1 คนสงสัย
กัญชา
กัญชา เป็นพืชล้มลุกคล้ายต้นหญ้า มีสารเคมีอยู่ในใบกัญชาชื่อ Cannabinoids ซึ่งมีฤทธิ์สำคัญได้แก่ THC และ CBD ในปัจจุบัน กันชานิยมนำไปใช้อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น สเปรย์ น้ำมัน แคปซูล เครื่องพ่นไอระเหยทางการแพทย์ ไปจนถึงการนำมาใส่ในอาหาร และเครื่องดื่มต่างๆ และในทางการแพทย์นั้น กัญชาทุกนำมาใช้ในการรักษาโรคต่างๆ โดยแต่ละรูปแบบของการรักษา ให้ปริมาณความเข้มของสารแคนนาบินอยด์ที่ไม่เหมือนกัน และตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการดูแล
std46308
 •  1 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 2 คนสงสัย
    กล้วยดิบ 'วัคซีน' พื้นบ้าน เปลวสีเงิน : ไทยโพสต์ 25 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 00:01 น. ผมทดลองแล้ว ลงทุนไป ๒๐ บาท รับประกันคุณภาพในการป้องกันได้กว่า ๘๐% UP! กล้วยครับ.... กล้วยน้ำว้าดิบๆ หั่นแว่นๆ ทั้งเปลือก คลุกเกลือ เคี้ยวให้เต็มปาก เจ้ายางและเมือกกล้วย จะเป็นด่านหน้า เคลือบในปากและลำคอ ฆ่าเชื้อแปลกปลอม ก่อนลงไปในท้อง ผมดูจากคลิป "ป้านิดดา หงษ์วิวัฒน์" นักธรรมชาติบำบัด สนทนากับ "รศ.ดร.โกวิน วิวัฒนพงศ์พันธ์" ที่พวกเขาส่งมาให้ ผมมันพวก "กล้วยนิยม" ฟังเสร็จ ซื้อกล้วยดิบมาลองเลย ลองมา ๒ วัน เห็นผลทันตา ปกติตื่นนอน คอผมเหมือนผ่านการกินทราย ปรากฏว่าหายไปเลย! ผมถอดคำจากคลิปมาให้ อยากให้ทดลองกัน ระหว่างวัคซีนยังไม่มา ใช้ "วัคซีนกล้วยดิบ" ไปก่อน รับรอง "โควิดยกโคตรขยาด"! โกวิน : ผมไอ แสบคอ ก็ค้นในเน็ต พบว่า เมื่อเป็นไวรัส มีรายงานศึกษาว่า โควิดตัวนี้ มีความแตกต่างจากไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดธรรมดาอย่างไร อยู่ในกลุ่มเดียวกัน อาการคล้ายกันมาก แต่จุดต่างของเขา คือ จะแสบคอมาก จะไอ (แห้ง) มาก มีไข้ ก็ไข้มากเลย มีรายงานออกมาว่า จุดเริ่มต้นของเขาอยู่ที่ลำคอ จนกระทั่งต่อมรับรสที่อยู่ที่ปลายลิ้นไม่สามารถทำงานได้ดี กินอาหารไม่อร่อย รับรสไม่ได้ "ผมก็บอกว่า เอ้ย..