษาหรือยับยั้งเซลล์โรคมะเร็งได้ แม้ว่าในทางการแพทย์ จะมีวิธีการใช้ความเย็นรักษาผู้ป่วยมะเร็งจริง แต่วิธีการที่ใช้จะต้องมีอุปกรณ์เครื่องมือ มีอุณหภูมิเย็นติดลบหลายองศา และมีแพทย์เป็นผู้รักษาใกล้ชิด รวมถึง ไม่ใช่การลงไปแช่ทั้งตัวตามที่ปรากฎ เพราะการลงไปแช่น้ำแข็งทั้งตัว มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัวอื่น เช่น โรคหัวใจ เนื่องจากการทำ ice bathing จะทำให้อุณหภูมิในร่างกายเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว อาจกระตุ้นให้เกิดโรคหัวใจได้ง่ายโควิด 2019มะเร็งไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยด่วน ! รายงานจากสำนักข่าวไทย แจ้งรายละเอียดเนื้อหาของหนังสือรัฐบาลสหรัฐฯส่งตรงถึงนายกรัฐมนตรี และ 7 รัฐมนตรีของไทย อ้างกระทบผลประโยชน์ของสหรัฐ 51,000 ล้านบาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายดอน ปรมัติวินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เนื้อหาสำคัญว่ากระทรวงเกษตรสหรัฐได้ตรวจสอบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศไทยในการห้ามสารเคมีเกษตร 3 ชนิดที่อยู่ในระหว่างการพิจารณา ทางสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยยังได้แนบเอกสารจากกระทรวงเกษตรของสหรัฐ ส่งถึงนายกรัฐมนตรีของไทยด้วยว่า การแบนสารไกลโฟเซต โดยไม่พิจารณาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างเต็มที่ อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการนำเข้าถั่วเหลืองและข้าวสาลีของไทย จึงหวังว่าประเทศไทยจะพิจารณาความกังวลนี้ เพราะไกลโฟเซทเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและศึกษาอย่างจริงจังในโลก หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา (EPA) ประเมินแล้วว่าไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์ สอดคล้องกับความคิดเห็นทางวิทยาศาสตร์ของหน่วยงานอื่นทั้งญี่ปุ่น สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย และองค์การเกษตรแห่งสหประชาชาติ จึงขอให้ชะลอการตัดสินใจเกี่ยวกับไกลโฟเซต เพื่อหาทางออกสำหรับสหรัฐอเมริกา คาดการณ์ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นจากการห้าม 3 ประการ คือ 1.เกษตรกรไทยจะต้องเผชิญกับต้นทุนสารเคมีทดแทนสูงขึ้น 75,000-125,000 ล้านบาท ของราคาตลาดของไทยในปัจจุบัน 2.หากไม่พบสารเคมีทดแทนที่เหมาะสม (เนื่องจากกลูโฟซิเนต มีแอมโมเนียมมีพิษมากกว่า ไกลโฟเซท แต่น้อยกว่าพาราควอต) ทำให้ต้นทุนแรงงานสูงขึ้นสำหรับการปราบวัชพืช ทำให้การควบคุมรวมกับการสูญเสียผลผลิตพืช คาดว่าจะสูงถึง 128,000 ล้านบาท 3.