(2461 ข้อความ)
- 1 คนสงสัยกินแฮมแล้วทำให้อายุยืนยาว?กินแฮมแล้วทำให้กินแฮมแล้วทำให้อายุยืนยาวจริงหรือ?sanukulmallika• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยแอร์แพร่เชื้อโควิดได้ไหมผลการศึกษา พบละอองฝอยที่มีไวรัสสามารถเดินทางในอากาศได้ไกลเมื่ออยู่ในพื้นที่ปิด และละอองฝอยจะกระจายตามทิศทางของเครื่องปรับอากาศ ดังนั้น หากมีการคลายล็อคดาวน์ เช่น ร้านอาหาร ต้องเพิ่มระยะห่างระหว่างโต๊ะและหมั่นระบายอากาศในพื้นที่โควิด 2019Supinya Klangnarong• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยวัคซีนไข้เลือดออกฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกเดงกี เพิ่มภูมิคุ้มกันปกป้องชีวิต 5หากเอ่ยถึงโรคไข้เลือดออก หลายคนคงทราบถึงความร้ายแรงและอันตรายถึงแก่ชีวิต ด้วยการวิจัยอย่างยาวนาน วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก CYD – TDV (Chimeric Yellow Fever Dengue Tetravalent Dengue Vaccine) เมื่อฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกเดงกีครบ 3 เข็ม ลดความเสี่ยงในการเป็นผู้ป่วยไข้เลือดออกในอนาคต ห่างไกลความรุนแรงของโรคที่อาจนำไปสู่การเสียชีวิตของตัวคุณและคนที่คุณรักKlamongkhon Klinhom• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิดจริงหรือเปล่าคะไทยฉีดวัคซีนกว่า 10 ล้านโดส มีเหตุเสียชีวิต 210 ราย สรุปผลแล้ว 153 รายไม่มีเกี่ยวข้องวัคซีน แต่ 8 รายไม่สามารถสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ อีก 4 รายไม่ทราบจริงๆเพราะข้อมูลไม่พอโควิด 2019Thanaphon kummoonta• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยลด 6 กิโลใน 1 เดือน ทำได้จริง แบบปลอดภัย ไม่โยโย่เราชงดื่มวันละ 1 ซอง ปรากฏว่า 1 เดือนผลคือน้ำหนักลงไป 6 กิโล ดีใจมากกกก!!std48317• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวลวง “เนื้อดิบ” ป้องกันโควิด-19สถานการณ์แพร่ระยาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ไม่มีมูลความจริงทำให้เกิดความเข้าใจผิดในประเด็นเดิมมๆ ก็ยังคงวนกลับมาให้เห็นซ้ำอีก ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีผู้แจ้งข้อมูลเพื่อตรวจสอบข่าวลวงมายัง www.cofact.org กรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลมีเดียว่าเนื้อดิบมีสรรพคุณเป็นยาป้องกันและรักษาโควิด-19 ได้ โดยผลการตรวจสอบได้ข้อสรุปว่าเป็นข่าวลวง เพราะไม่มีหลักฐานวิทยาศาสตร์ยืนยันแน่ชัดว่าการรับประทานเนื้อดิบจะสามารถช่วยป้องกันโรคโควิด-19 ได้ อีกทั้งการรับประทานเนื้อดิบอาจมีผลทำให้เป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ ข่าวลวงเรื่องเนื้อดิบป้องกันรักษาโควิด-19 นั้นเคยถูกเผยแพร่ออกมาครั้งแรกช่วงที่ประเทศไทยพบการระบาดเมื่อปลายเดือน ก.พ. 2563 (ปีที่แล้ว) โดยทางเพจสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลกมีคำเตือน ให้งดกินของดิบ ปลาดิบชั่วคราว เพราะนอกจากจะไม่ช่วยรักษาหรือป้องกันไวรัสโควิด-19 แล้วยังสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ติดไวรัสโควิด-19 อีกด้วย ทั้งนี้เชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ทนความร้อนสามารถถูกทำลายได้ด้วยการประกอบอาหารที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นนิยมรับประทานปลาดิบเป็นจำนวนมาก ทางเพจสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จึงทำการโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำผู้นิยมกินของดิบ เช่น ปลาดิบ ซาเซมิ ให้หลีกเลี่ยงชั่วคราว เนื่องจากสุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีข้อความเตือน ดังนี้ เชื้อไวรัส COVID-19 ไม่ทนความร้อน และถูกทำลายได้ด้วยวิธีการประกอบอาหารที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงแนะนำให้ 1)หลีกเลี่ยงการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารจากสัตว์ที่ดิบหรือปรุงไม่สุก และ(2) จัดการกับเนื้อสัตว์ดิบ นมดิบ หรืออวัยวะของสัตว์ด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันการปนเปื้อนเข้าสู่ผลิตภัณฑ์อาหารที่รับประทานสด ญี่ปุ่นมีการรับประทานปลาดิบ เนื้อสดกันเยอะ ช่วงนี้เลี่ยงการรับประทานปลาดิบ เนื้อสด ของดิบไปก่อน ไม่เพียงเท่านี้ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความไขข้อสงสัยเรื่องการรับประทานอาหารทะเลในช่วงที่โควิดระบาด โดยระบุว่า อาหารทะเลโดยมากจะต้องทำความเย็นหรือแช่แข็งเพื่อให้คงคุณภาพได้ดี ถ้าชาวประมง ผู้ขาย มีการติดเชื้อโควิด-19 โอกาสที่จะเชื้อปนเปื้อนอยู่ในอาหารทะเลและไวรัสคงชีวิตอยู่ได้นาน จึงมีความเป็นไปได้ ที่จะตรวจพบไวรัสในอาหารทะเลแช่เย็น เช่นการตรวจพบในปลาแซลมอน กุ้งนำเข้าในประเทศจีน การติดต่อของโรคโควิด-19 ผ่านทางอาหารทะเล มีการตั้งข้อสงสัยในประเทศจีน อย่างไรก็ตามอาหารทะเลสามารถบริโภคได้ถ้าปรุงสุก ความร้อนสามารถทำลายไวรัสได้อย่างแน่นอน โควิด-19 สามารถทำลายด้วยความร้อน 56 องศานานครึ่งชั่วโมง และถ้าความร้อนสูงขึ้นระยะเวลาก็จะสั้นลง โดยทั่วไปแล้วถ้าความร้อนสูงกว่า 85 องศา ก็จะมั่นใจในการทำลายไวรัสได้ และถ้าต้มให้เดือดที่อุณหภูมิ 100 องศาไวรัสจะถูกทำลายทันที ในช่วงที่มีการระบาดของโรคจึงไม่ควรรับประทานอาหารทะเลดิบหรือไม่สุก