2435 ข้อความ
- 1 คนสงสัย10 จุดสังเกต สร้างภูมิคุ้มกันรู้ทันข่าวปลอมวันนี้ (6 มี.ค.2566) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลห่วงใยประชาชนถูกมิจฉาชีพหลอก ถึงแม้จะมีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา แต่มิจฉาชีพได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบกลโกง ให้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ทำให้ยังมีประชาชนตกเป็นเหยื่อสูญเสียเงินให้กับมิจฉาชีพ ซึ่งจากรายงานของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่า 70% ของข่าวสารที่แพร่กระจายบนโซเชียลมีเดีย คือ ข่าวปลอม น.ส.รัชดา กล่าวว่า เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนได้รู้ทันข่าวปลอมผ่านสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะบนเฟซบุ๊ก ทางกระทรวงดิจิทัลฯ จึงแนะนำให้ประชาชนสังเกตจุดสำคัญ 10 ข้อ ที่มีลักษณะเป็น "ข่าวปลอม"std46629• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยลักษณะข่าวลวงเรื่องกัญชารักษามะเร็งในอเมริกาShi S และคณะได้ตีพิมพ์งานวิจัยเพื่อประเมินแนวโน้มการแพร่กระจายข่าวลวงเรื่องกัญชารักษามะเร็ง ในวารสารวิชาการทางการแพทย์ Cureus เดือนมกราคม 2019 เค้าวิเคราะห์โดยอาศัยข้อมูลเกี่ยวกับการค้นหาข้อมูลโดยใช้ Google trends ตั้งแต่ปี 2011-2018 ในประเทศสหรัฐอเมริกาstd47848• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยลักษณะข่าวลวงเรื่องกัญชารักษามะเร็งในอเมริกาShi S และคณะได้ตีพิมพ์งานวิจัยเพื่อประเมินแนวโน้มการแพร่กระจายข่าวลวงเรื่องกัญชารักษามะเร็ง ในวารสารวิชาการทางการแพทย์ Cureus เดือนมกราคม 2019 เค้าวิเคราะห์โดยอาศัยข้อมูลเกี่ยวกับการค้นหาข้อมูลโดยใช้ Google trends ตั้งแต่ปี 2011-2018 ในประเทศสหรัฐอเมริกา พบสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างทีเดียวมะเร็งWorsorkubpom• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเพื่อนเหลี่ยมหลายคนอาจเคยเจอหรือมีประสบการณ์ “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” หรือ Frenemy กันมาบ้างแล้ว โดยมาจากคำว่า Friend ที่แปลว่าเพื่อน มาผสมกับคำว่า Enemy ที่แปลว่าศัตรู จึงกลายเป็นเพื่อนรักเพื่อนร้ายที่อยู่ข้างกายแบบไม่รู้ตัว หากเทียบเป็นสุภาษิตคำพังเพยไทยๆ ที่เราคุ้นเคย ก็คงเทียบได้กับคำว่า เพื่อนเราเผาเรือน, เกลือเป็นหนอน, คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ ซึ่งฟังแล้วเห็นภาพและเข้าใจได้ชัดเจนว่าเพื่อนรักในร่างงูพิษมีลักษณะเป็นอย่างไรstd46461• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยเเห่จับตาลิซ่ากับหนุ่มมีความเกี่ยวข้องพัคโบกอม" ศิลปินหนุ่มหล่อ ดาเมจแรงเวอร์ ที่สาวๆ กรี๊ดคนนี้ หลังจากที่ทั้งคู่เคยปรากฏตัวพร้อมกันในงานของแบรนด์ดัง Celine และเมื่อไม่นานมานี้ เพิ่งจะมีข่าวให้จับตามองไป