สิ่งที่สหรัฐกังวลมากที่สุด คือ จะมีผลกระทบต่อการนำเข้าถั่วเหลือง ข้าวสาลี กาแฟ แอปเปิ้ล และองุ่น จากสหรัฐ มูลค่า 51,000ล้านบาท ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นยังไม่รวมถึงผลกระทบที่ตามมาของผู้ผลิตอาหาร เช่น อุตสาหกรรมเบเกอรี่และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่พึ่งพาข้าวสาลีที่นำเข้า 100% เพื่อมาดำเนินธุรกิจมูลค่า 40,000 ล้านบาท นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยอมรับว่าต้องศึกษารอบด้านในการหาสารทดแทนเข้ามาใช้ เพราะกระทบหลายส่วน การทำงานเมื่อเป็นปัญหาการเมืองมักมีปัญหาตามมา ที่มา : สำนักข่าวไทย https://tna.mcot.net/view/w57Q3zSไม่ระบุชื่อ• 6 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยครีมทาผิวใสx10 สว่างx100 ผิวแบบมีได้จริง รีวิวนับ10,000 มี อย. ราคาหลัก100 ❥คลิ้กรับสิทธิ์ส่งฟรีมีเก็บเงินปลายทางstd48297• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเตือนภัย!ใกล้ตัวลูกโป่งระเบิด!สธ.แนะ 3 วิธีหนีความเสี่ยงอันตรายหากนำไปใช้ในงานต่างๆ เลือกใช้แก๊สฮีเลียม ไม่เก็บในรถในที่ร้อน อย่ามัดรวมกันหลายลูก นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์ลูกโป่งอัดแก๊สระเบิดในรถ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกไฟไหม้ตามร่างกายนั้น จากข้อมูลเบื้องต้นพบมีการเสียบโทรศัพท์มือถือในรถ และมีลูกโป่งอยู่ในรถด้วย ซึ่งอาจเป็นลูกโป่งที่บรรจุด้วยแก๊สไฮโดรเจน (เป็นแก๊สที่ไวต่อประกายไฟ) โดยลูกโป่งอาจจะรั่ว ทำให้กลุ่มแก๊สลอยอยู่ภายในห้องโดยสารรถยนต์ เมื่อดึงสายชาร์จอาจทำให้สปาร์คและเกิดระเบิดได้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีเหตุระเบิดจากลูกโป่งอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากแก๊สที่บรรจุเข้าไปในลูกโป่งคือแก๊สไฮโดรเจน ที่มีความไวไฟสูง ติดไฟง่ายเมื่อกระทบความร้อนหรือประกายไฟ ทำให้เกิดการระเบิดได้ สำหรับลูกโป่งที่ขายในประเทศไทยโดยทั่วไป พบบรรจุแก๊ส 2 ชนิด คือ ไฮโดรเจน และฮีเลียม ความแตกต่างของแก๊ส 2 ชนิดนี้ คือ แก๊สไฮโดรเจนมีความไวไฟสูง ส่วนแก๊สฮีเลียมเป็นแก๊สเฉื่อย ไม่ติดไฟ แต่หากจำเป็นต้องใช้แก๊สไฮโดรเจน ควรเพิ่มความระมัดระวังในการบรรจุและติดป้ายเตือนทุกครั้ง ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ประกาศให้ลูกโป่งบรรจุแก๊สไฮโดรเจนเป็นสินค้าควบคุมฉลาก ผู้จำหน่ายต้องติดคำเตือน “ห้ามนำเข้าใกล้เปลวไฟหรือความร้อน” นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า หากจะใช้งานลูกโป่งในสถานที่ซึ่งมีแสงไฟมาก เช่น จัดตกแต่งงานเลี้ยง งานฉลองต่างๆ ขอแนะนำ 3 วิธีเพื่อลดความเสี่ยงอันตรายจากลูกโป่งแตก ดังนี้ 1.เลือกลูกโป่งที่บรรจุด้วยแก๊สฮีเลียม ถึงแม้จะแพงกว่าแต่ปลอดภัยกว่า2.ไม่เก็บลูกโป่งที่อัดแก๊สไว้ในรถ ในที่อุณหภูมิสูง กลางแดด ใกล้หลอดไฟ ใกล้เปลวไฟ หรือความร้อน 3.