สิ่งที่จะต้องคำนึงคือการจับต้องกับอาหารทะเล ที่แช่เย็นมา จะต้องล้างมือให้สะอาด และชำระล้างอาหารทะเล โดยใช้น้ำสะอาดให้มีปริมาณมากพอ และจะต้องทำความสะอาดมือด้วยสบู่ ถ้าเป็นไปได้ควรใส่ถุงมือและล้างถุงมือ หรือใช้แบบครั้งเดียวแล้วทิ้ง ทุกครั้งต้องล้างมือก่อนจับต้องใบหน้า ในระบบนำส่งอาหารทะเล ก็จะต้องมีมาตรการควบคุมดูแลเรื่องความสะอาด ตลอดเส้นทาง อุตสาหกรรมอาหารทะเล โรงงาน จะต้องหมั่นตรวจดูคนงาน และอาจจำเป็นต้องสุ่มตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งอาจไม่มีอาการของโรค อาหารทะเลยังคงรับประทานได้ตามปกติและมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมากโดยเฉพาะ ปลาทะเล แต่ขั้นตอนตั้งแต่ผลิตหรือจับมาจากชาวประมง จำหน่าย การเตรียมมาทำอาหาร ทุกขั้นตอนให้คำนึงเรื่องความสะอาดและความปลอดภัย ในการจับต้องกับอาหารทะเลแช่เย็นหรือแช่แข็ง เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อดิบ ปลาดิบ อาหารทะเลดิบ นอกจากจะไม่สามารถช่วยป้องกันรักษาไวรัสโควิด-19 ได้แล้ว ยังเสี่ยงต่อการเป็นพยาธใบไม้ในตับอีกด้วยpgolfpaotung• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเมายาเผา จยย.ตำรวจราษฎร์บูรณะล็อกหนุ่มเมายาบ้าใช้เจลแอลกอฮอล์เป็นเชื้อเพลิงเผา จยย.ที่จอดหน้าคอนโดมิเนียมข้างชุมชนแจงร้อนวอดไป 4 คัน อ้างระบายแค้นเพราะ 1 ในเจ้าของชอบมาป่วน ตำรวจไม่ค่อยเชื่อคาดว่าจะเกิดจากอาการหลอนมากกว่า เผยก่อนนี้เมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งก่อเหตุเผาแบบเดียวกัน จยย.เสียหายไป 3 คัน ตรวจประวัติเคยถูกจับคดียาเสพติดและลักทรัพย์มาแล้วtiton.26.2009• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยสธ.แถลงความคืบหน้าการผลิตวัคซีนต้าน COVID -19 เผยนักวิจัยไทยผลิตวัคซีนอยู่ในขั้นในการทดลองในสัตว์แล้ววันนี้ (19 เม.ย.2563) กระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าการผลิตวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยว่า ขณะนี้ไทยอยู่ระหว่างการผลิตวัคซีนต้านไวรัส COVID -19 โดยมีทีมวัคซีนไทยแลนด์ นำโดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (สวช.) ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดลและเอกชน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองโควิด 2019naydoitall• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกินไก่บูดแล้วสุขภาพดีไก่บูกทำมาจากสารเสพติดที่ช่วยให้คนมีพลังกำลังที่แข็งแรง สุขภาพดีมีมล้อเลียนสาวน้อยหมวกแดง• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสัญญาณเตือน ตับทำงานหนักมากเกินไปกรณีส่งต่อข้อมูลโดยระบุว่า เมื่อตับมีภาวะโอเวอร์โหลดสารพิษจะสะสมในตับเป็นเวลานานทำให้การทำงานของตับขับสารพิษลดลง สารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายเป็นเวลานานจะทำให้คัน มีเลือดคั่ง ลมพิษตามผิวหนัง และเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับตับ จะมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำกะทันหัน ท้องอืด อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ กลัวเนื้อ เกิดจากการทำงานของตับบกพร่องส่งผลต่อการเผาผลาญอาหารสับสน ทางโรงพยาบาลราชวิถี2(รังสิต) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า เป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากลมพิษ อาการคัน ที่เกิดในผู้ป่วยโรคตับมักเกิดจากการสะสมของสารเหลือง (bilirubin) ไม่ใช่จากสารพิษที่สะสม อาการเหนื่อยล้าผู้บริโภคเฝ้าระวังstd48012• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยใครไปโรงพยาบาลศิริราชโปรดระวังด้วย ข้อมูลล่าสุดจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราชครับ เรียนคณบดี ผู้บริหาร หัวหน้าภาคฯ อาจารย์ แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน วันนี้ทีมผอ รองผอ ร่วมกับทีมวิศวกรรมศิริราช วิศวะมหิดล วิศวะเกษตร สมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย บริษัท PAC บริษัท Meinhard บริษัท วและสหาย บริษัท KLA บริษัท power line บริษัทกรีไทย และบริษัท interpac ได้สำรวจอาคารในศิริราชทั้งวัน รวมถึงหอพัก 8 ไร่ ดำเนินการโดยวิศวะที่มีใบอนุญาตรับรองการตรวจสำรวจ และแบ่งทีมออกสำรวจทั้งหมด 8 ทีม ผลสำรวจอาคารทั้งหมดที่ได้สำรวจ เป็นดังนี้ 1. พบตำแหน่งจุดวิกฤตมาก (สีแดง) ได้แก่ ก. ทางเชื่อมระหว่างตึกสยามินทร์ชั้น 6 กับตึกเฉลิมพระเกียรติฯ ข. ทางเชื่อมระหว่างตึกสยามินทร์(ห้องผ่าตัด)ชั้น 3 กับตึกเฉลิมพระเกียรติ ทั้งสองจุดมีความเสี่ยงสูงมากในการหลุดร่วงทั้งทางเชื่อมตกลงมาชั้น 1 (ทั้งสองทางเชื่อม) (ถ้าไปยืนดูจะเห็นว่าแกว่งอยู่ตลอดเวลา) ซึ่งจะทะลุลงหลังคามายังทางเดินชั้น 1 ระหว่างตึกทั้งสอง จึงต้องปิดตั้งแต่ทางเดิน **ห้ามผ่านเด็ดขาด** ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แผนการแก้ไข จะเริ่มเข้ามาจัดการรื้อหลังคา ตั้งนั่งร้าน ตัดทางเชื่อม โรยส่งลงชั้นล่าง ทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 1.5 เดือน (เริ่มพรุ่งนี้) ผลกระทบ 1.ปิดช่วงทางเดินระหว่างตึกสยามินทร์และตึกเฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่ทางลงบันไดไปชั้น B1 ในด้านศิริราชมูลนิธิ จนถึงทางขึ้น ramp ฝั่งด้านตึกกายวิภาคฯ 2.