1543 ข้อความ
- 1 คนสงสัยส.ว. เย้ยอาจมีเพียง 5 คน โหวตหนุน “พิธา” นั่งนายกฯ หากยังดันแก้ ม.112วันที่ 26 มิถุนายน นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ "กรรมกรข่าว คุยนอกจอ" ถึงทิศทาง ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ตอนหนึ่งว่า ไม่จริง ซึ่งสิ่งที่เขาเสนอไปตนไม่อยากให้ประชาชนสับสน เพราะจริงๆแล้ว วุฒิสภาให้ความสำคัญเกี่ยวกับข้อเสนอแก้ไข ม.112 โดยได้พูดและยืนยันมาตั้งแต่แรก แม้เรื่องแก้มาตรา 112 จะไม่ได้ระบุใน MOU แต่ก็ยังเป็นเรื่องสำคัญที่นายพิธา และพรรคก้าวไกล เสนอที่จะทำเรื่องนี้ต่อไป เราก็ไม่เห็นด้วยเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญTunchanok Saetia• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินน้ำแข็งที่มีเชื้อโควิด เราจะติดโควิดหรือไม่ข้อสงสัยว่า เชื้อโควิด-19 ปนเปื้อนในน้ำแข็งได้หรือไม่ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยกับทีมข่าวพีพีทีวีว่า โอกาสที่เชื้อจะปนเปื้อนไปในน้ำแข็ง “ขึ้นอยู่กับกระบวนการผลิต” ถ้าผู้ติดเชื้อไม่ได้อยู่ในกระบวนการผลิตน้ำแข็งที่ผลิตออกมาก็จะมีความปลอดภัย แต่ถ้ามีคนติดเชื้อเข้าไปอยู่ในกระบวนการผลิตหรือสัมผัสกับตัวน้ำแข็ง เชื้อที่ปนเปื้อนจะอยู่ได้ 2-3 ชั่วโมง แต่ถ้ามีความชื้นสูงและมีความเย็นมากขึ้นเชื้ออาจจะอยู่ได้นาน 2-3 วันMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยหลังสิ้นสุดสมบัติยุค "ท่านเซอร์" เผยชื่อ 5 รับใช้ "แมนยูฯ" ยาวนานที่สุดในปัจจุบันวันที่ 11 ก.ค. 66 ภายหลังสิ้นสุดสมบัติในยุค เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เมื่อ ดาบิด เด เคอา นายทวารชาวสเปน ต้องอำลาทีมไป ปิดฉากช่วงระยะเวลา 12 ปี กับสโมสรต้นสังกัด หลังไม่อยู่ในแผนการทำทีมระยะยาวของ เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมคนปัจจุบันชาวเนเธอร์แลนด์ ที่ต้องการผู้รักษาประตูที่เล่นด้วยเท้าได้ดี นั่นทำให้มือกาววัย 32 ปี ต้องระเห็จออกไป ตาม ฟิล โจนส์ ที่หมดสัญญาและจากทีมไปแบบเงียบๆstd46610• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย"ใจถึงพุทธ" เผยเหตุผลทำไมถึงดื่มฉี่ แถมเอามาล้างตา ล้างจมูก ล้างแผล"ใจถึงพุทธ" หนึ่งในผู้ที่หันมาดื่มน้ำปัสสาวะตัวเอง แถมเอามาใช้ล้างตา ล้างจมูก ล้างแผล เผยสาเหตุในหนึ่งพระไตรปิฎก มีกล่าวไว้ว่า น้ำปัสสาวะเป็นยาstd47617• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเหม็นเหมือนอะไรตาย ตะลึง เห็ดมือผีโผล่สวนหย่อม จดเลขที่บ้าน-นับนิ้วตีเลขเด็ดเจอเห็ดหน้าตาประหลาดโผล่อยู่ในบ้านน้องสาว ลักษณะคล้ายกับมือคน มีกลิ่นเหมือนซากสัตว์แห้งๆตาย ถามว่าเห็ดอะไรก็ไม่มีใครรู้เลยต้องรบกวนอากูให้ช่วยไขคำตอบ คำตอบที่ได้คือ #เห็ดมือผี หรือ #เห็ดปลาหมึก น้องสาวบอก ว่าอยู่ๆมันโผล่ขึ้นมา ที่เห็นคือดอกที่ 2 ดอกแรกเด็ดทิ้งไปแล้วเพราะกลิ่นเหมือนหนูตายแถมมีแมลงวันตอม ถามว่ามันขึ้นได้อย่างไรยังหาคำตอบไม่ได้?? แต่ที่แน่ๆ คือเป็นเห็ดที่หายากเป็นอันดับ 2 ของโลก เปิดดูในยูทูปว่ากันว่าถ้าเห็ดนี้ขึ้นบ้านไหนเจ้าของบ้านจะมีโชคลาภ ป.ล.บ้านน้องสาวเลขที่ 85/66 เผื่อได้มีโชคลาภกันถ้วนหน้า#เด็กเลหลงกรุง"เกีย มึน'น• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยน้ำท่วมอุทกภัย ที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งมักมีสาเหตุ และมีสัญญาณเตือนมาก่อนแล้ว ดังนั้นเราจึงควรเรียนรู้ว่าอะไรคือปัจจัยของการเกิดเหตุ รวมถึงวิธีเตรียมตัวในการรับมือสภาพอากาศkewrinbangnachati• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย[ข่าวปลอม] ผลิตภัณฑ์ Lutiana VIS ช่วยบำรุงสายตา และฟื้นฟูการมองเห็น[ข่าวปลอม] ผลิตภัณฑ์ Lutiana VIS ช่วยบำรุงสายตา และฟื้นฟูการมองเห็น กรณีที่มีการโฆษณาถึงสินค้าข้างต้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่มีการยื่นข้อมูลประสิทธิผลในการบำรุงสายตา และฟื้นฟูการมองเห็นตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่มีผลในการ บำบัด บรรเทา หรือรักษาโรคและต้องแสดงคำเตือนดังกล่าวบนฉลาก 14 มิ.ย. 65อย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังชุมพล ศรีสมบัติ• 3 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแผนการยึดครองประเทศไทยภายใน 10 ปีตื่นเถิดพี่น้องชาวไทยผู้ใจบุญทั้งหลายก่อนที่ลูกหลานเหลนโหลนไทยจะไม่มีแผ่นดินจะอยู่ นี่คือเรื่องจริงไม่ใช่นิยายได้โปรดพิจารณาช่วยกันยับยั้ง เพราะสถานการณ์ปัจจุบันมันเป็นจริงตามที่กล่าว แผนการยึดครองประเทศไทยภายใน 10 ปี https://youtu.be/8DbLvbEfR_8ข่าวการเมืองภาคใต้อันดามันผู้บริโภคเฝ้าระวังมีมMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยhttps://youtu.be/CMCQBr8hQhoไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยมะเร็ง กับ มะนาว🟣 ถ้ารักตัวเองก็อ่าน.. ถ้าคิดแค่อยู่แค่วันนี้ พรุ่งนี้ไม่สน ไรจะเกิดก็เกิด ก็ปัดผ่านไป... 👉ขอเล่า.. ผมได้ไปตรวจสุขภาพ ทำอัลตราซาวน์ เมื่อปลายปี 59 พบติ่งเนื้อในถุงน้ำดี ยาว 4 มม. หมอบอกไม่เป็นไร ถือว่าผิดปกติเล็กน้อย อีก 6 เดือน ให้ไปอัลตราซาวน์ใหม่ ครั้งที่ 2 รอบนี้พบว่า ติ่งเนื้อ มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 6 มม. หมอบอก ยังไม่เป็นไรอีก อีก 6 เดือน ให้ไปอัลตราซาวด์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ผมไม่ได้ไปตามนัด คิดว่าจะไม่ไปแล้ว จนกระทั่ง เลยกำหนดไป 2 เดือนกว่า ลูกๆจึงขอร้องให้ไปตรวจ จึงได้ไปทำ อัลตร้าซาวน์อีกครั้ง เป็นครั้งที่ 3 คราวนี้พบว่า ติ่งเนื้อเดิม เพิ่มขนาดขึ้นเป็น 1 ซม. หมอบอก ควรผ่าตัดถุงน้ำดีออก เพราะหากปล่อยไว้ ติ่งเนื้อ อาจกลายเป็น เนื้อร้ายได้ (ผมตรวจที่ โรงพยาบาลเอกชน ที่กรุงเทพฯ) เมื่อสอบถามค่าใช้จ่าย เห็นว่าสูงพอสมควร จึงขอประวัติ ไปรักษาต่อเนื่อง ที่โรงพยาบาลรัฐบาล (ผมใช้สิทธิ์ ข้าราชการ เบิกค่าใช้จ่ายได้) เป็นโรงพยาบาลใหญ่ ในกรุงเทพฯ เช่นกัน หมอดูผลตรวจแล้ว แนะนำว่า หากติ่งเนื้อ มีขนาดใหญ่กว่า 1 ซม. ควรผ่าตัดถุงน้ำดีออก ไม่ควรเก็บไว้ โดยท่านให้เวลาอีก 4 เดือน เพื่อมาอัลตราซาวด์ ซ้ำอีกครั้ง ก่อนผ่าตัด ผมกลับบ้านที่ นครศรีธรรมราช เล่าให้บางคนได้ฟัง หลังพูดคุยกับ คุณณัชชา ปรีชา (ติ้ม) ได้แนะนำ ให้ผมดื่ม น้ำมะนาวในน้ำร้อน ผมจึงทำดื่มมาตลอด โดยใช้มะนาวสด วันละประมาณ ครึ่งลูก หั่นเป็นแว่นบางๆ 4-5 แว่น ใส่แก้วรินน้ำร้อนใส่ วางไว้ให้เย็น ดื่มหมดแก้ว เติมน้ำร้อนใหม่ ดื่มซ้ำไปตลอดวัน แล้วจึงเททิ้ง ในตอนเย็น ทำอยู่ 3 เดือน ก่อนไปพบหมอ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 61 ผมได้มาทำอันตราซาวน์ อีกครั้ง ตามกำหนด และนัดฟังผลตรวจ ในวันที่ 2 พ.ย. 61 ตามนัด หมอบอก ไม่พบเห็น ติ่งเนื้อ ในถุงน้ำดีแล้ว แต่เห็นเป็นก้อนนิ่ว เล็กๆ ขนาดใหญ่สุด 5 มม. หมอถามผมว่า มีอาการอย่างไรบ้าง ผมเล่าตามตรงว่า ไม่มีอาการอะไรผิดปกติเลย หมอจึงว่า ถ้าอย่างนั้น ไม่ต้องผ่าตัด อีก 6 เดือน (28 เม.ย.62) ค่อยมาตรวจซ้ำ เพื่อตรวจเช็ค ว่าเป็นอย่างไรบ้าง จึงบอกมายังทุกท่านว่า ‘การดื่มน้ำมะนาว ในน้ำร้อน’ ตามที่ผม ได้ทดลองด้วยตนเอง ได้ผลดังที่กล่าว ตามบทความข้างล่างนี้ ลองอ่านดูนะครับ อาจจะยาวไปสักนิด แต่มีประโยชน์มาก ขอบคุณเพื่อนณัชชา ปรีชา ที่แนะนำเคล็ดลับดีๆ ขอบคุณ คุณหมอ ที่คิดค้นวิจัย และเผยแพร่ เป็นอย่างสูง (หลังเมษายน 2562 ผลเป็นอย่างไร จะมาแจ้งความคืบหน้า ให้ทราบกัน อีกครั้งนะครับ เสถียร วัฒนาพันธุ์ 3 พ.ย. 61 ------------ **น้ำมะนาวร้อน ในโรงพยาบาลกองทัพบก แห่งกรุงปักกิ่ง (北京เป่ยจิง) มีศาสตราจารย์ท่านหนึ่ง ชื่อเฉินฮุ้ยเหยิน กล่าวหนักแน่นว่า "ถ้าท่านผู้ใด ได้รับเอกสารนี้ แล้วสามารถส่งต่อๆไป ให้ผู้อื่นอีก ร่วมๆ 10 คนแล้ว แน่นอนที่สุด เราก็จะสามารถ ช่วยเหลือ ชีวิตคนอื่นๆอีก ได้อย่างน้อยๆ ก็ 1 คน” ผมได้ทำสิ่งนี้แล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านสามารถ ทำสิ่งนี้ด้วย ขอขอบคุณมากๆ น้ำมะนาวร้อนนี้ สามารถช่วยชีวิตของคุณ ได้ดีตลอดไป แม้คุณจะยุ่ง แค่ไหนก็ตาม ก็ขอให้คุณเปิดอ่าน ข้อความเหล่านี้ แล้วส่งต่อไป ให้คนที่คุณรักทุกๆคน ได้รับทราบ น้ำมะนาวร้อนนี้ ทำหน้าที่ฆ่าเซลมะเร็ง ให้ท่านนำมะนาว มาผลหนึ่ง แล้วทำการฝาน เป็นแว่นบางๆ นำมันใส่ลง ในแก้วน้ำ เทน้ำร้อนลงในแก้ว ทิ้งไว้สักครู่ น้ำมะนาว ก็จะกลายสภาพ เปลี่ยนเป็น * ด่าง * ทำดื่มมันทุกๆวัน มีผลดีต่อสุขภาพ ของทุกๆคน น้ำมะนาวร้อนนี้ มันจะปลดปล่อย สารรสขม ที่ต้านมะเร็งออกมา นี่คือความคืบหน้า ทางการแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับ การบำบัด รักษาโรคมะเร็ง น้ำมะนาวที่เราแช่เย็นไว้ มันมีแค่วิตามิน ซี อย่างมะเขือเทศ ที่นำมาต้มสุก ก็มีแต่สารไลโปซีน น้ำมะนาวร้อนนี้ มีผลต่อการทำลายซีส และเนื้องอกต่างๆ ได้พิสูจน์ ให้เห็นแล้วว่า น้ำมะนาวร้อน สามารถรักษา โรคมะเร็ง ได้ทุกชนิด ใช้สารสกัด จากมะนาว มารักษาโรคมะเร็ง มาทำลายล้าง เซลมะเร็งร้าย ให้หมดไป น้ำมะนาวร้อน จะไม่ไปทำลาย และกระทบกระเทือน ต่อเซลที่แข็งแรงดีอื่นๆ ในร่างกายเลย นอกจากนี้ ในน้ำมะนาวร้อน ยังมีกรดซีตริก และกรดฟีนอล สามารถไปปรับระดับ ความดันสูง และยังช่วยป้องกัน ไม่ให้เกิดเส้นเลือดตีบ ปรับการไหลเวียน ของเลือดให้ดีขึ้น ลดการจับกัน จนแข็งตัวของเลือด หากอ่านข้อความเหล่านี้จบแล้ว ขอได้โปรดบอกต่อๆ ให้คนอื่นๆ คนในครอบครัว ญาติๆเพื่อนๆ และขอให้ ดูแลสุขภาพ ของตัวท่านเอง ให้มีสุขภาพแข็งแรง อยู่อย่างสม่ำเสมอนะครับยาสมุนไพรมะเร็งMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 3 คนสงสัยคนที่ชอบ swab บ่อยๆ อดทนอ่านสักนิดนะ อันนี้เค้าแปลไทยมาให้แล้ว บรรทัดต่อบรรทัด ว่ามันอันตรายยังไง แบบไหน เพราะอะไร Cr : Ramone Jira ⏩เหตุใดหน่วยงานภาครัฐจึงยังดึงดันที่จะบังคับใช้ TR-PCT test เป็น Gold Standard ในการวินิจฉัยผู้ติดเชื้อ Covid ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และบ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จะบ่อยได้ในบุคคลเดิม ⏩ทั้งที่เทคนิคนี้ได้รับการพิสูจน์อย่างกว้างขวางโดยนักวิทยาศาตร์และบุคลากรทางการแพทย์กว่าห้าหมื่นคนทั่วโลกแล้วว่าเป็นวิธีที่เชื่อถือไม่ได้ ⏩ให้ผลบวกลวง หรือ False Positive มหาศาลกว่า 90% และแม้แต่ Dr. Kary Mullis ผู้คิดค้นเทคนิคนี้เอง ยังยืนกรานออกสื่อหลายครั้งว่ามันไม่เที่ยงตรงและนำไปสู่การแปลผลผิดพลาดได้ ❓เหตุใดจึงเลือกวิธีล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะของพวกเราอย่างมากทั้งที่สามารถทำได้ง่ายจากการตรวจวิเคราะห์น้ำลาย 📌การสอดไม้ Swab เข้าไปกว้านลึกถึงเพดานจมูกสามารถสร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อพังผืดที่ห่อหุ้ม Olfactory Nerve 📌ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพและอายุขัยของมนุษย์ เนื่องจาก olfactory nerve เป็นปราการด่านหนึ่งในสองของกะโหลกศรีษะ ⏩ซึ่งเชื่อมระหว่างโพรงจมูกกับสมอง ที่ไวรัสและแบคทีเรียสามารถเดินทางข้าม blood-brain barrier เข้าสู่สมองได้ 📌นอกจากนี้ olfactory nerve ยังเป็นเซลล์ชนิดเดียวในกะโหลกศรีษะที่มี stem cells เรียกว่า olfactory ensheathing cells ที่ล้อมรอบเซลล์รับกลิ่น olfactory sensory axons ส่วนที่ยื่นออกมาจากเซลล์ประสาท neuron ⏩ทำหน้าที่ส่งผ่านกระแสประสาทจากเซลล์ร่างกาย พวกมันทำหน้าที่ปกป้อง olfactory nerve และช่วยการสร้างเซลล์ใหม่เมื่อเกิดความบาดเจ็บเสียหาย (สเต็มเซลล์ชนิดนี้มีความพิเศษมากจนถูกนำไปใช้ในการซ่อมแซมไขสันหลังบาดเจ็บและรักษาโรคทางสมองหลายชนิดในการแพทย์ปัจจุบันอย่างประสบความสำเร็จ) ⏩นอกจากนี้ olfactory ensheathing cells ยังช่วยเป็นภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด ✅เนื่องจากมันประพฤติตัวเป็น phagocytic กล่าวคือ จับกินและย่อยสลายเชื้อโรคได้ 📌ดังนั้น มันจึงเป็นปราการสำคัญที่ช่วยป้องกันสมองโดยระบบภูมิคุ้มกันธรรมชาติของร่างกาย โดยเซลล์ประสาท Olfactory และ neuron bulb มีอายุขัย 4-8 เดือน ก่อนจะถูกแทนที่อย่างต่อเนื่องด้วย neuron stem cell อย่าง olfactory ensheathing cells ⏩มันช่วยส่งเสริมการอยู่รอดของเซลล์ประสาทและช่วยในการขยายตัวของ axon 📌จากงานวิจัยล่าสุด แสดงให้เห็นว่า หาก olfactory ensheathing cells สูญเสียความสามารถในการสร้างใหม่หรือซ่อมแซมตัวเองไป ‼️จะทำให้โอกาสการเสียชีวิตภายใน 5 ปี ในผู้ใหญ่วัย 57 – 85 ปี เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 4 เท่าตัว 📌การทำงานของ olfactory จึงเสมือนเป็นเครื่องทำนายความสามารถในการดำรงชีวิตภายใน 5 ปี เป็นสัญญาณเตือนเมื่อการสร้างใหม่ของเซลล์ช้าลง และใช้เป็นเครื่องบ่งชี้เมื่อมีการสะสมสารพิษที่สัมผัสจากสิ่งแวดล้อม ‼️ Olfactory nerve ที่เสียหายเสมือนป้อมปราการสู่สมองถูกทำลาย ทำให้ง่ายต่อการถูกโจมตีด้วยสิ่งแปลกปลอมและส่งผลอันตรายถึงแก่ชีวิต 📌การ swab PCR เป็นระยะ จนทำลายความสามารถในการสร้างใหม่ต่อ Olfactory nerve ทำให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในผู้ใหญ่อายุ 57 – 85 ปี ซึ่งเป็นประชากรกลุ่มผู้สูงอายุ ‼️การทดสอบ PCR test มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเสียหายครั้งแล้วครั้งเล่าต่อ Olfactory nerve 📌ทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ⏩ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อนี้ได้ถูกนำไปสนับสนุนให้รัฐบาลยกระดับมาตรการต่อโรคระบาดยิ่งขึ้น 📌เมื่อมีผู้ถูกทดสอบโดย PCR เพิ่มขึ้น เซลล์ป้องกันจึงถูกทำลายมากขึ้นและมีผู้ติดเชื้อหลากหลายชนิดเพิ่มขึ้นในครั้งต่อมา 😔โดยจะถูกตีความต่อไปว่า เกิดการติดเชื้อจากไวรัสโควิดด้วยการเพิ่มจำนวน Cycle ใน thermal cycler จนกว่าเปอร์เซ็นต์จะเพิ่มจนให้ผลเป็นบวก ⏩เพื่อสรุปว่าเป็นโควิดตามต้องการ 📌อาจมีการโต้แย้งว่า การทดสอบ swab ช่องจมูกที่ถูกต้อง ควรกวาดเป็นมุมสูงไม่เกิน 30 องศา จากแนวระนาบเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเส้นประสาทรับกลิ่น 📌แต่ในตำแหน่งดังกล่าวนี้ ไม้ Swab จะไปไปสัมผัสเส้นประสาท Trigeminal แทน ซึ่งเป็น blood-brain barrier เข้าสู่สมองปราการที่สอง ‼️ส่งผลต่อการรับรสและการมองเห็น 📌นอกจากนี้ เพื่อเป็นการทำลายประสาทรับกลิ่นและรส ไม้ swab ไม่จำเป็นต้องไปสัมผัสโดนจนก่ออันตรายต่อเซลล์ประสาท Trigeminal หรือ Olfactory โดยตรงเลย ⁉️แค่ลำพังการสร้างความระคายเคืองต่อเยื่อเมือกในโพรงจมูก ก็สามารถส่งผลกระทบต่ออวัยวะทั้งระบบ Limbic 📌เนื่องจากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก ‼️สิ่งนี้สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดผู้ป่วยโควิดจึงสูญเสียการตอบสนองทางพฤติกรรมที่ควบคุมโดยระบบ Limbic เช่น การนอนหลับ ความเหนื่อยล้า การรับรู้ การปรับตัว การเคลื่อนไหว ความจำ เป็นต้น 📌นอกจากปลายของไม้ swab มีเขี้ยวขรุขระ ประกอบกับวิธีการสอดที่ลึกและการหมุนที่กว้างอย่างรุนแรง ⏩ถูกออกแบบมาเพื่อขีดข่วนสร้างความเสียหายให้เยื่อยุผิวมากที่สุดแล้ว ‼️ยังพบว่ามีการใช้สารเคมี ethylene oxide ที่รู้จักกันดีว่าเป็นสารก่อมะเร็ง 📌ถูกนำมาใช้ในการฆ่าเชื้อใน PCR swab test ก่ออันตรายกับเยื่อเมือกโพรงจมูกซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่มีความไวต่อการแพ้ 📌ร่วมกับมาตรการบังคับใช้ให้สวมหน้ากากอนามัยทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง 📌จึงเป็นการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียและไวรัสให้เข้าสู่สมองผ่าน Olfactory nerve และ Trigeminal neve ที่เสียหายให้มากยิ่งขึ้น 📌จากผลการศึกษาหลายร้อยชิ้น แสดงให้เห็นว่าภายใต้หน้ากากอนามัยเป็นแหล่งปนเปื้อนแบคทีเรียและเชื้อราจำนวนมาก เมื่อสวมใส่เป็นเวลานาน 📌และหลายงานวิจัยยืนยันว่าการใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของระบบทางเดินหายใจสั้นลง และความเหนื่อยล้าอย่างมีนัยสำคัญ (P<0.05) ⏩ในหน้ากาก N95 ออกซิเจนลดลง 72%, คาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น 82%, อาการปวดหัว 60%, ความบกพร่องของการหายในอุณหภูมิและความชื้นที่เพิ่มขึ้น 100%. 