ไม่ควรนำลูกโป่งมามัดรวมกันหลายลูก อาจทำให้เสียดสีและระเบิดได้ ทั้งขอเตือนผู้ปกครองดูแลบุตรหลานใกล้ชิด ส่วนผู้จัดงาน หากประดับตกแต่งลูกโป่งในงานต่างๆ ต้องวางให้พ้นมือเด็ก ถ้าลูกโป่งแตกควรเก็บเศษไปทิ้งถังขยะทันที ป้องกันไม่ให้เด็กหยิบเศษลูกโป่งมาอมหรือกัดเล่น เพราะอาจลื่นเข้าไปในลำคออุดทางเดินหายใจได้ผู้บริโภคเฝ้าระวังmaikingknow• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเตือนภัย ใครที่มีแอปธนาคารในมือถือ มีการโกงเงินทางบัญชีทั้งหมดเป็น 0 ภายในพริบตาเตือนภัย ใครที่มีแอปธนาคารในมือถือ มีการโกงเงินทางบัญชีทั้งหมดเป็น 0 ภายในพริบตาโควิด 2019วัคซีนโควิดMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยมีผลแล้ว จ่ายเงินชดเชยว่างงาน กรณีกักตัว คำสั่งปิดสถานที่ ปิดกิจการ | Thai PBS | LINE TODAY https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/0WYXKD?utm_source=lineshareโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://mainstand.co.th/th/features/5/article/3844มีมไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 2 คนสงสัยวัคซีนวัคซีนพิษสุนัขบ้า วัคซีนพิษสุนัขบ้า คือวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสเรบี (Rabies) โดยมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นพาหะ เช่น สุนัข แมว ลิง ค้างคาว ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะได้รับเชื้อจากการถูกกัดหรือข่วน การฉีดวัคซีนนี้จะช่วยป้องกันผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า โดยผลิตขึ้นมาจากเชื้อไวรัสเรบีที่ตายแล้ว เมื่อเข้าไปในร่างกาย เชื้อจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิdiazp121phoenix• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวัคซีนพิษสุนัขบ้าวัคซีนพิษสุนัขบ้า คือวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสเรบี (Rabies) โดยมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นพาหะ เช่น สุนัข แมว ลิง ค้างคาว ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะได้รับเชื้อจากการถูกกัดหรือข่วน การฉีดวัคซีนนี้จะช่วยป้องกันผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า โดยผลิตขึ้นมาจากเชื้อไวรัสเรบีที่ตายแล้ว เมื่อเข้าไปในร่างกาย เชื้อจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือไวรัสเรบีpocky18b• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยวิธีการตรวจมะเร็งง่าย ๆ โดยการเอาน้ำมันพืชมาทาแขน แล้วเอาเล็บขูดๆ เกาๆตามที่มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นเรื่องวิธีการตรวจมะเร็งง่าย ๆ โดยการเอาน้ำมันพืชมาทาแขน แล้วเอาเล็บขูด ๆ เกา ๆ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จสุขภาพมะเร็งstd47951• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวิธีการตรวจมะเร็งง่าย ๆ โดยการเอาน้ำมันพืชมาทาแขน แล้วเอาเล็บขูดๆ เกาๆตามที่มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นเรื่องวิธีการตรวจมะเร็งง่าย ๆ โดยการเอาน้ำมันพืชมาทาแขน แล้วเอาเล็บขูด ๆ เกา ๆstd47950• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินน้ำใบมะละกอช่วยต้านมะเร็งกินน้ำใบมะละกอ ช่วยให้หายจากมะเร็งsanukulmallika• 2 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกกต.ยันใบแดง 10 ส.ส.ก้าวไกล เหตุไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งท้องถิ่น เป็นข่าวปลอม เตือนแชร์ต่อมีความผิดผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งชี้แจงกรณีที่มีผู้โพสต์ในทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก นำข้อความอันเป็นเท็จ กล่าวว่า “สส.ก้าวไกล จะโดนใบแดงอีกเกือบ 10 คน เพราะว่า ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ก่อนหน้านี้ ซึ่ง ส่วนใหญ่ไม่ได้ไปเลือกตั้งท้องถิ่นนั่นแหละ เช่น อบต./เทศบาล/ อบจ./สก./สข./ ผู้ว่า กทม. แล้วไม่ได้ทำหนังสือแจ้งว่าทำไมไม่ไป อันนี้ก็เป็นคุณลักษณะต้องห้ามตาม รธน. อีก” โดยประชาชนได้นำข้อความดังกล่าว ไปโพสต์เผยแพร่ผ่านสื่อตามช่องทางต่างๆ นั้นstd46430• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยhttps://www.facebook.com/photo.php?fbid=2399966496951136&set=a.1510131092601352&type=3ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโรคร้ายแรงที่ประกันสังคมไม่ครอบคลุม เป็นข้อมูลเก่าจริงหรอโรคมะเร็ง 10 ชนิดตามที่ปรากฏในข่าวสามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้ และหากผู้ประกันตนเป็นโรคมะเร็งอื่นๆ ก็สามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้เช่นเดียวกันโดยเข้ารับการรักษากับสถานพยาบาล ตามสิทธิประกันสังคมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายnaydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยยึดเมืองหลวงคืนจากโควิดด้วยวัคซีนได้จริงหรือ วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ 17 กรกฎาคม 2564 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมบอกว่าการระบาดในประเทศใช้เวลาสามสัปดาห์ก็จะเพิ่มจำนวนรายงานผู้ป่วยเท่าตัว และคาดว่าจะถึงอย่างน้อยหมื่นรายต่อวันในตอนปลายเดือน วันนี้เพิ่งพ้นกลางเดือนวันหวยออกได้วันเดียว ยอดติดเชื้อก็ทะลุไปเป็นตัวเลขห้าหลักอย่างว่าแล้ว ผมคาดคะเนว่าเวลาเพิ่มจำนวนของจำนวนตายจากโควิดจะเพิ่มเท่าตัวโดยใช้เวลาเพียงสัปดาห์เศษ ๆ วันนั้นดูเหมือนตัวเลขอยู่แถวห้าสิบตอนนี้ตัวเลขก็ทะลุเป็นเลขสามหลักเป็น 141 แล้ว สรุปแล้วผมคาดผิด ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะวันนี้ตัวเลขสวิงขึ้นสูงโดยบังเอิญ ถ้าเป็นเช่นนั้นพรุ่งนี้มะรืนนี้ตัวเลขจะลดกลับลงไป อีกส่วนหนึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าเวลาที่ใช้ในการเพิ่มเท่าตัวสั้นกว่าเมื่อเดือนที่แล้วจริง ๆ เราเพิ่งจะล็อคดาวน์กันมาไม่กี่วัน ผลของการตรวจพบเชื้อในวันนี้มาจากการแพร่เชื้อติดเชื้อก่อนหน้านี้ 4-5 วัน