หลังลิซ่าเดินข้างกายหนุ่มหน้าตาคล้าย พัคโบกอมในงานคอนเสิร์ต Brono Mars จนหลายคนที่ชื่นชอบคู่นี้มีมstd46496• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยครีมเถื่อเพจดอกจิก v.6 เผยภาพขณะตำรวจ ปคบ. บุกทลายและตรวจสอบแหล่งผลิต ครีมหมีปริญญา เผย เป็นครีมเถื่อน ใส่สารปรอท และไม่ระบุเลขจดแจ้ง เตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแฟนเพจเฟซบุ๊ก ดอกจิก v.6 โพสต์ภาพขณะที่เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) บุกแหล่งครีมกวนเองในพื้นที่ จ.หนองคาย หรือผู้ผลิต “ครีมหมีปริญญา” ที่ผู้บริโภคส่วนหนึ่งหลงเชื่อซื้อมาใช้แล้วได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ ทางเพจระบุด้วยว่า ครีมหมีปริญญา เป็นครีมไม่ระบุเลขจดแจ้ง ครีมเถื่อน และใส่สารปรอท โดยช่วงที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพบอุปกรณ์กวนครีมกับถังพลาสติก และตลับบรรจุเตรียมส่งขายจำนวนมาก “ฝากถึงผู้บริโภคทุกท่านงดการซื้อขายครีมหมีปริญญาเด็ดขาดถือว่าเป็นครีมอันตราย ปรอทมีผลต่อไตอาจทำให้ไตพิการได้ นอกจากนั้นผู้ใช้ยังต้องเสี่ยงหน้าแหก”std47663• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปวดข้อผลิตภัณฑ์ WELLGO บรรเทาอาการปวดข้อ ช่วยลดอาการอักเสบstd48467• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเตือนฟันผุ อย่าปล่อยไว้ ยกเคสคนไข้ลามติดเชื้อ เจอหนองในช่องเยื่อหุ้มปอดเพียบ !วันที่ 26 กันยายน 2565 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ผ่านทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC เตือนอันตรายที่ตามมาจากอาการฟันผุ เพราะอาจเกิดการติดเชื้อในรากฟัน ส่งผลให้เกิดหนองในช่องเยื่อหุ้มปอด (Empyema Thoracis) ได้Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกัญชารักษาโรคเอชไอวีได้จริงไหมค่ะสามีภรรยาติดเชื้อเอชไอวีระยะสุดท้าย รักษาแพทย์แผนปัจจุบันไม่หาย อาการทรุดหนักจนญาติทำใจ กระทั่งได้ลองใช้น้ำมันกัญชาหยอด ไม่ถึงเดือนอาการฟื้นตัวขึ้นอย่างน่าประหลาดใจปัจจุบันได้ใช้มาถึง 24 วัน สามารถลุกขึ้นนั่งพูดคุยโต้ตอบเริ่มช่วยเหลือตัวเองได้แล้วยาสมุนไพรkulanit1363• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยน้ำมันกัญชาชุบชีวิตน้ำมันกัญชาชุบชีวิต ผัวเมียติดเชื้อเอชไอวี หลังใช้ 24 วัน อาการฟื้นน่าอัศจรรย์ยาสมุนไพรKingTVz456za• 3 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอบรมวิสาหกิจแม่โจ้จัดอบรมสมาชิกวิสาหกิจชุมชนด้านวิชาชีพวันละ 500 บาท ข้อมูลนี้มีความจริงหรือไม่Loet Chaikham• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยนักวิทย์พบโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ซุ่มเงียบในญี่ปุ่น สามารถแพร่สู่มนุษย์ จริงหรือนักวิทย์พบโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ซุ่มเงียบในญี่ปุ่น