(1461 ข้อความ)
- 1 คนสงสัยร่างระเบียบสำนักนายกฯ ปราบเฟคนิวส์ ความพยายามล่าสุดของรัฐบาลในการกลบเสียงวิจารณ์ ?ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ที่ผ่านความเห็นขอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. กำลังสร้างความกังวลให้แก่นักวิชาการจำนวนหนึ่งที่มองว่าระเบียบนี้เป็นความพยายามครั้งล่าสุดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการปิดกั้นข้อมูลและความคิดเห็นที่เป็นลบต่อรัฐบาลstd48004• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวัคซีนมีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ต้องห้ามตามหลักศาสนายอมรับว่าทีมงานต่อต้านข่าวปลอมทำงานกันอย่างยากลำบากด้วยข้อจำกัดด้านภาษาและวัฒนธรรม จากกรณีพบผู้มีเชื้อสายเอเชียใต้ (ภูมิภาคที่ประกอบด้วยประเทศอินเดีย ปากีสถาน อัฟกานิสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา เนปาล ภูฏาน และมัลดีฟส์) ที่อาศัยอยู่ในอังกฤษมีแนวโน้มปฏิเสธการรับวัคซีนโควิด-19 โดยต้องทำงานร่วมกับผู้นำศาสนา อธิบายให้ศาสนิกชนเหล่านี้มั่นใจว่าวัคซีนโควิด-19 ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนผสม ทาง Newsweek ก็มีการตรวจสอบว่าเป็นข่าวลวงเช่นกัน โดยเฉพาะในวัคซีนของไฟเซอร์ ส่วนในประเทศอินโดนีเซียที่ประชากรนับถือศาสนาอิสลามส่วนใหญ่ก็เริ่มต้นฉีดวัคซีนไปแล้ววัคซีนโควิดstd48096• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวัคซีนเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอมนุษย์การกล่าวถึงพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ (DNA) ในกระบวนการผลิตและการทำงานของวัคซีน นำไปสู่ความกังวลว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนจะมีผลข้างเคียงคือรหัสพันธุกรรมของตนจะเปลี่ยนไปด้วย ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ชี้แจงเรื่องนี้ว่า วัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีทั้ง 2 ชนิด แม้จะส่งสารพันธุกรรมเข้าไปในร่างกายมนุษย์ แต่สารนั้นจะไม่เข้าไปถึงนิวเคลียสอันเป็นที่เก็บดีเอ็นเอ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อดีเอ็นเอแต่อย่างใด ทางสำนักข่าวบีบีซีและรอยเตอร์ตรวจสอบแล้วพบว่าข่าววัคซีนเปลี่ยนดีเอ็นเอนี้ไม่เป็นความจริงวัคซีนโควิดstd48096• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย“น้ำมะนาว” ยาวิเศษแก้สารพัดโรคก่อนหน้านี้ “น้ำมะนาว” ถูกแชร์ต่อๆกันว่า เอาไปผสมโซดาแล้วจะช่วยฆ่าเชื้อมะเร็งได้ ยุคหลังๆมาบอกว่า “น้ำมะนาว” ช่วยฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ ไม่ว่าจะฆ่าเชื้อมะเร็ง หรือ ฆ่าเชื้อโควิด-19 ก็ได้รับการยืนยันจาก นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อดีตอธิบดีกรมควบคุมโรค รวมถึงคุณหมออีกหลายคน ที่พูดตรงกันว่า ข่าวนี้เป็นข่าวปลอม มะนาวเป็นผลไม้มีวิตามินซีสูง ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน ช่วยไม่ให้เชื้อโรคสามารถฝังเข้าไปในเซลล์ของทางเดินหายใจและปอดได้ง่ายเท่านั้น แต่ไม่สามารถฆ่าไวรัสได้โควิด 2019ยาสมุนไพรstd48096• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยปิดมือถือหนี “รังสีคอสมิก”00.30 - 03.30 น. เป็น “ช่วงเวลาทอง” ของการปิดโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เนื่องจากดาวเคราะห์ของเราจะมีการแผ่รังสีที่สูงมาก “รังสีคอสมิก” จะผ่านเข้ามาใกล้โลก และอาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้ ข่าวนี้ถูกส่งต่อมานานมาก เป็นหนึ่งในข่าวปลอมยุคดึกดำบรรพ์ที่เล่นตลกกับชีวิตเรามากผู้บริโภคเฝ้าระวังstd48096• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 10%เป็นอีกหนึ่งข่าวปลอมสุดคลาสสิกที่ถูกนำมาแชร์กันต่อเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงเวลาใกล้สิ้นสุดปีงบประมาณของทุกปี แต่หากใครติดตามข่าวสารเป็นประจำก็จะรู้ได้ทันทีว่า “เป็นเรื่องปกติ” เพราะรัฐบาลจะต่ออายุการลดภาษี VAT เป็นประจำทุกปี เพื่อช่วยลดผลกระทบทั้งค่าครองชีพ และรักษาการบริโภคภายในประเทศ ภาษี VAT” มีอัตราการจัดเก็บที่ 10% แบ่งเป็น ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจริง 9% และภาษีท้องถิ่นอีก 1% แนวทางนี้กำหนดเอาไว้ตั้งแต่ปี 2535 แต่ไม่เคยจัดเก็บจริงข่าวการเมืองstd48096• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยร่างระเบียบสำนักนายกฯ ปราบเฟคนิวส์ ความพยายามล่าสุดของรัฐบาลในการกลบเสียงวิจารณ์ ?การที่ ครม. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกฯ ฉบับนี้ในช่วงที่การเมืองไทยเริ่มเข้าสู่ "ฤดูกาลเลือกตั้ง" ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า "ศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์" หรืออาจเรียกง่าย ๆ ว่าศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมที่จะจัดตั้งขึ้นในทุกกระทรวงและทุกจังหวัดตามร่างระเบียบนี้ มีวาระซ่อนเร้นในการกลบเสียงวิจารณ์และเป็นฝ่าย "พีอาร์อำพราง" ของรัฐบาลหรือไม่ กระทรวงดีอีเอสฯ สั่งฟ้องนักข่าวไทยพีบีเอส แพร่ข่าวปลอมหญิงแพ้วัคซีน ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ชี้มี “ขบวนการสร้างข่าวปลอม” ยุคโควิด-19 กับวาทะล่าสุด “ยังไม่มีใครต้องติดคุกเพราะไปด่ารัฐบาล” โฉมใหม่ "กฎหมายคุมสื่อ" ทำไมสมาคมนักข่าว-สภาการสื่อมวลชน ถึงพอใจร่าง พ.ร.บ. จริยธรรมสื่อ ที่ ครม. เห็นชอบ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงวัตถุประสงค์ของร่างระเบียบสำนักนายกฯ ที่เสนอโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) ว่ามีขึ้นเพื่อวางแนวทางและหลักเกณฑ์ในการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ร่วมกันของหน่วยงานของรัฐ เพื่อคุ้มครองประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยและได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการ ดศ. กล่าวว่าร่างระเบียบฯ ฉบับนี้ จะส่งเสริมการประสานงาน และทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในการเร่งแก้ไขปัญหาข่าวปลอม และช่วยให้ก้าวทันสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ สื่อสังคมออนไลน์ และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางเผยแพร่กระจายข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ ส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง ขณะนี้ร่างระเบียบฉบับนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย และคาดว่าจะประกาศใช้ในเวลาอีกไม่นานโควิด 2019วัคซีนโควิดJittiphatsa8416• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม: ร่างระเบียบสำนักนายกฯ ปราบเฟคนิวส์ ความพยายามล่าสุดของรัฐบาลในการกลบเสียงวิจารณ์ ?ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ที่ผ่านความเห็นขอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. กำลังสร้างความกังวลให้แก่นักวิชาการจำนวนหนึ่งที่มองว่าระเบียบนี้เป็นความพยายามครั้งล่าสุดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการปิดกั้นข้อมูลและความคิดเห็นที่เป็นลบต่อรัฐบาล การที่ ครม. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกฯ ฉบับนี้ในช่วงที่การเมืองไทยเริ่มเข้าสู่ "ฤดูกาลเลือกตั้ง" ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า "ศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์" หรืออาจเรียกง่าย ๆ ว่าศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมที่จะจัดตั้งขึ้นในทุกกระทรวงและทุกจังหวัดตามร่างระเบียบนี้ มีวาระซ่อนเร้นในการกลบเสียงวิจารณ์และเป็นฝ่าย "พีอาร์อำพราง" ของรัฐบาลหรือไม่ข่าวการเมืองgam.muensri• 3 ปีที่แล้ว2 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยเช็คด่วน‼ 8 แบรนด์รถยนต์ ถุงลมนิรภัยไม่ได้มาตราฐาน ❌อันตราย รีบเปลี่ยนด่วน❌เช็คด่วน‼ 8 แบรนด์รถยนต์ ถุงลมนิรภัยไม่ได้มาตราฐาน ❌อันตราย รีบเปลี่ยนด่วน❌ เช็ครุ่นรถยนต์ได้ที่ เว็บไซต์ https://www.checkairbag.com/ (หรือสแกนคิวอาร์โค้ด) อ่านเพิ่มเติม : https://www.js100.com/en/site/post_share/view/124248 #ถุงลมนิรภัย #ถุงลมนิรภัยระเบิด ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน #JS100 ได้ที่ >> goo.gl/hoc9w8ผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ แคลเซียมไม่ได้ทำให้ตัวสูงแคลเซียมเพิ่มความสูงได้จริงหรือไม่? แร่ธาตุที่สำคัญต่อระบบร่างกายของเรา ถือว่าเป็นแร่ธาตุที่สำคัญ ที่ส่งผลต่อสุขภาพที่ดี เราจำเป็นต้องบริโภค แคลเซียม เพื่อช่วยให้กระดูกแข็งแรง และทำให้สารสื่อประสาทระหว่างสมอง และอวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้ปกติ แคลเซียมในรูปแบบของอาหารเสริม นำมากินเพื่อที่จะเพิ่มความสูง ซึ่งแท้จริงแล้ว การบริโภค แคลเซียมอย่างเดียวนั้น ไม่ได้ทำให้ส่วนสูงเพิ่มขึ้น แต่จะต้องทานร่วมกับโปรตีน และจะต้องเป็นโปรตีนที่ได้จากพืชตระกูลถั่วเท่านั้น รวมถึงการออกกำลังกายร่วมด้วย จึงจะทำให้สูงขึ้นได้ โปรตีน และแคลเซียม มีบทบาทสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เราจำเป็นต้องรับประทานโปรตีนให้เพียงพอต่ตอความต้องการของร่างกาย และถ้าอยากสูงและมีร่างกายที่แข็งแรง ควรควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี และสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วยPYU4 kunticha• 5 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยช็อค ค่าไฟแพง ครวญผ่านโลกโซเชียล เจอค่าไฟถึงกับจุกทวิตเตอร์ ติดเทรนด์ 19 เมย "ค่าไฟแพง" เห็นบิลค่าไฟถึงกับต้องครวญผ่านสื่อโซเชียลกันถัวนหน้าnaydoitall• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเรื่องนี้น่าสนใจมาก...หากประสบผลสำเร็จ คนที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดคงจะสบายสักที...... --------‐--‐-----//------------------ มนุษย์จะมีอายุขัยเพิ่มขึ้น! ทำความรู้จัก “อนุภาคนาโน” ที่ถูกค้นพบเมื่อปีที่แล้ว และอาจทำให้ “โรคหัวใจ” กลายเป็นแค่ประวัติศาสตร์ ทุกวันนี้ เวลาได้ยินข่าวคนดังเสียชีวิต มักมีสาเหตุมาจาก “มะเร็ง” และพานคิดว่ามะเร็งน่าจะเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของมนุษย์ แต่นั่นคือความเข้าใจผิด เพราะสาเหตุการตายอันดับ 1 ของมนุษย์ปัจจุบันคือ “โรคหัวใจ” หรือชื่อเต็มๆ ก็คือ “โรคหัวใจและหลอดเลือด” มนุษย์ที่เสียชีวิตเพราะโรคกลุ่มนี้ในแต่ละปีมากถึง 30% และเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 แซงหน้ามะเร็ง 1.เราอาจสังเกตว่า “คนสมัยก่อน” มักจะไม่ได้ตายเพราะ “โรคมะเร็ง” หรือ “โรคหัวใจ” . เหตุที่ช่วงหลังมานี้ “โรคมะเร็ง” และ “โรคหัวใจ” ขึ้นอันดับ 1 และ 2 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่ามนุษย์ปัจจุบันอายุยืนขึ้น เราไม่ค่อยตายจากสงครามและโรคติดเชื้อต่างๆ แบบในอดีต พออยู่มาจนแก่ . เราจึงเผชิญหน้ากับโรคที่โดยทั่วไปใช้เวลาพัฒนาหลายสิบปีกว่าจะพัฒนาจนคร่าชีวิตผู้คนได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคตับ โรคปอด โรคไต ฯลฯ 2.ก่อนหน้านี้ โรคที่ฆ่ามนุษย์เป็นอันดับ 1 คือ “มะเร็ง” เหตุที่เป็นเช่นนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะคำว่า “มะเร็ง” นั้นกินความกว้างมากๆ เพราะเกิดจากการที่เซลล์ของอวัยวะร่างกายกลายพันธุ์เป็นเนื้อร้าย เรียกได้ว่าเกิดเนื้อร้ายส่วนไหนก็นับเป็นมะเร็งหมด พอแก่ตัวไป แนวโน้มที่เซลล์จะกลายพันธุ์ก็ยิ่งเยอะมากขึ้น . ผลในทางสถิติคนก็เลยเป็นมะเร็งกันเยอะ และในอดีตเป็นโรคที่ “ไม่มีทางรักษา” . แต่ยุคหลังๆ เริ่มมีแนวทางการรักษาใหม่ๆ เริ่มมีเทคนิคการคัดกรองที่ดีขึ้น คนก็เลย “จัดการ” กับมะเร็งได้ดีกว่าก่อนมาก ส่งผลให้ “โรคหัวใจ” เป็นโรคที่กลายเป็นภัยต่อชีวิตอันดับ 1 ของมนุษย์ 3.คำว่า “โรคหัวใจ” ในความหมายของโรคหัวใจและหลอดเลือดก็เป็นคำที่กินความกว้างมากคือ กินความตั้งแต่ภาวะหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ตีบทำให้อวัยวะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ไปจนถึงภาวะผิดปกติทางกายภาพของหัวใจที่ส่งผลต่อการสูบฉีดเลือด . อย่างไรก็ดี สิ่งที่ใกล้ชิดกับโรคหัวใจที่สุดก็คือภาวะอย่าง ‘หลอดเลือดแข็งตัว’ (atherosclerosis) หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า “ไขมันเกาะผนังหลอดเลือด” ในระดับที่เรียกได้ว่า เป็นภาวะยอดฮิตที่คนจะป่วย และพัฒนาไปเป็นโรคหัวใจในที่สุด . แม้ว่าคนจะนิยมเรียกกันแบบนี้ แต่สิ่งที่ไปพอกผนังหลอดเลือดนั้นไม่ใช่ “ไขมัน” แต่คือซากเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ตายขณะที่มันพยายามจะทำลายคอเลสเตอรอลที่หลุดเข้ามาในผนังหลอดเลือด . (ซึ่งคอเลสเตรอลไม่ใช่ไขมัน ร่างกายใช้คอเลสเตอรอลเป็นพลังงานไม่ได้ ดังนั้นอย่าเข้าใจผิดๆ ว่าเวลาเรา “เบิร์น” ตอนออกกำลังกาย แล้วจะเอาคอเลสเตอรอลมาใช้ ร่างกายเราไม่ได้ทำงานอย่างนั้น) . พอซากเซลล์เม็ดเลือดขาวตายสะสมกันในผนังหลอดเลือดมากๆ หลอดเลือดก็จะหนาขึ้นและยืดหยุ่นน้อยลง เราเลยเรียกภาวะนี้ว่า “หลอดเลือดแข็งตัว” 4.ถ้าที่ว่ามาฟังเข้าใจยากไป ก็คิดซะว่าหลอดเลือดเราเป็น “ท่อ” ก็ได้ . ภาวะที่ว่ามาคือภาวะ “ท่อตัน” และพอ “ท่อตัน” เลือดก็จะไปต่อไม่ได้ ซึ่งถ้านั่นเป็นอวัยวะสำคัญอย่างหัวใจหรือสมอง เราก็จะเสียชีวิต (ทั้งนี้เวลาเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ได้จะเรียก Heart Attack ส่วนเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้ จะเรียก Stroke สองภาวะนี้มีสาเหตุพื้นฐานคือ “ท่อตัน” นั่นเอง) . ดังนั้นปัญหาที่คร่าชีวิตมนุษย์แบบนับไม่ถ้วน ก็คือเรื่องง่ายๆ อย่าง “ท่อตัน” นี่เอง เพียงแต่ท่อที่ว่าคือเส้นเลือดแดงในร่างกายที่คอยส่งออกซิเจนและสารอาหารต่างๆ ไปเลี้ยงอวัยวะ 5.คำถามต่อมาคือ แล้วภาวะ “ท่อตัน” นี่จัดการแค่ใส่ “น้ำยาล้างท่อ” ลงไปไม่ได้หรือ? . คำตอบคือ “ไม่ได้” เพราะฉะนั้นวิธีการรักษาจึงต้อง “ผ่าตัด” “ทำบอลลูน” และ “ทำบายพาส” กันให้วุ่นวาย . วิธีการรักษาปัจจุบันคือ ถ้า “ท่อตัน” ทำได้แต่ผ่าตัด (ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่) ซึ่งก่อนผ่าตัด เราก็ต้องระบุให้ได้ว่า “ท่อ” ตรงส่วนไหนตัน โดยการ “ฉีดสี” และทำ MRI . ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ บอกเลยว่า “แพงมาก” แม้ว่าประกันสังคมจะครอบคลุมค่ารักษา แต่ไม่ว่าจะเป็นในประเทศยุโรปหรือไทย คุณต้องผ่านกระบวนการคัดกรองอย่างละเอียด ถึงจะได้ทำการวินิจฉัยว่าคุณกำลังจะ “ท่อตัน” ตรงส่วนไหนของร่างกาย เรียกว่าผู้ป่วยจะได้ทำเมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น . ปัญหาคือทุกวันนี้ เราไม่สามารถรู้ได้ว่าร่างกายของเรา “กำลังจะท่อตัน” ตรงไหน เพราะมันไม่มีทางจะมองเห็นเส้นเลือดในร่างกายของเราด้วยการวินิจฉัยทั่วๆ ไป การไป “ตรวจสุขภาพประจำปี” ซึ่งตรวจด้วยวิธีทั่วไป ก็ไม่มีทางรู้ได้ 6.ปกติเราจะรู้ได้ว่า ตัวเรามีความเสี่ยงต่อโรคกลุ่มนี้ก็ต่อเมื่อไปตรวจสุขภาพแล้วพบว่า ค่าความดันโลหิตและคอเลสเตอรอลสูง และวิธีการ “พยุงอาการ” ของกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดหลักๆ คือเขาจะให้กิน “ยาลดความดัน” กับ “ยาลดคอเลสเตอรอล” ซึ่งต้องกินไปตลอดชีวิต . และผลหลักๆ คือการชะลอภาวะ “หลอดเลือดแข็งตัว” หรือลดความเสี่ยงของการที่คุณจะ “ท่อตัน” จนเลือดไปเลี้ยงหัวใจและสมองไม่พอ จนพิการหรือถึงแก่ความตายในที่สุด . นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งก็เน้นว่าคือการ “ชะลอ” เท่านั้น ยังไม่ใช่การ “รักษา” และที่เป็นแบบนี้ เพราะระบบสาธารณสุขไม่ว่าที่ใดในโลก ยังไม่มีต้นทุนพอที่จะจับคนทุกคนมาฉีดสีและทำ MRI เพื่อหาว่าคนๆ นั้นกำลังจะ “ท่อตัน” ตรงไหนของร่างกาย . ผลก็คือ วิธีชะลอดังกล่าวก็เลยให้กินยาไปเรื่อยๆ แทน เพราะนั่นสมเหตุสมผลในเชิงงบประมาณมากกว่า ถ้าต้องจัดการกับ “กลุ่มเสี่ยง” จำนวนมากหลักล้านคน 7.ประเด็นคือ ภาวะหลอดเลือดแข็งตัวเป็นภาวะที่แทบทุกคนที่อยู่ในสังคมสมัยใหม่แก่ตัวไปยังไงก็เป็น ไม่ว่าจะด้วยอาหาร ด้วยวิถีชีวิต และด้วยอายุที่ยืนขึ้น . เรียกได้ว่าถ้า “ท่อยังไม่ตัน” เมื่อแก่ตัวไป ทุกคนกำลังก้าวเดินไปสู่ภาวะ “ท่อกำลังจะตัน” . ดังนั้น ถ้าจะว่ากันในแง่หนึ่งแล้ว นี่คือ “โรคของทุกคน” ที่ในทางเทคนิค ในปัจจุบันยังไม่มี “ยารักษา” ใดๆ ที่จะแจกจ่ายให้ทุกๆ คนกินทีเดียวแล้วหายได้ 8.แต่ก็อย่างที่บอกไว้ในชื่อเรื่อง ต่อไปนี้โรคหัวใจอาจเป็นแค่อดีต . เพราะเมื่อต้นปี 2020 ในขณะที่ชาวโลกกำลังตื่นตระหนกกับโรคระบาดใหม่อย่างโควิด-19 นักวิจัยกลุ่มหนึ่งได้ตีพิมพ์งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาหลักๆ คือพวกเขาค้นพบอนุภาคนาโนที่จะ “คืนชีพ” ให้พวกเซลล์ภูมิคุ้มกันที่กินคอเลสเตอรอลแล้วตายในผนังหลอดเลือด ให้ฟื้นขึ้นมากินพวกคอเลสเตอรอลและซากเซลล์ที่ตายไปแล้วในผนังหลอดเลือด . ผลก็คือ สิ่งที่ไปพอกผนังหลอดเลือดจน “แข็งตัว” ก็จะค่อยๆ ลดลงไป และผนังหลอดเลือดก็จะเป็นปกติในที่สุด . หรือพูดให้มันง่ายกว่านั้น “อนุภาคนาโน” ก็คือ “น้ำยาล้างท่อ” ของ “ภาวะท่อตัน” ในหลอดเลือดนั่นเอง . เรียกได้ว่ามีอนุภาคนี้คือจบเลย เราไม่ต้องรู้ด้วยซ้ำว่า “ท่อตัน” ตรงไหน ฉีดเข้าไปในเลือด อนุภาคนี้จะค่อยๆ จัดการท่อที่ตันเอง ไม่ต่างจากที่คุณเทน้ำยาล้างท่อตอนต่อตัน คุณไม่ต้องรู้หรอกว่ามันตันตรงส่วนไหน น้ำยาจัดการให้หมด . และนี่ก็ไม่ใช่แค่คอนเซปต์ลอยๆ เพราะขณะนี้ อนุภาคนี้ทดลองในหนูสำเร็จแล้ว และก็ไม่แปลกเลยที่อีกไม่นานก็น่าจะได้ทดลองในมนุษย์แน่ๆ . ถ้าสำเร็จ ถึงตอนนั้น คนที่ต้องกินยาทุกวันไปตลอดชีวิตก็อาจไม่ต้องกินกันอีกแล้ว . และถ้ามากไปกว่านั้น นี่อาจเป็นการบอกลาโรคหัวใจและหลอดเลือดสำหรับคนแทบทั้งหมดในโลกก็เป็นได้ อ้างอิง: ScienceDaily. Nanoparticle chomps away plaques that cause heart attacks. https://bit.ly/3dzPx9V NHI. Plaque-eating nanoparticles may help prevent heart attacks. https://bit.ly/3iTUNX2 #Nanoparticle Cr.BrandThinkไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยเศรษฐีอินเดียแห่เช่าเหมาลำ บินหนีโควิด-19 บางลำบินเข้าไทย🛬#เพื่อนบอกโปร - เศรษฐีอินเดียแห่เช่าเหมาลำ บินหนีโควิด-19 บางลำบินเข้าไทย🛬 . 🦠 สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่อินเดีย มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงกว่าวันละ 300,000 คน ทำลายสถิติโลกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ทำสถิติสูงสุดในวันเสาร์ที่ 24 เม.ย. 64 จำนวน 346,786 คน . การระบาดหนักรุนแรงทำให้หลายประเทศทั่วโลก มีคำสั่งห้ามผู้เดินทางจากประเทศอินเดียเดินทางเข้าประเทศเพื่อป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย เล็ดลอดเข้าประเทศ . ในระหว่างนี้เศรษฐีอินเดียจึงพากันช่วงชิงโอกาสเดินทางไปยังประเทศที่ยังไม่มีมาตรการห้ามผู้เดินทางจากอินเดียเข้าประเทศ . สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนเศรษฐีอินเดียในช่วงนี้ ส่งผลให้ราคาตั๋วเครื่องบินโดยสารพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว . สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ราคาตั๋วเครื่องบินเมื่อวันศุกร์ที่ 23 เม.ย. เที่ยวบินจากเมืองมุมไบไปยังดูไบ ราคาพุ่งขึ้น 10 เท่าตัว และราคาตั๋วจากกรุงนิวเดลีไปยังดูไบพุ่งขึ้น 5 เท่าตัว . สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประกาศระงับเที่ยวบินไปยังประเทศอินเดียตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 25 เม.ย. 64 . เที่ยวบินจากอินเดียไปยังดูไบในวันเสาร์ที่ 24 เม.ย. เต็มทุกเที่ยวบิน . สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า เครื่องบินเจ็ตเช่าเหมาลำก็บินออกจากอินเดียกันขวักไขว่ . “ลูกค้าส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดบินไปดูไบ แต่มีบางรายที่บินไปประเทศไทย” บริษัทบริการเครื่องบินเช่าเหมาลำรายหนึ่งบอกกับเอเอฟพี . 📲 แหล่งข่าว : https://bit.ly/3njqsVE ภาพจาก AP . #เพื่อนบอกข่าวโควิด 2019Mrs.Doubt• 5 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ จังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศเขตพื้นที่สีแดงภายในจังหวัดเนื่องจากโควิด19จังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศพื้นที่สีแดงภายในจังหวัด และขอความร่วมมืองดการเข้าออกพื้นที่สีแดงโควิด 2019nutyty_MJU• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกินข้าวมื้อเย็นแล้วจะลดความอ้วนจริงหรือการกินข้าวตอนเย็นทำให้สามารถลดไขมันได้เร็วขึ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นมื้อใหญ่ก็ตามอาย• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยดื่มปัสสาวะรักษาโรคได้ว่ากันว่า นี่คือเรื่องจริงซึ่งมีการระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ในสารานุกรมถูกตีพิมพ์ในประเทศเยอรมนีเมื่อปี 2390 การันตีถึงสูตรยาผสมน้ำปัสสาวะ สามารถใช้ทารักษาอาการผมร่วง ใช้หยอดตารักษาอาการเจ็บตา ใช้กลั้วคอแก้อาการเจ็บคอ ใช้ดื่มรักษาโรคดีซ่าน ฯลฯ ประจวบเหมาะกับความเชื่อของคนไทยแต่โบราณ ที่ยึดถือปฏิบัติในคนบางกลุ่ม เช่น การใช้ผ้าอ้อมชุบน้ำปัสสาวะเด็กแล้วกวาดลิ้นเด็กเพื่อแก้อาการฝ้าขาว, ใช้น้ำปัสสาวะทาหรือปัสสาวะรดบริเวณแผลที่ถูกแมลงต่อย เพื่อบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนยาสมุนไพรมีมstd47625• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปลุกกระแส “เกลียดกลัวอิสลาม”ข้อมูลเท็จและข้อมูลบิดเบือนที่ยุยงให้เกิดความเกลียดกลัวอิสลาม (Islamophobia) ถูกนำมาใช้โจมตีทางการเมืองเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่านักการเมืองหรือพรรคการเมืองนั้นให้ความสำคัญกับศาสนาอิสลามมากกว่าศาสนาพุทธ รวมทั้งกล่าวหาว่าเป็นส่วนหนึ่งของ “ขบวนการกลืนชาติ” ที่บ่อนทำลายพระพุทธศาสนาเพื่อให้ไทยกลายเป็น “รัฐอิสลาม” ตัวอย่างเช่น ข้อมูลเท็จที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและภรรยา นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นข้อมูลเท็จที่ไหลเวียนอยู่ในโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันสนทนามาไม่ต่ำกว่า 7 ปี แต่ถูกนำกลับมาเผยแพร่ซ้ำในช่วงที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่การเลือกตั้งข่าวการเมืองภาคใต้ เสียดสีstd47625• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 3 คนสงสัยดื่มปัสสาวะรักษาโรคแปลกแต่จริง สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองไทยมายาวนาน และมีการเปิดเผย แสดงตัวชัดเจนกับ "วัฒนธรรมการดื่มน้ำฉี่ หรือปัสสาวะของตัวเอง" ถึงแม้คนหลายกลุ่มจะรู้สึก "ไม่เห็นด้วย" เพราะเหตุผลนานัปการ แต่คนที่ "ยึดถือปฏิบัติ" ก็ยังดื่มอย่างต่อเนื่องด้วยความเชื่อที่ว่าจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ จนกระทั่งล่าสุด มีร้านก๋วยเตี๋ยวเผยสูตรเด็ด นำปัสสาวะมาผสมลงในหม้อน้ำซุปอ้างว่าทำให้สุขภาพแข็งแรงรักษาโรคได้std46411• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยวัคซีนวัคซีนพิษสุนัขบ้า วัคซีนพิษสุนัขบ้า คือวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสเรบี (Rabies) โดยมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นพาหะ เช่น สุนัข แมว ลิง ค้างคาว ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะได้รับเชื้อจากการถูกกัดหรือข่วน การฉีดวัคซีนนี้จะช่วยป้องกันผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า โดยผลิตขึ้นมาจากเชื้อไวรัสเรบีที่ตายแล้ว เมื่อเข้าไปในร่างกาย เชื้อจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิdiazp121phoenix• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวัคซีนพิษสุนัขบ้าวัคซีนพิษสุนัขบ้า คือวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสเรบี (Rabies) โดยมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นพาหะ เช่น สุนัข แมว ลิง ค้างคาว ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะได้รับเชื้อจากการถูกกัดหรือข่วน การฉีดวัคซีนนี้จะช่วยป้องกันผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า โดยผลิตขึ้นมาจากเชื้อไวรัสเรบีที่ตายแล้ว เมื่อเข้าไปในร่างกาย เชื้อจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือไวรัสเรบีpocky18b• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 2 คนสงสัย"น้ำที่เข้าสู่ร่างกายกำหนดอายุขัยมนุษย์ได้" ผู้เขียน : ดร. เอฟ. แบทแมน ดร. แบทแมนเป็นลูกศิษย์ของอเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่ง ผู้ค้นพบเพนนิซิลินและผู้ได้รับรางวัลโนเบล เขาอุทิศชีวิตให้กับการศึกษาผลการบำบัดของน้ำ น้ำเพียงสองแก้วสามารถบรรเทาอาการปวดท้องรุนแรงที่เกิดจากแผลในกระเพาะอาหารได้ เขารักษาคนไข้มากกว่า 3,000 คนด้วยน้ำโดยไม่ต้องใช้ยา 1. เขาพบว่าน้ำสามารถรักษา: 1.1 โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง: เพราะน้ำสามารถเจือจางเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1.2 โรคกระดูกพรุน: เพราะน้ำสามารถทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้นในระหว่างการเจริญเติบโต 1.3 โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งต่อมน้ำเหลือง: เพราะน้ำสามารถขนส่งออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ได้ และเซลล์มะเร็งเป็นเซลล์ที่ไม่ใช้ออกซิเจน 1.4 ความดันโลหิตสูง: เพราะน้ำเป็นยาขับปัสสาวะตามธรรมชาติที่ดีที่สุด 1.5 โรคเบาหวาน: เพราะน้ำสามารถเพิ่มปริมาณทริปโตเฟนในร่างกายได้ 1.6 นอนไม่หลับ: เพราะน้ำสามารถผลิตสารควบคุมการนอนหลับตามธรรมชาติได้ - เมลาโทนิน 1.7 ภาวะซึมเศร้า: เพราะน้ำสามารถเพิ่มปริมาณเซโรโทนินในร่างกายได้ตามธรรมชาติ 2. บทนำเกี่ยวกับการดื่มน้ำ : 2.1 ควรดื่มน้ำบริสุทธิ์ 2 ถึง 3 ลิตรต่อวัน ดื่มหลังตื่นนอน 1-2 แก้ว และจิบทุกๆ ครึ่งชั่วโมงตลอดวัน(จะไม่ทำให้ฉี่บ่อย) อย่ารอจนกระหายน้ำจึงจะดื่มน้ำ 2.1.1 พยายามดื่มน้ำบริสุทธิ์แทนน้ำอัดลมและกาแฟ 2.1.2 คนสมัยใหม่ รวมถึงแพทย์ส่วนใหญ่ ไม่เข้าใจถึงความสำคัญของน้ำในร่างกายมนุษย์ 2.1.3 ยาสามารถบรรเทาอาการได้ แต่ไม่สามารถรักษาโรคที่เกิดจากการแก่ชราได้ 2.1.4 เราจะรู้ทันทีว่าสาเหตุของโรคต่างๆ มากมายก็คือการขาดน้ำ 2.1.5 การขาดน้ำในร่างกายทำให้เกิดความผิดปกติของการเผาผลาญน้ำ และความผิดปกติทางสรีรวิทยาในที่สุดก็นำไปสู่การเกิดโรคต่างๆ มากมาย 2.2 น้ำเป็นแหล่งที่มาของชีวิต : เหตุผลที่มนุษย์สามารถเติบโตบนบกได้ก็เพราะว่าร่างกายมีระบบกักเก็บน้ำที่สมบูรณ์ 2.2.1 ระบบนี้กักเก็บน้ำไว้ในร่างกายมนุษย์เป็นจำนวนมาก คิดเป็นประมาณ 75% ของน้ำหนักตัว 2.2.2 ด้วยเหตุนี้ มนุษย์จึงปรับตัวให้เข้ากับภาวะขาดแคลนน้ำชั่วคราวได้ในช่วงเวลาสั้นๆ 2.2.3 ในขณะเดียวกัน ร่างกายของมนุษย์ยังมีกลไกการจัดการภาวะขาดน้ำแคลนในร่างกายอีกด้วย เมื่อร่างกายมนุษย์ขาดน้ำ น้ำที่กักเก็บไว้ในร่างกายจะถูกกระจายอย่างเข้มงวด และอวัยวะที่สำคัญที่สุดจะได้รับน้ำและสารอาหารที่ขนส่งทางน้ำในปริมาณที่เพียงพอก่อน 2.2.4 ในการกระจายน้ำ สมองจะได้รับความสำคัญสูงสุด 2.2.5 สมองคิดเป็น 1/50 ของน้ำหนักร่างกายมนุษย์ แต่ได้รับการไหลเวียนของเลือดทั้งหมด 18%-20% และมีสัดส่วนของน้ำเท่ากัน 2.2.6 เมื่อร่างกายขาดน้ำ กลไกการจัดการภาวะขาดแคลนน้ำในร่างกาย จะให้ความสำคัญกับ อวัยวะที่สำคัญก่อน ดังนั้นอวัยวะอื่นๆ จะได้รับน้ำไม่เพียงพอ 2.2.7 ในเวลานี้ พวกมันจะส่งสัญญาณเตือน ซึ่งบ่งชี้ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งขาดน้ำ 3. ผู้เขียนเป็นแพทย์มาหลายปี และมักพบสถานการณ์นี้บ่อยครั้ง: เป็นสัญญาณจากร่างกายอย่างชัดเจนว่าน้ำกำลังขาดแคลนและจำเป็นต้องเติมน้ำอย่างเร่งด่วน แต่ผู้คนใช้ยาเคมีเพื่อจัดการกับสัญญาณการขาดแคลนน้ำเหล่านี้ น่าเสียดายที่ความผิดพลาดนี้จะยังคงดำเนินต่อไป อาการของร่างกายจะค่อยๆ พัฒนาขึ้น และภาวะขาดน้ำจะซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ 3.1 อย่าดื่มน้ำแข็งเปล่า (น้ำผสมน้ำแข็ง หรือน้ำแช่เย็น) ผู้คนเทน้ำ 0℃ ลงในกระเพาะที่อุณหภูมิ 37℃ แต่ปัสสาวะกลับร้อน ซึ่งก็คืออุณหภูมิของร่างกายที่ 37℃ 3.2 อะไรเปลี่ยนน้ำที่เย็น 0℃ ให้เป็นปัสสาวะที่อุณหภูมิ 37℃ เขาคือม้ามและกระเพาะ เมื่อม้ามและกระเพาะอาหารไม่สามารถทนรับเครื่องดื่มที่เย็นขนาดนั้นได้ พวกเขาจะดึงเอาสิ่งสำคัญ (พลังชีวิต) จาก "ไต" แล้วนำมาแปลงเป็นพลังงานความร้อนเพื่อปรุง ให้ร่างกายกลับมาที่อุณหภูมิ 37℃ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สกัดออกมาจากไตจะทำให้ไตของคุณอ่อนแอ 4. หากคุณชอบดื่มน้ำเย็น ไตของคุณจะอ่อนแอ ซึ่งจะส่งผลต่อความจำของคุณ ทำให้คุณต้องนั่งรถเข็นเมื่อแก่ชรา และทำลายกระดูกของคุณ... ※อุณหภูมิที่ส่งเข้าสู่ร่างกายจะกำหนดอายุขัยของคุณ Cr : บทความภาษาอังกฤษ จาก ห้อง TRAFS Chat Room บันทึกโดย taew lalida - อนามัย อภัยโส แปลสุขภาพไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยใครชอบกินมะม่วงต้องอ่าน!!! เปิดอนาคตวงการแพทย์ คิดไม่ถึงว่า "มะม่วง" จะส่งผลต่อร่างกายขนาดนี้ ถ้าไม่อ่าน ระวังคุยกับคนทั้งโลกไม่รู้เรื่อง!!! ถ้าพูดถึงผลไม้ที่คนไทยนิยมทานกันอย่างแพร่หลาย เชื่อว่าหนึ่งในตัวเลือกของคุณต้องมี "มะม่วง" อยู่อย่างแน่นอน ทั้งมะม่วงเปรี้ยว มะม่วงมัน มะม่วงน้ำปลาหวาน แต่ละเมนูทำเอาเปรี้ยวปากทั้งนั้น แต่ความเด็ดของมะม่วงไม่ได้มีดีแค่รสชาติเท่านั้น แต่มะม่วงยังมีประโยชน์ต่อร่างกายชนิดที่คุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว มะม่วงนั้นไม่ว่าจะกินตอนดิบหรือสุกแล้วก็อร่อยไม่แพ้กัน แต่ก็มีหลายคนไม่ชอบทาน เพราะเชื่อว่ามะม่วงมีแป้งเยอะ ทานแล้วจะทำให้อ้วน หารู้ไม่ว่ามะม่วงนี่ล่ะคือผลไม้มากคุณประโยชน์ที่รู้แล้วต้องกรี๊ด วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปพบกับข้อมูลคุณประโยชน์ของมะม่วงอันน่าตื่นตาตื่นใจ ว่าจะดีจริงหรือไม่ รับประทานแล้วจะอ้วนหรือเปล่า ต้องอ่านไม่งั้นเดี๋ยวคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องนะ มะม่วง เป็นผลไม้ที่มีไขมันอิ่มตัว คอเลสเตอรอล และโซเดียมต่ำ และยังเป็นแหล่งอาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์ วิตามินบี 6 วิตามินเอ และวิตามินซี รวมทั้งโพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี นอกจากนี้ก็ยังมีเควอซิทิน (Quercetin) เบต้าแคโรทีน (Beta Carotine) กรดโฟลิก และ แอสตรากาลิน (astragalin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีทรงพลัง ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคหัวใจ ริ้วรอยก่อนวัย โรคมะเร็ง หรือภาวะเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระ ลองมาดูกันสิว่ามะม่วง มีแร่ธาตุและวิตามินที่มีประโยชน์ขนาดนี้ แล้วคุณประโยชน์จะมีมากขนาดไหนกัน บอกได้เลยว่าเพียบ ! 1. ช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต มะม่วงเป็นผลไม้ที่สามารถลดระดับความดันโลหิตได้ เพราะในมะม่วงมีสารอาหารที่สำคัญต่อระบบการไหลเวียนของเลือดอย่างโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ทำให้ระดับความดันโลหิตถูกควบคุมให้อยู่ในระดับที่ปกติ นอกจากนี้มะม่วงยังมีวิตามินอีที่ช่วยเสริมสร้างฮอร์โมนเพศอีกด้วย 2. ป้องกันโรคมะเร็ง สารประกอบฟีนอล ที่พบในมะม่วงอย่างเช่น เควอซิทิน (Quercetin) ไอโซเควอซิทริน (isoquercitrin) แอสตรากาลิน (astragalin) ไฟเซติน (fisetin) เมทิลแกทเลท (methylgallat) มีฤทธิ์เป็นสารต้านนุมูลอิสระที่ทำหน้าที่ในการตอต้านการเกิดโรคมะเร็ง นอกจากนี้ในมะม่วงก็ยังมีเพคติน (pectin) สูง และมีผลการวิจัยพบว่าสารเพคตินนี่ล่ะที่มีผลต่อการป้องกันการเกิดมะเร็งในระบบทางเดินอาหารได้ 3. ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารขอแนะนำให้รับประทานมะม่วงเลยล่ะ เพราะในมะม่วงนั้นมีเอนไซม์ที่ช่วยย่อยสลายโปรตีนให้ง่ายต่อการดูดซึมของร่างกาย ขณะที่ไฟเบอร์ในมะม่วงก็สามารถช่วยในการย่อยอาหารได้อีกด้วย 4. ป้องกันโรคหัวใจ วิตามินเอและวิตามินอีในมะม่วงรวมทั้งซีลีเนียม (Selenium) สามารถช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ ไม่เพียงเท่านั้นในมะม่วงยังมีวิตามินบี 6 ที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจด้วยการลดระดับโฮโมซิสเตอีน (Homocysteine) เพราะเจ้าโฮโมซิสเตอีนนี่เป็นกรดอะมิโนที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับผนังหลอดเลือดได้ อันเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจนั่นเอง 5. ลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ในร่างกาย เพคตินและวิตามินซีในมะม่วงเป็นพระเอกที่ขาดไม่ได้เลย เพราะสารอาหารทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีในร่างกายได้ แต่ทั้งนี้ผู้ที่ป่วยด้วยโรคไขมันในเลือดสูงก็ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนจะรับประทานจะดีกว่า 6. บำรุงสมอง วิตามินบี 6 ในมะม่วงนอกจากจะช่วยป้องกันโรคหัวใจแล้ว ก็ยังช่วยป้องกันและสร้างเสริมการทำงานของสมอง เพราะเจ้าวิตามินบี 6 นี้มีส่วนสำคัญในการทำงานของสารสื่อประสาทที่มีส่วนช่วยในการกำหนดอารมณ์และรูปแบบในการนอนหลับ การเติมมะม่วงลงไปในอาหารจะช่วยให้ร่างกายได้รับกลูตาไมน์ (Glutamine) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้สมองสามารถจดจำและมีสมาดีขึ้น และยังทำให้เซลล์สมองตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย 7. รักษาโรคเบาหวาน โรคเบาหวาน วิธีการดูแลตัวเองที่ดีที่สุดคืออการไม่รับประทานของหวาน ซึ่งมะม่วงก็เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงแต่ขอบอกไว้เลยว่ามะม่วงนี่ล่ะช่วยรักษาโรคเบาหวานได้ เพียงแค่นำใบมะม่วง 10-15 ใบแช่ลงในน้ำอุ่นและปิดฝาให้สนิททิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นในตอนเช้านำน้ำนี้มาดื่มในขณะที่ท้องว่าง จะสามารถช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ วิธีนี้สามารถรับประทานได้ทั้งคนที่เป็นเบาหวานหรือไม่เป็นก็ได้หากผู้ที่มีสุขภาพปกติดื่มน้ำแช่ใบมะม่วงก็จะยิ่งช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้ดียิ่งขึ้น 8. บำรุงสายตา มะม่วงมีวิตามินเอสูง ดังนั้นจึงช่วยบำรุงสายตาให้ยังใสปิ๊งปั๊งอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยป้องการการเสื่อมของจอประสาทตาเมื่ออายุมากขึ้นได้อีกด้วยค่ะ 9. บำรุงผิวพรรณ ต้องยกความดีความชอบให้กับวิตามินเออีกครั้งเพราะวิตามินเอในมะม่วงนั้นมีคุณประโยชน์เพียบพร้อมจริง ๆ แม้แต่ในเรื่องผิวพรรณ การรับประทานมะม่วงทำให้เราได้รับวิตามินเอที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในเนื้อเยื่อและผิวหนัง ช่วยให้การอุดตันของรูขุมขนลดลงส่งผลให้ผิวพรรณเรียบเนียนได้ 10. รักษาสิว หากใครไม่ชอบทานมะม่วงแต่ก็อยากรักษาสิวให้หายโดยไม่พึ่งยาละก็ลองหันมาใช้มะม่วงในการรักษาได้ค่ะ เพราะเนื้อมะม่วงนี้แม้เราจะไม่ได้รับประทานแต่ก็สามารถใช้บำรุงผิวพรรณ ลดสิวบนใบหน้าที่กวนใจได้ เพียงฝานมะม่วงบาง ๆ วางใบหน้าทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้นล้างออก วิตามินเอในมะม่วงก็ช่วยลดการเกิดสิวได้เป็นปลิดทิ้งเลย 11. รักษาโรคโลหิตจางในหญิงที่ตั้งครรภ์ มะม่วงเปรี้ยว ๆ ถือเป็นของที่ถูกใจว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์เป็นอย่างมาก เพราะช่วยรักษาอาการแพ้ท้องได้เป็นอย่างดี แต่อย่าเพิ่งคิดว่ามะม่วงมีดีเพียงแค่นั้น เพราะมะม่วงก็มีธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อหญิงที่กำลังตั้งครรภ์เช่นเดียวกันเพราะหญิงตั้งครรภ์นั้นมักจะเกิดภาวะโลหิตจางได้ง่าย และการรับประทานมะม่วงก็จะช่วยให้ธาตุเหล็กอันเป็นสาเหตุของโรคโลหิตจางมีระดับสูงขึ้นอยู่ในเกณฑ์ปกติ 12. สร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย มะม่วงมีสารเบต้าแคโรทีมเช่นเดียวกับผักผลไม้มีสีส้มและสีเหลืองอื่น