ส่วนจำนวนตายน่าจะเป็นผลจากการติดเชื้อแพร่เชื้อเมื่อสองสามสัปดาห์ที่แล้ว ถ้ากระบวนการล็อคดาวน์ได้ผล เราจะเห็นตัวเลขการติดเชื้อหยุดเพิ่มก่อน คงอีกราว 1 สัปดาห์ และกว่าตัวเลขคนตายจะหยุดเพิ่มอาจจะต้องใช้เวลาราว 3 สัปดาห์ขึ้นไป กล่าวกันว่า กทม. เป็นศูนย์กลางของการระบาด ความเร็วในการเพิ่มเท่าตัวก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ ผมมีข้อสังเกตสองสามประการสำหรับผู้รับผิดชอบและประชาชน ฝากพวกเราตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย นอกจากจังหวัดภูเก็ตซึ่งประชาชนได้รับวัคซีนสองเข็มไปกว่า 70% แล้ว สถิติต่าง ๆ บ่งบอกว่าอันดับสองของความครอบคลุมการรับวัคซีน คือ กทม. ถ้าเอาจำนวนคนฉีดวัคซีนใน กทม. หารด้วยประชากรในทะเบียนบ้าน จะได้ค่าระหว่าง 40-60% ซึ่งระดับนี้ถือว่าน่าพอใจ และวันนี้ได้ข่าวว่าตั้งเป้าจะฉีดให้ได้วันละหนึ่งแสนโดส ถ้าได้อย่างนี้จริงจะช่วยเสริมแรงการล็อคดาวน์ได้มาก เพราะถ้าไม่ฉีดวัคซีนให้มากพอ ตอนคลายล็อคก็จะเกิดการระบาดอีก ปรกติถ้าฉีดวัคซีนได้ถึง 50% ขึ้นไป เราจะเห็นการระบาดชะลอลง แต่ทำไมใน กทม. ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ทำไมเราไม่เห็นแบบนั้น ผมมีคำอธิบายอื่น ๆ ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้าง โปรดช่วยกันตรวจสอบครับ ผมคิดว่าที่ผ่านมาไม่มีใครรู้ว่าประชากร กทม. ที่แท้จริงอยู่ที่กี่ล้านคนเพราะปริมณฑลและเมืองบริวารกว้างขวางมาก ผู้คนเดินทางเข้า ๆ ออก ๆ การฉีดวัคซีนในกทม. อาจจะไม่ได้จำกัดเฉพาะคนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ กทม. ทำให้คนรอบนอกเดินทางเข้ามาฉีดได้โดยไม่ยาก ถ้าคนที่ได้วัคซีนไปเป็นคนรอบนอกเสียเยอะ วัคซีนที่ฉีดไปก็คงจะไม่มีค่อยมีผลป้องกันกลุ่มเป้าหมายใน กทม. กลุ่มเป้าหมายหลักของระบบสาธารณสุข มีชื่อย่อ ๆ ว่า 607 หมายถึงคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและมีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ฯลฯ 7 โรค ปรากฏว่ากลุ่มนี้ฉีดวัคซีนได้ต่ำกว่าเป้าทั่วประเทศ แม้แต่จังหวัดภูเก็ตที่ได้ชื่อว่าฉีดวัคซีนได้มาก ก็ครอบคลุมผู้สูงอายุได้เพียง 10% เท่านั้น (เพราะช่วงนั้นฉีดวัคซีนไซโนแวค ต้องอายุต่ำกว่า 60 ปี) จังหวัดที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมผู้สูงอายุได้ดีที่สุด คือ สมุทรสาคร ก็ได้เพียง 15% ส่วน กทม. ฉีดผู้สูงอายุได้เพียง 3.14% และ กลุ่ม 7 โรคเรื้อรังได้เพียง 3.8% ของเป้าหมายเท่านั้น ตัวเลขที่ฉีดวัคซีนประชากรได้ดูเหมือนมาก แต่ ฉีดกลุ่มเป้าหมายหลักได้เพียงนิดเดียว น่าจะอธิบายสาเหตุของไอซียูและเครื่องช่วยหายใจไม่พอได้ระดับหนึ่ง ถ้ายังคงใช้ยุทธวิธีที่สะดวกแบบเดิมอยู่แบบนี้เพียงอย่างเดียว วัคซีนคงไม่ช่วยทำให้คลายล็อควัคซีนได้เท่าไรนัก การเปิดให้จองโดยระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต สะดวก รวดเร็วทั้งผู้รับและผู้ให้บริการ แต่ต้องเป็นผู้รับบริการที่รอบรู้ หูไวตาไว ใช้แอปเก่ง ๆ หรือที่เรียกว่า The Have Net ส่วนพวกที่ช้าหน่อยเข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสารและเท็คโนโลยี หรือที่เรียกว่า The Have Not ก็จะไม่ค่อยได้รับวัคซีน The Have Net จากรอบนอกเข้าถึงวัคซีน The Have Not ในกทม.