สามารถแพร่สู่มนุษย์Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยด่วน! กสทช. สั่งยกเลิกสถานีวิทยุชุมชนทั่วประเทศ มีผลวันที่ 3 เมษายน 2565 https://www.chorsaard.or.th/content/45945/กสทช-สั่งยกเลิกไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttp://qacqupvrweu.iqq0be.cn/a1bfQFhlRgEBV2dUUyY3fFdpQlxgUmAfUHFlUgVGBy4yBFUuWRwdSAAsVg?xghไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: false1 ความเห็น
- 4 คนสงสัยhong• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยระวัง! ดื่มน้ำแก้วเดียวกันเสี่ยงติดโควิด 19ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ แถลงพบผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มอีก 1 คน เป็นหญิงวัย 25 ปี รับประทานอาหารและกินน้ำแก้วเดียวกันกับเพื่อนชาว จ.หนองคาย ซึ่งเป็นป่วยผู้ยืนยัน COVID-19โควิด 2019naruemonjoy• 5 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยการป้องกันโรคฝีดาษลิงการให้วัคซีนเพื่อป้องกันโรคฝีดาษน่าจะสามารถลดโอกาสติดเชื้อที่นำไปสู่โรคฝีดาษลิงในมนุษย์ได้ เนื่องจากไวรัสสองชนิดนี้มีความใกล้เคียงกันมาก และยังสามารถป้องกันสัตว์ทดลองไม่ให้ติดเชื้อนี้แล้วมีอาการรุนแรงจนเสียชีวิตได้[13] ทั้งนี้ที่ผ่านมายังไม่มีการทดลองต่อยอดเพื่อยืนยันสมมติฐานนี้ในมนุษย์ เนื่องจากเมื่อโรคฝีดาษถูกกำจัดหมดไปจากโลก การให้วัคซีนฝีดาษเป็นการทั่วไปก็ยุติลงตามไปด้วยpocky18b• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยการรักษาโรคฝีดาษลิงในสหภาพยุโรปและสหรัฐได้อนุมัติให้ใช้ยา tecovirimat ในการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสในกลุ่มพ็อกซ์ไวรัสหลายชนิด รวมไปถึงฝีดาษลิงด้วย[28] วารสาร BMJ Best Practice แนะนำให้ใช้ tecovirimat หรือ brincidofovir ซึ่งเป็นยารักษาโรคฝีดาษ เป็นยาลำดับแรกในการรักษาผู้ป่วยฝีดาษลิง ควบคู่ไปกับการรักษาประคับประคองต่างๆ ได้แก่ ยาลดไข้ การให้สารน้ำ และการให้ออกซิเจนตามความจำเป็น ยาต้านแบคทีเรียหรือยาต้านไวรัสอื่นอย่างอะไซโคลเวียร์อาจนำมาใช้ได้หากสงสัยว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนหรืออยู่ระหว่างการแยกจากการติดเชื้อไวรัสอีสุกอีใสpocky18b• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปลุกเสกลูกเทพที่ดังรวมสถานที่คนที่ปลุกเสกลูกเทพเข้มขลังเสียดสีstd47926• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยhttps://www.bbc.com/thai/thailand-60676759ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยศบค. กำลัง misinformation ประชาชน กรณี วัคซีน Sinovac หรือไม่การที่เพจ ศบค./ไทยรู้สู้โควิด โพสต์ข่าว WHO รับรอง Sinovac ให้ใช้ฉุกเฉินได้ แต่กลับไปอ้างตัวเลข % ประสิทธิภาพที่ไม่มีอยู่ในต้นทางดังกล่าวมาโพสต์ (แถมแคปภาพให้ไม่ติด ตัวเลขประสิทธิภาพ 51% ในเอกสาร) ถือว่าเป็น misinformation แบบหนึ่งหรือไม่ ?