1549 ข้อความ
- 1 คนสงสัยน้ำกระท่อมถูกกฏหมายในกรณีที่กระท่อมถูกปลดล็อคเป็นพืชเสรีจึงมีการซื้อขายกันมากขึ้นโดยจะมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกระท่อมมากขึ้นหนึ่งในนั้นคือน้ำกระท่อมยาสมุนไพรมีมณัฏฐวรีย์ ไชยวัตร• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยห้ามผู้ป่วยมะเร็งกินปลาหมึก หอย ปลาที่เลี้ยงในกระชังห้ามผู้ป่วยมะเร็งกินปลาหมึก หอยทุกชนิด และปลาที่เลี้ยงในกระชัง สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ยังไม่มีข้อมูลหรือข้อแนะนำให้ผู้ป่วยมะเร็งงดอาหารดังกล่าวstd48926• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยห้ามผู้ป่วยมะเร็งกินปลาหมึก หอย ปลาที่เลี้ยงในกระชังห้ามผู้ป่วยมะเร็งกินปลาหมึก หอย ปลาที่เลี้ยงในกระชังstd47784• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอมห้ามผู้ป่วยมะเร็งกิน ปลาหมึก หอย ปลาที่เลี้ยงในกระชังมะเร็งstd47793• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยBTOกลูต้า กินเเล้วเห็นผลเร็วจริงหรือไม่ส่วนผสมหลักของ กลูต้า BTO บีทีโอ 💫 Yeast Beta-Glucan : ต้านอนุมูลอิสระฟื้นฟูผิว ลดเลือนริ้วรอย ผิวหนังยืดหยุ่น มีน้ำมีนวล ชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวหนังแข็งแรง 💫 L-CARNITINE L-TARTRATE แอลคาร์นิทีน : ให้ความชุ่มชื้นต่อผิวอย่างสมดุลย์ ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และยังสามารถช่วยลดเซลลูโลท์ (CELLULITE) นอกจากนี้ ยังมีประสิทธิภาพในการลดความมันของผิว ต้านอนุมูลอิสระอย่างดีเยี่ยม มีประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย รอยด่างดำ ผิวแลดูอ่อนเยาว์ 💫 L-GLUTATHIONE แอล-กลูตาไธโอน : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เซลล์ในร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ได้เอง มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ในการปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระ ที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย และที่สำคัญยังช่วยตับในการทำลาย และขจัดสารพิษออกจากร่างกายด้วย 💫 SOYBEAN EXTRACT สารสกัดถั่วเหลือง : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ช่วยกระตุ้นสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวเรียบเนียนใส ปรับผิวให้กระจ่างใส ลดปัญหาความหมองคล้ำ 💫 GINSENG EXTRACT สารสกัดโสม : มีประสิทธิภาพสูงในการปรับสภาพของผิวพรรณ ให้เต่งตึงดูมีเลือดฝาด และดูอ่อนกว่าวัย ช่วยทำให้ผิวอ่อนนุ่มและชุ่มชื้นมากขึ้น ป้องกันการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ช่วยชะลอริ้วรอย อีกทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนของโลหิตใต้ผิวหนังให้มีมากขึ้น ช่วยต้านอนุมูลอิสระ (ANTIOXIDANT) ป้องกันการเกิดริ้วรอย ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (TYROSINASE) ที่มีส่วนสำคัญในการผลิตเม็ดสีผิว 💫 DONG QUAI EXTRACT สารสกัดจากตังกุย : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย บำรุงผิว ผิวขาวกระจ่างใส มีสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงร่างกายกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น ช่วยบำรุงสุขภาพคุณผู้หญิง รวมถึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน 💫 POMEGRANATE EXTRACT สารสกัดทับทิม : อุดมด้วยสารกลุ่ม โพลีฟีนอล และเป็น ANTI-OXIDANT ที่ดีมากต่อผิวพรรณ โดยพบว่ามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอย่างดีเยี่ยม มีประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย รอยด่างดำ ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ผลทับทิมให้ปริมาณสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าไวน์แดง และ ชาเขียว ถึง 3 เท่า 💫 ASCORBIC ACID วิตามินซี : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย เป็นตัวสร้างคอลาเจน ซึ่งเป็นเส้นใยทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆ ไว้ด้วยกัน ทำให้ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ ช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นได้ เพราะวิตามินซีสามารถให้ความความชุ่มชื้น และกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวได้จอ จอ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผู้ป่วยมะเร็งห้ามกินปลาหมึกห้ามผู้ป่วยมะเร็งกินปลาหมึก หอยทุกชนิด และปลาที่เลี้ยงในกระชัง สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ยังไม่มีข้อมูลหรือข้อแนะนำให้ผู้ป่วยมะเร็งงดอาหารดังกล่าว ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ตรวจสอบกับสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีการแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องผู้ป่วยมะเร็งควรงดปลาหมึก หอยทุกชนิด และปลาที่เลี้ยงในกระชัง ว่า ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลดังกล่าว ไม่มีคำแนะนำห้ามผู้ป่วยมะเร็งงดอาหารเหล่านี้ ทั้งนี้ ผู้ป่วยมะเร็งจำเป็นต้องได้รับพลังงานและสารอาหารอย่างครบถ้วน เพียงพอโดยคำนึงถึงความต้องการของพลังงานตามอายุ กิจกรรม และระดับความรุนแรงของโรค เพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร น้ำหนักลด การสูญเสียกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากการรักษาโรค ผู้ป่วยมะเร็งควรรับประทานอาหารในปริมาณและสัดส่วนที่เหมาะสม เช่น จำกัดการบริโภคอาหารทะเลบางชนิดที่อาจมีคอเลสเตอรอลสูง เลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกและสะอาด ควรรับประทานอาหารอย่างถูกหลักโภชนาการ แม้ว่าโปรตีนจะเป็นสารสำคัญและมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ควรเลือกรับประทานโปรตีนจากแหล่งอาหารที่หลากหลาย เช่น ปลา ไก่ ไข่ และนม ซึ่งอาหารในกลุ่มปลาหมึก หอย และปลา เป็นอาหารที่ให้สารอาหารในกลุ่มโปรตีน ถือเป็นสารอาหารหลักที่จำเป็นต่อร่างกายมีส่วนในการช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ หากร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพออาจส่งผลให้กล้ามเนื้อถูกสลายไปใช้เป็นพลังงานส่งผลเสียต่อร่างกายได้std47887• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยห้ามผู้ป่วยมะเร็งกินปลาหมึก หอย ปลาที่เลี้ยงในกระชังแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องผู้ป่วยมะเร็งควรงดปลาหมึก หอยทุกชนิด และปลาที่เลี้ยงในกระชัง ว่า ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลดังกล่าว ไม่มีคำแนะนำห้ามผู้ป่วยมะเร็งงดอาหารเหล่านี้ ทั้งนี้ ผู้ป่วยมะเร็งจำเป็นต้องได้รับพลังงานและสารอาหารอย่างครบถ้วน เพียงพอโดยคำนึงถึงความต้องการของพลังงานตามอายุ กิจกรรม และระดับความรุนแรงของโรค เพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร น้ำหนักลด การสูญเสียกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากการรักษาโรคstd47920• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสุขภาพห้ามผู้ป่วยมะเร็งกินปลาหมึก หอยทุกชนิด และปลาที่เลี้ยงในกระชังผู้บริโภคเฝ้าระวังPuttipong Raungongart• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยห้ามผู้ป่วยมะเร็งกินปลาหมึก หอย ปลาที่เลี้ยงในกระชังแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องผู้ป่วยมะเร็งควรงดปลาหมึก หอยทุกชนิด และปลาที่เลี้ยงในกระชังชอบ ชาเขียว• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยห้ามผู้ป่วยมะเร็งกินปลาหมึก หอย ปลาที่เลี้ยงในกระชังอย่าแชร์! ห้ามผู้ป่วยมะเร็งกินปลาหมึก หอยทุกชนิด และปลาที่เลี้ยงในกระชัง สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ยังไม่มีข้อมูลหรือข้อแนะนำให้ผู้ป่วยมะเร็งงดอาหารดังกล่าวstd48012• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยพรุ่งนี้!! บขส.หยุดวิ่งไปภาคใต้ทุกเส้นทางพรุ่งนี้!! บขส. ประกาศหยุดเดินรถเส้นทางภาคใต้ทุกเส้นทาง ส่วนภาคเหนือ-อีสาน เปิดให้บริการรวม 13 เส้นทาง ผู้โดยสารที่จองตั๋วล่วงหน้าวันที่ 10-25 ก.ค.นี้ ขอคืนตั๋วได้เต็มราคาไม่หักค่าธรรมเนียมได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋วของ บขส. ก่อนเวลารถออก ไม่น้อยกว่า 3 ชมPuwxt Sky• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินอาหารเป็นยา : หอมใหญ่ หอมเล็ก กระเทียม 3 เซียนต้าน COVID-19เมื่อเชื้อไวรัส ไม่มียาฆ่า ตัวที่ฆ่าคือภูมิคุ้มกันของเรา มาเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วยของใกล้ตัวจาก “หอมใหญ่ หอมเล็ก กระเทียม” 3 เซียนกับเมนูบ้านๆ ที่ช่วยต้าน COVID-19 เช่นต้มยำ ต้มซุปไก่std48456• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยพ่อ แม่ ลูก กรุ๊ปเลือดไม่เหมือนกัน ใช่ครอบครัวเดียวกันไหมปัจจุบันการตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ความเป็น พ่อ แม่ ลูก สามารถทำได้ง่ายขึ้น แต่ก่อนจะไปพิสูจน์เชื้อสายของครอบครัวนั้น มีบางกรณีที่ พ่อ แม่ ลูก กรุ๊ปเลือดไม่เหมือนกัน จึงเกิดความสงสัยได้ว่า ไม่ได้สืบเชื้อสายกันหรือไม่ แล้วทำไม กรุ๊ปเลือดพ่อแม่ลูกไม่ตรงกันItsaree Rungninrat• 2 ปีที่แล้ว
- 5 คนสงสัยห้ามผู้ป่วยมะเร็งกินปลาหมึก หอยทุกชนิด และปลาที่เลี้ยงในกระชังศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ตรวจสอบกับสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีการแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องผู้ป่วยมะเร็งควรงดปลาหมึก หอยทุกชนิด และปลาที่เลี้ยงในกระชัง ว่า ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลดังกล่าว ไม่มีคำแนะนำห้ามผู้ป่วยมะเร็งงดอาหารเหล่านี้ ทั้งนี้ ผู้ป่วยมะเร็งจำเป็นต้องได้รับพลังงานและสารอาหารอย่างครบถ้วน เพียงพอโดยคำนึงถึงความต้องการของพลังงานตามอายุ กิจกรรม และระดับความรุนแรงของโรค เพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร น้ำหนักลด การสูญเสียกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากการรักษาโรคมะเร็งplam1412p• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยซิลิโคนทำให้อุดตันจริงไหมถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาเป็นสิวง่าย และเป็นคนที่สนใจในการอ่านส่วนผสมบนฉลากเครื่องสำอาง คุณคงจะพยายามมองหาส่วนผสมที่ทำให้เกิดการอุดตันและเลี่ยงที่จะใช้มันKhairun Nisa• 4 ปีที่แล้วmeter: middle3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอนุมัติแล้วจ่ายคนละ9,100 ให้อนุบาลถึงม.6หรือปวช.อนุมัติแล้วจ่ายคนละ9,100 ให้อนุบาลถึงม.6หรือปวช.Abd Zaaq• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยhttps://m.facebook.com/story.php?story_fbid=817007079094903&id=344089676386648ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่ติดเชื้อกันเองภายในบ้านมากสุดจริงหรือไม่จากข้อมูลในช่วงวันที่ 4-10 เม.