(2461 ข้อความ)
- 1 คนสงสัยยาลดนน.ภายใน7วันสามารถลดนน.ได้ภายใน7วันstd47913• 2 ปีที่แล้ว
- 3 คนสงสัยเร่งเอาผิดอีก 9 อาหารเสริม สวมเลข อย.โฆษณาเกินจริงอย.เร่งเอาผิด “อาหารเสริม” อีก 9 ตัว สวมเลข อย. โฆษณาเกินจริง บางตัวอ้างลดอ้วน เผาผลาญไขมัน เร่งระงับโฆษณา แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้อง และเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์ เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อซื้อมาบริโภค อาจได้รับอันตรายstd48951• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยคุณลูกค้าขา "พิมรี่พาย" แม่ค้าน้ำหอม รับ 6 เดือนก่อนเคยขายของปลอมคุณลูกค้าขา "พิมรี่พาย" แม่ค้าน้ำหอมชื่อดัง รับ 6 เดือนก่อนเคยขายของปลอม ขอบคุณตำรวจ และเพจชื่อดังที่เตือนสติอย่าขายของปลอม ส่วนที่เจอวันนี้คือของเก่า ที่ไม่ได้ทำลายจากกรณี กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้เข้าตรวจสอบบ้านของพิมรี่พาย Pimrypie มีการโฆษณาเครื่องสำอางหลายรายการที่น่าเชื่อว่าจะเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐานนั้น ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้std47675• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยการปฏิวัติอุตสาหกรรมเกิดที่แรกประเทศอะไรการปฏิวัติอุตสาหกรรมเกิน ขึ้นครั้งแรกใน ค.ศ.1760 ประเทศอังกฤษ ปฏิวัติเกี่ยวกับ เครื่องจักรหม้อไอน้ำKonpapha Thainukun• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยทำไมต้องมี โควต้า เข้าเรียนมหาวิทยาลัยหลัก ๆ ของรัฐ สำหรับนักเรียนที่นับถือศาสนาอิสลาม 3 จว.ชายแดนใต้จากประเด็นโควต้าให้มุสลิมในประเทศไทย เข้าเรียนมหาวิทยาลัยรัฐบาล 9 แห่ง โดยไม่ต้องสอบเข้า สำนักงานปลัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า นักศึกษาที่นับถืออิสลามในจังหวัดชายแดนใต้ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ได้โควต้าทุนเข้าศึกษาต่อใน ม.รัฐ ระยะที่ 10 ปี 62-66 แต่ต้องผ่านการสอบข้อเขียน หรือสอบสัมภาษณ์ตามกระบวนการปกติภาคใต้ผู้บริโภคเฝ้าระวังชุมพล ศรีสมบัติ• 4 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--middle5 ความเห็น
- 2 คนสงสัยBREAKING NEWS โควิดโผล่ ตามโรงเรียน inter ย่านสุขุมวิทเพียบ ล่าสุดมีจดหมายจากหลายโรงเรียนในย่านสุขุมวิท โดยเฉพาะโรงเรียน inter ประกาศว่านักเรียน และผู้ปกครองหลายคน ติดโควิด ซึ่งจากที่ดูเป็นจดหมายของหลายโรงเรียนแบบไม่ซ้ำกัน นั่นหมายความว่า ตอนนี้คลื่นระลอกใหม่ที่กำลังก่อตัวไม่ใช่ตลาด หรือชานเมือง แต่มันกำลังเกิดขึ้นใจกลางกรุงเทพฯ.. ลิงก์ต้นฉบับ https://www.blockdit.com/posts/6069d4932e0b280c266249f0โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ที่ นาย ยุทธพงศ์ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อ้างถึงเรื่องเรือดำน้ำที่กองทัพเรือเสนอกับรัฐตามที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียรส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อ้างถึงเรื่องการซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือว่าเอกสารลงนามจัดซื้อเรือดำน้ำนั้น ไม่ใช่สัญญา รัฐต่อรัฐ แต่เป็นเพียงเอกสารข้อตกลง และสัญญาที่ลงนามเป็นเพียงการจัดซื้อเรือ 1 ลำเท่านั้นPinjutha Ratchatamethawin• 5 ปีที่แล้ว4 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยนักเรียนรรชื่อดังตบกันมีนักเรียนโรงเรียนดังตบกันแต่แม่มาช่วยลูกตบMoui• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาลดน้ำหนักผอมเร็วหนึ่งตัวช่วยในการลดน้ำหนักที่หลายคนเลือกเพื่อรีดน้ำหนักส่วนเกินออกจากร่างกาย