ปีแห่งไฟ ตามคำทำนายเอาไว้
ไฟไหม้ตลาดสิงห์บุรี วอดเสียหายหมด
โรงแรมที่ตุรกีไฟไหม้ ตาย 76 คน
และต่อไป นายเอกนัฐ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม จากพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเผามาเฟียอุตสาหกรรม ที่ไม่ได้มาตรฐาน ทิ้งทั้งหมด
ในขณะเดียวกัน นาย พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ก็พร้อมจะเผากลุ่มทุนมาเฟียพลังงานทั้งหมด ทั้งยกเลิกค่ากลั่นน้ำมันหน้าโรงงานที่อิงราคาจากสิงคโปร์และเตรียมยกเลิกกองทุนสำรองน้ำมันทิ้งทั้งหมด เพราะมันไม่มีอยู่จริง ราคาน้ำมันจริงแค่ต้นทุนลิตรละ 20 บาท แต่มาเฟียน้ำมันบวกราคาเกือบสามเท่ามาขายให้ประชาชน และมาเฟียการไฟฟ้าที่ไปเอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มมาเฟียพลังงานสะอาด ที่รัฐเสียค่าโง่มานาน นอกจากกลุ่มทุนพวกนี้ไม่เคยผลิตพลังงานส่งให้รัฐเลย ยังนอนตีพุงกินเงินงบประมาณมหาศาลไปแบบฟรีๆ เป็นสาเหตุให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ต้องทำทุกวิถีทางขูดเลือดประชาชน เพื่อเอาเงินส่วนนี้มาชดใช้ให้กับกลุ่มมาเฟียการไฟฟ้ามานาน
**ต้องยกเลิกการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าแบบดิจิตอล ที่เต็มไปด้วยความไม่โปร่งใส***
***ต้องยกเลิกค่า FT ที่อุปโลกน์คิดกันขึ้นมาเอง เพื่อขูดเลือดประชาชน***
***ต้องคืนการไฟฟ้ามาเป็นของรัฐบาล100% ยุติการให้เอกชนเข้ามาถือหุ้นในทันที เพื่อล้างกลุ่มมาเฟียพวกนี้ออกจากการไฟฟ้า***
คิดลงขันแค่เพียง 300ล้านบาท เพื่อบีบให้นายเอกนัฐ ออกจากตำแหน่ง รมว. อุตสาหกรรม ผมว่ามันถูกไป อย่างน้อยมันต้องไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท หรือไม่ก็ต้องเป็นเงินทั้งหมดของตระกูลชิน ดูจะเหมาะสมกว่าค่าตัวของนายเอกนัฐ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นทรัพย์สินบุคคลสำคัญของคนไทยทั้งประเทศไปแล้ว
ต่อจากนี้ไป ระเบิดอีกลูกจะไปตกที่กรมวิชาการเกษตร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ***เรื่องยาฆ่าหญ้าและยาฆ่าแมลงทุกชนิด จะไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของกระทรวงอุตสาหกรรม และจะกลายเป็นนโยบายย้อนกลับมาฆ่าฐานเสียงใหญ่ของพรรคเพื่อไทยเอง ที่มีกลุ่มทุนผูกขาดยาฆ่าหญ้าและยาฆ่าแมลง ที่เป็นกลุ่มทุนเจ้าสัวใหญ่ ที่เป็นตัวอุปสรรคสำคัญ ที่ขัดขวางนโยบายการผลิตอาหารสะอาดและรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อการส่งออกของนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยของตนเอง
เรื่องน้ำมันและค่าไฟ ทักษิณก็แพ้ให้กับนายพีระพันธ์ไปจนหมดสภาพ
เรื่องอ้อยเผากับโรงงานน้ำตาล ทักษิณก็พ่ายแพ้ต่อนายเอกนัฐ แบบหมดรูป
งานต่อไป เรื่องการยกเลิกห้ามจำหน่ายยาฆ่าหญ้ากับยาฆ่าแมลง ที่ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม หน้าที่นี้จะเป็นของนายเอกนัฐ ที่จะต้องสู้กับลิ้วล้อของทักษิณ อย่าง รอ.ธรรมนัส ที่จะเป็นศึกคืนอาหารสะอาดและคืนสิ่งแวดล้อมกลับมาให้กับคนไทยทั้งประเทศ และแน่นอนว่า นายเอกนัฐ จะชนะอีกครั้ง เพราะนโยบายผลิตอาหารสะอาดและรักษาสิ่งแวดล้อม ล้วนเป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย
ในขณะที่เสี่ยหนู แห่งพรรคภูมิใจไทย ยังนิ่งเงียบสนิท ต่อกรณีที่กระทรวงมหาดไทย ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ในเรื่องการอนุญาตให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ขายไฟฟ้าให้กลุ่มว้าแดงใช้ผลิตยาบ้า มามอมเมาเยาวชนในประเทศของตนเอง.
เดชา นฤนารท .