บุคลากรจะต้องเดินผ่านขึ้นบันไดข้างตึกศิริราชมูลนิธิ ผ่านไปลงที่ ramp 3.การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยรถนั่ง เปลนอน รถเข็นต่างๆ ขึ้นทาง ramp 4.จะรีบดำเนินการสร้าง ramp ชั่วคราวพาดบันไดและเชื่อมไปบริเวณสนามหญ้าหน้าศิริราชมูลนิธิ เพื่อใช้ในการเคลื่อนย้ายรถนั่ง เปลนอน ได้นำเรียนถึงความจำเป็นของการดำเนินการแผนนี้ต่อศิริราชมูลนิธิแล้ว ซึ่งจะมีแผนย้ายจุดรับบริจาคกลับมายังตึกมหิดลบำเพ็ญใหม่อีกครั้ง 2. ตำแหน่งจุดวิกฤตปานกลาง (สีเหลือง) ได้แก่ ก.ทางเชื่อมระหว่างตึกพระศรี 100 ปีและตึกโกศล พบว่าโครงสร้างตึกแข็งแรง แต่พบว่ามีพื้นผิวแผ่นปูนตกลงมาที่ทางเดิน และจะมีโอกาสตกเพิ่มขึ้น การแก้ไข วันนี้เริ่มตั้งนั่งร้านขึ้นแก้ผิวฉาบ แต่ต้องระมัดระวังสายต่างๆที่เชื่อมโยง ใช้เวลาดำเนินการ 5 วัน ในระหว่างนี้จะปิดกันทางเดินตั้งแต่ทางออกตึกพระศรี (ข้างร้าน ณ ศิริราช) ที่ต้องเดินผ่าน ramp และซอกทางเดินระหว่างสองตึกนี้ เนื่องจากเศษปูนมีชิ้นใหญ่มาก ให้เดินผ่านทางหน้าร้าน S&P แทน ข.หอพัก 8 ไร่ จากการตรวจสอบภายในตัวอาคารทั้งสองตึก (ตรวจทุกชั้นรวมที่จอดรถ) ไม่กระทบโครงสร้างใด ๆ เป็นเพียงรอยร้าวของผนังฉาบ แต่พบว่าด้านนอกของอาคาร A&B ด้านปลายทั้งสองฝั่งของทั้งสองตึก มีเศษปูนชิ้นใหญ่ที่สามารถร่วงหล่นลงมา ตึก A จะร่วงลงที่จอดรถด้านนอก ด้านสถานีรถไฟและอีกด้านเป็นด้านคนเดินเข้าตึก ตึก B เป็นด้านติดกับวัดและด้านที่เป็นที่จอดรถหน้าศูนย์ฟอกเลือด การแก้ไข จะต้องโรยตัวลงมากระเทาะพื้นผิวทั้ง 4 ฝั่ง ฉาบพื้นผิวใหม่ ผลกระทบ จะกั้นพื้นที่ช้้น 1 ห้ามจอดรถ ห้ามเดินผ่าน และเข้าแจ้งให้ทางวัดทราบ 3. จุดที่พบว่า ไม่พบความเสียหายต่อโครงสร้างหลัก (สีเขียว) อาคารที่สำรวจมีความปลอดภัยในการใช้งาน ยืนยันไม่มีผลต่อโครงสร้าง ก.ตึกที่พบว่าเป็นการแตกร้าวของผนังฉาบหลายชั้น ได้แก่ ตึกนวมินทรฯ ตึกเฉลิมพระเกียรติฯ ตึกศรีสวรินทราฯ ซึ่งจะดำเนินการเข้าพื้นที่เพื่อซ่อมแซม แก้พื้นผิว ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ไล่ตามตึกที่แจ้ง ข.กระเบื้องห้องน้ำหอผู้ป่วยนวมินฯ 12 ที่กำลังจะหลุด 3 ห้อง และที่แขวนทีวี ได้ดำเนินแก้ไขวันนี้แล้ว ค.ฝ้าที่มีความเสี่ยงหลุดร่วงที่โถงตึกศรีสวรินฯ ชั้น 1 ได้ดำเนินการแก้ไขวันนี้แล้ว (วันนี้มีระดับคนงานจากภายนอกมาเตรียมพร้อมแก้ไขหน้างานเลยประมาณ 30 คน) ง.แผ่นผนังกระเบื้องหินหลังพระรูปปั้นสมเด็จย่า มีความเสี่ยงที่จะหลุดร่วงทั้งสองแผ่น จะรีบดำเนินการแก้ไขในวันพรุ่งนี้ จ.ทางเชื่อมระหว่างศูนย์โรคหัวใจและตึกนวมินฯ มีความแข็งแรงปกติ ในการสำรวจมีการลงนามรับรองในส่วนสีเขียวโดยวิศวกร จึงเรียนมาเพื่อให้ทุกท่านได้เกิดความมั่นใจ และโปรดประชาสัมพันธ์ให้ทุกหน่วยงานทราบถึงผลการสำรวจดังกล่าว ตลอดจนความจำเป็นในการปิดทางสัญจรทางช่่วง ขอบคุณมากครับ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราชผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 8 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยหลังจากติดตามปัญหาคุณภาพอากาศทุกวันมาราวๆ 6 ปีเต็ม มีสิ่งนึงที่ไม่ค่อยมีใครพูดกัน โพสต์นี้ขอสรุปเรื่องการซื้อบ้านครับ ภาพแรก อากาศกรุงเทพตอนกลาง ภาพสอง อากาศกรุงเทพตะวันตก ภาพสาม อากาศกรุงเทพตะวันออก ภาพสี่ อากาศกรุงเทพตอนเหนือ โดยเฉลี่ยแล้ว อย่าซื้อบ้านในโซนกรุงเทพตะวันตกครับ ตะวันตกหมายถึง บางแค ตลิ่งชัน ราชพฤกษ์ ทวีวัฒนา บางใหญ่ ศาลายา โซนนี้อากาศวิกฤติสุด เพราะมีการขยายพื้นที่เกษตรเชิงเดี่ยวจำนวนมากในเขตจังหวัดนครปฐม สมุทรสาคร และปทุมธานี จึงเกิดการเผาเพื่อหมุนคร็อปหนัก และถี่ขึ้นมากจนวิกฤติ โซนที่ไม่ควรซื้อรองมา คือเขตกรุงเทพตอนเหนือ หมายถึงแจ้งวัฒนะขึ้นไป หลักสี่ ดอนเมือง บางเขน สายไหม รังสิต ปทุมธานี เขตนี้เจอรุมจากการเผาเกษตรเชิงเดี่ยว และโรงงานอุตสาหกรรม แต่ถึงโดนรุม ค่ามลภาวะอากาศยังแย่เป็นรองกรุงเทพตะวันตก แต่ก็ถือว่าแย่มากอยู่ดี โซนที่พอซื้อบ้านได้ คือกรุงเทพตะวันออก จริงๆก็แย่ครับ แต่แย่น้อยกว่าตะวันตก และเหนือ เดาว่าการมีสนามบินสุวรรณภูมิอาจทำให้เกิดการควบคุมเกษตรเชิงเดี่ยวมากกว่าบ้าง โซนที่คนเข้าใจผิดหมด ว่าอากาศแย่ แต่ที่จริงอากาศดีสุดกลายเป็นกรุงเทพตอนกลางครับ อารีย์ จิตรลดา บางรัก เพลินจิต พระราม 4 คลองเตย ทองหล่อ พระราม 3 จนถึงแยกบางนา อากาศดีสุด ทำไม? 1. มลภาวะหลักวันนี้คือเกษตรเชิงเดี่ยว และโรงงานอุตสาหกรรม 2. เขตเกษตรเชิงเดี่ยวขนาดใหญ่สุด อยู่ฝั่งกรุงเทพตะวันตก นครปฐม ปทุมธานี รองมาคือกรุงเทพตอนเหนือ ปทุมธานี ที่แถมโรงงานอุตสาหกรรมมาด้วย มาสิ่งสำคัญ ใครจำได้ ยุคปี 90-2000 เขตบางรัก สาทร สีลม ดินแดง เคยเป็นเขตที่มีข่าวเสมอว่าคุณภาพอากาศเข้าขั้นวิกฤติ แต่วันนี้ปัญหาลดลงมาก 3. หากใครสังเกตุดีๆ กรุงเทพตอนกลางมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นเยอะมาก และกำลังเพิ่มขึ้นอีก 4. ปริมาณรถไฟฟ้าราวๆ 70-80% ของ 75,000 คันที่ขายไปในเวลาแค่ 2 ปี ที่ผ่านมาอยู่ในกรุงเทพเป็นหลักจึงลดมลภาวะได้เป็นจำนวนมหาศาล ค่าคุณภาพอากาศฟ้องตรงนี้เลย โพสต์นี้ไม่อยากให้เกิดการ panic แต่อยากเป็นข้อแนะนำถึงการเลือกซื้อบ้าน หาบ้านในโซนพื้นที่ตอนกลางกรุงเทพครับ ไม่ก็ไปทางตะวันออกหน่อย แล้วหลีกเลี่ยงฝั่งตะวันตก กับเหนือให้มาก วิกฤติอากาศพิษกรุงเทพหนักขึ้นมาก คนจะเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นอีกมากเช่นกัน โดยที่คนที่รับผิดชอบได้แก่กระทรวงเกษตร และกระทรวงมหาดไทย ยังไม่ออกมาหาทางแก้ปัญหานี้อย่างไร แถมยังส่งเสริมให้ทำเพิ่มขึ้นด้วย ผลประโยชน์ปุ๋ยมันเยอะครับ จำหน้า รมว.