13122 ข้อความ
- 1 คนสงสัยสบู่เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีที่มีการโฆษณาขายสบู่อ้างว่ามีการผสมอสุจิแซลมอนเพื่อช่วยให้ผิวขาว ว่า ตามประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องสำอาง ฉบับที่ 2 ห้ามโฆษณาเครื่องสำอางไปในลักษณะอวดอ้างสรรพคุณว่าทำให้ผิวขาว หรือมีการเปลี่ยนสีผิว ดังนั้น ไม่ว่าจะได้มาจากส่วนใดของพืชหรือสัตว์ซึ่งยังไม่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์และทางการแพทย์ การโฆษณาลักษณะนี้จะถือว่าผิดกฎหมาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับฐานโฆษณาฝ่าฝืน พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558ภก.ประพนธ์กล่าวอีกว่า จะมีการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการจดแจ้งจริงหรือไม่ และต้องตรวจสอบด้วยว่าเคยมีการจดแจ้งขอใช้อสุจิแซลมอนเพื่อเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางหรือไม่ และมีการผสมในผลิตภัณฑ์นั้นจริงหรือไม่ หากไม่มีการผสมลงไปจริงก็เข้าข่ายโฆษณาเท็จ ส่วนเรื่องความปลอดภัยของตัวอสุจิแซลมอนนั้น เนื่องจากยังไม่เคยมีการจดแจ้งเรื่องการใช้อสุจิแซลมอนเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางมาก่อน จึงต้องมีการตรวจสอบอีกครั้งด้าน นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ รองผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน แต่แนะนำว่าหากผลิตภัณฑ์ใดที่ยังไม่ทราบที่ไปที่มาอย่างไรก็ไม่ควรใช้ เพราะผิวของแต่ละคนจะมีความไวแตกต่างกัน หากจะใช้ต้องพิจารณาว่าได้รับการรับรองจาก อย.หรือไม่std48002• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็งเม็ดไข่มุกบางยี่ห้อจากไต้หวันนั้นมีสารสไตรีน และสารกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyls ; PCBs) ซึ่งทำให้เกิดมะเร็งได้ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง จากที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคไต้หวันได้มีการตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่ามีสารสไตรีน (Styrene) แต่พบสารอะซิโตฟีโนน (Acetophenone) และสารประกอบกลุ่มโพลีโบรมีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polybrominated Biphenyl ; PBBs) ซึ่งมีปริมาณน้อยมาก แต่ไม่ใช่สารประกอบกลุ่มโพลีคลอรีนเนตเต็ดไบฟีนีล (Polychlorinated Biphenyls ; PCBs) จึงไม่ได้ทำให้เป็นมะเร็งอย่างที่ได้มีการแชร์std48466• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเตรียมรับมือพายุอินเดียเข้าไทย ทุกภูมิภาคระวังน้ำท่วมใหญ่ ในช่วงวันที่ 3 – 8 ก.ค. 66ผู้ส่งต่อข่าวสารว่า พายุอินเดียเตรียมเข้าไทย ครอบคลุมทุกภูมิภาค ฝนตกหนักมาก 80% ของพื้นที่ ชุ่มฉ่ำทั่วไทย 77 จังหวัด ระวังน้ำท่วมใหญ่ ทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เป็นข้อมูลที่มิได้มีที่มาจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา หากมีพายุเกิดขึ้นจริงและมีผลกระทบกับประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศให้ทราบอย่างน้อย 3 วันstd48460• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเรื่องโม้ๆ เกี่ยวกับการแพทย์และวิทยาศาสตร์ว่าด้วยกัญชากัญชาเป็นหนึ่งในพืชที่เป็นประเด็นโต้เถียงกันมายาวนาน จึงไม่น่าแปลกใจที่มันจะเป็นต้นเหตุของเรื่องหลอกลวง ตำนานเล่าขานที่ปั่นกันขึ้นมา และข่าวปลอมมากมาย