ถ้าอย่างนั้น มันเริ่มต้นที่คอใช่มั้ย เราหาอะไรมาจัดการที่คอให้ได้สิ ถ้าเราจัดการได้ มันก็ไม่มีลามไปที่ปอด ปอดก็ไม่เป็นไร ปอดก็ทำหน้าที่ได้ การที่เอาปอดเข้าฟอกออกซิเจนได้ ระบบอื่นก็ไม่ล้มเหลว ไม่ล้มเหลวเราก็ไม่ป่วยซี" ผมก็เริ่มต้นศึกษา แล้วก็เจอกล้วย มีอยู่ราย ผมจำไม่ได้ ต้องขอบคุณเขา ที่เขาช่วยแนะนำ เขาบอกว่ากล้วยน้ำว้า ต้องกล้วยดิบนะเขียวๆ เนี่ย เอามาแล้วต้องหั่นเป็นแว่นๆ เอาลักษณะที่เราเคี้ยวง่ายๆ มีข้อมูลแพทย์แผนไทยโบราณว่า กล้วยดิบนี้สามารถหยุดยั้งการไอที่ลำคอได้ "ผมบอกเอ๊ะ...อย่างนั้นต้องทดลองดูซี" มันหยุดไอที่ลำคอเพราะอะไร เพราะว่าเมื่อมีเชื้อโรคมาเข้าร่างกาย จะผ่านระบบหายใจก่อน หรือผ่านมาที่ปาก ร่างกายก็จะมีระบบกักเชื้อโรค ลำคอนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะมีน้ำเมือกออกมา เพื่อกักเชื้อโรคจากอากาศที่มีเชื้อโรค ฉะนั้น เมื่อเชื้อโรคมาติดที่นี่ มันก็จะมีอาการอักเสบที่ลำคอก่อน พออักเสบปุ๊บ ร่างกายก็พยายามกำจัดมันออกด้วยอาการไอ ไอมากแสดงว่ามีเยอะ ถ้าแสบคอมาก แสดงว่ามีเยอะ แสบคอน้อยก็มีน้อย ผมก็เออ...เว็บไซต์ที่พูดถึงนี่ กล้วยเนี่ย ยางเขาสามารถจัดการได้ เขาบอกว่า เอายางเนี่ย แล้วก็เอาเกลือใส่เล็กน้อย แล้วก็เคี้ยว ยางก็จะค่อยๆ เคลือบลำคอ ยางมีคุณสมบัติพิเศษในการฆ่า เพราะเป็นด่างด้วย ถ้าสด ยางจะเยอะ แห้ง ยางจะน้อย แล้วผมก็ทดลอง เอากล้วยดิบทั้งเปลือกมาหั่น ใส่ทัพเพอร์แวร์แล้วเอาเกลือใส่ไว้ พกขึ้นก่อนนอน เพราะผมกลางวันไอน้อย กลางคืนไอเยอะ ถามว่าทำไมกลางวันไอน้อย เพราะกลางวันเราดื่มน้ำ เดินไป-เดินมา น้ำลายเราจะหลั่งมากในเวลากลางวัน เวลาหลั่งเราก็กลืนเข้าไปในร่างกาย ระหว่างกลืนก็พาเชื้อโรคเข้าไปในลำคอ น้ำลายเป็นด่าง พอเราดึงตัวนี้ผ่านเข้าไปในกระเพาะ กระเพาะมีกรดสูง ก็ฆ่ามันตาย แต่กลางคืนน้ำลายหลั่งน้อย ยิ่งผู้สูงอายุยิ่งหลั่งน้อย เพราะฉะนั้น ผู้สูงอายุ แม้จะแปรงฟันให้สะอาดอย่างไร ก็จะมีรสเปรี้ยว-กลิ่นเปรี้ยว เพราะว่าแบคทีเรียมันเติบโต ยิ่งถ้าเกิดมีน้ำตาลในเหงือกเยอะ กินของหวานเยอะ แปรงยังไงก็ไม่สะอาดมาก ก็จะติดอยู่ แต่ถ้าเจอด่างเข้าไป ผมจิ้ม ก็จะเคี้ยว วันนั้นผมมีไข้ ไอเยอะมากเลย ผมก็ไปเอากล้วยดิบมาเลย หั่นๆๆๆๆ เก็บไว้ เกลือจิ้มไว้ กลางคืนก่อนนอน ผมก็เคี้ยวๆ พอเคี้ยวไปประมาณครึ่งลูก อาการที่ไอๆ อยู่เนี่ย ผมตกใจมากเลย เอ๊ะ...ผมไอ ทางการแพทย์นับเป็นหน่วยนะ มันหายไป ๕๐%เลย แล้วที่แสบคอ กินข้าว-กินน้ำแสบมากเลย โอ๊ะ..หายไปแฮะ ผมก็ดีใจ พร้อมตกใจนะ เอ๊ะ...