วัคซีนโควิดWhee Pongpiphat• 4 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--start4 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอาการ ตาแดง อาจบ่งบอกว่าติดเชื้อโควิด 19 จริงหรือ??มีข้อมูลใหม่กล่าวว่า ไวรัสโควิด-19 สามารถเพาะเชื้อได้ในดวงตานานหลายสัปดาห์ หลังพบผู้ป่วยหญิง วัย 65 ปี ที่กลับจากการท่องเที่ยว เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อ 23 มกราคม 63 เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลด้วยอาการตาแดง ติดเชื้อที่ดวงตา ไอแห้ง เจ็บคอ คัดจมูก ไม่มีอาการไข้ แต่ผ่านไป 3 วันหลัง ดวงตาของเธอยังแดง ทีมแพทย์ตรวจหาเชื้อจากของเหลวของดวงตา และพบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุให้ป่วยโควิด-19 เข้ารับการรักษาของเหลวจากดวงตาได้ 21 วัน ไม่ปรากฏเชื้อไวรัส แต่ 5 วันต่อมา เชื้อไวรัสกลับปรากฏขึ้นอีกครั้งโควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยน้ำเชื่อมข้าวโพด (High Fructose Corn Syrup: HFCS) ความหวานอันตราย ที่อยู่ในขนมและเครื่องดื่มแทบทุกชนิด 🌽 . น้ำตาล คือความหวานที่มากับอันตราย ทั้งสะสมเป็นไขมัน ทำให้เกิดโรคอ้วนและเบาหวาน ก่อให้เกิดการเสพติดเหมือนยา เราเน้นย้ำเรื่องอันตรายของน้ำตาลมาตลอด แต่แม้น้ำตาลจะเป็นของเสียสุขภาพ แต่จะให้ไม่กินเลยก็คงเลี่ยงลำบาก อย่างน้อยที่สุดเราก็ควรู้จักน้ำตาลที่ควรเลี่ยงที่สุด แล้วน้ำตาลแบบไหนที่อันตรายที่สุดกันล่ะ วันนี้เรามีคำตอบค่ะ . น้ำตาลที่ดี คือน้ำตาลที่ผ่านกระบวนการแปรรูปน้อยที่สุดค่ะ เช่น ความหวานจากผลไม้ น้ำผึ้ง อ้อย ความหวานในข้าวหรือมันหวาน หรือความหวานจากพืชที่พบได้ในนมหรือหญ้าหวานค่ะ ยิ่งน้ำตาลชนิดนั้นผ่านกระบวนการแปรรูปมากเท่าไหร่ อันตรายก็จะยิ่งสูงขึ้น และความหวานที่ผ่านกระบวนการแปรรูปมากที่สุดก็คือ HFCS (high fructose corn syrup) หรือน้ำเชื่อมข้าวโพดนั่นเอง . น้ำเชื่อมข้าวโพด (HFCS) เกิดจากการนำเอาน้ำตาลฟรุกโตสและน้ำตาลกลูโคสผสมกันแล้วแต่สัดส่วนที่ผู้ผลิตต้องการ ผ่านกระบวนการเพิ่มความเข้นข้นจนได้ความหวานมากกว่าน้ำตาลปกติถึง 2 เท่า เป็นประโยชน์กับอุตสาหกรรมอาหาร ช่วยลดต้นทุนได้มาก แต่เป็นอันตรายกับสุขภาพผู้บริโภคอย่างเราๆ มากค่ะ . เกิดภาวะดื้ออินซูลินได้ง่าย สาเหตุของโรคเบาหวานอันดับหนึ่ง . กินเยอะขึ้น เพราะ HFCS ไม่สามารถกระตุ้นฮอร์โมนเกรลิน หรือฮอร์โมนแห่งความอิ่มได้ เพราะแบบนี้ เวลาเราดื่มเครื่องดื่มที่มี HFCS จึงทำให้เราดื่มได้อีกเรื่อยๆ ไม่รู้สึกพอค่ะ . ภาวะไขมันพอกตับ เวลาที่เราทานน้ำตาลมากไป ร่างกายจะเก็บน้ำตาลที่ไม่ถูกใช้เป็นพลังงานในรูปไขมันที่ตับ เจ้า HFCS ร้ายกว่านั้นค่ะ เพราะร่างกายเราไม่สามารถย่อย HFCS เป็นพลังงานได้ แต่จะส่งตรงไปเก็บเป็นไขมันเลย เรียกได้ว่าเพิ่มเสี่ยงให้ตับพังพอๆ กับคนติดแอลกอฮอล์เลยค่ะ . เพิ่มเสี่ยงโรคหัวใจและมะเร็ง