(1558 ข้อความ)
- 2 คนสงสัยโฆษณาชวนเชื่อเป็นการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่มุ่งชักจูงทัศนคติของผู้รับสารต่ออุดมการณ์หรือมุมมองบางอย่างโดยการนำเสนอการให้เหตุผลเพียงข้างเดียว การโมษณาชวนเชื่อ มักทำซ้ำและกระจายในสื่อหลายชนิด เพื่อหวังผลให้ผู้รับสารเชื่อและคล้อยตามอุดมการณ์ที่ผู้ส่งสารต้องการสื่อstd48465• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยนิด้าโพล คนค่อนข้างเชื่อมีปั่นกระแสโจมตีพรรคคู่แข่ง แต่ไม่เชื่อต่างชาติแทรกแซงผลสำรวจนิด้าโพล กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ค่อนข้างเชื่อ มีการปั่นกระแสโจมตีพรรคคู่แข่ง-เพิ่มคะแนนนิยมให้กับพรรค แต่ไม่เชื่อมีต่างชาติแทรกแซง วันที่ 28 พฤษภาคม 2566 ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ข่าวลือหรือข่าวจริง ช่วงเลือกตั้ง 2566” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18-22 พฤษภาคม 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของนิด้าโพล สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0ข่าวการเมืองเลือกตั้งgam.muensri• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยใครไปโรงพยาบาลศิริราชโปรดระวังด้วย ข้อมูลล่าสุดจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราชครับ เรียนคณบดี ผู้บริหาร หัวหน้าภาคฯ อาจารย์ แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน วันนี้ทีมผอ รองผอ ร่วมกับทีมวิศวกรรมศิริราช วิศวะมหิดล วิศวะเกษตร สมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย บริษัท PAC บริษัท Meinhard บริษัท วและสหาย บริษัท KLA บริษัท power line บริษัทกรีไทย และบริษัท interpac ได้สำรวจอาคารในศิริราชทั้งวัน รวมถึงหอพัก 8 ไร่ ดำเนินการโดยวิศวะที่มีใบอนุญาตรับรองการตรวจสำรวจ และแบ่งทีมออกสำรวจทั้งหมด 8 ทีม ผลสำรวจอาคารทั้งหมดที่ได้สำรวจ เป็นดังนี้ 1. พบตำแหน่งจุดวิกฤตมาก (สีแดง) ได้แก่ ก. ทางเชื่อมระหว่างตึกสยามินทร์ชั้น 6 กับตึกเฉลิมพระเกียรติฯ ข. ทางเชื่อมระหว่างตึกสยามินทร์(ห้องผ่าตัด)ชั้น 3 กับตึกเฉลิมพระเกียรติ ทั้งสองจุดมีความเสี่ยงสูงมากในการหลุดร่วงทั้งทางเชื่อมตกลงมาชั้น 1 (ทั้งสองทางเชื่อม) (ถ้าไปยืนดูจะเห็นว่าแกว่งอยู่ตลอดเวลา) ซึ่งจะทะลุลงหลังคามายังทางเดินชั้น 1 ระหว่างตึกทั้งสอง จึงต้องปิดตั้งแต่ทางเดิน **ห้ามผ่านเด็ดขาด** ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แผนการแก้ไข จะเริ่มเข้ามาจัดการรื้อหลังคา ตั้งนั่งร้าน ตัดทางเชื่อม โรยส่งลงชั้นล่าง ทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 1.5 เดือน (เริ่มพรุ่งนี้) ผลกระทบ 1.ปิดช่วงทางเดินระหว่างตึกสยามินทร์และตึกเฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่ทางลงบันไดไปชั้น B1 ในด้านศิริราชมูลนิธิ จนถึงทางขึ้น ramp ฝั่งด้านตึกกายวิภาคฯ 2.บุคลากรจะต้องเดินผ่านขึ้นบันไดข้างตึกศิริราชมูลนิธิ ผ่านไปลงที่ ramp 3.การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยรถนั่ง เปลนอน รถเข็นต่างๆ ขึ้นทาง ramp 4.จะรีบดำเนินการสร้าง ramp ชั่วคราวพาดบันไดและเชื่อมไปบริเวณสนามหญ้าหน้าศิริราชมูลนิธิ เพื่อใช้ในการเคลื่อนย้ายรถนั่ง เปลนอน ได้นำเรียนถึงความจำเป็นของการดำเนินการแผนนี้ต่อศิริราชมูลนิธิแล้ว ซึ่งจะมีแผนย้ายจุดรับบริจาคกลับมายังตึกมหิดลบำเพ็ญใหม่อีกครั้ง 2. ตำแหน่งจุดวิกฤตปานกลาง (สีเหลือง) ได้แก่ ก.ทางเชื่อมระหว่างตึกพระศรี 100 ปีและตึกโกศล พบว่าโครงสร้างตึกแข็งแรง แต่พบว่ามีพื้นผิวแผ่นปูนตกลงมาที่ทางเดิน และจะมีโอกาสตกเพิ่มขึ้น การแก้ไข วันนี้เริ่มตั้งนั่งร้านขึ้นแก้ผิวฉาบ แต่ต้องระมัดระวังสายต่างๆที่เชื่อมโยง ใช้เวลาดำเนินการ 5 วัน ในระหว่างนี้จะปิดกันทางเดินตั้งแต่ทางออกตึกพระศรี (ข้างร้าน ณ ศิริราช) ที่ต้องเดินผ่าน ramp และซอกทางเดินระหว่างสองตึกนี้ เนื่องจากเศษปูนมีชิ้นใหญ่มาก ให้เดินผ่านทางหน้าร้าน S&P แทน ข.หอพัก 8 ไร่ จากการตรวจสอบภายในตัวอาคารทั้งสองตึก (ตรวจทุกชั้นรวมที่จอดรถ) ไม่กระทบโครงสร้างใด ๆ เป็นเพียงรอยร้าวของผนังฉาบ แต่พบว่าด้านนอกของอาคาร A&B ด้านปลายทั้งสองฝั่งของทั้งสองตึก มีเศษปูนชิ้นใหญ่ที่สามารถร่วงหล่นลงมา ตึก A จะร่วงลงที่จอดรถด้านนอก ด้านสถานีรถไฟและอีกด้านเป็นด้านคนเดินเข้าตึก ตึก B เป็นด้านติดกับวัดและด้านที่เป็นที่จอดรถหน้าศูนย์ฟอกเลือด การแก้ไข จะต้องโรยตัวลงมากระเทาะพื้นผิวทั้ง 4 ฝั่ง ฉาบพื้นผิวใหม่ ผลกระทบ จะกั้นพื้นที่ช้้น 1 ห้ามจอดรถ ห้ามเดินผ่าน และเข้าแจ้งให้ทางวัดทราบ 3. จุดที่พบว่า ไม่พบความเสียหายต่อโครงสร้างหลัก (สีเขียว) อาคารที่สำรวจมีความปลอดภัยในการใช้งาน ยืนยันไม่มีผลต่อโครงสร้าง ก.ตึกที่พบว่าเป็นการแตกร้าวของผนังฉาบหลายชั้น ได้แก่ ตึกนวมินทรฯ ตึกเฉลิมพระเกียรติฯ ตึกศรีสวรินทราฯ ซึ่งจะดำเนินการเข้าพื้นที่เพื่อซ่อมแซม แก้พื้นผิว ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ไล่ตามตึกที่แจ้ง ข.กระเบื้องห้องน้ำหอผู้ป่วยนวมินฯ 12 ที่กำลังจะหลุด 3 ห้อง และที่แขวนทีวี ได้ดำเนินแก้ไขวันนี้แล้ว ค.ฝ้าที่มีความเสี่ยงหลุดร่วงที่โถงตึกศรีสวรินฯ ชั้น 1 ได้ดำเนินการแก้ไขวันนี้แล้ว (วันนี้มีระดับคนงานจากภายนอกมาเตรียมพร้อมแก้ไขหน้างานเลยประมาณ 30 คน) ง.แผ่นผนังกระเบื้องหินหลังพระรูปปั้นสมเด็จย่า มีความเสี่ยงที่จะหลุดร่วงทั้งสองแผ่น จะรีบดำเนินการแก้ไขในวันพรุ่งนี้ จ.ทางเชื่อมระหว่างศูนย์โรคหัวใจและตึกนวมินฯ มีความแข็งแรงปกติ ในการสำรวจมีการลงนามรับรองในส่วนสีเขียวโดยวิศวกร จึงเรียนมาเพื่อให้ทุกท่านได้เกิดความมั่นใจ และโปรดประชาสัมพันธ์ให้ทุกหน่วยงานทราบถึงผลการสำรวจดังกล่าว ตลอดจนความจำเป็นในการปิดทางสัญจรทางช่่วง ขอบคุณมากครับ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราชผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 8 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอันตรายกว่าอยู่สนามรบอีกครับ ข้อควรระวัง : 20 ข้อคำเตือนจากคุณวิกรม " สำหรับผู้ใช้ชีวิตในประเทศไทยเท่านั้นครับ" 1. ข้ามทางม้าลาย ดูรถเสมอ : ห้ามเชื่อสัญญาณไฟ เพราะต่อให้ไฟเขียวคนเดิน ไฟแดงสำหรับรถ ก็อาจเจอรถชนได้ 2. ขึ้นสะพานลอย : อย่าจับราวบันได ยกเว้นคนก่อนหน้าจับไปแล้ว โดยเฉพาะวันฝนตก อาจโดนไฟดูด 3. เดินฟุตบาทระวังรถ : อย่ามัวเล่นมือถือ อาจมีจักรยานยนต์ย้อนศร 4. อย่าสัมผัสโลหะโดยไม่จำเป็น : ตู้โทรศัพท์ เสาไฟ เสาโทรศัพท์ ป้ายรถเมล์ ป้ายไฟโฆษณา หรือโลหะทุกชนิดที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นแม้แต่ใกล้ทุ่งนา ไฟอาจจะดูดตายได้ 5. ถ้าฝนตก ให้อยู่ห่างจากเสาไฟ : ไฟรั่วมีได้ทุกที่ 6. ให้จอดรถในที่แจ้ง ใกล้ยาม และเข้ารถต้องล็อคทันที : โดยเฉพาะผู้หญิง ถ้าไม่อยากโดนจี้ 7. อย่าเดินคนเดียวในที่มืดและที่เปลี่ยวเพราะคือที่อยู่ของมิจฉาชีพ และอย่าใส่ทอง / อย่าถ่ายรูปใคร : ถ้าไม่อยากโดนจี้ 8. อย่ามองหน้าใคร และอย่าหลบตาใคร : เพราะบางกรณีถือเป็นการท้าทาย และเป็นข้ออ้างของพวกปล้นทรัพย์ ซึ่งถ้าเราตาย อีกฝ่ายจะบอกว่า เราไปหาเรื่องเค้าก่อน 9. นั่งรถคาด Safety Belt เสมอ ไม่ว่าจะนั่งที่จุดไหน เพราะว่าคุณไม่รู้หรอกว่า จะมีใครเมาแล้วขับมาชน (อุบัติเหตุแบบนี้เจอมากในไทยมากกว่าประเทศอื่น) 10. แต่ต้องพร้อมถอด Safety Belt วิ่งออกนอกรถเสมอ : โดยเฉพาะ เวลามีรถคอนเทนเนอร์วิ่งข้างๆแบบไม่มีสลักนิรภัย 11. เวลาขับรถ ควรขับตามความเร็วที่กฎหมายกำหนด แม้มันจะช้า เพราะว่าคุณไม่รู้หรอกว่า เมื่อไหร่คุณจะเจอ คนขับย้อนศรมา แบบไม่เปิดไฟ คนขับปาดหน้า ลูกแมวกระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ หรือรถเครนล้มลงมา 12. และอย่าขับช้าไป เพราะอาจจะเจอชนท้าย หรือโดนส่องไฟสูง 13. ขับรถต้องใจเย็น หนักนิดเบาหน่อยปล่อยผ่านไป เพราะเราไม่รู้ว่าใครบ้างที่มีปืน แต่คนที่จ้องจะหาเรื่องมันมีปืนแน่นอน 14. ติดกล้องหน้า (และหลังรถ) เพราะเป็นที่รู้กันดีนานมาแล้วว่า ประเทศไทยไม่มีพยานเท็จและไม่มีแพะ...