ทั้งหมดล้วนแต่ส่งผลกระทบในด้านใดด้านหนึ่งต่อการรับรู้ของสาธารณชนต่อการใช้กัญชาและสถานะของมัน ต่อไปนี้คือ "เรื่องโม้ๆ" ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และการแพทย์ของกัญชา ที่แพร่หลายในต่างประเทศ (และอาจกระทบต่อทัศนะของคนไทยเราด้วย) 1. เรื่องโกหกเกี่ยวกับบริษัทมอนซานโตตัดแต่งพันธุกรรมกัญชา มีเรื่องหลอกลวงแพร่ทางอินเทอร์เน็ตในปี 2015 โดยอ้างว่าบริษัท Monsanto กำลังสร้างกัญชาดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อจัดหากัญชามากพอป้อนให้กับอุตสาหกรรมกัญชา (1) เรื่องหลอกลวงนี้สร้างขึ้นโดยเว็บไซต์ข่าวปลอมเสียดสี World News Daily Report เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2015 ซึ่ง Monsanto ตอบโต้ด้วยการ "การปฏิเสธแบบหัวชนฝา" ผ่านเว็บ "Myths About Monsanto" ที่คอยแก้ข่าวปลอมและเรื่องโกหกเกี่ยวกับบริษัท ซึ่งมักจะถูกโจมตีว่าทำการตัดแต่งพันธุกรรมเพื่อสนองตอบอุตสาหกรรมเกษตร แม้ว่ามันจะเป็นข่าวปลอม แต่สร้างความตื่นตูมให้กับวงการกัญชาอย่างมาก เช่น เว็บไซต์เกี่ยวกับกัญชา High Times รายงานว่า "นักวิทยาศาสตร์กำลังทำงานเพื่อสร้างแผนที่โครงสร้าง DNA ที่สมบูรณ์ของต้นกัญชา เพื่อป้องกันบริษัทเมล็ดพันธุ์ทางการเกษตรรายใหญ่ เช่น Monsanto จากการได้รับสิทธิบัตรเฉพาะสำหรับสายพันธุ์เฉพาะ" (2) สะท้อนว่า แม้จะเป็นข่าวปลอม แต่ "ชื่อเสียง" ของบริษัท Monsanto ทำให้เกิดความกังวลว่ากัญชาอาจถูกรวบหัวรวบหางโดยอุตสาหกรรมเกษตร เพื่อผูกขาดสายพันธุ์และผูกขาดการผลิต เพราะมันกำลังเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างเงินมหาศาล 2. เรื่องหลอกลวงเกี่ยวกับการทดลองกัญชาของนาซา การทดลองกัญชาของนาซาเป็นเรื่องหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตในปี 2559-2561 โดยอ้างถึงบันทึกการจ่ายเงิน 18,000 ดอลลาร์ของนาซาแก่อาสาสมัครเพื่อทำการทดลองนอนบนเตียงและให้กัญชาสูบระหว่างการทดลองเป็นเวลา 3 เดือน (หรือ 70 วัน) โดยได้เงิน 18,000 ดอลลาร์ (3) แต่นาซายืนยันว่าได้ทำการทดลองการนอนบนเตียงจริง แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกัญชา แต่เรื่องหลอกลวงนี้อาจมีที่มามาจากข่าวจริงในปี 2557 โดยคอลัมนิสต์ของสำนักข่าว VICE ชื่อ แอนดรูว์ อิวานิชกิ (Andrew Iwanicki) ซึ่งเขาได้บันทึกประสบการณ์ของเขาในฐานะผู้เข้าร่วมการทดลองการนอนของนาซา เรื่องปลอมนี้ดูเหมือนจะไม่มีพิษภัยอะไร และสื่อที่แก้ข่าสค่อนข้างจะให้น้ำหนักกับมันในฐานเรื่องตลกขบขันหรือข่าวสัพเพเหระเสียมากกว่า 3. ดาวเคราะห์แห่งกัญชา Planet X637Z-43 อีกครั้งที่นาซาเข้ามาเกี่ยวข้องกับข่าวปลอมเรื่องกัญชา คราวนี้ยิ่งหลุดโลกกันไปใหญ่ Planet X637Z-43 เป็นการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตในปี 2558 โดยอ้างว่าเป็นเอกสารการค้นพบโดยนาซาเกี่ยวกับดาวเคราะห์ที่ปกคลุมไปด้วยกัญชา สันนิษฐานว่าเป็นหนึ่งในดาวเคราะห์ 715 ดวงที่ค้นพบโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเคปเลอร์ในปี 2557 เรื่องราวเกิดขึ้นจากเว็บไซต์ข่าวปลอม NewsWatch28 เนื้อหาของข่าวปลอมอ้างว่ามีการค้นพบโดยนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยฮาวาย ที่พบอุกกาบาตที่มีร่องรอยของ THC หรือ Tetrahydrocannabinol (สารสำคัญในกัญชา) ถูกพบในทะเลทรายเนวาดาในปี 2553 เว็บไซต์ notallowedto.com รายงานเป็นตุป็นตะว่า “การค้นพบ THC บนเศษอุกกาบาตจะมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อวิทยาศาสตร์ดาราศาสตร์ หากสารเคมีที่เปลี่ยนการทำงานของสมองและส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการรับรู้ อารมณ์ หรือจิตสำนึกของมนุษย์ มีที่มาจากอวกาศแล้วจะมีบทบาทอย่างไร มีผลกระทบทางดาราศาสตร์ต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์หรือไม่ หรือกับชีวิตบนโลกโดยรวม การค้นพบนี้ทำให้เรามีคำถามมากกว่าคำตอบ" (4) แน่นอนว่า คำตอบที่ชัดเจนที่สุดคือมันไม่ต้องตอบ เพราะมันคือเรื่องโม้ขึ้นมา 4. กรณี Marlboro M เรื่องนี้เกิดจากบทความที่อ้างว่า Philip Morris USA เจ้าของบริษัทยาสูบ Marlboro กำลังเปิดตัวบุหรี่กัญชาแนวใหม่ที่เรียกว่า Marlboro M ในรัฐโคโลราโดและรัฐวอชิงตัน แม้ว่าบทความนี้จะเป็นเรื่องปลอม แต่บทความนี้มีพื้นฐานข้อเท็จจริงบางประการ เนื่องจากบริษัทยาสูบนี้ได้แสดงความสนใจในกัญชามาตั้งแต่ปี 1970 (5) ในขณะที่บทความได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นบทความปลอม แต่คำกล่าวอ้างของบทความได้รับความเชื่ออย่างกว้างขวางเนื่องจาก มันเป็นความจริงที่บริษัทยาสูบต่างๆ ซึ่งรวมถึง Philip Morris สนใจกัญชาในฐานะผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดและอาจลงทุนในอุตสาหกรรมกัญชา ความสนใจนี้มีมานานก่อนที่กฎหมายระบุให้กัญชาเป็นสิ่งเสพติดในหสรัฐอเมริกา (และที่อื่นๆ ที่ได้รับอิทธิพลจากกฎหมายสิ่งเสพติดของอเมริกัน) จะมีผลบังคับใช้อย่างรวดเร็ว หลังการทำให้กัญชาไม่เป็นอาชญากรรม/ถูกฎหมายแล้ว มีรายงานว่า บริษัทยาสูบบางแห่งได้เริ่มลงทุนในการวิจัยกัญชาทางการแพทย์ รวมถึงการเข้าร่วมกับบริษัทการลงทุนเมล็ดพันธุ์กัญชา แม้ว่าบริษัทเหล่านี้จะไม่ได้ไปไกลถึงขั้นแนะนำบุหรี่กัญชาเข้าสู่ตลาดก็ตาม (6)ยาสมุนไพรstd48466• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยตลท.ชวนลงทุนหุ้น รับปันผล 30,000 บาทต่อเดือนจากกรณีที่มีผู้โพสต์เชิญชวนโดยระบุว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชวนลงทุนหุ้น รับปันผล 30,000 บาทต่อเดือน ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ได้เชิญชวนลงทุนหุ้นโดยให้รับเงินปันผล 30,000 บาทต่อเดือนแต่อย่างใด และเพจดังกล่าวที่ลงโฆษณานั้นมีการแอบอ้างชื่อ โลโก้ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยstd48452• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอันตรายที่คาดไม่ถึงของข่าวปลอมเรื่องมะเร็งวิทยา มะเร็งคือโรคที่ทำให้ชาวโลกเสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 รองจากโรคหัวใจ ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งถึง 18 ล้านคน (จากตัวเลขปี 2562) (1) และมีอัตราการเสียชีวิตถึง 15.7% มะเร็งเป็นที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวมากที่สุดโรคหนึ่งและทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกว่าเมื่อเป็นมะเร็งแล้วเหมือนกับถูกพิพากษาประหารชีวิตให้ตายทั้งstd48061• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกราโนล่า” คุณค่าสูงแต่ไม่ช่วยให้ลดน้ำหนักการลดน้ำหนักเป็นกระแสสนใจของผู้นักสุขภาพจำนวนมาก อาหารประเภทที่อิ่มท้องแต่ไม่เพิ่มหนักจึงได้รับความสนใจอย่างมาก และหนึ่งในข้อมูลที่มีการเผยแพร่กันในแวดวงผู้รักสุขภาพอย่างหนึ่งก็คือ ‘กราโนล่า’ คืออาหารที่เหมาะสำหรับการควบคุมน้ำหนัก ซึ่งเป็นความเชข้าใจที่ผิดstd48061• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสื่ออาเซียนเผย “Fake News” เกี่ยวกับ "โควิด-19" หลายครั้ง “รัฐ” เผยแพร่เองนักข่าวฟิลิปปินส์ - อินโดฯ – มาเลย์ ย้ำบทบาท “สื่อ” สำคัญ ยุติข่าวปลอม ห่วงรัฐบาลอาศัยอำนาจพิเศษละเมิดสิทธิ์ประชาชนช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาด วันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา ภาคประชาสังคม และกลุ่ม CoFact หรือ Collaborative Fact Checking แพลตฟอร์มใหม่ของภาคพลเมืองในการตรวจสอบข่าวลวง ได้จัดเวทีเสวนาเรื่อง How to handle Covid-19 infodemic in Asia? หรือ จะรับมือข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโควิด – 19 ในเอเชียได้อย่างไร โดยมีสื่อมวลชนจากหลายประเทศเข้าร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การรายงานข่าว และการรับมือกับข่าวปลอมในช่วงการระบาดของโรคโควิด – 19 ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เอนดี บายูนี (Endy Bayuni) บรรณาธิการอาวุโส หนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์ ประเทศอินโดนีเซีย กล่าวว่า สถานการณ์ “ข่าวปลอม” ในรอบนี้ในอินโดนีเซีย ถือว่าไม่รุนแรงเท่ากับการเลือกตั้ง หรือเรื่องการเมืองที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเรื่องของความแตกแยก การใส่ร้ายป้ายสี และความรุนแรง โดยในรอบนี้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีการรักษาโรคแบบแปลกๆ หรือข่าวปลอมเรื่องอาสาสมัครที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ซึ่งไม่เป็นความจริงเท่านั้น ทั้งนี้ รัฐบาลอินโดนีเซีย ระบุว่ามีข่าวปลอมทั้งหมด 1,096 ชิ้น ได้ขอให้เฟซบุค นำข่าวปลอมออกทั้งหมด 759 โพสต์ แต่ในที่สุด เฟซบุค ได้เอาออกทั้งหมด 303 ข่าวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ไม่ได้อยู่ที่เฟซบุค แต่อยู่ที่แอปพลิเคชันที่เป็นการส่งข้อความแบบ Instant Messaging ระหว่างบุคคล อย่าง Whatsapp มากกว่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ อยู่เหนือการควบคุมของรัฐบาล และมักจะเป็นตัวกลางชั้นดีในการกระจายข่าวปลอม นอกจากนี้ เอนดี ยังได้แสดงความกังวลว่า รัฐบาลอินโดนีเซีย ได้อาศัย “อำนาจพิเศษ” ในช่วงภัยพิบัติ ซึ่งรัฐบาลมีอำนาจเต็มมากกว่าห้วงเวลาปกติ ในการจับกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล โดยเมื่อวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจได้จับตัวชายคนหนึ่ง ในข้อหาปลุกระดม สร้างความวุ่นวาย และในหลายครั้ง รัฐบาลอินโดนีเซียเองก็แชร์ “ข่าวปลอม” เพื่อสร้างความเชื่อมั่น หรือสร้างผลดีให้กับรัฐบาล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์มากว่าประเมินสถานการณ์ต่ำไป รวมถึงรับมือได้ไม่ดีนัก จนทำให้โควิด-19 ระบาดหนักในอินโดนีเซีย จนมีอัตราตาย 8.7% สูงที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เพราะฉะนั้น ช่วงเวลานี้ การทำหน้าที่สื่อมวลชนจึงสำคัญมากในการตรวจสอบข้อมูล ตรวจสอบข่าวลวง - ข่าวปลอม รายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ และในอีกแง่หนึ่งก็ต้องตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลตามไปด้วย ขณะที่อดัม คูเปอร์ (Adam Cooper) ผู้จัดการอาวุโสศูนย์ประสานงาน การพูดคุยเพื่อมนุษยธรรม (Centre for Humanitarian Dialogue) กล่าวว่า การไหลเวียนของข่าวลวงจำนวนมาก ทำให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย จัดการกับข่าวลวงไม่ไหว อย่างไรก็ตาม ได้เห็นความพยายามในการมีส่วนร่วมจัดการข่าวลวงเช่นกัน