งานวิจัยหลายชิ้นพบว่าปริมาณ HFCS ที่ทานมีความสัมพันธ์กับการเกิดของโรคหัวใจและมะเร็งอย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ HFCS มีผลให้ร่างกายเกิดการอักเสบภายในได้มากค่ะ . ‼️แม้ HFCS จะได้ชื่อว่าเป็นน้ำเชื่อม แต่ใช่ว่ามันจะมีอยู่แต่ในเครื่องดื่มเท่านั้นนะคะ มันซ่อนตัวอยู่ในอาหารได้แทบทุกชนิด ทั้งยังมีอีกหลายชื่อด้วย เรามีวิธีสังเกตและหลีกเลี่ยง HFCS มาเป็นแนวทางให้ดังนี้ค่ะ . สังเกตส่วนประกอบบนฉลาก อาหารที่มี HFCS อาจถูกระบุบนฉลากในชื่ออื่นๆ ได้ตามส่วนประกอบและวิธีผลิต เช่น corn sugar, maize syrup, glucose/fructose syrup, isolated fructose, crystalline fructose, isoglucose, น้ำเชื่อมข้าวโพด, ไซรัปข้าวโพด, น้ำเชื่อมกลูโคส, น้ำเชื่อมฟรุคโตส, แบะแซ, ผลึกฟรุคโตส, ฟรุคโตสก้อน, ไอโซกลูโคส เป็นต้นค่ะ . อย่าเชื่อคำโฆษณาบรรจุภัณฑ์ หลายครั้งเครื่องดื่มและอาหารในซุปเปอร์มักจะติดคำว่า “น้ำตาล 0%” หรือ “sugar free” อย่าหลงเชื่อเด็ดขาดค่ะ ให้อ่านที่ส่วนผสมอีกที หาคำที่บ่งบอกว่ามี HFCS ดูค่ะ . ระวังอาหารที่มักใส่ HFCS ทานให้น้อยที่สุด เช่น น้ำสลัดสำเร็จรูป อาหารแปรรูป ขนมถุง ซีเรียล น้ำผลไม้กล่อง น้ำหวาน ครีมเทียม เครื่องดื่มชูกำลัง แยม ไอศกรีม . หัดทำอาหารทานเอง นี่คือวิธีหลีกเลี่ยง HFCS ที่ดีที่สุดค่ะ เพราะคงไม่มีใครอยากเติมของปนเปื้อนอันตรายลงในอาหารตัวเองให้สุขภาพเสียอยู่แล้ว เลือกใช้น้ำตาลที่ผ่านกระบวนการน้อยๆ มาใช้ปรุงอาหารและเครื่องดื่มกันค่ะ . เห็นไหมคะว่า HFCS นั่นอันตรายขนาดไหน นอกจากจะทำคุณติดความหวานได้ง่าย ให้เกิดโรคร้าย เพิ่มเสี่ยงโรคหัวใจ มันยังไม่มีสารอาหารและใช้เป็นพลังงานไม่ได้ด้วย HFCS กลายเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของโรคเบาหวานและโรคอ้วนทั่วโลก เพียงคุณตัดน้ำตาล HFCS ออกจากชีวิตได้สักอย่าง ความเสี่ยงโรคต่างๆ ของคุณก็จะลดลงได้มากเลยค่ะสุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยศาลสั่งลงโทษผู้ขายของออนไลน์ ที่คดโกงผู้ซื้อสินค้าอย่างสาสม เพื่อนเป็นผู้พิพากษาส่งให้เพื่อน(ในกลุ่ม) อ่านแล้ว เห็นว่าเป็นประโยชน์เลยส่งต่อ มีสาระประโยชน์มากดังนี้... .......................... ผมไม่ค่อยมีเวลา จึงชอบซื้อของทางเน็ต เป็นอย่างนี้ตั้งแต่ในไทยยังไม่มีการขายของทางเน็ต ได้แต่ซื้อใน eBay มาสิบกว่าปีก่อน ตอนนี้ไทยเรามีการขายของทางเน็ตกันเพียบ ผมก็ซื้อตามปกติ และไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย จนกระทั่งได้ไปซื้อของจากค่ายดังของเยอรมัน บริษัท ล. โฆษณาในทีวีน่าเชื่อถือ ในครั้งสุดท้ายที่ซื้อ ปรากฏว่าสั่งของ ๒ ชิ้น ๆ ละ ๙๐๐ บาท พอมาส่งเราก็จ่ายเงินไป ๑,๘๐๐ บาทเลยเมื่อรับพัสดุ แต่เปิดกล่องดูมีของแค่ชิ้นเดียว แถมใบส่งของเป็นคนอื่น แต่ของอย่างเดียวกัน ผมก็ถ่ายรูปของในกล่อง พร้อม Delivery Note ส่งให้เจ้าหน้าที่ดู เจ้าหน้าที่รับปากว่าจะติดต่อในทันที....