(2229 ข้อความ)
- 1 คนสงสัยเมืองทิพย์พังแล้ว อิทิพย์ แฉปม แตกหักกับแม่หญิงลี ยัน ไม่ขอร่วมงานกันอีกแม่หญิงลี หรือที่รู้จักกันในนามพระมหาเทวีเจ้า อินฟูเอนเซอร์ชื่อดัง ที่มาคู่กับอิทิพย์ คนใกล้ตัว ทั้ง2มีตำนานมากมายในอินเตอร์เน็ต ก่อนจะมีข่าวแตกหักกัน และไม่ขอร่วมงานกันอีก แต่ล่าสุด ได้กลับมาคืนดีกัน พร้อมทำงานด้วยกันต่อไปแล้วมีมล้อเลียน เสียดสีstd47893• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยระวัง!!! เว็บไซต์ปลอม เลียนแบบระบบจองคิว ของกรมการขนส่งทางบกนายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ขณะนี้ มีกลุ่มมิจฉาชีพได้ทำการสร้างเว็บไซต์ปลอมเลียนแบบระบบจองคิวของกรมการขนส่งทางบกมาหลอกลวงประชาชน โดยจะใช้ชื่อเว็บไซต์ https://dlt-license.com/login และเมื่อทำการกรอกข้อมูลเพื่อเข้าสู่ระบบฯ และกดปุ่มลงทะเบียน หรือกดปุ่มลืมรหัสผ่าน เว็บไซต์ปลอมดังกล่าวจะแสดงภาพหน้าจอเพื่อให้ทำการแอดไลน์ กรมการขนส่งทางบกขอเตือน!!! ประชาชนอย่าหลงเชื่อเข้าเว็บไซต์ปลอมดังกล่าวหรือกรอกข้อมูลส่วนบุคคลเด็ดขาดเพราะเสี่ยงถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ในทางเสียหายและอาจสูญเสียทรัพย์สิน กรมการขนส่งทางบก ย้ำ!!! หากประชาชนต้องการจองคิวทำธุรกรรมต่างๆกับกรมการขนส่งทางบก เช่น ทำใบขับขี่ใหม่ ต่อใบขับขี่ ทำใบขับขี่ระหว่างประเทศ การจดทะเบียนรถ ตรวจสภาพรถ ฯลฯ สามารถจองคิวออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกที่ถูกต้องได้ที่ลิงค์ https://gecc.dlt.go.th/login หรือ แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue โดยให้ติดตั้งหรือโหลดผ่าน Official Store (Play Store หรือ App store) เท่านั้นcholticha.aair• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยเซลส์ขายรถสาวหายไปปริศนา พบลูกค้าชายเอามือถือไป ตร.ตามเจอกลับวิ่งหนีเข้าป่าเซลส์ขายรถสาวที่เชียงใหม่ หายไปเมื่อวาน (29 เม.ย.) หลังมีลูกค้าชายวัยกลางคนนัดคุยซื้อรถที่ร้านกาแฟ ล่าสุดเมื่อกลางดึกพบตัวชายต้องสงสัย แต่วิ่งหลบหนี ตร.เข้าป่า จนท.ระดมค้นหาจนเช้ายังไม่พบตัวstd46413• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเรื่อง ยาลดนํ้าหนักโฆษณายาลดนํ้าหนักผ่านสื่อเฟสบุคstd48002• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวิทยาศาสตร์ลวงโลก (Pseudoscience)คือ ข้อเขียนที่อ้างว่าเป็นทั้งวิทยาศาสตร์และข้อเท็จจริง แต่จริง ๆ แล้วขัดแย้งหรือเข้ากันไม่ได้กับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือไม่มีหลักฐานหรือความเป็นไปได้ใด ๆมาสนับสนุน มักจะมาในรูปแบบของบทความทางการแพทย์หรือบทความสุขภาพที่แฝงโฆษณายารักษาหรือ อุปกรณ์เพื่อสุขภาพ โดยแอบอ้างว่าได้ผ่านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แล้ว มีการสร้างภาพผู้เชี่ยวชาญขึ้นมาstd48465• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy theoryเป็นเรื่องเล่าหรือบทความที่สร้างขึ้นมาจากความคิดของคน หรือกลุ่มคนที่นำเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน. โดยอาศัยข้อมูลที่ไม่มีความเชื่อมโยงกัน และอาจมีวัตถุประสงค์ซ่อนเร้น เพื่อให้ประโยชน์ ให้โทษต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลหนึ่งใด เช่น เครื่องบินที่หายไปนั้นโดน CIA ยึดไว้ เพราะต้องการของสำคัญที่อยู่ในเครื่องบิน เป็นต้นstd48465• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยข่าวล้อเลียนและเสียดสีข่าวที่ดัดแปลงข้อมูลเพื่อมุ่งสร้างอารมณ์ขันให้กับผู้อ่าน ใช้เนื้อหาที่ตลกขบขัน เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ข่าวในโลกแห่งความเป็นจริงผ่านการล้อเลียนหรือเสียดสีล้อเลียน เสียดสีstd48465• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยข่าวแฝงการโมษณารูปแบบโฆษณาที่ใช้รูปแบบเนื้อหาแนบเนียนกับเนื้อหาปกติในเว็บไชต์นั้น ๆ พร้อมทำหน้าที่ให้เนื้อหาที่คนต้องการรับรู้ หรือรับชม โดยไม่ทราบว่าเป็นโฆษณาจนกว่าจะได้อ่าน/ดูจบ ข่าวแฝงการโฆษณานี้จะทำการแฝง (Tie-in) เรื่องราวของแบรนด์และสินค้าไม่มากเกินไป ทำให้คนอ่านหรือคนเสพสื่อนั้น รู้สึกว่าไม่ไต้อ่านโฆษณาอยู่std48465• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยโฆษณาชวนเชื่อเป็นการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่มุ่งชักจูงทัศนคติของผู้รับสารต่ออุดมการณ์หรือมุมมองบางอย่างโดยการนำเสนอการให้เหตุผลเพียงข้างเดียว การโมษณาชวนเชื่อ มักทำซ้ำและกระจายในสื่อหลายชนิด เพื่อหวังผลให้ผู้รับสารเชื่อและคล้อยตามอุดมการณ์ที่ผู้ส่งสารต้องการสื่อstd48465• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข้าวเเช่เย็นข้ามคืนกินเเล้วผอมจริงไหมข้าวเเช่เย็นช่วยทำให้ลดน้ำหนัก ระบบขับถ่าย คุมระดับน้ำตาลMxtinx260148• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยมหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า สารสกัดจากกระชายขาวสามารถยับยั้งเชื้อโควิดได้ จริงหรือคะจากการทดลองพบว่าสารสกัดจากกระชายขาวสามารถยับยั้งเชื้อโควิดได้ถึง 100% โดยการสกัดสารออกมาพบว่ามี 2 ตัว ที่มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อคือ Panduratin A และ Pinostrobinโควิด 2019anonymous• 6 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยพืชกระท่อมสามารถทำลายเชื้อไวรัสโคโรนาในเวลาเพียง 0.05 วินาที เชื่อได้ไหม?