ยกตัวอย่าง ในสหรัฐอเมริกาเอง หากเปิดกูเกิล หรือเฟซบุค ข่าวเกี่ยวกับโควิด-19 จากสำนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือจากองค์การอนามัยโลกที่เชื่อถือได้ จะขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆ หรือในยูเครน องค์การอนามัยโลก ก็มี Chatbot ไว้ตอบคำถามเป็นภาษารัสเซีย ซึ่งสามารถจัดการกับข่าวปลอม และเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องได้พอสมควร แต่ที่เป็นปัญหาก็คือ ในประเทศที่รัฐขาดความชอบธรรม และความน่าเชื่อถือนั้น ข้อมูลข่าวสารที่มาจากรัฐเองจะขาดความน่าเชื่อถือตั้งแต่ต้น และข่าวสารใดๆ ที่รัฐแถลงออกมา ประชาชนจะไม่เชื่อ และไม่ทำตาม ซึ่งตรงนี้ ภาคประชาสังคม จะมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบที่มาข่าว และเผยแพร่ข้อเท็จจริงเป็นวงกว้าง โดยภาคประชาสังคม จะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ในสถานการณ์แบบนี้ อดัม กล่าวอีกว่า ความท้าทายอีกอย่างก็คือ มีความ “อคติ” เรื่องเชื้อชาติ - ศาสนา อยู่มากพอสมควร ในโซเชียลมีเดีย เช่น การบอกว่าพิธีกรรมทางศาสนา เป็นตัวกระจายการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งจุดนี้ ภาคประชาสังคม และกลุ่มตรวจสอบข่าวลวง อาจต้องสื่อสารหนักขึ้นเพื่อลดอคติ และความเข้าใจผิด ไม่ให้เกิดความขัดแย้งด้านเชื้อชาติ - ศาสนา ในเวลาแบบนี้std48079• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเช็คกระแสข่าวปลอม 2564 ‘เศรษฐกิจ-การเมือง’ ดันเข้าสู่ Cyber Crimeตลอดทั้งปีที่ผ่านมานอกจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ที่ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักกับโรคอุบัติใหม่ซี่งสามารถติดต่อจากคนสู่คนไปอย่างรวดเร็ว สถานการณ์แพร่ระบาด และมาตรการควบคุมโรค ส่งผลให้เกิดข้อสงสัย ความไม่ชัดเจน ซึ่งทำให้การส่งต่อ หรือเผยแพร่ข้อมูลเรื่องโควิด-19std48061• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยนํ้าท่าว จ ตรังฝนตกหนักทำน้ำท่วมตรังในพื้นที่ หมู่ 3 ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง กระทบกว่า 60 หลังคาเรือน ผู้ใหญ่บ้าน เผยหนักสุดในรอบ 18 ปีนับจากน้ำท่วมเมื่อปี 2548 เร่งย้ายคนป่วยติดเตียงขึ้นที่สูงไว้ก่อน คาดหากฝนไม่ตกเพิ่มอีกคงคลี่คลายstd48078• 1 ปีที่แล้ว
- 11 คนสงสัยเปิดตัว“โคแฟค” ตัดวงจรข่าวลวงที่ระบาดมากับโควิด-19สสส.จับมือ ภาคีป้องกันและตรวจสอบข่าวลวง เปิดตัวเว็บไซต์-Chatbot “โคแฟค” ชวนสังคมค้นหาข่าวจริง ตัดวงจรข่าวลวงที่ระบาดมากับโควิด-19 ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แถลงว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ได้มาพร้อมกับการระบาดของข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดข่าวลวงข่าวปลอมแพร่กระจายในสื่อไปทั่วโลก รวมทั้งในไทย สร้างความเข้าใจผิด ๆ ในเรื่องการป้องกันและควบคุมโรคระบาด และความปลอดภัยของประชาชน สสส. ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ChangeFusion Wisesight Open Dream Center for Humanitarian Dialogue (HD) มูลนิธิ Friedrich Naumann Foundation for Freedom (FNF) สำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม ภาควิชาการ และองค์กรวิชาชีพสื่อ นำร่องกลไกภายใต้โครงการโคแฟค (Collaborative Fact Checking : Cofact) เปิดพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงผ่านเว็บไซต์ cofact.org และโปรแกรมการพูดคุยอัตโนมัติ (Chatbot) ไลน์ @cofact เพื่อร่วมตรวจสอบข่าวลวงด้านสุขภาพ โดยเฉพาะประเด็นโควิด-19 เป้าหมายสำคัญ คือ การทำให้ทุกคนเปิดรับสื่ออย่างรู้เท่าทัน ร่วมตรวจสอบข่าว นำมาสู่การเรียนรู้และพัฒนาทักษะเท่าทันสื่อของพลเมืองดิจิทัล ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อร่วมสร้างระบบนิเวศสื่อและสังคมสุขภาวะstd48079• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอย. ห้ามผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโฆษณาอ้างรักษามะเร็งนพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ป่วยโรคมะเร็งในปัจจุบัน โดยระบุว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนทั่วโลก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีstd48063• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสธ.จับมือ ดีอี ตำรวจ เอาผิดผู้โพสต์-แชร์ข่าวลวง ‘ไวรัสโคโรนา’กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) กล่าวโทษดำเนินคดีผู้โพสต์ แชร์ข่าวลวง ข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนา ให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข https://pr.moph.go.th วันนี้ (29 มกราคม 2563) ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กทม. นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ ได้เป็นตัวแทนของกระทรวงสาธารณสุข ประชุมร่วมกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center) กระทรวงดิจิทัลฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) โดยมี พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ เป็นประธาน เพื่อให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีข่าวปลอม ข่าวลวงโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาที่ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม และกระทรวงสาธารณสุขได้เฝ้าระวังและติดตามข่าวจากสื่อโซเชียล เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย กล่าวโทษดำเนินคดีกับผู้โพสต์ ผู้แชร์ข่าวอันเป็นเท็จ ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้ดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดการส่งต่อข้อมูลซึ่งจะทำให้ประชาชนตื่นตระหนก นพ.รุ่งเรือง กล่าวต่อว่า ท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการโพสต์ การแชร์ข่าวปลอม ข่าวลวงเพราะนอกจากจะเป็นภัย ทั้งด้านสุขภาพแล้ว ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจสังคมของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เฝ้าระวังและตรวจจับ ขณะเดียวกันได้เร่งส่งเสริมการให้ข่าวที่ถูกต้องและตอบโต้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง ลดความตื่นตระหนก และหันมาร่วมมือกันป้องกันตนเอง โดยขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะรายงานสถานการณ์และข้อปฏิบัติตัวสำหรับประชาชนเป็นประจำทุกวันทางเว็บไซต์std48079• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยครีมช่วยทำให้ดั่งโด่งครีมช่วยให้ “จมูกโด่ง” ไม่มีอยู่จริง ชี้ ผู้ผลิตโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับภายนอกร่างกายของมนุษย์ รวมถึงฟันและเยื่อบุในช่องปาก เพื่อความสะอาด ความสวยงาม แต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ การโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ทำให้ดั้งโด่งได้อย่างรวดเร็วภายใน 7 วัน ไม่มีอยู่จริงstd48083• 1 ปีที่แล้ว