📌นอกจากนี้ หลายการศึกษาพบว่า การใส่หน้ากากอนามัย ไม่สามารถปิดกั้นการแพร่กระจายของละอองไวรัสได้อย่างสมบูรณ์แม้ขณะปิดสนิท จึงไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ 📌ในปี 2020 เด็กและวัยรุ่นส่วนใหญ่รอดพ้นการการทดสอบ PCR มีสุขภาพแข็งแรง และไม่มีอาการแสดงการติดเชื้อโควิดเลย 📌กระทั่งปี 2021 เมื่อมีการทดสอบเชิงรุก พวกเขาก็เริ่มแสดงอาการ ที่เกิดจากโควิดทันที 📌ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการสร้างความเสียหายต่อสมองโดยจงใจ ‼️ความบกพร่องในการทำงานของศูนย์กลางการหายใจในสมอง Medula oblongata ก่อให้เกิดภาวะหายใจลำบาก Dyspnoea โดยที่ไม่มีการติดเชื้อหรือรอยโรคใดที่ปอด แต่เป็นความเสียหายทางสมองและระบบประสาท เราเรียบเรียงใหม่จากส่วนหนึ่งในบทความ PCR Tests and the Depopulation Program by Kevin Galalae, 10 October 2021 Cr : Ramone Jiraโควิด 2019วัคซีนโควิดไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยCovid-19: มนุษย์ 12 ประเภท ตามชนิดวัคซีนที่ฉีดจาก fb : Sunt Srianthumrong Covid-19: มนุษย์ 12 ประเภท ตามชนิดวัคซีนที่ฉีด และ Mind Set คุณคือแบบใดและ "คุณพร้อมแค่ไหนสำหรับ Open Battle" ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 พ.ย. 2021 อีก 3 สัปดาห์ เปิดเมืองเต็มที่แน่นอนครับ อะไรก็ฉุดไม่อยู่แล้ว คนมันไม่เอาแล้ว ซึ่งสถานการณ์ที่จะเกิดตามมาคือ Open Battle ระหว่างคนไทยกับไวรัสสายพันธุ์ Delta ซึ่งน่าจะดุเดือดมากในช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค. ใครดีใครอยู่ครับ คุณพร้อมแค่ไหน และคุณกำลังทิ้งโอกาสในการอยู่รอดในสงครามหรือไม่ มาดูกันครับ มนุษย์ 12 ประเภท ประเภทที่ 1: SV-Sinovac 2 เข็ม 1.1 ได้เข็ม 3 เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะ AZ หรือ Pfizer : คุณปลอดภัยแล้วครับ 1.2 ได้เข็ม 2 เกิน 3 เดือนแล้ว กำลังรอเข็ม 3 AZ, Pfizer เดือนนี้ : ดูแลตัวเองครับ เมื่อได้เข็ม 3 แล้วก็รอดยาวครับ 1.3 ได้เข็ม 2 เกิน 3 เดือนแล้ว กำลังรอ Moderna: อย่ารอครับ ไปรับ AZ เข็ม 3 ภายในเดือนนี้ให้ได้ ถ้ารอ เสี่ยงมากครับ 1.4 ได้เข็ม 2 เกิน 3 เดือนแล้ว และยังไม่มีแผนจะรับเข็ม 3 : รีบจอง AZ เข็ม 3 ด่วนครับ ผ่านค่ายมือถือได้ทุกค่ายเลยครับ ประเภทที่ 2: SP-Sinopharm 2 เข็ม 2.1 - 2.4 เหมือนประเภทที่ 1.1 - 1.4 ทุกประการ ยกเว้นว่าคุณปลอดภัยกว่ากลุ่ม SV ครับ เพราะ SP มีประสิทธิภาพที่สูงกว่า แม้จะเป็นวัคซีนเชื้อตายเหมือนกันก็ตาม 2.5 ได้ 2 เข็มมาแล้ว ยังไม่ครบ 3 เดือน และกำลังยืนขายของ ทำงานในร้านอาหาร หรือทำงานในโรงงานที่คนเยอะ : ใส่ Mask 2 ชั้นครับ และป้องกันตัวเองรอ AZ, Pfizer เข็ม 3 สิ่งที่คนพูดกันน้อยเกินไปคือ SP 2 เข็ม ป้องกันการติดเชื้อ Delta ได้น้อยมาก แม้จะป้องกันป่วยหนักก็ตาม คุณจะเป็นผู้แพร่เชื้อชั้นดีของไวรัสครับ ผมคิดว่านโยบายฉีด SP 2 เข็มให้คนทำงานเพื่อเปิดเศรษฐกิจ เป็นนโยบายที่ไม่ดีเลย มัน Save ลูกจ้าง แต่ไม่ Save กิจการ และไม่ Save คนมาใช้บริการด้วยครับ ประเภทที่ 3: AZ 3.1 เพิ่งได้ AZ มา 1 เข็ม รอเข็ม 2 เดือน พ.ย. : กลุ่มนี้ในกทม.มีเยอะมาก ขอให้รอแบบ Save ตัวเอง ได้เข็ม 2 เมื่อไหร่ถึงจะปลอดภัยครับ 3.2 ได้ AZ มาแล้ว 2 เข็ม : ปลอดภัยแล้วครับ 3.3 ได้ AZ 1 เข็ม และ Pfizer เข็ม 2 : ปลอดภัยแล้วครับ ประเภทที่ 4: Pfizer 2 เข็ม 4.1 ได้ 2 เข็มมาแล้ว ยังไม่ครบ 6 เดือน : ยังปลอดภัยครับ แต่ควรมีแผน Pfizer เข็มที่ 3 เร็วๆนี้ 4.2 ได้ 2 เข็มมาแล้ว เกิน 6 เดือน : ไม่ปลอดภัยแล้วครับ ต้องฉีดเข็ม 3 โดยด่วน แล้วจะปลอดภัยมาก ประเภทที่ 5: Moderna 5.1 รอเข็มแรก และจะรอต่อไป : เปลี่ยนใจเถอะครับ ไม่ทัน Open Battle จริงๆครับ ขอให้รีบไปจอง SV + AZ ยกเว้นว่า คุณจะ WFH ต่อใน Safe House ได้อีก สัก 2 เดือนครับ แต่ผมว่าเสี่ยงมากๆเพราะคนรอบตัวคุณจะไม่มีใครทำ Social Distancing ละ 5.2 ไม่รอละ จะไปจอง SV + AZ: เยี่ยมครับ ขอให้ได้คิวภายในเดือนนี้นะครับ แล้วจะปลอดภัย ประเภทที่ 6: SV+AZ เท่าที่เราใช้สูตรนี้มาพักใหญ่ เชื่อได้ว่า คุณน่าจะปลอดภัยแล้วครับ และสูตรนี้ยังเป็น Lifeboat ให้กับคนที่รอ Moderna แล้วมันไม่มาด้วยครับ ประเภทที่ 7: อายุ 12 -18 และไม่เอาวัคซีนจีน ฉีด Pfizer 2 เข็มครับ แล้วไปโรงเรียนไปใช้ชีวิตได้เลย ปลอดภัยมากครับความเสี่ยงเรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบมีครับ แต่ต่ำมาก และในอเมริการักษาหายทุกคนครับ ประเภทที่ 8: อายุ 12 -18 และไม่เอาวัคซีนอเมริกา อยู่บ้านยาวครับ ห้ามไปโรงเรียน ถ้าไปเมื่อไหร่ก็ ติด Covid แน่นอนครับ เพราะ Herd Immunity ไม่มีวันเกิดขึ้นเร็วๆนี้แน่นอน เตรียมรับผลระยะยาวจาก Long Covid ได้เลยครับ และ mRNA ของจีนจะยังไม่มาในเร็วๆนี้ แต่มีอีกทางเลือกครับ รอลุ้นว่าจะได้ฉีด Sinopharm เมื่อไหร่นะครับ แต่ต้องทราบไว้ว่า SP ประสิทธิภาพในการกันติดเชื้อต่ำ ไม่น่ารอดครับ แต่ลดความรุนแรงได้ ประเภทที่ 9: อายุ 12 -18 ปี และไม่เอาวัคซีน mRNA อยู่บ้านยาวครับ ห้ามไปโรงเรียน ถ้าไปเมื่อไหร่ก็ ติด Covid แน่นอนครับ รอลุ้นว่าจะได้ฉีด Sinopharm เมื่อไหร่ครับ ผมเสียดายแทนนักเรียนที่ผู้ปกครองปฏิเสธ mRNA มากๆครับ เสียโอกาสสุดๆ และอันตรายสุดๆ จะไม่รอดเอาใน Open Battle ประเภทที่ 10: อายุ 3-11 ปี เด็กประถม ป้องกันตัวเองเต็มที่ช่วง พ.ย. - ธ.ค. อย่าเพิ่งไปโรงเรียนครับ ยังไม่มีวัคซีนให้ครับในบ้านเรา เบื้องต้นรอลุ้น SP น่าจะมาก่อน จากนั้น Pfizer น่าะจะได้รับอนุมัติตามมา แต่อีกสักพักครับ ไม่ทัน Open Battle แน่นอน ยังยื่นเรื่องในอเมริกาอยู่ครับ สถานะตอนนี้ SP ใช้ได้ในจีนกับ UAE และ Pfizer ใช้ได้ในอเมริกา สำหรับช่วงอายุนี้ครับ ประเภทที่ 11: อายุ 6 เดือน - 3 ปี ป้องกันตัวเองเต็มที่ช่วงอีกยาวครับ คนรอบข้างต้องช่วยครับ ต้องรอเร็วสุดคือ Pfizer ที่กำลังจะยื่นเรื่องขอใช้ในอเมริกาเดือน พ.ย. นี้สำหรับเด็ก 6 เดือน ถึง 5 ขวบ ส่วนบ้านเราคงอีกพักใหญ่ ประเภทที่ 12: Anti Vaccine จะไม่ฉีดวัคซีนทุกประเภท ต้องทราบนะครับว่า Delta ติดต่อง่ายมาก แม้แต่ประเทศที่ฉีดวัคซีน 2 เข็มทะลุ 95% แล้วก็ยังมีการระบาดเกิดขึ้น สิงคโปร์ 80% ก็ยังระบาดหนักมาก ถ้าแค่ 70% แบบเราที่จะถึงนี้ Open Battle แน่นอนครับ ระบาดหนักแน่นอน และคุณจะติดเชื้อ Delta อย่างแน่นอน และจะติดหลายรอบด้วย เพราะภูมิคุ้มกันอยู่ไม่ถึง 6 เดือน บางคนรอบแรกอาการน้อย รอบ 2 ตายก็มีครับ และสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกสูตร คือ ไม่มีอะไร 100% นะครับ การใส่ Mask และ Social Distancing จะยังสำคัญมากไปอีกอย่างน้อย 2 ปี .................. ย้ำนะครับ 1 พ.