มีคนเผยแพร่ภาพในอินเทอร์เน็ตที่มีข้อความว่า: องค์การอนามัยโลกบิดบังเรา:พืชกระท่อมสามารถยับยั้งและทำลายเชื้อโคโรนาได้ โดยผลงานวิจัยจาก Profesor Yee T Bi หัวหน้าภาควิชาไวรัสวิทยา มหาวิทยาลัย Datissin ค้นพบว่าไมทราไจนีนในพืชกระท่อมนั้นสามารถทำลายไวรัสได้ภายใน 0.05 วินาที หลังจากรับประทาน และยังมีฤทธิ์ยับยั้งโรคต่างๆ ได้อีก 1975 โรคยาสมุนไพรโควิด 2019naruemonjoy• 6 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 3 คนสงสัย“สับปะรด”ทำลายเซลล์มะเร็ง ผลไม้มหัศจรรย์ ที่ไม่ควรมองข้าม !! สับปะรดสามารถทำลายเซลล์มะเร็ง เพราะสับปะรดป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระและยังต้านอาการอักเสบได้ ดังนั้น พวกมันลดความเสี่ยงการเกิดเซลล์มะเร็ง โดยบรอมีเลนควบคุมการเจริญเติบโตของเนื้องอกจึงส่งผลให้ไม่เป็นโรคมะเร็ง http://www.thaitribune.org/contents/detail/342?content_id=24535&rand=1518646951มะเร็งไม่ระบุชื่อ• 6 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกินเวย์ลดน้ำหนักได้จริงมั้ยการทานโปรตีนคุณภาพช่วยให้หุ่นดีขึ้นได้ เพราะโปรตีนช่วยให้อิ่มท้องได้นานกว่าการกินข้าว หรือแป้ง และไขมัน ที่สำคัญโปรตีนยังช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง กระชับ เพราะฉะนั้นคนที่อยากให้น้ำหนักลด เพื่อที่จะได้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง หุ่นดี ก็ควรเลือกรับประทานโปรตีนคุณภาพดีเท่านั้น ซึ่งหาได้จาก ไข่ขาว เนื้อปลา และอกไก่ โดยใช้การปรุงอาหารแบบต้ม ตุ๋น นึ่ง ย่าง แทนการทอดและผัดporpeang3408• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเตือนเอาผิด "อวตาร" โพสต์ - แชร์ข่าวปลอมตำรวจ ยืนยันสืบสวนและเอาผิดผู้โพสต์ หรือแชร์ข่าวปลอมและบิดเบือนได้ แม้ว่าจะไม่ได้ใช้ภาพ หรือพยายามปิดบังอำพรางตัวตน พร้อมสรุปผลการปราบปราม 700 เรื่อง ดำเนินคดีแล้ว 28 เรื่องแอคปลอมpetchthanadon• 2 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยลิซ่าแอบออกเดทกับนักธุรกิจกลายเป็นข่าวฮือฮาหนักมากกับกระแสข่าวการซุ่มออกเดตของลิซ่า ไอดอลสาววง BLACKPINK และ เฟรเดอริก อาโนลด์ (Frédéric Arnault) ผู้บริหารหนุ่มแห่ง แท็ก ฮอยเออร์ (TAG Heuer) แบรนด์นาฬิกาสุดหรู และเป็นลูกชายของเบอร์นาร์ด อาโนลด์ (Bernard Arnault) ผู้ก่อตั้งอาณาจักร LVMH ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินเป็นอันดับ 1 ของโลกในปี 2023 ซึ่งชาวเน็ตเกาหลีกําลังตอบสนองต่อข่าวลือนี้ของลิซ่าหนักมาก เห็นได้จากในโลกโซเชียลที่มีการออกมาคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา โดยเฉพาะต่อข้อสังเกตุที่ว่า ในวิดีโอ ที่ถูกแอบถ่ายและปล่อยออกมานั้น ลิซ่า ได้ "พิงไหล่ของชายหนุ่มที่คาดว่าเป็น เฟรเดอริก อาโนลด์ หรือไม่"มีมNanthaphop• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยประกันโควิด19ประกันโควิด-19 ทั้งหมดจะจ่ายเงินค่ารักษา ค่าชดเชยรายได้ ให้เฉพาะผู้ที่ติดเชื้อลงปอดเท่านั้น เริ่มบังคับใช้ 4 ม.