ๆ เช่น แครอท เป็นต้น โดยสารเบต้าแคโรทีนนั้นเป็นสารแคโรทีนอยด์อันมีคุณสมบัติในการสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ฉะนั้นถ้าไม่อยากป่วยง่ายก็ควรจะรับประทานมะม่วงเป็นประจำ จะทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับสารพิษและแบคทีเรียต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น โอ้โห! ประโยชน์ดีเพียบพร้อมขนาดนี้ จะให้เมินมะม่วงก็คงจะไม่ใช่เรื่องแล้วใช่ไหมล่ะ แต่จะเลือกมะม่วงดิบหรือมะม่วงสุกก็ว่ากันไป ที่สำคัญคือห้ามลืมว่ามะม่วงสุกมีน้ำตาลสูง ไม่อยากอ้วนละก็อย่ารับประทานจนเกินพอดีละ ไม่อย่างนั้นจะได้รอบเอวหนา ๆ มาเพิ่มด้วยจะร้องไม่ออกนะจะบอกให้ นี่คือข้อดีของมะม่วง เมื่อผู้ป่วย เป็นโรคมะเร็งเราจะให้เข้าคอร์สกินข้าวสวยมะม่วงเกลือผลไม้อื่นๆ 10 วัน ทุกคน กินผ่านวิกฤตของอาการป่วยได้ เพราะมันคือยาฆ่าเชื้อ และมีแร่ธาตุวิตามิน เสริมให้กับร่างกายครบถ้วนสมบูรณ์แล้วร่างกายฟื้นขึ้นมาเร็วและสามารถขับของเสีย จนร่างกายมีภูมิต้านทานสู้กับโรคได้สุขภาพมะเร็งยาสมุนไพรไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวันนี้ ขอ กราบ ไหว้ ประเทศไทย และ คนไทยเราทุกคน ที่ได้ช่วยสร้างชาติ มาตลอด มาดูว่า ประเทศไทย ในสังคมโลกเป็นอย่างไร,,,, อย่าลืมกด see all ซ้ายล่าง นะครับ จะได้อ่านให้ครบ ********************* สถานภาพของประเทศไทยที่ถูกต้อง…ที่คนไทยควรทราบความจริง ====== 1. ในบรรดาประเทศ…ที่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ…เกือบ 200 ประเทศ …แต่ มีประเทศ…ที่มีคุณสมบัติเพียงพอ…ที่จะเป็นสมาชิกขององค์การ การค้าโลก จำนวน 156 ประเทศ เท่านั้น…สำหรับประเทศไทย…มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่…เป็นอันดับที่ 31 ของโลก 2. ไทย…เป็นตลาดที่มีกำลังซื้ออันดับที่ 24 ของโลก…ดังนั้น…อียู และ…อเมริกาจืงกระตือรือร้น…ที่จะมาขอทำเขตการค้าเสรี …ที่เรียกว่า Free Trade Area กับไทย 3. ประเทศไทย…เป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับที่ 28 ของโลก…ซื่งแสดงว่า …ถ้าประเทศไทยส่งออกไม่ได้ …หรือ มีปัญหาการส่งออก…ก็ทำให้โลกวุ่นได้เหมือนกัน… เห็นกันมาแล้ว…ในตอนที่รัฐบาลบริหารงานน้ำไม่เป็น …ในปี 2554…ที่เกิดอุทกภัยใหญ่…นิคมอุตสาหกรรม 7 แห่ง…ถูกน้ำท่วม…การผลิตรถยนต์ …การผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ชะงัก …ทำให้วุ่นวายไปหมดทั้งโลก ~ เมื่อไทยเกิดวิกฤติการเงิน…ก็ส่งผลให้ลามไปทั้งเอเซีย …รัสเซีย …ยุโรปด้วย …ไปจนถืงละตินอเมริกา ……เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว…ในคราววิกฤติต้มยำกุ้ง 4. CIA แอบรวบรวมข้อมูล…เงินต่างประเทศที่ไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แล้วตะลืงว่า…ไทยมีถืง 200 พันล้านเหรียญ …อันนี้เป็นลงทุนจริงๆ …ไม่ใช่เงินในตลาดหุ้น …เป็นที่อิจฉาของประเทศใกล้เคียงมากพอสมควร ~ เวียดนาม…ได้ทุ่มสุดตัว…สร้างโรงกลั่นน้ำมัน …ปรากฏว่า…กลั่นไม่ได้เรื่อง …น้ำมันที่ได้คุณภาพต่ำ …ต่างจากฝีมือวิศวกรไทย …นักเคมีไทย …ไทยเป็น…ประเทศผู้กลั่นน้ำมันที่สำคัญของเอเชีย 5. เทียบกันทั่วโลกแล้ว …ประเทศไทย…จัดว่า…เป็นประเทศที่การลงทุนทำได้ง่ายเป็นอันดับที่ 17 ของโลก… เท่าๆแคนาดา …และเยอรมัน …เช่น กู้เงินได้เร็ว …ก่อสร้างได้เร็ว …หาคนทำงานได้เร็ว …จดทะเบียนบริษัทได้เร็ว 6. ไทย …เป็นประเทศที่ส่งออกและนำเข้า…อันดับที่ 20 ของโลก……ประเทศไทยทำได้ไม่เลว … 7. ไทย ทำรายได้จากอุตสาหกรรม…ฐานความรู้ ความชำนาญเป็นอันดับที่ 30 ของโลก 8. ไทย เป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมอันดับ 17 ของโลก 9. ประเทศไทย…ผลิตสินค้าเกษตร…เป็นอันดับที่ 11 ของโลก 10. ไทย…เป็นผู้ส่งออกอาหาร…อันดับ 6 ของโลก พอๆกับเดนมาร์ก ออสเตรเลีย 11. ประเทศไทย มีนักท่องเที่ยว…เข้ามาเป็นอันดับที่ 19 ของโลก 12. ไทย ขายบริการสนามบิน…ได้เป็นอันดับที่ 17 ของโลก 13. กรุงเทพและลอนดอน…แย่งกันเป็นเมืองอันดับหนึ่ง…ด้านการท่องเที่ยวของโลก …มาหลายปี …ในที่สุด…กรุงเทพได้คะแนนจากชาวต่างชาติเป็นอันดับ 1 ของโลก 14. ประเทศไทย…มีสำรองเงินตราต่างประเทศ…อันดับ 12 ของโลก สูงกว่าเยอรมัน ค่าเงินเสถียรมาก แข็งเหมือนกับเงินสวิสเซอร์แลนด์ ถือเป็น Safe Haven ของโลกด้านการเงิน… ในขณะนี้…ถือว่า…พวกเราโชคดี…ที่อยู่ในประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ…และ…เราจะเจริญรุ่งเรืองต่อไป 15. เมื่อเดือนกรกฏาคม 2554 ธนาคารโลก…เลื่อนประเทศไทย…ขื้นสู่ประเทศกลุ่มรายได้ปานกลางขั้นสูง …upper middle income country …เพราะเขาบอกว่ารายได้เข้าเกณท์มาตั้งแต่ปี 2551 … 16. ประเทศไทย…มีอัตราคนว่างงานต่ำ…เป็นอันดับ 2 ของโลก แถมยังมีคนต่างชาติมาทำงานอีกประมาณ 3.7 ล้านคน แสดงว่า…ไทยมีงานเกินจำนวนแรงงานคนในชาติ ~ การที่เรามีการทำเขตเศรษฐกิจเสรี…กับออสเตรเลีย …นิวซีแลนด์ …จีน …อินเดีย …อาเซียน …เกาหลี …รวมประชากร…ร่วม 2,000 ล้านคน …90 % ของสินค้าในกลุ่มอาเซียน…ภาษีเท่ากับศูนย์ …เมกา กับยุโรป…จืงต้องการเข้ามาร่วมมาก 17. ค่าครองชีพเมืองไทย…อยู่ที่อันดับ 81 ของโลก…ถูกกว่าพม่า… อินโดเยอะ 18. ไทยถูกจัดเป็นประเทศ…ที่น่าลงทุนอันดับ 8 ของโลก 19. ถ้าคนในโลกจะเกษียนอายุ …ผลการสำรวจบอกว่า…เมืองไทยเหมาะมาก ที่จะมาใช้ชีวิตหลังเกษียณในไทย…ในอันดับ 9 ของโลก 20. ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออก…ดิสค์อันดับ 1 ของโลก ส่งออกยาง และ น้ำตาลอันดับ 2 ของโลก…ส่งข้าวออก…เป็นที่ 6 ของโลก ส่งรถยนต์ไปขายอันดับที่ 15 ของโลก … ไทยเป็นผู้ผลิตส่งออก…หมู ไก่ ไข่ เป็ด ชั้นนำ ผัก ผลไม้เพียบ ต่อไปจะส่งดอกไม้…ตีตลาดโลก…แบบโคแวนท์ มาร์เกตของอังกฤษ 21. คนต่างชาติ…ชอบมาอยู่เมืองไทย …มาทำงานเมืองไทย… ที่พักระดับดีถูกสุดในเอเชีย …อาหารดี …โรงพยาบาลดี ทุกสถานทูตในย่านเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทใหญ่ๆ …ในเวียดนาม ลาว กัมพูชา ตะวันออกกลาง…มาใช้บริการทางการแพทย์ของไทย…การแพทย์ไทยดังมาก…อยู่ประเทศอื่น…ต้องมาใช้บริการรักษาพยาบาลในเมืองไทย …มีโรงเรียนอินเตอร์ชั้นนำหลายสิบแห่ง …เที่ยวได้ทั้งคืน …กินเหล้าได้ทั้งคืน …มีทะเลภูเขา …ป่าไม้ …มีอาหารทุกชาติ …ห้างใหญ่สุด…ให้เมียได้เดินช้อปปิ้งเป็นวันๆ… รถไฟฟ้าก็มี …เป็นเมืองของหนุ่มสาว …บรรยากาศทั่วไปปลอดภัยดีกว่าอีกหลายประเทศมาก 22. คนไทย…ต้อนรับคนทุกศาสนา…ทุกคน… มีเสรีภาพในการ…เป็นเกย์ ทอม ดี้ เลสเบี้ยน 23. ไทย มี ระบบคมนาคม…ดีกว่าจาร์กาต้า …ฮานอยเยอะ 24. ในเมืองไทย คุณหาห้องน้ำสะอาดได้ทั่วไป …เรื่องนี้สำคัญสุดๆ…สำหรับผู้หญิงทุกคน 25. สถานทูตอเมริกัน…ขนชาวอเมริกันมารับเอกสิทธิ์ทางการทูต…มาอยู่กันในไทย…มากกว่า 4,000 คน อาจมีจำนวนคนในสถานทูตอเมริกัน มากกว่าคนในสถานทูตอเมริกัน…ที่ไปอยู่ในประเทศอื่นๆก็ได้ 26. คนไทยส่วนใหญ่ …มีนิสัยดี …มีกาละเทศะ …ไม่วุ่นวายเหมือนคนชาติอื่น ให้เกียรติคนต่างชาติ 27. ประเทศไทย…อากาศไม่ร้อนจัด …ไม่เย็นจัด…เหมือนประเทศอื่น 28. เมืองไทย…น่าอยู่ …น่าทำงาน …คนแพรคติคอล …ดีกว่าคนในประเทศอื่น 29. ชาวต่างชาติ …ยกย่องวัฒนธรรมไทย…ว่าสูงเด่น …เข้มแข็ง …เป็นอันดับ 8 ของโลก ~ ต้องการบอกกล่าว …ความจริงในเรื่องราวเหล่านี้…ให้คนไทย…ลูกหลานของเรา …นักเรียนของเรา…ภูมิใจในความเป็นคนไทย…ในชาติไทยของเรา… บอกเล่าให้เพื่อนต่างชาติของคุณได้ทราบ… เพื่อเขาจะได้รู้จักประเทศไทยมากขึ้น…เพื่อท่านและลูกหลานของท่าน…จะได้รู้จักและภูมิใจในประเทศของตนเอง และ…จะได้รู้ว่าคนรุ่นก่อนๆ…และ…บรรพบุรุษของเรา…ได้ร่วมกันสร้างประเทศนี้กันขื้นมา… ~ ขอให้ทุกคน…มีความกตัญญูต่อประเทศชาติมากขึ้น มาจากไลน์ครับ จากบทความความแข็งแกร่งของประเทศไทย ว่างๆจะปรับปรุงตัวเลขใหม่ ดีกว่าเดิมเยอะ . Cr-@สมเกียรติ โอสถสภาข่าวการเมืองสภาพอากาศไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 4 คนสงสัย🇹🇭🇹🇭🇹🇭เพื่อนบอกว่าหลงด่ารัฐบาล มานาน วันนี้ ขอกราบไหว้ประเทศไทยและคนไทยทุกคน ที่ได้ช่วยสร้างชาติมาตลอด มาดูกันว่าประเทศไทย ในสังคมโลกเป็นอย่างไร.. สถานภาพของประเทศไทยที่ถูกต้อง… ที่คนไทยควรทราบความจริง (ก่อนมีโรคระบาดโควิด) 1.