431 ข้อความ
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม!! ดื่มน้ำมะนาวผสมเกลือเป็นวิธีฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19จากกรณีแนะนำวิธีข้อปฏิบัติตัวในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการดื่มน้ำอุ่นผสมเกลือ น้ำสมุนไพร และน้ำมะนาว เพราะเชื้อ COVID-19 กลัวน้ำดังกล่าว กรมควบคุมโรคได้ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นการสร้างข้อมูลเท็จนำมาเผยแพร่ซ้ำเพื่อสร้างความเข้าใจผิด ปัจจุบันยังไม่มีรายงานทางการแพทย์ใดยืนยันว่าการดื่มน้ำมะนาวผสมเกลือช่วยฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ซึ่งการป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสฯ ที่ดีที่สุดขณะนี้ คือ ลดการสัมผัสที่ไม่จำเป็น หมั่นล้างมือให้สะอาด หลีกเลี่ยงการไปในพื้นที่แออัด สวมหน้ากากอนามัยอยู่เสมอ และหากมีไข้ หรืออาการเสี่ยงให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ของเชื้อไวรัส COVID-19 ในประเทศไทย และวิธีการป้องกันตนเอง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์สุขภาพโควิด 2019ยาสมุนไพรstd47049• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินเหล้าขาวผสมมะนาวรักษาโควิดการดื่มสุราไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้และไม่เคยมีผลว้จัยว่าจะได้สุขภาพโควิด 2019วัคซีนโควิดยาสมุนไพรธันย์พัทธ์ กุลมาตย์• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโควิดสายพันธุ์ XBB ตรวจพบยาก เป็นพิษมากกว่าเดลตา 5 เท่า และมีอัตราการตายที่สูงกว่าจากกรณีที่มีการแจ้งเตือนโดยระบุว่า โควิดสายพันธุ์ XBB ตรวจพบได้ยาก เป็นพิษมากกว่าเดลตา 5 เท่า และมีอัตราการตายที่สูงกว่านั้น ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาชี้แจงว่า ปัจจุบันสายพันธุ์โอมิครอน BN.1 และลูกหลานซึ่งมีความได้เปรียบในการแพร่กระจาย และสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่กระจายอยู่ในประเทศไทยแต่มีแนวโน้มลดลง ในขณะเดียวกันสถานการณ์สายพันธุ์ลูกผสม XBB.1.5 XBB.1.16 และ XBB* รวมถึงลูกหลาน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและน่าจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในอนาคต ผลการเฝ้าระวังสายพันธุ์เชื้อก่อโรคโควิด 19 ในประเทศไทย ด้วยการตรวจหาสารพันธุกรรมแบบทั้งตัว ในช่วงเดือนมีนาคม 2566 พบว่าสัดส่วนสายพันธุ์ BA.2.75* และลูกหลานมีแนวโน้มลดลงจากเดิมที่พบสัดส่วน 73.02% ในสัปดาห์แรกของเดือน ลดลงเหลือ 40.00% ในสัปดาห์สุดท้าย ขณะที่สายพันธุ์ XBB* มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 12.70% ในสัปดาห์แรกของเดือน เป็น 20.00% ในสัปดาห์สุดท้ายสุขภาพโควิด 2019std48027• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยแนะแนวทางสกัด “infodemic” ข่าวปลอม-ข้อมูลเท็จ ซ้ำเติมสถานการณ์ “โควิด-19” ระบาดหนักเชื่อมต่อโลกออนไลน์ ระดมความคิดเห็นและแนวทางรับมือ “โรคระบาดข้อมูลข่าวสาร - infodemic” ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 อย่างไร ไม่ให้ตื่นตระหนก และตกเป็นเหยื่อข่าวลวงข้อมูลเท็จ เมื่อเร็วๆ นี้ ในการเสวนาออนไลน์เรื่อง เราควรรับมือโรคระบาดข้อมูลข่าวสาร (Infodemic) อย่างไรให้สมดุล จัดโดย ภาคประชาสังคม และกลุ่ม CoFact หรือ Collaborative Fact Checking แพลตฟอร์มใหม่ของภาคพลเมืองในการตรวจสอบข่าวลวงสุขภาพโควิด 2019ศุภาพิชญ์ จันทร์ภูญา• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยุงสามารถแพร่เชื้อโควิด19ได้?ข่าวปลอม อย่าแชร์! ❌ ยุงสามารถแพร่เชื้อโรคโควิด 19 . จากที่มีการแชร์ข้อความเรื่องยุงสามารถแพร่เชื้อโรคโควิด 19 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อความดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ . จากกรณีที่มีการตรวจพบข้อความเรื่องยุงสามารถแพร่เชื้อไวรัสโรคโควิด 19 ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า ไม่มีหลักฐานใดที่พบว่าการกัดของยุงจะสามารถถ่ายทอดเชื้อโควิด 19 ได้ อีกเหตุผลหนึ่งคือ ยุงมีตัวรับเชื้อโรคและความสามารถในการแบ่งเชื้อโรคที่ต่างจากคน ดังนั้น เชื้อโควิด 19 ไม่สามารถถ่ายทอดโดยยุงได้ . ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่งต่อข้อมูลดังกล่าวในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรคโควิด 19 ในประเทศไทย และวิธีการป้องกันตนเอง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.ddc.moph.go.th หรือ โทร. 1422 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ยุงไม่สามารถแพร่เชื้อโรคโควิด 19 ได้ เพราะยุงมีตัวรับเชื้อโรคและความสามารถในการแบ่งเชื้อโรคที่ต่างจากคน อีกทั้ง ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ใด ๆ ที่สนับสนุน . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . LINE : @antifakenewscenter (http://nav.cx/uyKYnsG) Website : https://www.antifakenewscenter.com/ Twitter: https://twitter.com/AFNCThailand Tiktok : @antifakenewscenter สายด่วน : ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111 ต่อ 87 . #ข่าวปลอม #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #AntiFakeNewsCenter #AFNCThailand #ข่าวสุขภาพ #ยุง #โควิด19 #แพร่เชื้อสุขภาพโควิด 2019std48133• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยการยืนตากแดดนั้นสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ให้แสงแดดชะโลมทั่วตัววันละ 20 นาทีทุกวัน (หรือมากที่สุดเท่าที่จะทำได้) แสงแดดจะไปเสริมภูมิคุ้มกันฆ่าเชื้อโควิด-19สุขภาพโควิด 2019std47762• 2 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแฟนมวยโล่ง! “เสี่ยฮุย”ยันข่าวปลอม “แหลม”ติดโควิด... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/720223/“เสี่ยฮุย” ยืนยัน ข่าว “เจ้าแหลม” ติดโควิด ชวดชิงแชมป์โลก จากสำนักข่าวดัง ESPN เป็นข่าวปลอม “เฟคนิว-Fake news” โร่หารือ WBC แถลงข่าวแก้ด้วย เผย “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ยังคงปักหลักฟิตซ้อมตามปกติในการขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่น 115 ปอนด์ที่ว่างของ สภามวยโลก (WBC) กับ คาร์ลอส คูเอดราส คู่ปรับเก่าชาวจังโก้...สุขภาพโควิด 2019มีมkensuji54• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! ผลิตภัณฑ์ Dentiste Andrographis Paniculata สามารถดักจับเชื้อไวรัสก่อนลงปอดตามที่มีการโฆษณาทางสื่อโซเชียลว่า เกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ Dentiste Andrographis Paniculata สามารถดักจับเชื้อไวรัสก่อนลงปอด ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Dentiste Andrographis Paniculata ซึ่งใช้ข้อความโฆษณาแสดงสรรพคุณว่า สามารถดักจับเชื้อไวรัสก่อนลงปอดนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า ผลิตภัณฑ์ เดนทิสเต้ แอนโดรกราฟิส พานิคูลาต้า จดแจ้งไว้เป็นเครื่องสำอางที่ใช้ในช่องปากมีทั้งยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก และสเปรย์ระงับกลิ่นปาก รวม 7 รายการ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นเครื่องสำอางทำความสะอาดในช่องปาก ระงับกลิ่นปาก จึงไม่มีผลในการดักจับเชื้อไวรัสก่อนลงปอดแต่อย่างใดสุขภาพโควิด 2019ผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47602• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัย6โรคร้ายตามมาหลังพักผ่อนไม่พอhttps://www.antifakenewscenter.com/%e0%b8%84%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89/6-%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b2-%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%9c%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99/สุขภาพplumplumplum2551• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวางมือถือไว้หัวนอน ทำให้เป็นมะเร็งสมองตามที่มีการโพสต์และแชร์ กรณีวางโทรศัพท์มือถือไว้หัวนอน ทำให้เป็นมะเร็งสมอง ทางกรมการแพทย์ ตรวจสอบแล้วพบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่แสดงว่าทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งสมองทั้งในผู้ใหญ่และเด็กสุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47766• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอาหารอุ่นไมโครเวฟ อันตรายแถมเสี่ยงมะเร็งกรณีที่มีผู้โพสต์คลิปวิดีโอให้คำแนะนำเกี่ยวกับสุขภาพว่า อันตรายจากการทานอาหารที่อุ่นไมโครเวฟ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งนั้น ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า คลื่นไมโครเวฟ (Microwave) ที่ใช้ปรุงอาหาร คือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเช่นเดียวกับคลื่นวิทยุ มีหลักการทำงานโดยการปล่อยรังสีเป็นคลื่นไปกระทบอาหาร ทำให้โมเลกุลน้ำทั้งภายใน และนอกอาหารสั่น และเสียดสีกันจนเกิดเป็นความร้อนสะสม จากนั้นพลังงานดังกล่าวจะสลายตัวไป จากข้อมูลที่ระบุว่า การใช้ไมโครเวฟจะทำให้สูญเสียสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินบี วิตามินซี โฟเลตนั้น ตามข้อเท็จจริงแล้วการปรุงหรืออุ่นอาหารทุกกรรมวิธีที่ใช้ความร้อนอาจเป็นผลให้เกิดการสูญเสียสารอาหารได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ข้อมูลจากงานวิจัยพบว่าคลื่นไมโครเวฟไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ และไม่ตกค้างในอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันแน่ชัดว่าการอุ่นอาหารด้วยไมโครเวฟจะเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตามผู้บริโภคควรระมัดระวังอันตรายจากการใช้เตาอบไมโครเวฟในด้านอื่น ๆ เช่น การใช้ความร้อนและระยะเวลาให้เหมาะสมกับชนิดของอาหาร ตลอดจนเลือกใช้ภาชนะชนิดที่ออกแบบมาสำหรับใช้กับเตาไมโครเวฟได้เป็นต้นสุขภาพมะเร็งyusufmassour1• 2 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--middle3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! เล่นมือถือนาน ๆ ทำให้หน้าเบี้ยวผิดรูปตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเตือนภัยในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องเล่นมือถือนานๆ ทำให้หน้าเบี้ยวผิดรูป ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีการเตือนภัยว่าการเล่นมือถือเป็นระยะเวลานาน จนทำให้พักผ่อนน้อย ส่งผลให้ปลายประสาทที่เลี้ยงใบหน้าอักเสบ หน้าผิดรูป ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงว่า การพักผ่อนน้อย หรือการเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก และปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน โดยเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ทำหน้าที่เลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า เมื่อมีความผิดปกติของเส้นประสาทจะทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง หรือมีลักษณะขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก ยิ้มไม่ขึ้น มักเป็นใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่ง สาเหตุการเกิดมีหลายปัจจัย เช่น เกิดตามหลังอุบัติเหตุบริเวณเส้นประสาทโดยตรง, การติดเชื้อบริเวณต่อมน้ำลายใกล้ๆเส้นประสาท, การพบเนื้องอกกดเบียดเส้นประสาท หรือเกิดจากการอักเสบของตัวเส้นประสาทเอง (Bell’s palsy) เป็นต้น สำหรับภาวะเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ หรือ Bell’s palsy นั้น การอักเสบของเส้นประสาทดังกล่าวเกิดขึ้นเอง โดยไม่ได้มีสาเหตุที่สรุปได้ชัดเจน แต่อาจสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัสเริม หรืองูสวัด ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีกที่เกิดขึ้นเร็วระยะเวลาภายใน 48 ชั่วโมง เช่นกล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรง ขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก รับประทานอาหารและดื่มน้ำลำบาก ร่วมกับอาจมีอาการหูข้างนั้นได้ยินเสียงก้องกว่าปกติ รับรสผิดปกติ เป็นต้น เมื่อมีอาการผิดปกติที่สงสัยภาวะดังกล่าว ควรรีบมาพบแพทย์ โดยการรักษาโรคนี้ประกอบด้วยการรักษาด้วยยาหากผู้ป่วยมาพบแพทย์ในช่วงแรกที่มีอาการ ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวดีขึ้น ร่วมกับการทำกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าในระยะยาว ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆและเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ การพักผ่อนน้อย ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน หน่วยงานที่ตรวจสอบ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข AFNCAFNCTHAILANDข่าวปลอมศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมหน้าเบี้ยวเล่นมือถือโทรศัพท์มือถือ ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง website 2378 ข่าวปลอม อย่าแชร์! กินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็ง ข่าวปลอม ผลิตภัณฑ์สุขภาพ 2 กรกฎาคม 2566 | 16:30 น. website 2374 ข่าวปลอม อย่าแชร์! อาหารอุ่นไมโครเวฟ อันตรายแถมเสี่ยงมะเร็ง ข่าวปลอม ผลิตภัณฑ์สุขภาพ 2 กรกฎาคม 2566 | 13:30 น. ข่าวล่าสุด website 2384 ข่าวปลอม อย่าแชร์! ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชวนลงทุนหุ้น รับปันผล 30,000 บาทต่อเดือน การเงิน-หุ้น website 2383 ข่าวปลอม อย่าแชร์! กรมการจัดหางาน เปิดโครงการ “ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน” ให้คนไทยมีรายได้เสริม นโยบายรัฐบาล-ข่าวสาร website 2382 สธ. เปิดตัวรถฟอกไตเคลื่อนที่นวัตกรรมต้นแบบคันแรกของไทย จริงหรือ? นโยบายรัฐบาล-ข่าวสาร website 2381 ข่าวปลอม อย่าแชร์! เพจ SAO Trading ในเครือของ AOT เปิดให้ลงทุนเริ่มต้น 1,000 บาท การเงิน-หุ้น website 2380 ข่าวปลอม อย่าแชร์! กรมพัฒนาธุรกิจฯ รับสมัครพนักงานนำเที่ยว รายได้ 1,500 บาท/วัน นโยบายรัฐบาล-ข่าวสาร เมนูหลัก หน้าแรก แจ้งเบาะแสข่าวและติดตาม คลังความรู้ ข่าวสาร ดาวน์โหลดคู่มือประชาชน เกี่ยวกับการใช้งาน ตัวช่วยเหลือในการเข้าถึงเว็บไซต์ นโยบายรักษาความลับข้อมูลส่วนตัว line facebook twiter twiter twiter call สายด่วน : 1111 ต่อ 87 Logo Copyright © 2023 ANTI-FAKE NEWS CENTER THAILAND ขออนุญาตใช้คุกกี้เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอเนื้อหาที่ดีให้กับท่าน ทั้งนี้ ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะดูแลและรักษาความปลอดภัยข้อมูลของท่านเป็นอสุขภาพสุริยนต์ พักแดงพันธ์• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยกินเม็ดชานมไข่มุกทำให้เป็นมะเร็งกินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็ง 20 มีนาคม 2022 | 11:30. ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องกินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็ง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จสุขภาพstd47611• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 3 คนสงสัยเเชร์ลูกโซ่อย่าเพิ่งหลงเชื่อ หากถูกชักชวนให้ลงทุนโดยอ้างว่า จะเทรดหุ้นให้ หรือลงทุนคริปโทให้ เพราะสุดท้ายอาจกลายเป็น “แชร์ลูกโซ่” มิจฉาชีพมักโฆษณาชักชวนลงทุนในหุ้นหรือคริปโท ผ่านช่องทางเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย รวมถึงกรณีมีคนใกล้ตัวหรือคนรู้จักมาชวนให้ลงทุน อ้างว่าให้ผลตอบแทนสูงได้ในเวลาอันรวดเร็ว และหากชวนคนอื่นได้ก็จะมีโบนัสเพิ่มอีก เจอแบบนี้ไม่น่าไว้วางใจ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ไปรู้เท่าทันแชร์ลูกโซ่ ที่แอบอ้าง หุ้นหรือคริปโท กันเลยสุขภาพstd48923• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยาลดความอ้วนอันตรายจริงหรือไม่ยาลดความอ้วนจะเข้าไปทำให้ความดันในกระแสเลือดผิดปกติ ทำให้เลือดสูบฉีดได้ไม่มากพอต่อความต้องการของร่างกาย เนื่องจากการทานยาลดความอ้วนและอดอาหารร่วมด้วยจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ขาดพลังงานจึงทำให้มีสุขภาพย่ำแย่สุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47798• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเผย 6 แนวโน้มข่าวลวงสุขภาพ ปี 2022! ระวังหยด "น้ำมันกัญชา" เอง เสี่ยงอันตรายข่าวลวงยังเป็นปัญหาสำคัญของสังคมไทย โดยเฉพาะข่าวลวงด้านสุขภาพที่ส่งผลต่อร่างกาย รุนแรงได้ถึงชีวิต หากไม่รู้เท่าทัน! เมื่อวันที่ 23 ส.ค. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับภาคีโคแฟค (COFACT) ประเทศไทย จัดเวทีสัมมนาไฮบริด นักคิดดิจิทัล ครั้งที่ 23 จากมะนาวโซดา ถึงกัญชารักษา (ไม่) ทุกโรค บทเรียนการรับมืออินโฟเดอมิกของสังคมไทย ณ ห้องประชุม 201 ชั้น 2 สสส. โดยเปิดเผย 6 แนวโน้มข่าวลวงสุขภาพ ปี 2022 Cofact Health Infodemics Trends 2022 โดย ChangeFusion เปิดเผยข่าวลวงที่พบได้ ดังนี้ 1.ข่าวลวงด้านสุขภาพยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเด็นที่เป็นกระแสสังคม เช่น กัญชา วัคซีน 2.พื้นที่ข่าวลวงใน Social Media แบบเปิดสาธารณะมีแนวโน้มดีขึ้นบ้าง แต่มีแนวโน้มขยายและเพิ่มความลึกขึ้นในพื้นที่เทคโนโลยีแบบปิด เช่น กลุ่มเฉพาะที่ไม่เปิดสาธารณะและกลุ่มไลน์ ซึ่งยากต่อการเฝ้าระวังด้วยเครื่องมือ Social Listening 3.ผู้ริเริ่มเผยแพร่ข่าวลวงอาจแบ่งได้เป็นอย่างน้อย 5 กลุ่ม (BBC) แต่ละกลุ่มมีบทบาทแตกต่างไปในข่าวลวงแต่ละลักษณะ แบ่งเป็น Joker, Scammer, Politicians, Conspiracy theorist, Insider 4.ข่าวลวงที่ตอกย้ำอคติหรือความเชื่อ/การเมืองในสังคม มีผลมากทั้งในเชิงความเสี่ยงสุขภาพและความแตกแยกในสังคม เช่น เรื่องฝีดาษลิงกับรักร่วมเพศ วัคซีนกับประเด็นทางศาสนา 5.เนื้อหาของข่าวลวงมีความเป็นสากลมากขึ้น เชื่อมโยงข้ามประเทศมากขึ้น จากหลายเหตุปัจจัย และ 6.การแสวงหาความจริงร่วมมีความสำคัญต่อการสร้างภูมิทางสังคมร่วมกัน โดยเฉพาะในประเด็นที่มีความซับซ้อน เช่น เรื่องข้าวหุงสุกแช่ตู้เย็นกับค่าน้ำตาลในเลือดสุขภาพstd47848• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยมะนาวรักษามะเร็งมะนาวสามารถต้านมะเร็งได้สุขภาพมะเร็งstd48316• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยเสปรย์ล้างจมูกสามารถฆ่าเชื้อโควิดได้เช้าข่าว 7 สี - อย.