เราไม่มียาอะไรในการแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่ว่าจะเอายาอะไรมาอม ที่จะสามารถลดอาการอักเสบ ไอน้อยลง ๕๐% หลังเคี้ยวกลืนเข้าไปไม่เกิน ๕ นาที เป็นความมหัศจรรย์มากเลย ที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านยุคโบราณที่เขาใช้อยู่ ผมก็เคี้ยวๆๆๆ พอเคี้ยวๆๆ เสร็จแล้ว ก็เคี้ยวให้เต็มปาก เพราะในปากก็จะมีเกลือที่ใส่กับกล้วยเข้าไป เกลือก็จะไปละลายเคลือบที่ลำคอ กล้วยนี่ก็มีเนื้อแล้วก็ยาง เมื่อเคี้ยวยางก็จะค่อยๆ ออก แล้วก็ค่อยๆ กลืนลงไป ก็จะไปเคลือบที่คอ พอเคลือบที่คอ ยางนี้เป็นด่างสูงมาก เจ้าเชื้อโรคที่มาจากหวัดทั้งหมดติดที่คอก็จะตาย พออาการไอน้อยลง ไข้น้อยลง เพราะว่าอักเสบน้อยลง ก็หลับสบาย ถ้าเมื่อไหร่ไอมาก เราจะนอนไม่หลับ พอหลับตื่นมา ก็เข้าห้องน้ำ ผมเคี้ยวต่อไปอีก เพราะว่าตื่นขึ้นปุ๊บก็กลืนน้ำลาย เคี้ยวต่ออีก ๓-๔ แว่น ต่อมาตอนเช้าผมหายเลย ป้านิดดา : อาจารย์เคี้ยวหลังแปรงฟันหรือก่อนแปรงฟัน? โกวิน : หลังแปรงฟัน หมายถึงกลางคืน อาจารย์แปรงฟันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เคี้ยว "คือเราแปรงฟันเรียบร้อยแล้วก็เคี้ยวเลย เคี้ยวแล้วก็เคลือบไว้เลย ไม่ต้องไปแปรงฟันใหม่นะ เพราะฉะนั้น แปรงฟันตอนเช้าก็จะมีเศษกล้วยอยู่บ้าง แต่สิ่งที่เกิดขึ้น อาการอักเสบที่คอ ไอ หายไป" ป้านิดดา : เฉพาะก่อนนอนใช่มั้ย แล้วตอนเช้าเคี้ยวต่อมั้ย? โกวิน : พออาการไอมันหาย ก็ไม่ได้เคี้ยว แต่พอก่อนนอน ผมก็เตรียมไปอีก ถ้ามีอาการไอ ผมก็เคี้ยวต่อไป ทำแบบนี้ จนทุกวันนี้ติดกล้วยเลย "คำถามทางบ้าน" "มีหลายคนถามมาว่า เวลาทาน ทานทั้งเปลือกด้วยใช่มั้ยคะ?" "ใช่..ใช่ เอากล้วยทั้งลูกล้างให้สะอาด แล้วก็ฝาน พอฝานไปแล้ว ยางก็จะออกมา ส่วนกล้วย เนื้อกล้วยปกติจะมีคาร์โบไฮเดรต เป็นน้ำตาล แต่เนื่องจากเขาดิบ เป็นแป้ง เขาจึงไม่มีสภาพเป็นน้ำตาลเท่าไหร่ ฉะนั้น การที่เขาทำหน้าที่ได้สมบูรณ์เนี่ย มันเป็นความซับซ้อน ไม่ใช่ยางอย่างเดียว ผมคาดว่า น้ำเกลือก็มีผล ยางก็มีผล เนื้อที่เป็นแป้งก็มีผล" ครับ....... ผมแกะคำมาเลย ไม่อยากสรุป ก็ยังไม่จบความดี แต่เนื้อที่หมด ที่เหลือ "ป้านิดดา" ให้ความรู้ด้านสารในกล้วยดิบ จะนำมาต่อวันหลัง ลองกันดูนะครับ "กล้วยดิบ" พิชิตโควิดได้ แต่ใครก็อย่าไปบอกธนาธรเชียวนะ เดี๋ยวมัน "อมกล้วย" ไลฟ์สดอีก ยุ่งตายหะ!