ย. 2021 D-Day เปิดเมือง และ D-Day Open Battle รัฐบาลไม่ถอยแน่นอน จังหวะนั้น ใครดีใครอยู่ครับ คุณจะสู้โดยมีอาวุธครบมือ ล้นมือ หรือจะไม่มีอาวุธสักชิ้น หรือจะหนีไปอยู่ถ้ำสัก 2 ปี ก็แล้วแต่ครับ ขอให้คิดให้ดี ศึกษาข้อมูลให้ดี แล้วตัดสินใจให้ดี ในช่วง 3 สัปดาห์ที่มีค่ายิ่งนี้ ขอให้มีชีวิตรอดกันทุกคนครับ "อย่าได้ชื่อว่าต้องตายเพราะไปหลงเชื่อ Fake News" เลยครับ มันน่าเสียดายๆมากนะ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=6574290965944901&id=100000921874426Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยึดเมืองหลวงคืนจากโควิดด้วยวัคซีนได้จริงหรือ วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ 17 กรกฎาคม 2564 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมบอกว่าการระบาดในประเทศใช้เวลาสามสัปดาห์ก็จะเพิ่มจำนวนรายงานผู้ป่วยเท่าตัว และคาดว่าจะถึงอย่างน้อยหมื่นรายต่อวันในตอนปลายเดือน วันนี้เพิ่งพ้นกลางเดือนวันหวยออกได้วันเดียว ยอดติดเชื้อก็ทะลุไปเป็นตัวเลขห้าหลักอย่างว่าแล้ว ผมคาดคะเนว่าเวลาเพิ่มจำนวนของจำนวนตายจากโควิดจะเพิ่มเท่าตัวโดยใช้เวลาเพียงสัปดาห์เศษ ๆ วันนั้นดูเหมือนตัวเลขอยู่แถวห้าสิบตอนนี้ตัวเลขก็ทะลุเป็นเลขสามหลักเป็น 141 แล้ว สรุปแล้วผมคาดผิด ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะวันนี้ตัวเลขสวิงขึ้นสูงโดยบังเอิญ ถ้าเป็นเช่นนั้นพรุ่งนี้มะรืนนี้ตัวเลขจะลดกลับลงไป อีกส่วนหนึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าเวลาที่ใช้ในการเพิ่มเท่าตัวสั้นกว่าเมื่อเดือนที่แล้วจริง ๆ เราเพิ่งจะล็อคดาวน์กันมาไม่กี่วัน ผลของการตรวจพบเชื้อในวันนี้มาจากการแพร่เชื้อติดเชื้อก่อนหน้านี้ 4-5 วัน ส่วนจำนวนตายน่าจะเป็นผลจากการติดเชื้อแพร่เชื้อเมื่อสองสามสัปดาห์ที่แล้ว ถ้ากระบวนการล็อคดาวน์ได้ผล เราจะเห็นตัวเลขการติดเชื้อหยุดเพิ่มก่อน คงอีกราว 1 สัปดาห์ และกว่าตัวเลขคนตายจะหยุดเพิ่มอาจจะต้องใช้เวลาราว 3 สัปดาห์ขึ้นไป กล่าวกันว่า กทม. เป็นศูนย์กลางของการระบาด ความเร็วในการเพิ่มเท่าตัวก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ ผมมีข้อสังเกตสองสามประการสำหรับผู้รับผิดชอบและประชาชน ฝากพวกเราตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย นอกจากจังหวัดภูเก็ตซึ่งประชาชนได้รับวัคซีนสองเข็มไปกว่า 70% แล้ว สถิติต่าง ๆ บ่งบอกว่าอันดับสองของความครอบคลุมการรับวัคซีน คือ กทม. ถ้าเอาจำนวนคนฉีดวัคซีนใน กทม. หารด้วยประชากรในทะเบียนบ้าน จะได้ค่าระหว่าง 40-60% ซึ่งระดับนี้ถือว่าน่าพอใจ และวันนี้ได้ข่าวว่าตั้งเป้าจะฉีดให้ได้วันละหนึ่งแสนโดส ถ้าได้อย่างนี้จริงจะช่วยเสริมแรงการล็อคดาวน์ได้มาก เพราะถ้าไม่ฉีดวัคซีนให้มากพอ ตอนคลายล็อคก็จะเกิดการระบาดอีก ปรกติถ้าฉีดวัคซีนได้ถึง 50% ขึ้นไป เราจะเห็นการระบาดชะลอลง แต่ทำไมใน กทม. ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ทำไมเราไม่เห็นแบบนั้น ผมมีคำอธิบายอื่น ๆ ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้าง โปรดช่วยกันตรวจสอบครับ ผมคิดว่าที่ผ่านมาไม่มีใครรู้ว่าประชากร กทม. ที่แท้จริงอยู่ที่กี่ล้านคนเพราะปริมณฑลและเมืองบริวารกว้างขวางมาก ผู้คนเดินทางเข้า ๆ ออก ๆ การฉีดวัคซีนในกทม. อาจจะไม่ได้จำกัดเฉพาะคนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ กทม. ทำให้คนรอบนอกเดินทางเข้ามาฉีดได้โดยไม่ยาก ถ้าคนที่ได้วัคซีนไปเป็นคนรอบนอกเสียเยอะ วัคซีนที่ฉีดไปก็คงจะไม่มีค่อยมีผลป้องกันกลุ่มเป้าหมายใน กทม. กลุ่มเป้าหมายหลักของระบบสาธารณสุข มีชื่อย่อ ๆ ว่า 607 หมายถึงคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและมีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ฯลฯ 7 โรค ปรากฏว่ากลุ่มนี้ฉีดวัคซีนได้ต่ำกว่าเป้าทั่วประเทศ แม้แต่จังหวัดภูเก็ตที่ได้ชื่อว่าฉีดวัคซีนได้มาก ก็ครอบคลุมผู้สูงอายุได้เพียง 10% เท่านั้น (เพราะช่วงนั้นฉีดวัคซีนไซโนแวค ต้องอายุต่ำกว่า 60 ปี) จังหวัดที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมผู้สูงอายุได้ดีที่สุด คือ สมุทรสาคร ก็ได้เพียง 15% ส่วน กทม. ฉีดผู้สูงอายุได้เพียง 3.14% และ กลุ่ม 7 โรคเรื้อรังได้เพียง 3.8% ของเป้าหมายเท่านั้น ตัวเลขที่ฉีดวัคซีนประชากรได้ดูเหมือนมาก แต่ ฉีดกลุ่มเป้าหมายหลักได้เพียงนิดเดียว น่าจะอธิบายสาเหตุของไอซียูและเครื่องช่วยหายใจไม่พอได้ระดับหนึ่ง ถ้ายังคงใช้ยุทธวิธีที่สะดวกแบบเดิมอยู่แบบนี้เพียงอย่างเดียว วัคซีนคงไม่ช่วยทำให้คลายล็อควัคซีนได้เท่าไรนัก การเปิดให้จองโดยระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต สะดวก รวดเร็วทั้งผู้รับและผู้ให้บริการ แต่ต้องเป็นผู้รับบริการที่รอบรู้ หูไวตาไว ใช้แอปเก่ง ๆ หรือที่เรียกว่า The Have Net ส่วนพวกที่ช้าหน่อยเข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสารและเท็คโนโลยี หรือที่เรียกว่า The Have Not ก็จะไม่ค่อยได้รับวัคซีน The Have Net จากรอบนอกเข้าถึงวัคซีน The Have Not ในกทม.เอง เข้าไม่ถึง เราก็แก้ปัญหา กทม. ไม่ได้ เวลาพวกเราคนต่างจังหวัดพูดถึง กทม. เรานึกถึง พื้นที่เศรษฐกิจที่มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ภาพพวกนั้นปิดบังกลุ่มคนยากจนที่อยู่ตามหลืบ ซอกซอย ชุมชนคนกลุ่มน้อย คนขายแรงงาน แคมป์คนงานก่อสร้าง ฯลฯ คนพวกนี้ คือ The Have Not ซึ่งเป็น Social Pathology หรือสภาพสังคมที่เจ็บป่วยอมโรคของเมืองหลวง ผมเชื่อว่าคนพวกนี้เข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสาร บริการสาธารณสุขโดยเฉพาะการฉีดวัคซีนซึ่งต้องการการแข่งขันอย่างสูง เมื่อป่วยก็จะไม่สามารถร้องเรียนกับผู้ใดได้ การแยกตัวของสมาชิกออกจากครัวเรือนไม่ให้แพร่โรคน่าจะลำบากมาก เป็นที่น่ายินดีที่ทางราชการจะได้จัดหน่วยเคลื่อนที่ออกไปยังชุมชน ไปเยี่ยม The Have Not เหล่านี้ และคงเอาวัคซีนไปฉีดให้เป้าหมาย 607 ด้วย แต่ก็คงไม่ง่ายนักที่จะฉีดให้ได้จำนวนมาก ๆ เพราะอาจจะหาสถานที่ที่เหมาะสมในการฉีดวัคซีนได้ลำบาก การจัดพยาบาลเข้าฉีดวัคซีนตามบ้านจะมีต้นทุนด้านเวลาสูงมาก เป้าหมายที่ตั้งว่าจะได้วันละแสนคนไม่น่าจะทำได้จริง หน่วยสาธารณสุขเคลื่อนทีเก่ง ๆ เหมือนหน่วยซีลทางทหาร คือ รบได้ทุกภูมิประเทศ ทั้งอากาศ ทะเล และ บนบก แต่ไม่สามารถยึดพื้นที่ได้ หน่วยแบบนี้จึงมีข้อจำกัด เมื่อ ห้าสิบปีที่แล้ว ในชนบทเราก็มีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เอาไว้ปฏิบัติการจิตวิทยา (ปจว) แสดงว่าทางการไม่ทอดทิ้งประชาชน มีความเมตตากรุณาสงสาร แต่ปัจจุบันนี้ เราสาธารณสุขปฐมภูมิครอบคลุมทุกพื้นที่ มีเครือข่าย อสม. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (สถานีอนามัยเดิม) ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำถึง 4-5 คน นี่คือ กองร้อยทหารราบที่ประจำการ ปกป้องโรคภัย เขาดูแลตัวเองกันได้ ไม่ต้องรอความเมตตาจากคนนอก ผมไม่แน่ใจว่าเครือข่ายแบบนี้ในเมืองหลวงทำได้ดีเพียงไร การทำงานของหน่วยราชการโดยเฉพาะการควบคุมการระบาดของโควิดและการระดมฉีดวัคซีนโดยไม่มีประชาชนช่วยจัดตั้งน่าจะทำไม่ได้ผล ในช่วงล็อคดาวน์ เราต้องใช้ทหารราบ พลเดินเท้า และหน่วยประจำการทางสาธารณสุขจำนวนมหาศาล ทำงานสร้างพลัง (empower) ให้ประชาชนในชุมชนยากไร้ในเมืองหลวง ลุกขึ้นยืนหาทางช่วยตัวเองร่วมมือกับทางราชการแก้ปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด เพื่อยึดเมืองหลวงคืนจากโควิดให้ได้ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยข่าวการกินยาลดน้ำหนักของแบงค์สตางค์เป็นเรื่อง! “แบงค์สตางค์” เล่านาทีเฉียดตาย “ใจเต้นรัว – หายใจไม่ออก” หลังกินยาลดอ้วนนับ 10 แบรนด์kulanit1363• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยปีแห่งไฟ ตามคำทำนายเอาไว้ ไฟไหม้ตลาดสิงห์บุรี วอดเสียหายหมด โรงแรมที่ตุรกีไฟไหม้ ตาย 76 คน และต่อไป นายเอกนัฐ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม จากพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเผามาเฟียอุตสาหกรรม ที่ไม่ได้มาตรฐาน ทิ้งทั้งหมด ในขณะเดียวกัน นาย พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ก็พร้อมจะเผากลุ่มทุนมาเฟียพลังงานทั้งหมด ทั้งยกเลิกค่ากลั่นน้ำมันหน้าโรงงานที่อิงราคาจากสิงคโปร์และเตรียมยกเลิกกองทุนสำรองน้ำมันทิ้งทั้งหมด เพราะมันไม่มีอยู่จริง ราคาน้ำมันจริงแค่ต้นทุนลิตรละ 20 บาท แต่มาเฟียน้ำมันบวกราคาเกือบสามเท่ามาขายให้ประชาชน และมาเฟียการไฟฟ้าที่ไปเอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มมาเฟียพลังงานสะอาด ที่รัฐเสียค่าโง่มานาน นอกจากกลุ่มทุนพวกนี้ไม่เคยผลิตพลังงานส่งให้รัฐเลย ยังนอนตีพุงกินเงินงบประมาณมหาศาลไปแบบฟรีๆ เป็นสาเหตุให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ต้องทำทุกวิถีทางขูดเลือดประชาชน เพื่อเอาเงินส่วนนี้มาชดใช้ให้กับกลุ่มมาเฟียการไฟฟ้ามานาน **ต้องยกเลิกการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าแบบดิจิตอล ที่เต็มไปด้วยความไม่โปร่งใส*** ***ต้องยกเลิกค่า FT ที่อุปโลกน์คิดกันขึ้นมาเอง