ค. 65std48458• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยห้ามกิน! น้ำมะพร้าว เพราะจะทำให้ประจำเดือนหยุดไหลคนโบราณเชื่อกันว่าการดื่มน้ำมะพร้าวช่วงมีประจำเดือนจะทำให้ประจำเดือนหยุดไหล และทำให้ประจำเดือนในเดือนถัดไปมาช้ากว่าปกติ ซึ่งเกิดจากสารอาหารในน้ำมะพร้าวนั้นเป็นแบบเดียวกันกับฮอรโมนเพศหญิงstd48449• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอมตำรวจ ยืนยันสืบสวนและเอาผิดผู้โพสต์ หรือแชร์ข่าวปลอมและบิดเบือนได้ แม้ว่าจะไม่ได้ใช้ภาพ หรือพยายามปิดบังอำพรางตัวตน พร้อมสรุปผลการปราบปราม 700 เรื่อง ดำเนินคดีแล้ว 28 เรื่อง วันนี้ (15 ม.ค.24564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมผู้เกี่ยวข้อง แถลงผลการดำเนินงานของการปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ดังนี้ 1.สรุปผลการปฏิบัติงาน ตั้งแต่ช่วงวันที่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค.2563 ในเรื่องของการตรวจสอบเรื่องข่าวปลอมและบิดเบือน มีทั้งหมด 700 เรื่อง เข้าข่ายการกระทำความผิด 126 เรื่อง ดำเนินคดี 28 เรื่อง 63 คน เตือนระงับแก้ไข 98 คนstd48069• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยพบชิ้นส่วนซากเรือไททัน ยืนยัน 5 คนบนเรือเสียชีวิตคาดว่าแรงดันอ่กาศสุงทำให้เรือระเบิด+ออกซิเจนหมดvippoil84• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปรับอัตราค่าตอบแทนผู้นำศาสนาอิสลามครบทุกตำแหน่ง จริงหรือเงินเดือนข้าราชการ ไม่ปรับขึ้น ค่าแรงแรงงาน ไม่ปรับขึ้น แต่รัฐบาลดันไปปรับขึ้นให้ใคร ดูเอา อนุมัติถ้วนหน้า! ก.คลังอนุมัติปรับอัตราค่าตอบแทนผู้นำศาสนาอิสลามครบทุกตำแหน่ง - M TODAY https://www.mtoday.co.th/90595ข่าวการเมืองภาคใต้อันดามันผู้บริโภคเฝ้าระวังมีมMrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ตรวจบัตรประชาชนแทบทุกด่านจริงหรือไม่พื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ตรวจบัตรประชาชนแทบทุกด่านหรือไม่ภาคใต้Ibraheng Hengmee• 4 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยคณะเภสัช จุฬาฯ พัฒนาสมุนไพรพ่นจมูกและลำคอ ป้อง “โควิด-19”“ลำไย” สกัดเข้มข้น สูตรตำรับสมุนไพรใหม่ พัฒนาโดยคณะเภสัช ใช้สำหรับพ่นลำคอ และจมูก ป้องกันการติดเชื้อไวรัสทุกชนิด – “โควิด-19”โควิด 2019Mrs.Doubt• 5 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยงานวิจัย "เพลงซิมโฟนีหมายเลข 5 ของเบโธเฟน ฆ่าเซลล์มะเร็งได้ 20% " จริงหรือ ? มีการเผยแพร่ข่าวงานวิจัย จากประเทศบราซิล ที่อ้างทำนองว่า เมื่อทดลองเปิดเพลง 3 