ย.63 พบผู้ป่วยทั้งหมด 495 คน เป็นผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยัน จำนวน 144 คน (29% ของผู้ป่วยทั้งหมด) ส่วนใหญ่มีการแพร่โรคภายในครัวเรือน และสถานที่ทำงาน โดยแบ่งเป็นครอบครัว มีจำนวน 81 คน หรือ 56% จำแนกเป็นคู่สามีภรรยา บิดามารดา ญาติอื่นๆ/ผู้อาศัยร่วมบ้าน และบุตรโควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผู้บริโภคถูกมัดมือชก ! จุดจบของไลฟ์สไตล์แสนสบายด้วยเงินอุปถัมภ์ [The End of Millennial Lifestyle Subsidy] ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมานะครับ ถ้าผมอยากนั่งรถไปสยาม ผมก็เอาโทรศัพท์ ออกมาเรียก Grab ราคา 120 บาทไม่เกินนี้ ผมได้ไปสยามละ แต่วันนี้ถ้าผมลองเรียก Grab ไปสยาม ราคามันไม่ใช่ 120 ละ แต่มันขึ้นไปถึง 220 บาท และ ไม่ใช่แค่ Grab นะครับ มีอีกหลายบริษัทที่ ถ้าคุณตื่นเช้ามาเรียก Lineman มาส่งอาหารเช้า ตอนสายๆ นั่ง Grab ไปทำงานที่ออฟฟิศ WeWork ตอนเที่ยงคุณเรียก Foodpanda มาส่งอาหารกลางวันให้คุณ ตอนบ่ายๆ เบื่อๆเข้าไปซื้อของใน Shopee แล้วก็ซื้อคริปโตต่อใน Bitkub เลิกงานเสร็จไปเล่น Jetts Fitness ตกเย็นนั่ง Gojek กลับบ้าน มานอนดู Netfilx จนหลับไป ชีวิตแสนสะดวกสบาย ราคาถูกของคุณ วันนี้ได้มาถึงจุดจบแล้ว เพราะเงินที่อุปถัมภ์ไลฟ์สไตล์ของเราทุกคน มันได้หมดลงแล้ว คุณแค่สงสัยไหมครับ ว่าทุกครั้งที่คุณสั่งอาหารผ่าน Grabfood ด้วยค่าส่ง 5 บาท ทำไมพี่มอเตอร์ไซค์ใจดีอุตส่าห์ ขับรถตากฝนมาส่งอาหารให้กับคุณ เพื่อเงินแค่ 3 บาทหลังหักค่าน้ำมันแล้ว ในความเป็นจริง แล้วมันมีผู้อยู่เบื้องหลังที่คอยอุปการะไลฟ์สไตล์แสนสบายของคุณนี้อยู่ ซึ่งตอนนี้มันจบลงแล้ว ผมขอใช้บริษัท Grab เป็นตัวอย่างในการอธิบายละกันนะครับ มันมีบริษัทอีกมากมายที่มีพฤติกรรมแบบนี้ แต่ผมคุ้นเคยกับ Grab อยู่สิงคโปร์ตามข่าวทุกวัน เป็นบริษัทที่ใหญ่ ทุกคนรู้จัก เป็น Startup เจ้าแรกๆที่โตจนใหญ่มาก และ เป็นบริษัทที่ผมไม่ชอบ และไม่เห็นด้วยกับวิธีการทำธุรกิจของเขาที่สุด Grab เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วให้บริการเป็นแอปเรียกแท็กซี่ในมาเลเซียและสิงคโปร์ ไม่มีอะไรพิเศษเลย ตัวแอป โมเดลธุรกิจก็ลอกมาจาก Uber แต่สิ่งที่ Grab มีมากกว่าเจ้าอื่นที่ทำให้เขาโตเร็วมากคือ เงิน... และมันต้องเป็นเงินจำนวนมากมหาศาล ที่จากทั้งเจ้าของ Anthony Tan (หนึ่งในครอบครัวที่รวยที่สุดในมาเลเซีย) และ ผู้ร่วมลงทุนอย่างบริษัท SoftBank ของนาย Masayoshi Son (คนนี้สำคัญครับ เป็นนายทุนหลักและผู้เริ่มแนวคิด Blitzscaling) และอีกมากมายหลายนักลงทุน ปรัชญาการทำธุรกิจของ Grab และบริษัทเหล่านี้คือ Growth หรือการโตของผู้ใช้ รายได้สำคัญกว่า Profit หรือกำไร เราจะขาดทุนเท่าไรก็ได้ไม่สำคัญขอแค่เราโตเร็วแรง มี Market share เยอะๆ ทุกอย่างจะโอเคเอง ซึ่งปรัชญานี้เรียกว่า Blitzscaling (มาจากคำว่า Blitzekrieg ที่แปลว่า การโจมตีคู่ต่อสู้ที่รวดเร็วของกองทัพนาซี และ คำว่า scaling ที่แปลว่า การโตของธุรกิจ) คุณคิดดูนะครับถ้าผมอยากเปิดร้านขายข้าวมันไก่ในตลาด แล้วอยากเป็นร้านเบอร์ 1 ของตลาดภายใน 30 วัน ไม่เห็นจะยากเลย ผมก็ขายข้าวมันไก่กล่องละ 10 บาทตัดราคามันทั้งตลาด ซื้อเยอะแถมส่วนลดไปอีก และที่ Grab ทำแบบนี้ได้ก็เพราะว่า เงินจากนักลงทุนในบริษัทมันหนามากๆๆ ในช่วงตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารกลางสหรัฐ อยู่ 0.5-1% เรียกได้ว่า ต้นทุนการกู้เงินถูกมากๆ นี่เป็นเหตุผลในกองทุนใหญ่ระดับโลก อย่าง Softbank จะเอาเงินไปฝากแบงค์หรือซื้อ Bond ทำไม เอาเงินมาเท่ให้กับ Start Up เหล่านี้ดีว่า เพื่อว่าสัก 1 ใน 100 บริษัทที่ลงทุนไปก็กลายเป็นมหาบริษัทใหญ่ในอนาคต Softbank นี่ละครับตัวดี ชอบลงทุนแบบมหาศาลในธุรกิจที่มีโอกาสสูงที่จะไม่สามารถมีกำไรได้ในอนาคต ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ผมแค่อยากจะบอกว่า ผมไม่ชอบและไม่เห็นด้วยกับการทำธุรกิจแบบนี้มากๆ ครับ มันเป็นการทำธุรกิจที่ไม่ Sustainable ไร้ความยังยืน ทำให้สังคมเสียความสมดุล บริษัทอย่าง Grab ทำให้ ผู้เล่นในอดีตอย่างแท็กซี่ตายลงไป ที่สิงคโปร์ ปัจจุบันเหลือคนขับ Taxi น้อยมาก เพราะโดน Grab ดึงไปหมด และเมื่อถึงตอนนี้ Grab ไม่เหลือคู่แข่งแล้ว ก็ขึ้นราคาฟันผู้บริโภค ให้ยับไปเลย และรัฐบาลก็ไม่สามารถควบคุมอะไรได้ ทำให้ความสมดุลในระบบมันเสียไป ในปีที่ผ่านมา บริษัท 9 เท่าของรายได้ คือขายของได้ 10 บาท แต่ ต้นทุน 100 บาท หุ้นบริษัทตกไปแล้ว 80% และไม่ได้มีแค่บริษัทเดี่ยวนะครับที่เจอปัญหาแบบนี้ Shopee Lazada Wework Foodpanda Netfilx เจอกันหมด Netflix ก็เป็นอีกบริษัทครับที่คิดราคาถูกเกินจริงๆ แชร์ password กันได้ทั้งโรงเรียน ทำให้อุสหกรรมหนัง ภาพยนต์ตายไป โรงหนังตาย แล้ว เดี๋ยวก็จะห้ามแชร์ password ขึ้นราคา เห็นไหมละครับว่าอะไรที่ถูกเกินไปมันไม่ได้ดี ทำสมดุจเสียให้ไปหมด ชีวิตราคาถูกที่แสนสะดวกสบายของคุณ จริงๆแล้วที่นักลงทุนผู้หิวโหยกำไรในอนาคตคอยอุปถัมภ์อยู่ หวังว่าคุณจะเสพติดความสะดวกสบายใช้บริการของเขาในวันที่ส่วนลด ราคาแสนถูกนั้นหายไป และในปีนี้นะครับเงินอุปถัมภ์จากนักลงทุกเหล่านั้น หมดลงแล้วดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารกลางสหรัฐ จะขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 3.5-4.0% จะไม่มีนักลงทุนคนไหนมาลงทุนด้วยความบ้าคลั่งเหมือนในอดีต บริษัทอย่าง Grab ก็จะต้องปรับสภาพให้เริ่มมีกำไร ทุกบริษัทที่ลดแลกแจกแถมมาเป็นเวลาหลายปีจนเหมือนเป็นเรื่องปรกติ จะมาทำแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว และคนที่จะลำบากที่สุดก็คือผู้บริโภคอย่างผมและคุณเนี่ยละครับ #TheWalkingBackpack บทความนี้ น่าสนใจ ผู้บริโภคติดกับดัก