1549 ข้อความ
- 1 คนสงสัยรับประทานเฉพาะไข่ต้ม 7 วัน ลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ไข่ต้มเมนูที่หลายคนนิยมนำมาเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนัก ด้วยความเชื่อว่าไข่ต้มมีโปรตีนที่สูง ช่วยให้อิ่มนาน และมีแคลอรี่ต่ำ แต่การกินไข่ต้มเพียงอย่างเดียวเป็นเวลา 7 วัน จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้จริงหรือ? จากการสัมภาษณ์ อ.ดร. ธาริณี นิลกำแหง อาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ ประจำหลักสูตรวิชาโภชนาการและการกำหนดอาหาร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า การรับประทานไข่ต้ม ต้องรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากไข่ต้มมีโปรตีนสูงช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ควบคุมความอยากอาหาร และยังช่วยในการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ มีแคลอรี่ที่ต่ำเมื่อเทียบกับอาหารอื่นๆ ทำให้สามารถรับประทานได้ในปริมาณที่มากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักเพิ่ม ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : https://www.rattinan.com/ ) นอกจากนั้นไข่ต้มยังมีประโยชน์ในเรื่อง ช่วยเร่งการเผาผลาญ โปรตีนจากไข่ต้มสามารถช่วยเร่งการเผาผลาญในร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังลดน้ำหนัก สะดวกและง่ายต่อการเตรียม ไข่ต้มเป็นอาหารที่เตรียมง่าย สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก ทำให้สามารถควบคุมการบริโภคอาหารและหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพได้ง่ายขึ้น การบริโภคที่หลากหลาย ไข่ต้มสามารถนำไปใช้ในเมนูอาหารต่าง ๆ ได้มากมาย เช่น สลัดไข่ต้ม แซนด์วิชไข่ หรือแม้กระทั่งเป็นส่วนประกอบในซุป ทำให้ไม่น่าเบื่อและสามารถใช้ในการควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : https://www.jenniferoomthailand.com ) แต่ร่างกายของคนเรานั้นต้องการแคลอรี่ใน 1 วัน ประมาณ 1800 - 2000 ต่อวันซึ่งไข่เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง การกินไข่ต้มทุกวันวันละ 1-2 ฟอง จึงเป็นการเพิ่มพลังงานและสารอาหารให้ร่างกายได้อย่างเหมาะสม แต่ไม่ควรทำต่อเนื่องเพราะจะทำให้เกิดผลเสียต่อระบบการย่อยและการดูดซึม ส่วนบุคคลที่เป็นโรคไตไม่ควรทำเพราะจะทำให้ไตเกิดการทำงานหนักขึ้น แต่อย่างไรก็ตามควรทำด้วยความระมัดระวัง โดยควรควบคู่กับการควบคุมแคลอรีจากอาหารอื่นๆ รวมถึงการออกกำลังกาย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ( ข้อมูลจากเว็บไซต์ : https://www.homefittools.com/news/boiled-eggs-low-fat.html ) ดังนั้น การกินไข่ต้มเป็นส่วนหนึ่งของอาหารมื้อเพื่อสุขภาพนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่การกินไข่ต้มเพียงอย่างเดียวเป็นเวลา 7 วัน ไม่ใช่ทางลัดในการลดน้ำหนักที่ยั่งยืนและปลอดภัย ควรเลือกวิธีการลดน้ำหนักที่เน้นความสมดุลของสารอาหารและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาวสุขภาพภาคอีสานsuthinantanle20192545• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผลเลือกตั้ง 2566 : กกต. ประกาศรับรอง ส.ส. ครบทั้งสภา 500 คนคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ครบ 500 คน แบ่งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต 400 คน และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คนstd47914• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยการเดทกันของ AI ของZeNa MAVE และ ซึง Superkindมีข่าวออกมาว่า ซีนา และ ซึง เดทกัน เนื่องจากคนจิ้นstd47926• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยGT200 ตรวจระเบิดลวงโลก ย้อนอดีต ไทยเสียค่าโง่พันล้านผลิต “เครื่องตรวจจับสสารระยะไกล” หรือ GT200 ออกมาวางขาย โดยบริษัทอวดอ้างว่าเครื่องนี้ใช้ระบบแม่เหล็กขั้นสูง สามารถตรวจจับได้เลยว่าระเบิดอยู่ตรงไหน แม้จะยืนอยู่ในระยะที่ไกลมากๆ ก็ตามที โดยไม่ใช่แค่ระเบิดเท่านั้น แต่บริษัทเคลมว่า ยาเสพติด, ยาสูบ, งาช้าง, กระสุนปืน ของผิดกฎหมายใดๆ ก็สามารถใช้ GT200 ตรวจสอบได้หมด 2) วิธีการใช้นั้นง่ายมาก เมื่อคุณจ่ายเงินซื้อมาแล้ว จะได้ตัวเครื่อง GT200 สีดำทำจากพลาสติก บนตัวเครื่องที่จะมีช่องเล็กๆ ให้เสียบ “เซ็นเซอร์การ์ด” เข้าไปได้ ถ้าหากคุณอยากค้นหาระเบิด