เพื่อขูดเลือดประชาชน*** ***ต้องคืนการไฟฟ้ามาเป็นของรัฐบาล100% ยุติการให้เอกชนเข้ามาถือหุ้นในทันที เพื่อล้างกลุ่มมาเฟียพวกนี้ออกจากการไฟฟ้า*** คิดลงขันแค่เพียง 300ล้านบาท เพื่อบีบให้นายเอกนัฐ ออกจากตำแหน่ง รมว. อุตสาหกรรม ผมว่ามันถูกไป อย่างน้อยมันต้องไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท หรือไม่ก็ต้องเป็นเงินทั้งหมดของตระกูลชิน ดูจะเหมาะสมกว่าค่าตัวของนายเอกนัฐ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นทรัพย์สินบุคคลสำคัญของคนไทยทั้งประเทศไปแล้ว ต่อจากนี้ไป ระเบิดอีกลูกจะไปตกที่กรมวิชาการเกษตร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ***เรื่องยาฆ่าหญ้าและยาฆ่าแมลงทุกชนิด จะไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของกระทรวงอุตสาหกรรม และจะกลายเป็นนโยบายย้อนกลับมาฆ่าฐานเสียงใหญ่ของพรรคเพื่อไทยเอง ที่มีกลุ่มทุนผูกขาดยาฆ่าหญ้าและยาฆ่าแมลง ที่เป็นกลุ่มทุนเจ้าสัวใหญ่ ที่เป็นตัวอุปสรรคสำคัญ ที่ขัดขวางนโยบายการผลิตอาหารสะอาดและรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อการส่งออกของนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยของตนเอง เรื่องน้ำมันและค่าไฟ ทักษิณก็แพ้ให้กับนายพีระพันธ์ไปจนหมดสภาพ เรื่องอ้อยเผากับโรงงานน้ำตาล ทักษิณก็พ่ายแพ้ต่อนายเอกนัฐ แบบหมดรูป งานต่อไป เรื่องการยกเลิกห้ามจำหน่ายยาฆ่าหญ้ากับยาฆ่าแมลง ที่ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม หน้าที่นี้จะเป็นของนายเอกนัฐ ที่จะต้องสู้กับลิ้วล้อของทักษิณ อย่าง รอ.ธรรมนัส ที่จะเป็นศึกคืนอาหารสะอาดและคืนสิ่งแวดล้อมกลับมาให้กับคนไทยทั้งประเทศ และแน่นอนว่า นายเอกนัฐ จะชนะอีกครั้ง เพราะนโยบายผลิตอาหารสะอาดและรักษาสิ่งแวดล้อม ล้วนเป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย ในขณะที่เสี่ยหนู แห่งพรรคภูมิใจไทย ยังนิ่งเงียบสนิท ต่อกรณีที่กระทรวงมหาดไทย ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ในเรื่องการอนุญาตให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ขายไฟฟ้าให้กลุ่มว้าแดงใช้ผลิตยาบ้า มามอมเมาเยาวชนในประเทศของตนเอง. เดชา นฤนารท . 25/1/68 09.12 น.ข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 7 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัย5 ม.ค. 2568 06:01 น. ถึงเวลาเปิดโปงรับรู้และต่อต้านระเบียบโลกใหม่ (ตอนที่ 1) ... ระเบียบโลกใหม่ great reset โดยที่มนุษย์โลกจะไม่ได้ครอบครองอะไรเลย และจงมีความสุข Own nothing and be happy ถึงเวลาเปิดโปงรับรู้และต่อต้านระเบียบโลกใหม่ (ตอนที่ 1) รัฐบาลสหรัฐฯใหม่ ลุยตีโต้กลับ ระเบียบสร้างโลกหนึ่งเดียว ที่ทุกประเทศ คนทั้งโลก ถือว่าเป็นสิ่งของที่ต้องทำตามคำสั่งทุกประการ ตาม world economic forum (WEF) deep state BlackRock State Street Vanguard ซึ่งก่อตั้งโดยกลุ่มอีลิต elite อภิสิทธิ์ชน ผู้ดี มหาเศรษฐี และมีเครือข่ายในบริษัทยาวัคซีนยักษ์ใหญ่ของโลก ไม่ว่าจะเป็น Pfizer Moderna GSK Sanofi และอื่นๆ ... และในการประชุมครั้งที่ 54 ที่ดาวอส โดยมีหนังสือของการประชุมได้แจ้งรายชื่อของบริษัทพาร์ตเนอร์อย่างเป็นทางการกับ WEF ทั้งโลก (สามารถสืบค้นชื่อเหล่านี้และเป้าหมาย รายละเอียด ของ WEF ได้ ในหนังสือ) ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับยาเวชภัณฑ์เครื่องมือแพทย์เท่านั้นแต่ครอบคลุมความมั่นคงเศรษฐกิจสังคม และการศึกษา องค์การอนามัยโลก ถือเป็นหน่วยงานสำคัญส่วนหนึ่งของการจัดระเบียบโลกนี้ และผ่านเครือข่าย CDC FDA เป็นต้น ในการครอบคลุม global health care ทั้งนี้โดยยึดจุดอ่อนของประเทศต่างๆ ที่เคยชิน ทำตามคำสั่งของกลุ่มเหล่านี้มาตลอด รวมทั้งประเทศไทย WEF ได้ประกาศในวันที่ 9 มกราคม 2024 world health care initiative เปิดตัวในความริเริ่มที่จะใช้ ระบบดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์เพื่อหลอมระบบดูแลสุขภาพทั้งโลก โดยที่ต้องทำตามอย่างเคร่งครัด และอีกหัวข้อที่สำคัญคือการจัดการประชากรล้นโลก โดยมีเป้าหมายให้ประชากรลดลง 10 ถึง 15% (depopulation agenda) WEF ได้รับการสนับสนุน และทำงานร่วมกับ Boston consulting group (BCG) ที่ทุนใหญ่ ทางการเงิน คือ จาก Bill & Melinda Gates foundation ... การต่อต้านสนธิสัญญา WHO treaty ต้องทำทันที มิฉะนั้น องค์การอนามัยโลก สามารถประกาศโรคระบาดลามโลก (อาจจะยังไม่อันตรายหรือระบาดจริง?) และสั่งให้สำรองวัคซีนสำหรับโรคใหม่และสั่งให้ฉีดทุกคนในโลกนี้ และสามารถสั่งการปิดประเทศ รวมทั้งจัดการให้มีบัตรประจำตัวดิจิทัลสุขภาพที่แสดงว่าได้รับวัคซีนหรือไม่ ถ้าไม่ได้เป็นตามที่กำหนดจะถูกจำกัดสิทธิ์รวมทั้งการเดินทางไปยังที่ต่างๆ ประเด็นที่กำลังพยายามให้เป็นเรื่องใหญ่ ก็คือ ฝีดาษลิง ซึ่ง องค์การอนามัยโลกและทางองค์กรในรัฐบาลสหรัฐฯเก่าในระยะเวลาที่ผ่านมา พยายามให้มีการฉีดวัคซีนฝีดาษลิง ทั้งๆที่การระบาดลุกลามและการเสียชีวิตไม่ได้กว้างขวางนัก และให้อังกฤษ สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป สำรองวัคซีนฝีดาษลิง ความพยายามในเรื่องไข้หวัดนก H5N1 จากการวิเคราะห์สายพันธุ์ที่มีการประกาศว่าระบาดและมีการสั่งให้พัฒนาวัคซีน mRNA ไข้หวัดนก และเป้าหมายจะฉีดทั่วโลก กลุ่มคนไทยและแพทย์พิทักษ์สิทธิ์ รวมทั้งสมาพันธ์ชาวนาแห่งประเทศไทยมากกว่า 60,000 คนได้ลงชื่อและยื่นต่อรัฐบาลไทยไม่ให้อยู่ในสนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกนี้แล้ว. หมอดื้อ https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2834386 https://web.archive.org/web/20250105181928/https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2834386ข่าวการเมืองสุขภาพวัคซีนโควิด เสียดสีJoke Air• 8 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสรุปสาระ ตากับสูงวัย โดย พญ.เตือนใจ วงศ์วรเศรษฐ์ (จักษุแพทย์) 18 เม.ย.66 โรคตาของ สว. 1. การหย่อนคล้อยรอบตา ถ้าหนังตาตกจนมาบังรูม่านตา อาจมีปัญหาเรื่องการมองเห็น แก้ไขโดยผ่าตัดดึงกล้ามเนื้อตาที่เปลือกตา ไม่ใช่แค่ตัดหนังตาทำตา2ชั้น 2. ต้อกระจก (เลนส์ตาขุ่น) ทุกคนจะเป็นเพราะ ความเสื่อมของเซล (เริ่มเสื่อมอายุ 50-90 ขึ้นไป) (*)การผ่าต้อกระจก คือ การใส่เลนส์เทียมแทนเลนส์ที่ขุ่น วิทยาการก้าวหน้าทุกวัน เลนส์มีหลายแบบควรปรึกษาหมอตา คนที่เปลี่ยนเลนส์ต้อกระจกแล้ว ต่อมาอาจมองไม่ชัด เพราะถุงรองรับเลนส์อาจขุ่น ไปให้หมอทำ Laser จะใสเป็นปกติ 3. ต้อหิน : การเสียของประสาทตาปัจจัยเสี่ยงคือความดันตาสูง แต่ก็มีต้อหินแบบความดันตาปกติ คนที่มุมตาแคบอาจเป็นต้อหินแบบเฉียบพลัน มีอาการปวด คลื่นไส้ มองไม่เห็น การแก้ไข ต้องไปหาหมอตา 4. วุ้นนัยตาเสื่อม เกิดแทบทุกคน อายุมาก ของเหลวในวุ้นตาตกตะกอน (*)วุ้นตาเสื่อม ถ้าพบแสงเหมือนแฟลช.. แว๊บ.. แว๊บ.. ต้องรีบพบหมอตาด่วน อาจต้องรักษาโดยทำ Laserถ้ามีประสาทตาฉีกขาด ถ้าไม่รักษาจะเป็นหายนะของตา น้ำในวุ้นตาจะเซาะไปทำให้ประสาทตาหลุดร่อน Laser เอาไม่อยู่ การมองเห็นอาจเสียไป 5. ตาแห้ง (Dry eye) ใส่คอนแทคเลนส์นานมาก ไม่เปลี่ยนมาใส่แว่นตาเลย อาการ : มีการระคายเคือง อักเสบ น้ำตาไหล : รักษาไม่หายขาด เพียงชะลอ 6. เบาหวาน ตามองไม่เห็นเพราะเส้นเลือดที่ผิดปกติ แตกง่าย การมองเห็นเสีย (*)เส้นเลือดผิดปกติที่ตา อาจมีที่ไต และหัวใจด้วย (*)คนที่เป็นเบาหวานต้องคุมความดัน คลอเรสตอรอลด้วย 7. แว่นสายตา สำหรับสายตาสูงวัยปกติจะเริ่มใส่แว่นสายตาสูงวัยเมื่ออายุ 39-45 ปี หลายคนมีแว่น 2 อัน สำหรับอ่านหนังสือ และดูไกล บางคนแก้ปัญหาโดยทำแว่น Progressive เพื่อจะไม่ต้องใส่ ๆ ถอด ๆ แว่น บางคนใส่แว่น progressive ไม่ได้ ใส่แล้ว.. งง.. งง.. ( ปจบ. เทคโนโลยี่พัฒนา.. ปัญหาใส่แว่นแล้ว.. งง.. งง.. ไม่ค่อยมีละ) 8. "แว่นกันแดด" สำคัญมาก ต้องเลือกที่กันแสง UV ได้ 100 % (ร้านแว่นจะมีเครื่องวัด )แว่นกันแดดควรมีราคา 160 บาท หรือ 500 บาทขึ้นไป แว่นแบรนด์เนม เช่น Ray Ban & ยี่ห้ออื่น ๆ ผลิตเพื่อป้องกันสายตาอยู่แล้ว (*)แว่นกันแดดปลอม คือ แว่นที่ย้อมสีดำ ใส่แล้ว ทำให้ม่านตาขยาย แสง UV เข้าตามากขึ้น ทำให้เป็นต้อเนื้อ ต้อกระจก และตาแห้ง "แว่นสายตา" สามารถทำเป็น "แว่นกันแดด" ได้การเคลือบสีเลนส์ เคลือบกัน UV เพื่อความสบายตา (*)แว่นสีเทา สบายตามาก (*)แว่นสีเหลือง ใส่กลางคืนชัดเจนมาก เป็นแว่นส่องสัตว์ (*)ข้อควรระวัง 1. "การนวดตา".. ไม่ดี จะทำให้เลนส์ตาหลุด 2. การถูมือ 2 ข้างเร็ว ๆ แล้วเอามาอังที่ตา (แบบชี่กง).. ดี เป็นการเพิ่มๆพลังให้(ดวงตา) 3. คนที่มีลูกหลานเล่นแบตมินตัน หรือ กอล์ฟ ควรให้ใส่แว่นตา ป้องกันลูกแบตฯ หรือลูกกอล์ฟมาอัดตา ทำให้ตาแตก เลือดออกในตา เลนส์หลุด อาจเป็นต้อหินได้ "ดวงตา.. เปิดโลกกว้าง".. ตรวจตาอย่างน้อย 1 ปี/ครั้งไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยชาวพุทธ "โลกสวย" ที่ไม่ยอมรับรู้ความเป็นจริงที่กำลังเกิดขึ้น ท่านถูกโจรมุสลิมมลายูระบุว่า "สมองของคนไทยพุทธเทียบเท่าสมองวัวควายเท่านั้น" เอกสารลับภาษายาวี ที่เขียนขึ้นโดยแกนนำโจรมุสลิมเชื้อสายมลายู ในภาคใต้ของไทย และถูกทางราชการไทยยึดได้ ระบุว่า คนไทยพุทธโง่มาก รู้ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของมุสลิมเชื้อสายมลายู และมีสมองเทียบเท่ากับสมองของวัวควายเท่านั้น ตามเอกสารแปลไทย ดังนี้ "15. ในการประชุมที่เกาะลังกาวี ดร. วันกาเดร์ เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย ท่านพูดว่า คนไทยมันโง่จัง เราพูดอะไรมันเชื่อหมด ให้มัน compromise (สมานฉันท์) มันก็ทำลูกเดียว ไม่กล้าแม้แต่จะแตะโจรมุสลิม ถูกจับตัวได้ให้ดูว่า ไทยมันโง่ขนาดไหน ดูมันปล่อยพวกที่จับได้ เหมือนปล่อยเสือเข้าป่าไม่มีผิด นี่ถ้าเป็นประเทศมาเลเซีย เราคงฆ่าทิ้งทั้งหมด อย่างดีก็จำคุกตลอดชีวิตฐานปราณี ท่านยังบอกเลยว่า ท่านวันนอร์ ประสานงานในประเทศไทยดีมาก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 เป็นต้นมา ประสานดึงนักศึกษามุสลิมทั้งประเทศ มาประชุมกันที่จังหวัดสตูล ให้มารับเอาความรู้และโดนล้างสมองให้เกลียดประเทศไทย ต่อไปให้นักศึกษาไปประสานพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ให้เดินทางมารู้จักแกนนำจากสตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และแกนนำประเทศมาเลเซีย ดูแล้วคนไทยมันโง่มาก ท่าน ดร. วันกาเดร์ และมหาเดย์ (ดูสถิติ 2529 - 2530 จากรายชื่อนักศึกษามุสลิมในประเทศไทย ที่ท่านวันนอร์ หลอกลวงมาล้างสมองเพิ่มมากขึ้น ระหว่างที่นายอารีย์ วงศ์อารยะ คุมกระทรวงมหาดไทย) ท่านชมว่า เก่งมากที่ท่านวันนอร์ ขอทุนจากรัฐบาลไทยได้ ส่งเด็กมุสลิมเราจบด็อกเตอร์จากอเมริกาหลายคน ตอนนี้อยู่ในมหาวิทยาลัยดังๆของไทย เป็นกำลังสำคัญช่วยเราวางแผนแบ่งแยกดินแดน เช่น อาจารย์ในมหาวิทยาลัยศิลปากร ใน ม. บางมด และ ม. อื่นๆ ที่มากที่สุดที่ ม. สงขลานครินทร์ โชคเข้าข้างมุสลิมดีจัง 24. แกนนำด้านการวางแผนเชิงกลยุทธ์ ทุกๆด้านของมุสลิมเราได้ผลดีเยี่ยมทุกๆกลยุทธ์ และขอเน้นย้ำว่า กลยุทธ์ใดที่มุสลิมเราจะเพลี่ยงพล้ำ ก็ให้ joint venture (เข้าร่วมเป็นมิตร) ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไป อย่าให้คนไทยพุทธรู้ตัว แต่ในทำนองเดียวกัน ก็บรรจุสิ่งที่มุสลิมเราต้องการ ลงในรัฐธรรมนูญของประเทศไทยให้เต็มที่ ให้มากที่สุด เราได้เปรียบไว้ก่อนหลายๆด้าน สมองของคนไทยพุทธเทียบเท่ากับสมองลือมูและกูบา (วัวควาย) เท่านั้น จะสู้สมองนักวางแผนของมุสลิมเรา 300 กว่าคนได้อย่างไร เมื่อรวมสมองของ ดร. มหาเดย์ และ ดร. วันกาเดร์ เข้าไปด้วยแล้ว การเข้าครอบครองไทย ง่ายนิดเดียวเหมือนกระพริบตา" มุสลิมเชื้อสายมลายู ซึ่งมีเพียง 5% ในประเทศไทย กำลังลากจูงคนไทยพุทธ 95% ของประเทศ เหมือนจูงวัวจูงควายเข้าสู่หลักประหาร ท่านจะยอมให้เขาดูถูกดูแคลน และกระทำกับเรา อย่างนี้หรือ? กรุณาแชร์ต่อข่าวการเมืองภาคใต้ผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยกัญชารักษา39โรคนี้ได้จริงไหมครับ💝39โรค หายได้ด้วยกัญชา ประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์💝 🍀💐เอาสิ พี่กัญออกฤทธิ์. ปราบเรียบ 39 โรค มีอะไรบ้างไปดูกันเล้ย😊🤟 1 กัญชาสามารถหยุดการแพร่กระจายของมะเร็งไม่ให้ลุกลามและกำจัดเซลมะเร็งได้ โดยไม่ทำร้ายหรือสร้างความเสียหายให้กับเซลปกติ 2 กัญชาสามารถรักษาต้อหิน 3 กัญชาสามารถป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้(thcสามารถยับยั้งเซลล์เอเบตาโปรตีนไม่ให้ผลิตสารพิษที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคอัลไซเมอร์) 4 กัญชาสามารถช่วยลดอาการอักเสบ 5 กัญชาสามารถควบคุมและรักษาโรคลมชัก 6 กัญชาสามารถลดความเจ็บปวดจากโรคระบบประสาทส่วนกลางเสื่อม 7 กัญชาสามารถรักษโรคโครห์น (Crohn’s Disease) ความผิดปกติเรื้อรังของลำไส้ใหญ่ได้ 8 กัญชาสามารถช่วยควบคุมและรักษาโรคพากินสัน 9 กัญชาสามารถลดความวิตกกังวล 10 กัญชาสามารถช่วยในการยับยั้งการสร้างสารก่อมะเร็งและปรับปรุงสุขภาพปอดได้ 11 กัญชาสามารถลดความเจ็บปวดจากเคมีบำบัด 12 กัญชาสามารถปรับปรุงอาการของโรคลูปัสหรือโรคเอสแอลอี (โรคพุ่มพวง) 13 กัญชาสามารถช่วยปกป้องสมองจากความเสียหายของโรคหลอดเลือดสมอง 14 กัญชาสามารถควบคุมกล้ามเนื้อกระตุก 15 กัญชาสามารถรักษาโรคลำไส้อักเสบ 16 กัญชาสามารถช่วยขจัดฝันร้าย 17 กัญชาสามารถปกป้องสมองจากการถูกกระทบกระแทกและการบาดเจ็บ 18 กัญชาสามารถช่วยให้เจริญอาหาร 19 กัญชาสามารถช่วยขยายหลอดลมและลดการหดตัวของหลอดลม 20 กัญชาสามารถแก้โรคบิด แก้ปวดท้อง และโรคท้องร่วง 21 กัญชาสามารถช่วยแก้อาการประจำเดือนไม่ปกติของสตรี 22 กัญชาสามารแก้โรคผิวหนังกลากเกลื้อน 23 กัญชาสามารถแก้ปวดหัวไมเกรน 24 กัญชาช่วยรักษาการอุดตันของเส้นเลือดในสมอง 25 กัญชาสามารถช่วยบำบัดผู้ติดยาเสพติดชนิดรุนแรงเช่นเฮโรอีน 26 กัญชาสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตสูงได้ (รักษาเบาหวาน) 27 กัญชาสามารถช่วยรักษาแผลสด แผลหายยากจากเบาหวาน ให้แห้งและหายได้ 28 กัญชาช่วยทำให้มีอารมณ์เบิกบานแจ่มใสมีสมาธิและจิตใจสงบ 29 กัญชาสามารถช่วยผู้ป่วยที่ติดเชื้อHIVหรือเอดส์ให้สามารถใช้ชีวิตได้ดีขึ้น 30 กัญชาสามารถช่วยป้องกันโรคตับแข็ง 31 กัญชาสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น 32 กัญชาสามารถช่วยรักษาอาการกระดูกหักให้หายไวขึ้น และยังทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้นด้วย 33 กัญชาสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากความเสียหายของระบบปเส้นประสาททั้งร่างกายและระบบเชื่อมต่อในสมอง 34 กัญชาสามารถรักษาโรคภูมิแพ้ต่างๆได้ 35 กัญชาสามารช่วยรักษาอาการโรคปลอกประสาทอักเสบหรือโรคเอ็มเอส (MS) 36 กัญชาช่วยแก้อาการแข็งเกร็งจากอัมพฤกษ์อัมพาตได้ 37 กัญชาสามารถแก้ไข้ผอมเหลือง ไม่มีกำลัง ตัวสั่นได้ 38 กัญชาสามารถรักษาแผลในเซลล์ลำไส้ที่เกิดจาการอักเสบของโรค crohn's disease ได้ (จาการทดสอบในตาจึงอาจนำไปสู่การใช้ในผู้ป่วยเบาหวานที่กำลังจะสูญเสียตาได้อีกด้วย) 39 กัญชาสามารถช่วยต่อสู้กับโรคลูคีเมียได้ กัญชาสามารถยับยั้งอารมณ์เกรี้ยวกราดได้ นี่เป็นเพียงบางส่วนเล็กๆเท่านั้นที่กัญชาสามารถทำได้ และโปรดจำไว้ว่า กัญชาเป็นมากกว่ายา..แต่ในฐานะยา.. "กัญชาคือยาที่ปลอดภัยที่สุดในโลก" ..เท่าที่มนุษย์จะหาได้..ในเวลานี้ (กัญชาใช้เป็นยาได้ทั้งมนุษย์และสัตว์) และกัญชายังมีความลับซ่อนอยู่อีกมาก.. 