https://www.theatlantic.com/newsletters/archive/2022/06/uber-ride-share-prices-high-inflation/661250/?fbclid=IwAR3iHBu3mh5xRQoYn1ChOQDQRmO_SG-uRAWqUpYA7tba8Ll4TCBYkxISp-sผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่? "ดื่มน้ำอัดลมมาก เสี่ยงฟันผุ"จริงหรือไม่? "ดื่มน้ำอัดลมมาก เสี่ยงฟันผุ" กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้เตือนคนไทยดื่มน้ำอัดลมมาก จะส่งผลต่อสุขภาพช่องปาก เป็นต้นเหตุของการเกิดฟันสึกกร่อนมากที่สุด และเสี่ยงเกิดโรคฟันผุและโรคอ้วนตามมาได้ แนะนำควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน ดีที่สุด พร้อมแปรงฟันด้วยสูตร 2-2-2 เพื่อสร้างสุขภาพช่องปากที่ดี นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำจะส่งผลเสียต่อร่างกาย ได้แก่ ฟันสึกกร่อน ฟันผุ อ้วน กระดูกพรุน และกระดูกเปราะ เนื่องจากน้ำหวานชนิดอัดลมมีกรดคาร์บอนิกค่อนข้างมาก ซึ่งสารดังกล่าวจะกีดขวางการดูดซึมแคลเซียมของกระดูก และยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ เพราะร่างกายจะหลั่งสารอินซูลินออกมามากเกินจำเป็น ซึ่งในระยะยาวร่างกายจะผลิตอินซูลินได้น้อยลง จนทำให้ร่างกายเกิดโรคเบาหวานโดยไม่รู้ตัว ซึ่งน้ำอัดลม 1 กระป๋อง (ขนาด 325 ซีซี) มีปริมาณน้ำตาล 8-12 ช้อนชา จะเท่ากับน้ำตาลในลูกอม จำนวน 17 เม็ด หากกินรวมกันหลายอย่างอาจทำให้ได้รับน้ำตาลมากเกินความต้องการของร่างกาย และเกินมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดว่าร่างกายควรได้รับน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัมต่อวัน หรือปริมาณ 6 ช้อนชา นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า น้ำอัดลมยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดฟันสึกกร่อนได้มากที่สุด เพราะนอกจากน้ำอัดลมจะมีกรดคาร์บอนิกแล้ว ยังมีส่วนประกอบคือน้ำตาลกับน้ำ หากไม่มีการทำความสะอาดช่องปากและฟันจะก่อให้เกิดฟันผุได้ จากผลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพประเทศไทยครั้งที่ 8 พ.ศ. 2560 พบว่า เด็กเล็กอายุ 5 ปี มีฟันน้ำนมผุร้อยละ 75.6 เด็กวัยเรียนอายุ 12 ปี มีฟันแท้ผุ ร้อยละ 52.0 และกลุ่มอายุ 15 ปี มีฟันแท้ผุ ร้อยละ 62.7 สาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปาก และพฤติกรรมการบริโภคของเด็กที่นิยมกินอาหารหรือขนมที่หาซื้อได้ง่าย เช่น น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาฟันผุแล้ว ยังก่อให้เกิดความเจ็บปวด การติดเชื้อและสร้างปัญหาการบดเคี้ยวอาหาร มีผลต่อน้ำหนัก การเจริญเติบโตและบุคลิกภาพ รวมถึงมีผลกระทบต่อการเรียนด้วย ที่สำคัญ ปัญหาฟันผุยังนำไปสู่การสูญเสียฟันที่เริ่มต้นในวัยเด็กและสะสมจนกลายเป็นการสูญเสียฟันทั้งปากจนไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ในวัยสูงอายุ ทั้งนี้ เครื่องดื่มที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับร่างกายก็คือน้ำเปล่า เพราะในน้ำเปล่ามีส่วนช่วยให้ร่างกายสดชื่น เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ปรับสมดุลของร่างกาย ช่วยชะลอความแก่ เพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิว ช่วยให้ระบบย่อยในกระเพาะอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ไตแข็งแรง โดยใน 1 วัน ควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อสุขภาพที่ดีและควรหลีกเลี่ยงอาหารชนิดอื่น ๆ ที่มีการเติมน้ำตาลอีกด้วย เช่น ขนมหวาน ลูกกวาด เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับน้ำตาลในแต่ละวันเกินจำเป็นจนก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ นอกจากนี้ ควรแปรงฟันให้สะอาดทั่วถึงทั้งในตอนเช้า หลังอาหารกลางวัน และก่อนนอน ด้วยสูตร 2 2 2 คือ แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ให้ทั่วทุกซี่ทุกด้านนานอย่างน้อย 2 นาที แปรงอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน และไม่ควรกินอาหารหลังแปรงฟันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อให้เวลาช่องปากสะอาดนานที่สุด และยังเป็นการป้องกันโรคฟันผุในระยะยาวอีกด้วย ข้อมูล : ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2564 ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เครือข่าย : มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ดอีสานโคแฟค• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสุดช็อค! “ธนาคารโลก”ประจานเศรษฐกิจไทย กำลังเจ๊งทั้งระบบเพราะ รัฐบาลโกงยอดคนอดตาย พุ่งเกินครึ่งของประชากร 27 พฤศจิกายน 2564 ราว 40 ล้านคน (57%) คนไทยรายได้ต่ำกว่า 150 บาท/วัน เพิ่มขึ้น 100% ตัวเลขหนี้ประเทศพุ่งทะลุเพดานสูงสุดในรอบ 18 ปี รวม 13 ล้านล้านบาท สูงแตะ 88-90% ต่อจีดีพี การคลังถังแตก-คนจนไม่มีจะกิน รัฐบาลกู้มือเติบ 7 ล้านล้านบาท ผลาญงบประมาณต่อท่อน้ำเลี้ยงคอร์รัปชั่น ⚫️เจ๊งทั้งประเทศ ธนาคารโลก (World Bank) เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไทยในสภาวะวิกฤติ ผู้มีรายได้น้อย/คนไม่มีรายได้พุ่ง 40 ล้านคน หรือเกือบเท่ากับ 2 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ จากการขอรับสิทธิ์ช่วยเหลือช่วงโควิดจากรัฐบาล คอร์รัปชั่นรัฐบาลประยุทธ์ ถูกสื่อต่างชาติ รายงานผลการประเมิน ว่า ไทยเป็นประเทศที่มีการคอรัปชั่น โกงกิน เป็นอับดับที่ 1 ของโลก ฉุดประเทศถอยหลัง เศรษฐกิจพุ่งดิ่งลงเหว การคลังถังแตก-คนจนไม่มีจะกิน สอดคล้องกับตัวเลขคนจนที่พุ่งสูงขึ้น 100% โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าวันละ 150 บาท (ครึ่งนึงของค่าแรงขั้นต่ำ) มีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 4.7 ล้านคน เป็น 9.7 ล้านคนในปัจจุบัน นอกจากนี้ธนาคารโลกยังงัดตัวเลขตอกย้ำความเน่าเฟะในยุคลุงตู่อีกด้วยว่า อัตราความยากจนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 7.2 ปี 2558 เป็นร้อยละ 9.8 ปี 2561 สวนทางกับการเติบโตของเศรษฐกิจ ทั้งที่รัฐบาลไทยกู้เงินมือเติบ 1.9 ล้านล้านบาท ถือว่ามากสุดในภูมิภาคอาเซียน คิดเป็น 13% ของ GDP แต่ผลทีได้คือเศรษฐกิจเจ๊งมากสุดในเอเชีย กระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ 6 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 4% ของ GDP และทำเงินหายไป 1.3 ล้านล้านบาท ⚫️หนี้ท่วมทะลุเพดาน ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ รัฐบาลที่สร้างหนี้มากสุดในประวัติศาสตร์ แต่เศรษฐกิจไทยก็เจ๊งมากสุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน ตัวเลขหนี้ล้นเพดานเติบโตพุ่งพรวดไปพ้อมกับความเหลื่อมล้ำ ตอกย้ำเศรษฐกิจลิเกหลวงที่ใช้ระบบเอื้อศักดินาแล้วปล่อยปลาเล็กปลาน้อยตายเรียบ ตัวเลขหนี้ครัวเรือนของประเทศพุ่งสูงแตะ 88-90% ต่อจีดีพี สูงสุดในรอบ 18 ปี สอดคล้องกับปัญหาเศรษฐกิจพังจากฐานราก คนไทยชักหน้าไม่ถึงหลัง รายได้เท่าเดิมแต่หนี้สินเพิ่มขึ้น ไทยเหลื่อมล้ำพุ่งรอบ 10 ปี รวยจนห่างกันสูงสุด 20 เท่า หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีเพิ่มทะลุ 80% คนจนมีโอกาสเรียน ป.ตรีแค่ 3% เมื่อพิจารณาในส่วนของผู้ที่มีรายได้มากที่สุดแตกต่างจากผู้ที่มีรายได้น้อยสุดกว่า 20 เท่า โดยมีกลุ่มคนชนชั้นกลางอยู่ประมาณ 35% สะท้อนถึงการกระจุกตัวของรายได้ในกลุ่มบน และการแบ่งปันผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ทั่วถึงไปสู่คนกลุ่มล่าง แม้ดูจะดีขึ้นจากปี 2550-2561 แต่จำนวนคนยากจนในปี 2560-2563 มีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าจำนวนคนจนจะเพิ่มขึ้นมาในช่วง 3 ปีหลัง ⚫️โกง-จน-เจ๊ง ธนาคารโลกระบุถึงสาเหตุหลักที่เศรษฐกิจไทยถดถอย คือ ปัญหาการคอร์รัปชั่นของภาครัฐบาล [3] ซึ่งเป็นอันดับที่ 1 ในโลก นำไปสู่ ‘ความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน’ ซึ่งเป็นปัญหาการขับเคลื่อนจีดีพีตามหลักเศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะปัญหาธรรมาภิบาล หรือการทุจริต มีปัญหาทั้งภาคราชการและฝ่ายการเมือง นำไปสู่ปัญหาเกี่ยวเนื่องที่ไทยกำลังเผชิญ คือ การโกงงบประมาณ ความเหลื่อมล้ำ หรือการบังคับใช้กฎหมายสองมาตรฐาน ‘ผู้นำบ้าอำนาจ’ คือเหตุผลที่ธนาคารโลกประจานไทยว่าเป็นต้นตอของการคอร์รัปชั่นในยุครัฐบาลประยุทธ์ เนื่องจากคนที่เข้ามามีอำนาจและมีหน้าที่ทางการเมืองไม่สามารถประนีประนอม (compromise) และหาจุดร่วมกันได้เพื่อนำพาประเทศให้ดีขึ้นได้ตามนโยบายที่ตนวางไว้ ผลคือในสายตาต่างประเทศ ประเทศเรามีปัญหาสนามแข่งขันที่ไม่ตรงหรือเอียง (Unlevel Playing Field) ระหว่างบริษัทไทยขนาดเล็ก บริษัทต่างชาติ เทียบกับบริษัทไทยขนาดใหญ่ เห็นได้จากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ การจัดซื้อจัดจ้าง การให้สัมปทานสิทธิในการใช้ประโยชน์ทรัพยากรที่จัดสรรโดยรัฐมักจะไม่มีบริษัทที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศในธุรกิจนั้นๆ เข้าแข่งขัน ผู้ได้สัมปทานจะเป็นบริษัทใหญ่ของประเทศกับบริษัทแนวร่วมต่างชาติที่จัดตั้งขึ้น ผลคืออำนาจทางเศรษฐกิจของบริษัทใหญ่นับวันจะมากขึ้น ผลวิจัยของธนาคารแห่งประเทศไทยปี 2562 ชี้ว่า บริษัทขนาดใหญ่ 5% แรกของประเทศมีสัดส่วนรายรับสะสมสูงถึง 85% ของรายรับทั้งหมด มีส่วนแบ่งยอดขายมากถึง 46% และสัดส่วนกำไรกว่า 60% อำนาจทางธุรกิจแบบนี้ไม่จูงใจให้ผู้เล่นรายใหม่เข้าแข่งขัน ขณะที่ผู้บริโภคเสียประโยชน์ข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวันนี้ "หนังสือพิมพ์เดอะซัน" ของอังกฤษเผยแพร่จดหมายเปิดผนึกของบิลเกตส์ จดหมายฉบับนี้ได้รับการให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และถูกส่งต่อจากคนในวงกว้าง คนทั้งหลายต่างกล่าวขานชื่นชมว่าบิลเกตส์เป็นผู้เปี่ยมสติสัมปชัญญะอย่างแท้จริง ******************************************** ต่อไปนี้คือ จดหมายเปิดผนึกของบิลเกตส์: ฉันเชื่ออย่างสนิทใจว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีจุดประสงค์ทางจิตใจอยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าเราจะคิดว่ามันดีหรือไม่ดีก็ตาม ในขณะที่ฉันได้นั่งคิดอย่างมีสติรอบคอบ ฉันจึงอยากจะขอร่วมแบ่งปันเสียงสะท้อนจากใจของฉันให้กับท่านทั้งหลาย ว่าแท้จริงไวรัสโคโรน่าได้ทำอะไรกับพวกเราไปบ้าง 1)ไวรัสนี้ได้มาเตือนบอกเราทั้งหลาย ว่ามนุษย์ทุกคนล้วนเท่าเทียมกัน ไม่ว่าวัฒนธรรม ศาสนา อาชีพ สภาพการณ์เศรษฐกิจของเราจะต่างกันอย่างไร หรือต่อให้เป็นคนที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งก็ตาม ในสายตาของไวรัสแล้วเราทุกคนล้วนเสมอภาคเท่ากัน เราทุกคนก็ควรปฏิบัติต่อคนอื่นด้วยความเสมอภาคเช่นกัน ถ้าคุณไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูดมา คุณก็ไปถามทอมแฮ็งค์ดู 2)ไวรัสนี้ได้มาเตือนเรา ว่าชะตากรรมของเราทุกคนล้วนเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน สิ่งที่ส่งผลต่อคน ๆ หนึ่งก็สามารถส่งผลต่ออีกคนเช่นเดียวกัน ไวรัสยังเตือนเรา พรมแดนเท็จที่เราสร้างไว้นั้นมันไร้ค่าเสียจริง เพราะไวรัสไม่ต้องใช้หนังสือเดินทางก็ข้ามระหว่างประเทศได้ 3)ไวรัสเตือนสติเราว่า สุขภาพที่ดีมีค่าแค่ไหน แต่เรากลับละเลยสุขภาพนี้ ไปกินอาหารขยะทั้งหลาย