282 ข้อความ
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ เทคฮอร์โมนในปริมาณที่มากทำให้ใบหน้าสวยขึ้นในปัจจุบันมีผู้คนหลากหลายที่มีความสนใจในการเปลี่ยนแปลงตนเองให้ตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศ การเทค ฮอร์โมนจึงเป็นหนึ่งในวิธีที่นิยมมาก แต่มีผู้คนไม่น้อยที่ไม่ทราบการเทคฮอร์โมนอย่างถูกต้อง และอาจไปซื้อยา มาเทคฮอร์โมนเองจนเกิดอันตรายต่อร่างกาย ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ) จากการสืบค้นข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าการเทคฮอร์โมนสำหรับหญิง ข้ามเพศเป็นการเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงเข้าสู่ร่างกาย พร้อมกับให้ยากดฮอร์โมนเพศชายที่มีตามเพศสภาพให้ ลดลง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากการเทคฮอร์โมนในกลุ่มนี้จะทำให้สรีระร่างกายใกล้เคียงเพศหญิงมากขึ้น เช่น มี หน้าอก เสียงเล็กแหลมขึ้นหนวดเคราน้อยลง กล้ามเนื้อเล็กลง เป็นต้น (ข้อมูลเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ) ข้อแนะนำในการเทคฮอร์โมนสำหรับหญิงข้ามเพศ • ร่างกายของคนข้ามเพศแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยาที่เหมาะสมกับแต่ละคนจึงต่างกัน ควรที่จะเข้ารับการปรึกษา จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนเริ่มให้ฮอร์โมน • หาความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาฮอร์โมนที่ถูกต้อง รวมทั้งอันตรายของการใช้ยาเกินขนาด • วัดระดับฮอร์โมน testosterone และ estradiol ทุก 3-6 เดือน เพื่อตรวจหาภาวะแทรกซ้อนที่จะ ตามมา ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ) ดังนั้นการเทคฮอร์โมนสำหรับหญิงข้ามเพศ เป็นการเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงเข้าสู่ร่างกาย และกดฮอร์โมนเพศชาย ให้ลดลง ซึ่งนั่นจะทำให้สรีระร่างกายใกล้เคียงเพศหญิงมากขึ้น แต่ไม่สามารถเปลี่นรูปลักษณ์ของใบหน้าได้ ปรับเปลี่ยนได้แค่สรีระร่างกายสุขภาพความสวยความงามChittakon Pawakho• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผู้อาวุโสที่รักเคารพนับถือ . สิ่งที่ต้องทำตั้งแต่วันพรุ่งนี้ หมั่นตรวจวัด : 1. ค่าความดันโลหิต 2. ค่าน้ำตาล 3. ค่า 𝒕𝒓𝒊𝒈𝒍𝒚𝒄𝒆𝒓𝒊𝒅𝒆𝒔 4. ค่า 𝒄𝒉𝒐𝒍𝒆𝒔𝒕𝒆𝒓𝒐𝒍 . ทานให้น้อยที่สุด : 1. เกลือ 2. น้ำตาล 3. แป้งขัดขาว 4. ผลิตภัณฑ์จากนม 5. ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป . ควรทาน : *𝑭𝑶𝑶𝑫 𝑵𝑬𝑬𝑫𝑬𝑫:* 1. ผัก 2. ธัญญพืช 3. ถั่วทุกชนิด 4. ไข่ 5. น้ำมันสกัดเย็น (มะพร้าว, มะกอก) 6. ผลไม้ . และควรลืม 3 สิ่งนี้ : 1. อายุ 2. อดีต 3. คำตำหนิ-ติเตียน-นินทา . และสิ่งสำคัญที่ต้องรักษาเอาไว้ : 1. ครอบครัว 2. เพื่อนที่ดี 3. การคิดบวก 4. บ้านที่สะอาดและอบอุ่น . และ 3 สิ่งพื้นฐานที่ต้องยอมรับ : 1. ยิ้มและหัวเราะเสมอ 2. ออกกำลังเป็นประจำ 3. ควบคุมน้ำหนัก . และะ 6 สิ่งที่ต้องอยู่ในวิถีชีวิต : 1. อย่ารอจนกระหายน้ำแล้วจึงดื่มน้ำ 2. อย่ารอจนเหนื่อยแล้วจึงพัก 3. อย่ารอจนป่วยแล้วจึงหาหมอ 4. อย่ารอจนให้มีปาฏิหาริย์แล้วจึงเชื่อในศาสนา 5. อย่าได้เสียความมั่นใจในตนเอง 6. คิดบวกและเชื่อมั่นว่าพรุ่งนี้ต้องดีกว่าเสมอ . ช่วยกันส่งให้ผู้ที่เรารู้จักในวัย 50-90 ปีสุขภาพไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยรับประทานยาชุด เสี่ยงอันตรายจริงหรือ ?