ตรวจสอบสเปรย์ล้างจมูก สามารถยับยั้ง หรือฆ่าเชื้อโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ โฆษณาเกินจริง สร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้บริโภค เตรียมรวบรวมหลักฐานแจ้งความเอาผิด เรื่องนี้ นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เตรียมดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผลิตภัณฑ์สเปรย์ล้างจมูกยี่ห้อหนึ่ง ที่ได้รับการจดแจ้งเครื่องมือแพทย์จาก อย. ฐานโฆษณาเกินจริง ก่อนหน้านี้ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ได้จดแจ้งสำหรับบรรเทาอาการไข้หวัด เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเยื่อบุโพรงจมูก ช่วยลดอาการคัดจมูก แต่ภายหลังพบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว แอบแฝงโฆษณาอวดอ้างว่าสามารถยับยั้ง และฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่, เชื้อโควิด-19, เชื้อไวรัส RSV และสามารถต้านการอักเสบได้ ซึ่งเป็นการโฆษณาเกินจริง สร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้บริโภค ส่วนผลการทดสอบก่อนวางตลาด เป็นเพียงผลการทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดฯ ในห้องปฏิบัติการเท่านั้น ยังไม่ได้ศึกษาวิจัยในมนุษย์เพิ่มเติม ล่าสุดทาง อย. ได้รวบรวมพยานหลักฐานเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายแล้ว อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าว ฝากถึงทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสถาบันที่ร่วมทดสอบประสิทธิภาพ ให้ระมัดระวังการโฆษณาเกินจริง ขณะที่ รองศาสตราจารย์นายแพทย์ วีระพงษ์ ภูมิรัตนประพิณ คณบดีคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นสถาบันที่ร่วมทดสอบประสิทธิภาพ ยืนยันทางคณะเวชศาสตร์เขตร้อน ให้บริการทดสอบประสิทธิภาพในห้องปฏิบัติการเท่านั้น โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโฆษณาเกินจริง รวมถึงการขออนุญาตขึ้นทะเบียน การจัดจำหน่าย และกิจกรรมอื่นของผลิตภัณฑ์สุขภาพstd48406• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอย่าเเชร์ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโกโก้ซอยโปรตีน เพิ่มความสูงmobile-menu Logo ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย Anti-Fake News Center Thailand searchiconmobile จำนวนผู้เข้าชม 15,512,899 ข่าวปลอม ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ข่าวปลอม อย่าแชร์! ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโกโก้ ซอยโปรตีน เพิ่มสูง ไม่ต้องพึ่งหมอ 8 มีนาคม 2022 | 17:01 Facebook Link Youtube ตามที่มีการเผยแพร่สรรพคุณในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโกโก้ ซอยโปรตีน เพิ่มสูง ไม่ต้องพึ่งหมอ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จสุขภาพstd48951• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 4 คนสงสัยTIPS ความรู้สุขภาพไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 2 คนสงสัยเพื่อนผมนอนๆอยู่ เส้นเลือดในสมองแตก,ลูกๆไม่รู้วิธีปฐมพยาบาลทำให้ขณะนี้อาการอยู่ในขั้นวิกฤติจึงอยากแชร์.... วิธีการ ‘ปล่อยเลือด’ ช่วยชีวิตจาก ‘โรคหลอดเลือดในสมองแตกฉับพลัน’ (ท่านผู้ที่ดูแลพ่อแม่ควรรู้ไว้) จำให้แม่น ๆ เอาไว้ช่วยชีวิตคนได้บุญ แพทย์อาวุโสแผนโบราณของไต้หวัน ได้ถ่ายทอดวิธีการช่วยชีวิตจาก โรคหลอดเลือดในสมองแตกฉับพลัน ซึ่งลูกกตัญญูหลายท่านเสียใจว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีโอกาสได้อ่านเรื่องนี้.. เมื่อเส้นเลือดฝอยที่อยู่ในสมองแตก เลือดจะไหลซึมออกมาอย่างช้า ๆ เมื่อพบกับสถานการณ์อย่างนี้ ขอให้ตั้งสติ ไม่ว่าช่วงจังหวะที่เกิดเหตุนั้นอยู่ ณ ที่ใด (ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ห้องนอน หรือ ห้องนั่งเล่น) ขออย่าได้มีการเคลื่อนย้าย ผู้ป่วยเป็นอันขาด เพราะถ้ามีการเคลื่อนย้าย จะเป็นตัวช่วยเร่งรอยแตกของเส้นเลือดฝอยให้มากขึ้น สิ่งแรกที่ควรทำคือ ประคองผู้ป่วยให้เอนนั่งตัวตรงมั่นคงก่อน ระวังอย่าให้ล้มเอนลงอีก เคล็ดลับการปฐมพยาบาล (ปล่อยเลือด).. ถ้าหากในบ้านมีเข็มฉีดยาอยู่ จะเป็นการดีที่สุด หากไม่มี ใช้เข็มเย็บผ้าก็ได้ แทงเข้าไปที่ปลายนิ้วมือ ทั้ง 10 ของผู้ป่วย (ไม่กำหนดจุดที่แน่นอน แค่ให้ห่างจากปลายเล็บนิ้วพอประมาณ) แทงให้มีเลือดไหลออกมา (ถ้าเลือดไม่ไหลออกมา ให้ใช้มือช่วยบีบได้) นิ้วละ 1 หยด ประมาณไม่กี่นาทีต่อมา ผู้ป่วยจะฟื้นตื่นขึ้นมา ถ้ามีอาการปากเบี้ยว ให้ดึงหูทั้ง 2 ข้างของผู้ป่วยจนหูแดง ให้แทงที่ด้านล่างของใบหูทั้งสองข้าง ๆ ละ 2 ครั้ง (ติ่งหู) จนมีเลือดไหลออกมา เพียงไม่กี่นาทีปากก็จะกลับฟื้นคืนสภาพเดิมได้ และให้รอจนกระทั่งผู้ป่วยฟื้นคืนสภาพกลับมาเป็นปกติ โดยไม่รู้สึกว่ามีอะไรที่ผิดปกติแล้ว จึงค่อยนำส่งต่อไปหาแพทย์ ถ้าหากรีบร้อนอุ้มขี้นรถพยาบาลไปหาแพทย์ทันที เกรงว่าในระหว่างทางจะเกิดอาการช็อคขึ้นมาก่อนไปถึงโรงพยาบาล เส้นเลือดฝอยในสมองของเขาอาจแตกเพิ่มจนเกือบหมด ในกรณีที่โชคดีไม่ถึงตาย ก็อาจกลายเป็นอัมพฤกษ์ หรือ อัมพาตก็ได้ ถ้าหากว่า พวกเราสามารถจดจำวิธีการนี้ จะสามารถช่วยเหลือได้ทันที ในช่วงระยะเวลาที่สั้น ๆ นี้ สามารถทำให้ฟื้นคืนจากความตายได้ อีกทั้งยังช่วยให้รักษาที่โรงพยาบาลหลังจากนั้น จะมีความสมบูรณ์หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ หากคิดว่าเป็นประโยชน์ให้ช่วยส่งต่อ คุณพ่อแม่ของพวกเราอยู่ในวัยสุ่มเสี่ยง อาจได้ใช้ประโยชน์นะครับ CR:อ.มาศ ซินแสไฮเทคสุขภาพไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเตือนอย่าซื้อเครื่องฟอกฟันขาวทางออนไลน์มาใช้เองเตือนอย่าซื้อเครื่องฟอกฟันขาวทางออนไลน์มาใช้เองสุขภาพความสวยความงามthanathun• 3 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 2 คนสงสัยนํ้ามันกัญชาของหมอเดชาช่วยรักษาจอประสาทตาเสื่อมได้จริงหรอครับนํ้ามันกัญชามันสามารถช่วยรักษาจอประสาทเสื่อมและโรคต่างๆที่เกี๋ยวกับดวงตาให้หายขาดได้จริงสุขภาพยาสมุนไพรผู้บริโภคเฝ้าระวังpocky18b• 3 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยฝีดากลิงฝีดากลิงคือไรโรคฝีดาษลิง โรคฝีดาษลิง หรือ โรคฝีดาษวานร (Monnkeypox Virus) เริ่มมีข่าวถึงการแพร่ระบาดมากขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้หลายคนเริ่มมีข้อสงสัย และกังวลว่า โรคฝีดาษลิง หรือฝีดาษวานร คืออะไร สาเหตุโรคฝีดาษลิง เกิดจากอะไร อาการน่ากลัวไหม และมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน เรามาทำความรู้จักโรคฝีดาษลิงกันครับ โรคฝีดาษลิง หรือ โรคฝีดาษวานร (Monnkeypox Virus) เป็นโรคที่ใกล้เคียงกับโรคอีสุกอีใส หรือไข้ทรพิษ แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า ผู้ป่วยจะมีไข้ ร่วมกับมีตุ่มผื่นตุ่มหนองทั่วตัว และต่อมน้ำเหลืองโต อย่างไรก็ดีขณะนี้ (เดือนพฤษภาคม 2565) ยังไม่พบการติดเชื้อของโรคนี้ในประเทศไทย แต่ก็ถือเป็นกลุ่มโรคที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะฉะนั้นผู้ที่กลับจากแอฟริกา หรือสัมผัสกับสัตว์ป่าต่างถิ่น หากมีอาการดังกล่าว หรือพบอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์สุขภาพdiazp121phoenix• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยช็อค!