เพราะเชื่อว่าสามารถช่วยให้น้ำหนักลดลงได้เร็ว ซึ่งจริง ๆ แล้วยาชนิดนี้มีทั้งคุณและโทษ จึงมีความจำเป็นที่ผู้คิดจะใช้ยาลดน้ำหนักต้องเรียนรู้เกี่ยวกับยาเหล่านี้ให้มากขึ้น เพื่อความปลอดภัย และการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพลดความอ้วนstd48385• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยโคโรน่าแพร่ผ่านทางสายเลือดมีผู้โพสต์ลงในอินเตอร์เน็ตว่าเชื้อโคโรน่าถ่ายทอดไปยังลูกๆได้ มีการอ้างอิงถึงแม่ลูกคู่หนึ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์และเมื่อคลอดลูก ลูกลับติดเชื่อละเสียชีวิตstd48019• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยเพิ่มคอลลาเจนเเล้วทำให้ขาว“ดื่มแล้วผิวเนียนกระจ่างใส ช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน ลองดูก่อน 7 วัน” บวกกับดาราหน้าใสกิ๊กถือกล่องคอลลาเจนผงถ่ายลงอินสตราแกรม ดาราหน้าสวยผิวใสการันตีขนาดนี้ใครจะไม่เชื่อบ้างล่ะ การกินคอลลาเจนไม่ได้ช่วยเรื่องผิวพรรณเลย เว้นแต่ว่าคุณต้องได้รับคอลลาเจนผ่านการฉีด หรือใช้เครื่องมือพิเศษผลักไออนนำคอลลาเจนเข้าไป หรือร้อยไหม, ยิงเลเซอร์บางตัวเข้าไป เพื่อกระตุ้นให้คอลลาเจนตื่น เมื่อก่อนมีมาคอลลาเจนจากญี่ปุ่นที่มาใส่ในหม้อไฟ เรียกกันว่า กินคอลลาเจนสดๆ แต่พอแปรรูปเป็นผง ซึ่งพวกเราไม่มีทางรู้เลย ผสมแป้งไหม มีสารปนเปื้อนอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ ส่วนใหญ่เน้นชูธงว่า เป็นคอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก ดังนั้นข้อเสียอย่างแรกคือ แพ้ หากกินแล้วรู้สึกคลื่นไส้ ถือว่าเป็นระดับอนุบาล แต่ถ้าแพ้รุนแรง จะบวมเป็นผื่นขึ้น ถึงขั้นแน่นหน้าอก หลอดลมตีบ หายใจไม่ออกได้เลย ยิ่งคอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก คนที่แพ้อาหารทะเล กินคอลลาเจนชนิดนี้ไม่ได้นะ เพราะจะเกิดอาการแพ้รุนแรง เตือนคนที่แพ้ความสวยความงามmoopai.011• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยการเมืองเล่นงาน เรื่องของกัญชา ที่ พ.ร.บ. ต้องถูกถอดออกจากที่ประชุมสภา แบบหักปากกาเซียนนั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องของการเมือง ที่พรรคการเมือง จะต้องมองถึงศึกเลือกตั้งที่กำลังใกล้เข้ามาทุกวินาที เป็นศึกที่จะยอมกันไม่ได้แน่นอน จำได้ไหม ตอนนำร่าง พ.ร.บ.กัญชาเข้าสภา ในขั้นตอนยกร่าง ปรากฏว่าทุกพรรคยกมือเห็นดี เห็นงาม วันนั้น ยังมองว่าเป็นโอกาสของประเทศไทย ทั้งในเรื่องของการแพทย์และเศรษฐกิจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ท่าที ที่เคยเป็นมิตรจากฝ่ายการเมืองเริ่มไม่เหมือนเดิม เพราะรู้กันดีว่าหากปล่อยนโยบายกัญชาเดินหน้าราบรื่น รับรองว่า พรรคภูมิใจไทย กับสโลแกน “พูดแล้วทำ” กระหื่มแน่ ดังนั้น เมื่อมาถึงวาระที่ 2 ของการพิจารณา พ.ร.บ.ดังกล่าว จึงต้องใช้โอกาสนี้ ซัดให้ล้มหงาย นำโดยพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาธิปัตย์ ที่กลับมาจับมือกัน ทั้งที่เรื่องนี้ มีทางออก มากมายโดยไม่จำเป็นต้องถอนร่างกลับไปแก้ไขใหม่ให้เสียเวลา อาทิ การพิจารณารายมาตราต่อในที่ประชุมสภาได้เลย แต่การดึงดันที่จะให้ถอนร่างไปนั้น ก็ไม่ต่างจากการล้มนโยบายของพรรคภูมิใจไทยแล้ว เพราะเหลือเวลาอีกไม่มากอายุของสภาจะหมดลง นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธาน กมธ.