(555) 15. ถ้ามีเหตุยิงกันตามท้องถนน : ให้ล็อครถ เปิดไฟฉุกเฉิน และหมอบลงต่ำๆ หรือถ้าอยู่นอกรถ ให้หาที่กำบังและหมอบลงต่ำ ส่วนมากความแม่นยำของพวกนี้ต่ำ มักยิงโดนทุกอย่างยกเว้นคนที่มันอยากยิง... 16. ทุกช่วงเทศกาล ควรอาศัยในอาคารชั้นล่าง เพราะวันดีคืนดี อาจมีกระสุนตกลงมาจากฟ้า มาหัวเรา 17. ทุกครั้งที่ยืนใกล้ถนน ให้ระวังคนผลักเสมอ มีทั้งที่ไม่ตั้งใจ และผลักให้รถชนแบบตั้งใจ เพราะหวังทรัพย์สินเรา คนอยู่ใกล้ได้ลงมือก่อน 18. ทุกครั้งที่ยืนเดินหรือนั่งกินอาหารอยู่ข้างถนน ให้ระวังรถพุ่งขึ้นมาชน ให้มองต้นไม้ขนาดใหญ่ เสาไฟฟ้า หรือตู้โทรศัพท์ที่จะลดแรงปะทะได้ มองหาร้านค้าที่จะกระโดดหลบเข้าไปได้ ทั้งนี้ที่ผ่านมา ป้ายบอกทาง ป้ายโฆษณา เสาไฟกล้องดำ... น่าจะลดแรงปะทะไม่ได้ โปรดหลีกเลี่ยง 19. ให้ทำประกัน : เพราะทุกสิ่งอาจเกิดได้จริงๆ และหลายครั้งหาคนรับผิดชอบไม่ได้... บางครั้งหาได้ แต่ฝั่งนั้นไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย 20. ให้บอกคนในครอบครัวไว้ด้วย ว่าหากตายไปกระทันหัน เอกสารประกัน/สมุดบัญชีเก็บไว้ที่ใด เพราะลูกหลานไม่รู้มากมาย เงินประกันหายฟรีไปกับประกัน Cr:คุณวิกรม กรมดิษฐ์การเงินผู้บริโภคเฝ้าระวัง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกกต. ชี้ข่าวเท็จ 10 ส.ส.ก้าวไกลจะโดนใบแดง-ไม่ดำเนินคดียุบพรรคอนาคตใหม่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แจงข่าวเท็จ ยัน ดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งจากการยุบพรรคอนาคตใหม่แล้ว ไม่เคยให้ข่าว 10 ส.ส.ก้าวไกลจะโดนใบแดง กกต. ชี้ข่าวเท็จ 10 ส.ส.ก้าวไกลจะโดนใบแดง-ไม่ดำเนินคดียุบพรรคอนาคตใหม่ วันที่ 7 มิ.ย. 2566 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ชี้แจงกรณีที่มีผู้โพสต์ในทวิตเตอร์ ใช้ชื่อบัญชีว่า “Suphanat Aphinyan” ได้นำข้อความกล่าวหาว่า “กกต. ชุดนี้ห่วยแตกครับ เวลาผ่านมาเกิน 3 ปีแล้ว แต่คดีอาญาอันเนื่องมาจากการยุบพรรคอนาคตใหม่กลับเงียบสนิท กกต. ชุดนี้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะความผิดที่นำไปสู่การยุบพรรคอนาคตใหม่ พ่วงมาด้วยความผิดอาญาตาม ม.124, ม.125 และ ม.126 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง” นั้น ... กกต. ขอชี้แจงว่า ข้อความดังกล่าวเป็นความเท็จ กล่าวคือ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามความแจ้งแล้วนั้น กกต. ได้มีมติให้ดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 16 คน โดยแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน และ พงส. ได้รับคำร้องทุกข์ คดีอาญาที่ 403/2564 ดำเนินการให้เป็นไปตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่า พงส. สามารถดำเนินการสอบสวนให้เสร็จสิ้นได้ ภายในระยะเวลาอันใกล้นี้ ข่าวน่าติดตาม “อนุทิน” ขอคิดรอบด้าน ดันกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ชี้อะไรที่มีประโยชน์ควรใช้ต่อ “อนุทิน” ขอคิดรอบด้าน ดันกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ชี้อะไรที่มีประโยชน์ควรใช้ต่อ เสือหมอบรอจังหวะ เสือหมอบรอจังหวะ “ภูมิธรรม” มั่นใจ 27 มิ.ย. เพื่อไทย ได้ข้อสรุป ประธานสภา ก่อนคุยก้าวไกล “ภูมิธรรม” มั่นใจ 27 มิ.ย. เพื่อไทย ได้ข้อสรุป ประธานสภา ก่อนคุยก้าวไกล ผบ.ตร.รายงาน สภากลาโหม งัดแผนรับมือม็อบ กดดัน 250 ส.ว.วันโหวตนายกฯ ผบ.ตร.รายงาน สภากลาโหม งัดแผนรับมือม็อบ กดดัน 250 ส.ว.วันโหวตนายกฯ ดังนั้น กกต. จึงไม่ได้ละเว้นการดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 16 คน และ กกต. ได้ดำเนินคดีอาญากับบุคคลทุกคนที่กระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นสมาชิกหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองใดๆ โดยไม่มีการละเว้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น นอกจากนี้ กกต. ยังชี้แจงกรณีที่มีผู้โพสต์ในทวิตเตอร์ ใช้ชื่อบัญชีว่า “Democracy PheuthaiParty” และเฟซบุ๊กชื่อ “แหม่มโพธิ์ดำ.” ได้นำข้อความอันเป็นเท็จ กล่าวว่า “สส.ก้าวไกล จะโดนใบแดงอีกเกือบ 10 คน เพราะว่า ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ก่อนหน้านี้ ซึ่ง ส่วนใหญ่ไม่ได้ไปเลือกตั้งท้องถิ่นนั่นแหละ เช่น อบต. เทศบาล อบจ. สก. สข. ผู้ว่า กทม. แล้วไม่ได้ทำหนังสือแจ้งว่าทำไมไม่ไป อันนี้ก็เป็นคุณลักษณะต้องห้ามตาม รธน. อีก” โดยประชาชนได้นำข้อความดังกล่าว ไปโพสต์เผยแพร่ผ่านสื่อตามช่องทางต่างๆ นั้น กกต. ขอชี้แจงว่า ข้อความดังกล่าวเป็นข้อความเท็จ กล่าวคือ กกต. หรือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในสำนักงาน กกต. หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกคน ไม่เคยให้ข้อมูล หรือเผยแพร่ข่าวสาร หรือแจ้งข่าว ไปยังสื่อมวลชนหรือช่องทางการสื่อสารใดๆ ว่า ส.ส. พรรคก้าวไกล จะถูกจำกัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือจะเป็นผู้ได้รับใบแดง จำนวน 10 คน ตามที่สื่อต่างๆ ได้นำข้อความไปโพสต์แต่อย่างใด ทั้งสิ้น จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ ทั้งนี้ กกต. ยังระบุคำเตือนด้วยว่า ผู้ใดแชร์ข่าวดังกล่าวด้วยวิธีการกดไลค์ กดแชร์ รีทวิต รีโพสต์ ทางยูทูบ ทางติ๊กต่อก ส่งต่อทางไลน์ไปยังกลุ่มต่างๆ หรือช่องทางสื่อสารอื่นๆ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ. ข่าวแนะนำ "วันนอร์" เผย ฟรีโหวต "ประธานสภา" ทำได้ แต่ตั้งรัฐบาลไม่ราบรื่น politic "วันนอร์" เผย ฟรีโหวต "ประธานสภา" ทำได้ แต่ตั้งรัฐบาลไม่ราบรื่น กรมศิลป์รุดแจงมณฑปทิศวัดอรุณเอียง ยันไม่กระทบพระปรางค์ประธาน ยังเที่ยวได้ bangkok กรมศิลป์รุดแจงมณฑปทิศวัดอรุณเอียง ยันไม่กระทบพระปรางค์ประธาน ยังเที่ยวได้ เผยบริษัทเรือดำน้ำไททัน เคยปลดพนง.ที่ออกมาปูดเรื่องความปลอดภัยไม่เพียงพอ foreign เผยบริษัทเรือดำน้ำไททัน เคยปลดพนง.ที่ออกมาปูดเรื่องความปลอดภัยไม่เพียงพอ เปิดแผนตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย สลับขั้วย้ายข้าง ขวางพิธา ดันประวิตรเป็นนายกฯ Spark เปิดแผนตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย สลับขั้วย้ายข้าง ขวางพิธา ดันประวิตรเป็นนายกฯ วิดีโอแนะนำ ดูทั้งหมด ชาวบ้านร้อง ตำรวจทางหลวงลักไก่ ตั้งกล้องจับความเร็วรถวิ่งลงเนิน ชาวบ้านร้อง ตำรวจทางหลวงลักไก่ ตั้งกล้องจับความเร็วรถวิ่งลงเนิน คลิปเด่น ต้องได้ประธานสภา! “เพื่อไทย” ยืนยันสูตร 14+1 ชี้เป็นความชอบธรรม ต้องได้ประธานสภา! “เพื่อไทย” ยืนยันสูตร 14+1 ชี้เป็นความชอบธรรม คลิปเด่น อ่านต่std48407• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยขอคาราวะแด่ท่าน บิดาแห่งวงการกัญชาทางการแพทย์ ของโลก.. ข่าวการเสียชีวิตของบุคคลสำคัญของวงการกัญชาเพื่อการแพทย์เมื่อต้นเดือนีนาคมนี้ ไม่มีการนำเสนอในสื่อต่างๆของประเทศไทยเลย คนไทยจึงแทบจะไม่รู้ข่าวสำคัญนี้เลย ทั้งๆที่ท่านผู้นี้มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกมานานมากโดยเฉพาะแวดวงการแพทย์ยุคใหม่ ท่านได้รับการยกย่องเป็น " บิดาแห่งวงการกัญชาเพื่อการแพทย์ " ของโลกมานานแล้ว เครดิต : เดชา ศิริภัทร https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=134999346193574&id=100090505287636&sfnsn=mo&mibextid=RUbZ1f ระลึกถึง ราฟาเอล เมชูแลม บิดาแห่งวงการกัญชาเพื่อการแพทย์ ข่าวการเสียชีวิตของบุคคลสำคัญของวงการกัญชาเพื่อการแพทย์เมื่อต้นเดือนีนาคมนี้ ไม่มีการนำเสนอในสื่อต่างๆของประเทศไทยเลย คนไทยจึงแทบจะไม่รู้ข่าวสำคัญนี้เลย ทั้งๆที่ท่านผู้นี้มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกมานานมากโดยเฉพาะแวดวงการแพทย์ยุคใหม่ ท่านได้รับการยกย่องเป็น " บิดาแห่งวงการกัญชาเพื่อการแพทย์ " ของโลกมานานแล้ว ท่านเป็นผู้ค้นพบสารสำคัญในกัญชาเช่น THC.