ความเชื่อคนทั้งโลก เมื่อผลวิจัยเผย “คอเรสเตอรอล” มีแต่ประโยชน์ ช็อค! Ending the War on Fat ความเชื่อคนทั้งโลก เมื่อผลวิจัยเผย “คอเรสเตอรอล” มีแต่ประโยชน์ ไม่มีโทษ นิตยสารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่าง TIME ได้เผยถึงบทความเกี่ยวกับ Ending the War on Fat “ความจริงของคอเรสเตอรอล” ที่ทุกๆ คนเข้าใจผิดมาตลอด 60 ปี ที่ว่าคอเรสเตอรอลเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดหลอดเลือดหัวใจและสมองนั้น ไม่เป็นความจริงอีกต่อไป คอเรสเตอรอลไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อร่างกาย แถมยังมีประโยชน์อีกมากมายด้วย ส่งผลให้บทความนี้ช็อคไปทั้งวงการแพทย์ทั่วโลกเลยทีเดียว ส่วนตัวการที่แท้จริงกลับเป็น “ไขมันทรานส์” ไขมันผิดธรรมชาติที่เกิดขึ้นมาผ่านกรรมวิธีของมนุษย์ มักพบอยู่ใน น้ำมันพืช น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันทานตะวัน น้ำมันรำข้าว ที่มีไขมันไม่อิ่มตัว โดยผ่านกรรมวิธีเติมไฮโรเจน เพื่อให้สามารถใช้ในการทอดได้ที่ความร้อนสูงๆ จนเกิดเป็นสารเคมีที่เป็นพิษต่อร่างกาย และส่งผลให้เป็นโรคความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจ และมะเร็งอีกด้วย แล้วประโยชน์ของ “คอเรสเตอรอล” ล่ะ มีอะไรบ้าง ? 1.) ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน ที่ใช้จัดการกับความเครียดในชีวิตประจำวัน และฮอร์โมนนี้ยังช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคมะเร็งด้วย 2.) จำเป็นต่อการผลิตฮอร์โมนเพศ 3.) ใช้คู่กับวิตามินดี เพื่อช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย กระดูก เส้นประสาท กล้ามเนื้อ การเผาผลาญอาหาร การผลิตอินซูลินและภูมิคุ้มกันร่างกาย 4.) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันความเสียหายไปยังเนื้อเยื่อ 5.) อยู่ในนมแม่ เป็นส่วนช่วยในการพัฒนาสมอง ระบบประสาท และภูมิคุ้มกันของเด็กทารก 6.) เป็นส่วนประกอบในการสร้างน้ำดีในตับ น้ำดีมีความสำคัญต่อกระบวนการย่อยอาหารและการดูดซึมของไขมัน 7.) จำเป็นสำหรับการทำงานของลำไส้และรักษาความสมบูรณ์ของผนังลำไส้ หากคอเลสเตอรอลต่ำอาจนำไปสู่โรคลำไส้รั่วและปัญหาทางเดินอาหาร 8.) มีส่วนช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย นี่คือเหตุผลที่คอเรสตอรอลของคนสูงอายุถึงมีค่าสูง เพราะมันมีประโยชน์ต่อคนสูงอายุ สุดท้ายนี้ การกินไข่เกินวันละ 2 ฟอง ก็ไม่ได้มีโทษอีกต่อไป นี่อาจเป็นเรื่องที่ช็อคคนทั่วโลกมากที่สุดในประวัติศาสตร์การแพทย์ก็เป็นได้ For decades, it has been the most vilified nutrient in the American diet. But new science reveals fat isn’t what’s hurting our health The taste of my childhood was the taste of skim milk. We spread bright yellow margarine on dinner rolls, ate low-fat microwave oatmeal flavored with apples and cinnamon, put nonfat ranch on our salads. We were only doing what we were told. In 1977, the year before I was born, a Senate committee led by George McGovern published its landmark “Dietary Goals for the United States,” urging Americans to eat less high-fat red meat, eggs and dairy and replace them with more calories from fruits, vegetables and especially carbohydrates. By 1980 that wisdom was codified. The U.S. Department of Agriculture (USDA) issued its first dietary guidelines, and one of the primary directives was to avoid cholesterol and fat of all … ที่มา : fxdio | time ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://sator4u.com/paper/1833สุขภาพไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น