12987 ข้อความ
- 2 คนสงสัยหูอื้อ ปวดตึงคอและบ่า เป็นสัญญาณเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอกรณีที่มีผู้โพสต์คลิปวิดีโอให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับคนที่มีอาการปวดตึงคอ บ่า หูอื้อ และมีเสียงในหูคือสัญญาณเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ทางสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เลือดไปเลี้ยงสมองลดลงอาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะ มึนงงได้ แต่อาจมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เวียนศีรษะได้เช่นกัน เช่น การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ อากาศร้อน ความเครียด การทำงานหนัก เป็นต้น ส่วนการปวดตึงคอ บ่า หูอื้อ มีเสียงในหู ง่วงทั้งวันแต่นอนไม่ค่อยหลับ วิตกกังวล ประสาทตาเสื่อม ไม่เกี่ยวข้องกับสัญญาณเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ website 2438 ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.pni.go.th หรือ โทร. 02-306-9899std47954• 1 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยน้ำมะพร้าวทำให้อกอึ๋มในน้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าวอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย และในน้ำมะพร้าวบริสุทธิ์ ยังมี “ฮอร์โมนเอสโตรเจน” ที่รับประทานแล้วช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้ผิว ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง สดใส และช่วยให้หน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้นstd47947• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสมุนไพรขันทองพยาบาทใช้รักษาโรคมะเร็งทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า จากการตรวจสอบข้อมูลทางวิชาการพบว่าขันทองพยาบาทไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคมะเร็ง และไม่สามารถนำมาใช้รักษามะเร็งได้zoppopo• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยTHE HAND STEEPLE’จากท่ามือเสริมบุคลิกผู้นำ สู่ทฤษฎีสมคบคิดเชื่อมโยง‘อิลลูมินาติ’นี่ไม่บังเอิญหรอกนะ ดูกันชัดๆ สัญลักษณ์ลับการแทรกแซงของแยงกี้ มันคือสัญลักษณ์สมาคมลับอิลลูมินาติผู้กุมอำนาจสูงสุดอยู่เบื้องหลังการเมืองการปกครองของโลก โดยมุ่งดำเนินการในทางลับเพื่อก่อตั้ง ‘ระเบียบโลกใหม่’ โดยการแทรกแซงชีวิตประจำวัน การเมือง การปกครอง ของชาติที่เป็นเป้าหมาย” โพสต์หนึ่งที่ถูกแชร์ในพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เป็นข้อความข้างต้นพร้อมกับรูปของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่เพิ่งชนะเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 โดยเป็นรูปที่ พิธา ถ่ายกับผู้ที่มาร่วมฟังปราศรัยของพรรคก้าวไกลสักเวทีหนึ่ง แต่ถูกนำมาตั้งข้อสังเกตจากผู้โพสต์ว่า หัวหน้าพรรคก้าวไกลทำท่ามือที่ดูเหมือนกับเป็น “รหัสลับ” ขององค์กรลับอย่าง “อิลลูมินาติ (Illuminati)” ซึ่งมักจะถูกกล่าวถึงเสมอในทฤษฎีสมคบคิดว่ามีองค์กรลับที่บงการทั้งโลกอยู่เบื้องหลัง ภาพดังกล่าวยังมีการเปรียบเทียบกับผู้นำอีกหลายชาติ อาทิ อังเกลา แมร์เคิล อดีตนายกรัฐมนตรีเยอรมนี , โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา , เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ประธานาธิบดีตุรกี เป็นต้น ที่เคยทำท่ามือแบบเดียวกัน บางภาพมีการนำภาพ “Eye of Providence” ที่อยู่ในธนบัตร 1 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมักถูกผู้ที่เชื่อใน “ทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory)” อ้างว่าเป็นสัญลักษณ์ขององค์กรอิลลูมินาติ ไปใส่ประกบรวมอยู่ด้วยเพื่อจะบอกกับผุ้รับสารว่า บรรดาผู้นำชาติต่างๆ ล้วนแต่เป็นสมาชิกหรือทำงานให้กับองค์กรนี้ รายงานพิเศษเรื่อง “The Eye of Providence: The symbol with a secret meaning?” ของสำนักข่าว BBC เมื่อปี 2563 อธิบายที่มาที่ไปของสัญลักษณ์ Eye of Providence (หรืออีกชื่อหนึ่งคือ All-Seeing Eye of God) ว่า เดิมที Eye of Providence เป็นสัญลักษณ์ของชาวคริสต์ และตัวอย่างแรกสุดของการใช้สามารถพบได้ในศิลปะทางศาสนาในยุคเรอเนซองส์เพื่อเป็นตัวแทนของพระเจ้า ตัวอย่างแรกคือภาพวาด Supper at Emmaus ผลงานของ Pontormo ศิลปินชาวอิตาลี ในปี ค.ศ.1525 (พ.ศ.2068) หรือเมื่อเกือบ 500 ปีก่อน แม้ว่าสัญลักษณ์จะถูกวาดในภายหลัง บางทีอาจจะเป็นในช่วงทศวรรษที่ 1600s (พ.ศ.2143-2152) นอกจากนั้นยังมีหนังสือชื่อ Iconologia ถูกเผยแพร่ครั้งแรกในปี ค.ศ.1593 (พ.ศ.2136) ในการพิมพ์ครั้งต่อๆ มา Eye of Providence ถูกรวมไว้เป็นคุณลักษณะของการแสดงตัวตนของ “Divine Providence” ซึ่งก็คือ “ความเมตตากรุณาของพระเจ้า” ตามชื่อของสัญลักษณ์และการใช้ในช่วงแรก สัญลักษณ์นี้ถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อเป็นเครื่องหมายของการที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเฝ้ามองมนุษยชาติด้วยความเมตตาstd47964• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยแผ่นแปะ DiaRemedium อ้างรักษาโรคเบาหวานอย.เตือน ผู้บริโภค อย่าซื้อผลิตภัณฑ์แผ่นแปะ DiaRemedium โฆษณาเกินจริงทางเว็บไซต์ อ้างรักษาโรคเบาหวาน สั่งระงับโฆษณาและดำเนินคดีตามกฎหมายแล้วstd47957• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเรื่อง วิธีกำจัดหินปูนง่าย แค่แปรงฟัน อมเกลือ และอมน้ำมันมะพร้าวกรณีที่มีผู้ให้คำแนะนำสุขภาพเรื่องวิธีกำจัดหินปูนง่าย แค่แปรงฟัน อมเกลือ และอมน้ำมันมะพร้าว ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จstd47930• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยพรรคเป็นธรรม ในสมรภูมิวาทกรรม “แบ่งแยกดินแดน”ทันทีที่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลประกาศหลังชนะการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 ว่าได้ทาบทามพรรคเป็นธรรมเข้าร่วมรัฐบาล โซเชียลมีเดียก็เริ่มปรากฏข้อความโจมตีพรรคเป็นธรรมว่า “เป็นพวกแบ่งแยกดินแดน” ซึ่งโคแฟคตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นข้อกล่าวหาที่เกิดจากการตีความนโยบายแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้และการกระจายอำนาจของพรรคเป็นธรรม ขณะที่บางกลุ่มอาจจงใจใช้วาทกรรมนี้โจมตีฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ข้อกล่าวหานี้แพร่หลายในโซเชียลมีเดียมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่จำกัดอยู่แค่พรรคเป็นธรรมเท่านั้น แต่ยังพุ่งเป้าไปที่พรรคก้าวไกลและพรรคประชาชาติด้วย กระทั่งกลายเป็นประเด็นที่ผู้สื่อข่าวหยิบยกไปถามในการแถลงข่าวลงนามข้อตกลงร่วมจัดตั้งรัฐบาล (เอ็มโอยู) เมื่อ 22 พ.ค. 2566 โดยอ้างว่าเหตุที่ต้องถามจุดยืนในเรื่องนี้เพราะ “สัญญาณของการแบ่งแยกดินแดนค่อนข้างที่จะหนาหู…ประชาชนกังวลว่ารัฐบาลชุดใหม่จะทำให้ด้ามขวานทองหายไป” พรรคเป็นธรรมในชายแดนใต้ พรรคเป็นธรรมเป็นพรรคการเมืองใหม่ที่มีนายปิติพงศ์ เต็มเจริญ อดีต ส.