และ CBD. เป็นคนแรกตั้งแต่ยุค2504 นอกจากนั้นยังค้นพบตัวรับ ( receptors.) ในร่างกายมนุษย์ที่เข้ากันกับสารจากกัญชา กลายเป็นการค้นพบระบบ endocarbinoid ที่สำคัญยิ่งของร่างกายมนุษย์ทุกคน และยังพบว่าสมองสร้างสารความสุขที่ตั้งชื่อว่า anandaminde ขึ้นมาได้ทำให้มีความสุข ที่น่าอัศจรรย์คือ THC จากกัญชามีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายกับ anandamide มาก เมื่อสมองรับ THC เข้าไปก็มีความสุขเหมือนได้รับ anandaminde เข้าไปนั่นเอง จึงไม่แปลกที่คนสูบกัญชาในปริมาณพอเหมาะจะอารมณ์ดีและมีความสุขได้เสมอมา THC จึงไม่ใช่สารเสพติดหรือมีโทษอย่างที่มีผู้ให้ข้อมูลผิดๆด้วยอคติหรือความไม่รู้จริง ศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ ราฟาเอล เมชูแลมเกิดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2473ที่บัลแกเรีย มรณะที่ประเทศอิสราเอลเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566 สิริอายุได้ 92 ปีเป็นข่าวไปทั่วโลก รายละเอียดชืวิตและผลงานมากมายของท่านหาอ่านได้ไม่ยากจากสื่อออนไลน์ทั่วไป เพียงแต่เป็นภาษาอังกฤษเพราะยังไม่มีใครสนใจแปลออกมาเป็นภาษาไทยในปัจจุบัน คุณูปการของ ดร. เมชูแลมต่อวงการกัญชานั้นมีอย่างมหาศาลทั้งทางตรงและทางอ้อม ต้องทราบก่อนว่ากัญชาถูกตราหน้าว่าเป็นยาเสพติดทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่ามีสารอะไรในนั้น ต่างกับเหล้าที่รู้ชัดเจนว่ามีแอลกอฮอล์เป็นสารออกฤทธิ์แต่ยังไม่ถือเป็นยาเสพติด ทั้งๆที่โรค "แอลกอฮอลิสม์" เป็นโรคประเภทเสพติดอย่างชัดเจน รักษาให้หายได้ยาก ตรงข้ามกับสาร THC.ในกัญชามีผลเหมือนสาร anandaminde กลับถือว่าเป็นสารเสพติด คนบางคน (และหลายพรรคการเมือง) ยังมืดบอดได้ถึงเพียงนี้เพราะอคติและผลประโยชน์ ดร. เมชูแลมเป็นนักวิชาการแท้ที่มุ่งค้นหาความจริงมาเสนอโดยไม่มีผลประโยชน์มาชี้นำ ประเทศไทยของเราต้องการนักวิชาการและนักการเมืองแบบ ดร. เมชูแลม เป็นอย่างยิ่ง เพื่อประชาชนคนไทยจะได้รับประโยชน์จากทรัพยากรดีๆที่เรามีอยู่มากมายเช่นกัญชา แต่ถูกกลุ่มผลประโยชน์ที่เห็นกัญชาเป็นศัตรู ช่วยกันสร้างข้อมูลเท็จมาบิดเบือนทำลาย อย่างที่เราเห็นอยู่ดาดดื่นในทุกวันนี้ คน ( หรือพรรคการเมือง) ที่ให้ข้อมูลบิดเบือนไม่จริงเรียกว่าคนพูดเท็จ พุทธภาษิตบทหนึ่งมีข้อความว่า " ผู้กล่าวเท็จนั้น ไม่ทำชั่ว ไม่มี " ใกล้เลือกตั้งกันแล้ว ลองพิจารณา พุทธภาษิตบทนี้ให้ดี ก่อนกาบัตรลงคะแนนนะครับเลือกตั้งข่าวการเมืองยาสมุนไพร เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยชัชชาติฯและทักษิณฯต้องชี้แจง ให้ได้ว่า การบินไทยประสพความฉิบหายเพราะใคร??? คุณชัชชาติต้องชี้เเจงให้กระจ่างในหลายๆหัวข้อ..เกี่ยวกับการอนุมัติใบอนุญาติการบินเเบบไม่ยั้ง..ให้บริษัท/บุคคลต่างๆถึงเกือบ40 ใบอนุญาติในช่วงเวลา2556-2557 ให้มาเเข่งบริการกับการบินไทย.. เป็นคำถามว่าคุณชัชชาติจะต้องรับผิดชอบต่อวิกฤติการบินต่างๆที่ตามมาหรือไม่..เป็นว่าที่ผู้ว่า กทมที่ต้องตอบให้คนการบินไทยรับรู้ให้กระจ่าง.. ก่อนการเลือกตั้งกทมครั้งนี้..เพราะชาวการบินไทยหลายหมื่นคนรอฟังคำตอบท่านอยู่ในหัวข้อต่างๆดังนี้ 1.มีประเทศไหนในโลกที่เคยอนุมัติใบอนุญาติการให้บริการการบินประเภทต่างๆในเวลาปีเดียวถึงเกือบ40ใบหรือไม่? 2.กระทรวงคมนาคมมีการศึกษามาก่อนเเล้วใช่ไหม..ว่าจำนวนใบอนุญาติเพิ่มเติมอีกเท่าใด..ที่เหมาะสมกับการให้บริการด้านการท่องเที่ยวเเละการขนส่งสินค้าทางอากาศ?หน่วยงานใดเป็นผู้ศึกษา? 3.ได้มีการศึกษาถึงผลกระทบต่างๆที่มีต่อการบินไทยเเละอุตสาหกรรมการบินโดยรวม..ถ้าอนุมัติใบอนุญาติถึงประมาณ40ใบอนุญาติในเวลาเเค่1ปี?เกินความจำเป็นหรือไม่? 4.การอนุญาติมีขั้นตอนการปฏิบัติเเละกรอบคุณสมบัติต่างๆของผู้ยื่นขอใบอนุญาติหรือไม่? มีปัจจัยอะไร นอกจากการเเสดงสถานภาพทางการเงิน? 5.ขอคำอธิบายจากปากของคุณชัชชาติว่าผลของการอนุมัติของกระทรวงคมนาคมชุดระดับจักรวาลนี้มีผลหรือไม่ที่ในปี2558ทำให้อุตสาหกรรมการบินของทั้งประเทศถูกปักธงเเดงจาก องค์กรควบคุมด้านการบิน(ICAO)ประเทศไทยขาดมาตรฐานการบินขาดความน่าเชื่อถือ..รวมถึงความปลอดภัยจากปัจจัยต่างๆ..รวมๆกันถึงประมาณถึง 30 ข้อ(30ข้อนะครับ!!!!!).. จนนำไปสู่วิกฤติด้านการบินของประเทศ(ซึ่งไม่เคยเกิดมาก่อนตลอดเวลา40ปีของอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย) ●ใบอนญาติจำนวนหนึ่งต้องถูกยึดคืนใช่หรือไม่?สท้อนถึงการใช้อำนาจเกินขอบเขตอันควรหรือไม่? ●ประเทศไทยถูกICAOห้ามขยายเที่ยวบินเกือบทันทีในต่างประเทศในปี2558- 2560?สร้างความเสียหายเเก่การบินไทยหรือไม่? ●ในฐานะสายการบินเเห่งชาติ.. การบินไทยได้รับการหารือร่วมกับกระทรวงฯถึงจำนวน/ประเภท/ความถี่.ฯลฯในการเพิ่มใบอนุญาติ3โหลกว่านี้หรือไม่..เเละกับหน่วยงานใดในการบินไทย?กับระดับไหน?คณะกรรมการบริษัทเเละDDในขณะนั้นเห็นชอบด้วยใช่ไหม?สอดคล้องกับธรรมเนียมปฏิบัติที่ได้รักษากันมาที่เรียกว่าการปฏิบัติต่อกันเชิง"ธรรมาภิบาลที่เหมาะสม"หรือไม่? ●การให้สิทธิการบินหลายๆประเภทนั้นคุณชัชชาติรู้ถึง"ผลกระทบต่อประเทศเเละต่อสายการบินเเห่งชาตืก่อนหน้าเเล้วใช่ไหม? ●หน่วยงานที่กระทรวงใช้ในการทำภารกิจที่ใหญ่ขนาดนี้มีองค์ความรู้เเละความสามารถได้มาตรฐานพอเพียงต่อกรรมที่ก่อนี้เเค่ไหนเพียงใด?ใครควรรับผิดชอบหรือไม่? ●ความด้อยมาตรฐานการบิน"ของทั้งประเทศ"ถึงประมาณ30ข้อที่ตัดสินโดยICAO..ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการระดมอนุมัติใบอนุญาติอย่างเมามันใน1ปีนั้น..ใช่ไหม? ●ทำไมบริษัทที่ถูกยึดใบอนุญาติกลับ..จึงไม่มีรายใดฟ้องกระทรวงหรือฟ้องกรมฯที่เกี่ยวข้องเลยเเม้เเต่รายเดียว..คาดว่าเป็นเพราะเหคุผลใด? ●ใช่หรือไม่ที่รัฐบาลต่อมา(คสช)ถึงกับต้องใช้ม.44เข้าไปเเก้วิกฤติเเละกระทรวงคมนาคมต้องถึงกับต้องจ้างฝรั่งผู้ชำนาญการเพิ่มชุดใหญ่? เเล้วมันสท้อนระดับสติปัญญา/ความสามารถเเละสมรรถนะของผู้รับผิดชอบในกระทรวงคมนาคมนี้ว่าควรอยู่ในระดับไหน? สอบผ่านหรือไม่? ●การบินไทย(ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้น)ได้รับการดูแลหรือชดเชยอะไรบ้างจากความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงที่สุดของอุตสาหกรรมการบินของไทยนี้? หรือช่าง...มัน? ผมก็ชอบคุณชัชชาติที่พูดบนเวทีเก่ง..เเต่คนการบินไทยทั้วที่ทำงานอยู่..และเกษียณเเล้ว..เเละต้องจำใจจากจำนวนหลายหมื่นคนต้องได้รับคำตอบโดยตรงจากอดีตรีฐมนตรีคมนาคมให้กระจ่างในความเสียหายมหาศาลนี้..มิฉะนั้นอย่าหวังว่าจะมีคนการบินไทยหน้าไหนที่มันจะลงคะเเนนให้คุณชัชชาติ..ให้สื่อเเบบคุณสุทธิขัยหยุ่นหรือคุณสนธิ(ก็ยิ่งดี)สัมภาษณ์คุณชัชชาติออกรายการก่อนการเลือกตั้งจะมีขึ้นสักครั้ง..คนการบินไทยเเละครอบครัวรักคุณเท่าฟ้า รอฟังคำตอบของคุณก่อนหย่อนบัตรเลือกตั้งอยู่..เรายินดีรับฟังเเละให้โอกาสนักการเมืองเสมอ..กล้าๆหน่อย!