ในบรรดาประเทศ…ที่เป็นสมาชิกของสหประชา ชาติเกือบ 200 ประเทศ …แต่ มีประเทศ…ที่มีคุณสมบัติเพียงพอ…ที่จะเป็นสมาชิกขององค์การ การค้าโลก จำนวน 156 ประเทศ เท่านั้น…สำหรับประเทศไทย…มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่…เป็นอันดับที่ 31 ของโลก 2. ไทย…เป็นตลาดที่มีกำลังซื้ออันดับที่ 24 ของโลก…ดังนั้น…EU และ…อเมริกาจืงกระตือรือร้น…ที่จะมาขอทำเขตการค้าเสรี …ที่เรียกว่า Free Trade Area กับไทย 3. ประเทศไทย…เป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับที่ 28 ของโลก…ซื่งแสดงว่า …ถ้าประเทศไทยส่งออกไม่ได้ …หรือ มีปัญหาการส่งออก…ก็ทำให้โลกวุ่นได้เหมือนกัน… เห็นกันมาแล้ว…ในตอนที่รัฐบาลบริหารงานน้ำไม่เป็น …ในปี 2554…ที่เกิดอุทกภัยใหญ่…นิคมอุตสาหกรรม 7 แห่ง…ถูกน้ำท่วม…การผลิตรถยนต์ …การผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ชะงัก …ทำให้วุ่นวายไปหมดทั้งโลก ~ เมื่อไทยเกิดวิกฤติการเงิน…ก็ส่งผลให้ลามไปทั้งเอเซีย …รัสเซีย …ยุโรปด้วย …ไปจนถืงละตินอเมริกา ……เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว…ในคราววิกฤติต้มยำกุ้ง 4. CIA แอบรวบรวมข้อมูล…เงินต่างประเทศที่ไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แล้วตะลืงว่า…ไทยมีถืง 200 พันล้านเหรียญ …อันนี้เป็นลงทุนจริง ๆ …ไม่ใช่เงินในตลาดหุ้น …เป็นที่อิจฉาของประเทศใกล้เคียงมากพอสมควร ~ เวียดนาม…ได้ทุ่มสุดตัว…สร้างโรงกลั่นน้ำมัน …ปรากฏว่า…กลั่นไม่ได้เรื่อง …น้ำมันที่ได้คุณภาพต่ำ …ต่างจากฝีมือวิศวกรไทย …นักเคมีไทย …ไทยเป็น…ประเทศผู้กลั่นน้ำมันที่สำคัญของเอเชีย 5. เทียบกันทั่วโลกแล้ว …ประเทศไทย…จัดว่า…เป็นประเทศที่การลงทุนทำได้ง่ายเป็นอันดับที่ 17 ของโลก… เท่า ๆ แคนาดา …และเยอรมัน …เช่น กู้เงินได้เร็ว …ก่อสร้างได้เร็ว …หาคนทำงานได้เร็ว …จดทะเบียนบริษัทได้เร็ว 6. ไทย …เป็นประเทศที่ส่งออกและนำเข้า…อันดับที่ 20 ของโลก……ประเทศไทยทำได้ไม่เลว … 7. ไทย ทำรายได้จากอุตสาหกรรม…ฐานความรู้ ความชำนาญเป็นอันดับที่ 30 ของโลก 8. ไทย เป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมอันดับ 17 ของโลก 9. ประเทศไทย…ผลิตสินค้าเกษตร…เป็นอันดับที่ 11 ของโลก 10. ไทย…เป็นผู้ส่งออกอาหาร…อันดับ 6 ของโลก พอ ๆ กับเดนมาร์ก ออสเตรเลีย 11. ประเทศไทย มีนักท่องเที่ยว…เข้ามาเป็นอันดับที่ 19 ของโลก 12. ไทย ขายบริการสนามบิน…ได้เป็นอันดับที่ 17 ของโลก 13. กรุงเทพและลอนดอน…แย่งกันเป็นเมืองอันดับหนึ่ง…ด้านการท่องเที่ยวของโลก …มาหลายปี …ในที่สุด…กรุงเทพได้คะแนนจากชาวต่างชาติเป็นอันดับ 1 ของโลก 14. ประเทศไทย…มีสำรองเงินตราต่างประเทศ…อันดับ 12 ของโลก สูงกว่าเยอรมัน ค่าเงินเสถียรมาก แข็งเหมือนกับเงินสวิสเซอร์แลนด์ ถือเป็น Safe Haven ของโลกด้านการเงิน… ในขณะนี้…ถือว่า…พวกเราโชคดี…ที่อยู่ในประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ…และ…เราจะเจริญรุ่งเรืองต่อไป 15. เมื่อเดือนกรกฏาคม 2554 ธนาคารโลก…เลื่อนประเทศไทย…ขื้นสู่ประเทศกลุ่มรายได้ปานกลางขั้นสูง …upper middle income country …เพราะเขาบอกว่ารายได้เข้าเกณท์มาตั้งแต่ปี 2551 … 16. ประเทศไทย…มีอัตราคนว่างงานต่ำ…เป็นอันดับ 2 ของโลก แถมยังมีคนต่างชาติมาทำงานอีกประมาณ 3.7 ล้านคน แสดงว่า…ไทยมีงานเกินจำนวนแรงงานคนในชาติ ~ การที่เรามีการทำเขตเศรษฐกิจเสรี…กับออสเตรเลีย …นิวซีแลนด์ …จีน …อินเดีย …อาเซียน …เกาหลี …รวมประชากร…ร่วม 2,000 ล้านคน …90 % ของสินค้าในกลุ่มอาเซียน…ภาษีเท่ากับศูนย์ …เมกา กับยุโรป…จืงต้องการเข้ามาร่วมมาก 17. ค่าครองชีพเมืองไทย…อยู่ที่อันดับ 81 ของโลก…ถูกกว่าพม่า… อินโดเยอะ 18. ไทยถูกจัดเป็นประเทศ…ที่น่าลงทุนอันดับ 8 ของโลก 19. ถ้าคนในโลกจะเกษียนอายุ …ผลการสำรวจบอกว่า…เมืองไทยเหมาะมาก ที่จะมาใช้ชีวิตหลังเกษียณในไทย…ในอันดับ 9 ของโลก 20. ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออก…ดิสค์อันดับ 1 ของโลก ส่งออกยาง และ น้ำตาลอันดับ 2 ของโลก…ส่งข้าวออก…เป็นที่ 6 ของโลก ส่งรถยนต์ไปขายอันดับที่ 15 ของโลก … ไทยเป็นผู้ผลิตส่งออก…หมู ไก่ ไข่ เป็ด ชั้นนำ ผัก ผลไม้เพียบ ต่อไปจะส่งดอกไม้…ตีตลาดโลก…แบบโคแวนท์ มาร์เกตของอังกฤษ 21. คนต่างชาติ…ชอบมาอยู่เมืองไทย …มาทำงานเมืองไทย… ที่พักระดับดีถูกสุดในเอเชีย …อาหารดี …โรงพยาบาลดี ทุกสถานทูตในย่านเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทใหญ่ๆ… ในเวียดนาม ลาว กัมพูชา ตะวันออกกลาง…มาใช้บริการทางการแพทย์ของไทย…การแพทย์ไทยดังมาก…อยู่ประเทศอื่น…ต้องมาใช้บริการรักษาพยาบาลในเมืองไทย …มีโรงเรียนอินเตอร์ชั้นนำหลายสิบแห่ง …เที่ยวได้ทั้งคืน …กินเหล้าได้ทั้งคืน …มีทะเลภูเขา …ป่าไม้ …มีอาหารทุกชาติ …ห้างใหญ่สุด…ให้เมียได้เดินช้อปปิ้งเป็นวันๆ… รถไฟฟ้าก็มี …เป็นเมืองของหนุ่มสาว …บรรยากาศทั่วไปปลอดภัยดีกว่าอีกหลายประเทศมาก 22. คนไทย…ต้อนรับคนทุกศาสนา…ทุกคน… มีเสรีภาพในการ…เป็นเกย์ ทอม ดี้ เลสเบี้ยน 23. ไทย มี ระบบคมนาคม…ดีกว่าจาร์กาต้า …ฮานอยเยอะ 24. ในเมืองไทย คุณหาห้องน้ำสะอาดได้ทั่วไป …เรื่องนี้สำคัญสุด ๆ…สำหรับผู้หญิงทุกคน 25. สถานทูตอเมริกัน…ขนชาวอเมริกันมารับเอกสิทธิ์ทางการทูต…มาอยู่กันในไทย…มากกว่า 4,000 คน อาจมีจำนวนคนในสถานทูตอเมริกัน มากกว่าคนในสถานทูตอเมริกัน…ที่ไปอยู่ในประเทศ อื่น ๆ ก็ได้ 26. คนไทยส่วนใหญ่ …มีนิสัยดี …มีกาละเทศะ …ไม่วุ่นวายเหมือนคนชาติอื่น ให้เกียรติคนต่างชาติ 27. ประเทศไทย…อากาศไม่ร้อนจัด …ไม่เย็นจัด…เหมือนประเทศอื่น 28. เมืองไทย…น่าอยู่ …น่าทำงาน …สภาพแวดล้อมดีกว่าคนในประเทศอื่น 29. ชาวต่างชาติ …ยกย่องวัฒนธรรมไทย…ว่าสูงเด่น …เข้มแข็ง …เป็นอันดับ 8 ของโลก ~ ต้องการบอกกล่าว …ความจริงในเรื่องราวเหล่านี้…ให้คนไทย…ลูกหลานของเรา …นักเรียนของเรา…ภูมิใจในความเป็นคนไทย…ในชาติไทยของเรา… บอกเล่าให้เพื่อนต่างชาติของคุณได้ทราบ… เพื่อเขาจะได้รู้จักประเทศไทยมากขึ้น…เพื่อท่านและลูกหลานของท่าน…จะได้รู้จักและภูมิใจในประเทศของตนเอง และ…จะได้รู้ว่าคนรุ่นก่อน ๆ…และ…บรรพบุรุษของเรา…ได้ร่วมกันสร้างประเทศนี้กันขื้นมา… ขอให้ทุกคน…มีความกตัญญูต่อประเทศชาติมากขึ้น จากความความแข็งแกร่งของประเทศไทย เครดิต......