ดื่มน้ำที่ปนเปื้อนสารเคมีต่างๆ ถ้าเราไม่ดูแลตนเอง แน่นอนว่าเราต้องเจ็บป่วย 4) ไวรัสเตือนเราว่า ชีวิตนั้นทุกข์และแสนสั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราควรทำคืออะไร โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ป่วยแล้ว. จุดมุ่งหมายของชีวิตไม่ได้อยู่ที่การซื้อกระดาษชำระแบบม้วน 5)ไวรัสเตือนเราว่า สังคมของเราเห็นวัตถุกลายเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เมื่อเราประสบกับปัญหาความยากลำบาก เราเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ความต้องการพื้นฐานของเราคือ อาหาร น้ำและยา มากกว่าสินค้าฟุ่มเฟือยที่ไม่ได้มีมูลค่าอะไรเลย 6)ไวรัสเตือนเราว่า ครอบครัวมีความสำคัญเพียงใด แต่เรากลับมองข้ามจุดนี้ไปแล้ว ไวรัสบังคับให้เรากลับไปบ้านของเรา ดังนั้น เราจึงสามารถสร้างบ้านให้เป็นครอบครัว และสร้างสายสัมพันธ์ที่เข้มแข็งในครอบครัว 7)ไวรัสเตือนเราว่า งานที่แท้จริงของเราไม่ใช่งานที่เรากำลังรับจ้างอยู่นั้น แน่นอนว่าเราต้องทำงาน แต่ทว่าตามพระประสงค์ของพระเจ้าในการสร้างเรามา ไม่ใช่เพื่อให้เรามาทำงาน งานที่แท้จริงของเราทุกคน คือการดูแลซึ่งกันและกัน ปกป้องคุ้มครองซึ่งกันและกัน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์ร่วมกัน 8)ไวรัสเตือนเราว่า เราอย่าได้สำคัญตัวเองยิ่งใหญ่ หยิ่งผยอง ไวรัสยังเตือนเราด้วยว่า ไม่ว่าคุณจะคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่เพียงใด ไม่ว่าคนอื่นจะคิดว่าคุณยิ่งใหญ่เพียงใด ไวรัสขนาดเล็กๆเพียงแค่นิดเดียว ก็สามารถทำให้โลกทั้งใบหยุดนิ่งได้ทันที 9)ไวรัสเตือนเราว่า อิสรภาพอยู่ในมือของเราเอง เราสามารถเลือกที่จะร่วมมือและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เลือกที่จะแบ่งปันให้ และสนับสนุนซึ่งกันและกัน หรือเราสามารถเลือกที่จะเห็นแก่ตัว กักตุนเสบียงเพื่อดูแลแค่เฉพาะตัวเองเท่านั้น มีเพียงในยามยากลำบาก เราจึงสามารถมองเห็นใบหน้าที่แท้จริงของคนๆหนึ่งได้ 10) ไวรัสเตือนเราว่า เราสามารถอดทน หรือตื่นตระหนกได้ เรายังสามารถเข้าใจได้ว่าสถานการณ์เช่นนี้ เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในประวัติศาสตร์มาแล้ว แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไป เราอาจตื่นตระหนก คิดว่าวันสิ้นโลกมาถึงแล้ว จนส่งผลทำร้ายตัวเราเอง 11)ไวรัสเตือนเราว่า การแพร่ระบาดของไวรัสเป็นทั้งจุดจบและจุดเริ่มต้น เวลานี้เราสามารถไตร่ตรองและทำความเข้าใจได้แล้ว เรียนรู้รับเอาบทเรียนจากความผิดพลาดนี้ การแพร่ระบาดของไวรัสอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเวียนว่าย และอาจจะดำเนินเช่นนี้ต่อไป จนกว่าเราได้รับบทเรียนทั้งหมด 12)ไวรัสเตือนเราว่าโลกของเรากำลังป่วย ไวรัสยังเตือนเราด้วยว่า เราต้องดูว่าผืนป่าหายไปเร็วแค่ไหน นอกจากนี้คุณต้องดูความเร็วที่กระดาษชำระม้วนหนึ่งหายไปจากชั้นวางว่าเร็วแค่ไหน เราทุกคนต่างป่วยกันหมดแล้ว เพราะครอบครัวของเราป่วย(โลกคือครอบครัวของเรา) 13)ไวรัสเตือนเราว่า ความยากลำบากมักจะผ่านไปได้เสมอ แล้วจากนั้นทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นมา ชีวิตเป็นวัฏจักรวนเวียน ตอนนี้เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งในวัฏจักรเท่านั้น เราไม่ต้องตกใจ โรคระบาดจะผ่านไปได้แน่นอน 14)หลายคนคิดว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าเป็นหายนะ แต่ฉันคิดว่านี่จะเป็นการ "แก้ไขข้อผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด"โควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: false3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข้อความนี้ พระเทพฯ ทรงให้สัมภาษณ์ จริงหรือไม่ยิ่งอ่านยิ่งคิดถึงพ่ออยู่หัว ร.9 พระเทพฯ ทรงกล่าวให้สัมภาษณ์ 1. จากนี้ไปประเทศไทยของเราจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีก อาจมีหลายสิ่งเปลี่ยนไป รอยต่อของคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่อาจชัดเจนขึ้น มันคือการเปลี่ยนผ่านในวันที่พ่อไม่อยู่ ทุกคนมีสิทธิ์เสียใจ และควรเสียใจ ทุกคนมีสิทธิ์กลัว และควรกลัว แต่จงตระหนัก เตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงด้วยสติปัญญา 2. พ่อคือตัวแทนของความพอเพียง เป็นต้นฉบับของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในวันที่ประเทศไทยกำลังถูกปั่นด้วยกระแสความโลภ จงหยิบภูมิปัญญาของท่านมาใช้ให้เกิดประโยชน์ จดจำหลอดยาสีฟันของท่านไว้ จดจำการแต่งกายที่เรียบง่ายของท่านไว้ อะไรที่ประหยัดได้จงประหยัด อะไรที่พึ่งพาตนเองได้จงพึ่งพา อะไรที่แบ่งปันได้จงแบ่งปัน เมื่อยืนด้วยลำแข้งตัวเองได้แล้ว เราจะพึ่งพาผู้อื่นน้อยลง 3. พ่อเป็นผู้มีความเพียรดุจพระมหาชนก ท่านเป็นผู้ว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรโดยไม่เคยถามว่าเมื่อไหร่จะถึงฝั่ง ความคิดเช่นนี้ทำให้ท่านทำงานที่ยิ่งใหญ่ได้ ฝากถึงคนไทย อย่าทำงานด้วยตัณหา อย่าขับเคลื่อนชีวิตด้วยความอยากมี อยากได้ อยากเป็น อย่าให้อำนาจวัตถุบังตาจนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี จงขับเคลื่อนชีวิตและการงานด้วยฉันทะ ความรัก ความเมตตา ด้วยประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เหมือนที่พ่อเคยทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง 4. พ่อยืนเคียงข้างคนยากจนเสมอ คนจนอยู่ที่ไหนท่านก็อยู่ที่นั้น ท่านเดินทางบุกป่าฝ่าดงไปเยี่ยมพวกเขาถึงบ้าน เป็นพระราชาผู้อยู่ง่าย กินง่าย ไม่ยึดติดความหรูหรา เมื่อพ่อไม่อยู่แล้ว เราอย่าหลงลืมปณิธานข้อนี้ อย่าทอดทิ้งคนยากจน