ข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยทำไมชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ของ Lepu ถึงมีปัญหา? ผมขออ้างอิงจากงานวิจัยในสเปน ที่ตีพิมพ์ใน Journal of Infection เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เขาเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 286 คน โดยใช้ Antigen Test Kit 5 ยี่ห้อ มาเทียบกับผล PCR โดยแบ่งเป็นคนที่มีผล PCR เป็นบวก 101 คน และเป็นลบ 185 คน เพื่อความกระชับ ผมขอเทียบแค่ 2 ยี่ห้อนะครับ คือ Abbott และ Lepu Abbott มีความไว (Sensitivity) 38.6% ความจำเพาะ (Specificity) 99.5% Lepu มีความไว 45.5% ความจำเพาะ 89.2% โดยความไว คือ ในบรรดาคนที่ผล PCR เป็นบวก พบคนที่ ATK ตรวจเจอหรือเป็นบวกกี่เปอร์เซนต์ และความจำเพาะคือ ในบรรดาที่ผล PCR เป็นลบ พบคนที่ ATK ผลเป็นลบกี่เปอร์เซนต์ สาเหตุที่นักวิจัยใช้ความไวและความจำเพาะในการรายงานผลการวิจัย เพราะว่า ค่าสองค่านี้ จะไม่เปลี่ยนแปลงไปตามความชุก (Prevalence) ของโรค ซึ่งบางประเทศอาจมีคนติดเยอะ บางประเทศอาจมีคนติดน้อย ถึงแม้จะติดเยอะติดน้อยอย่างไร ค่าความไวและความจำเพาะของชุดทดสอบจะไม่เปลี่ยนแปลงตาม สิ่งที่คนวางนโยบายต้องการหาจริงๆ คือ 1. ค่าทำนายเมื่อผลเป็นบวก (Positive Predictive Value; PPV) คือ ในบรรดาคนที่ผล ATK เป็นบวก พบผล PCR เป็นบวกกี่เปอร์เซนต์ 2. ค่าทำนายเมื่อผลเป็นลบ (Negative Predictive Value; NPV) คือ ในบรรดาคนที่ผล ATK เป็นลบ พบผล PCR เป็นลบกี่เปอร์เซนต์ ค่า PPV และ NPV จะเปลี่ยนแปลงไปตามความชุกของโรค เรามาลองเอาตัวเลขใกล้เคียงการตรวจแพทย์ชนบทในกรุงเทพฯ มาใช้ละกันครับ สมมติว่า จากการตรวจ 15,000 คน มีคนเป็นโรคจริง 10% ถ้าคำนวณจากความไวและความจำเพาะข้างต้น ได้ผลดังภาพนะครับ ในบรรดาคนที่ตรวจด้วย Abbott จะเจอผลบวก 646 คน ซึ่งเป็นคนที่ผล PCR+ 579 คน และผล PCR- 67 คน ซึ่งคิดเป็น PPV อยู่ที่ 89.6% กล่าวคือ พบผลบวกลวง (False Positive) ที่ตรวจว่าติด แต่แท้จริงแล้วไม่ติด ประมาณ 10% แต่ถ้าตรวจด้วย Lepu จะเจอผลบวก 2,141 คน ซึ่งเป็นคนที่ผล PCR+ 689 คน และผล PCR- 1,458 คน ซึ่งคิดเป็น PPV อยู่ที่ 31.9% กล่าวคือพบผลบวกลวง ที่ตรวจว่าติด แต่แท้จริงแล้วไม่ติดถึง 68% พูดง่ายๆ คือ ในบรรดาคนที่ Lepu เป็นบวก 10 คน ติดจริง 3 คน ติดไม่จริง 7 คน แต่ Abbott บวก 10 คน ติดจริง 9 คน ติดไม่จริง 1 คน แปลกใจไหม ที่ FDA ของอเมริกาและอีกหลายประเทศ เขาถอนการอนุมัติ Lepu แล้ว อย. และ อภ. ไทย คิดอะไรอยู่ครับ? ********************************************* ถ้ายังดื้อดึง จะใช้ Lepu มันจะเกิดอะไรขึ้นครับ 1. เชื่อไหม ตรวจเลขพบเชื้อในประเทศอาจจะลดลง สมมตินะครับ ประเทศไทยมีนโยบายว่า ก่อนตรวจ PCR ต้องตรวจ ATK ก่อน ถ้าผล ATK เป็นบวก ถึงตรวจ PCR ได้ แล้วประเทศไทยจำกัดการตรวจที่ 50,000 คนต่อวัน ถ้าใช้ Abbott ตามตัวเลขข้างบน เราจะเจอคนติดเชื้อ 44,814 คน แต่ถ้าเราใช้ Lepu เราจะเจอคนติดเชื้อเพียงแค่ 15,950 คนเท่านั้น 2. ถ้ามีนโยบายว่า ถ้าเจอผล ATK+ ให้ส่งเข้ารักษาเลย มอบชุดวัดออกซิเจน ยาต่างๆ สมมติว่าค่าใช้จ่ายหัวละ 2000 บาท การตรวจด้วย Lepu พบคนเป็น ATK+ มากกว่า Abbott 3.31 เท่า (2141/646) แสดงว่าเราต้องจ่ายมากขึ้น 3.31 เท่า ทั้งที่คนส่วนมากในนั้นเป็นผลบวกลวง ซึ่งไม่คุ้มค่ากับเงินที่ประหยัดได้จากการประมูลเลย 3. คนที่พบผลบวกลวง จะเสียโอกาสทางหน้าที่การงาน ต้องกักตัวเองอยู่บ้าน กว่าจะได้คิวตรวจ PCR กว่าจะรอผล PCR เสียโอกาสทางเศรษฐกิจมากขนาดไหน ไม่นับรวมความวิตกจริตของตนเอง และคนรอบข้าง รวมถึง คนรอบข้างก็ต้องแห่กันไปตรวจเพิ่ม ให้เสียทรัพยากรมากขึ้นไปอีก ********************************************* ผมเชื่อว่า อภ. และ อย. มีคนจบชีวสถิติ (Biostatistics) หรือระบาดวิทยา (Epidemiology) โดยตรง คนเก่งมากกว่าผมมีจำนวนเยอะมากๆ เรื่องที่ผมเขียนน่าจะไม่ใช่เรื่องใหม่ของพวกเขา แต่ถ้าเป็นเรื่องใหม่จริง และได้มีโอกาสอ่านโพสของผมแล้ว ช่วยพิจารณาใหม่เถอะครับ ไม่ใช่แค่ไม่สั่งซื้อ Lepu นะครับ ควรเอา Lepu ออกจากทะเบียน อย. ได้แล้วครับ PLEASE!!!!โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยคำแนะนำจาก แพทย์หญิง Bonnie Henryโอ๊ยยยยยยยย! สบายใจ อ่านแล้วค่อยหายเครียดลงหน่อย อิอิอิอ แพทย์หญิง Bonnie Henry เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ประจำจังหวัดบริติชโคลัมเบีย แคนาดา ซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกในตำแหน่งนี้ เธอยังเป็นรองศาสตราจารย์ ที่มหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย เธอมีพื้นฐานด้านระบาดวิทยา และเป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้านสาธารณสุขและเวชศาสตร์ป้องกัน เธอยังมาจาก PEI (เกาะปรินซ์เอ็ดเวิร์ด) ภูมิปัญญาของ ดร. บอนนี่ เฮนรี่ 1. เราอาจต้องอยู่กับ COVID-19 เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี อย่าปฏิเสธหรือตื่นตระหนก อย่าทำให้ชีวิตของเราไร้ประโยชน์ มาเรียนรู้ที่จะอยู่กับข้อเท็จจริงนี้ กันเถอะ 2. คุณไม่สามารถทำลายไวรัส COVID-19 ที่เจาะผนังเซลล์ได้ โดยการดื่มน้ำร้อนมากๆ อีกทั้งจะทำให้คุณเข้าห้องน้ำ บ่อยขึ้นด้วย 3. การล้างมือและ รักษาระยะ -ห่-า-ง ทางกายภาพ——สองเมตร ✅ เป็นวิธีที่ดีที่สุด สำหรับการป้องกันของคุณ 4. หากคุณไม่มีผู้ป่วย COVID-19 ที่บ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าเชื้อพื้นผิว ที่บ้านของคุณ 5. ตู้สินค้า ปั๊มน้ำมัน รถเข็น และ ตู้เอทีเอ็ม ไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ หากมีการล้างมือบ่อย จากใช้ชีวิตตามปกติ 6. โควิด -19 ไม่มีความเสี่ยง ที่แสดงให้เห็นว่า COVID-19 ติดต่อทางอาหารได้ 7. คุณสามารถสูญเสียความรู้สึก ในการดมกลิ่น ด้วยอาการแพ้ และการติดเชื้อไวรัสจำนวนมาก 🦠นี่เป็นเพียงอาการไม่เฉพาะเจาะจง ของ COVID-19🦠 8. เมื่ออยู่บ้าน คุณไม่จำเป็นต้อง เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร่งด่วน แล้วไปอาบน้ำ 🖐🏽 ไม่ควรถึงกับหวาดระแวง 9. ไวรัส COVID-19 ไม่ค้างอยู่ ในอากาศเป็นเวลานาน นี่คือการติดเชื้อในระบบ ทางเดินหายใจที่ต้องสัมผัสใกล้ชิด 10. อากาศสะอาด คุณสามารถเดินผ่านสวนและ ผ่านสวนสาธารณะ (เพียงแค่รักษาระยะป้องกัน ทางกายภาพของคุณ) 11. ควรใช้สบู่ธรรมดาเพื่อป้องกัน ไวรัสโควิด -19 🖐🏽 ไม่ใช่สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรีย เพราะนี่คือไวรัส ไม่ใช่ แบคทีเรีย 12. คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ การสั่งอาหารของคุณ แต่คุณสามารถอุ่นทั้งหมด ในไมโครเวฟได้หากต้องการ 13. โอกาสที่จะนำ COVID-19 กลับบ้านพร้อมกับรองเท้า ก็เหมือนกับการถูกฟ้าผ่า 2 ครั้ง ในหนึ่งวัน 👉🏾 ฉันทำงานกับไวรัสมา 20 ปี การติดเชื้อไม่แพร่กระจายแบบนั้น 14. คุณไม่สามารถป้องกันไวรัสได้ ด้วยน้ำส้มสายชู น้ำอ้อย และขิง! #สิ่งเหล่านี้มีไว้เพื่อภูมิคุ้มกัน #ไม่ใช่การรักษา 15. การสวมหน้ากากอนามัย เป็นเวลานาน อาจจะรบกวน การหายใจและระดับออกซิเจน ของคุณลดลง 😷 จงสวมใส่ในฝูงชนเท่านั้น 16. การสวมถุงมือ ก็เป็นความคิดที่ไม่ดีเช่นกัน ไวรัสสามารถสะสมเข้าไปในถุงมือ และแพร่เชื้อได้ง่าย หากคุณสัมผัสใบหน้า ดังนั้นจึงควรล้างมือเป็นประจำ ✅ จะดีกว่า #ภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลง #เมื่อร่างกายอยู่ในสภาพแวดล้อม #ที่ปลอดเชื้อ แม้ว่าคุณจะกินอาหารเสริมภูมิคุ้มกัน แต่ควรจะออกจากบ้าน ไป สวนสาธารณะ / ชายหาด ✅ เป็นประจำ #ภูมิคุ้มกันจะเพิ่มขึ้นตามการสัมผัส ❌ ไม่ใช่โดยการนั่งอยู่บ้านและ บริโภคอาหารทอด / เผ็ด / หวาน และเครื่องดื่มเติมอากาศ 🧠 จงฉลาด ใช้ชีวิต 🗣🦻🏼รับทราบข้อมูล อย่างมีเหตุผล ❌ อย่าวิตก จนเกินไป ✅ ชีวิตจะปลอดภัย 🗣 ——— 🗣 หลังแชร์ข้อมูลนี้ ให้เพื่อนที่ แวนคูเวอร์ แคนาดา 📲 เพื่อนตอบมาว่า @Piangporn ดีใจมากว่าชื่อเสียงคุณหมอหญิง Bonnie Henry ไปถึงเมืองไทยแล้ว คุณหมอท่านน่ารักมากค่ะ คนที่นี่ (แคนาดา) ก็ประทับใจการอุทิศตัว ทำงานหนัก(มาก) เลยมีแฟนคลับ มากมาย ฮับ (เพื่อนที่แคนาดา) ชอบฟังเวลาคุณหมอออกมาแถลงข่าว รายงานสถานการณ์หวัดโควิด พูดเป็นระบบ อิงข้อมูลวิทยาศาสตร์ และที่สำคัญแสดงความเอื้ออาทร ผู้ป่วยและญาติ เจ้าหน้าที่ หมอ พยาบาล ฯลฯ แบบเสมอต้น เสมอปลาย เป็นตัวอย่างของ การแพทย์ที่มีความเป็นมนุษย์ อย่างแท้จริง ทุกครั้งก่อนจบแถลงข่าว คุณหมอจะมีสามคำหลัก เตือนใจประชาชน จนท่องกันได้ คือ BE KIND, BE CALM, BE SAVE.