ก็เอาเซ็นเซอร์การ์ดชื่อ “ตรวจระเบิด” เสียบเข้าไป แล้ว GT200 จะแปลงร่างกลายเป็นเครื่องตรวจหาระเบิด หรือถ้าเอาเซ็นเซอร์การ์ดที่เขียนว่า “ยาเสพติด” เสียบเข้าไป เครื่อง GT200 ก็จะแปลงร่างกลายเป็นเครื่องตรวจยาเสพติดแทน จากนั้นถ้าเดินๆ อยู่ แล้วเสาอากาศแบบหนวดกุ้งที่อยู่บนเครื่อง GT200 ชี้ไปทางไหน ก็มีแนวโน้มว่า เป้าหมาย (ระเบิด – ยาเสพติด) จะอยู่ตรงจุดนั้นด้วย ยิ่งไปกว่านั้น GT200 ยังมีนวัตกรรมขั้นสูง คือไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ใดๆ ทั้งสิ้น บริษัทผู้ผลิตอ้างว่า ตัวเครื่องสามารถดึงพลังงานไฟฟ้าสถิตจากตัวผู้ถืออุปกรณ์ ดังนั้นจึงสามารถใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องชาร์จไฟstd48866• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยยารักษาโรคมะเร็งหายขาดยารักษาโรคมะเร็งให้ไม่มีเชื้อ หายขาดจากมะเร็ง เป็นยาช่วยทำให้คนมีเรี่ยวมีเเรง โดยไม่ใช้เคมีgreen.immek• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม สำหรับประชาชนทั่วไปโรงพยาบาลให้บริการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม สำหรับประชาชนทั่วไป ที่ลงทะเบียนจองวัคซีนผ่านทางเว็บไซต์ https://sinopharm.cra.ac.th และโอนเงินชำระค่าวัคซีนเสร็จสิ้นแล้ว ตามเวลาที่กำหนดวัคซีนโควิดMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยชัชชาติ สิทธิพันธุ์ : สำรวจงบ กทม. ไปไหน ท่ามกลางดราม่า “งบเหลือ 94 ล้าน”นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้รับข้อมูลผ่านสาธารณะว่างบลงทุนของ กทม. เหลืออยู่เพียง 94 ล้านบาท ในวันแรกที่เขาเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่ถึงกระนั้นทั้งผู้ว่าฯ และปลัด กทม. ต่างยืนยันว่าไม่มีปัญหา เพราะ กทม. มีเงืนสะสมนับหมื่นล้านบาท ปัญหางบประมาณของ กทม. ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง หลังจากนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ออกมาเปิดประเด็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขาเมื่อ 1 มิ.ย. โดยแจกแจงรายละเอียดของงบประเภทต่างๆ ก่อนสรุปว่า กทม. มีงบประมาณรายจ่ายเหลือเพียง 94 ล้านบาท "ด้วยเหตุนี้ ในปีงบประมาณ 2565 ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ คงไม่สามารถนำนโยบายที่ใช้หาเสียงมาทำให้เกิดเป็นรูปธรรมได้มาก" ขณะที่ผู้ว่าฯ กทม. เจ้าของนโยบาย 214 ข้อ กล่าวว่า ไม่กังวลใจ เพราะเชื่อว่ามีเงินยังไม่ได้จ่ายเหลืออยู่ และยังมีเงินสะสมของ กทม. เป็นหมื่นล้านบาท ซึ่งให้สภา กทม. อนุมัติได้ อีกทั้งนโยบาย 214 ข้อ ก็ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานว่าใช้เงินเยอะ หลายเรื่องเดินได้โดยไม่ต้องใช้เงินข่าวการเมืองTulakarn Loyhar• 3 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 2 คนสงสัยได้ข้อมูลจาก คุณ พงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร มติชน อ่านเลย! มีประโยชน์ช่วยคนได้ครับ.... ท่านผู้นี้ชื่อจริงไชยวรรณ พิมพนิช คนส่วนมากเรียกติดปากว่าพ่อเลี้ยงวรรณ เป็นคนแม่สอดจ.ตาก มีอาชีพทำการเกษตร ปลูกมันสำปะหลังปลูกอ้อย ปลูกส้ม สุดท้ายก็มาปลูกกล้วยส่งต่างประเทศ ก็ทำมาสิบกว่าปีแล้ว มีลูกชายสามคนจบปริญญาโทด้านการเกษตรทั้งสามคน คนโตเรียนพืชไร่ คนที่สองเรียนพืชสวน คนที่สามเรียนส่งเสริมการเกษตร ปัจจุบันอายุก็หกสิบกว่าแล้ว ปกติจะเป็นคนชอบออกกำลังกาย สุขภาพก็แข็งแรงดี เพื่อนๆหรือคนรู้จักจะชมว่าทำไมอายุมากขนาดนี้ถึงแข็งแรงเดินเหินได้สบาย @ เข้าตรวจอาการที่โรงพยาบาล @ อยู่มาไม่นานเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเกิดอาการปวดที่หลังและไม่หายประมาณ 2 เดือนกว่า รักษาหลายวิธีทั้งแช่น้ำอุ่นและให้หมอนวด ก็ไม่หาย วันหนึ่งไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯเพื่อนเป็นหมอ อาตมาเล่า(ขณะที่เล่า..