- 12 คนสงสัยลักษณะข่าวลวงเรื่องกัญชารักษามะเร็งในอเมริกาShi S และคณะได้ตีพิมพ์งานวิจัยเพื่อประเมินแนวโน้มการแพร่กระจายข่าวลวงเรื่องกัญชารักษามะเร็ง ในวารสารวิชาการทางการแพทย์ Cureus เดือนมกราคม 2019 เค้าวิเคราะห์โดยอาศัยข้อมูลเกี่ยวกับการค้นหาข้อมูลโดยใช้ Google trends ตั้งแต่ปี 2011-2018 ในประเทศสหรัฐอเมริกา พบสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างทีเดียว 1. มีการค้นหาเรื่องกัญชารักษามะเร็งมากกว่าการค้นหาวิธีรักษามะเร็งแบบมาตรฐานถึง 10 เท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐที่เปิดเสรีกัญชาหรือปลดล็อคกฎหมาย 2. ในบรรดาข่าวที่เผยแพร่เกี่ยวกับวิธีการรักษามะเร็งแบบทางเลือกนั้น มีกัญชาถึงราวหนึ่งในสี่ 3. ข่าวลวงตัวท็อปเรื่องกัญชารักษามะเร็งนั้นทำให้คนหลงเชื่อมาอ่าน คลิกหรือแชร์ รวมกว่า 4 ล้านครั้ง ในขณะที่ความพยายามแก้ข่าวลวงด้วยการให้ข้อมูลที่ถูกต้องนั้น คนกลับตอบสนองเพียง 36,000 ครั้งเท่านั้น 4. องค์กรวิชาการหรือหน่วยงานด้านมะเร็งมีอัตราการเผยแพร่ข้อมูลให้แก่ประชาชนและผู้ป่วยน้อยมาก ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ ฯลฯ 5. หากเทียบตัวต่อตัว ระหว่างข้อมูลที่เผยแพร่จากหน่วยงานวิชาการที่เชื่อถือได้ กับข่าวลวงเรื่องกัญชารักษามะเร็ง พบว่าอัตราการ retweet ต่างกันราวฟ้ากับเหว กล่าวคือ ข่าวลวงมีอัตราการ retweet เยอะกว่าข่าวจริงถึง 100 เท่า (527 vs 5.6 retweets) ในขณะที่อัตราการดู คลิก แชร์ ในเฟซบุ๊คนั้น ข่าวลวงเรื่องกัญชารักษามะเร็งก็เอาชนะข่าวจริงไปถึง 4,500 เท่า (452,050 vs 98 engagements) งานวิจัยนี้น่าสนใจ และน่าจะสามารถอธิบายได้ว่า ทำไมข่าวลวงทั้งหลาย จึงสามารถทำให้หลายต่อหลายคนเชื่องมงายเรื่องกัญชารักษามะเร็งได้อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ทำไงดี? ดูแลลูกหลานและคนในครอบครัวให้ดี พยายามใช้สติและปัญญาในการเสพข่าว เลี่ยงแหล่งข่าวที่เล่นกับกิเลสและความกลัว พยายามช่วยกันทำให้คนใกล้ชิดรู้เท่าทันเท่าที่สามารถจะทำได้โควิด 2019std48079• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสื่ออาเซียนเผย “Fake News” เกี่ยวกับ "โควิด-19" หลายครั้ง “รัฐ” เผยแพร่เองนักข่าวฟิลิปปินส์ - อินโดฯ – มาเลย์ ย้ำบทบาท “สื่อ” สำคัญ ยุติข่าวปลอม ห่วงรัฐบาลอาศัยอำนาจพิเศษละเมิดสิทธิ์ประชาชนช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาดstd48063• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเผย Fake News กระทบสุขภาพคนไทยหนัก ทำคนเข้าใจผิด ตกเป็นเหยื่อข้อมูลเท็จสสส.ร่วมกับองค์กรวิชาชีพสื่อ-วิชาการ-ภาคประชาสังคม จัดเวทีสัญจรรับมือข่าวลวง เพื่อหนุนเสริมการสร้างระบบนิเวศสื่อเพื่อสุขภาวะของไทย Fake News กำลังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนในสังคม กว่า 1 ใน 3 ของข่าวปลอมส่งผลต่อสุขภาพทั้งกายและใจ สสส.