ส. กทม. พรรคไทยรักไทยและอดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค ในการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 พรรคเป็นธรรมชูนโยบายเรื่องการ “สร้างสันติภาพในปาตานี” โดยส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต 11 คนในกรุงเทพฯ นราธิวาส ยะลาและปัตตานี และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ 9 คน ผลการเลือกตั้ง พรรคเป็นธรรมได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อเข้าสภา 1 คน คือ นายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคstd47964• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับอสังหาริมทรัพย์เจ้าดัง เสนอขายหุ้นหน่วยละ 1.85 บาทตามที่พบเจอข่าวสารชวนลงทุนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยร่วมกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์เจ้าดัง เสนอขายหุ้นและกองทุน เริ่มต้น 2,000 หน่วย หน่วยละ 1.85 บาทนั้น ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่มีการร่วมกับบริษัทดังกล่าวเพื่อชักชวนประชาชนลงทุน นอกจากนี้ทางเพจยังมีการแอบอ้างชื่อ และโลโก้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเพจดังกล่าวstd47929• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยหูอื้อ ปวดตึงคอและบ่า เป็นสัญญาณเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอกรณีที่มีผู้โพสต์คลิปวิดีโอให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับคนที่มีอาการปวดตึงคอ บ่า หูอื้อ และมีเสียงในหูคือสัญญาณเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ทางสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เลือดไปเลี้ยงสมองลดลงอาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะ มึนงงได้ แต่อาจมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เวียนศีรษะได้เช่นกัน เช่น การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ อากาศร้อน ความเครียด การทำงานหนัก เป็นต้น ส่วนการปวดตึงคอ บ่า หูอื้อ มีเสียงในหู ง่วงทั้งวันแต่นอนไม่ค่อยหลับ วิตกกังวล ประสาทตาเสื่อม ไม่เกี่ยวข้องกับสัญญาณเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอstd47929• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเปิดสินเชื่อรากฐาน ไม่ต้องค้ำประกัน โดย ธ. ออมสินกรณีที่มีการส่งต่อข่าวสารเรื่อง ธ. ออมสิน เปิดสินเชื่อรากฐานรอบใหม่ ให้ยืมสูงสุด 10,000-30,000 บาท ทุกอาชีพ ไม่ต้องค้ำประกัน ทางธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า สินเชื่อดังกล่าว เป็นสินเชื่อห่วงใย (เพื่อสู้ภัย COVID-19) ผ่าน MyMo ซึ่งได้ครบระยะเวลาดำเนินโครงการแล้วเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 จึงขอแจ้งว่า ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลเท็จ ทั้งยังมีการแอบอ้างนำชื่อ และโลโก้ของธนาคารออมสินโฆษณาชวนเชื่อstd47929• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเรื่อง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เชิญชวนเข้าร่วมอบรมเทรดเดอร์หุ้นผ่านเพจ SET Bangkokจากที่มีการปรากฏข้อมูลบนสื่อออนไลน์เรื่องตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เชิญชวนเข้าร่วมอบรมเทรดเดอร์หุ้นผ่านเพจ SET Bangkok ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าเพจดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็std47930• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย“บิวกิ้น-พีพี” ขอพื้นที่ส่วนตัว ไม่ตอบว่า ใครมีแฟนแล้วเป็นคู่จิ้นที่มีแฟนคลับติดตามมากเลยทีเดียวสำหรับ “บิวกิ้น” พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และ “พีพี” กฤษฏ์ อำนวยเดชกร จับคู่กันโกยงานโกยเงินเป็นว่าเล่น แต่ล่าสุดก็มีกระแสข่าวออกมาว่า