เอง เข้าไม่ถึง เราก็แก้ปัญหา กทม. ไม่ได้ เวลาพวกเราคนต่างจังหวัดพูดถึง กทม. เรานึกถึง พื้นที่เศรษฐกิจที่มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ภาพพวกนั้นปิดบังกลุ่มคนยากจนที่อยู่ตามหลืบ ซอกซอย ชุมชนคนกลุ่มน้อย คนขายแรงงาน แคมป์คนงานก่อสร้าง ฯลฯ คนพวกนี้ คือ The Have Not ซึ่งเป็น Social Pathology หรือสภาพสังคมที่เจ็บป่วยอมโรคของเมืองหลวง ผมเชื่อว่าคนพวกนี้เข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสาร บริการสาธารณสุขโดยเฉพาะการฉีดวัคซีนซึ่งต้องการการแข่งขันอย่างสูง เมื่อป่วยก็จะไม่สามารถร้องเรียนกับผู้ใดได้ การแยกตัวของสมาชิกออกจากครัวเรือนไม่ให้แพร่โรคน่าจะลำบากมาก เป็นที่น่ายินดีที่ทางราชการจะได้จัดหน่วยเคลื่อนที่ออกไปยังชุมชน ไปเยี่ยม The Have Not เหล่านี้ และคงเอาวัคซีนไปฉีดให้เป้าหมาย 607 ด้วย แต่ก็คงไม่ง่ายนักที่จะฉีดให้ได้จำนวนมาก ๆ เพราะอาจจะหาสถานที่ที่เหมาะสมในการฉีดวัคซีนได้ลำบาก การจัดพยาบาลเข้าฉีดวัคซีนตามบ้านจะมีต้นทุนด้านเวลาสูงมาก เป้าหมายที่ตั้งว่าจะได้วันละแสนคนไม่น่าจะทำได้จริง หน่วยสาธารณสุขเคลื่อนทีเก่ง ๆ เหมือนหน่วยซีลทางทหาร คือ รบได้ทุกภูมิประเทศ ทั้งอากาศ ทะเล และ บนบก แต่ไม่สามารถยึดพื้นที่ได้ หน่วยแบบนี้จึงมีข้อจำกัด เมื่อ ห้าสิบปีที่แล้ว ในชนบทเราก็มีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เอาไว้ปฏิบัติการจิตวิทยา (ปจว) แสดงว่าทางการไม่ทอดทิ้งประชาชน มีความเมตตากรุณาสงสาร แต่ปัจจุบันนี้ เราสาธารณสุขปฐมภูมิครอบคลุมทุกพื้นที่ มีเครือข่าย อสม. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (สถานีอนามัยเดิม) ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำถึง 4-5 คน นี่คือ กองร้อยทหารราบที่ประจำการ ปกป้องโรคภัย เขาดูแลตัวเองกันได้ ไม่ต้องรอความเมตตาจากคนนอก ผมไม่แน่ใจว่าเครือข่ายแบบนี้ในเมืองหลวงทำได้ดีเพียงไร การทำงานของหน่วยราชการโดยเฉพาะการควบคุมการระบาดของโควิดและการระดมฉีดวัคซีนโดยไม่มีประชาชนช่วยจัดตั้งน่าจะทำไม่ได้ผล ในช่วงล็อคดาวน์ เราต้องใช้ทหารราบ พลเดินเท้า และหน่วยประจำการทางสาธารณสุขจำนวนมหาศาล ทำงานสร้างพลัง (empower) ให้ประชาชนในชุมชนยากไร้ในเมืองหลวง ลุกขึ้นยืนหาทางช่วยตัวเองร่วมมือกับทางราชการแก้ปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด เพื่อยึดเมืองหลวงคืนจากโควิดให้ได้ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยสรุปสาระ ตากับสูงวัย โดย พญ.เตือนใจ วงศ์วรเศรษฐ์ (จักษุแพทย์) 18 เม.