จงหยิบยื่นโอกาสให้ผู้ด้อยกว่า อย่าใช้ช่องว่างกฎหมายซ้ำเติมและเอาเปรียบผู้อื่น 5. ไม่มีท่าน เราจะมานั่งทะเลาะกันเหมือนในอดีตไม่ได้ เพราะไม่มีใครที่จะมาห้ามเราได้ ไม่มีใครอีกแล้วที่เราจะเกรงใจ รับฟังเหมือนที่เคยรับฟังท่าน ถ้าทุกฝ่ายไม่คิดถึงข้อนี้ให้มาก ถ้ายังเอาแต่ความคิดตนเป็นใหญ่ ประเทศไทยที่เรารัก ย่อมตกอยู่ในฐานะอันตราย เมื่อพ่อไม่อยู่แล้ว จงรักและถนอมน้ำใจกันให้มากกว่าที่ผ่านมา 6. สิ่งที่พ่อทิ้งไว้ ไม่ใช่เพียงอิฐ หิน ปูน ทราย แต่เป็นความรู้ขั้นปรีชาญาณ เราอาจรักษาร่างกายท่านไว้ไม่ได้ เพราะนั่นคือกฎธรรมชาติ แต่เราสามารถรักษาภูมิปัญญาของท่านไว้ได้ จงค้นคว้าข้อมูลทางเทคนิคต่างๆ ฝนเทียมเกิดได้อย่างไร กังหันน้ำชัยพัฒนาคืออะไร มันมีความน่าทึ่งยังไงในมิติทางวิศวกรรม การเพาะปลูกโดยไม่พึ่งสารเคมีทำได้อย่างไร การพัฒนาดิน รักษาน้ำ ชุบชีวิตป่าเป็นอย่างไร ทำไมท่านไม่สนับสนุนให้ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำไมท่านจึงส่งเสริมให้ชาวบ้านรู้จักการห่มดิน ท่านเคยสร้างรากฐานอันใดไว้ให้วงการเกษตรกรรมของชาติ สิ่งเหล่านี้ควรสนับสนุนให้มีการร่ำเรียนกันเป็นระบบ ในโรงเรียน มหาวิทยาลัย ถ้าเราทำเช่นนี้ได้ภูมิปัญญาที่ท่านคิดค้นมาหลายสิบปีจะไม่สูญหายไปจากสังคมไทย 7. จากนี้ไปจะมีคนอีกมาก ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง อาจมีคนที่ไม่เข้าใจท่านออกมาพูดในสิ่งที่เราไม่ชอบ จงใช้สติ อดทน ไม่โต้ตอบ เหมือนที่ท่านได้กระทำมาชั่วชีวิต พระพุทธเจ้าตรัสไว้เสมอ ไม่เคยมีสันติภาพใด เกิดจากความรุนแรงและคำด่าทอ 8. พ่อเป็นผู้ค้ำชูศาสนาโดยแท้จริง ไม่ใช่ด้วยคำพูด หรือแค่เม็ดเงินบริจาค แต่ท่านคือผู้พิสูจน์ธรรมะด้วยกายใจ ในฐานะผู้ปฏิบัติธรรม ท่านคือนักภาวนาที่หาตัวจับยาก เป็นผู้มีอานาปานสติเป็นวิหารธรรม ทำไมพ่อทำงานหนัก แต่ยังมีเวลาภาวนา ทำไมเราทำงานน้อยกว่าท่าน แต่เรากลับอ้างว่าเราไม่มีเวลา สิ่งนี้ต้องคิดให้มาก เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเอง 9. พ่อคือครูผู้ยิ่งใหญ่ที่สอนด้วยชีวิตและการกระทำ ชีวิตคือธรรมะ และธรรมะก็คือชีวิตที่ตั้งอยู่ในความธรรมดาที่เกิดขึ้นกับเราทุกคน พ่อกำลังบอกเราว่า จงดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท ทำให้ดีที่สุดในวันนี้ จะไม่ต้องติดค้างเสียใจในภายหลัง 10. แม้วันนี้พ่อจะไม่อยู่ แต่ขอให้ชาวไทยจงวางใจว่า สถานที่ที่ท่านเดินทางไปนั้น น่าอยู่และงดงามกว่านี้หลายเท่า ท่านคือพระโพธิสัตว์ผู้ผ่านมาสร้างแสงสว่าง การเกิดของท่านในชาตินี้เป็นการเกิดที่สมศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ และเราทั้งหลายควรภูมิใจไปกับท่าน ท่านคงไม่อยากให้เราคนไทยถูกทับถมด้วยทะเลแห่งความเศร้า อย่าทิ้งหน้าที่ อย่าทิ้งการงาน และสิ่งต่างๆ ที่รับผิดชอบอยู่ จงตั้งสติให้มั่นคง เป็นกำลังสมาธิ เป็นความสว่างเบิกบาน เพื่อน้อมส่งท่านสู่สวรรค์คาลัย ด้วยหัวใจแห่งความรักของเราชาวไทยทุกคน… อ่านจบ อดไม่ได้ที่จะแชร์ต่อ เพราะเป็นประโยชน์มากๆ ควรจดจำให้ขึ้นใจ..ทิ้งไม่ได้แม้แต่ข้อเดียว..เลยคัดลอกมาให้ทุกท่านได้อ่านด้วยกัน นะคะ.. เขียนด้วยความรัก สำนึก และบูชาตลอดไป อ่านแล้วน้ำตาไหล 😭 😭โควิด 2019วัคซีนโควิดผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยนศ.หนุ่มวัย 19 เป็นลมหมดสติกะทันหัน พอผลการวินิฉัยของคุณหมอออกมา ทุกคนตกใจจนเข่าแทบทรุด เว็บไซต์ต่างประเทศ ได้รายงานว่าในช่วงเช้าของวันหนึ่ง มีนักศึกษาหนุ่มหลายคนพาเพื่อนอายุ 19 ปี ที่เป็นลมหมดสติกะทันหัน มาที่โรงพยาบาล พวกเขาตะโกนเรียกหมอว่า “คุณหมอครับ ช่วยเขาที เขาเป็นลมหมดสติกะทันหันครับ” หลังจากถามอาการของคนไข้จากเพื่อน ๆอที่พามาส่งก็พบว่า คนไข้มีอาการขาซ้ายปวดและบวมในตอนตื่นนอน เพื่อน ๆที่นอนในห้องเดียวกันต่างคิดว่า เป็นเพราะเขาเหนื่อยและนอนหลับไม่ดี จึงมีอาการดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากทุกคนแต่งตัวเสร็จ และกำลังจะไปกินอาหารเช้าก็พบว่าเขายังไม่ได้ลุกจากที่นอน และได้ยินเขาบอกว่าเขาปวดขาซ้ายมาก ๆ ให้ทุกคนช่วยส่งเขาไปโรงพยาบาลหน่อย และในระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาก็เป็นลมหมดสติไปทันที หมอตรวจพบว่าเขาเป็นโรคหลอดเลือดดำอุดตันอโรคหลอดเลือดดำอุดตัน เกิดจากลิ่มเลือดแข็งตัวในหลอดเลือดดำ อาการนี้พบมากในบริเวณขาซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหรือบวมของขาข้างนั้น ๆ ตั้งแต่น่องจนมาถึงต้นขาได้ เพื่อน ๆ ของเขาฟังแล้วรู้สึกตกใจ จึงรีบถามหมอว่า เหตุใดเขาถึงได้เป็นโรคนี้ หมออธิบายว่า สาเหตุก็เพราะว่า เขานั่งนานเกินไป การนั่งนาน ๆ นั้นจะทำให้กล้ามเนื้อไม่ได้ขยับติดต่อกันเป็นเวลานานและเลือดไม่สามารถไหลเวียนออกจากขาขึ้นมาสู่หัวใจได้ ทำให้เส้นเลือดดำในขาและเท้าเกิดการอุดตัน นักศึกษาคนนี้ชื่อ เซียว เขาติดเล่นเกม นั่งเล่นแทบไม่ขยับไปไหน ทุกคืนต้องเล่นยันตีสองตีสาม ถึงจะยอมไปนอน ส่วนสาเหตุที่เขาเป็นลมหมดสติ หมออธิบายว่า การที่เขานั่งเล่นเกมนาน ๆ ทำให้เป็นโรคหลอดเลือดดำอุดตัน และมีอาการหายใจไม่ออก สุดท้ายก็เป็นลมหมดสติไป พอหมออธิบายเสร็จ เพื่อนคนหนึ่งที่พามาส่งก็ต้องตกกะใจว่า “ผมเองก็ติดเล่นเกมเช่นกัน หลังจากนี้ไปคงไม่กล้านั่งเล่นนาน ๆ แบบนี้อีกแล้วล่ะ ภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน เป็นภาวะที่เป็นอันตราย มันสามารถหลุดไปยังบริเวณปอด ทำให้เกิดภาวะ ลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิต อาการของลิ่มเลือดอุดตันในปอด คืออาการหายใจไม่สะดวกเฉียบพลัน แน่นหน้าอกและเจ็บหน้าอกเป็นต้น