มีคู่จิ้นชื่อดังที่ตอนนี้มีแฟนแล้ว ทำเอาแฟนคลับเซ็ง เรื่องนี้บิวกิ้นพีพีบอกว่า ขอให้เป็นพื้นที่ส่วนตัว ถึงใครจะมีแฟนแต่ก็จะคอยซัพพอร์ตกันต่อไปstd47942• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยร่างกายอักเสบ ตัวร้อน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกได้จากที่มีการให้ข้อมูลโดยระบุว่า ร่างกายอักเสบ ตัวร้อน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกได้ ทางสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า โรคหลอดเลือดสมอง มี 2 ประเภทคือ สมองขาดเลือด และภาวะเลือดออกในเนื้อสมอง โดยพบโรคหลอดเลือดตีบตันมากกว่าเส้นเลือดแตกในสมอง ซึ่งภาพรวมพบภาวะสมองขาดเลือดมากกว่าเลือดออกในสมอง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญทั้งสองภาวะนี้คือ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ โรคไต โรคภาวะอุดกั้นลมหายใจขณะนอน (OSA) เป็นต้นstd47929• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสูตรยาผีบอก! “น้ำส้มสายชูผสมมะกรูด พ่นแก้โควิด” ไม่จริงอย่าหาทำว่าเรื่อง "เขย่าขวดน้ำ ให้ได้น้ำโมเลกุลเล็ก" ประหลาดแล้ว นี่มาเจอสูตรต้าน covid อีกแบบ ให้เอา "น้ำส้มสายชู ผสมกับน้ำตาล" แล้วอ้างว่าจะได้ "ก๊าซโอโซน" ออกมาช่วยเสริมออกซิเจนในร่างกายได้ 555 ไปกันใหญ่เลย มีออกมาหลายสูตรเลย ทั้งแบบทำเป็นน้ำ เอาไว้ดื่มกิน เอาโอโซนมาเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย .หรือเอามาทำเป็นสเปรย์ ฉีดพ่นบ้านเรือน อ้างว่าก๊าซโอโซนจะออกมาฆ่าเชื้อโรคstd47950• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเรื่อง เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระบาด มาพร้อมกับโรคติดต่อของหมูพบข่าวเกี่ยวกับสุขภาพมากถึง 6 อันดับ โดยส่วนใหญ่เป็นประเด็นใกล้ตัว ทั้งปัญหาสุขภาพที่คนวิตกกังวล ยาหรือผลิตภัณฑ์สุขภาพที่อยู่ในชีวิตประจำวัน รองลงมาสินเชื่อเงินกู้ หลอกลงทุนออนไลน์ จึงคาดว่าอาจเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้เข้าถึงความสนใจของผู้รับข่าวสาร”std47930• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสวีเดน’ บรรจุ ‘เซ็กซ์’ เป็นกีฬา! จากเนื้อหาคลาดเคลื่อน (MISINFORMATION) สู่ข้อมูลผิดพลาดที่ถูกแชร์ไวแบบไฟลามทุ่งเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2566 มีเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นที่ฮือฮามาก เมื่อมีรายงานข่าวทั้งจากสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศระบุว่า “สวีเดนเป็นประเทศแรกในโลกที่บรรจุ ‘เซ็กซ์ (Sex)’ หรือการมีเพศสัมพันธ์ เป็นการแข่งขันกีฬาประเภทหนึ่ง” ตามด้วยการแชร์ข่าวทั้งบนโลกออนไลน์ (รวมถึงผู้เขียนเองก็มีคนรู้จักกันมาสอบถามว่าข่าวนี้จริงหรือเปล่า?) ก่อนที่เพียงไม่กี่วัน “ความจริงก็กระจ่าง” ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียง “ข้อมูลคลาดเคลื่อน (Mislead หรือ Misinformation)” ทำเอาคนที่ตื่นเต้น (และสงสัยว่าของแบบนี้มันแข่งกันได้ด้วยหรือ?) รอเก้อไปตามๆ กัน “การแข่งขันเซ็กซ์ชิงแชมป์ยุโรป (European Sex Championship) ผู้เข้าร่วมจะแข่งขันใน 16 รูปแบบ (Discipline) ในช่วง 6 สัปดาห์ การแข่งขันแต่ละรูปแบบจะใช้เวลาระหว่าง 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง และผู้เข้าร่วมอาจต้องแข่งขันนานถึง 6 ชั่วโมงต่อวัน คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการแข่งขัน 20 คนจากประเทศต่างๆ ส่วนการหาผู้ชนะจะมีคณะกรรมการให้คะแนน รวมถึงการร่วมให้คะแนนโดยผู้ชม นอกจากนั้น ยังมีคะแนนพิเศษหาผู้เข้าแข่งขันแสดงความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีของกามาสุตรา (Kamasutra-ตำราสอนเพศศึกษาของอินเดียโบราณ)” รายงานจาก Marca หนังสือพิมพ์กีฬาในสเปน วันที่ 5 มิ.