บวชแล้ว) ให้เพื่อนฟังว่าปวดหลังมา สองเดือนกว่าแล้วไม่หายสักที เพื่อนก็นิ่งแล้วมองหน้ากันเขาไม่พูดอะไร สักพักเพื่อนก็พูดขึ้นมาว่าเอกซเรย์หน่อยดีไหม เพราะคนปกติปวดธรรมดาทั่วๆไป กล้ามเนื้ออักเสบเอ็นพลิก ใช้เวลาประมาณ 3 อาทิตย์ก็หายแล้ว แต่พ่อเลี้ยงวรรณ ปวดจากหลังลามมาถึงหน้าอก 2 เดือนแล้วไม่หายต้องเอกซเรย์หน่อย พอเอกซ์เรย์เสร็จ ก็เห็นว่ามันมีรอยจุดด่างๆอยู่ 2 จุด หมอบอกว่ายังไม่แน่ใจนะต้องเข้าเครื่องสะแกน เข้าเครื่อง สะแกน 1 ชั่วโมง ก็ยังไม่ทราบผล พอออกมาจากเครื่องสะแกนก็กลับบ้าน หมอบอกว่า 10 โมงเช้าพรุ่งนี้ค่อยมาฟังผล เพราะ ฟิมล์ผลตรวจจะออกมาวันพรุ่งนี้ รุ่งขึ้น 10 โมงเช้าก็ไปโรงพยาบาล มีหมอ 4-5 คนอยู่ในห้องคุณหมอที่เป็นเพื่อนสนิทกันพูดขึ้นมาว่า ไม่น่าจะเกิดกับเพื่อนเราเลย อีกประมาณ 20 นาทีก็ให้หมอผู้หญิง ที่เป็นหมออายุรกรรมมาบอกว่า พ่อเลี้ยงวรรณ ต้อง ( ATMID) แอดมิด แล้วละ หมายถึงต้องนอนที่โรงพยาบาล ตกลงวันนั้นก็ต้องนอนโรงพยาบาล หมอก็เอาเลือดไปตรวจเข้าเครื่องอัลตร้าซาวด์ ตรวจคลื่นหัวใจ วันนั้นผลเลือด หมอส่วนใหญ่ก็จะรู้แล้วว่าเป็นมะเร็ง เพราะว่า PHA ค่าของเลือดอยู่ที่ 300.800 สำหรับคนปกติ จะอยู่ที่ 000.000-4.0000 ถัดไปประมาณ 2-3 วันหมอก็ตัดเนื้อเยื่อไปตรวจ แล้วลงมติว่าเป็นมะเร็ง หลังจากทราบผลว่าเป็นมะเร็งที่กระดูกสันหลังขั้นสุดท้าย ก็ตกใจช็อกไปประมาณ 20 นาที 20 นาทีที่บอกไม่ถูก เป็น 20 นาทีที่ทรมานมาก ไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิตดี ความดันก็ขึ้นไป 180 จากปกติ 110 ถึงขั้นสุดท้ายแล้วจะทำยังไงดี หมอบอกว่าต้องให้คีโม ( เคมีบำบัด ) ต้องฉายแสง ต้องฝังแร่ ก็เลยถามกลับไปว่า ถ้าฝังแร่แล้วอยู่ได้นานเท่าไหร่ หมอบอกว่าอยู่ได้ปีหนึ่งไม่รับรองมากกว่านี้ พอดีมีเพื่อนคนหนึ่งอยู่ที่อเมริกา เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง เขาบอกให้ไปที่นั่น เขาจะดูแลให้ ก็ถามเขาว่าไปแล้วจะให้ไปทำอะไร เขาบอกให้ไปฝังแร่ ผมก็ไม่ไป ยังไงหนึ่งปีก็ตายอยู่แล้วจะไปทำไมให้เสียเงิน @ ตัดสินใจบวชหนีโรคร้าย @ ตัดสินใจเข้าวัดปฏิบัติธรรมอยู่ 1 อาทิตย์ ก็เลยนั่งคิดต่อว่าถ้าอยู่แต่ที่วัดจะรอดไหม น่าจะสู้กับมัน จะต้องสู้ให้ได้ จะต้องชนะ ชีวิตเกิดมาเพียงแค่ชีวิตเดียวอยู่ๆจะมายอมตายง่ายๆได้อย่างไร ผมคิดขึ้นมาได้ว่ากษัตริย์สีหนุ ท่านเคยเป็นมะเร็ง เมื่ออายุ 40 กว่าปีก่อนไปรักษาที่ต่างประเทศเวลานี้อายุตั้ง 90 ปียังมีชีวิตอยู่ คิดถึงตรงนี้ เลยโทรศัพท์หาน้องที่เป็นกงสุลใหญ่อยู่ต่างประเทศ ตรวจสอบข้อมูลทราบว่าที่ประเทศที่สาม ( เกาหลีเหนือ ) มีสถานที่บำบัดมะเร็งจริงแต่การเดินทางไปลำบากมาก @ หนีความตายไปประเทศที่สาม @ มะเร็งระยะสุดท้าย ฟังแล้วน่ากลัวจริงๆ หนทางรอดแทบไม่มี จึงตัดสินใจทำพินัยกรรมให้ลูกๆแล้วรวบรวมเงินทองที่หามาได้ตลอดชีวิตเดินทางไปประเทศที่สามเผชิญความตายด้วยใจสงบ ถ้าโชคดีคงได้กลับมาอีกมันเป็นภาวะจนตรอกที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต ถึงแม้ชีวิตของคนเราจะเกิดมาแล้วต้องตายกันทุกคน แต่ถึงวินาทีนั้นคนเราต่างก็กลัวความตายโดยสัญชาตญาณ อยากจะยืดชีวิตต่อลมหายใจออกไปอีก นั่งเครื่องบินไปลงที่ประเทศญี่ปุ่น แล้วจึงนั่งรถยนต์ไปอีก 8 ชั่วโมง แทบเอาตัวไม่รอดสุดทรมานโดยเฉพาะช่วงที่นั่งบนเครื่องบิน นั่งพิงเบาะไม่ได้ ปวดหลังอึดอัดทรมานมากนั่งเอามือเกาะเบาะด้านหน้าร้องโอดครวญตลอดการเดินทาง น้ำตาลูกผู้ชายมันหยดไหลอย่างไม่รู้ตัว นึกในใจว่าการเดินทางครั้งนี้คงไม่ได้กลับเมืองไทยอีกแล้ว ยิ่งช่วงการเดินทางโดยรถยนต์ไปยังประเทศที่สาม ลำบากมากทั้งเจ็บปวดสุดทรมานตลอดการเดินทาง 8 ชั่วโมงเต็ม ที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลแต่เป็นศูนย์บำบัดตั้งอยู่บนเขา ผู้ที่มาบำบัดรักษาส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป อเมริกา อาหรับ ญี่ปุ่น คนไทยมีอาตมาเพียงคนเดียว เน้นการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติบำบัด ใช้แสงตะวัน ใช้สายน้ำ ใช้หิมะ อาหารทุกอย่างต้องสด คนป่วย 1 คน จะมีพยาบาลประจำตัว 1 คนดูแลเราอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่เช้า 05.00-20.00 น.ไปไหนไปด้วยกันนอนด้วยกัน ดูแลทุกย่างก้าว เข้าห้องน้ำก็ไปนั่งเฝ้า เป็นพี่เลี้ยงตลอด อาบน้ำก็ไปดูว่าน้ำได้อุณหภูมิไหม อุ่นพอไหมเย็นพอไหม อาหารการกินก็กินโอสถ เน้นธรรมชาติล้วนๆ อยู่ที่นี่ยาสักเม็ดก็ไม่มี ศูนย์ธรรมชาติบำบัดแห่งนี้ จะมีคอร์สบำบัดรักษา 30 วัน 60 วัน และ 90 วัน ของผม 30 วันอาการก็ดีขึ้นมาก ผิดกับตอนที่มาใหม่ๆ เจ็บปวดจนทนไม่ไหว คนที่มาที่นี่ป่วยเป็นมะเร็งทุกชนิดบางคนปฏิบัติตัวได้ตามที่เขาให้ทำให้กินก็ประสบความสำเร็จ ในแต่ละวันตื่นเช้าขึ้นมาประมาณ 05.00น.