แต่ละคนไว้ดีๆ ตอนเราป่วย เค้าไปอยู่ไหนกันน้า ( Cr: LINE)ข่าวการเมืองสภาพอากาศ เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยคำแนะนำจาก แพทย์หญิง Bonnie Henryโอ๊ยยยยยยยย! สบายใจ อ่านแล้วค่อยหายเครียดลงหน่อย อิอิอิอ แพทย์หญิง Bonnie Henry เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ประจำจังหวัดบริติชโคลัมเบีย แคนาดา ซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกในตำแหน่งนี้ เธอยังเป็นรองศาสตราจารย์ ที่มหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย เธอมีพื้นฐานด้านระบาดวิทยา และเป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้านสาธารณสุขและเวชศาสตร์ป้องกัน เธอยังมาจาก PEI (เกาะปรินซ์เอ็ดเวิร์ด) ภูมิปัญญาของ ดร. บอนนี่ เฮนรี่ 1. เราอาจต้องอยู่กับ COVID-19 เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี อย่าปฏิเสธหรือตื่นตระหนก อย่าทำให้ชีวิตของเราไร้ประโยชน์ มาเรียนรู้ที่จะอยู่กับข้อเท็จจริงนี้ กันเถอะ 2. คุณไม่สามารถทำลายไวรัส COVID-19 ที่เจาะผนังเซลล์ได้ โดยการดื่มน้ำร้อนมากๆ อีกทั้งจะทำให้คุณเข้าห้องน้ำ บ่อยขึ้นด้วย 3. การล้างมือและ รักษาระยะ -ห่-า-ง ทางกายภาพ——สองเมตร ✅ เป็นวิธีที่ดีที่สุด สำหรับการป้องกันของคุณ 4. หากคุณไม่มีผู้ป่วย COVID-19 ที่บ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าเชื้อพื้นผิว ที่บ้านของคุณ 5. ตู้สินค้า ปั๊มน้ำมัน รถเข็น และ ตู้เอทีเอ็ม ไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ หากมีการล้างมือบ่อย จากใช้ชีวิตตามปกติ 6. โควิด -19 ไม่มีความเสี่ยง ที่แสดงให้เห็นว่า COVID-19 ติดต่อทางอาหารได้ 7. คุณสามารถสูญเสียความรู้สึก ในการดมกลิ่น ด้วยอาการแพ้ และการติดเชื้อไวรัสจำนวนมาก 🦠นี่เป็นเพียงอาการไม่เฉพาะเจาะจง ของ COVID-19🦠 8. เมื่ออยู่บ้าน คุณไม่จำเป็นต้อง เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร่งด่วน แล้วไปอาบน้ำ 🖐🏽 ไม่ควรถึงกับหวาดระแวง 9. ไวรัส COVID-19 ไม่ค้างอยู่ ในอากาศเป็นเวลานาน นี่คือการติดเชื้อในระบบ ทางเดินหายใจที่ต้องสัมผัสใกล้ชิด 10. อากาศสะอาด คุณสามารถเดินผ่านสวนและ ผ่านสวนสาธารณะ (เพียงแค่รักษาระยะป้องกัน ทางกายภาพของคุณ) 11. ควรใช้สบู่ธรรมดาเพื่อป้องกัน ไวรัสโควิด -19 🖐🏽 ไม่ใช่สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรีย เพราะนี่คือไวรัส ไม่ใช่ แบคทีเรีย 12. คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ การสั่งอาหารของคุณ แต่คุณสามารถอุ่นทั้งหมด ในไมโครเวฟได้หากต้องการ 13. โอกาสที่จะนำ COVID-19 กลับบ้านพร้อมกับรองเท้า ก็เหมือนกับการถูกฟ้าผ่า 2 ครั้ง ในหนึ่งวัน 👉🏾 ฉันทำงานกับไวรัสมา 20 ปี การติดเชื้อไม่แพร่กระจายแบบนั้น 14. คุณไม่สามารถป้องกันไวรัสได้ ด้วยน้ำส้มสายชู น้ำอ้อย และขิง! #สิ่งเหล่านี้มีไว้เพื่อภูมิคุ้มกัน #ไม่ใช่การรักษา 15. การสวมหน้ากากอนามัย เป็นเวลานาน อาจจะรบกวน การหายใจและระดับออกซิเจน ของคุณลดลง 😷 จงสวมใส่ในฝูงชนเท่านั้น 16. การสวมถุงมือ ก็เป็นความคิดที่ไม่ดีเช่นกัน ไวรัสสามารถสะสมเข้าไปในถุงมือ และแพร่เชื้อได้ง่าย หากคุณสัมผัสใบหน้า ดังนั้นจึงควรล้างมือเป็นประจำ ✅ จะดีกว่า #ภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลง #เมื่อร่างกายอยู่ในสภาพแวดล้อม #ที่ปลอดเชื้อ แม้ว่าคุณจะกินอาหารเสริมภูมิคุ้มกัน แต่ควรจะออกจากบ้าน ไป สวนสาธารณะ / ชายหาด ✅ เป็นประจำ #ภูมิคุ้มกันจะเพิ่มขึ้นตามการสัมผัส ❌ ไม่ใช่โดยการนั่งอยู่บ้านและ บริโภคอาหารทอด / เผ็ด / หวาน และเครื่องดื่มเติมอากาศ 🧠 จงฉลาด ใช้ชีวิต 🗣🦻🏼รับทราบข้อมูล อย่างมีเหตุผล ❌ อย่าวิตก จนเกินไป ✅ ชีวิตจะปลอดภัย 🗣 ——— 🗣 หลังแชร์ข้อมูลนี้ ให้เพื่อนที่ แวนคูเวอร์ แคนาดา 📲 เพื่อนตอบมาว่า @Piangporn ดีใจมากว่าชื่อเสียงคุณหมอหญิง Bonnie Henry ไปถึงเมืองไทยแล้ว คุณหมอท่านน่ารักมากค่ะ คนที่นี่ (แคนาดา) ก็ประทับใจการอุทิศตัว ทำงานหนัก(มาก) เลยมีแฟนคลับ มากมาย ฮับ (เพื่อนที่แคนาดา) ชอบฟังเวลาคุณหมอออกมาแถลงข่าว รายงานสถานการณ์หวัดโควิด พูดเป็นระบบ อิงข้อมูลวิทยาศาสตร์ และที่สำคัญแสดงความเอื้ออาทร ผู้ป่วยและญาติ เจ้าหน้าที่ หมอ พยาบาล ฯลฯ แบบเสมอต้น เสมอปลาย เป็นตัวอย่างของ การแพทย์ที่มีความเป็นมนุษย์ อย่างแท้จริง ทุกครั้งก่อนจบแถลงข่าว คุณหมอจะมีสามคำหลัก เตือนใจประชาชน จนท่องกันได้ คือ BE KIND, BE CALM, BE SAVE.ล้อเลียนMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยปรับเกณฑ์ใหม่ จ่ายเงินเบี้ยผู้สูงอายุ 2566 ไม่ได้ถ้วนหน้า ต้องพิสูจน์ความจน https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/vX2pZWQ?utm_source=lineshareข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยท่านทูตไทยและท่านกงสุลไทยประจำเกาหลีใต้ ฝากเตือนคนไทยที่จะไปเกาหลีใต้ว่า #ห้าม นำยา 7 รายชื่อนี้(ดูหน้าตาฉลากมันได้ในรูปนะ)เข้าเกาหลีใต้เด็ดขาด เพราะมีส่วนผสมสารเสพติดตามกฎหมายของเกาหลีใต้ หากใครฝ่าฝืนนำติดตัวติดกระเป๋าเข้ามา และหากถูก จนท.