เงียบหายไปสามวัน มีคนจากบริษัทอะไรไม่รู้โทรมาสอบถาม ผมก็เล่าเรื่องแล้วก็...เงียบ หายไปอีก ๑๐ วัน ก็มีเจ้าหน้าที่ บริษัท ล. โทรมาแล้วก็...เงียบ หายไปอีก ๕ วัน ก็มีเจ้าหน้าที่โทรมาอีก ผมเลยบอกว่า "ผมเป็นผู้บริโภคที่ดี จ่ายเงินก่อนเห็นสินค้า (ตามกฎของคุณ) คุณได้เงินผมไปแล้วแต่สินค้าผมได้ไม่ครบ เพราะคุณส่งผิด เวลาผ่านเป็นเดือนยังไม่เรียบร้อย แค่ส่งของให้ผมอีกชิ้นมันยากหรือครับ ความผิดของคุณทำไมผมต้องมารับกรรมนั้นด้วย ผมให้เวลา ๗ วัน เกินจากนั้นไปเจอกันในศาล" เจ้าหน้าที่ก็วางสายไปอย่างไม่พอใจ เพราะได้ยินเสียงแข็ง ๆ ของผมที่เริ่มมีอารมณ์ เย็นวันที่ ๗ ผมก็นั่งพิมพ์ภาพที่ถ่ายส่งให้ดูตอนเปิดกล่อง หลักฐานอย่างอื่นไม่มีอะไรเลย เช้าวันรุ่งขึ้นผมเดินไปศาลแขวงในเขตที่ผมสั่งซื้อของทางอินเตอร์เน็ต ศาลที่มีเขตอำนาจเหนือบ้านผมนั่นเอง เพื่อให้เจ้าพนักงานศาลช่วยจัดการให้ เริ่มเข้าสาระครับ กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคบัญญัติให้ต้องมีเจ้าพนักงานศาล ทำหน้าที่ร่างฟ้องให้ผู้บริโภคเรียกกันว่า "เจ้าพนักงานคดี" ช่วยค้นหาหลักฐานทางทะเบียนของจำเลยให้ กรณีนี้คือหนังสือรับรองบริษัท ศาลจะนัดเร็วครับ ประมาณ ๓๐ วันได้เจอกัน ไม่เสียค่าธรรมเนียม ไม่ยุ่งยากอะไรเลย เพราะกฎหมายนี้สร้างเพื่อคุ้มครองใครครับ....แน่นอน ผู้บริโภค เจ้าพนักงานศาลร่างคำฟ้องให้ผมเสร็จเรียบร้อยโดยไม่ต้องมีทนายความ ให้ผมลงชื่อในเอกสารหลายอย่าง แล้วพาไปยื่นที่เคาเตอร์รับฟ้อง ได้วันนัดเป็นอันเสร็จเรียบร้อย หลังจากได้รับคำฟ้องผมแล้ว บริษัท ล. โทรหาบอกจะคืนเงิน ๙๐๐ บาท ผมบอกว่าตอนนี้จะตกลงอะไรให้ไปคุยกันในศาล เลยได้ส่งอีเมล์ให้ผม บอกว่าได้รับของที่ผมส่งคืนแล้ว ๒ ชิ้น ผมก็เริ่มฉุนเล็กน้อย จะเอามาเป็นทริกในคดีหรือเปล่าว่าผมคืนของเอง ไว้เจอกัน ส่งสองสามครั้ง แถมส่งข้อความมือถืออีกต่างหาก ทีอย่างนี้ดำเนินการรวดเร็วฉับไวในทันที ในวันศาลนัด ทางบริษัท ล. เตรียมทนายความที่จ้างจากนอกบริษัท ล. นิติกรของบริษัท และผู้จัดการ เตรียมเอกสารมาปึกใหญ่ ศาลถามว่าคุณไม่ส่งของใช่ไหม เขาก็ขอไกล่เกลี่ย ในห้องไกล่เกลี่ย ผู้จัดการก็ขอโทษ ทนายเริ่มรู้ว่าผมต้องการเดินไปตรงจุดไหน ทนายความในและนอกห้องพิจารณาก็ทักทายยกมือไหว้ เรียกท่าน หน้าบัลลังก์ก็รู้จัก พอรู้สถานะเราการพูดคุยก็ง่ายขึ้นเยอะ ทนายความไม่โย้เย้เรื่องมากตามสไตล์ ในที่สุดก็ยอมตามฟ้องทุกประการ จ่ายเงินคืนให้ผม ๙๐๐ บาท พร้อมค่าเสียเวลาค่าโมโหอีก ๒๐,๐๐๐ บาท หลังจากทำสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว ๑๕ วัน และแถมคูปองลดราคามาอีก ๑,๐๐๐ บาท ผมก็เอาเงินที่ได้ไปทำบุญ อยากให้รู้ว่า..... กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคนั้น บัญญัติไว้สำหรับผู้บริโภค 1.ไม่ต้องมีทนายความ 2.ไม่ต้องหาหลักฐานของฝ่ายผู้ประกอบธุรกิจ 3.