สมเกียรติ โอสถสภาข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยช่วยแบ่งปันโพสต์นี้ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ " การกินผลไม้ในตอนท้องว่าง " สิ่งนี้จะเปิดดวงตาของคุณ! อ่านให้จบ และส่งมันให้กับรายชื่อ e-list ของคุณทั้งหมด ฉันเพียงทำมัน ! ดร. สตีเฟ่น หมาก ทำการรักษาผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายโดยวิธีการ “Un-Orthodox”และผู้ป่วยจำนวนมากฟื้นตัว ก่อนที่เขาได้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อกำจัดการเจ็บป่วยของผู้ป่วยของเขา เขาเชื่อในการรักษาโดยทางธรรมชาติในร่างกายต่อความเจ็บป่วย ช่วยดูบทความของเขาด้านล่าง มันเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ในการรักษาโรคมะเร็ง เมื่อเร็วๆนี้ อัตราความสำเร็จของฉันในการรักษาโรคมะเร็งคือประมาณ 80% ผู้ป่วยโรคมะเร็งไม่ควรตาย การรักษาโรคมะเร็งถูกค้นพบแล้ว – มันอยู่ในวิธีที่เรากินผลไม้ ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ ฉันขอโทษสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งหลายร้อยคน ที่ตายภายใต้การรักษาธรรมดาทั่วไป " การกินผลไม้ " เราทุกคนคิดว่าการกินผลไม้ หมายถึงเพียงแค่ การซื้อผลไม้ ตัดมัน และก็ใส่มันเข้าไปในปากของเรา มันไม่ง่ายอย่างที่คุณคิด มันสำคัญที่จะทราบวิธีการและ * เมื่อไหร่ * ที่จะกินผลไม้ วิธีที่ถูกต้องของการกินผลไม้อย่างไร? มันหมายถึง " ไม่กินผลไม้ " หลังมื้ออาหารของคุณ ! ผลไม้ควรกินในตอนท้องว่าง ถ้าคุณกินผลไม้ในตอนท้องว่าง มันจะมีบทบาทสำคัญ ในการล้างพิษในระบบของคุณ, ให้การจัดการที่ดีของพลังงาน เพื่อลดน้ำหนัก และกิจกรรมในชีวิตอื่น ๆ แก่คุณ " ผลไม้เป็นอาหารที่สำคัญที่สุด " สมมติว่า .. คุณกินสองชิ้นของขนมปัง แล้วชิ้นหนึ่งของผลไม้ ชิ้นของผลไม้ > พร้อมที่จะผ่านตรงไปสู่กระเพาะลงไปในลำไส้ > แต่มันถูกขัดขวางจากการทำเช่นนั้น เนื่องจากขนมปังถูกกินก่อนผลไม้ ในระหว่างนั้น อาหารทั้งมื้อของขนมปังและผลไม้นั้น จะเน่าเปื่อย และบูด และเปลี่ยนเป็นกรด ในนาทีที่ผลไม้เข้ามาสัมผัสกับอาหาร ในกระเพาะอาหาร และน้ำย่อย, มวลอาหารทั้งหมดเริ่มที่จะเปื่อยเน่า ดังนั้นโปรดกินผลไม้ของคุณในตอน * ท้องว่าง * หรือก่อนมื้ออาหารของคุณ! คุณเคยได้ยินคนบ่น : ทุกครั้งที่ ฉันกินแตงโม-ฉันเรอ เมื่อฉันกินทุเรียน-ท้องของฉันพองขึ้น เมื่อฉันกินกล้วย-ฉันรู้สึกเหมือนวิ่งเข้าห้องน้ำ ฯลฯ .. ฯลฯ .. จริง .. ทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้น ถ้าคุณกินผลไม้ตอนท้องว่าง ผลไม้ผสมกับการเน่าเปื่อยของอาหารอื่น ๆ และผลิตก๊าซ และด้วยเหตุนี้ ตัวคุณจะขยาย! ผมสีเทา, หัวล้าน, การระเบิดทางประสาท และรอยคล้ำใต้ดวงตา ทั้งหมดเหล่านี้จะ * ไม่เกิดขึ้น * ถ้าคุณกินผลไม้ตอนท้องว่าง ไม่มีสิ่งเช่นนั้นหรอก ที่ผลไม้บางอย่าง เช่นส้มและมะนาวเป็นกรด เพราะผลไม้ทั้งหมด > กลายเป็นด่างในร่างกายของเรา ตามที่ ดร.เฮอร์เบิร์ด เชลตัน ผู้ทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าคุณได้เข้าใจถ่องแท้ วิธีที่ถูกต้องของการกินผลไม้ คุณมี * ความลับ * ของความงาม อายุยืน สุขภาพ พลังงาน ความสุข และน้ำหนักที่ปกติ เมื่อคุณต้องการดื่มน้ำผลไม้ - ดื่มเพียงแค่ * น้ำผลไม้สดเท่านั้น * ไม่ใช่จากกระป๋อง แพ็ค หรือฃวด อย่าแม้แต่ .. จะดื่มน้ำผลไม้ที่ผ่านการทำให้ร้อนขึ้น อย่ากินผลไม้ปรุงสุก เพราะคุณไม่ได้รับสารอาหารทั้งหมด คุณจะได้รับรสชาติของมัน การปรุงสุก ทำลายวิตามินทั้งหมด แต่กินผลไม้ทั้งผล จะดีกว่า การดื่มน้ำผลไม้ หากคุณควรดื่มน้ำผลไม้สด ดื่มมันคำหนึ่ง โดยคำหนึ่งช้าๆ เพราะคุณต้องปล่อยให้มัน > ผสมกับน้ำลายของคุณ ก่อนที่จะกลืนกินมันลงไป คุณสามารถดำเนินต่อไป ในการกินมังสวิรัติผลไม้ 3 วัน เพื่อทำความสะอาด หรือล้างพิษในร่างกายของคุณ เพียงแต่ กินผลไม้ และดื่มน้ำผลไม้สด ตลอดทั้ง 3 วัน แล้วคุณจะต้องแปลกใจ เมื่อเพื่อนของคุณ บอกคุณว่า คุณดูเปล่งประกายอย่างไร! กีวี : เล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่ นี้เป็นแหล่งที่ดีของ โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, วิตามินอี และไฟเบอร์ ปริมาณวิตามินซีของมันคือ สองเท่าของส้ม แอปเปิ้ล : แอปเปิ้ล 1 ผล ต่อวัน ช่วยให้ห่างไกลจากแพทย์? แม้ว่าแอปเปิ้ลมีปริมาณวิตามินซีต่ำ แต่ก็มีสารต้านอนุมูลอิสระ และ flavonoids ซึ่งจะช่วยเพิ่มการทำงานของวิตามินซี จึงช่วยในการลดความเสี่ยงของ มะเร็งลำไส้ใหญ่ หัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมอง สตรอเบอร์รี่ : ผลไม้ป้องกัน สตรอเบอร์รี่มีความสามารถ ในการต้านอนุมูลอิสระสูงสุดในบรรดาผลไม้ที่สำคัญ และป้องกันร่างกายจากโรคมะเร็ง หลอดเลือดอุดตัน และอนุมูลอิสระ ส้ม : ยาที่หวานที่สุด กินส้ม 2-4 ผลต่อวัน อาจช่วยขจัดโรคหวัดออกไป, ลดคอเลสเตอรอล, ป้องกันและละลายนิ่วในไต, และลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ แตงโม : ดับกระหายที่ยอดที่สุด ประกอบด้วยน้ำ 92% มันถูกบรรจุด้วยปริมาณ " กลูตาไธออน " จำนวนมากมาย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของเรา พวกเขายังเป็นแหล่งสำคัญของ " ไลโคปีน " อนุมูลอิสระที่ต่อสู้กับโรคมะเร็ง สารอาหารอื่นๆ ที่พบในแตงโม คือ วิตามินซี และโพแทสเซียม ฝรั่ง และมะละกอ : รางวัลสูงสุดสำหรับวิตามินซี พวกเขาเป็นผู้ชนะที่ชัดเจน สำหรับปริมาณวิตามินซีสูงของพวกเขา ฝรั่ง-ยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการท้องผูก มะละกอ-อุดมไปด้วยแคโรทีนๆนี้ เป็นสิ่งที่ดี สำหรับดวงตาของคุณ ################## การดื่มน้ำเย็น หรือเครื่องดื่มเย็นหลังอาหาร = มะเร็ง คุณสามารถเชื่อสิ่งนี้หรือไม่? สำหรับผู้ที่ชอบดื่มน้ำเย็น หรือเครื่องดื่มเย็น, บทความนี้เหมาะสมกับคุณ อย่างไรก็ตาม น้ำเย็น หรือเครื่องดื่มเย็น จะทำให้ของมันๆที่คุณเพิ่งจะได้กินเข้าไป-แข็งตัว จะทำให้การย่อยอาหารช้าลง ครั้งหนึ่ง “ ตะกอนนี้ ” จะทำปฏิกิริยากับกรด จะแยกตัว และถูกดูดซึมโดยลำไส้ เร็วกว่าอาหารที่เป็นของแข็งจะเรียงตัวที่ลำไส้ ในไม่ช้า จะกลายเป็นไขมัน และนำไปสู่โรคมะเร็ง! มันดีที่สุด ที่จะดื่ม น้ำซุปร้อนหรือน้ำอุ่น หลังอาหาร หมายเหตุที่สำคัญ เกี่ยวกับหัวใจวาย กระบวนการหัวใจวาย : ( สิ่งนี้ไม่ตลก! ) ผู้หญิงควรจะทราบว่า > ไม่ใช่ทุกอาการหัวใจวาย จะเป็นการเจ็บปวดที่แขนซ้าย โปรดระวังความเจ็บปวดที่รุนแรง ในแนวกราม ขากรรไกร คุณอาจจะไม่เคยเจ็บหน้าอก เป็นอันดับแรก ระหว่างในช่วงของหัวใจวาย อาการคลื่นไส้ และเหงื่อออกมาก คือ อาการทั่วไปด้วย หกสิบเปอร์เซ็นต์ ของคนที่มีอาการ " หัวใจวายขณะที่พวกเขานอนหลับ " จะไม่ตื่นขึ้นมา อาการปวดกราม สามารถให้คุณตื่นขึ้นมา จากการหลับสนิท โปรดระมัดระวังและเฝ้าระวัง ยิ่งเรารู้ เรายิ่งมีโอกาสที่ดีกว่า ที่เราสามารถอยู่รอดได้ แพทย์โรคหัวใจพูดว่า : ถ้าทุกคนที่ได้รับอีเมล์นี้ โปรดส่งมันให้กับ 10 คน คุณสามารถแน่ใจได้ว่า เราจะรักษาอย่างน้อยที่สุด หนึ่งชีวิตไว้ ดังนั้นช่วยทำ อย่างน้อยที่สุด 1 งานที่ดี ในวันนี้มะเร็งไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: false1 ความเห็น

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