ย. 2566 “นักกีฬาจะต้องแข่งขันอย่างทรหดเป็นเวลา 6 ชั่วโมงต่อวันใน 16 รูปแบบ มีการให้คะแนนโดยผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน ตามเกณฑ์อันประกอบด้วยการสื่อสาร (Communication) ความอดทน (Endurance) ความเข้ากันได้ (Chemistry) และความรู้เรื่องเพศศึกษา (Sex Education) อัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rates) และความดันโลหิต (Blood Pressure) จะได้รับการพิจารณาด้วย และยังเปิดให้ผู้ที่รับชมถ่ายทอดสดได้ร่วมให้คะแนนอีกทางหนึ่ง” รายงานจาก The Sun หนังสือพิมพ์ในอังกฤษในวันที่ 4 มิ.ย. 2566 อย่างไรก็ตาม มีคำยืนยันจาก แอนนา เซ็ทซ์แมน (Anna Setzman) โฆษกของสมาพันธ์กีฬาสวีเดน (Swedish Sports Confederation) องค์กรกลางในแวดวงกีฬาของสวีเดนที่รับจดทะเบียนสมาคมกีฬาชนิดต่างๆ (เช่นเดียวกับในไทยที่มี “การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)” เป็นองค์กรกลางรับจดทะเบียน) ที่ออกมายืนยันว่าข่าวดังกล่าวเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน และสวีเดนยังไม่มีการรับรองเซ็กซ์เป็นกีฬาอย่างเป็นทางการแต่อย่างใดstd47964• 1 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยห้ามใช้โทรศัพท์ขณะทำอาหารในห้องครัวจะเป็นอันตรายกรณีที่มีผู้โพสต์ข้อมูลให้คำแนะนำเกี่ยวกับห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ หรือรับโทรศัพท์ในห้องครัว ขณะกำลังทำอาหารจะเป็นอันตรายนั้น ทางศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า การใช้หรือรับโทรศัพท์ในห้องครัว ในขณะที่เตาแก๊สยังเปิดอยู่ ไม่ได้เป็นอันตราย กล่าวคือไอของแก๊สที่ออกจากเตาขณะที่เรากำลังทำอาหาร แก๊สนั้นถูกเผาไหม้จนหมดสิ้นแล้วจนไม่สามารถไปจุดประกายไฟที่อื่นได้อีกstd47929• 1 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! ร่างกายอักเสบ ตัวร้อน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกได้ตามที่มีการแชร์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นเรื่องร่างกายอักเสบ ตัวร้อน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จstd47941• 1 ปีที่แล้ว2 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยอาหารผัดน้ำมัน ทำให้ติดเชื้อภายใน มีตกขาว ประจำเดือนมาไม่ปกติกรณีที่มีข้อความถูกแชร์ต่อในโลกโซเชียลเรื่องอาหารผัดน้ำมัน ทำให้ติดเชื้อภายใน มีตกขาว ประจำเดือนมาไม่ปกตินั้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จstd47930• 1 ปีที่แล้ว
- 5 คนสงสัย‘อนามัยโลก’ ปลด ‘โควิด’ พ้นสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ ‘ข่าวปลอม’ ยังคงถูกแชร์1) “พยาบาลศิริราชส่งไลน์มาค่ะ ด่วน ด่วน ด่วน อ.หมอประสิทธิ์ ออกประกาศให้ประชาชนปิดพื้นที่ (lockdown) ครอบครัวของตนเอง ไวรัสระบาดหนัก หมอจะเอาไม่อยู่แล้ว อ่านแล้วส่งต่อออกไปกันมากๆ หน่อย เหตุเกิดที่มีนบุรี น่าจะเป็นสายพันธุ์แลมบ์ดา กำลังระบาด อาการไอเป็นเลือดแล้วเสียชีวิตแล้ว มีเพื่อนกี่คน มีกลุ่มไลน์กี่กลุ่มส่งไปให้หมดเลยนะคะ ช่วยกันเพื่อตัวเราเองและเพื่อนร่วมโลก” (2) “* ประกาศ **ด่วนที่สุดและสำคัญมาก!!!! คุณหมอที่โรงพยาบาลรามา แนะนำว่า ต่อไปนี้ออกจากบ้านต้องสวมหน้ากากซ้อนกัน 2 ชั้นให้แนบสนิท ทุกครั้งที่ออกจากบ้านเลยนะ และห้ามถอดออกเด็ดขาด อาจารย์บอกว่า ยอดคนที่ติดเชื้อแล้วแต่ไม่ออกอาการ ไม่น่าเชื่อว่า..