ศุลกากรเกาหลีใต้ที่สนามบินตรวจพบ ไม่ว่าจะ #รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือโดยเจตนาก็ตาม จะมีโทษจำคุกไม่เกิน10 ปี และยังต้องชำระค่าปรับไม่เกิน100 ล้านวอนอีกดอกนึงด้วย (ราวๆ 2.3 ล้านบาทไทย ) ยาทั้ง7ตัวนี้อยู่ในกลุ่ม ยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอ ยาคลายเครียด มี7ตัวดังนี้ 1.Travan ตัวนี้เป็นยาคลายเครียด ค่อนข้างอันตรายถ้าใช้ส่งเดช 2.Glycoff ตัวนี้เป็นยาแก้หลอดลมอักเสบเรื้อรัง แก้ไอ ขับเสมหะ 3.Iyafin ตัวนี้เป็นยาแก้ไอ ลดน้ำมูก แก้แพ้ ลดเสมหะ 4.Bronpect-D ตัวนี้เป็นยาแก้ไอ หลอดลมอักเสบ แก้ระคายคอ 5.Neo-Codion ตัวนี้เป็นยาแก้ไอ ไอแห้ง ไอที่เกิดจากการระคายเคือง 6.Propofan ตัวนี้เป็นยาลดอาการปวด ลดไข้ แก้อักเสบ 7.Codesia ตัวนี้เป็นยาแก้ไอ ไอเรื้อรัง ปวดเรื้อรังระดับปานกลางขึ้นไปที่ยาแก้ปวดทั่วไปเอาไม่อยู่ ยาตัวนี้ค่อนข้างอันตรายมากนะครับ ซื้อกินเองตายห่ามาเยอะแล้ว ต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์เท่านั้นในการใช้มัน ทั้ง7ตัวนี้มีอยู่2-3ตัวนะที่สกัดมาจาก #ฝิ่น ก็ไม่แปลกหรอกที่เกาหลีใต้เค้าถึงห้ามเอาเข้าบ้านเค้า บางตัวก็มีส่วนผสมของ #สารชนิดเดียวกับสารตั้งต้นในการผลิตยาบ้า 🤔 ปล. : ขอบคุณท่านบัญชา ยืนยงจงเจริญ อัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีใต้ และ ท่านกันติชา ไหลเจริญกิจ หัวหน้าฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีใต้ ทั้ง2ท่านเป็น จนท.ของเราในต่างแดนที่ขยันขันแข็งมากครับ 🙏 ฝากทุกๆท่านแชร์ต่อด้วยนะครับ 😅ผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 7 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยให้เตรียมรับมือกับอุณหภูมิ 40-50 องศา ควรดื่มน้ำสะอาด ดื่มช้าๆ หลีกเลี่ยงน้ำเย็น น้ำแข็ง ขณะนี้ มาเลียเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อน อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ 1. หมอบอกว่า หากร้อนถึง 40 องศา ไม่ควรดื่มน้ำเย็นต่อไป เพราะหลอดเลือดเล็กอาจปริหรือระเบิดได้ เพื่อนของหมอคนหนึ่งมาจากข้างนอก ร้อนจนเหงื่อแตก รีบล้างเท้าด้วยน้ำเย็น ผลคือตามองไม่เห็นต้องรีบเรียกรถพยาบาล 2. หากร้อนถึง 38 องศา ก็ปล่อยร่างกายร้อนไป อย่าดื่มน้ำเย็น ให้ดื่มน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น ค่อยๆ ดื่ม อย่ารีบร้อนล้างขาล้างมือหรือส่วนที่ถูกแดดเผา ควรรอสัก 30 นาทีค่อยอาบน้ำ 3. ชายคนหนึ่งร้อนมากรีบอาบน้ำ อาบเสร็จขากรรไกรแข็ง เป็นสโตรคไปเลย **ข้อควรระวัง** ในหน้าร้อนหรือยามคุณอ่อนเพลีย หลีกเลี่ยงดื่มน้ำเย็นทันที เพราะมันจะทำให้หลอดเลือดหดเล็ก แล้วเป็นสโตรค (สอนลูกหลานด้วย)สุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 8 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเตือนภัยมิจฉาชีพในแอปฯหาคู่ปัจจุบันแอปพลิเคชั่นหรือโซเชียลมีเดียเพื่อการหาคู่ได้รับความนิยมมากของคนทุกวัย เนื่เองจากสามารถเชื่อมต่อหาคู่ได้ทั้งคนไทยและต่างชาติ แต่ความนิยมดังกล่าวก็เป็นช่องโหว่ให้มิจฉาชีพ อาชญากรไซเบอร์เข้ามาใช้เป็นช่องทางในการหลอกลวงเหยื่อด้วยรูปแบบต่าง ๆ จากการสืบค้นข้อมูลในปัจจุบันได้ปรากฏกรณีการใช้แอปพลิเคชั่นหาคู่เป็นช่องทางในการก่ออาชญากรรมโดยต่อเนื่อง เช่นล่าสุดได้ปรากฏว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับคดีทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ได้ใช้แอปพลิเคชั่นหาคู่หลอกลวงเหยื่ออีกราย โดยมีการกักขัง ทำร้ายร่างกาย แต่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือออกมาได้และจับกุมผู้กระทำผิดได้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงมีการออกข่าวสารเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่องให้ผู้ใช้บริการใช้ความระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อผู้ที่พบกันในโซเชียลมีเดียโดยง่าย ขอให้ตรวจสอบประวัติบุคคลที่จะคบหาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะที่เข้ามายืมเงินและให้โอนเงิน ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดอย่าโอนเด็ดขาด ให้สันนิษฐานก่อนว่าเป็นคนร้ายที่เข้ามาหลอกลวง ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ WWW.PRACHACHAT.NET/) ดังนั้นก่อนที่จะใช้แอปฯหาคู่ก็ควรที่จะมีวิธีป้องกันตัวเองด้วยเช่นกัน ดังนี้ 1. ควรระมัดระวังในการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ไม่บอกข้อมูลทั้งหมดกับคนที่เพิ่งรู้จัก เมื่อใช้บริการแอปพลิเคชันหาคู่ออนไลน์ต่าง ๆ 2. ไม่ควรหลงเชื่อ หรือไว้ใจบุคคลใดง่าย ๆ หากมีความจำเป็นต้องนัดเจอ ควรมีเพื่อนหรือผู้ปกครองไปด้วยเพื่อความปลอดภัย 3. พึงระลึกไว้เสมอว่า อะไรที่ดีเกินไป เร็วเกินไป มักจะลงเอยไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นโดยง่าย หากตกเป็นเหยื่อให้เก็บหลักฐานการโอนเงิน ภาพและข้อความการพูดคุยกับคนร้ายทุกช่องทาง แล้วรวบรวมหลักฐานเอกสารนำไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย ) การใช้แอปหาคู่สิ่งที่ควรตระหนักไว้เสมอคืออย่าไว้ใจใครง่ายๆระมัดระวังความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินไว้ให้ดีอย่าประมาทจงมีสติ แค่นี้ก็ปลอดภัยจากภัยรักออนไลน์ได้แล้ว #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมมหาวิทยาลัยมหาสารคาม #อีสานโคแฟค #โคแฟคประเทศไทย #ชมรมสื่อสร้างสรรค์มมส #สื่อสร้างสรรค์มมสofficialwuttikon459• 1 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle3 ความเห็น