25/1/68 09.12 น.
ไฟไหม้ตลาดสิงห์บุรี วอดเสียหายหมด
โรงแรมที่ตุรกีไฟไหม้ ตาย 76 คน
และต่อไป นายเอกนัฐ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม จากพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเผามาเฟียอุตสาหกรรม ที่ไม่ได้มาตรฐาน ทิ้งทั้งหมด
ในขณะเดียวกัน นาย พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ก็พร้อมจะเผากลุ่มทุนมาเฟียพลังงานทั้งหมด ทั้งยกเลิกค่ากลั่นน้ำมันหน้าโรงงานที่อิงราคาจากสิงคโปร์และเตรียมยกเลิกกองทุนสำรองน้ำมันทิ้งทั้งหมด เพราะมันไม่มีอยู่จริง ราคาน้ำมันจริงแค่ต้นทุนลิตรละ 20 บาท แต่มาเฟียน้ำมันบวกราคาเกือบสามเท่ามาขายให้ประชาชน และมาเฟียการไฟฟ้าที่ไปเอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มมาเฟียพลังงานสะอาด ที่รัฐเสียค่าโง่มานาน นอกจากกลุ่มทุนพวกนี้ไม่เคยผลิตพลังงานส่งให้รัฐเลย ยังนอนตีพุงกินเงินงบประมาณมหาศาลไปแบบฟรีๆ เป็นสาเหตุให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ต้องทำทุกวิถีทางขูดเลือดประชาชน เพื่อเอาเงินส่วนนี้มาชดใช้ให้กับกลุ่มมาเฟียการไฟฟ้ามานาน
**ต้องยกเลิกการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าแบบดิจิตอล ที่เต็มไปด้วยความไม่โปร่งใส***
***ต้องยกเลิกค่า FT ที่อุปโลกน์คิดกันขึ้นมาเอง เพื่อขูดเลือดประชาชน***
***ต้องคืนการไฟฟ้ามาเป็นของรัฐบาล100% ยุติการให้เอกชนเข้ามาถือหุ้นในทันที เพื่อล้างกลุ่มมาเฟียพวกนี้ออกจากการไฟฟ้า***
คิดลงขันแค่เพียง 300ล้านบาท เพื่อบีบให้นายเอกนัฐ ออกจากตำแหน่ง รมว. อุตสาหกรรม ผมว่ามันถูกไป อย่างน้อยมันต้องไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท หรือไม่ก็ต้องเป็นเงินทั้งหมดของตระกูลชิน ดูจะเหมาะสมกว่าค่าตัวของนายเอกนัฐ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นทรัพย์สินบุคคลสำคัญของคนไทยทั้งประเทศไปแล้ว
ต่อจากนี้ไป ระเบิดอีกลูกจะไปตกที่กรมวิชาการเกษตร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ***เรื่องยาฆ่าหญ้าและยาฆ่าแมลงทุกชนิด จะไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของกระทรวงอุตสาหกรรม และจะกลายเป็นนโยบายย้อนกลับมาฆ่าฐานเสียงใหญ่ของพรรคเพื่อไทยเอง ที่มีกลุ่มทุนผูกขาดยาฆ่าหญ้าและยาฆ่าแมลง ที่เป็นกลุ่มทุนเจ้าสัวใหญ่ ที่เป็นตัวอุปสรรคสำคัญ ที่ขัดขวางนโยบายการผลิตอาหารสะอาดและรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อการส่งออกของนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยของตนเอง
เรื่องน้ำมันและค่าไฟ ทักษิณก็แพ้ให้กับนายพีระพันธ์ไปจนหมดสภาพ
เรื่องอ้อยเผากับโรงงานน้ำตาล ทักษิณก็พ่ายแพ้ต่อนายเอกนัฐ แบบหมดรูป
งานต่อไป เรื่องการยกเลิกห้ามจำหน่ายยาฆ่าหญ้ากับยาฆ่าแมลง ที่ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม หน้าที่นี้จะเป็นของนายเอกนัฐ ที่จะต้องสู้กับลิ้วล้อของทักษิณ อย่าง รอ.ธรรมนัส ที่จะเป็นศึกคืนอาหารสะอาดและคืนสิ่งแวดล้อมกลับมาให้กับคนไทยทั้งประเทศ และแน่นอนว่า นายเอกนัฐ จะชนะอีกครั้ง เพราะนโยบายผลิตอาหารสะอาดและรักษาสิ่งแวดล้อม ล้วนเป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย
ในขณะที่เสี่ยหนู แห่งพรรคภูมิใจไทย ยังนิ่งเงียบสนิท ต่อกรณีที่กระทรวงมหาดไทย ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ในเรื่องการอนุญาตให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ขายไฟฟ้าให้กลุ่มว้าแดงใช้ผลิตยาบ้า มามอมเมาเยาวชนในประเทศของตนเอง.
เดชา นฤนารท .
25/1/68 09.12 น.