จะมีจำนวนสูงมากขนาดนี้ หมอบอกว่า มันน่ากลัวแล้วล่ะทีนี้ เวลาเราเดินสวนกับคนอื่นๆ ที่ไม่ออกอาการ สามารถเจอได้ทั่วไป ตามห้าง ตลาด ท้องถนน อาคารสำนักงาน รถโดยสาร โดยที่เราไม่ทันระวังตัว เพราะด้วยความไม่รู้หรือประมาท คิดว่าไม่เป็นไรหรอก ‘คุณคิดผิด‘ จะบอกว่าไม่จำเป็นอย่าไปพบปะกับใครนอกบ้าน ห้ามคนนอกครอบครัวเข้ามาในบ้านเราเด็ดขาด อันนี้ขอเลย ไม่ต้องนัดให้ใครมาหาที่บ้าน ระบบของโรงพยาบาลที่ช่วยเหลือโควิด มันแน่นและแทบจะทะลักอยู่แล้ว ถ้าทุกคนไม่ให้ความร่วมมือตามคำแนะนำ จะเกิดความสูญเสียที่มหาศาลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ต้องร่วมใจกัน สถานการณ์ตอนนี้มันหนักขึ้นกว่าเดิม” (3) “###คำแนะนำในโรงพยาบาลกักกัน (เราสามารถนำไปใช้ที่บ้านได้) ยาที่ดำเนินการในโรงพยาบาลกักกัน 1.วิตามินซี –1000 2.วิตามินอี (E) 3.เวลา 10.00-11.00 น. นั่งตากแดด 15-20 นาที 4.อาหารไข่วันละครั้ง 5.พักผ่อน/นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง 6.ทุกวันเราดื่มน้ำ 1.5 ลิตร 7.อาหารทุกมื้อต้องทานแบบร้อน (ไม่เย็น) นี่คือสิ่งที่เราทำในโรงพยาบาลเพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน” (4) “โปรดทราบว่า ค่าความเป็นด่างหรือค่า pH ของ COVID-19 อยู่ระหว่าง 5.5-8.5 ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำเพื่อกำจดไวรัส คือการกินอาหารที่มีฤทธิ์เป็นด่าง และเป็นกรดมากกว่าโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เช่น สัปปะรด มะนาวเขียว มะนาวเหลือง ส้มโอ ส้ม มังคุด มะปราง” (5) “คุณรู้ได้อย่างไรว่าคุณติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่? 1.คันคอ 2.คอแห้ง 3.อาการไอแห้ง 4.อุณหภูมิร่างกายสูง 5.หายใจถี่ 6.การสูญเสียกลิ่น ก่อนที่ไวรัสจะติดเชื้อในปอด น้ำอุ่นผสมมะนาวสามารถกำจัดไวรัสได้”โควิด 2019std47964• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสเปรย์พ่นปากฟ้าทะลายโจร ตราวี เฟรช สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ลงปอดได้ตามที่มีการโฆษณาทางสื่อสั่งคมออนไลน์ต่างๆ เรื่อง สเปรย์พ่นปากฟ้าทะลายโจร ตราวี เฟรช สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ลงปอดได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เป็นเครื่องสำอาง ใช้เพื่อระงับกลิ่นปาก ไม่มีผลในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ลงปอดได้std47931• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! ท้องฟ้าปิด ฝนตก ลูกเห็บ ทอร์นาโด น้ำท่วม คือสัญญาณเตือนก่อน-หลัง จะเกิดสึนามิตามที่มีการแนะนำในประเด็นเรื่อง ท้องฟ้าปิด ฝนตก ลูกเห็บ ทอร์นาโด น้ำท่วม คือสัญญาณเตือนก่อน-หลัง จะเกิดสึนามิ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จstd47941• 1 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยกินเผ็ดเพิ่มระบบเผาผลาญในร่างกายได้จริง หรือตามที่มีข้อมูลแนะนำด้านสุขภาพเกี่ยวกับประเด็นเรื่องกินเผ็ดเพิ่มระบบเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ผอมเร็ว ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ โดยข้อมูลในสื่อออนไลน์ที่พบจะระบุว่า การกินเผ็ดจะเป็นการเพิ่มระบบเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ผอมเร็วขึ้นจากสารแคปไซซิน (Capsaicin) ในพริก กรณีนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่ากินพริกทำให้น้ำหนักลงได้ โดยพริกเป็นพืชที่มีรสเผ็ดร้อนเนื่องจากมีสาระสำคัญ คือ แคปไซซิน (Capsaicin) ซึ่งเป็น Pungent agent ทำให้ระคายเคืองและแสบร้อนstd47950• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! SET