ล้อเลียนMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 2 คนสงสัย😢อันนี้ของจริง ไหนๆ Covid-19 ก็กลับมา ระบาดใหญ่จนได้😓 🤓ในฐานะคนเรียน จุลชีววิทยาและจบมาเป็น Microbiologist ขอให้ข้อมูลซึ่งเพิ่งหารือกับเพื่อนๆกลุ่มนักจุลชีววิทยาจนเข้าใจรายละเอียดตรงกันแล้วมาแบ่งปันดังนี้😍 1. การแพร่ระบาดในขณะนี้ ติดต่อจากสารคัดหลั่งคือเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย เป็นหลัก 2. เชื้อไวรัสไม่ได้ลอยในอากาศ มันจะตายทันทีที่ออกมาสัมผัสอากาศ ที่มันออกมากระจายได้เพราะมันอยู่ในเซลล์ของเยื่อบุจมูกปากที่หลุดออกมากับน้ำมูก น้ำลาย 3. การติดเชื้อเกิดจากการสัมผัสสารคัดหลั่งเหล่านี้และนำเซลล์เยื่อเมือกนี้ไปเข้าตาหรือทางเดินหายใจ (อวัยวะที่มีเยื่อเมือกบุ เช่น ตา จมูก ปาก) 4. ไวรัสไม่สามารถเจาะผ่านผิวหนังเข้าร่างกาย ถ้าอยู่บนพื้นผิวมันจะตายเมื่อเซลล์ของคนป่วยที่หุ้มมันอยู่แห้งตาย เพราะตัวมันเองไม่มีชีวิต มันอาศัยในเซลล์ที่มีชีวิต ถ้าเซลล์หลุดออกจากร่างกายจะหมดชีวิตในเวลาไม่นานไวรัสก็ตายตามไปด้วย ***ในส่วนของการป้องกันนั้นทำได้ดังนี้*** 1. ใส่มาสก์เพื่อป้องกัน 2 ทาง 1.1 สำหรับคนที่ติดเชื้อใส่แล้วป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อได้เพราะเวลาไอจามเซลล์เยื่อบุซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของไวรัสมีขนาดใหญ่กว่ารูของผ้าจะออกมาไม่ได้ ไม่ต้องห่วงว่าไวรัสจะเล็กกว่าและออกมาได้เพราะไวรัสอยู่ในเซลล์เยื่อเมือกอีกที 1.2 สำหรับคนที่ไม่เป็น การใส่มาสก์ช่วยป้องกันสารคัดหลั่งกระเด็นมาเข้าหน้าหรือจมูกปากและถ้ากระเด็นมาติดที่มาสก์ เชื้อก็ไม่เข้าเพราะมันอยู่ในเยื่อบุซึงใหญ่กว่ารูผ้า นอกจากนี้การใส่มาสก์ช่วยลดโอกาสที่มือจะไปสัมผัส ตา จมูก ปาก 2. ใส่ faceshield ช่วยป้องกันไม่ให้สารคัดหลั่งกระเด็นมาโดนมาสก์ และยังช่วยป้องกันไม่ให้สารคัดหลั่งที่อาจหลุดรอดจากมาสก์กระเด็นออกไปยังผู้อื่น 3. การล้างมือ สำคัญมากๆ เพราะมือคืออวัยวะที่นำเชื้อไม่ว่าจะมีสารคัดหลั่งตกอยู่ที่พื้นผิวใดๆไปเข้า ตา จมูก ปาก แม้แต่การใส่/ถอดมาสก์ ก็ต้องระมัดระวังว่าสารคัดหลั่งที่เปื้อนมาสก์จะโดนมือ และมือนำไปเข้าตา จมูก ปาก ดังนั้นต้องท่องจำไว้เสมอว่า "เราต้องไม่เอามือที่ยังไม่ฟอกล้างสะอาดไปโดนหน้า" 4. ผม โดยเฉพาะผมยาว เป็นที่ๆมีสารคัดหลั่งมาติดได้ง่ายมาก ถ้ามีคนไอใกล้ๆแล้วเสมหะเล็กๆกระเด็นมาติด เมื่อเราเสยผมมือเปื้อนทันที และถ้ามือโดนหน้าโดยไม่ล้างก็นำเชื้อเข้าแล้ว ดังนั้นถ้ามีโอกาสเมื่อกลับเข้าบ้านควรอาบน้ำสระผมทันที และ"เราต้องไม่เอามือที่ยังไม่ฟอกล้างสะอาดไปโดนหน้า" 5. เสื้อผ้า เหมือนกับเรื่องผม ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีเมื่อเข้าบ้านและแช่น้ำใส่น้ำยาซักไว้แค่นี้ไวรัสก็ตายแล้ว 6. ถอดรองเท้าไว้นอกห้องก็เพียงพอแล้ว ไวรัสไม่ได้ทนจนติดรองเท้ากลับไปในบ้านได้ แต่เชื้อแบคทีเรียทนได้ เราถอดก็ดีเป็นการรักษาความสะอาด 🌸หวังใจว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์พอจะช่วยบรรเทาภาระของบุคคลากรทางการแพทย์ที่กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่และหนักหนาสาหัสเป็นที่สุดครั้งนี้ลงได้บ้าง🌼 ปล: ขอเชิญแบ่งปันกันตามสะดวกค่ะทุกๆท่าน ไม่ต้องให้เครดิตแหม่มหรอกค่ะเพราะนี่เป็นการรวบรวมความเห็นจากนักจุลชีววิทยาหลายๆคนค่ะโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยบ้านหมุนรักษาด้วยน้ำมะพร้าว • ไปรักษาที่โรงพยาบาล เขาจะเข็มมุ่งไปที่ “น้ำในหู” • ส่วนหมอแผนไทยเข็มมุ่งไปที่ “ไตสกปรก” • วิธีแก้ไข - ดื่มน้ำมะพร้าวพร้อมกันห้าลูก เพื่อเพิ่มความดันให้ขับผลึกเกลือที่ค้างในไตออกมา (สำหรับกรณีคนปัสสาวะได้ปกติเพียงมีอาการบ้านหมุน) ปล. ท่านที่ปัสสาวะขัดห้ามกินน้ำทุกชนิดมากๆเพราะฉี่ไม่ออก อันตรายครับ - หลังดื่มน้ำมะพร้าวประมาณหนึ่งชั่วโมงจะปวดปัสสาวะมาก (รีบไปฉี่อย่าอั้นเด็ดขาด) • ผมจะสอนให้ครับให้สังเกตปัสสาวะ - พิจารณากลิ่น กลิ่นฉุนมากบ่งชี้ว่าอะไรค้างคาภายในไต ถ้ากินยามากกลิ่นยานำ ถ้ากินผักผลไม้พวกกรดสูง เช่น ทุเรียน สะตอ กลิ่นไม่ต้องบรรยาย ฯ - พิจารณาสี สีเหลืองเข้ม (ดุจขมิ้น) หรือดำออกแดง(ดุจชานหมาก) หรือสีอื่นๆที่ไม่ใสเหมือนน้ำบ่อ แสดงว่าไตยังทำงานได้ แต่ขับของเสียไม่ทัน จึงเก็บสะสมสารพิษจนป่วย นี่แหละสาเหตุบ้านหมุน - หลังปัสสาวะแล้วทยอยดื่มเรื่อยๆทีละลูก ให้ปัสสาวะอีก - หลังปัสสาวะก็กินน้ำมะพร้าวอีก สลับไปเรื่อยๆจนฉี่ใสและไม่มีกลิ่นก็หยุดกินน้ำมะพร้าวครับ • ปล. ถ้าปวดฉี่ห้ามอั้นฉี่ครับ เพราะจะปวดหัวมาก • หลังจากนี้หนึ่งสัปดาห์อาการบ้านหมุนหรือแพ้อาหารจะค่อยๆบรรเทาลงตามลำดับจนหายปกติ - น้ำมะพร้าวกินรักษาจริงๆ คือห้าลูกแรก - ส่วนที่เหลือกินน้ำมะพร้าวเพื่อบำรุงป้องกันไต - รักษาแบบหมอแผนไทยไม่เร็ว ค่อยเป็นค่อยไป หายก็หยุดกินครับ • เป็นอีกหนึ่งทางเลือก - ท่านอาจหายหรืออาจไม่หาย (ถ้าไม่หายก็ไปหาวิธีอื่นรักษาต่อไปเองนะครับ ถ้ากลัวน้ำมะพร้าวทำให้ป่วยโน้นนี่นั้น ท่านก็อย่ากิน เอาที่ท่านเชื่อเป็นสำคัญ) - บ้านหมุนหลายสาเหตุต้องว่าเคสบายเคส แต่วิธีนี้ที่ผมแนะนำผู้ป่วยส่วนใหญ่หายครับ - รวมถึงแพ้อาหารจนปากเจ่อหน้าบวม ก็ใช้วิธีนี้รักษา - ให้ดีควรกิน 204 ยากษัยเส้น ขับลมพิษในไส้ กินยาสามวันๆละ 5 แคปซูล มื้อเดียวก่อนนอนช่วงท้องว่าง เช้าต้องถ่ายเหลว ถ้าถ่ายมากกว่าสามครั้ง แก้ไขด้วยการดื่มน้ำเย็นใส่น้ำแข็งแก้วใหญ่ๆจะหยุดถ่าย - ผมให้กิน 204 เพื่อขับพิษในลำไส้ด้วยอีกทางหนึ่ง ล้างเส้นอึ ล้างเส้นฉี่เมื่อเลือดลมเดินดีดีทุกเรื่องครับ • ผมเอาประสบการณ์รักษาตนเองเมื่อเจอพิษผงชูรสที่เขมร ลาว หรือเวียดนาม - ผมใช้วิธีนี้ล้าง สำหรับผมสามวันหายเป็นปกติ - ท่านต้องทดลองกินเองว่ากี่วันหาย ให้จดบันทึกและแจ้งคนในครอบครัวทราบ ภายภาคหน้าท่านป่วยลูกหลานจะได้แก้ไขให้ได้ถูกครับ • พวกเราเหล่าผู้เฒ่าเต่า เรามามีสุขภาพดีวิถีบวรเวชกันนะครับ เราเน้นธรรมชาติบำบัดรักษาจ๊ะ หมอบวร จันทร์โภคาไพบูลย์ไม่ระบุชื่อ• 6 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยเหล้าช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจริงหรอ🙅🏼♂️ตามที่มีคำแนะนำด้านสุขภาพเกี่ยวกับเรื่องดื่มเหล้าติดต่อกัน 7 วัน ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และหากดื่มขณะตั้งครรภ์ จะช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ ข่าวปลอม อย่าแชร์! ดื่มเหล้าช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย | Hfocus.org https://www.hfocus.org/content/2022/09/25956 ตามที่มีคำแนะนำด้านสุขภาพเกี่ยวกับเรื่องดื่มเหล้าติดต่อกัน 7 วัน ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และหากดื่มขณะตั้งครรภ์ จะช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็ อัพเดทข้อมูลลิงก์อีกครั้ง ชื่อนีโอ ไม่ใช่มีโอ ลีโอ โอรีโอ้ • 4 นาทีที่แล้วstd47905• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยหัวเชื้อครีมขาวไวผสมครีมใช้แล้วขาวไวภายใน3วันข่าวการเมืองเลือกตั้งโควิด 2019วัคซีนโควิดความสวยความงามยาสมุนไพรลดความอ้วนอย. เพิกถอนภาคอีสานภาคเหนือภาคใต้ภาคตะวันออก สภาพอากาศอันดามันมะเร็งผู้บริโภคเฝ้าระวังมีมล้อเลียน เสียดสีแอคปลอมstd48393• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยห้ามกิน! น้ำมะพร้าว เพราะจะทำให้ประจำเดือนหยุดไหลคนโบราณเชื่อกันว่าการดื่มน้ำมะพร้าวช่วงมีประจำเดือนจะทำให้ประจำเดือนหยุดไหล และทำให้ประจำเดือนในเดือนถัดไปมาช้ากว่าปกติ ซึ่งเกิดจากสารอาหารในน้ำมะพร้าวนั้นเป็นแบบเดียวกันกับฮอรโมนเพศหญิงstd48449• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยพบชิ้นส่วนซากเรือไททัน ยืนยัน 5 คนบนเรือเสียชีวิตคาดว่าแรงดันอ่กาศสุงทำให้เรือระเบิด+ออกซิเจนหมดvippoil84• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! รัฐบาลให้สิทธิพิเศษศาสนาอิสลามมากกว่าศาสนาพุทธตามที่มีการส่งต่อข่าวสารในประเด็นเรื่องรัฐบาลให้สิทธิพิเศษศาสนาอิสลามมากกว่าศาสนาพุทธทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีการส่งต่อข้อความโดยระบุว่าไม่มีความเท่าเทียม อิสลามมีธนาคารปลอดดอกเบี้ย มีสิทธิ์บินไปต่างประเทศฟรีด้วยงบของรัฐ และสร้างมัสยิดด้วยภาษีชาวพุทธ ทางกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยได้ตรวจสอบและชี้แจงแต่ละประเด็นว่า อ่านตามลิงค์ภาคใต้ชุมพล ศรีสมบัติ• 3 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสธ.เตือน! หยุดส่งต่อข้อมูลเท็จ "โรคมะเร็ง" ต้องตรวจสอบก่อนแชร์สธ.ร่วมกับภาคีเครือข่าย 20 หน่วยงาน เดินหน้ารณรงค์ “วันมะเร็งโลก” ภายใต้แนวคิด ปี 2566 “Uniting our voices and taking action ชวนให้กำลังใจผู้ป่วยมะเร็ง หยุดส่งต่อข้อมูลเท็จด้านโรคมะเร็ง เนื่องในวันมะเร็งโลก หากวินิจฉัยเร็ว รักษาไว เพิ่มโอกาสรอดชีวิต มีโอกาสหายขาดได้ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดกิจกรรม “วันมะเร็งโลก” โดยมีนายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ นายแพทย์สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ คณะผู้บริหาร ภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน บุคลากรสาธารณสุข อสม. และ ประชาชน เข้าร่วมงาน นายอนุทิน กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนทั่วโลก ประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ปีละประมาณ 140,000 คน เสียชีวิตประมาณ 80,000 คน โรคมะเร็งที่พบมาก 5 อันดับแรก คือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง และมะเร็งปากมดลูก กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาโรคมะเร็งมาโดยตลอด โดยได้ผลักดันการดูแลรักษาโรคมะเร็งเข้าสู่ชุดสิทธิประโยชน์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและนำสู่การปฏิบัติ เพิ่มขึ้นหลายประการ ได้แก่ การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงด้วยการตรวจอุจจาระ หากพบความผิดปกติก็สามารถตรวจคัดกรองต่อด้วยการส่องกล้องตรวจลำไส้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยการตรวจหายีนผิดปกติ ในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม และ การคัดกรองรอยโรคเสี่ยงมะเร็งและมะเร็งช่องปาก นอกจากนี้ยังสนับสนุนสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจากวิธี PAP smear เป็นการคัดกรองด้วยวิธีการตรวจ HPV test ทำให้ความไวและความแม่นยำในการคัดกรองโรคสูงขึ้น และเมื่อคัดกรองพบว่าเป็นโรคมะเร็งแล้ว ก็สามารถเข้าสู่การรักษาได้อย่างรวดเร็ว สามารถลัดขั้นตอนการส่งต่อในระบบปกติโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ตามนโยบาย “มะเร็งรักษาได้ทุกที่” (Cancer Anywhere) ซึ่งการวินิจฉัยเร็วและรักษาเร็ว เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วย ตั้งแต่เริ่มโครงการวันที่ 1 มกราคม 2564 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยใช้สิทธิ์มะเร็งรักษาได้ทุกที่แล้วกว่า 325,000 คน หรือ กว่า 2,900,000 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการเข้าถึงยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เช่น การตรวจวินิจฉัยด้วย PET scan ยารักษาโรคมะเร็งชนิดใหม่ สารสกัดกัญชาเพื่อลดอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษา และการสนับสนุนอุปกรณ์ราคาแพง เช่น เครื่องฉายแสงให้กับโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยรอคอยการรักษาจำนวนมาก ทั่วประเทศ ทั้งนี้สมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งสากล (UICC) ได้กำหนดให้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็น “วันมะเร็งโลก” โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Uniting our voices and taking action ร่วมส่งพลังเสียงและลงมือทำ” มุ่งเน้นการร่วมกันหยุดการส่งต่อข้อมูลเท็จด้านโรคมะเร็ง (Fake Cancer News) และให้กำลังใจกับผู้ป่วยโรคมะเร็งให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้โดยเร็ว นอกจากการดำเนินงานของภาครัฐแล้ว สิ่งสำคัญคือความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการรับผิดชอบต่อสังคม ไม่สร้างมลภาวะหรือสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ ลดพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ด้านนายแพทย์ธงชัย เพิ่มเติมว่า การที่ประชาชนใช้โซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง ทำให้พบว่า มีการแชร์ข้อมูลเท็จด้านโรคมะเร็งจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้ป่วยที่หลงเชื่อข้อมูลเท็จดังกล่าวเกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด ได้รับการรักษาที่เหมาะสมล่าช้า ขาดโอกาสที่จะหายขาด และอาจซ้ำเติมให้โรคมะเร็งที่เป็นอยู่รุนแรงมากขึ้น ที่ผ่านมา แม้จะมีการจัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมโรคมะเร็ง โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ เพื่อตรวจสอบและให้ข้อมูลข้อเท็จจริง แต่การแชร์ข้อมูลเท็จด้านนี้ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคมและประชาชนในการสร้างความตระหนักและหยุดยั้งการแชร์ข้อมูลเท็จต่าง ๆ ภายในงานยังมีกิจกรรมเสวนา หัวข้อ “ANTI FAKECANCERNEWS:หยุดแชร์ข่าวปลอม = ลงมือทำ” โดยนายแพทย์สกานต์ เปิดเผยว่า เฟคนิวส์หรือข่าวปลอมนั้นกระทบคนหลายกลุ่ม ผู้ที่ยังไม่ป่วยก็จะกลัวโรคมะเร็ง จึงเสาะหาว่าสิ่งไหนป้องกันโรคมะเร็งได้ แต่การรับข่าวสารต้องระวัง เพราะบางข้อมูลจะมีความจริงบางส่วน เช่น ข่าวปลอมที่ว่า น้ำด่างและน้ำผลไม้ปั่น ป้องกันโรคมะเร็งได้ จริง ๆ แล้ว การดื่มน้ำผักและผลไม้หลากสีจะมีวิตามิน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แต่ต้องพิจารณาว่า ป้องกันได้ในระดับไหน สิ่งที่น่ากลัว คือ กินน้ำเหล่านี้แล้วไม่ปรับพฤติกรรม ยังกินเหล้า สูบบุหรี่ ไม่ระวังมลภาวะ ส่วนกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งจะรู้สึกเคว้ง เชื่อเรื่องการรักษาด้วยวิธีง่าย ๆ เพราะคิดว่า การรักษาโรคมะเร็งด้วยการฉายแสง ใช้ยาเคมีบำบัดหรือการทำคีโม การผ่าตัด เป็นสิ่งที่ทรมาน แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนไปเยอะ แผลผ่าตัดเล็กลง การใช้ยาและการฉายแสง ไม่ส่งผลต่อร่างกายมากเท่าเดิม ซึ่งคนที่เชื่อข่าวปลอมก็จะทิ้งการรักษามาตรฐาน แทนที่จะเข้าสู่การรักษา แล้วกลับมาตอนที่เป็นในระยะที่ 3-4 ซึ่งยากต่อการรักษา อีกทั้งผลิตภัณฑ์บางอย่างยิ่งซ้ำเติมอาการให้รุนแรงอีกด้วย "สถาบันมะเร็งแห่งชาติได้เปิดศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมโรคมะเร็ง มากว่า 2 ปีแล้ว พบข่าวปลอม 600 กว่าเรื่อง หากมีข้อสงสัยในข้อมูลที่ได้รับมา สามารถเสิร์ชหาในเว็บไซต์ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมโรคมะเร็ง หรือ Anti Fake Cancer News (AFCN) และยังสามารถอ่านข้อมูลจากข่าวปลอมได้ที่เฟซบุ๊ก Anti-Fake News Center Thailand โดยได้ทำข้อมูลความรอบรู้สู้มะเร็ง เพื่อให้ความรู้เรื่องโรคมะเร็งที่ถูกต้องควบคู่กันไปด้วย สำหรับตัวอย่างข่าวปลอม เช่น ข่าวปลอมว่า ใช้โรลออนอย่างต่อเนื่องทำให้เป็นมะเร็งเต้านม เพราะน้ำยาระงับเหงื่อมีสารประกอบโลหะ เมื่อใช้นาน ๆ จะสะสมในร่างกาย เรื่องนี้ก็ไม่เป็นความจริง รวมถึงข่าวปลอมที่ว่า การทำ Ice Bathing สามารถรักษาโรคมะเร็งได้ก็ไม่จริง แม้ว่าจะมีวิธีการรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีใช้ความเย็น แต่เครื่องมือดังกล่าวต้องมีการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมคือต้องติดลบหลายองศา และใช้ความเย็นจัดเฉพาะที่ตัวก้อนมะเร็งด้วยเครื่องมือพิเศษโดยแพทย์ที่ชำนาญเฉพาะทาง การลงแช่ในน้ำแข็งยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ จึงขอย้ำให้ตั้งสติก่อนแชร์ ส่วนฝั่งที่รับข่าวสารต้องหาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือก่อนจะเชื่อ" นายแพทย์สกานต์ ย้ำ ด้าน ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสริมว่า ข่าวปลอมมีทั้งที่เป็นข้อมูลที่ผิด (misinformation) การบิดเบือนข้อมูล (disinformation) หรือมีข้อเท็จจริงบางส่วน กองทุนฯ เคยทำการวิจัยพบว่า ข้อมูลสุขภาพ 1200 ข่าว 900 ชิ้นเป็นข่าวปลอม เรื่องเกี่ยวกับโรคมะเร็งก็มีเยอะมาก ดังนั้น ต้องตั้งหลักแล้วคิด แล้วจะเลือกได้อย่างถูกทาง หากนึกถึงการแพร่ระบาดของโรคระบาด ข้อมูลเฟคนิวส์ก็รุนแรงพอ ๆ กัน จึงเรียกว่า Infodemic (ภาวะข้อมูลระบาด) ผู้รับสารต้องตั้งสติ อย่าใช้ความเคยชิน เมื่อเป็นโรคแล้วต้องสลัดความกลัว ตั้งหลัก ให้กำลังใจตัวเอง รับมือกับข้อมูลข่าวสารได้ ก็จะรับมือกับโรคได้ ขณะที่ น.ส.ศิรินทิพย์ ขัติยะกาญจน์ ประธานมูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง อดีตผู้ป่วยมะเร็ง เจ้าของเฟซบุ๊กแฟนเพจ เรื่องจริงกะเบลล์ เล่าถึงประสบการณ์การเป็นมะเร็งว่า ตอนที่เป็นมะเร็งก็สับสนข้อมูลความรู้ จะเจอกับหมอกูเกิลก่อนจะเป็นหมอจริง จึงเริ่มแชร์ประสบการณ์จริงว่า สิ่งไหนกินแล้วดีต่อร่างกาย มีผลอย่างไร หรือมีผลกระทบต่อร่างกายอย่างไร นอกจากนี้ ยังได้รวมเครือข่ายจากหลายชมรมที่เกี่ยวกับโรคมะเร็ง เช่น ชมรมมะเร็งเต้านม และชมรมมะเร็งลำไส้ มารวมเป็นพลังถ่ายทอดประสบการณ์ตรง เช่น ตอนที่ให้ยาคีโม แล้วลดการรับประทานเนื้อสัตว์ ทำให้ร่างกายไม่สามารถรับได้ แต่บางกรณีก็ใช้ได้กับอีกคน ซึ่งต้องพิจารณาในแต่ละเรื่อง เพราะโรคมะเร็งไม่เหมือนโรคอื่น มันจะมีเวลาโกลเดนท์ไทม์ 2-3 เดือน จะสุขภาพดีเพื่อรับยาและการรักษาที่ถูกต้อง ถูกที่ถูกเวลา โอกาสหายขาดจะสูง ทั้งนี้ อย่าให้ความกลัวทำให้ตัดสินใจผิดพลาดในชีวิต ลองสำรวจตัวเองก่อนว่า สิ่งที่คิดเป็นความจริงหรือความกลัว อยากให้ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน แม้จะตัดสินใจพลาดก็เริ่มใหม่ได้ ส่วน น.ส.สุชาตา ช่วงศรี รองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 เสริมถึงประสบการณ์ตรงเรื่องโรคมะเร็งว่า ตอนนั้นปวดตรงหน้าอก รู้สึกว่าด้านข้างโตผิดปกติ ตอนแรกยังตัดสินใจไม่ตรวจ คิดว่า ลองลดความอ้วน คุมไขมัน แต่ยิ่งโตก็พบว่า ก้อนใหญ่ขึ้น ปวดมากโดยเฉพาะช่วงมีประจำเดือน จึงเข้ารับการตรวจวินิจฉัยพบก้อนเนื้อทั้ง 2 ข้าง แพทย์จึงให้คำแนะนำและเข้าสู่กระบวนการรักษา ขอย้ำว่า หากตรวจรักษาเร็วก็จะหายได้เร็ว สำหรับกิจกรรม “วันมะเร็งโลก” ครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม จำนวน 20 แห่ง อาทิ กรมการแพทย์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และโรงพยาบาลมะเร็งภูมิภาค, มูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ, สมาคมโรคมะเร็งแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์, โรงพยาบาลในเขต จ.ปทุมธานี และภาคเอกชน อาทิ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์, บริษัท โรช ไทยแลนด์ จำกัด, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งภาคประชาสังคม คือ มูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง จัดกิจกรรม 2 ส่วน ประกอบด้วย การให้บริการประชาชน ได้แก่ ชุดตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง (HPV Self Sampling) และส่วนนิทรรศการความรู้ อาทิ นิทรรศการ “ANTI FAKE CANCER NEWS : หยุดแชร์ข่าวปลอม = ลงมือทำ, สาธิตการตรวจเต้านมด้วยตนเอง, การเย็บหมวกและเต้านมเทียมเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง, ให้คำปรึกษาการตรวจสุขภาพ, HPV Vaccine, นิทรรศการสาธิตเมนูอาหาร และนิทรรศการ Thai Cancer Society เป็นต้นสุขภาพมะเร็งstd48333• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้า อนค. ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปีศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) พร้อมเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เป็นเวลา 10 ปี เมื่อเวลา 15.00 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีนายนุรักษ์ มาประณีต เป็นประธาน ออกนั่งบัลลังก์เพื่ออ่านคำวินิจฉัยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบ อนค. ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบ อนค. เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และมีมติให้สั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ กก.บห. ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ ณ วันที่มีการทำสัญญากู้เงินคือ วันที่ 2 ม.ค. 2562 และ 11 เม.ย. 2562 เป็นเวลา 10 ปี ผลจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ กก.บห. ทั้งหมด 16 คนถูกตัดสิทธิทางการเมือง แม้มี 2 คนลาออกไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม โดยในจำนวนนี้เป็น ส.ส. จำนวน 11 คน ทำให้ อนค. เหลือเสียงในสภา 65 คน จากเดิม 76 คนstd48049• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินข้าวมื้อเย็นแล้วจะลดความอ้วนจริงหรือการกินข้าวตอนเย็นทำให้สามารถลดไขมันได้เร็วขึ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นมื้อใหญ่ก็ตามอาย• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกัญชากัญชา” เป็นหนึ่งในพืชที่มีสารสำคัญอยู่ภายใน มนุษย์รู้จักพืชชนิดนี้นำมาใช้เป็นสรรพคุณทางยากันอย่างแพร่หลายในยุคสมัยหนึ่ง ต่อมาเมื่อกัญชาถูกควบคุมให้เป็นยาเสพติดจึงถูกระงับการใช้ในวงการแพทย์ไป แต่ก็ยังมีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยใช้เป็นยารักษาอาการบางอย่างด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านอยู่ จนเมื่อมีนักวิทยาศาสตร์ ได้มาไขปริศนาจนเกิดเป็นองค์ความรู้เกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์สมัยใหม่ จน “กัญชา” กลับมาเป็นพืชที่ได้รับความสนใจอีกครั้ง รวมถึงในประเทศไทยได้อนุญาตให้ ปลูกและนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ และปลดล๊อคให้บางส่วนของกัญชา ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษอีกต่อไปdiazp121phoenix• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยรับประทาน“เนื้อแดง”ในปริมาณมากเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้จริงหรือไม่ ?