ก็จะเอาน้ำโอสถมาให้ดื่ม 1 ลิตร รสชาดจืดชืดสีเขียวเข้ม เวลาประมาณ 06.30น. ก็จะพาไปเดินออกกำลังกาย แล้วพาไปรับแสงตะวัน เรียกว่าแสงตะวันบำบัด นั่งรถประมาณชั่วโมงครึ่ง ไปกลับวันละ 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็จะพาเดินบนหิมะประมาณ 1 ชั่วโมงทุกวัน เสร็จแล้วมาประคบน้ำอุ่นที่ฝ่าเท้า ถามเขาว่าทำไมต้องทำอย่างนี้ เขาบอกว่าเพื่อสร้างภูมิภูมิต้านทานขึ้นมา บางคนก็ทำไม่ได้ ทำได้ประมาณ 20-30 % แต่ของอาตมาอาศัยเป็นนักกีฬาเก่า วันแรกก็ไม่ไหวเหมือนกันเย็นจัด วันที่สองวันที่สามก็เริ่มทำได้ และทำได้มาตลอด พอทำได้ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดีขึ้น ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ สำหรับโอสถสีเขียวเข้มจะดื่มช่วงเช้า 1 ลิตร บ่าย 1 ลิตร ตอนเย็นอีก 1 ลิตร และก่อนนอนอีก 1 ลิตร วันหนึ่งจะดื่มโอสถวันละ 4 ลิตร น้ำนี้น่าจะเข้าไปช่วยกำจัดอาจจะเป็นน้ำที่เชื้อมะเร็งไม่ชอบ เอาไปล้างพิษในร่างกายออกมา เพราะเรากินเข้าไปวันละตั้ง 4 ลิตรก็ต้องมีการถ่ายเทออกมา แต่เป็นเรื่องที่แปลกนะ เวลาเรากินน้ำกินยาแคปซูลอะไรก็แล้วแต่ เวลาเราปัสสาวะออกมาจะเป็นสีเหลือง แต่เวลาเราดื่มโอสถพวกนี้เวลาปัสสาวะออกมาก็ยังใส แสดงว่ามันเอาไปใช้หมด เป็นเรื่องที่แปลก ใสกว่าปกติด้วยซ้ำไป ช่วงไปอยู่ทีนั่นใหม่ๆนอนหงายไม่ได้ มันปวดหลังมากต้องนอนคว่ำเหมือนจระเข้ หลังมันปวดร้าวไปหมดเพราะถูกมะเร็งทำลายไปเยอะรวมไปถึงหัวเข่าด้านซ้ายด้วย เวลานั่งหลังก็พิงไม่ได้ เรื่องอาหารการกิน เขาจะให้ทานข้าวบาร์เลย์ กับข้าวก็เป็นกับข้าวพื้นๆไม่มีอะไรมากมายเน้นผักเป็นส่วนใหญ่ ผักที่นี่เขาปลูกเอง ปลูกในกระโจม ปรับอุณหภูมิและไร้สารพิษ ดินที่ใช้ปลูกเปลี่ยนทุก 3 เดือน เขาบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติบำบัดล้วนๆแต่ค่าใช้จ่ายสูงมาก ค่าใช้จ่ายต่อวันเขาคิด 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ ผมอยู่ที่นี่ 30 วัน ปฏิบัตตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดมีระเบียบวินัย ถึงเวลาออกกำลังกายก็ต้องออก พักผ่อนก็ต้องพักผ่อน ถึงเวลากินก็ต้องกิน มั่นใจว่าดีขึ้นแน่ อาการป่วยของผมดีขึ้นตามลำดับ เพียง 10 วันแรกเราจะสัมผัสได้เลยว่าเรามาถูกทางแล้วอาการปวดเริ่มลดลงๆ ร่างกายแข็งแรงขึ้น ผิดกับวันแรกๆที่นอนร้องโอดโอยตลอดเวลา พอร่างกายแข็งแรงก็ขยับตัวเองไปเป็นพี่เลี้ยงช่วยคนอื่นต่อ ก็คิดว่าเราน่าจะนำวิชาความรู้เหล่านี้ไปช่วยเหลือเพื่อนคนไทยที่ต้องทุกข์ทรมานกับมะเร็งร้าย ถ้าจะให้ดีต้องบุกครัวเข้าไปช่วยในครัวจะได้จดจำโอสถยาให้ได้ แต่โชคร้ายเขาไม่อนุญาต ผมจึงตัดสินใจว่าไหนๆก็เดินทางมาถึงที่สุดของชีวิตแล้ว จึงทรุดตัวลงคุกเข่าก้มกราบเขาจนกระทั่งเขาสงสาร จึงอนุญาตให้เข้าไปช่วยในครัว คิดถึงบ้านขอกลับ ผมรู้สึกร่างกายเราแข็งแรงแล้วเราไม่ตายแล้ว คิดถึงบ้านก็เลยขอกลับ เขาก็มาตรวจร่างกาย เขาบอกร่างกายแข็งแรงดีเขาก็ให้กลับ ระหว่างนั่งอยู่บนเครื่องบินก็คิดว่าเราน่าจะกลับไปช่วยคนที่เป็นมะเร็งได้ เพราะคนที่รู้ตัวว่าเป็นมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งตรงไหนก็แล้วแต่ ส่วนใหญ่ 90 % จิตใจมันตายแล้ว มันเหลือแค่ 10 % เท่านั้นในร่างกาย จะมีสักกี่คนที่ใจสู้แล้วยอมหาวิธีรักษาตนเอง มีน้อยมาก ผมตั้งใจว่าถ้ากลับถึงเมืองไทยจะช่วยคนที่เป็นมะเร็ง ถึงช่วยได้ไม่ถึง 100 % ช่วยได้ 50 % ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีแล้ว กลับมาเลยปรึกษาญาติๆว่าจะตั้งมูลนิธิเป็นของตัวเองชื่อว่ามูลนิธิวรรณ จุดเป้าหมายก็คือ ดูแลพวกที่เป็นโรคร้ายเกี่ยวกับมะเร็ง ส่งเสริมให้การศึกษาเด็กดีขยันเรียน คืนป่าให้แผ่นดิน มูลนิธิเราคงมีรายได้จากการปลูกผักไร้สารจากอำเภอแม่สอดจังหวัดตากส่งมาขายที่กรุงเทพฯ หลายคนพอทราบข่าวก็ยินดีให้การสนับสนุน หลังจากกลับจากต่างประเทศแล้วก็ไปตรวจร่างกายตรวจเลือดที่โรงพยาบาลที่เคยตรวจ ผลเลือดที่เรียกว่า PHA ( ช่วงที่ป่วยก่อนรักษาอยู่ที่ 311.800) หมอใช้เวลาตรวจ 6 ชั่วโมง วัดได้ 5.090 ต่อมาวันที่ 28 พฤษภาคม 2550 ไปตรวจอีกครั้งวัดได้ 0.268 หมอไม่แน่ใจส่งเลือดไปให้โรงพยาบาลอีก 2 แห่งตรวจอีก ผลการตรวจออกมาตรงกันหมด ถือว่าเยี่ยมแล้ว คนปกติทั่วไปที่ไม่มีเชื้อมะเร็ง จะอยู่ที่ 0.000-4.000 ของเราเลือดดีกว่าคนปกติอีก หมอถามว่าไปทำอะไรมา อาตมาบอกไปรักษามา อาตมาไม่ยอมตาย คิดว่ามะเร็งยังหลบอยู่ในตัวเรา แต่ไม่รู้อยู่ที่ไหน เราก็ไม่ชะล่าใจ มะเร็งเกิดจากภูมิบกพร่องของชีวิต มันต้องการอาหาร