- 1 คนสงสัย"เจนธิรา อรรถสกุลชัย" ไฮโซสาวคนดัง พี่สะใภ้อนิชา เจ้าสาวของเจ้าชายมาทีนแต่งงานแล้วจริงหรือไม่?รู้จัก "เจนธิรา อรรถสกุลชัย" ไฮโซสาวคนดัง ขึ้นแท่นว่าที่พี่สะใภ้ ของเจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งบรูไน หลังจากที่มีประกาศพระราชทานพิธีเสกสมรสของ เจ้าชายอับดุล มาทีน โบลเกียห์ แห่งบรูไนดารุสซาลาม กับ อนิชา คาเลบิก ที่จะมีขึ้นในเดือนมกราคม 2567 ก็ทำให้ชื่อของ อนิชา ถูกค้นหาและพูดถึงเป็นอย่างมากในโลกออนไลน์ ในฐานะผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก ที่ได้แต่งงานกับเจ้าชายซึ่งเป็นชายในฝันของสาวๆ ทั่วโลก ซึ่งในประวัติของ อนิชา อิซา-คาเลบิก ที่เผยแพร่ตามสื่อ ปรากฎชื่อของหญิงสาวชาวไทยคือ เจนธิรา อรรถสกุลชัย ซึ่งเป็นภรรยาของ แดเนียล อิซา-คาเลบิก เศรษฐีบรูไนพี่ชายของอนิชา หรือมีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ของอนิชา นั่นเอง รู้จัก "อนิชา" สาวสวยผู้โชคดี ว่าที่พระชายาในเจ้าชายอับดุล มาทีน แห่งบรูไน สำหรับ เจนธิรา อรรถสกุลชัย หรือ เจน ทายาทรุ่นที่ 3 ของบริษัทนมเปรี้ยวชื่อดัง บีทาเกน ดีกรีปริญญาตรี (เกียรตินิยมอันดับ 2) ทางด้าน Global Business Management จาก Regent’s University London ประเทศอังกฤษ ศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจ โดยเฉพาะกลยุทธ์ในการผลักดันต่างประเทศ และเข้ามาสานต่อธุรกิจของที่บ้าน ขยายธุรกิจไปในส่วนของต่างประเทศ ทั้งที่สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว พม่า มาเลเซีย รวมไปถึงเมืองจีน เจนธิรา คบหาดูใจกับ แดเนียล ดีน อิซ่า-คาเลบิก นักธุรกิจชาวบรูไน โดยจัดพิธีสวมแหวนตามประเพณีไทยไปเมื่อปลายปี 2563 และเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมาจูงมือกันเข้า พิธีนิกะห์ หรือพิธีแต่งงานตามหลักศาสนาอิสลาม โดยมี เจ้าชายมาทีน แห่งบรูไน เสด็จพร้อมด้วยพระมารดา และพระเชษฐภคินี มาทรงร่วมแสดงความยินดี ณ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ (Capella Bangkok)มีมnamnami• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอย.ยัน ไม่มีครีม-เซรั่มใด ทาแล้วดั้งพุ่งใน 7 วัน เป็นแค่การอ้างสรรพคุณเกินจริงอย. ชี้แจงไม่มีครีมหรือเซรั่มใด ที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน ได้จริง เป็นเพียงการ กล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ภญ.สุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากกรณีมีผู้แชร์ข้อมูลบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ครีม หรือเซรั่ม ที่สามารถทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกดั้งโด่ง ภายใน 7 วันนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอเรียนว่า โครงสร้างของจมูกประกอบด้วย 2 ส่วน คือ โครงสร้างส่วนด้านบนเป็นกระดูกแข็ง ด้านล่างเป็นกระดูกอ่อน โดยห่อหุ้มด้วยผิวหนังและไขมัน ดังนั้น ครีมที่ทำให้ดั้งโด่งจึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระดูก ส่งผลให้จมูกโด่งอย่างแน่นอน ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับภายนอกร่างกายของมนุษย์ รวมถึงฟันและเยื่อบุในช่องปาก เพื่อความสะอาด ความสวยงาม แต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ การโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ทำให้ดั้งโด่งได้อย่างรวดเร็วภายใน 7 วัน ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณที่โกหกทั้งเพ เพราะครีมหรือเซรั่มเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ผลิตหรือขายผลิตภัณฑ์ที่หลอกลวงสรรพคุณให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ถือเป็นการโฆษณาที่แสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือเกินความจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รองเลขาธิการ อย.กล่าวว่า อย. เคยออกข่าวเตือนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในลักษณะนี้เมื่อปี 2561 และกลับมาวนซ้ำอีกครั้ง ดังนั้นเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการโฆษณา ขอให้ผู้บริโภคหยุดคิดก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีการโฆษณาสรรพคุณต่างๆ ว่า ไม่มีผลิตภัณฑ์ใดสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของร่างกายได้ หากพบเห็นการโฆษณาโอ้อวดเกินจริงขอให้แจ้งร้องเรียนที่สายด่วน อย. 1556std47993• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยห่วงแชร์ข่าวปลอมหายารักษาโควิดเองสถานการณ์ของโควิด-19 ในหลายพื้นที่ยังคงน่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องช่วยกันเฝ้าระวังอีกอย่างในช่วงนี้ คือข่าวปลอม หรือ Fake News การโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ โดยเฉพาะยารักษาโควิด-19 ซึ่งหากใครหลงเชื่อ ก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ถึงขั้นเสียชีวิตได้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนกรณีการแชร์ข้อมูลข่าวปลอมในหัวข้อยา 6 ชนิด ที่เตรียมไว้ใช้รักษาโควิด-19 ด้วยตนเองที่บ้าน โดยทางรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้มีนโยบายในการสร้างการรับรู้ข่าวสารที่ถูกต้องให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนหรือข่าวปลอม (Fake News) จากผู้ไม่หวังดีที่โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งได้มีการตรวจพบข่าวปลอม (Fake News) กรณียา 6 ชนิด ที่เตรียมไว้ใช้รักษาโควิด-19 ด้วยตนเองที่บ้านนั้น ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลกับกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แล้ว ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวนั้น เป็นข่าวปลอม (Fake News) เนื่องจากในการจ่ายยาให้ผู้ป่วยโควิด-19 ต้องได้รับการประเมินจากแพทย์เป็นรายบุคคล เพราะหากเลือกรับประทานยาเอง อาจทำให้เกิดอันตราย จากภาวะแทรกซ้อนของยาได้ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่งต่อ หรือแชร์ข้อมูล จนกว่าจะตรวจสอบความถูกต้องให้ชัดเจนเสียก่อน เพื่อมิให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกในสังคม และเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ เพราะในปัจจุบันนี้มีข่าวปลอมในลักษณะนี้เกิดขึ้นทุกวัน การกระทำของผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2), (5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอม และผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไปpeekapatpeekapat• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสมุนไพรขันทองพยาบาท รักษาโรคมะเร็งจะเป็นฝีหรือน้ำเหลืองเสีย 🚫ขันทองพยาบาทแก้ปัญหานี้ได้ ❗️❗️ แก้โรคผิวหนัง แก้ไข้ แก้พิษในกระดูก แก้มะเร็งคุดทะราด แก้กามโรค แก้กลากเกลื้อน แก้ลมพิษ แก้ประดงผื่นคัน แก้ประดง ฆ่าพยาธิ แก้โรคเรื้อน แก้ลมและโลหิตเป็นพิษ ราก รสเมาเบื่อร้อน แก้ประดง แก้พิษในกระดูก แก้ลม แก้โรคผิวหนัง รักษาน้ำเหลืองเสีย เปลือกต้น รสเมาเบื่อ แก้ลมเป็นพิษ แก้โรคตับพิการ แก้ปอดพิการ แก้โรคผิวหนัง ❗️❗️ข้อแนะนำการทาน "ขันทองพยาบาท"❗️❗️ อักเสบไม่มาก : ทานก่อนอาหาร 10 - 20 นาที ครั้งละ 2 เม็ด เช้า - เย็น อักเสบ มีหนอง ปวดมาก : ทานก่อนอาหาร 10 - 20 นาที ครั้งละ 3 - 4 เม็ด เช้า – เย็น หมายเหตุ : สามารถปรับการรับประทานให้เหมาะสมตามอาการ แนะนำงดของกินต้องห้ามระหว่างการรักษา 🚫กลุ่มที่ไม่ควรทาน🚫 📍สตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร 📍ทานได้ตั้งแต่ 5 ขวบขึ้นไป 📍ผู้ที่มีไข้ 📍ผู้ที่มีค่าไตต่ำกว่า 90 📍โรคมะเร็ง ระยะ 3-4 ยาแผนโบราณ เลขทะเบียนที่ G 166/55 1 กระปุก 50 แคปซูล #ขันทองพยาบาท #ฝีหนอง #น้ำเหลืองเสีย #โรคผิวหนังเรื้อรัง #แผลหายยาก #โรคมะเร็งstd46766• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยให้เตรียมรับมือกับอุณหภูมิ 40-50 องศา ควรดื่มน้ำสะอาด ดื่มช้าๆ หลีกเลี่ยงน้ำเย็น น้ำแข็งให้เตรียมรับมือกับอุณหภูมิ 40-50 องศา ควรดื่มน้ำสะอาด ดื่มช้าๆ หลีกเลี่ยงน้ำเย็น น้ำแข็ง ขณะนี้ มาเลียเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อน อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ 1. หมอบอกว่า หากร้อนถึง 40 องศา ไม่ควรดื่มน้ำเย็นต่อไป เพราะหลอดเลือดเล็กอาจปริหรือระเบิดได้ เพื่อนของหมอคนหนึ่งมาจากข้างนอก ร้อนจนเหงื่อแตก รีบล้างเท้าด้วยน้ำเย็น ผลคือตามองไม่เห็นต้องรีบเรียกรถพยาบาล 2. หากร้อนถึง 38 องศา ก็ปล่อยร่างกายร้อนไป อย่าดื่มน้ำเย็น ให้ดื่มน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น ค่อยๆ ดื่ม อย่ารีบร้อนล้างขาล้างมือหรือส่วนที่ถูกแดดเผา ควรรอสัก 30 นาทีค่อยอาบน้ำ 3. ชายคนหนึ่งร้อนมากรีบอาบน้ำ อาบเสร็จขากรรไกรแข็ง เป็นสโตรคไปเลย **ข้อควรระวัง** ในหน้าร้อนหรือยามคุณอ่อนเพลีย หลีกเลี่ยงดื่มน้ำเย็นทันที เพราะมันจะทำให้หลอดเลือดหดเล็ก แล้วเป็นสโตรค (สอนลูกหลานด้วย)สภาพอากาศMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 3 คนสงสัยให้เตรียมรับมือกับอุณหภูมิ 40-50 องศา ควรดื่มน้ำสะอาด ดื่มช้าๆ หลีกเลี่ยงน้ำเย็น น้ำแข็งให้เตรียมรับมือกับอุณหภูมิ 40-50 องศา ควรดื่มน้ำสะอาด ดื่มช้าๆ หลีกเลี่ยงน้ำเย็น น้ำแข็ง ขณะนี้ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อน อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ 1. หมอบอกว่า หากร้อนถึง 40 องศา ไม่ควรดื่มน้ำเย็นต่อไป เพราะหลอดเลือดเล็กอาจปริหรือระเบิดได้ เพื่อนของหมอคนหนึ่งมาจากข้างนอก ร้อนจนเหงื่อแตก รีบล้างเท้าด้วยน้ำเย็น ผลคือตามองไม่เห็นต้องรีบเรียกรถพยาบาล 2. หากร้อนถึง 38 องศา ก็ปล่อยร่างกายร้อนไป อย่าดื่มน้ำเย็น ให้ดื่มน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น ค่อยๆ ดื่ม อย่ารีบร้อนล้างขาล้างมือหรือส่วนที่ถูกแดดเผา ควรรอสัก 30 นาทีค่อยอาบน้ำ 3. ชายคนหนึ่งร้อนมากรีบอาบน้ำ อาบเสร็จขากรรไกรแข็ง เป็นสโตรคไปเลย **ข้อควรระวัง** ในหน้าร้อนหรือยามคุณอ่อนเพลีย หลีกเลี่ยงดื่มน้ำเย็นทันที เพราะมันจะทำให้หลอดเลือดหดเล็ก แล้วเป็นสโตรค สอนลูกหลานด้วยสภาพอากาศMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: mostly-false--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยท่านใดขับรถไปเสียที่ไหน ในประเทศไทย โทร. 02-354-6324 เป็นเบอร์โครงการหน่วย ตำรวจช่าง ในโครงการ พระราชดำริ(ร.9 ต่อ ร.10) สามารถช่วยท่านได้ทุกที่ จะโทรสอบถามอาการ แล้วเตรียมพร้อมที่จะมาช่วยให้คุณสามารถเดินทางไปต่อได้ด้วยพระมหากรุณาธิคุณฯ อันหาที่สุดมิได้..