ร่าง พระราชบัญญัติฉบับนี้ พูดด้วยความท้อใจ “วันนี้ประเทศไทยต้องเดินหน้านับหนึ่งก่อน ถ้ามีข้อบกพร่องประการใดก็พร้อมที่จะแก้ แต่วันนี้ท่านยังไม่ได้ดูแต่ละมาตราเลย แต่บอกให้ผมเอากลับไปแก้ ผมเอามานำเสนอต่อที่ประชุมนี้ หากท่านเห็นว่ากฎหมายในแต่ละมาตราไม่ดี ก็เป็นเอกสิทธิ์ของท่าน แต่วันนี้อย่าเพิ่งติ หากท่านยังไม่เห็นรายละเอียด” นายศุภชัย กล่าว อันที่จริง กับท่าทีของพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกพิศดาร แต่เป็นพรรคประชาธิปัตย์ต่างหากที่น่าจับตามอง เพราะอย่าลืมว่า ก็เป็นพรรคร่วมมาด้วยกัน จึงถือเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย ที่อยู่ดีๆ เอามีดมาฟันเพื่อนหัวแบะ หรือโกรธเคืองที่ถูกพรรคภูมิใจไทย ไล่เจาะพื้นที่ภาคใต้ แต่ทุกพื้นที่นั้น ทุกพรรคก็มีสิทธิ์หาเสียง และประชาชนก็มีสิทธิ์เลือก ใช่หรือไม่ ? อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ พูดอยู่เสมอว่า กังวลการใช้กัญชาอย่างเลยเถิด แต่การบังคับให้ต้องถอนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เท่ากับการใช้กัญชาของไทย จะยังถูกควบคุมด้วยกฎหมายเดิม ที่ไม่ทันสมัย ไม่ทันสถานการณ์ การดูแลไม่ทั่วถึงครอบคลุม ช่างย้อนแย้งเสียนี่กระไร มีคำถามที่แหลมคมจากกลุ่ม “เขียนอนาคตกัญชาไทย” ต่อพรรคประชาธิปัตย์ ที่บัดนี้ หมายรวมถึงพรรคเพื่อไทยด้วย 1.กัญชาเสรีนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงวันที่ 9 มิ.ย.จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นการปล่อยให้กัญชาเสรีที่สุดเพราะไม่มีกฎหมายมากำกับ และในช่วงที่เสรีที่สุดนี้ กัญชาได้ก่อให้เกิดความวิบัติใดกับสังคมบ้าง เช่น คนติดกัญชาเพิ่มขึ้น คนติดกัญชาไปทำร้ายคนอื่น เหตุการณ์ใดที่ถูกนำมาเป็นปัจจัยชี้วัดว่ากัญชาควรกลับไปเป็นยาเสพติด โดยต้องตอบคำถามนี้เพราะในคำแถลงระบุชัดเจนว่านี่ไม่ใช่เรื่องการเมือง ฉะนั้นหากยืนยันว่ากระทำบนหลักการ จึงต้องชี้แจงต่อสาธารณะว่ามีข้อมูลใดที่แสดงให้เห็นว่ากัญชาควรต้องกลับไปเป็นยาเสพติด 2.ท่านไม่เห็นด้วยที่อนุญาตให้ครัวเรือนปลูกกัญชาได้ เพราะมองว่าจะเอาไปสูบแทนที่จะนำไปทำประโยชน์ทางการแพทย์ คำถามที่สำคัญคือท่านมีความรู้แค่ไหนในเรื่องกัญชา และนำหลักเกณฑ์ใดมาตัดสินว่าหากชาวบ้านมีสิทธิในการปลูกกัญชาได้แล้วจะก่อให้เกิดภาวะคนสูบกัญชาทั้งประเทศ หากท่านคิดว่าการที่คนเข้าถึงกัญชาแล้วจะทำให้คนสูบกัญชามากขึ้นนั้น เป็นความไร้เดียงสานำความไม่รู้มาตัดสินพืชพื้นเมืองที่อยู่คู่กับครัวเรือนของประเทศนี้มานานก่อนที่รัฐบาลจะประกาศให้ผิดกฎหมาย “ความตายและการเจ็บป่วยของชาวบ้านซึ่งไม่มีเงินรักษา ไม่ได้มีเงินแบบท่าน พวกเขาเหล่านั้นใช้น้ำมันกัญชาในการรักษาชีวิต อย่างที่ ท่านไม่เคยใส่ใจ และอย่าไร้เดียงสาพูดเรื่องกัญชาทางการแพทย์ หากประชาชนไม่สามารถปลูกได้ กัญชาจะกลับไปอยู่ในมือของกลุ่มทุนและผู้เชี่ยวชาญ ทั้งที่มันอยู่ในตำรายาแพทย์แผนไทยและหมอพื้นบ้านเมื่อครั้งสมัยอยุธยาและชาวบ้านสามารถผลิตยารักษา นำไปใส่อาหารแทนผงชูรส และอย่าดูถูกประชาชนว่าไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรถูกอะไรผิดต่อการใช้พืชพื้นเมืองชนิดนี้ ชาวบ้านปลูกกัญชาผิด เวลาพวกคุณเทเหล้าใส่ปากขวดละหลายหมื่น มึนเมากันกลับเป็นวัฒนธรรมอันดีงาม” น่าเสียดายที่พรรคนี้กีดขวางประชาชนในการเข้าถึงการผลิตยาสมุนไพรจากพืชพื้นเมืองที่ชื่อว่ากัญชา สังคมต้องตัดสินพรรคนี้ว่า ควรที่จะให้โอกาสพรรคนี้มาทำงานในสภาอีกหรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เชื่อว่าคำถามเหล่านี้ จะไม่มีคำตอบ เพราะพวกเขาได้บรรลุเป้าหมายแล้ว เป้าหมายทางการเมืองในการตัดขาคู่แข่ง เขาคิดแค่นี้ และทำมันได้แล้ว #Ringsideการเมืองยาสมุนไพรข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 5 คนสงสัยแจ้งข่าวที่ทุกคนต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์จะเกิดอุทกภัยที่รุนแรงที่สุดในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 22-28 ส.