การนั่งอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ เช่นการเดินทางบนเครื่องบิน หรือบนรถ สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ หมออธิบายต่อว่า ผู้ป่วยที่เป็นโรคลิ่มเลือดอุดตันในปอด มี 90% เกิดจากภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน และมีผู้ป่วย 80% เป็นโรคลิ่มเลือดอุดตันในปอด โดยจะเริ่มจากไม่มีอาการอะไรเลย โดยประมาณ 25% ของโรคลิ่มเลือดอุดตันในปอด พบว่ามีการเสียชีวิตเฉียบพลันก่อนที่จะได้รับการวินิจฉัย ลิ่มเลือดอุดตันในปอด เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ต้องระวังให้มากที่สุด เกิดจากลิ่มเลือดกระจายไปอุดตันที่เส้นเลือดในปอดซึ่งส่วนมากมาจากเส้นเลือดดำที่ขา ภาวะนี้อันตรายถึงชีวิต ถ้าไม่ได้รับการรักษา โชคดีที่เพื่อน ๆ ส่งตัว เซียว มาโรงพยาบาลทันเวลา หลังจากได้รับการรักษาเขาก็เริ่มฟื้นตัว พอรู้อาการของตัวเองเข้า เขาถึงกับต้องตะลึงจนพูดซ้ำ ๆ ว่า “แม่เจ้า เกือบไปแล้ว หลังจากนี้ไปผมคงไม่กล้านั่งนาน ๆ อีก และก็ไม่กล้าเล่นเกมดึกอีกแล้ว” หมอแนะนำว่า ไม่ว่าจะทำงานหรือเรียน ควรหาเวลาพักผ่อน และออกกำลังกายด้วย จะได้มีสุขภาพที่แข็งแรง แต่สำหรับคนที่ต้องนั่งนาน ๆ ควรลุกขึ้นยืนและเดินทุก ๆ 2 ชั่วโมง ดื่มน้ำมาก ๆ ไม่ควรนั่งนานเกินไปและไม่ควรให้ร่างกายขาดน้ำ เพราะจะทำให้เลือดอุดตันได้ นอกจากนี้แล้วการนั่งนาน ๆ อาจจะส่งผลทำให้เกิดโรคพวกนี้ได้ : 1. การนั่งนานเกินไปจะทำให้เจ็บสะโพก โดยมีอาการตึงและขยับไม่ค่อยได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อหดและตึงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การเคลื่อนไหวสะโพกลำบากนี่เองที่เป็นสาเหตุสำคัญ ทำให้ผู้สูงอายุ ล้มได้ง่าย 2. เมื่อร่างกายอยู่นิ่งเป็นเวลานาน ๆ เลือดและออกซิเจนจะไหลเวียนผ่านสมองน้อยลง ส่งผลให้สมองทำงานช้าลง คนที่นั่งนาน ๆ จึงรู้สึกสมองตื้อ เฉื่อยชา เหนื่อยล้านอนไม่หลับ ความจำเสื่อม 3. การนั่งนานเกินไปทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง ก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่นท้องผูก จุกแน่น แสบร้อนหน้าอก ท้องอืดหรืออาจทำให้น้ำ หนักตัวเพิ่มขึ้นได้ 4. การนั่งจะสร้างแรงกดที่กระดูกสันหลัง มากกว่าการยืน และสุขภาพแผ่นหลังจะยิ่งแย่ หากคุณนั่งหลังค่อมหน้าคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ 5. การนั่งนาน ๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งที่ลำไส้ใหญ่ เต้านม และเยื่อบุโพรงมดลูก แม้กระบวนการเกิดยังไม่ทราบแน่ชัด ซึ่งอาจเกิดจากตับอ่อนผลิตอินซูลินมากเกินไป และไปกระตุ้นให้เซลล์เจริญเติบโต แต่ข้อเท็จจริง ก็คือ การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ จะกระตุ้นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ให้คอยกำจัดอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดเซลล์มะเร็ง ขอบคุณ:http://www.liekr.com/post_159433.htmlาไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยน้ำประปาสามารถดื่มได้หรือไม่?ในทุกวันนี้มนุษย์เราต้องการดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม อย่างไรก็ดี การซื้อน้ำดื่มมาบริโภคก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายจำนวนมากในแต่ละเดือน จนทำให้ใครหลายคนเริ่มหาวิธีนำน้ำประปามาบริโภค แล้วปัจจุบันน้ำประปายังสะอาดและสามารถดื่มได้หรือไม่ (แหล่งข้อมูลจาก https://wells.co.th/is-tap-water-safe/) (https://uu.co.th/th/article/blog/is-tap-water-safe-to-drink#precautions-when-drinking-tap-water) จากการสัมภาษณ์ คุณคงกฤษ นาแซง ตำแหน่งนายช่างเครื่องกล6 การประปาส่วนภูมิภาคสาขามหาสารคาม ได้ข้อมูลว่า น้ำประปาสามารถดื่มได้ เนื่องจากได้รับการรับรองจะกรมอนามัยตามโครงการ “น้ำประปาดื่มได้” มีคุณภาพน้ำประปาตามเกณฑ์คุณภาพน้ำบริโภค ซึ่งก็จะมีการออกตรวจสอบน้ำตามชุมชนตามบ้านผู้ใช้น้ำ โดยมีหน่วยงานผลิต หน่วยงานของนักวิทยาศาสตร์ และกรมอนามัย อีกทั้งยังมีการผลิตน้ำประปาที่ได้มาตรฐานตามขั้นตอนการผลิตตั้งแต่การสูบน้ำดิบจากแหล่งน้ำ การเติมสารเคมีฆ่าเชื้อโรค การตกตะกอนของน้ำ การกรอง ไปจนถึงการสูบน้ำเพื่อส่งไปยังบ้านผู้ใช้น้ำ อีกทั้งยังมีการเฝ้าระวังตรวจสอบน้ำทุก ๆวันในแต่ละชุมชนซึ่งจะตรวจสอบค่าของคลอรีนที่ควบคุมไว้อยู่ที่ 0.2 มิลลิกรัม หากต่ำกว่า 0.2 มิลลิกรัมประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคก็จะลดลงนั่นเอง ทั้งนี้ ก่อนนำน้ำประปาจากก๊อกมาดื่มจึงควรระวังเรื่องความสะอาด และความปลอดภัยของน้ำประปาก่อนเสมอ แต่เพื่อความสบายใจว่าเมื่อดื่มน้ำประปาไปแล้วจะไม่ส่งผลต่อสุขภาพ ก็ควรติดตั้งเครื่องกรองน้ำขนาดเล็กเอาไว้อีกขั้นก็ได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าน้ำประปาที่ผ่านระบบการกรองน้ำประปามาแล้วจะมีความสะอาด ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของมนุษย์อยู่ดี ไม่ว่าจะนำไปต้มดื่ม ผ่านความร้อน หรือวิธีการใด ๆ ก็ตาม แต่หากต้องการดื่มน้ำประปาได้อย่างปลอดภัย การติดตั้งเครื่องกรองน้ำไว้ในบ้านจึงถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก เพราะเครื่องกรองน้ำจะช่วยกรองน้ำประปาอีกครั้ง ทำให้น้ำสะอาดมากขึ้นจนอยู่ในระดับมาตรฐาน ที่จะสามารถนำมาใช้ดื่มได้อย่างปลอดภัยต่อร่างกาย แหล่งข้อมูลจาก(https://www.taksak.co.th/can-drink-tap-water/)สุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังChennarong Yongmong• 1 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