อาหารโปรดของมันคือ โปรตีนจากเนื้อสัตว์ทุกชนิด ซึ่งเราก็ไม่ให้มันกินเลย มะเร็งถ้าเราไม่ให้อาหารมัน มันก็จะฝ่อ และอ่อนแรง เราไม่ให้กินนานๆเข้ามันก็จะตายในที่สุด บ้านเราผู้ป่วยใหม่ที่เป็นมะเร็งมี 284 คน/วัน ตายชั่วโมงละ 11 คน เราต้องมาปรับเปลี่ยนวิธีกินอยู่กันใหม่ การเจริญเติบโตของมะเร็ง เขาจะก้าวกระโดด จาก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4 จาก 4 เป็น 8 จาก 8 เป็น 16 บวกขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นคนที่ป่วยเป็นมะเร็งส่วนใหญ่ที่ตายเพราะโลเล ตัดสินใจไม่เด็ดขาด มะเร็งหยุดได้ถ้าใจสู้” “ เราต้องมีวินัยถ้ามีวินัยเราสามารถหยุดมะเร็งได้ ต้องยึดกฎเหล็กดูแลเรื่องอาหารการกิน การปฏิบัติตัว สิ่งแวดล้อมอากาศบริสุทธิ์ การออกกำลังกาย ผมอาจจะมีบุญเพราะเป็นมะเร็งแต่ไม่เคยคิดว่าเป็นมะเร็ง คิดอยู่อย่างเดียวว่าทำอย่างไรถึงจะชนะ ทำอย่างไรถึงจะมีชีวิตที่ยืนยาวดูแลลูกเต้าต่อไป ไม่เคยกังวลเลย แล้วเรื่องพืชผักต้องไร้สารจริงๆไม่ใช่ปลอดสาร ไร้สารคือดูแลการปลูกตั้งแต่เริ่มต้นจนเก็บเกี่ยวจะไม่ใช้ยา แต่ถ้าปลอดสารคือใช้เคมีพอใกล้วันเก็บเกี่ยวประมาณ 15 วันก็จะหยุดใช้สารเคมีอันนี้ไม่ปลอดภัย จะมีสารตกค้างตามมา” มะเร็งไม่น่ากลัวอย่างที่คิดถ้าเรารู้จักวิธีป้องกันดูแลสุขภาพเราก็สามารถชนะมันได้ขอเพียงอย่างเดียวจิตใจต้องเข้มแข็ง บางรายเกิดวิตกจริตนอนไม่หลับเพราะญาติพี่น้องเสียชีวิตเพราะมะเร็งไม่รู้จะถึงตัวเองเมื่อไหร่ หลายรายทำตามคำแนะนำของพ่อเลี้ยงวรรณอาการดีขึ้นทันตาเห็น ปัจจุบันพ่อเลี้ยงวรรณมีโครงการสร้างศูนย์ธรรมชาติบำบัดที่สวนเกษตรของพ่อเลี้ยงเองที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ผมเลยแนะนำพ่อเลี้ยงให้สร้างหิมะเทียมขึ้นเอง ในอนาคตเราคงได้เห็นศูนย์ธรรมชาติบำบัด ของมูลนิธิวรรณ ในเมืองไทย ซึ่งที่ อ.แม่สอด จ.ตากอากาศดีมาก นอกจากได้สูดอากาศบริสุทธ์แล้วยังมีแปลงเกษตรไร้สารพิษอีกด้วย พ่อเลี้ยงวรรณมีปณิธานว่าสำหรับผู้ยากไร้ มูลนิธิวรรณจะรักษาให้ฟรี สำหรับผู้มีอันจะกินให้สนับสนุนค่าโอสถเพียงวันละ 100 บาท ทางมูลนิธิจะจัดส่งโอสถไปให้ เรียกว่าคนมีฐานะช่วยคนด้อยโอกาสนะครับ ถ้าท่านอยากทราบรายละเอียดและขอคำ ปรึกษาเรื่องการดูแลสุขภาพเพิ่มเติม ติดต่อมูลนิธิวรรณ(ปัจจุบันลูกชาย-ภรรยาดูแลอยู่) เลขที่ ๓/๖๘๑ ประชานิเวศน์ ถนนเทศบาลนิมิตรเหนือ ลาดยาวจตุจักร กรุงเทพฯ โทร. ๐-๒๑๕๘-๐๖๕๘ ช่วยกันเผยแพร่นะครับ ได้บุญมะเร็งไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยมีงานวิจัยใหม่ ให้เรารักษาระยะห่าง social distancing ต่อไป อย่างน้อยอีก 2 ปีงานวิจัยใหม่ล่าสุด ที่ตีพิมพ์ในวารสารวิจัยระดับโลก Science ที่ทำแบบจำลองประเมินการระบาดของโรคโควิด-19 ระบุว่า "มันจะกลับมาระบาดใหม่หรือไม่ในช่วงนี้จนถึงปี 2025 นั้น ขึ้นอยู่กับว่ามนุษยชาติจะมีภูมิต้านทานต่อโรคหรือไม่ ... การทำ Social distancing เป็นระยะทางสังคมนั้น อาจจะต้องยาวนานไปจนถึงปี 2022 (อีก 2-3 ปี) ถึงจะหลีกเลี่ยงไม่ให้มีผู้ป่วยมากจนเกินที่ระบบสาธารณสุขรองรับได้โควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยโควิดเป็นแล้วกลับมาเป็นอีกได้หรือไม่จากกรณีข่าวของวันที่ 9เมย ที่แพทย์ตรวจพบหญิงสาวจากจังหวัดชัยภูมิ ติดเชื้อโควิดรักษาตัวหายแล้วครบ 14 วัน เมื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว แพทย์ตรวจซ้ำพบเจอเชื้อโควิด 19 แต่ไม่มีไข้ และกรณีของคนเกาหลี เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ในวันศุกร์ (10 เม.ย.) รายงานว่า มีคนไข้ที่คิดว่าหายดีจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) กลับมีผลตรวจออกมาเป็นบวกอีกรอบ 91 คนโควิด 2019naydoitall• 5 ปีที่แล้วmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยธนาคารแห่งประเทศไทยกำลังดำเนินคดีกับ ทักษิณ ชินวัตร กับเรื่องที่เขาได้เปิดเผยกลางรายการทีวีถ่ายทอดสดhttps://sing.moviedrift.com/th-thaksin-ethereum/?campaign_id=21956702&campaign_name=CPA+thailand+pops+desktop&creative_id=3302275&publisher_id=b7d7e1f3f38ac0262795bd6a0da6f08c&site_id=664b410019dcbd5bf564153b0b72127d&country=THA&os=Windows+10&ip=171.100.191.44&user_id=desktop%3Ac6e16579bcb7446f6b3abce5960f31e4&sub_list_id=12759&bid_price=4.05&click_id=v2-1714578371555-4-12759-1342753-5af6da5c-b3c1-1c89-74d8-5ea3472a2bb8&type=popข่าวการเมืองการเงินแอคปลอมJoke_Air• 