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สธ.เตือน! หยุดส่งต่อข้อมูลเท็จ "โรคมะเร็ง" ต้องตรวจสอบก่อนแชร์
    เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดกิจกรรม “วันมะเร็งโลก” โดยมีนายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ นายแพทย์สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ คณะผู้บริหาร ภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน บุคลากรสาธารณสุข อสม. และ ประชาชน เข้าร่วมงาน นายอนุทิน กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนทั่วโลก ประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ปีละประมาณ 140,000 คน เสียชีวิตประมาณ 80,000 คน โรคมะเร็งที่พบมาก 5 อันดับแรก คือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง และมะเร็งปากมดลูก กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาโรคมะเร็งมาโดยตลอด โดยได้ผลักดันการดูแลรักษาโรคมะเร็งเข้าสู่ชุดสิทธิประโยชน์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและนำสู่การปฏิบัติ เพิ่มขึ้นหลายประการ ได้แก่ การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงด้วยการตรวจอุจจาระ หากพบความผิดปกติก็สามารถตรวจคัดกรองต่อด้วยการส่องกล้องตรวจลำไส้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยการตรวจหายีนผิดปกติ ในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม และ การคัดกรองรอยโรคเสี่ยงมะเร็งและมะเร็งช่องปาก นอกจากนี้ยังสนับสนุนสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจากวิธี PAP smear เป็นการคัดกรองด้วยวิธีการตรวจ HPV test ทำให้ความไวและความแม่นยำในการคัดกรองโรคสูงขึ้น และเมื่อคัดกรองพบว่าเป็นโรคมะเร็งแล้ว ก็สามารถเข้าสู่การรักษาได้อย่างรวดเร็ว สามารถลัดขั้นตอนการส่งต่อในระบบปกติโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ตามนโยบาย “มะเร็งรักษาได้ทุกที่” (Cancer Anywhere) ซึ่งการวินิจฉัยเร็วและรักษาเร็ว เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วย ตั้งแต่เริ่มโครงการวันที่ 1 มกราคม 2564 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยใช้สิทธิ์มะเร็งรักษาได้ทุกที่แล้วกว่า 325,000 คน หรือ กว่า 2,900,000 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการเข้าถึงยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เช่น การตรวจวินิจฉัยด้วย PET scan ยารักษาโรคมะเร็งชนิดใหม่ สารสกัดกัญชาเพื่อลดอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษา และการสนับสนุนอุปกรณ์ราคาแพง เช่น เครื่องฉายแสงให้กับโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยรอคอยการรักษาจำนวนมาก ทั่วประเทศ ทั้งนี้สมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งสากล (UICC) ได้กำหนดให้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็น “วันมะเร็งโลก” โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Uniting our voices and taking action ร่วมส่งพลังเสียงและลงมือทำ” มุ่งเน้นการร่วมกันหยุดการส่งต่อข้อมูลเท็จด้านโรคมะเร็ง (Fake Cancer News) และให้กำลังใจกับผู้ป่วยโรคมะเร็งให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้โดยเร็ว นอกจากการดำเนินงานของภาครัฐแล้ว สิ่งสำคัญคือความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการรับผิดชอบต่อสังคม ไม่สร้างมลภาวะหรือสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ ลดพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