เพลงให้กับเซลล์มะเร็งเต้านม ในห้องปฏิบัติการ คือเพลง ซิมโฟนีหมายเลข 5 (Fifth Symphony) ของ เบโธเฟน (Beethoven) , เพลงโซนาต้า สำหรับเปียโนสองตัว ใน D (Sonata for Two Pianos in D) ของโมสาร์ท (Mozart) และเพลง "Atmosphères" ของ ลีเก็ตตี้ (Ligeti) ... พบว่าเพลง ซิมโฟนีหมายเลข 5 และเพลง "Atmosphères" ช่วยให้เซลล์มะเร็งตายลง เมื่อเทียบกับเพลงของโมสาร์ท หรือเมื่อเงียบสนิท !? แต่ทีมวิจัยชาวบราซิลดังกล่าว ไม่สามารถระบุได้ว่าทำไมเพลงที่ส่งผลให้เซลล์มะเร็งตายได้ และไม่รู้ว่าในเนื้อเยื่อปรกติจริงๆ จะให้ตอบสนองแบบนี้หรือไม่อย่างไร (งานนี้ เป็นการทดลองกับเซลล์มะเร็ง ที่เลี้ยงในจานเพาะเลี้ยง ไม่ใช้กับมะเร็งที่อยู่ในตัวของสัตว์ทดลอง) และนักวิจัยยังยอมรับด้วยว่า วิธีการที่ใช้ทดลองนั้น ไม่สามารถหาปริมาณการตายของเซลล์ได้ ตัวเลข 20% ที่มีข่าวกันนั้นเป็นตัวเลขที่ไปเขียนกันเอาเอง ! ซึ่งตอนนี้ นักวิจัยก็บอกว่าไม่ได้ทำการทดลองเรื่องผลของดนตรีต่อเซลล์มะเร็ง อีกต่อไปแล้ว โดยอ้างว่าไม่มีทุนวิจัย ดูรายละเอียดด้านล่างนี้ครับ - เมื่อไม่นานมานี้ มีการเผยแพร่ข่าวสารการวิจัยที่อ้างว่า "ซิมโฟนีหมายเลข 5 ของ ลุดวิก ฟาน เบโธเฟน ทำให้เซลล์มะเร็งตาย 20% ในห้องปฏิบัติการได้ โดยไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ปกติ" . .. โดยระบุว่า นักวิทยาศาสตร์ที่ Instituto de Biofísica Carlos Chagas Filho มหาวิทยาลัยแห่งชาติ ริโอเดจาเนโร (Federal University of Rio de Janeiro) ประเทศบราซิล ได้ศึกษาว่า ดนตรีอาจมีบทบาทในการรักษาโรคมะเร็งได้ ทีมวิจัยที่นำโดย ดร. มาร์เซีย อัลเวส มาร์เกว คาเปลลา (Dr. Márcia Alves Marques Capella) ได้ทดลองให้เซลล์เพาะเลี้ยง ทั้งเซลล์ปกติและเซลล์มะเร็ง ได้ฟังดนตรีหลายประเภท และผลลัพธ์ที่น่าทึ่งคือ ซิมโฟนีหมายเลข 5 ของเบโธเฟน ทำลายเซลล์มะเร็งประมาณ 20% ในเวลาเพียงไม่กี่วัน ในขณะที่เซลล์ปกติไม่เกิดผลกระทบ ซึ่งยังไม่ทราบว่ากลไกที่อยู่เบื้องหลังผลลัพธ์นี้คืออะไร แต่อาจเป็นไปได้ว่า จังหวะ ความถี่ หรือความข้นของเสียง อาจเป็นปัจจัยหลัก ซึ่งจะมีการทดลองเพิ่มเติมที่รวมถึงเพลงจังหวะแซมบา (Samba) และฟังค์ (Funk) ด้วย - จริงๆ แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่ข่าวใหม่ เพราะข้อกล่าวอ้างดังกล่าวนี้ ได้เริ่มถูกเผยแพร่มาตั้งแต่ปี 2011 แล้ว โดยเป็นบทความข่าวที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์รายวัน O Globo ในบราซิล ที่ระบุว่าเซลล์มะเร็ง MCF-7 (เป็นเซลล์มะเร็งเต้านมของมนุษย์ ที่ตอบสนองต่อเอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน และกลูโคคอร์ติคอยด์ และเป็นหนึ่งในเซลล์มะเร็งที่ได้รับการศึกษามากที่สุดในโลก) เมื่อถูกเปิดเพลงซิมโฟนีหมายเลข 5 