สุดปัง //ท่านใดขับรถไปเสียที่ไหน ในประเทศไทย โทร. 02-354-6324 เป็นเบอร์โครงการหน่วย ตำรวจช่าง ในโครงการ พระราชดำริ(ร.9 ต่อ ร.10) สามารถช่วยท่านได้ทุกที่ จะโทรสอบถามอาการ แล้วเตรียมพร้อมที่จะมาช่วยให้คุณสามารถเดินทางไปต่อได้ จ่ายเงินเฉพาะ ค่าอะไหล่ ที่นำมาให้ ไม่รับเงินค่าอื่นๆ แค่ขอถ่ายรูป 1 อุบลราชธานี 0-4535-2600-09 2 นครราชสีมา 0-4242-0250-99 3 ขอนแก่น 0-4324-0250-98 4 เชียงใหม่ 0-5392-0750-51 5 พิษณุโลก 0-5523-6400 6 นครปฐม 0-3424-0650 7 สุราษฎร์ธานี 0-7727-7600 8 อุดรธานี 0-4221-5750-99 9 ชลบุรี 0-3893-2600-08 10 สงขลา 0-7431-7301-30 11 ปทุมธานี 0-2598-8191 12 พระนครศรีอยุธยา 0-3524-9750 13 ฉะเชิงเทรา 0-3850-0099 14 ศรีสะเกษ 0-4582-9799 15 ร้อยเอ็ด 0-4361-9799 16 เชียงราย 0-5391-0788 17 นครสวรรค์ 0-5621-9099 18 นครศรีธรรมราช 0-7530-4600 19 พัทลุง 0-7460-9977 20 กาญจนบุรี 0-3452-7600-49 21 ลำปาง 0-5423-7090 22 ระยอง 0-3892-8090 23 สภ.หัวหิน 0-3261-8090 24 ภูเก็ต 0-7636-0790 25 นราธิวาส 0-7351-7990 26 ราชบุรี 0-3271-9798 27 กาฬสินธุ์ 0-4380-9799 28 เพชรบูรณ์ 0-5671-7799 29 ปัตตานี 0-7334-5999 30 สระบุรี 0-3624-0698 31 สมุทรสาคร 0-3441-9780 32 สมุทรปราการ 0-2338-0090 33 จันทบุรี 0-3931-9790 34 ยะลา 0-7322-0890 35 ตรัง 0-7520-1990 36 กระบี่ 0-7562-7900 37 กำแพงเพชร 0-5571-8490 38 ลำพูน 0-5356-9790 39 บุรีรัมย์ 0-4460-4090 40 นครพนม 0-4253-9790 41 นนทบุรี 02-528-7490 42 สุพรรณบุรี 035-514-000 43 ชัยนาท 056-459-639 44 ลพบุรี 036-418-900 45 ชัยภูมิ 044-815-000 46 พิจิตร 056-609-739 47 ตาก 055-518-000 48 สุโขทัย 055-609-739 49 แพร่ 054-539-739 50 พะเยา 054-409-739 51 น่าน 054-683-000 52 เลย 042-808-739 53 หนองบัวลำภู 042-318-739 54 หนองคาย 042-415-000 55 สกลนคร 042-700-739 56 มุกดาหาร 042-629-739 57 ยโสธร 045-709-739 58 สุรินทร์ 044-710-739 59 สระแก้ว 037-240-740 60 ปราจีนบุรี 037-239-098 61 นครนายก 037-307-000 62 สมุทรสงคราม 034-719-740 63 เพชรบุรี 032-709-740 64 ชุมพร 077-529-739 65 พังงา 076-401-439 66 สตูล 074-709-739 67 ระนอง 077-819-739 68 สิงห์บุรี 036-509798-99 69 อ่างทอง 035-617098-99 70 ตราด 039-552900-01 71 อำนาจเจริญ 045-519200-01 72 มหาสารคาม 043-719698-99 ฝากแชร์กันต่อๆด้วยนะครับผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: false3 ความเห็น
- 1 คนสงสัย13 สิทธิผู้สูงอายุ13 สิทธิผู้สูงอายุ 1. เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 60-69 ปี 600 บาท/เดือน 2. ลดหย่อนค่าโดยสาร 50% ขสกมก เรือโดยสาร MRT BTS Airport Rail link 3. ลูกขอลดหย่อนภาษีเลี้ยงดูบิดามารดา คนละ 30,000 บาท/ปี 4. ปรับสภาพที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุที่ยากจน กรมกิจการผู้สูงอายุ ส.น.ง.พัฒนาความมั่นคงและสังคมของมนุษย์ พ.ม.จ. เหมาจ่าย 22,500-40,000 บาท 5. กู้ยืมเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพปลอดดอกเบี้ย วงเงิน 30,000 บาท/คน หรือ 100,000 บาท/กลุ่มไม่น้อยกว่า 5 คน ต้องมีผู้ค้ำประกัน ผ่อนชำระรายเดือน ภายใน 3 ปี 6. สิทธิ์ทางอาชีพ ข้อมูลสมัครงาน หลักสูตรอบรม สำนักจัดหางาน กระทรวงแรงงาน 7. การบริการสาธารณะ และสิ่งอำนวยความสะดวกในการเที่ยว พิพิธภัณฑ์ โบราณสถาน หอจดหมายเหตุแห่งชาติ มีลิฟท์ ราวบันไดทางลาด จอดรถ จ.น.ท. อำนวยความสะดวก 8. เรียนรู้ตลอดชีวิต โดย ก.ศ.น. กระทรวงศึกษา 9. สิทธิ์ทางการแพทย์และบริการสาธารณสุข ช่องทางด่วน 10. ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย ให้คำปรึกษาแนะนำช่วยเหลือ ค่าทนาย ค่าธรรมเนียมขึ้นศาล ค่าปล่อยตัวชั่วคราว โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม 11. ยกเว้นค่าเข้าชมสถานที่ของรัฐ เช่น พิพิธภัณฑ์ อุทยานแห่งชาติ สวนพฤกษศาสตร์ สวนสัตว์ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 12. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมสังคม กิจกรรมชมรมผู้สูงอายุ สวนสุขภาพ สนามกีฬา ศูนย์กีฬาในร่มลดค่าสมัครสมาชิก50% 13. ช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ถูกทารุณกรรมทอดทิ้งหาประโยชน์ โดย กระทรวง พ.ม. รักษาพยาบาล ดำเนินคดี จัดหาที่พักที่ปลอดภัย ฟื้นฟูสภาพร่างกายจิตใจ ขอรับเงินช่วยเหลือค่าอาหาร เครื่องนุ่งห่มวงเงิน 3,000 บาท 3 ครั้ง/คน/ปี ยากจนขาดคนดูแลขอเข้าใช้บริการที่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ ผู้จัดการศพขอรับค่าจัดงานศพวงเงิน 3,000 บาท จาก ส.น.ง.เขต อ.บ.ต. ส.น.ง.เทศบาล ภายใน 6 เดือน หลังออกใบมรณบัตรแล้ว รายละเอียดเพิ่มเติม ศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทร 1300 https://www.youtube.com/watch?v=mRYly1KSRQQ&feature=youtu.beMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