ค.65 จะเกิดพายุถึง 9 ลูกขึ้นพร้อมๆกัน จะล้อมรอบประเทศไทย เกิดขึ้นทั้งทางอ่าวเบงกอลของอินเดีย และเขตมหาสมุทรแปซิฟิก และบริเวณเขตทะเลอินโดจีน พายุทั้ง 9 ลูก ไม่ได้เข้าไทย แต่จะสร้างร่องมรสุมพายุที่รุนแรงที่สุดให้กับประเทศไทย และสิ่งที่ผมกังวลที่สุดก็คือ "ภายในปีนี้ น้ำท่วมกรุงเทพฯหนักมากอย่างแน่นอน และไม่น่าจะรอด" และที่น่ากลัวที่สุดก็คือ "น้ำจะล้นแทบทุกเขื่อนตอนล่างและจะไม่มีที่ระบายออกและการระบาดของเชื้อไวรัสจะหนักและรุนแรงมากทุกจังหวัด" ขอคาดการณ์ตามนี้นะครับ ระหว่างวันที่ 22-28 ส.ค.65 1.จะเกิดพายุ 9 ลูกขึ้นพร้อมกันทั้งสองฝั่ง และสร้างร่องมรสุมขนาดใหญ่เกิดขึ้นในประเทศไทย 2.ฝนจะตกหนักมากทั่วทุกภาคของประเทศไทย ยกเว้นจังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน 3.ประเทศจีน จะเจอกับกับพายุทั้งหมด 3 ลูกเข้าพร้อมกัน จะทำให้ฝนตกหนักมากในภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง และภาคอีสานทุกจังหวัด 4.พายุจะเข้าฝั่งอินเดีย 3 ลูก ทำให้อินเดีย ปากีสถาน เนปาล ศรีลังกา และประเทศทางตอนบนของอินเดีย น้ำท่วมอย่างหนัก ก่อนที่พายุทั้ง3 ลูกจะเคลื่อนตัวหันหน้าเข้าสู่ประเทศจีน จะทำให้จังหวัดภาคเหนือตอนล่างและ จังหวัดในภาคกลางทั้งหมดของประเทศไทย เกิดฝนตกอย่างหนัก รวมถึงกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออกทั้งหมด และหนักสุดๆ ก็คือภาตใต้ในเขตทะเลอ่าวไทยทั้งหมด 5.จะเกิดพายุในเขตมหาสมุทรแปซิฟิก 3 ลูก ทั้งตอนล่าง กลางและตอนบน ของมหาสมุทรแปซิฟิก ผลที่ตามมาก็คือ ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน เกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ และหนักที่สุดอาจทำให้มวลน้ำท่วมประเทศทั้งหมดก็คือ" ญี่ปุ่น" เมื่อพายุ 3 ลูกนี้เริ่มเคลื่อนตัวเข้าสู่ร่องอากาศ จะทำให้น้ำท่วมหนักถึงหนักมากทั้งประเทศก็คือ เวียดนามกับลาว โดยเฉพาะประเทศลาว น้ำจะท่วมหนักที่สุดกว่าทุกปีที่ผ่านมา การเคลื่อนตัวของพายุทั้ง 3 ลูก จะมุ่งตรงเข้าสู่ตอนกลางและตะวันออกของประเทศจีนเช่นเดียวกัน และผลของพายุ 3 ลูกที่เกิดขึ้นในเขตมหาสมุทรแปซิฟิก จะส่งผลให้ กรุงเทพมหานคร ต้องเผชิญกับฝนที่ตกหนักมากเป็นประวัติศาสตร์ที่สุดที่เคยเกิดขึ้น รวมถึงภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออกทั้งหมดด้วย สิ่งที่ตามมาในวันที่ 22-28 ส.ค.65 จีนกับลาวจะระบายน้ำออกจากเขื่อนจำนวนมาก ลงสู่แม่น้ำโขง ดังนั้นจังหวัดที่ติดริมแม่น้ำโขงทั้งหมดไล่ตั้งแต่เหนือจนถึงอีสาน น้ำจะท่วมสูงเข้าบ้านเรือนเกือบแตะ 2 เมตร ส่วนจังหวัดนครสวรรค์ พิษณุโลก พิจิตร สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยาและ กรุงเทพมหานคร น้ำจะท่วมมิดไร่นาและบ้านเรือนเกือบทั้งหมด ในขณะที่ทางภาคเหนือตอนบน น้ำในเขื่อนตอนบนจะเริ่มมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และน้ำจะท่วมหนักในจังหวัดภาคเหนือตอนบนซ้ำๆที่เดิม เอาแค่สถานการณ์ในวันที่ 22-28 ส.ค.65 ประเทศไทยจะต้องเผชิญกับร่องมรสุมของพายุทั้ง9 ลูกที่เกิดขึ้นพร้อมกัน และคาดว่า กรมชลประทาน จะไม่สามารถระบายน้ำลงสู่ทะเลได้อีก ขอแนะนำว่า ควรรีบระบายน้ำลงในพื้นที่รับน้ำตอนกลางให้เพิ่มขึ้นนะครับ ไม่เช่นนนั้นกรุงเทพฯ น้ำท่วมหนักอย่างแน่นอน และหลังจากวันที่ 22-28 ส.