ย.66 โรคตาของ สว. 1. การหย่อนคล้อยรอบตา ถ้าหนังตาตกจนมาบังรูม่านตา อาจมีปัญหาเรื่องการมองเห็น แก้ไขโดยผ่าตัดดึงกล้ามเนื้อตาที่เปลือกตา ไม่ใช่แค่ตัดหนังตาทำตา2ชั้น 2. ต้อกระจก (เลนส์ตาขุ่น) ทุกคนจะเป็นเพราะ ความเสื่อมของเซล (เริ่มเสื่อมอายุ 50-90 ขึ้นไป) (*)การผ่าต้อกระจก คือ การใส่เลนส์เทียมแทนเลนส์ที่ขุ่น วิทยาการก้าวหน้าทุกวัน เลนส์มีหลายแบบควรปรึกษาหมอตา คนที่เปลี่ยนเลนส์ต้อกระจกแล้ว ต่อมาอาจมองไม่ชัด เพราะถุงรองรับเลนส์อาจขุ่น ไปให้หมอทำ Laser จะใสเป็นปกติ 3. ต้อหิน : การเสียของประสาทตาปัจจัยเสี่ยงคือความดันตาสูง แต่ก็มีต้อหินแบบความดันตาปกติ คนที่มุมตาแคบอาจเป็นต้อหินแบบเฉียบพลัน มีอาการปวด คลื่นไส้ มองไม่เห็น การแก้ไข ต้องไปหาหมอตา 4. วุ้นนัยตาเสื่อม เกิดแทบทุกคน อายุมาก ของเหลวในวุ้นตาตกตะกอน (*)วุ้นตาเสื่อม ถ้าพบแสงเหมือนแฟลช.. แว๊บ.. แว๊บ.. ต้องรีบพบหมอตาด่วน อาจต้องรักษาโดยทำ Laserถ้ามีประสาทตาฉีกขาด ถ้าไม่รักษาจะเป็นหายนะของตา น้ำในวุ้นตาจะเซาะไปทำให้ประสาทตาหลุดร่อน Laser เอาไม่อยู่ การมองเห็นอาจเสียไป 5. ตาแห้ง (Dry eye) ใส่คอนแทคเลนส์นานมาก ไม่เปลี่ยนมาใส่แว่นตาเลย อาการ : มีการระคายเคือง อักเสบ น้ำตาไหล : รักษาไม่หายขาด เพียงชะลอ 6. เบาหวาน ตามองไม่เห็นเพราะเส้นเลือดที่ผิดปกติ แตกง่าย การมองเห็นเสีย (*)เส้นเลือดผิดปกติที่ตา อาจมีที่ไต และหัวใจด้วย (*)คนที่เป็นเบาหวานต้องคุมความดัน คลอเรสตอรอลด้วย 7. แว่นสายตา สำหรับสายตาสูงวัยปกติจะเริ่มใส่แว่นสายตาสูงวัยเมื่ออายุ 39-45 ปี หลายคนมีแว่น 2 อัน สำหรับอ่านหนังสือ และดูไกล บางคนแก้ปัญหาโดยทำแว่น Progressive เพื่อจะไม่ต้องใส่ ๆ ถอด ๆ แว่น บางคนใส่แว่น progressive ไม่ได้ ใส่แล้ว.. งง.. งง.. ( ปจบ. เทคโนโลยี่พัฒนา.. ปัญหาใส่แว่นแล้ว.. งง.. งง.. ไม่ค่อยมีละ) 8. "แว่นกันแดด" สำคัญมาก ต้องเลือกที่กันแสง UV ได้ 100 % (ร้านแว่นจะมีเครื่องวัด )แว่นกันแดดควรมีราคา 160 บาท หรือ 500 บาทขึ้นไป แว่นแบรนด์เนม เช่น Ray Ban & ยี่ห้ออื่น ๆ ผลิตเพื่อป้องกันสายตาอยู่แล้ว (*)แว่นกันแดดปลอม คือ แว่นที่ย้อมสีดำ ใส่แล้ว ทำให้ม่านตาขยาย แสง UV เข้าตามากขึ้น ทำให้เป็นต้อเนื้อ ต้อกระจก และตาแห้ง "แว่นสายตา" สามารถทำเป็น "แว่นกันแดด" ได้การเคลือบสีเลนส์ เคลือบกัน UV เพื่อความสบายตา (*)แว่นสีเทา สบายตามาก (*)แว่นสีเหลือง ใส่กลางคืนชัดเจนมาก เป็นแว่นส่องสัตว์ (*)ข้อควรระวัง 1. "การนวดตา".. ไม่ดี จะทำให้เลนส์ตาหลุด 2. การถูมือ 2 ข้างเร็ว ๆ แล้วเอามาอังที่ตา (แบบชี่กง).. ดี เป็นการเพิ่มๆพลังให้(ดวงตา) 3. คนที่มีลูกหลานเล่นแบตมินตัน หรือ กอล์ฟ ควรให้ใส่แว่นตา ป้องกันลูกแบตฯ หรือลูกกอล์ฟมาอัดตา ทำให้ตาแตก เลือดออกในตา เลนส์หลุด อาจเป็นต้อหินได้ "ดวงตา.. เปิดโลกกว้าง".. ตรวจตาอย่างน้อย 1 ปี/ครั้งไม่ระบุชื่อ• 10 เดือนที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