มีเจ้าพนักงานศาลร่างคำฟ้องให้เรียบร้อย 4.แถมหากต้องสืบพยาน ศาลถามให้เลย ไม่ต้องรู้อะไรมากครับ แค่รู้ว่าเราเสียหาย เสียเปรียบอย่างไร 5.คุ้มครองไม่ว่าเรื่องการซื้อขาย การให้บริการ สินค้าไม่ดี ไม่มีคุณภาพ ส่งของไม่ครบ สินค้ามีปัญหากับเนื้อตัวร่างกาย เรียกว่าได้หมด 6.แถมหน้าที่นำสืบตามที่เราฟ้องตกกับฝ่ายผู้ประกอบธุรกิจ 7.ที่สำคัญไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม และค่าส่งหมายเลย สรุปง่าย ๆ ไม่เสียเลยสักบาทก็แล้วกัน คนไทยยังรู้เรื่องนี้น้อย แถมยังยอมเสียเปรียบอย่างไม่น่าเชื่ออีกจำนวนมาก หากเราโดนกระทำและเสียหาย การนิ่งเฉย คือการทำลายระบบ เพราะเราไม่ต่อต้านผู้ไม่สุจริต กลับสนับสนุนให้เขาเหิมเกริมกล้าปฏิบัติแย่ๆ กับลูกค้าอีกนับจำนวนไม่ถ้วน การกระทำของผมในครั้งนี้ ไม่ได้ทำเพื่อเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท แต่ทำให้เขาไม่กล้าไปปฏิบัติแย่ ๆ กับประชาชนอีกจำนวนมาก นั่นคือสิ่งที่ผมชนะ .หวังว่าจะเป็นประโยชน์ครับ.ผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย📍พาราเซตามอล ยาพิษสามัญประจำบ้าน Paracetamol Common Household Poisonous Medicine คนไทยเกือบทุกคน รู้จักยาแก้ปวดลดไข้ ชื่อ พาราเซตามอล และเข้าใจว่า เป็นยาที่ใช้รักษาโรคได้ เพราะเวลามีไข้ กินแล้วไข้หาย พอมีไข้อีกก็กินอีก จนกลายเป็นความเชื่อว่า เวลามีไข้ต้องกินยาพาราเซตามอล ปัญหาที่คนไทยไม่รู้ก็คือ ยาพาราเซตามอล มีไว้แค่บรรเทาอาการ ไม่ได้ช่วยให้โรคหาย และยังเป็นยาที่มีอันตราย แม้กินเพียงไม่กี่เม็ด ก็อาจก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อตับ และไตได้อย่างรุนแรง ขนาดสูงสุดของ ยาพาราเซตามอล ที่เคยเป็นที่ยอมรับ คือไม่เกิน 2000- 3000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับ พาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม 4-6 เม็ด เนื่องจากเป็นยาที่มีฤทธิ์อ่อน คนส่วนใหญ่ จึงนิยมกินพาราเซตามอลครั้งละสองเม็ด และความที่เป็นยาออกฤทธิ์สั้น จำเป็นต้องกินกันบ่อย ๆ ทุก 4-6 ชั่วโมง ทำให้มีโอกาสที่คนไข้จะได้รับยาในขนาดที่เป็นพิษได้สูง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีรายงานต่อเนื่อง ถึงการรับประทานยาพาราเซตามอล ในขนาดที่เข้าใจว่าปลอดภัย แต่ลงเอยด้วยการที่ผู้ป่วยเสียชีวิต ส่งผลให้ องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ได้สั่งยกเลิก พาราเซตามอล ในขนาด 500 มก และให้ขายเพียงขนาด 325 มก เท่านั้น ยาที่แพทย์ใช้รักษาพิษของพาราเซตามอล มีชื่อว่า N-acetyl cysteine หรือ แนค (NAC) ในประเทศไทย แนค (NAC) ได้ถูกจดทะเบียนเป็นยาละลายเสมหะ ที่มีชื่อทางการค้าว่า Fluimucil, Naclong, หรือ Flemex AC OD ขนาดที่ใช้คือ 600 มิลลิกรัม ต่อวัน เนื่องจากเป็นยาที่แทบจะไม่มีผลข้างเคียง จึงสามารถกินต่อเนื่องได้ทุกวัน แม้ในคนที่ไม่มีเสมหะก็ตาม ผู้เขียน จึงขอแนะนำให้คนทุกคน