รับประทานยาชุด เสี่ยงอันตรายจริงหรือ ? ” ยาชุด “ คือ ยาหลายชนิดที่ถูกจัดรวมกันเป็นชุด ภายใน 1 ชุดอาจมียา 3–5 ชนิด แต่ละชุดจะมีสรรพคุณต่างกัน ซึ่งอาจประกอบไปด้วยยาแผนปัจจุบัน สมุนไพร หรือแม้แต่ยาปลอม ยาชุดหาซื้อได้ง่าย ตามร้านของชำ รถหาบเร่หรือแม้แต่ร้านยาที่ไม่ได้มาตรฐานบางร้าน อีกทั้งการใช้ยาชุดยังส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ( ข้อมูลเว็บไซต์ : https://yaya.co.th ) • จากการสัมภาษณ์ เภสัชกรหญิงอริสา คำรินทร์ เภสัชกรปฏิบัติการประจำร้านยา จังหวัดมหาสารคาม ได้ให้ข้อมูลว่า “ ยาชุดอันตรายจริง เพราะไม่รู้ว่ายาที่อยู่ในนั้นมียาอะไรบ้าง อาจได้รับชนิดเดียวกันใน 3 - 5 เม็ด ทำให้ได้รับยาซ้ำซ้อนทำให้เกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรงของยา เช่น ยาแก้ปวดกินหลายตัวรวมกันจะทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร หรือกินต่อเนื่องกันบ่อยๆก็ทำให้ไตวาย ตับวายได้เหมือนกัน “ • นอกจากนี้เภสัชกรหญิงอริสา คำรินทร์ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ อีกหนึ่งอย่างคือเราไม่รู้เลยว่าในยาชุดนั้นเป็นยาจริง ยาปลอม ยาสมุนไพร ยาเสื่อมคุณภาพ ซึ่งเป็นอันตรายมากๆในการใช้ยาเพราะยาชุดไม่ได้ระบุไว้ว่ามียาอะไรบ้าง แต่ถ้าคนที่มีประวัติแพ้ยารับประทานเข้าไป การที่เรากินยาที่เราแพ้เข้าไป อาการของการแพ้ยาอาจทำให้เสียชีวิตได้เลย “ • ทั้งนี้ เภสัชกรหญิงอริสา คำรินทร์ ให้ข้อแนะนำว่า “ อย่างแรกหยุดกินยาชุด หรือไม่ซื้อยาชุดตามร้านทั่วไป ถ้าไม่แน่ใจควรไปปรึกษาซื้อยาที่ร้านขายยาที่มีความน่าเชื่อถือ โดยมีเภสัชกรประจำร้านขายยาประจำอยู่ ถ้าอาการหนักควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกใกล้บ้านที่มีหมอประจำอยู่ ” (ข้อมูลวันที่ 09 สิงหาคม 2567 ) • ดังนั้น ควรหยุดใช้ หยุดซื้อยาชุดเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียที่ร้ายแรงต่อร่างกาย • เครือข่าย : สื่อสร้างสรรค์ มมส. Official หมวดหมู่ : ให้ความรู้สุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังpepsiteeraphat• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอาบน้ำหลัง 6 โมงเย็น จะทำให้ม้ามอ่อนแอ ปวดเข่า ความจำไม่ดี ผมร่วง และเลือดจางได้สุขภาพไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสธ.แถลงด่วน พบผู้ป่วยสงสัยฝีดาษวานร Clade 1 รายแรกในไทยแล้ว เดินทางจากคองโก | MATICHON ONLINE | LINE TODAY https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/l2oZOyg?utm_source=lineshareสุขภาพไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสุขภาพไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: mostly-false--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไม่ควรอาบน้ำหลังรับประทานอาหารเสร็จทันทีจริงหรือไม่การอาบน้ำหลังรับประทานอาหารเสร็จทันทีจะเป็นการไปรบกวนการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดสุขภาพNatnicha insiri• 2 เดือนที่แล้วmeter: mostly-true--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยระวังไข่แดงเค็มที่มาห่อบะจ่าง หรือขนมไหว้พระจันทร์ อาจเป็นไข่ปลอม รวมทั้งกระดูกหมูก็ด้วย จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมคนไปโรงพยาบาลมากกว่าไปตลาด และที่ต้องระวังให้มากคือ ร้านอาหารของคนจีนที่มาเปิด ในไทยเป็นดอกเห็ด จะเอาสิ่งปลอมปนเหล่านี้มาให้คนไทย ได้กินกันหรือเปล่า? ต้องคิดให้มากก่อนที่จะเอาชีวิตไป เสี่ยงสุขภาพไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกลืนเมล็ดฝรั่งทำให้เป็นไส้ติ่งอักเสบได้หรือไม่ ?