ใส่เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ทำให้ 1 ใน 5 ของเซลล์มะเร็ง MCF-7 ที่เพาะเลี้ยงนี้ได้ตายลง ขณะที่บรรดาเซลล์ที่รอดชีวิตหลายเซลล์มีขนาดเล็กลง ส่วนเพลง "Atmosphères" ของลิเก็ตติ ให้ผลลัพธ์คล้ายกัน แต่ท่อนแรกของเพลงโซนาต้าสำหรับเปียโนสองตัว ของโมสาร์ทแทบไม่ส่งผลกระทบเลย ... ในบทความอ้างว่า การทดลองนี้ สามารถเปิดทางใหม่สำหรับการรักษาโรคมะเร็ง และอ้างคำพูดของนักวิจัยนำ คือ ดร. คาเปลลา ว่า "เราเชื่อว่าเพลงซิมโฟนีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเมตาบอลิซึม ไม่ใช่ไปทำเซลล์มะเร็งตายโดยตรง" - หลังจากนั้น ดร. คาเปลลา ได้ตีพิมพ์บทความวิจัย ในปี 2013 ในวารสาร Noise and Health และอีกบทความหนึ่ง ในวารสาร Evidence-Based Complementary and Alternative Medicine ในปี 2016 หลังจากการทดลองอีกครั้งกับเซลล์มะเร็งเต้านม อีกชนิดหนึ่ง คือ เซลล์ MDA-MB-231 .. (แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า วารสาร Evidence-Based Complementary and Alternative Medicine นี้ ได้หยุดเผยแพร่ไปแล้ว ในปี 2024 หลังจากถูกถอดออกจากฐานข้อมูลวารสารวิชาการของ Clarivate's Web of Science เนื่องจากปัญหาด้านคุณภาพ) ซึ่งในบทความได้อ้างว่า มีการทดลองกับเซลล์มะเร็ง ที่เพาะเลี้ยงในจานเพาะเลี้ยง ด้วยการเปิดเพลงทั้งสามเพลง ผ่านลำโพง (มีอีกชุดการทดลองที่ไม่เปิดเพลงใดๆ เป็นชุดทดลองควบคุม) ทำซ้ำการทดลองอย่างน้อย 4 ครั้ง เพื่อยืนยันผลลัพธ์ - แต่บทความวิจัยเหล่านั้น ไม่ได้รายงานเกี่ยวกับ จำนวนของเซลล์ที่ตายแล้ว หรืออ้างว่า เพลงเหล่านี้มีพลังในการรักษาโรคมะเร็ง นอกจากนี้ ยังไม่ได้มีการเอาเพลงไปทดลองกับเซลล์ปกติ แต่บอกเพียงแค่ว่าเซลล์มะเร็งที่ใช้ในการทดลองนั้นมีลักษณะคล้ายเซลล์เยื่อบุผิวตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เลยเป็นแบบจำลองที่ดีในการศึกษาวิจัย ... ทีมวิจัยระบุว่า การทดลองนี้มีเป้าหมายเพียงเพื่อ "ทำความเข้าใจผลกระทบโดยตรง ของการสั่นสะเทือนทางเสียง ในรูปแบบของดนตรี ต่อเซลล์มนุษย์ที่เพาะเลี้ยงไว้ ให้ดีขึ้น" - ทาง ดร. Capella เน้นว่า การทดลองเหล่านี้กับเซลล์ในจานเพาะเลี้ยง และผลลัพธ์ "ไม่สามารถขยายไปยังมนุษย์ได้" พูดง่ายๆ ว่า แม้ว่าเพลงจะฆ่าเซลล์มะเร็งในสภาพห้องปฏิบัติการที่ควบคุมได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า จะเอาเพลงนี้ไปใช้ในการรักษาโรคมะเร็งได้ .. แถมเธอยังบอกว่า ไม่ถูกต้องที่จะไปพูดกันว่า "หนึ่งในห้า (หรือ 20%) ของเซลล์มะเร็งตายลง หลังจากถูกเปิดเพลงซิมโฟนีหมายเลข 5 ของเบโธเฟน" เพราะวิธีการที่ใช้ทดลองไปนั้น ไม่สามารถนำมาหาปริมาณการตายของเซลล์ได้ .. แถมด้วยว่า เธอก็ไม่เคยวางแผนการทดลองเพิ่มเติม กับเพลงฟังค์ หรือเพลงซัมบ้า