ค.65 ผ่านไปได้ไม่กี่วัน และเข้าสูเดือนกันยายน 65 จะมีพายุทะยอยเกิดขึ้นพร้อมกันในที่เดิมๆอีกหลายลูกตามมา จับตาติดตามข่าวเขื่อนยักษ์ในประเทศจีนกันให้ดีนะครับ รวมทั้งเขื่อนในประเทศลาวด้วย ที่ปีนี้จะต้องเจอกับพายุมากกว่า 20 ลูก ที่มุ่งตรงเข้าสู่ประเทศจีน ที่อยู่ตอนกลางและตอนล่าง ที่ส่งผลที่เราอาจจะคาดไม่ถึงกับการรับมวลน้ำจำนวนมากของเขื่อนจีนกับเขื่อนลาว แต่ที่แน่ๆตอนนี้ผมแนะนำให้คนไทยทุกคนทั่วทุกภาค เตรียมรับมือกับน้ำท่วมแบบเฉียบพลันกันได้แล้วนะครับ แชร์ออกไปให้คนไทย ได้รับรู้กันเยอะๆนะครับ การคาดการณ์ของผมรอบนี้ ไม่น่าจะมีอะไรที่ผิดพลาดอย่างแน่นอน. เดชา นฤนารท . 21/8/65 09.22 น.สภาพอากาศไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยการนอนดึกเป็นการตั้งใจทำร้ายตนเอง อย่างร้ายแรงที่สุด(ถึงกับทำให้เป็นมะเร็งได้ จริงหรือ🙋♀️อดีตนอนดึกมาตลอด ปัจจุบันนอนไม่เกิน 4 ทุ่มครึ่ง อย่าให้สายเกินแก้ รีบปฎิบัติด่วน ❤️ด้วยรักและหวังดีอย่างจริงใจครับ ● บ้านไหนมีคน นอนดึก จำเป็นต้องอ่านบทความนี้นะครับ ● เพราะอะไร ? เพราะการนอนดึกๆ ทำให้ "อวัยวะสำคัญๆ" ของร่างกาย เช่น สมอง หัวใจ หลอดเลือด ต่อมไร้ท่อ เช่น ต่อมไธรอยด์ และภูมิคุ้มกันร่างกายเสียหาย จึงเป็นเรื่องที่ต้องไม่ประมาท มาฟังหมอด้านเวชศาสตร์ชลอวัย อธิบายให้เข้าใจกัน 🔷️ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ เล่าให้ฟังถึง ● ผลเสียของการนอนดึก ▪️ใครที่นอนเกิน 5 ทุ่มครื่ง จะมีผลทำให้ 5 อวัยวะหลักเสื่อมโทรมเร็วขึ้น ทั้ง 1▪️ สมอง 2▪️ หัวใจ 3▪️ หลอดเลือด 4▪️ ต่อมไร้ท่อ เช่น ต่อมไธรอยด์ และ 5 ▪️ ภูมิคุ้มกันร่างกาย 🔷️ แต่ถ้าปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตมาเป็นคนนอนเร็วขึ้น ตั้งแต่ 4 ทุ่มไม่เกิน 5 ทุ่มครึ่งซึ่งเป็นนาทีทองของการนอน ก็จะช่วยให้มีสุขภาพดีขึ้นถึง 10 ประการ ดังนี้ :- 1. สมองสร้างเคมีสุข อย่างที่รู้ว่า สมองเป็นหัวเรือใหญ่ในการแจกงานให้อวัยวะต่างๆ แม้แต่เวลานอนก็ยังมอบรางวัลให้ร่างกาย ทั้ง ▪️ เคมีนิทรา (เมลาโทนิน) ▪️ เคมีสุข (ซีโรโทนิน) ▪️และฮอร์โมนเพศ ▪️แถมยังมีเคมีบำรุงร่างกายออกมา ช่วยควบคุมระบบในตัวเราให้ทำงานราบรื่น ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น สร้างเกราะป้องกันอาการป่วยเจ็บได้ด้วย 2. สร้างเคมีหนุ่มสาวปกติแล้ว เคมีหนุ่มสาวที่เรียกว่า โกรทฮอร์โมน จะค่อย ๆ ลดลงตามวัย รวมทั้งการนอนดึกก็ทำให้โกรทฮอร์โมนน้อยลงไปด้วย ☆แต่ถ้าเราเข้านอนเร็ว สักราว 4 ทุ่ม ไม่เกิน 5 ทุ่มครึ่ง ☆สมองจะช่วยผลิตโกรทฮอร์โมนธรรมชาติให้ ☆สรุปว่ายิ่งเราหลับไว หลับสนิท ☆ เราก็ยิ่งดูอ่อนเยาว์ ☆เพราะโกรทฮอร์โมน จะหลั่งในช่วงเวลา 00.00-01.30 น. รวมเวลา 1 ชม.ครึ่งเท่านั้น ซึ่งจะช่วยซ่อมเสริมภูมิต้านทานโรค ให้มีพลังร่างกายที่มีความสมบูรณ์มากขึ้น 3. ความจำดีขึ้น การศึกษาจากสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน (APA) ระบุว่า ☆คนที่นอนหลับได้ในช่วง 4 ทุ่ม ถึง 5 ทุ่ม ปรากฏผลงานวิจัยติดตาม พบว่า ☆ มีผลต่อความจำ ความมีสมาธิ อย่างมีนัยสำคัญ ☆และ ลดอุบัติเหตุลงได้มากขึ้น ☆นั่นก็เพราะเวลาเรานอน สมองจะมีกลไกช่วยจัดระเบียบ คล้ายกับการแยกอีเมลขยะออกไป ☆แต่ถ้าเราอดนอน เราจะรู้สึกมึน ลืมง่าย หรือ ไม่ก็ลิ้นพันกัน คิดอย่างพูดอย่าง หรือ อาจเผลอเรอได้ง่ายๆ ดังนั้น ต้องนอนให้เต็มอิ่ม จะได้เป็นการชาร์จแบตให้สมอง พร้อมรับความจำใหม่ๆ ได้ดี 4. คุมความดันโลหิตได้ การนอนหลับเร็ว ☆จะช่วยให้ระบบประสาทอัตโนมัติทั้งหลาย และกลไกทางชีวิวิทยา ที่เป็นเหมือนฟันเฟืองขนาดจิ๋ว ที่ทำงานซับซ้อน ☆ช่วยควบคุมหัวใจ และความดันโลหิตให้สงบลง ไม่แกว่งขึ้นลงง่ายเหมือนกับตอนตื่นนอน 5. ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนสึกหรอ คนก็เหมือนเครื่องยนต์ ทำงานมาหนัก ก็ต้องหยุดพักบ้างจริงไหม ☆ซึ่งการนอนก็เหมือนเข้าอู่ซ่อมรถ ช่วยซ่อมแซมร่างกายที่สึกหรอ ☆ช่วยให้สมองได้พักผ่อน ☆กล้ามเนื้อคลายตัว ☆หัวใจสงบขึ้น ☆ความดันลดลง โดยเฉพาะ ☆ถ้าหลับลึกได้ในช่วง 00.00 - 01.30 น. ในแต่ละคืน สุขภาพย่อมแข็งแรง เสมือนย้อนไปในช่วงที่อยู่ในวัยเบญจเพศได้ 6. ลดความเสี่ยงโรคอ้วน ☆ถ้าเรานอนเร็ว จะทำให้เราไม่หิวกลางดึก อันเป็นต้นเหตุที่ทำให้อ้วน ☆นอกจากนั้น ยังมีกลไกดับหิวด้วยการสร้างเคมีดับหิวขึ้นมา ทำให้การนอนเร็วช่วยคุมน้ำหนักตัวได้ดีกว่า ☆อีกทั้งยังกระตุ้นเตาเผาในร่างกาย ให้ทำงานได้ดี ☆ ช่วยให้ไม่อ้วนง่าย ไม่สร้างเคมีเก็บไขมันมากด้วย 7. มีความสุขง่ายขึ้น ☆ยิ่งอดนอนมาก สมองของเราก็ยิ่งอึมครึม ทำให้ขาดสมาธิ ความจำก็ไม่ดี อะไรมากระทบนิดกระทบหน่อย ก็หงุดหงิดอา รมณ์เสียแล้ว แล้วจะมีความสุขได้อย่างไรล่ะ ☆ แต่ถ้าเราลองนอนให้เร็วขึ้น เราจะได้นอนอย่างเต็มอิ่ม ร่างกายและสมองได้พักผ่อน ความจำดี มีสมาธิ มองอะไรก็มีความสุขได้ง่ายขึ้นจริง ๆ นะ 8. ได้ล้างพิษ เวลาที่เรานอน จะเป็นช่วงเวลาที่อวัยวะอย่าง ตับ ไต ลำไส้ ซึ่งเป็นอวัยวะที่ช่วยล้างพิษทำงานได้ดีขึ้น ลองสังเกตดูสิ ถ้าใครชอบอดนอน หรือ นอนดึก นอกจากหน้าตาดูหม่นหมองแล้ว ยังมีปัญหาท้องผูกด้วย นั่นเพราะส่วนหนึ่งของพิษมาจากการนอนดึก เพราะฉะนั้นสาวๆ ที่ชอบปวดรอบเดือนบ่อย ๆ ให้แก้ไขด้วยการนอนให้เร็วขึ้น จะช่วยคุมเคมีปวดได้มากขึ้น 9. ไม่เสี่ยงโรคกำเริบ เครื่องยนต์ที่ทำงานเกินเวลา ก็เสียได้ นับประสาอะไรกับมนุษย์ที่ไม่ยอมพักผ่อน ไม่ยอมหลับยอมนอน ☆ความเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย ก็อาจทำให้โรคที่พกอยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ พากันแผลงฤทธิ์ขึ้นได้ ☆โดยเฉพาะโรคหัวใจ ☆โรคหลอดเลือดสมอง ☆ความดันสูง ☆ เบาหวาน ☆ ภูมิแพ้ ☆โรคเครียด ☆โรคซึมเศร้า ☆ และโรคมะเร็ง เป็นต้น 10. ช่วยป้องกันการแก่ให้ช้าลง ☆ไม่อยากแก่ รีบชวนกันนอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม หรือ สูงสุด ไม่เกิน 5 ทุ่มครึ่ง ☆ เพราะ การนอนไม่ดึกมาก จะช่วยเสริมสร้างความเป็นหนุ่มสาว ☆ และช่วยให้หลับสนิทได้ง่ายขึ้น ☆ ไม่ทำร้ายร่างกายให้แก่ก่อนวัยอันควร ☆เพราะ จะช่วยป้องกันความเสื่อมชราให้ช้าลงได้ด้วย . 🔷️อยากมีสุขภาพที่ดีในระยะยาวอย่างยั่งยืน ต้องเปลี่ยนที่พฤติกรรม ฝึกให้เป็น นิสัย 🔷️ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ 🔷️ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ ▪️ จะทำให้เรามีภูมิต้านทานที่ดี หลายๆ คนบอกรู้แต่บางครั้งก็ยังทำไม่ได้ มาลองจัดระเบียบชีวิตกัน (บอกตัวเองด้วย ^^) เพราะไม่มีใครสามารถให้ สุขภาพ ที่ดีกับเราได้ ยกเว้นเราต้องทำให้ตัวเอง และร่างกายคือบ้านที่เราต้องรักษาเพื่อดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นสุข การป้องกันดีกว่าการซ่อมแซม เราคงไม่อยากเอาเงินที่หามาได้ไปแลกกับความเจ็บป่วยและค่ารักษาพยาบาลที่แพงขึ้นทุกวัน . ด้วยรักและปรารถนาดี ❤️ ❤️Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยทำไมคนเราต้องมีปัญหาชีวิตเพราะว่าเกิดมาเป็นคน ปัญหาของแต่ละคนมีไม่เหมือนกัน บางคนก็มากบางคนก็น้อย คนละรูปแบบ ถ้าไม่อยากให้มีคนที่มีปัญหาเพิ่มขึ้นก็ต้องหาทางป้องกันไม่ให้ มีปัญหาเพิ่ม คนที่มีปัญหาก็ไม่เพิ่มด้วยstd47763• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาสีฟันยาสีฟันโฆษณาเกินจริิงยาสมุนไพรstd48389• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาสีฟันวันนี้ (19 ต.