เปิดเพจเฟซบุ๊กใหม่อย่างเป็นทางการจากที่มีการปรากฏข้อมูลบนสื่อออนไลน์เรื่อง SET เปิดเพจเฟซบุ๊กใหม่อย่างเป็นทางการ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าเพจดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ ตามที่มีการตรวจพบเพจเฟซบุ๊กตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ถูกสร้างเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เพจดังกล่าวไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากหน่วยงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งยังมีการแอบอ้างชื่อ และโลโก้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นการกระทำที่ไม่เป็นผลดีต่อองค์กรและประชาชนดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.set.or.th หรือ โทร. SET Contact Center 02-009-9999 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เพจดังกล่าวไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากหน่วยงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งยังมีการแอบอ้างชื่อ และโลโก้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นการกระทำที่ไม่เป็นผลดีต่อองค์กรและประชาชนandawinter0• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเสียงกระซิบจากผู้หวังดี: สื่อไทยกับความเสี่ยงต่อการปล่อยข่าวลวงรายงานเชิงวิเคราะห์โดย กุลชาดา ชัยพิพัฒน์ ที่ปรึกษาโคแฟค ประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา องค์กรไม่แสวงผลกำไรสากลที่ทำงานวิจัยเกี่ยวกับข่าวลวง Global Disinformation Index (GDI) ได้เผยแพร่รายงานประเมินความเสี่ยงของสำนักข่าวออนไลน์ในไทยต่อการเผยแพร่ข่าวลวงเป็นครั้งแรก โดยวิเคราะห์จากทั้งเนื้อหาและระบบการปฏิบัติงานของเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ 33 แห่งที่มียอดผู้เข้าชมทางเว็บไซต์และการเข้าถึงทางโซเชียลมีเดีย เป็นลำดับต้นๆ พบว่า ค่าเฉลี่ยความเสี่ยงอยู่ที่ 57 จาก 100 คะแนนซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ความเสี่ยงระดับปานกลางและใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้านเช่น ฟิลิปปินส์ ( 55.32) อินโดนีเซีย (63)และ มาเลเซีย (59 ) ซึ่งได้มีการประเมินไปก่อนหน้านี้ ( ดูรายงานเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ของGDI ) รายงานการวิจัยซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง GDI กับสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า เว็บไซต์ข่าว 15 แห่งมีความเสี่ยงปานกลาง 14 แห่งมีความเสี่ยงสูง 2 แห่งมีความเสี่ยงสูงสุด และอีก 2 แห่งมีความเสี่ยงต่ำ แต่ไม่มีสื่อใดมีความเสี่ยงต่ำสุด โดยในจำนวนนี้ มีสื่อโทรทัศน์ทั้งของภาครัฐและเอกชนและสื่อสิ่งพิมพ์เอกชนที่เผยแพร่เนื้อหาผ่านช่องทางออนไลน์ สื่อสิ่งพิมพ์ที่หันมาทำธุรกิจสื่อออนไลน์อย่างเดียว และสำนักข่าวออนไลน์เกิดใหม่รวมทั้งสื่อทางเลือก ซึ่งมีคนเข้าชมเป็นลำดับต้นๆจากการจัดลำดับของ www.alexar.com และมียอดการเข้าถึงของผู้ใช้งานในเฟสบุ๊คและทวิตเตอร์สูง (ดูรายชื่อสำนักข่าวออนไลน์ที่ถูกประเมินตามตารางแนบท้ายข่าว) รายงานดังกล่าวถือเป็นกลไกใหม่ในการเสริมสร้างความน่าเชื่อให้กับสื่อมวลชนทั่วโลกที่ถูกโอบล้อมอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรของข้อมูลลวงหรืออาจเป็นส่วนหนึ่งของการเผยแพร่ข้อมูลเหล่านั้นทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ โดยไม่มีการระบุชื่อสื่อที่ถูกประเมินในรายงานว่าได้คะแนนเท่าไหร่ แต่ทาง GDI จะมีการแจ้งให้สื่อเหล่านั้นทราบโดยตรงก่อนลงมือทำงานวิจัย