🤔ยาสมุนไพรKlamongkhon Klinhom• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแชร์ประสบการณ์โอไมครอนแชร์ประสบการณ์โอไมครอนนิดหนึ่งนะ ถ้าแสบคอให้รีบตรวจเลย และถ้าตรวจแล้วขึ้น2 ขีดให้นับย้อนหลังไปอีก 3-4 วันว่าไปไหนมา แล้วจะรู้เองว่าติดมาจากใครเพราะมันติดไวติดง่าย แต่อาการไม่หนักหรอก เหมือนเราเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดา เมื่อไรที่แสบคอ ให้รีบล้างจมูกด้วยน้ำเกลือทันทีทุก 4-6 ชม. กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ ดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ ที่สำคัญอย่าเผลอ กลืนเสลดตัวเองเด็ดขาดเพราะเชื้อมันจะลงไปข้างใน (ในช่วง3-4วันแรกที่มีอาการใหม่ๆเชื้อมันยังไม่ลงปอด มันจะอยู่ที่โพรงจมูกและลำคอเราเท่านั้นดังนั้นถ้ารู้ตัวไวก็รักษาง่าย) ถ้ามีไข้ก็กินพาราเซตามอล ขาดไม่ได้เลยคือ น้ำขิง กับน้ำผึ้ง2ช้อนโต๊ะ มะนาวครึ่งลูกต่อน้ำร้อน1แก้ว ดื่มได้ทั้งวันครับ และพระเอกสุดคือ ฟ้าทะลายโจรชนิดแคปซูล กินวันละ 3 เวลาก่อนอาหาร ครั้งละ 3 แคปซูล ตกวันละ 9 แคปซูล กินต่อเนื่องไปเลย 5 วันแรก แล้วเว้นไป 1 วัน แล้วค่อยกลับมากินใหม่ (โดยในวันแรกที่กินฟ้าทะลายโจรทุกครั้ง ผมจะแกะแคปซูลออกแล้วเทฟ้าทะลายโจรลงคอไปเลย 1 แคปซูล ประมาณครึ่งชั่วโมงอาการเจ็บคอก็ทุเลาลงทันตาเห็นครับ ที่แปลกคือมันไม่ขม กินไปกินมาฟ้าทะลายโจรหวานในคอเฉยเลย แต่อย่าให้โดนลิ้นเรานะ ให้มันลงคอไปเลยจะหวานในลำคอครับ) ทำแบบนี้ครบ 7 วันลองเอาชุดตรวจ ATK มาตรวจดู เชื้อจะไม่มีเลย ช่วงแรกจะมีไข้อ่อนๆ 3-4 วัน หลังจากนั้นลิ้นจะไม่รู้รสอยู่เกือบอาทิตย์ครับ แต่พอเชื้อหายแล้ว อาการนี้ก็จะหายตาม คืนแรกๆผมเกือบไม่ได้นอน เพราะผมหายใจไม่ออก ปกติผมจะมีอาการหอบหืด ภูมิแพ้ฝุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมก็จะมีวิค และยาดมไว้ตรงหัวเตียงตลอด ก็พอช่วยได้ครับ แต่ต้องนอนคว่ำหน้าถึงจะหายใจได้สะดวก พอคืนที่สองผมนึกขึ้นได้ว่าผมมีน้ำเกลืออยู่ เลยเอามาสวนล้างจมูก อาการที่หายใจตอนนอนไม่ได้ก็หายไปทันทีครับ ใครมีญาติหรือเพื่อนที่กำลังเจอโอไมครอนในช่วงนี้ก็แชร์ข้อมูลได้นะครับ เพราะช่วงนี้คนติดวันละหมื่นกว่าละ รพ.ก็เริ่มเตียงไม่พออีกละ แถมรัฐก็ไม่มีเงินช่วยค่ารักษาแล้ว ตอนนี้ใครป่วยก็ต้องรักษาตามสิทธิ์ตัวเอง หรือ ออกเงินเองนะครับ ดังนั้นการรักษาตัวเองที่บ้านจึงปลอดภัยและประหยัดที่สุดแล้วครับโควิด 2019Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยส่งกลับตามคำแนะนำครับ ¤¤¤¤¤¤¤ ♥โภชนาการบำบัด♥ ~~~~~~~~~~~~~~~ ■ใครที่มีเพื่อนรัก! ก็ช่วยส่งกันต่อๆไปนะ ความรู้ใหม่..โภชนาการบำบัดโรค ♥1.ดื่มน้ำร้อนปลอด ทุกโรค ♥2.กินไข่ลวกวันละ สองฟอง ใส่พริกไทยดำตำเองหนึ่งช้อนชาจะห่างไกลจากอัลไซเมอร์ไม่ต้องไปหาหมอ ♥3.หยุดกินน้ำตาล ทราย เพราะเป็นสาเหตุก่อให้ เกิดโรคต่างๆ ♥4.กินทุเรียน ช่วยรักษาโรคมะเร็ง และแก่ช้า ♥5.กินแตงโม ช่วยแก้เลือดอุดตัน ลิ่มเลือด และช่วยบำรุงเลือด ถ้าเป็นผู้ชาย จะทำให้สมถรรพภาพทางเพศแข็งแรง ♥6.สตรีกินสับปะรด ช่วยกระช้บช่องคลอด ♥7.กินกล้วยไข่ ช่วยบำรุง ตับ ไต ผิว ตา กระดูก (เหมาะสำหรับคนทำงานหน้าคอมส์) ทำให้หน้าอกโตด้วย ♥8.กล้วยน้ำว้านำไป เผาทั้งเปลือก ช่วยรักษา ปวดหัว ตัวร้อน และเบาหวาน ♥9.กล้วยหอม เด็กถ้ากินช่วยให้ความ จำดีและสตรีวัยทองช่วยปรับฮอร์โมนให้กินกับ น้ำมะพร้าวอ่อนจะดีมาก ช่วยรักษาโรคฮันจิสัน (สตรีถ้ากินมากจะเซ็กส์จัดนะ) ♥10.น้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น ใช้กินและนวดหน้า นวดร่างกายทำให้ดูอ่อนกว่าวัย รักษา ฝ้า กระ ดีมาก เพราะน้ำมันมะพร้าวเป็นสารตั้งต้นของเครื่องสำอางค์ทุกชนิด ♥11.กินน้ำมันหมูดีที่ สุดเพราะซ่อมสร้างเนื้อ เยื่อได้ ที่เหลือขับทิ้งได้ ไม่เหมือนน้ำมันพืชที่ ผ่านกรรมวิธีมีสารเคมี ตกค้างมากมายมีอัน ตรายต่อสุขภาพระยะ ยาวแน่นอน ♥12.กินหอมแดง,หอมใหญ่,กระเทียมและ ตามด้วยมะนาวฝานบางๆทั้งเปลือก2-3ชิ้นเพื่อ ดับกลิ่นเพื่อลดไขมันตัวร้ายในหลอดเลือดดีกว่ากินยาลดไขมันซึ่งมีผล ข้างเคียงที่อันตรายมาก ▪▪▪▪▪▪▪▪▪ ★ส่งต่อเป็นวิทยาทาน นะครับ ■ใครคือเพื่อน18คน ที่คุณจะไม่สามารถลืม ได้เลยในชีวิต ส่งให้แค่18 คนนั้น แล้วคอยดูว่าคุณเองได้กลับมาเท่าไหร่. เริ่มส่งได้แค่18คนนะ! อย่าลืมส่งให้เพื่อนคน พิเศษของคุณ (รวมถึงส่งกลับมาให้ข้าพเจ้าด้วยถ้าข้าพเจ้าเป็นคนพิเศษ) กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่น่ารัก มากๆ เลยนะ ถ้าคุณหรือกลุ่มได้รับ กลับมาอย่างน้อย 5คน ลองดูเลยลดความอ้วนความสวยความงามผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยทุนการศึกษาปีละ 5,000 บาท ต่อเนื่อง 5 ปี สำหรับนักเรียน นักศึกษา ที่เป็นลูกของผู้เสียชีวิตจากโควิด ครับ 🙏 จริงหรือไม่ทุนการศึกษาปีละ 5,000 บาท ต่อเนื่อง 5 ปี สำหรับนักเรียน นักศึกษา ที่เป็นลูกของผู้เสียชีวิตจากโควิด ครับ 🙏 โดยไม่จำกัดจำนวนทุน และไม่จำกัดระดับชั้นการศึกษา ฝากแชร์ เผยแพร่ต่อ ส่งข่าวให้ถึงผู้สูญเสียด้วย ครับ … ‘มูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ในพระบรมราชูปถัมภ์’ มอบทุนการศึกษาต่อเนื่อง ๕ ปี ๆ ละ ๕,๐๐๐ บาท ให้นักเรียนนักศึกษาที่เป็นบุตรของผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัส ‘โควิด-๑๙’ โดยไม่จำกัดจำนวนทุน และไม่จำกัดระดับชั้นการศึกษา เนื่องด้วยมูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีความประสงค์สนับสนุนทุนการศึกษา เพื่อช่วยเหลือนักเรียน นิสิต นักศึกษา ผู้เป็นบุตรของผู้เสียชีวิตจากโรค “โควิด-๑๙” และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส “โควิด-๑๙” โดยไม่มีเงื่อนไขที่ต้องใช้คืนแต่อย่างใด เพียงมุ่งหวังให้ทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมให้กำลังใจ และสนับสนุนสร้างคนดี คนเก่ง มีคุณธรรมในสังคม ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดสรรทุนการศึกษา เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทั่วถึง จึงกำหนดรายละเอียด วัตถุประสงค์ คุณสมบัติ เอกสารการยื่นใบสมัคร และเกณฑ์การคัดเลือก ดังต่อไปนี้ วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อบำเพ็ญกุศลเนื่องในอายุวัฒนมงคลครบ ๘๕ ปี เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต ประธานกรรมการมูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ในพระบรมราชูปถัมภ์ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๔ ๒. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส “โควิด-๑๙” คุณสมบัติของผู้สมัคร ๑. เป็นผู้มีสัญชาติไทย ๒. เป็นบุตรของผู้เสียชีวิตจากโรค “โควิด-๑๙” ๓. กำลังศึกษาอยู่ เอกสารการยื่นใบสมัคร ๑. สำเนามรณะบัตรของบิดาหรือมารดาที่ระบุว่าเสียชีวิตจากโรค “โควิด-๑๙” ๒. สำเนาบัตรประจำตัวหรือหนังสือรับรองสถานภาพ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ๓. สำเนาระเบียนแจ้งผลการศึกษาในภาคเรียนที่ผ่านมา โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาลงนามรับรอง ๔. สำเนาทะเบียนบ้านทั้งของผู้รับทุนและผู้เสียชีวิต ๕. สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ที่เป็นชื่อของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เกณฑ์การคัดเลือก มูลนิธิฯ จะคัดเลือกจากข้อมูลตามเอกสารการสมัครที่ครบถ้วน ผ่านช่องทางการรับสมัคร และจะพิจารณาตามขั้นตอนของมูลนิธิฯ ทั้งนี้ ผลการพิจารณาถือเป็นที่สิ้นสุด สำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่มีความประสงค์รับทุนการศึกษา ให้ดำเนินการกรอกข้อมูลได้ที่ https://forms.gle/jweb5cYzkjrZXYhY7 พร้อมแนบไฟล์เอกสารตามที่กำหนด หมายเหตุ ๑. ผู้ที่ได้รับทุนตามบัญชีท้ายประกาศนี้ ซึ่งได้รับทุนการศึกษาในปี ๒๕๖๔ แล้ว จะได้รับทุนต่อเนื่องไปอีก ๔ ปี ๒. ผู้ที่ได้รับทุนต่อเนื่อง ๕ ปี จะต้องส่งเอกสารไปยังมูลนิธิฯ ทุกปี เพื่อส่งหลักฐานการศึกษาให้เป็นปัจจุบัน กรอกข้อมูลรับทุนที่ https://www.facebook.com/135197050358369/posts/1017057262172339/Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเช็คตัวเอง 🌿🌼🌿 9 นิ สั ย ข อ ง ผู้ ที่ มี บุ ญ ม า ก 🔸1. ไม่คิดมาก เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นความสะอาด ความสว่าง ความสงบ ตามกำลังของบุญฤทธิ์ (ปัญญาญาณ) ทำให้เกิดพลังแห่งความสงบ แห่งจิตแห่งใจ ไม่ฟุ้งซ่านรำคาญใจ ไม่คิดเป็นทุกข์ ความคิดทุกความคิด ล้วนนำมาซึ่งความเบิกบานกายใจ ไม่คิดเบิกความทุกข์มาใช้ก่อน 🔸2. ไม่บ่น เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นปัญญา #ทำให้ยอมรับต่อความเป็นจริงของชีวิต ทำให้รู้เห็นและเข้าใจถึงระดับวาสนาของตนและบุคคลอื่น ความเป็นไปของชีวิตนั้นขึ้นตรงต่ออำนาจบุญกรรมที่ทำไว้ บ่นไปก็แค่นั้นเอง ที่ได้มา ที่มีอยู่ ที่เสียใจ ที่ไม่ได้ดั่งใจ ทุกสิ่งทุกอย่างนั้น มันคือ “ผลแห่งกรรม” อันเป็นสมบัติของเราเอง 🔸3. รู้ได้ ตื่นได้ และเบิกบานได้ เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นความรู้ ตื่น เบิกบาน ตามกำลังของบุญฤทธิ์(ปัญญาญาณ) เป็นผู้รู้ ต่อความเป็นจริงของชีวิต ไม่ปล่อยชีวิตให้ตกไปในกระแสของความโลภ ความโกรธ ความหลง จิตใจมีความอิสระเต็มที่ ทุกวันทุกเวลาทุกนาที 🔸4. ปล่อยได้ วางได้ เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นคนที่รู้จักการละ การวาง ตามกำลังของบุญฤทธิ์ (ปัญญาญาณ) ไม่เป็นคนที่แบกทุกอย่างที่ขวางหน้า ยึดทุกอย่างที่เกิดขึ้น 🔸5. รอได้ คอยได้ เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นความใจเย็น มีความยืดหยุ่น ตามกำลังของบุญฤทธิ์ (ปัญญาญาณ) ไม่ใจร้อน ใจเร็ว เห็นถึงจังหวะ และโอกาสของชีวิต 🔸6. ไม่กลัว เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นความเข้มแข็ง กล้าหาญ ตามกำลังของบุญฤทธิ์ (ปัญญาญาณ) ทำให้ไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรคและปัญหาที่จะเกิดขึ้น เพราะมีความมั่นใจในความเป็นผู้บริสุทธิ์ ความเป็นผู้มีบุญของตน เมื่อจะคิด จะทำอะไรลงไป ล้วนมีกำลังบุญมารองรับทั้งหมดทั้งสิ้น 🔸7. สงบได้ เย็นได้ เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะเป็นสภาพให้เป็นคนที่สงบได้ เย็นได้ ตามกำลังของบุญฤทธิ์ (ปัญญาญาณ) ไม่เป็นคนที่ร้อนรน กระวนกระวาย สับส่าย วุ่นวาย ในสิ่งที่ไม่เป็นสาระ ในสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น แม้จะตกอยู่ในเหตุการณ์ที่เลวร้าย ก็ทำใจได้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 🔸8. ไม่ทำชั่ว เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นตัวควบคุม บริหารจัดการ ตามกำลังของบุญฤทธิ์ (ปัญญาญาณ) ทำให้เกิดความกลัว ความละอายต่อบาป ต่อกรรม ความผิดน้อยใหญ่ ทั้งในที่ลับและที่แจ้ง เห็นถึงความเสียหาย หลายภพหลายชาติ เห็นถึง ผลกระทบต่อครอบครัว ต่อโลกต่อสังคม อย่างมากมายมหาศาล 🔸9. อดได้ ทนได้ เมื่อมีบุญแล้ว ผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นพลังงานเข้มแข็ง ตามกำลังของบุญฤทธิ์ (ปัญญาญาณ) ทำให้มีความอดทน ที่เป็นหนึ่งเป็นเลิศ มีความคิดที่ไม่หวั่นไหว เห็นความสำเร็จทุกชนิดมาจากความอดทน อดทนอย่างมีความสุข 🍂 หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ 🌷 ที่มา :: www.luangta.comไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเชื้อที่น่ากลัวที่สุด.. มิใช่โควิด .... แต่เป็นความหวาดกลัวมากกว่า.. ...* เชื้อที่น่ากลัวที่สุด.. มิใช่โควิด .... แต่เป็นความหวาดกลัวมากกว่า.. ... จำนวนผู้คนที่ล้มตายในโลกใน 3 เดือนที่ผ่านมา.. จากโควิด : 314,687 มาลาเรีย : 340,584 ฆ่าตัวตาย : 353,696 โรคเอดส์ : 240,950 สุรา : 558,471 สูบบุหรี่ : 816,498 มะเร็ง : 1,167,474 อุบัติเหตุถนน : 393,479 แล้วคุณยังคิดว่า โควิดอันตรายอยู่หรือไม่ หรือเป็นการสร้างความตระหนกโดยบริษัทยา เพื่อขายสินค้า เช่น วัสดุฆ่าเชื้อ แมส ยา หรือ รพ. มีผู้เข้าตรวจหาเชื้อเพราะเกิดจากความตระหนก..!! เป็นต้น .... อย่าตกอกตกใจจนเกินไป.. ... โพสต์นี้ต้องการลดความกลัวของคุณ จากข่าวสารที่น่ากลัวที่เผยแพร่กัน.. หากบังเอิญคุณติดเชื้อ ก็ไม่ควรตระหนก เพราะ... * 81% เป็นการติดเชื้ออ่อน ๆ * 14% เป็นการติดเชื้อปานกลาง * มีเพียง 5% เท่านั้นที่เป็นการติดเชื้อระดับรุนแรง..!! ... ซึ่งหมายความว่า แม้คุณจะติดเชื้อ แต่ก็มีโอกาสมากที่จะหาย บางคนกล่าวว่า โควิดร้ายแรงกว่าโรคซาร์ส & ไข้หวัดหมู .. แต่ * โรคซาร์ส มีอัตราการตาย 10% * ไข้หวัดหมู 28% และ * โควิดมีอัตราตายแค่ 2%..!! ยิ่งไปกว่านั้น หากพิจารณาอายุ ของคนที่ตายจากโควิด .. ปรากฏว่า อัตราคนตายที่มีอายุ ต่ำกว่า 55 ปี * มีอยู่เพียง 0.4% ซึ่งหมายความว่า ถ้าคุณมีอายุต่ำกว่า 55 และไม่ได้อยู่ที่อินเดีย ดูเสมือนคุณมีโอกาสจะ * ถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่ 1 โอกาสถูกเท่ากับ..1 ใน 45 ล้าน """ * หากจะต้องตาย..!! เราลองมาพิจารณาว่า ในหนึ่งวัน .. สมมุติว่าเป็นวันที่ 1 สค.64 เมื่อโควิดทำให้ คนล้มตายในโลกไปถึง 6,046 คน ... และในวันเดียวกัน มีคนล้มตายจาก... * มะเร็ง - 26,283 คน * โรคหัวใจ - 24,641 คน * เบาหวาน - 4,300 คน * ฆ่าตัวตายมีมากถึง 28 เท่าของคนที่ตายจากโควิด..!! ..... * ยุงฆ่าคน 2,740 คนทุกวัน.. * มนุษย์ฆ่ากันเอง 1,300 คนทุกวัน..!! * งูกัดคนตาย 137 คนต่อวัน * ปลาฉลามฆ่าคนตายปีละ 2 คน..!! แล้วคุณจะว่ายังไง..!! ดังนั้น คุณจึงควรจะทำกิจวัตร ประจำวันที่จะช่วยรักษาภูมิคุ้มกันของคุณ .. รักษาสุขอนามัย และ ไม่ควรอยู่อย่างตระหนก..!! ... เพียงแค่ช่วยกันแพร่.. ** ความหวัง ** มากกว่า ** ความกลัว * เชื้อที่น่ากลัวที่สุด.. มิใช่โควิด .... แต่เป็นความหวาดกลัวมากกว่า.. ... จงช่วยกันแชร์ข้อมูลเหล่านี้ เพื่อหยุดยั้งความ.. ** ตื่นตระหนกกันเถิด..** Cr: นพ.กุลชัย ฐานพงษ์Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจริงรึเปล่าคะ โควิดไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด และเปอร์เซ็นการตายจากโควิดน้อยว่า เมื่อเทียบกับโรคอื่นๆเราลองมาพิจารณา(ที่หนึ่ง) เรื่องโควิดอย่างตรงไปตรงมา สักหน่อยนะ... ตัวเลขสถิติเหล่านี้คงทำให้ ้คุณประหลาดใจ..?? จำนวนผู้คนที่ล้มตายในโลกใน 3 เดือนที่ผ่านมา.. จากโควิด : 314,687 มาลาเรีย : 340,584 ฆ่าตัวตาย : 353,696 โรคเอดส์ : 240,950 สุรา : 558,471 สูบบุหรี่ : 816,498 มะเร็ง : 1,167,474 อุบัติเหตุถนน : 393,479 (ที่หนึ่ง)แล้วคุณยังคิดว่า โควิด อันตรายอยู่หรือไม่..?? หรือเป็นการสร้างความตระหนก โดยบริษัทยาเพื่อขายสินค้า เช่น วัสดุฆ่าเชื้อ แมส ยา หรือ รพ. มีผู้เข้าตรวจหาเชื้อ เพราะเกิดจากความตระหนก..!! เป็นต้น (ที่หนึ่ง)อย่าตกอกตกใจจนเกินไป.. โพสต์นี้ต้องการลดความกลัว ของคุณจากข่าวสารที่น่ากลัวที่ เผยแพร่กัน.. หากบังเอิญคุณติดเชื้อ ก็ไม่ควร ตระหนก เพราะ... * 81% เป็นการติดเชื้ออ่อน ๆ * 14% เป็นการติดเชื้อปานกลาง * มีเพียง 5% เท่านั้นที่เป็นการ ติดเชื้อระดับรุนแรง..!! (ที่หนึ่ง)ซึ่งหมายความว่า แม้คุณ จะติดเชื้อ แต่ก็มีโอกาสมาก ที่จะหาย บางคนกล่าวว่า โควิดร้ายแรงกว่าโรคซาร์ส & ไข้หวัดหมู..แต่โรคซาร์ส * มีอัตราการตาย 10% * ไข้หวัดหมู 28% และ * โควิดมีอัตราตายแค่ 2%..!! ยิ่งไปกว่านั้น หากพิจารณาอายุ ของคนที่ตายจากโควิด.. ปรากฏว่า อัตราคนตายที่มีอายุ ต่ำกว่า 55 ปี * มีอยู่เพียง 0.4% (ที่หนึ่ง)ซึ่งหมายความว่า ถ้าคุณ มีอายุต่ำกว่า 55 และไม่ได้อยู่ที่ อินเดีย ดูเสมือนคุณมีโอกาสจะ * ถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่ 1 โอกาสถูกเท่ากับ..1 ใน 45 ล้าน * หากจะต้องตาย..!! (ที่หนึ่ง)เราลองมาพิจารณาว่า ในหนึ่งวัน..สมมุติว่าเป็นวันที่ 1 พค.(ปีที่แล้ว) เมื่อโควิดทำให้ คนล้มตายในโลกไปถึง 6,046 คน (ที่หนึ่ง)และในวันเดียวกัน มีคนล้มตายจาก... * มะเร็ง - 26,283 คน * โรคหัวใจ - 24,641 คน * เบาหวาน - 4,300 คน * ฆ่าตัวตายมีมากถึง 28 เท่า ของคนที่ตายจากโควิด..!! * ยุงฆ่าคน 2,740 คนทุกวัน.. * มนุษย์ฆ่ากันเอง 1,300 คน ทุกวัน..!! * งูกัดคนตาย 137 คนต่อวัน * ปลาฉลามฆ่าคนตาย ปีละ 2 คน..!! (ที่หนึ่ง)แล้วคุณจะว่ายังไง..!! ดังนั้น คุณจึงควรจะทำกิจวัตร ประจำวันที่จะช่วยรักษา ภูมิคุ้มกันของคุณ.. รักษาสุข อนามัยและไม่ควรอยู่ ** อย่างตระหนก..!! (ที่หนึ่ง)เพียงแค่ช่วยกันแพร่.. * ความหวัง * มากกว่า * ความกลัว * * เชื้อที่น่ากลัวที่สุด..มิใช่โควิด แต่เป็นความหวาดกลัวมากกว่า.. จงช่วยกันแชร์ข้อมูลเหล่านี้ เพื่อหยุดยั้งความ.. * ตื่นตระหนกกันเถิด..*🧕🏻• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