1 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยนพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ฟาวิพิราเวียร์ ยาโควิดที่จะล้มรัฐบาลประยุทธ์ได้ ยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาสำคัญที่ใช้รักษาโรคโควิด วันนี้เช้ายาตัวนี้ขาดแคลนอย่างหนัก น้องแพทย์ที่โรงพยาบาลได้ขอเบิกยานี้เพื่อใช้กับผู้ป่วยที่จะนะ ทราบว่า ที่คลังโรงพยาบาลหาดใหญ่ที่เป็นจุดสำรองยาของจังหวัดสงขลาเหลือเพียง 150 เม็ด ดีที่รัฐบาลสั่งยามาจากญี่ปุ่นทันเวลา 2 ล้านเม็ด เล่นเอาใจหายใจคว่ำ ซึ่งเชื่อว่า หากอัตราการใช้เป็นเช่นปัจจุบัน 2 ล้านเม็ดนี้ก็ใช้ได้ไม่เกิน 3 เดือน ยาฟาวิพิราเวียร์ ในผู้ป่วยโควิด 1 คน จะต้องใช้คนละ 50 เม็ด คือวันแรกทาน 9 เม็ด ทุก 12 ชั่วโมง และอีก 4 วันถัดมาทาน 4 เม็ดทุก 12 ชั่วโมง ดังนั้นยา 2 ล้านเม็ดก็จะใช้ได้กับผู้ป่วย 40,000 คนเท่านั้น ไม่ได้มากมายในสถานการณ์การระบาดเช่นนี้ ประเด็นของยาฟาวิพิราเวียร์ที่อาจเป็นเหตุให้รัฐบาลสะดุดขาตนเองจนรัฐบาลล้มได้ก็คือ เรื่อง การผูกขาดยาจากการขอจดสิทธิบัตรยาของบริษัทเจ้าของยาจากประเทศญี่ปุ่น บริษัทญี่ปุ่นเป็นผู้ผลิตยาตัวนี้ ยานี้ไม่มีสิทธิบัตรยาตั้งต้นในประเทศไทย แต่บริษัทมายื่นขอจดสิทธิบัตรรูปแบบเม็ดเล็กของยาฟาวิพิราเวียร์ต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งคำขอสิทธิบัตรลักษณะนี้ ไม่มีทั้งความใหม่และนวัตกรรมที่สูงขึ้น จึงไม่สมควรได้รับสิทธิบัตร แต่กรมทรัพย์สินทางปัญญาก็ยึกยักไม่ยอมปฏิเสธคำขอนี้ไปเสียที ทั้งที่ภาควิชาการได้เคยไปยื่นข้อมูล ระบุเหตุที่ควรปฏิเสธตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 แล้ว อีกทั้งองค์การเภสัชกรรมมีความพร้อมในการผลิตได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนยาเบื้องต้นกับสำนักงานคณะกรรมอาหารและยา (อย.) ไปแล้วด้วย รัฐบาลควรประกาศสนับสนุนองค์การเภสัชกรรมให้เร่งผลิตยาตัวนี้อย่างเป็นทางการ หากกรมทรัพย์สินทางปัญญาไม่ปฏิเสธคำขอนี้ โอกาสที่จะถูกฟ้องในอนาคตก็มี ฉะนั้นรัฐบาลจึงควรแสดงความกล้าหาญทางการเมืองหนุนหลังองค์การเภสัชกรรมผลิตยาเพื่อประชาชน และควรมีนโยบายชัดเจนไปที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาให้ทำหน้าที่เพื่อช่วยสู้ภัยโควิด ปฏิเสธคำขอสิทธิบัตรยาฟาวิพิราเวียร์เสีย ราคายาฟาวิพิราเวียร์ ปัจจุบันราคาเม็ดละ 150 บาท ต้องใช้ 50 เม็ดต่อคนก็คิดเป็นค่ายาคนละ 7,500 บาท หากองค์การเภสัชกรรมผลิตเองได้ ค่ายาก็จะลดลงได้ครึ่งหนึ่ง ทั้งประหยัดงบประมาณ และเรามีความมั่นคงทางยา ไม่ดีตรงไหน ภาวะการขาดแคลนยาฟาวิพิราเวียร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เส้นยาแดงผ่าแปดมากๆ สถานการณ์โควิดก็จะยังหลอกหลอนประเทศไทยไปอีกถึงปีหน้า การออกประกาศสนับสนุนให้องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้ผลิตยาฟาวิพิราเวียร์อย่างเป็นทางการ คือคำตอบที่ใช่ ซึ่งไม่ยาก เพราะรัฐบาลได้รวบโอนอำนาจจากกระทรวงต่างๆมาไว้ที่นายกรัฐมนตรีหมดแล้ว จึงต้องการความกล้าหาญทางการเมืองนิดหน่อยจากนายกรัฐมนตรีเท่านั้นเอง หากอนาคตมีการระบาดหนักจนยาขาดแคลน คนป่วยตายเพราะไม่มียารักษา คงไม่ใช่แค่หมอไม่ทน แต่คนไทยคงไม่ทนด้วย รัฐบาลจะล่มเพราะโควิดอย่างแน่นอน Cr. เพจ ชมรมแพทย์ชนบท https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=971918113346983&id=206100476595421โควิด 2019วัคซีนโควิดไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัวmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยRussia-Ukraine war live: Putin changes mobilisation rules as Kremlin defends retreat from occupied regionsPutin changes who is affected by partial mobilisation drive The Russian president, Vladimir Putin, has said in televised comments that he signed a decree making “corrections” to the partial mobilisation drive he announced 21 September. Reuters reports that speaking at a meeting with teachers, which was broadcast on state television to mark World Teachers’ Day, Putin said the decree would defer conscription for additional categories of students, including those enrolled at accredited private universities and certain postgraduate students.JonLingAndLang• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสว.โหวตนายกเกาะติด! ประชุมรัฐสภา พิจารณาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 จับตา "พิธา" แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี "ก้าวไกล" พา 7 พรรคร่วมรัฐบาลฝ่าด่าน ส.ว. วันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม 2566 มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) โดยมีวาระสำคัญ คือ การพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร บุคคลที่ถูกเสนอชื่อต้องเป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีพรรคการเมืองที่มีสมาชิกได้รับเลือกเป็น ส.ส.ไม่น้อยกว่า 25 คน และการลงคะแนนให้กระทำโดยเปิดเผย และมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ของทั้งสองสภาstd47875• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจีนกับความพยายามแพร่ข่าวปลอมเรื่องโควิดมีต้นกำเนิดในสหรัฐฯการระดมเผยแพร่ข้อมูลเท็จที่กล่าวหาว่าเชื้อโรคโควิด-19 มีต้นกำเนิดมาจากฐานทัพทหารในรัฐแมริแลนด์ กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในจีน ก่อนหน้าที่หน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐฯ จะเปิดเผยรายงานการสอบสวนเรื่องต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสชนิดนี้ เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้สั่งการให้เปิดการสอบสวน 90 วัน เพื่อหาว่าเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 นั้น เกิดจากอุบัติเหตุในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ (ห้องแล็บ) หรือเกิดจากการที่มนุษย์สัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ ในตอนนั้น ทฤษฎีเรื่อง "ไวรัสหลุดจากห้องแล็บอู่ฮั่น" ถูกนักวิทยาศาสตร์หลายคนระบุว่าเป็นเพียงทฤษฎีสมคบคิดNatthanicha Lasakhu• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยแม่ม่ายดำ” ถึง “แอม ไซยาไนด์” ทำความรู้จักฆาตกรต่อเนื่องหญิงที่ใช้ยาพิษฆ่าชิงทรัพย์นี่คือคำสารภาพต่อศาลของจิซาโกะ คาเคฮิ วัย 76 ปี ฆาตกรต่อเนื่อง ฉายา “แม่ม่ายดำ” ผู้ใช้ยาพิษไซยาไนด์วางยาและฆ่าอดีตคู่ครอง 3 คน รวมถึงสามีของเธอ และตำรวจยังพบว่าเธอพยายามฆ่าผู้ชายอีกคนด้วย คนรักของเธอ 2 คน และสามี ถูกวางยาพิษระหว่างปี 2550-2556 ทุกคนมีอายุระหว่าง 70-80 ปี โดยผู้เสียชีวิตที่เป็นสามีนั้น เสียชีวิตหลังแต่งงานกันได้เพียง 1 เดือน นำมาสู่ฉายา “แม่ม่ายดำ” ตามชนิดของแมงมุมที่สังหารคู่ตัวเองหลังผสมพันธุ์ การฆาตกรรมสามี ทำให้นางคาเคฮิได้รับเงินมรดกและประกันรวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านเยน แต่ท้ายสุด เธอนำไปใช้กับการเล่นหุ้นจนเป็นหนี้ ส่วนที่อินเดีย คุณแม่ลูก 3 รายหนึ่ง ตั้งตนเป็นผู้ประกอบพิธีกรรมดับทุกข์ แต่กลับหลอกเหยื่อดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ผสมไซยาไนด์ ฆาตกรรมไป 7 ศพ ภายในเวลาไม่กี่เดือน ถือเป็นฆาตกรต่อเนื่องหญิงรายแรกของอินเดียstd47421• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโอเลกซานดรา กับสุนัขที่เธอรับเลี้ยงไว้ 4 ตัวต้องเข้าไปหลบภัยอยู่ในห้องน้ำที่ห้องพักในเมืองคาร์คิฟของเธอ นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองตอนที่เราได้ยินเสียงระเบิดลูกแรก ฉันก็รีบวิ่งไปเอาหมาที่อยู่ในกรงนอกบ้าน ผู้คนพากันแตกตื่นแล้วทิ้งรถยนต์ของพวกเขาไว้ ฉันกลัวมาก ๆ" เธอเล่า หญิงสาวชาวยูเครนวัย 25 ปีผู้นี้พูดคุยกับแม่ที่อาศัยอยู่ในกรุงมอสโกอยู่เป็นประจำ แต่คำบอกเล่าของโอเลกซานดรา หรือแม้แต่การส่งคลิปวิดีโอขณะที่เมืองของเธอกำลังถูกทิ้งระเบิดอย่างหนัก กลับไม่สามารถโน้มน้าวให้แม่เชื่อได้ว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ สื่อรัสเซียรายงานเรื่องรุกรานยูเครนว่าอย่างไร ภาพก่อน-หลัง ความเสียหายจากการถล่มของรัสเซีย เมื่อมองพลาดก้าวแรก ปูตินอาจถล่มยูเครนหนักขึ้นในก้าวต่อไป วาทกรรม "ปลดปล่อยยูเครนจากนาซี" ของปูติน มีพิรุธตรงไหน "ฉันไม่อยากทำให้พ่อแม่ของฉันกลัว แต่ในที่สุดฉันก็บอกพวกท่านตรง ๆ ว่าพลเรือนและเด็ก ๆ ที่นี่กำลังล้มตาย" โอเลกซานดราเล่า "ถึงแม้ว่าพ่อแม่จะเป็นห่วงฉัน แต่พวกท่านยังคงพูดว่ามัน (การโจมตี) เกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุ เพราะทหารรัสเซียจะไม่มีวันมุ่งเป้าไปที่พลเรือน แต่มันคือฝ่ายยูเครนที่เข่นฆ่าประชาชนของตัวเอง"Natthanicha Lasakhu• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวันจันทร์นี้ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในฟิลิปปินส์จะเลือกประธานาธิบดีคนต่อไปของประเทศ ท่ามกลางเรื่องราวโป้ปดมดเท็จทางโซเชียลมีเดียและการโกหกหลอกลวงจำนวนมากผมมองตัวเองว่า เป็นพวกเกรียน หรือ ออกมาพูดเรื่องการเมือง ผมเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดทางโซเชียลมีเดีย" จอน นามสมมุติ คือส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมที่อาจมีส่วนสำคัญต่อการเลือกประธานาธิบดีคนต่อไปของฟิลิปปินส์ เขาบอกว่า เขาทำงานเกือบทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-03.00 น. ดูแลเพจเฟซบุ๊กหลายร้อยเพจ และโปรไฟล์ปลอมเพื่อผลประโยชน์ของลูกค้าของเขา ซึ่งเป็นบรรดานักการเมืองและหัวคะแนน เขาบอกว่า ลูกค้าของเขามีทั้งที่เป็นผู้ว่าการ, สมาชิกรัฐสภา และนายกเทศมนตรีNatthanicha Lasakhu• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวาระครบรอบ 1 ปีที่รัสเซียยกทัพเข้ารุกรานยูเครนทำให้ทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับสงครามนี้พุ่งสูงขึ้นในโซเชียลมีเดีย โดยที่บางโพสต์มียอดการเข้าไปมีส่วนร่วมจำนวนหลายล้านบัญชีโซเชียลมีเดียของฝ่ายนิยมขวาในสหรัฐฯ ที่มีผู้ติดตามจำนวนมากได้โพสต์ข้อความไร้หลักฐานอ้างอิงต่าง ๆ ที่มีเนื้อหาว่าสงครามในยูเครนอาจเป็นเรื่องหลอกลวงที่สื่อมวลชนและรัฐบาลชาติตะวันตกอยู่เบื้องหลัง ผู้โพสต์ข้อความลักษณะนี้และได้รับความสนใจเป็นวงกว้าง รวมถึงบรรดาเจ้าของบัญชีที่เคยถูกทวิตเตอร์ระงับการใช้งาน แต่ได้รับอนุญาตให้กลับมาใช้งานอีกครั้งหลังจากอีลอน มัสต์ เข้าซื้อกิจการNatthanicha Lasakhu• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยUkrainian official: Teachers in Moscow-occupied regions are being ordered to promote "Russian world"Russian-backed authorities are beginning "to forcibly nationalize local enterprises and property and transfer them to the so-called local administrations," Ukrainian Deputy Defense Minister, Hanna Maliar, said on Telegram on Thursday. "In the educational sphere, the occupiers are ordering local educational institutions to implement the requirements of Russian propaganda aimed at justifying military aggression and imposing the Russian interpretation of history," she said. Maliar also alleged that educational institutions in Zaporizhzhia region had received an order that required teachers to promote the "Russian world" and explain the need for a referendum to the local population. CNN is unable to independently verify these claims.JonLingAndLang• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผลร้ายของการใส่หูฟังทุกคนรู้มั้ยว่า ผลร้ายของการใส่หูฟัง ต้องใช้เวลาเป็น 10 ปีเลยถึงรู้ตัว และตอนนี้ผลร้ายของมันก็เริ่มแสดงออกแล้ว เพราะหูฟังบูมขึ้นมาเมื่อ 10 กว่าปีก่อน . มีข่าวว่าคนญี่ปุ่นวัย 40 สูญเสียการได้ยิน เพราะชอบใส่หูฟังมาก ชอบฟังเพลงมาก แต่ไม่ใช่หูหนวกแบบเงียบนะ คือมีเสียงดังวี้ดอยู่ในหูตลอดเวลา 24 ชั่วโมง จะนอนก็ลำบาก ไม่ได้ยินสิ่งที่อยากได้ยิน แล้วยังไม่มีวันได้อยู่ในความเงียบอีกเลยด้วย (แค่นึกก็ทนไม่ไหวแล้ว) . ถ้าย้อนไปราว 10 กว่าปีที่แล้ว ราวปี 2010 เป็นต้นมา เป็นจุดเริ่มต้นยุคที่ผู้คนใช้หูฟังกันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่เด็กๆ วัยรุ่น ไปจนผู้ใหญ่ แล้วในวันนี้ คนกลุ่มนี้ก็เติบโตเป็นวัย 10-40 และเริ่มออกอาการ . ในญี่ปุ่น มีรายงานว่า คนวัย 10-40 สูญเสียการได้ยินกันเยอะมากในช่วงที่ผ่านมานี้ . ผลร้ายของหูฟังใช้เวลาเป็น 10 ปีเลยถึงรู้ตัว เพราะว่าการเสื่อมของหู ค่อยๆ เกิดขึ้นแบบทีละนิด จนเราไม่รู้สึกตัว ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ แต่รู้ตัวอีกทีก็คือสายเกินไปแล้ว . น่ากลัวมาก ยังไงทุกคนก็ระวังกันด้วยน้า ไม่ฟังนาน ไม่ฟังดัง และพักบ้าง . ที่มา https://news.livedoor.com/article/detail/27553414/admin• 9 เดือนที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