เมล็ดฝรั่งไม่ได้ทำให้เป็นไส้ติ่งอักเสบ เพราะสิ่งที่ทานเข้าไปส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าไปในไส้ติ่ง และที่ไส้ติ่งอักเสบส่วนใหญ่เกิดจากการที่ไส้ติ่งอุดตัน แต่การทานหรือเผลอกลืนเมล็ดผลไม้ที่มีขนาดใหญ่ อาจจะไปติดอยู่ที่ลำไส้เล็กส่วนที่แคบที่สุด แล้วก่อให้เกิดลำไส้อุดตันได้สุขภาพBenjawan• 2 เดือนที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยการฝังเข็มรักษาสิวได้จริงหรือไม่ ?การฝังเข็มรักษาสิวได้จริง ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งระยะเวลาการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและสาเหตุของสิวสุขภาพSumitra Phiromrak• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยใช้ห้องน้ำสาธารณะเสี่ยงติดเชื้อ HPVสุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกินเต้าหู้ถั่วเหลืองทำให้เป็นโรคพาร์กินสันสุขภาพภาคใต้ไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยผักโขมไร้หนาม มีสรรพคุณช่วยรักษาโรคเบาหวาน และช่วยบำรุงกำลังสุขภาพไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยรับประทานผลไม้สีสดใส ช่วยขับสารพิษและลดอาการอักเสบสุขภาพยาสมุนไพรไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยน้ำกัญชาคั้นสด ป้องกันและรักษาโรคได้ดีกว่าสารสกัดกัญชาสุขภาพไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวการเมืองสุขภาพความสวยความงามลดความอ้วนสภาพอากาศAIไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยช็อควงการประกันชีวิต !!!! จ่ายเบี้ยปีละ 1,699 บาท (ค่าแรกเข้า 100 บาท) เจ็บ ป่วย ตาย จ่าย 4 แสน อุบัติเหตุจ่ายเพิ่มให้อีก รับอายุ 12-75 ปี สมัครที่ธนาคารออมสินทั่วไทยสุขภาพไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสาวไต้หวันเสียชีวิตกระทันหัน ผลชันสูตรพลิกศพเป็น.. - - - คุณต้องดู! ล่าสุด, ในไต้หวัน จู่ๆ เด็กหญิงคนหนึ่งเสียชีวิตจากเลือดออกจากหลุมเจ็ดหลุมโดยไม่ทราบสาเหตุ ค้างคืน, เขารีบลงนรกและชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น วินิจฉัยว่าเขาเสียชีวิตจากพิษสารหนู สารหนูมาจากไหน? ศาสตราจารย์โรงเรียนแพทย์ได้รับเชิญให้ช่วยในการสืบสวน ศาสตราจารย์ตรวจสอบสิ่งที่อยู่ในท้องของผู้ตายอย่างระมัดระวัง ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ความลึกลับของการตายอย่างกะทันหันถูกเปิดเผย ศาสตราจารย์กล่าวว่า “ผู้ตายไม่ได้ฆ่าตัวตาย และเขาก็ไม่ได้ถูกฆ่าตาย แต่ตายเพราะไม่รู้ “มันฆ่า” ทุกคนถึงกับงง ศาสตราจารย์กล่าวว่า: "สารหนูถูกผลิตขึ้นในช่องท้องของผู้ตาย" ผู้ตายยังจะรับประทาน "วิตามินซี" ทุกวันก่อนที่เขาจะเสียชีวิต นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย ปัญหาคือเธอกินกุ้งเยอะมากในมื้อเย็น ตัวกุ้งเองก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ดังนั้นเธอสบายดีแม้ว่าเธอจะกินข้าวที่บ้านก็ตาม แต่ผู้ตายกิน "วิตามินซี" ไปพร้อมๆ กัน ปัญหาอยู่ตรงนี้! นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา โดยค้นพบจากการทดลองแล้วว่า อาหารเปลือกนิ่ม เช่น กุ้ง มีสารประกอบสารหนูเพนตะโพแทสเซียมสารหนูจำนวนมากซึ่งมีความเข้มข้นค่อนข้างสูง เมื่อสารนี้เข้าสู่ร่างกายแล้ว ไม่มีผลเป็นพิษต่อร่างกาย แต่, หลังจากรับประทาน “วิตามินซี” แล้ว เนื่องจากผลกระทบทางเคมี สารหนูเพนทาโปแตสเซียมดั้งเดิมปลอดสารพิษ (สารหนูแอนไฮไดรด์ เรียกอีกอย่างว่าสารหนูเพนทอกไซด์ มีสูตรทางเคมีคือ (As05) เปลี่ยนเป็นสารหนูไตรโพแทสเซียมที่เป็นพิษ (สารหนูแอนไฮไดรด์) หรือที่เรียกว่าสารหนูไตรออกไซด์ มีสูตรทางเคมีคือ (As203) นี่คือสิ่งที่คนทั่วไปเรียกว่าสารหนู! สารหนูมีฤทธิ์เป็นพิษต่อโปรโตพลาสซึม สามารถทำให้เส้นเลือดฝอยเป็นอัมพาตได้ ยับยั้งการทำงานของเมอร์แคปโตเมอร์ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดไขมันในตับ, เนื้อร้ายส่วนกลางของกลีบตับ, การอุดตันของหัวใจ, ตับ, ไตและลำไส้, เนื้อร้ายของเซลล์เยื่อบุผิว และการขยายตัวของเส้นเลือดฝอย ดังนั้นเขาจึงถูกวางยาพิษและเสียชีวิต เลือดออกจากทวารทั้งเจ็ดเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น; เพื่อเป็นการเตือนสติ ในขณะที่รับประทาน "วิตามินซี" ควรหลีกเลี่ยงกุ้ง ปัจจุบันเครื่องดื่มหลายชนิดมีวิตามินซี กุ้ง + วิตามินซี = พิษ ยาแก้หวัด + โค้ก = ยาพิษ ทุเรียน+โคล่า=พิษ ทุเรียน+ไวน์ก็เทียบเท่ากับพิษในกรณีร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ห้ามดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 8 ชั่วโมงก่อนและหลังรับประทานทุเรียน รวมทั้งไก่โชชู เป็ดขิง และอาหารที่มีแอลกอฮอล์อื่นๆ ก่อนอ่าน, กรุณาอย่าขี้เหนียว แบ่งปันกับเพื่อนและญาติรอบตัวคุณ!สุขภาพไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยการใช้โทรศัพท์นานเกินวันละ 2 ชั่วโมง ทำให้ปวดหัวจริงไหม?ผู้ปกครองหลายท่านมักจะพูดว่า ที่ปวดหัวเป็นเพราะเล่นโทรศัพท์นาน จึงเกิดข้อสงสัยว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่สุขภาพสายชล ประโพธิ์ศรี• 2 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสุขภาพอย. เพิกถอนไม่ระบุชื่อ• 2 เดือนที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยจริงหรือไม่ขวดน้ำพลาสติกตากแดดในรถยนต์หากดื่มเสี่ยงมะเร็งปัจจุบันยังคงมีการแชร์เรื่องหากดื่มน้ำที่ตากแดดในรถยนต์เสี่ยงเป็นมะเร็ง เพราะอาจมีสารอันตรายที่ปนเปื้อนในขวดพลาสติกเนื่องจากตากแดดในรถยนต์นาน จึงเกิดข้อสงสัยว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่สุขภาพมะเร็งนภสรณ์ สมสายผล• 2 เดือนที่แล้วmeter: mostly-true--middle3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://vt.tiktok.com/ZSYTbkCoW/สุขภาพไม่ระบุชื่อ• 3 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปัจจุบันน้ำฝนยังสามารถดื่มได้หรือไม่?ในปัจจุบันสังเกตเห็นได้ว่ามีผู้คนหลายครัวเรือนรองรับและกักเก็บน้ำฝนไว้ดื่มกันอยู่ เนื่องจากฝนที่ตกในปัจจุบันเหมือนจะไม่สะอาดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว จึงเกิดข้อสงสัยว่าน้ำฝนยังดื่มได้หรือไม่?สุขภาพสภาพอากาศคมเพชร ทาบุตตะ• 3 เดือนที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสุขภาพไม่ระบุชื่อ• 3 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยhttps://vt.tiktok.com/ZSYWode5X/สุขภาพไม่ระบุชื่อ• 3 เดือนที่แล้วmeter: true1 ความเห็น