ค.2565) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบข้อมูลข่าวปลอมของผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีการเผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดีย พบผลิตภัณฑ์ยาสีฟัน 3 ยี่ห้อ โฆษณาโอ้อวดเกินจริงการโฆษณาดังกล่าวเป็นการโฆษณาเกินความเป็นจริง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้บริโภค เนื่องจากยาสีฟันเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้กับฟันและเยื่อบุในช่องปาก เพื่อทำความสะอาดเท่านั้น ดังนั้นการอวดอ้างว่าสามารถแก้ปัญหาร้อนใน รักษาฟันผุ เหงือกอักเสบ ปวดฟัน ฟันโยก จึงเป็นข้อความที่เป็นเท็จ โอ้อวดเกินจริงและทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอางstd48015• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยผลิตภัณฑ์ ฟันทน ยาสีฟันสมุนไพรสูตรเข้มข้น (รสดั้งเดิม) (FUNTON CONCENTRATED HERBAL TOOTHPASTE (ORIGINAL) อวดอ้างรักษาเหงือกอักเสบ ปวดฟัน ฟันโยก และฟันผุผลิตภัณฑ์ ฟันทน ยาสีฟันสมุนไพรสูตรเข้มข้น (รสดั้งเดิม) (FUNTON CONCENTRATED HERBAL TOOTHPASTE (ORIGINAL)) เลขที่ใบรับจดแจ้ง 76-1-6400037025 อวดอ้างรักษาเหงือกอักเสบ ปวดฟัน ฟันโยก และฟันผุอย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47623• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอย.เตือนอย่าหลงเชื่อ "ยาสีฟัน" 3 แบรนด์ โฆษณาเกินจริงอย.เตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อเพจเฟซบุ๊กโฆษณาหลอกขายยาสีฟัน 3 ยี่ห้อ พบอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง รักษาฟันผุ เหงือกอักเสบ ปวดฟัน ฟันโยก เสี่ยงได้รับอันตรายในช่องปากstd48317• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาสีฟัน รักษาฟันผุ เหงือกอักเสบ ปวดฟัน ฟันโยกอย.เตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อเพจเฟซบุ๊กโฆษณาหลอกขายยาสีฟัน 3 ยี่ห้อ พบอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง รักษาฟันผุ เหงือกอักเสบ ปวดฟัน ฟันโยก เสี่ยงได้รับอันตรายในช่องปาก (19 ต.ค.2565) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบข้อมูลข่าวปลอมของผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีการเผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดีย พบผลิตภัณฑ์ยาสีฟัน 3 ยี่ห้อ โฆษณาโอ้อวดเกินจริง การโฆษณาดังกล่าวเป็นการโฆษณาเกินความเป็นจริง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้บริโภค เนื่องจากยาสีฟันเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้กับฟันและเยื่อบุในช่องปาก เพื่อทำความสะอาดเท่านั้น ดังนั้นการอวดอ้างว่าสามารถแก้ปัญหาร้อนใน รักษาฟันผุ เหงือกอักเสบ ปวดฟัน ฟันโยก จึงเป็นข้อความที่เป็นเท็จ โอ้อวดเกินจริงและทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอางstd48101• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวัคซีนโควิดผมร่วงภาวะผมร่วงเป็นหย่อม ๆ หลังฉีดวัคซีนโควิด-19KingTVz456za• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยด่วน! สถานทูตไทยในอินเดีย ประกาศขอคนไทยควรกลับประเทศ https://t.co/E0XmQPBVnJ https://t.co/sbTZOYw3zuโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโควิดวันนี้ ศบค.แถลงไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 795 ราย รวมป่วยสะสม 21,249 รายจริงหรือไม่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 795 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 21,249 ราย หายป่วยแล้ว 14,001 ราย ยังรักษาใน รพ. 7,169 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดเสียชีวิตสะสม 79 รายโควิด 2019nutyty_MJU• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ เอาขมิ้นมาทาตัวจะทำให้ขาว อัญชันทำให้คิ้วดกตามความเชื่อผ่านมาว่า เอาขมิ้นมาทาตัวจะทำให้ขาว อัญชันทำให้คิ้วดก เป็นสิ่งที่ทำมาแต่ช้านานบางครั้งก็พิสูจน์ได้บางครั้งก็ไม่มีมูลเหตุที่เป็นจริงความสวยความงามDC 4 Ray• 5 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสรุปสาระสำคัญของบทความ “Exposure assessment of aflatoxins in Thai peanut consumption” งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 1. ความเป็นมา อะฟลาทอกซิน (Aflatoxins; AFs) เป็นสารพิษที่สร้างโดยเชื้อรา Aspergillus flavus และ A. parasiticus มักพบในอาหารและวัตถุดิบ เช่น ข้าวกล้อง พริกแห้ง พริกป่น อาหารแห้ง เครื่องเทศ กาแฟ และถั่วลิสง AFs โดยเฉพาะ Aflatoxin B1 (AFB1) ถูกจัดเป็นสารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1 โดย IARC และทนต่อความร้อนมากกว่า 260 องศา ทำให้ไม่ถูกทำลายด้วยการปรุงอาหาร ถั่วลิสงเป็นส่วนประกอบหลักในอาหารไทยหลายชนิด เช่น ผัดไทย ส้มตำ ต้มยำกุ้ง จึงมีความเสี่ยงต่อการได้รับสารพิษนี้ 2. วิธีการศึกษา เก็บตัวอย่าง ถั่วลิสงดิบ คั่ว และบด จำนวน 60 ตัวอย่าง จากตลาดค้าปลีกและค้าส่งในกรุงเทพฯ ระหว่าง พ.ย. 2013 – ม.ค. 2014 วิเคราะห์การปนเปื้อนอะฟลาทอกซินด้วยวิธีมาตรฐาน (AOAC) โดยใช้ HPLC เปรียบเทียบประสิทธิภาพของคอลัมน์ตรวจสอบเชิงพาณิชย์ (AflaTest IAC) และคอลัมน์ที่พัฒนาขึ้นเอง (KU-AF02 IAC) ประเมินการได้รับสารพิษ (exposure) โดยใช้ข้อมูลการบริโภคถั่วลิสงของคนไทยจากฐานข้อมูลของ ACFS 3. ผลการศึกษา อัตราการปนเปื้อน ถั่วลิสงดิบ: 80% พบ AFs ถั่วลิสงคั่ว: 100% พบ AFs ถั่วลิสงบด: 100% พบ AFs และมีระดับสูงที่สุด ปริมาณการปนเปื้อนสูงสุด ถั่วบด: AFs สูงสุด 362.48 ng/g (ค่าเฉลี่ย 68.22 ng/g) ถั่วดิบ: ค่าเฉลี่ย 47.11 ng/g ถั่วคั่ว: ค่าเฉลี่ยต่ำสุด 13.50 ng/g ค่าการได้รับเฉลี่ย (Average daily intake) ถั่วดิบ: 0.49 ng/kg bw/day ถั่วคั่ว: 0.40 ng/kg bw/day ถั่วบด: 2.13 ng/kg bw/day กลุ่มเด็ก (6–9 ปี) ที่บริโภคถั่วบดในระดับสูง (97.5 percentile) มีการได้รับสูงสุดถึง 11.24 ng/kg bw/day 4. ความเสี่ยงต่อสุขภาพ การบริโภคถั่วลิสงเป็นแหล่งหลักของการได้รับอะฟลาทอกซินในคนไทยถึง กว่า 90% ของปริมาณที่ได้รับจากอาหารทั้งหมด การบริโภคถั่วลิสงเป็นสาเหตุของมะเร็งตับ และมะเร็งชนิดอื่นๆในประเทศไทย 5. ข้อสรุปและข้อเสนอแนะ ถั่วบด เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูงสุดต่อการได้รับอะฟลาทอกซิน การปนเปื้อนในถั่วลิสงไทยยังเป็นปัญหาที่มีผลต่อสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่บริโภคถั่วลิสงในปริมาณมาก จำเป็นต้องมีมาตรการ ควบคุมคุณภาพตั้งแต่การผลิต เก็บเกี่ยว และแปรรูป รวมถึงการติดตามตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอะฟลาทอกซิน *** ประเทศไทยมีกฎหมายมาตรฐานบังคับสินค้าเกษตร การปนเปื้อนสารก่อมะเร็งอะฟลาทอกซินในถั่วลิสง ประกาศใช้มาสิบปีแล้ว แต่ไม่มีหน่วยงานรัฐไหนจะสนใจใช้บังคับ ผลลัพธ์ก็อย่างที่เห็นตกอยู่กับผู้บริโภค เป็นมะเร็งตายปีละเป็นแสนคนมะเร็งผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 4 เดือนที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