เลี่ยงการใช้ยาพาราเซตามอล โดยไม่จำเป็น ถ้ามีไข้ควรเลือกวิธีเช็ดตัวลดไข้ แต่หากจำเป็นต้องใช้ยาพารา ก็ควรกินแนค (NAC) ร่วมด้วย เวลาที่คนไข้ที่มีไข้ และมาโรงพยาบาลด้วยปัญหาตับอักเสบ แพทย์ส่วนใหญ่ จะคิดถึงแต่โรคติดเชื้อที่ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบ และไม่ได้คิดว่า ตับอักเสบนั้น อาจเป็นผลจากยาพาราเซตามอล ตัวอย่างเช่น คนที่เป็นโรคไข้เลือดออก คนไข้เหล่านี้จะมีไข้สูงตลอดวัน หลังจากการกินยาพาราเซตามอล ไข้ก็ลดลงไม่มาก สักพักไข้ก็กลับมาสูงอีก ทำให้คนไข้ต้องใช้ยาพาราเซตามอลอยู่เรื่อย ๆ โดยไม่ได้ตระหนักว่า ในคนที่เป็นโรคไข้เลือดออก และตับมีการทำงานที่บกพร่องอยู่แล้ว การใช้ยาพาราเซตามอล แม้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้เกิดภาวะตับอักเสบรุนแรงมากขึ้นถึงขั้นเสียชีวิต ผู้เขียนเคยได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยอายุ 16 ปี รายหนึ่ง ที่มาโรงพยาบาลด้วยโรคไข้เลือดออก มีระดับเอนซัยม์ตับสูงมาก (SGPT > 4000) และอยู่ในสภาพไม่รู้สึกตัว ญาติได้รับแจ้งไปว่าเด็กคงไม่รอดชีวิต หลังจากที่ผู้เขียนไปดูในตอนดึก ก็ได้สั่งการรักษาด้วยการใช้ แนค (NAC) ขนาดสูงหยดทางหลอดเลือด วันรุ่งขึ้น ระดับเอนซัยม์ตับก็ลดลงเกือบ 10 เท่า เด็กเริ่มรู้สึกตัว และกลับบ้านได้ใน 3 วันต่อมา ไม่เพียงแต่ ยาพาราเซตามอล จะมีพิษต่อตับ แต่ยังมีพิษต่อไตอีกด้วย ผู้เขียนมีคนไข้ทีมาด้วยปัญหาไตวายโดยไม่ทราบสาเหตุ พอซักประวัติก็ทราบว่า คนไข้กินพาราเซตามอลวันละ 1-2 เม็ด เกือบทุกวัน บางรายก็บอกว่า ปวดศีรษะ พอตรวจดูก็พบว่าเป็นความดันโลหิตสูง เมื่อได้ยาลดความดัน อาการปวดศีรษะก็หาย มีอยู่รายหนึ่งที่กินพาราเซตามอลทุกวัน เพราะกินแล้วไม่ปวดไม่เมื่อย ทำงานได้ดี เลยเข้าใจผิดว่าเป็นยาชูกำลัง กินได้ทุกวัน ลงท้ายก็กลายเป็นโรคไตวายเรื้อรัง ผู้เขียนเคยได้รักษาคนไข้ตั้งครรภ์ 26 สัปดาห์ ที่มาโรงพยาบาลด้วยอาการ ไม่มีปัสสาวะมา 3 วัน ซักประวัติพบว่า ผู้ป่วยมีปัญหาปวดน่องอย่างรุนแรง จึงไปคลินิก ได้ยาฉีดแก้ปวด วันละเข็มติดต่อกันสามวัน หลังจากนั้น ปัสสาวะลดลงจนกระทั่งไม่มีปัสสาวะออก ผู้เขียนจึงได้ให้ NAC ขนาดสูงเข้าทางหลอดเลือด และตามด้วยการล้างไต ภายหลังการล้างไตได้ 3 ชั่วโมง ผู้ป่วยก็เริ่มมีปัสสาวะออกมาเรื่อย ๆ จำนวนมาก และการทำงานของไตก็กลับสู่สภาพปกติ และคลอดบุตรเป็นปกติในสองเดือนถัดมา ขอย้ำว่า พาราเซตามอล ไม่ใช่ยาวิเศษ แต่เป็นยาที่มีพิษ ไม่ควรคิดว่า จะกินเท่าไรก็มีอันตราย หรือคิดว่า ทุกครั้งที่เป็นไข้ จำเป็นต้องกินยาพาราเซตามอล แนะนำว่าการเช็ดตัวลดไข้ จะปลอดภัยกว่าการใช้ยา เพราะการกินยาพาราเซตามอลพร่ำเพื่อ เพราะเข้าใจว่าช่วยให้หายจากโรค อาจส่งผลให้เราหายไปจากโลกแทนได้ครับ ดร.นพ. พัฒนา เต็งอำนวย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์โรคไตผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