1 คนสงสัย
กินเม็ดชานมไข่มุกทำให้เป็นมะเร็ง
กินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็ง 20 มีนาคม 2022 | 11:30. ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องกินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็ง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
std47611
 •  1 ปีที่แล้ว
1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
0 ความเห็น

สุขภาพ

  • มี 1 ความเห็น เจ้าของลบไปแล้ว.
  • เพิ่มความเห็นใหม่

    กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

    คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ข่าวปลอม อย่าแชร์! เล่นมือถือนาน ๆ ทำให้หน้าเบี้ยวผิดรูป
    ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเตือนภัยในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องเล่นมือถือนานๆ ทำให้หน้าเบี้ยวผิดรูป ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีการเตือนภัยว่าการเล่นมือถือเป็นระยะเวลานาน จนทำให้พักผ่อนน้อย ส่งผลให้ปลายประสาทที่เลี้ยงใบหน้าอักเสบ หน้าผิดรูป ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงว่า การพักผ่อนน้อย หรือการเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก และปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน โดยเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ทำหน้าที่เลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า เมื่อมีความผิดปกติของเส้นประสาทจะทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง หรือมีลักษณะขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก ยิ้มไม่ขึ้น มักเป็นใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่ง สาเหตุการเกิดมีหลายปัจจัย เช่น เกิดตามหลังอุบัติเหตุบริเวณเส้นประสาทโดยตรง, การติดเชื้อบริเวณต่อมน้ำลายใกล้ๆเส้นประสาท, การพบเนื้องอกกดเบียดเส้นประสาท หรือเกิดจากการอักเสบของตัวเส้นประสาทเอง (Bell’s palsy) เป็นต้น สำหรับภาวะเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ หรือ Bell’s palsy นั้น การอักเสบของเส้นประสาทดังกล่าวเกิดขึ้นเอง โดยไม่ได้มีสาเหตุที่สรุปได้ชัดเจน แต่อาจสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัสเริม หรืองูสวัด ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีกที่เกิดขึ้นเร็วระยะเวลาภายใน 48 ชั่วโมง เช่นกล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรง ขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก รับประทานอาหารและดื่มน้ำลำบาก ร่วมกับอาจมีอาการหูข้างนั้นได้ยินเสียงก้องกว่าปกติ รับรสผิดปกติ เป็นต้น เมื่อมีอาการผิดปกติที่สงสัยภาวะดังกล่าว ควรรีบมาพบแพทย์ โดยการรักษาโรคนี้ประกอบด้วยการรักษาด้วยยาหากผู้ป่วยมาพบแพทย์ในช่วงแรกที่มีอาการ ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวดีขึ้น ร่วมกับการทำกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าในระยะยาว ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆและเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ การพักผ่อนน้อย ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน หน่วยงานที่ตรวจสอบ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข AFNCAFNCTHAILANDข่าวปลอมศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมหน้าเบี้ยวเล่นมือถือโทรศัพท์มือถือ ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง website 2378 ข่าวปลอม อย่าแชร์! กินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็ง ข่าวปลอม ผลิตภัณฑ์สุขภาพ 2 กรกฎาคม 2566 | 16:30 น. website 2374 ข่าวปลอม อย่าแชร์! อาหารอุ่นไมโครเวฟ อันตรายแถมเสี่ยงมะเร็ง ข่าวปลอม ผลิตภัณฑ์สุขภาพ 2 กรกฎาคม 2566 | 13:30 น. ข่าวล่าสุด website 2384 ข่าวปลอม อย่าแชร์! ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชวนลงทุนหุ้น รับปันผล 30,000 บาทต่อเดือน การเงิน-หุ้น website 2383 ข่าวปลอม อย่าแชร์! กรมการจัดหางาน เปิดโครงการ “ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน” ให้คนไทยมีรายได้เสริม นโยบายรัฐบาล-ข่าวสาร website 2382 สธ. เปิดตัวรถฟอกไตเคลื่อนที่นวัตกรรมต้นแบบคันแรกของไทย จริงหรือ? นโยบายรัฐบาล-ข่าวสาร website 2381 ข่าวปลอม อย่าแชร์! เพจ SAO Trading ในเครือของ AOT เปิดให้ลงทุนเริ่มต้น 1,000 บาท การเงิน-หุ้น website 2380 ข่าวปลอม อย่าแชร์! กรมพัฒนาธุรกิจฯ รับสมัครพนักงานนำเที่ยว รายได้ 1,500 บาท/วัน นโยบายรัฐบาล-ข่าวสาร เมนูหลัก หน้าแรก แจ้งเบาะแสข่าวและติดตาม คลังความรู้ ข่าวสาร ดาวน์โหลดคู่มือประชาชน เกี่ยวกับการใช้งาน ตัวช่วยเหลือในการเข้าถึงเว็บไซต์ นโยบายรักษาความลับข้อมูลส่วนตัว line facebook twiter twiter twiter call สายด่วน : 1111 ต่อ 87 Logo Copyright © 2023 ANTI-FAKE NEWS CENTER THAILAND ขออนุญาตใช้คุกกี้เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอเนื้อหาที่ดีให้กับท่าน ทั้งนี้ ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะดูแลและรักษาความปลอดภัยข้อมูลของท่านเป็นอ
    สุริยนต์ พักแดงพันธ์
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จริงหรือไม่กินเม็ดชาไข่มุกทําให้เป็นมะเร็ง...!!
    จากกระแสบนโลกออนไลน์ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการกินเม็ด ชานมไข่มุกที่ส่งมาจากประเทศไต้หวัน จะทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งเพราะ มีสาร ที่เป็นอันตรายต่อตับ ไต ระบบเลือด และระบบประสาท ซึ่งเป็น สาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งต่างๆ จากข้อความดังกล่าวที่มีการแชร์บน โลกออนไลน์นั้น ได้มีการตรวจสอบโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) และได้ชี้แจงข้อสรุปว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง จากการที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประเทศไต้หวัน ได้มีการตรวจ สอบสิ่งที่พบจริงในเม็ดไข่มุกคือสารอะซิโตฟีโนน ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์ ชนิดหนึ่งที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายอัลมอนด์ มักถูกใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมน้ำหอมและอุตสาหกรรมยา ในเม็ดไข่มุกบางยี่ห้ออาจพบ สารเหล่านี้ในปริมาณน้อยมากแต่ไม่ใช่สารก่อมะเร็งดังที่ข่าวลือกล่าวอ้าง (อ้างอิงข้อมูลจากเว็ปไซต์ https://shorturl.asia/i74FQ ) และข้อมูลจากงานวิจัยการพัฒนาผลิตภัณฑ์เม็ดไข่มุกเสริมใยอาหารพร้อมบริโภค ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พบว่าในเม็ดไข่มุก หลายยี่ห้อมีส่วนผสมของแป้งมันสำปะหลังเป็นหลัก ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตเป็นสาร อาหารหลักชนิดหนึ่งที่ร่างกายเราต้องการและสวนผสมอื่นประกอบด้วย ผงเห็ดนางฟ้า เมือกกระเจี๊ยบเขียว อินูลิน แป้งดัดแปร คอนยัค คาราจีแนน น้ำตาล น้ำ เพียงเท่านั้น เป็นส่วนประกอบที่สามารถบริโภคได้ปกติทั่วไป (อ้างอิงข้อมูลโดยเว็บไซต์ https://shorturl.asia/mR2zQ ) ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการกินเม็ดชาไข่มุกนั้นไม่สามารถทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ดังที่แชร์ กันเพราะไม่มีสารประกอบใดๆที่เป็นอัตรายหรือก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ แต่ถึงแม้ว่า การกินเม็ดไข่มุกไม่ได้ทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็ง แต่ถ้าหากเราบริโภคไข่มุกในปริมาณที่ มากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ แทนได้เช่นกัน
    ประมุขตรัย ผิงอัน
     •  1 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    เม็ดชานมไข่มุก มีสารก่อมะเร็ง จริงหรือ
    เม็ดชานมไข่มุกทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งการกินเม็ดชานมไข่มุก ก็เหมือนกับการกินแป้ง แต่มีการแชร์กันมาว่าในเม็ดไข่มุกบางยี่ห้อจากไต้หวันนั้น มีสารสไตรีน (Styrene), อะซิโตฟีโนน (Acetophenone) และสารอื่นที่จับอยู่กับธาตุโบรมีนซึ่งน่าจะเป็นสารประกอบกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล ซึ่งสารกลุ่มนี้ทำให้เกิดมะเร็งได้ จริงหรือ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false