ของบราซิลอย่างที่แชร์กันด้วย - ดร. Capella เพิ่มเติมด้วยว่า หลังจากที่ข้ออ้างเหล่านี้ได้แพร่ระบาดไวรัลไปทั่ว เธอก็พยายามให้สัมภาษณ์กับสื่อ CNN Radio เพื่อขจัดความสับสน และหลังจากนั้น เธอก็ได้หยุดงานวิจัยเรื่องผลของดนตรีต่อเซลล์มะเร็งไปแล้ว เพราะหาทุนสนับสนุนงานวิจัยได้ยาก ข้อมูลจาก https://www.snopes.com/news/2025/02/15/study-beethovens-5th-cancer-cells/?cb_rec=djRfMl8xXzBfMTgwXzBfMF8wXwมะเร็งมีมไม่ระบุชื่อ• 9 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผงมรณะหมู่ผงมรณะหมู่ (ขอบคุณด็อกเตอร์จิรพล สินธุนาวา ที่แนะนำข้อมูลมาเห็นด้วย 100% ครับ และเพิ่มเติมก็คือผงชูรสที่ใช้ในญี่ปุ่นนั้นทำจากสาหร่ายทะเลที่ไม่ได้อมพิษ แต่ในประเทศไทยใช้ที่เห็น ๆ ทางด้านล่างครับ) อยากตายไม่เหงา กินไป ป่วยเรื่อย ๆ ตายตาม ๆ กันไป ไทย ลาว พม่า ติดกันงอมแงม คือ ญี่ปุ่น ชาติที่ว่าพัฒนาแล้ว ฆ่าหมู่คนชัด ๆ แต่ในประเทศตัวเอง มีกฏหมายห้ามผลิตและจำหน่ายจ้ายกโรงงานมาไทย💣 • ผงชูรสฆ่าคน! ทราบไหมครับ ในการผลิตผงชูรสทั้งแบบก้อนและแบบผงในประเทศไทย ใช้แป้งมันสำปะหลังและกากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบหลัก แต่แหล่งข่าวที่ผมรู้จักยืนยันว่า มันมีอะไรแปลก ๆ มากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบที่มาจากกระดูกสัตว์ อย่างกระดูกวัว กระดูกควาย โซดาไฟ และปุ๋ยยูเรีย ก็คิดดูเองสิว่า ทำไมของเหลวที่เกิดจากกระบวนการผลิต ทำไมยังสามารถนำไปขายให้เกษตรกรไปเป็นปุ๋ยน้ำ รดไร่นา จนพืชขึ้นเขียวขจี (แต่กลายพันธุ์ด้วยหรือเปล่าไม่รับรองนะ) ลองสังเกตุดูสิว่า คนงานในโรงงาน และชุมชนที่อาศัยอยู่รอบ ๆ โรงงานผลิตผงชูรส ถึงมีอาการอิดโรย ป่วยกระเสาะกระแสะกันทั้งชุมชน เพื่อน ๆ ผมที่อยู่โรงงานผลิตผงชูรส เขายังไม่กินผงชูรสเลย แต่เขาจะนำผงชูรสผสมน้ำอุ่น แล้วไปขัดห้องน้ำ ขัดหม้อ ที่มีเขม่าดำ ขัดหัวเข็มขัดทองเหลือง ขัดสร้อยเงิน แช่เหรียญเก่า หรือแช่พระกรุ ก็ไม่แน่ เพราะผมเคยลองขัดดูแล้วเวิร์กมาก ๆ ถ้าไม่เชื่อท่านผู้อ่านลองดูเองนะครับ จริง ๆ แล้ว "ผงชูรส ไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการเลยแม้แต่นิดเดียว" "ผงชูรส มีประโยชน์เพียงทำให้ต่อมรับรส เปิดกว้างขึ้น ทำให้รู้สึก ว่าอาหารมีรสชาติดีขึ้น" อันตรายของผงชูรสถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ 1) พิษภัยและอันตรายที่เกิดจากเกลือโซเดียม กล่าวคือผงชูรสมีโซเดียมที่มาจากโซดาไฟ เป็นองค์ประกอบสำคัญเช่นเดียวกับเกลือแกง แต่อันตรายมากกว่าเกลือแกงตรงที่ว่า เกลือแกงใช้เพียงนิดเดียวก็รู้สึกว่ามีรสเค็ม แต่ผงชูรสใส่มากเท่าไหร่ ก็ไม่รู้สึกตัวว่ามีปริมาณโซเดียมมากเท่าไหร่ เพราะไม่มีรสชาติให้รู้สึก หรือพูดอีกนัยหนึ่ง