การรับประทานเนื้อแดงมีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเป็นแหล่งสำคัญของโปรตีน สังกะสี เหล็ก และวิตามิน หากบริโภคเนื้อแดงในปริมาณมากเกินไป จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ โดยเฉพาะเนื้อแดงแปรรูป เช่น ไส้กรอกและเบคอน (ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/Red-Meat) มีการรายงานว่าการกินเนื้อแดงและเนื้อแปรรูปในปริมาณที่มากขึ้นจะเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งลำไส้ โดยที่เนื้อแดงแปรรูป จัดเป็นกลุ่มของสารก่อมะเร็งเดียวกันกับบุหรี่ แต่ไม่ได้มีอันตรายเท่ากับสารเหล่านี้ ส่วน เนื้อแดง เป็นกลุ่ม 2A คือ กลุ่มสามารถก่อมะเร็งในตัวมนุษย์ (ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://thaicancersociety.com/does-meat-cause-cancer/) จากการสัมภาษณ์ อ.ดร.นิจฉรา ทูลธรรม อาจารย์ประจำคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้ให้ข้อมูลว่า “อาหารที่ทำมาจากเนื้อแดงและเนื้อแปรรูป ถ้านำมาใช้ไฟในการทำอาหาร เช่น ปิ้ง ย่าง ทอด ต้ม ลวก หากรับประทานมากเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงต่อ การเกิดมะเร็งลำไส้ ได้แต่ก็ยังสามารถรับประทานเนื้อแดงได้ แต่ให้จำกัดปริมาณการรับประทาน” (สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567) ทั้งนี้ อ.ดร.นิจฉรา ทูลธรรม ได้ให้คำแนะนำในการรับประทานสัตว์เนื้อแดง ดังกล่าวว่า ควรรับประทานเนื้อแดงไม่เกินสัปดาห์ละ 500 กรัม ควรรับประทานเนื้อแดงแปรรูปไม่เกินวันละ 50 กรัม ดังนั้น ไม่ควรงดรับประทานเนื้อแดงแต่ควรรับประทานในปริมาณที่แนะนำเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง และ รับประทานโปรตีนจากแหล่งอื่นเพิ่มเติม เช่น ไข่ เต้าหู้ และถั่ว รวมทั้งการรับประทานอาหารให้มีความหลากหลายมากขึ้นสุขภาพมะเร็งtenboomz123456• 1 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยปรับเกณฑ์ใหม่ จ่ายเงินเบี้ยผู้สูงอายุ 2566 ไม่ได้ถ้วนหน้า ต้องพิสูจน์ความจน https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/vX2pZWQ?utm_source=lineshareข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยหลอกกันอีกแล้ว ! รู้ทันข่าวลวงก่อนแชร์ในโลกโซเชียลเคยสงสัยไหมว่า เว็บไซต์หรือแอคเคาท์บนโซเชียลถึงชอบสร้างข่าวลวง คำตอบง่าย ๆ นั่นก็คือ อยากได้ “ทราฟฟิค” ที่หมายถึงยอดผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือจำนวนผู้ติดตามนั่นเอง เพราะทราฟฟิคสามารถแปรเปลี่ยนเป็น “ต้นทุน” ในการหาสปอนเซอร์มากมาย ที่เดี๋ยวนี้การโปรโมทแบรนด์หรือข่าวสารต่าง ๆ บนโลกออนไลน์มีมูลค่าไม่แพ้สื่อสิ่งพิมพ์หรือทางโทรทัศน์เลย แล้วยังมีทีท่าว่าจะเพิ่มขึ้นทุกวัน เพราะโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มด้วย ผู้คนต่างมีอีกชีวิตหนึ่งบนโลกโซเชียล การซื้อขายหรือการเนียน ๆ ประชาสัมพันธ์ก็เป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ เว็บไซต์หลอกลวงเหล่านี้มักนำเสนอด้วยหัวข้อ ภาพประกอบstd48100• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอย. ย้ำ โฆษณาสรรพคุณอาหารต้องขออนุญาตก่อนอย. ย้ำการโฆษณาแสดงสรรพคุณของอาหารทางสื่อต่าง ๆ รวมถึงการไลฟ์สดต้องได้รับอนุญาตจาก อย. ก่อน ขั้นตอนการขออนุญาตสะดวก รวดเร็ว ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Submission) การันตีไม่เกิน 8 วันทำการ แนะเจ้าของผลิตภัณฑ์ ผู้เกี่ยวข้องกับการโฆษณาศึกษาข้อกฎหมายอย่างถี่ถ้วน เพราะการฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมายstd48077• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย“กฎแห่งกรรม” ของ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญมีคนเล่าให้ฟังว่า... สมัยก่อน...คุณพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ...ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต.. > แกอยู่ในป่า...กับเพื่อน ๕ ~ ๖ คน...ทุกวันก็จะเปลี่ยนเวรกัน...ล่าสัตว์ป่า...มาทำอาหาร > วันหนึ่ง...เป็นเวรของคุณพงษ์เทพ คว้าปืนยาว...สะพายบ่า.เดินเข้าป่าไป... > อาหารโปรดของคุณพงษ์เทพ.....คือแกงเนื้อลิง... > พอเดิน เข้าป่าไปได้สักพัก. เห็นลิงตัวหนึ่ง...นั่งอยู่บนต้นไม้...หันหลังให้.. > แกก็รีบยกปืนประทับบ่า...ยิงเปรี้ยง...ไปที่ตัวลิง.. > เหตุการณ์แปลกประหลาดได้เกิดขึ้น... > ปกติ...ลิงพอถูกยิง..จะหล่นตุ๊บ...จาก ต้นไม้ทันที... แต่ลิงตัวนี้...นั่งจับกิ่งไม้เฉย...ไม่หล่นลงมา... > จะว่ายิงไม่ถูก...ก็ไม่น่าเป็นไปได้...เพราะคุณพงษ์เทพ...แกยิงปืนแม่น... > ระยะแค่นี้ เป้าใหญ่ขนาดนี้...ไม่พลาดแน่นอน... > ในขณะที่กำลังสงสัยอยู่นั้น...ลิงตัวที่ถูกยิง...ร้องโหยหวน...เสียงดังมาก..... > ฝูงลิงที่แยกย้ายกันออกหากินอยู่บริเวณใกล้ ๆ ... วิ่งแห่กันเข้ามาหาลิงตัวที่ถูกยิง > แล้วร้องโหยหวน...เหมือนกันหมด... > แกตกใจ...ยืนตกตะลึง...ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น... > สักครู่...ลิงตัวที่ถูกยิง. โยนวัตถุเล็ก ๆ...สีดำ ๆ..ชิ้นหนึ่ง...ให้กับลิงตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด... > แล้วก็หล่นตุ๊บ...ลงมาจากต้นไม้... > คุณพงษ์เทพ...รีบวิ่งไปดู...ลิงถูกยิงเข้าที่หลัง... ทะลุหน้าอก...เลือดแดงฉาน..เต็มตัว... > คุณพงษ์เทพเห็นแล้ว...ต้องเบือนหน้าหนี... > ลิงที่ตกลงมาเป็นลิงแม่ลูกอ่อน...ขณะที่ถูกยิง.เธอกำลังให้นม ลูก... > ลูกตัว น้อย...กำลังดูดนมอย่างมีความสุข... > ทันทีที่ถูกยิง..ถ้าเป็นลิงตัวอื่น... จะหล่นตุ๊บ...ลงจากต้นไม้..... > แม่ลิงตัวนี้...ยังหล่นไม่ได้...ยังตายไม่ได้.. > เพราะเธอยังมีภารกิจใหญ่หลวงที่ต้องทำ...คือ... > รักษาชีวิตลูกน้อย...ให้พ้นอันตราย... > เธอกัดฟัน...โหนกิ่งไม้ไว้.แม้จะเจ็บปวดแทบขาดใจ... > มองดูเลือดที่ไหลหยดเป็นทาง ด้วยความตกใจ... > พยายามรวบรวมพละกำลังที่ยังพอมี! เหลือทั้งหมด... > ตะโกนสุดเสียง...ร้องเรียก.ฝูงลิงเข้ามาใกล้ ๆ.. > แล้วก็ฝากฝัง...ให้เลี้ยงลูกน้อยแทนเธอ > หลังจากโยนลูกให้จ่าฝูงแล้ว...มองดูลูก...ถูกพาไป จนลับสายตาแล้ว.. แน่ใจว่า...ลูกปลอดภัยแล้ว... > จึงหลับตา...แล้วหล่นลงมา.....ตาย.. คุณพงษ์เทพ...ก้มมองหน้าลิง..แล้วร้องไห้... > เพราะที่เบ้าตาลิง...มีหยดน้ำตาใส ๆ. กำลังไหลริน... > คุณพงษ์เทพ..รีบเดินกลับที่พัก...เอาปืนไปเผาทิ้ง...ไม่ยอมออกล่าสัตว์อีกเลยตลอดชีวิต.. > และภาพความรักที่ยิ่งใหญ่..ของแม่ลิง...ที่มีต่อลูกน้อย ...... > เป็นแรงบันดาลใจ. ให้พงษ์เทพ...แต่งเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่ง... > ชื่อว่า... “ลิงทะโมน” > เพื่อยกย่อง...เชิดชู...คุณค่าของความรัก...ที่แม่...มีต่อลูก พงษ์เทพต้องเผชิญชตากรรมตามสนองคือ เป็นมะเร็งขั้นรุนแรงที่ตับ ไปผ่าตัดที่ รพ.กรุงเทพ มีทรัพย์สินขายเกือบหมด ตอนนี้เหลือบ้านเพียงแห่งเดียวที่ปากช่องพออยู่อาศัย โรคร้ายปะทุยังไม่หายนอนรอวันดับก็น่าสงสาร เพื่อน ๆ วงคาราบาวก็ไปเยี่ยมพร้อมกัน นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงครับภาคอีสานมีมstd48367• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