ร่วมกับ คณะทำงานคุ้มครองผู้บริโภค สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ กองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ Change Fusion และเครือข่ายสื่อสร้างสุขภาคใต้ จัดเวทีเสวนาสัญจร เรื่อง “สื่อท้องถิ่นกับการรับมือข่าวลวงและด้านมืดยุคดิจิทัล” นำร่องภูเก็ตเป็นจังหวัดแรก ด้านสื่อท้องถิ่นขานรับตื่นตัวรับมือ 'ข่าวลวง' เป็นเรื่องสำคัญ เพราะก่อให้เกิดความเสียหายตั้งแต่ความเข้าใจผิด เสียทรัพย์สิน ไปจนถึงการส่งผลกระทบต่อสุขภาพและอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตstd48079• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโฆษณายาสีฟันยี่ห้อฟันทนอ้างว่ารักษาเหงือกอักเสบ ฟันโยก ฟันผุได้std48094• 1 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยแพทย์เตือนน้ำยาหยอดตานาโนแก้ปัญหาสายตาสั้นยาวไม่ได้นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันสื่อบนโซเชียลได้เผยแพร่ หรือแชร์ข้อมูลที่มีทีมนักวิจัยชาวอิสราเอล พัฒนาน้ำยาหยอดตานาโน ที่สามารถแก้ปัญหาสายตาสั้นและยาว โดยไม่ต้องใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์นั้น จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าน้ำยานาโนมีการศึกษาทดลองอยู่ในต่างประเทศจริง เป็นการทดลองโดยนำน้ำยาชนิดหนึ่งมาใช้กับดวงตาของหมูในห้องปฏิบัติการ ซึ่งเป็นดวงตาที่ไม่ได้อยู่ในหมูที่มีชีวิตนำมาทดลองวิจัยstd48063• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยพรีมายากาแฟลดน้ำหนักโฆษณาเกินจริง เชิญชวนให้เป้นตัวแทน บอกว่าจะได้ค่าตอบแทนโดยลงทุน6000 3เดือนได้กำไร15ล้านstd48083• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยยิ่งยงโฆษณาถั่งเช่าเกินจริงบอกสรรพคุณเเละคุณประโยชน์เกินจริงstd48094• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกกต. ยัน ข่าวเท็จ รับรอง ส.ส.แบ่งเขต-พิจารณาปาร์ตี้ลิสต์อีกวันนี้กกต.ยัน ข่าวเท็จ รับรอง ส.ส.แบบแบ่งเขตแล้ว 100 ราย ยังไม่มีการพิจารณา ขณะ 14 มิ.ย. ก็ยังไม่มีการเห็นชอบ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ยัน จะเร่งพิจารณา ประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส. ทั้ง 2 รูปแบบ ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เตือน อย่าแชร์ข่าวดังกล่าวstd48092• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเมื่อวงการวิทยาศาสตร์ผลิตข้อมูลผิดๆ จนทำให้เสียรังวัดเวลาที่มีการเสนอข่าวเกี่ยวกับโควิด-19 ตามแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ มักจะมีผู้ที่มาแสดงความเห็นว่าโควิด-19 ไม่มีอยู่จริง หรือบอกว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลหรือสื่อกุขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนกลัว ความเชื่อผิดๆ แบบนี้ไม่ได้มีเฉพาะคนทั่วไป แต่ยังลามไปถึงระดับปัญญาชนstd48063• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม อย่าแชร์! หายใจให้ถูกวิธีจะช่วยลดอาการข้อเท้าบวมตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อออนไลน์เรื่องหายใจให้ถูกวิธีจะช่วยลดอาการข้อเท้าบวม ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบ โดยโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จstd48076• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเตือนรีวิวแจกคอร์สเสริมจมูก-หน้าอก ผ่านโซเชียล ผิดกฎหมายสบส.เตือนแอดมินจัดกิจกรรมแจกคอร์สเสริมจมูก เสริมหน้าอกฟรีผ่านโซเชียล ระวังเข้าข่ายความผิดโฆษณาสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณา โดยหนึ่งในกิจกรรมที่แอดมินเพจเรื่องความสวยความงามมักนำมาใช้ดึงดูด เพื่อเพิ่มจำนวนสมาชิก ผู้ติดตาม หรือยอดไลค์ให้กับเว็บไซต์หรือเพจที่ตนดูแล คือ การแจกคอร์สเสริมความงาม หรือแจกบริการศัลยกรรมเสริมความงามเฉพาะจุด เช่น เสริมจมูก หรือหน้าอกฟรี กับโรงพยาบาลเอกชนหรือคลินิกstd48088• 1 ปีที่แล้ว