และแจ้งอีกครั้งหลังทำงานเสร็จลุล่วงว่าสื่อนั้นมีความเสี่ยงต่อข้อมูลลวงมากน้อยเพียงใด ด้วยปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้าง พร้อมทั้งให้คำแนะนำว่าควรจัดการกับความเสี่ยงอย่างไร ในการประเมินผล ทีมวิจัยประเทศไทยใช้กระบวนการวิจัยทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพตามมาตรฐานของGDI โดยมีการวิเคราะห์ความเสี่ยงในด้านเนื้อหาและระบบการปฏิบัติงานจากเกณฑ์ชี้วัดหลักในแต่ละด้าน 10 ข้อ และ 6 ข้อตามลำดับ เมื่อนำความเสี่ยงทั้งสองด้านมาถัวเฉลี่ยกันก็จะเป็นค่าความเสี่ยงที่แต่ละสื่อได้รับจากคะแนนเต็ม100 โดยแบ่งระดับความเสี่ยงเป็น 5 ระดับ คือ ระดับต่ำสุด (80.28-100) ต่ำ (68.84-80.27 ) ปานกลาง (57.41-68.83) สูง (45.97-57.40) และสูงสุด (0-45.97 ) ทั้งนี้เนื้อหาที่นำมาวิเคราะห์มาจากการข่าวหรือบทความ 20 ตัวอย่างที่ถูกคัดเลือกจากแต่ละสื่อที่ถูกประเมิน โดยแบ่งเป็นเนื้อหาที่มีผู้แชร์บ่อย 10 ตัวอย่าง และเนื้อหาที่มีความเสี่ยงต่อข้อมูลลวงหรือที่สร้างความขัดแย้ง (adversarial narratives) ด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสุขภาพ เป็นต้นฯ 10 ตัวอย่าง (ดูรายละเอียดกระบวนการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลได้ในรายงานฉบับเต็ม) ค่าเฉลี่ยความเสี่ยงต่ำด้านเนื้อหา (79/100) ค่าเฉลี่ยความเสี่ยงสูงด้านระบบการปฏิบัติงานขององค์กรสื่อและกองบรรณาธิการ (35/100) ผลการประเมินพบว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้สื่อมีความเสี่ยงสูงต่อการเผยแพร่ข่าวลวงมาจากความไม่โปร่งใสหรือชัดเจนในนโยบายขององค์กรสื่อและแนวปฏิบัติของกองบรรณาธิการ (Operation Risk) เช่น ไม่ระบุความเป็นเจ้าของสื่อและแหล่งทุนหรือที่มาของรายได้ และไม่มีนโยบายหรือแนวปฏิบัติในการกลั่นกรองข้อมูลหรือตรวจสอบข้อเท็จชัดเจนของกองบรรณาธิการทั้งก่อนและหลังเผยแพร่เนื้อหา มากกว่าความเสี่ยงด้านเนื้อหา (Content Risk) ของสื่อส่วนใหญ่ที่ถูกประเมิน ซึ่งถือว่าปราศจากความลำเอียง ไม่ใช้ภาษาหรือภาพที่หวือหวาหรือพาดหัวคลาดเคลื่อน และ ไม่ได้มุ่งสร้างความขัดแย้งแม้ว่าสังคมไทยยังตกอยู่ในภาวะแบ่งขั้วทางการเมือง นอกจากนี้ แนวโน้มที่พบคือ สื่อที่ถูกประเมินกว่าครึ่ง มีเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงด้านระบบการปฏิบัติงานในเรื่องนโยบายการเปิดเผยความเป็นจ้าของสื่ออยู่ในระดับที่ต่ำ กล่าวคือไม่มีนโยบายหรือไม่เปิดเผยความเป็นเจ้าของบนหน้าเว็บอย่างชัดเจน และจำนวน 28 แห่งไม่มีนโยบายหรือแนวปฏิบัติในการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนเผยแพร่หรือการแก้ข่าวภายหลังอย่างชัดเจน ทำให้เกณฑ์ชี้วัดในเรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือการแก้ไขข้อผิดพลาดได้รับคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด (3/100) นอกจากนี้สื่อส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความสำคัญกับการระบุชื่อผู้สื่อข่าวหรือทีมงานที่ผลิตข่าวชิ้นนั้น (byline) ตลอดจนไม่ระบุหรือชี้แจงแนวปฏิบัติในการอ้างที่มาของแหล่งข่าวและแหล่งข้อมูลในข่าวอย่างชัดเจน (sources and attribution) ซึ่งเกณฑ์ที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด ถือเป็นแนวปฏิบัติตามหลักวารศาสตร์ที่สำคัญ ( major journalistic practice)ในการแสดงความโปร่งใสขององค์กรสื่อ ความเป็นอิสระของกองบรรณาธิการ และความรับผิดชอบที่สื่อมวลชนพึงมีเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเผยจะเผยแพร่ข้อมูลลวงใหต่อสาธารณะ และสร้างความไว้วางใจต่อผู้รับสารstd47964• 1 ปีที่แล้ว