ผงชูรสมีพิษแฝงในเรื่องโซเดียม ซึ่งมีพิษภัยอันตรายดังนี้: 1.1) ทำให้ภูมิต้านทานหรือภูมิคุ้มกันของร่างกายมนุษย์ลดลง ถึงแม้ผงชูรสจะไม่ทำให้ใครเป็นเอดส์ แต่มันทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง ยิ่งถ้าคนป่วยเป็นเอดส์มาทานอาหารที่ใส่ผงชูรส ยิ่งทำให้ตายเร็วกว่าที่ควรเป็นครับ 1.2) ทำให้เกิดการคั่งในสมองเด็ก ซึ่งเมื่อเด็กโตขึ้นจะเป็นคนปัญญาอ่อน ในปัจจุบันมีเด็กปัญญาอ่อนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่มีผงชูรสแพร่หลายในประเทศไทย ผงชูรสทำให้เด็กทารกเกิดอาการชักโคม่า ซึ่งบางครั้งแพทย์ไม่รู้สาเหตุ และอาจทำให้รักษาผิดพลาด เป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ยังเป็นภัยต่อหญิงมีครรภ์ ทำให้ร่างกายผอม และยังมีพิษภัยต่อทารกในครรภ์และทารกแรกเกิดด้วย 1.3) ผงชูรสเป็นอันตรายต่อผู้เจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ เช่น โรคไต ความดันสูง และโรคหัวใจ เป็นต้น 2) พิษภัยและอันตรายที่เกิดจากตัวผงชูรสแท้ ส่งผลดังนี้ 2.1) ทำให้เกิดอาการแพ้ผงชูรส ซึ่งจะมีอาการชา และร้อนวูบวาบที่ปาก ลิ้น ใบหน้า โหนกแก้ม ต้นคอ หน้าอก บางคนมีผื่นแดงเกิดขึ้นตามตัว แน่นหน้าอก หัวใจเต้นช้าลง หายใจไม่สะดวก เป็นต้น จนเป็นที่รู้จักและขนานนามโรคแพ้ผงชูรสในภัตตาคารจีน 2.2) ทำลายสมองส่วนหน้า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมการเจริญเติบโตและระบบสืบพันธุ์ของร่างกาย ทำให้เจริญเติบโตช้า ปัญญาอ่อน ระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ เป็นหมัน อวัยวะสืบพันธุ์เล็กลง ทั้งในเรื่องของขนาดและน้ำหนัก 2.3) ทำลายระบบประสาทตา สายตาเสีย หรือเกิดตาบอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสัตว์ทดลอง ยิ่งอายุน้อย จะยิ่งเกิดผลร้ายมาก 2.4) ทำลายกระดูกและไขกระดูก ซึ่งเป็นส่วนที่ผลิตเม็ดเลือดแดงในร่างกาย ทำให้โลหิตจางได้ 2.5) ทำให้วิตามินในร่างกายลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินบี 6 แก้โรคแพ้ผงชูรสได้ 2.6) เกิดโรคมะเร็ง 2.7) ทำลายระบบประสาทส่วนกลางทำให้เป็นโรคประสาทได้ง่ายขึ้น 3) 😎 เปลี่ยนแปลงโครโมโซม ทำให้ผิดปกติ ปากแหว่ง หูแหว่ง และจมูกวิ่น แขนขาพิการ เป็นต้น แต่ถึงเห็นพิษภัยขนาดนี้ประชาชนตาดำ ๆ อย่างเราคงจะหลีกเลี่ยงผลชูรสได้ยาก เพราะตั้งแต่ภัตตาคารใหญ่ ๆ จนไปถึงร้านข้างถนน ยังขาดความรู้เรื่องโทษจากผงชูรส เรามาเริ่มต้นจากบ้านของเรา และช่วยกันรณรงค์เรื่องพิษภัยของผงชูรสกันดีกว่าครับ Cr: ขอบคุณที่มา จาก นสพ. ฐานเศรษฐกิจผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 2 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--middle3 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