    std47626
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ท่านทูตสแกนดิเนเวีย นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ เดนมาร์ก วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน ประเทศไทย และบทสรุป
    ท่านทูตสแกนดิเนเวีย นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ เดนมาร์ก วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน ประเทศไทย และบทสรุป จุดแข็งประเทศไทย 1. ตั้งอยู่ใจกลางโลก รอบข้างมีประเทศประชากรมาก อินเดีย จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ เวียดนาม เกาหลี ตลาดใหญ่ 2. พื้นที่เป็นแหลมระหว่างมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก เป็นแหล่งอาหาร ติดต่อกับทุกประเทศสะดวก 3. แผ่นดินสมบูรณ์ด้วยพืชพันธ์ุธัญญาหาร ทรัพยากรธรรมชาติหลากหลาย ป่าไม้ แหล่งน้ำน้ำจืด ทะเล ในป่า บ้าน สวน เต็มไปด้วยพืชอาหาร พืชสมุนไพร เป็นทั้งครัว คลังยาโลก 4. ใต้ผืนดินมีแร่ธาตุนานาชนิด แหล่งน้ำมันดิบ แก๊สธรรมชาติ มากกว่ากลุ่มโอเป็กหลายประเทศ 5. มีภูมิปัญญาการใช้สมุนไพรสืบทอดจากบรรพชน สามารถวิจัยพัฒนาต่อยอดเป็นยาสมุนไพรมีมาตรฐานในการรักษาโรค ส่งเป็นสินค้าออกได้ 6. มีธรรมชาติสวยงาม หาดทรายสองฝั่งทะเล น้ำตก ถ้ำ เพิงผา ป่าไม้ ภูเขา อ่าว แหลม แหล่งท่องเที่ยวที่ดีมาก 7. อยู่ในเขตร้อน ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ใช้ไม่หมด มีลมบก ลมทะเล ที่แปลงเป็นไฟฟ้าได้ 8. ตั้งอยู่ในเขตไม่เสี่ยงภัยธรรมชาติรุนแรง ห่างศูนย์กลางแผ่นดินไหว ไม่มีภูเขาไฟคุกกรุ่น ลมพายุรุนแรง 9. มีพุทธศาสนา ที่คำสอนสมบูรณ์ 10. คนไทยจิตใจดี ยิ้มแย้ม มีน้ำใจ ฉลาด เรียนรู้เร็ว พัฒนาง่าย 👉 จุดแข็ง 10 ข้อ ไทยเป็นสวรรค์บนดิน ใครได้เกิดประเทศนี้ ถือว่าโชคดี 👉 คนไทยควรมีความสุข สุขภาพดี ฐานะมั่งคั่ง ⚠️ ความเป็นจริงตรงกันข้าม ❌ จุดอ่อนประเทศไทย ❎ คนไทยไม่กี่ตระกูลเป็น 🎠 1. ขุนทหาร 🚔 2. ข้าราชการผู้ใหญ่ 🎭 3. นักการเมืองใหญ่ 💰 4. นายทุนระดับชาติ เท่านั้นที่ร่ำรวย เสพสุขบนกองทุกข์ประชาชน ราวเทพยดาเดินดิน 😢 คนส่วนใหญ่อยู่ในขุมนรกความยากจน นับวันยิ่งจน หนี้พอกพูนรุนแรง 🌳 ทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลาย ป่าไม้เป็นป่าเสื่อมโทรม พื้นที่เกษตร แม่น้ำลำธาร เต็มด้วยสารพิษทางการเกษตร สัตว์น้ำลดลง การขยายพันธ์ุสัตว์น้ำลดลง แหล่งอาหารธรรมชาติลดลง ต้องซื้ออาหารจากตลาดราคาแพง 🏥 คนป่วยมะเร็งมาก จากสารเคมีปนเปื้อนในพืชผัก อาหาร น้ำ โรคไต เบาหวาน หัวใจ ความดันโลหิต อ้วน จากขาดสภาพแวดล้อมและการดำเนินชีวิตที่เหมาะสม คนป่วยล้นโรงพยาบาล ทุกขเวทนาจากการเจ็บไข้ได้ป่วย ⚰ ไม่ปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน คนชั่วไม่เกรงกลัวกฏหมาย ยาเสพติด อาชญากรรม เต็มเมือง คนธรรมดาไม่ปลอดภัย 💲 ทุจริต คอรัปชั่น เพิ่มทวี ยักษ์ใหญ่โกงใหญ่ ยักษ์เล็กโกงเล็ก โกงตามที่มีแรงโกง มือใครยาว สาวได้ สาวเอา ชนชั้นนำตั้งแต่ 2500 ใช้ รัฐศาสตร์มาร ปกครองบ้านเมืองแบบ ฉ้อฉล หลอกลวง คดในข้อ งอในกระดูก ทำให้ประชาชนอ่อนแอ อยู่ในวงจรอุบาทว์ โง่ เลว จน เจ็บ ทำให้ปกครองอย่างเอารัด เอาเปรียบ คดโกง สะดวก ง่าย ข้อคิดน่าวิเคราะห์ของสังคมไทย ความเหลื่อมล้ำ ความยากจน หนี้สิน โรคภัยไข้เจ็บ เติบโต ขยายใหญ่ ลุกลาม ทวีความรุนแรง จากโครงสร้างการปกครองชั่วร้าย รวบอำนาจ ไม่มีระบบถ่วงดุลอำนาจดีพอ ผู้ปกครอง ทำ ไม่ทำอะไรก็ได้ ผู้ปกครองขัดขวางการแก้ไขปัญหา เร่งปัญหา ปัญหาขยายใหญ่ขึ้น มากขึ้น ↗️ ทำให้ประชาชนโง่ การศึกษาทำให้เด็กไม่รักการอ่าน ไม่ชอบคิด หาเหตุผล ไม่สอนปรัชญาประชาธิปไตย ประวัติศาตร์ วีรชนสามัญชน การเอาตัวรอดในระบบทุนนิยม การรวมตัวกันต่อสู้ปัญหาเศรษฐกิจ ↙️ ทำให้ประชาชนเลว เน้นที่ปัญญาชน คนชั้นกลาง โดยการศึกษา ⬅️ ไม่ฝึกการมีวินัย ⬅️ ไม่ปลูกฝังความรู้ทางศาสนา คนไม่คิดพัฒนาจิตใจ ความเป็นมนุษย์ ⬅️ ไม่ปลูกฝังจิตสำนึกรักชาติให้ปัญญาชน กีดกันการแสดงออกทางการเมืองของนักศึกษา ปัญญาชน ทำให้ปัญญาชนเห็นแก่ตัว ⬅️ เพื่อให้ปัญญาชนคนรุ่นใหม่คิดแต่ประโยชน์ส่วนตน ตัวใครตัวมัน ไม่เห็นใจคนยากจน ไร้จิตสำนึกความเป็นมนุษย์ที่ต้องเอื้อเฟื่อเผื่อแผ่ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ด้อยกว่า 🚸 ไม่มีใครขวางการทุจริต การทำลายชาติของชนชั้นบน ⛔ ใครพูดการเมือง ปัญหาชาติ บ้านเมือง ชนชั้นกลางก็ต่อต้านไม่ให้พูด ปกป้องคอรัปชั่น ปกป้องคนทำลายชาติ 🚷 ทำให้ประชาชนจน ออกกฎหมายกีดกัน สร้างความเหลื่อมล้ำในการประกอบอาชีพ กฎหมายการเงินการธนาคาร การผลิตที่ไม่เท่าเทียม ออกนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม 🚫 เลิกสนับสนุนเกษตร งดสนับสนุนวิทยาลัยเกษตร ไม่สนับสนุนการวิจัยข้าว ยาง อ้อย พืชสวน ⬇️ ปล่อยให้บุกรุกทำลายป่าไม้ แหล่งน้ำ แหล่งอาหาร และสมุนไพร ↘️ สนับสนุนปุ๋ย เคมีฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง ทำลายสัตว์น้ำธรรมชาติ ทำลายดิน ทำให้น้ำปนเปื้อนสารพิษ ✔ เกษตรกรล้าหลัง แข่งขันไม่ได้ เป็นเบี้ยล่างนายทุนยา ปุ๋ย พันธ์ุพืชสัตว์ เครื่องจักรกกล ✔ เกษตรกรต้องทิ้งลูกเมีย ไร่นา ไปเป็นกรรมกร ✔ อ้างส่งเสริมอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว ละเลยเกษตร อาชีพคนส่วนใหญ่ ❌ สามัญชน 66 ล้านคนไทย ไม่มีใครมีศักยภาพครอบครองเทคโนโลยีสูง เป็นเจ้าของสถานที่ท่องเที่ยว เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีสูง เป็นแต่ลูกจ้าง ทาสนายทุน ประชาชนจะมีรายได้สูง ตามที่ว่า เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เป็นไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างไร ✖ ทำให้ประชาชนเจ็บ ⚰ เว้นภาษีนำเข้ายาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า อ้างว่าช่วยเหลือเกษตรกรให้ซื้อได้ถูก ทำให้นายทุนยาพิษรวย ยาเหล่านี้ปนเปื้อนในดิน น้ำ อากาศ ทำให้ปลา สัตว์น้ำธรรมชาติสูญพันธุ์ คนไทยได้รับยาผ่านอาหาร สัมผัสโดยตรง เจ็บไข้ได้ป่วยด้วยมะเร็ง โรคสารพัด ธุรกิจความตายเติบโต สูบเงินคนไทย 🎭 หลายคนไม่ทราบว่าสารพิษเคมีเกษตร ปลอดภาษีมูลค่าเพิ่ม ↗️ แต่จุลลินทรีย์ชีวภาพกำจัดแมลงที่ปลอดภัย คนไทยทำได้เอง ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (ความคดในข้อ ของกฎหมายออกโดยคนชั้นสูง) 🚫 เพื่อกีดกันด้านการค้า ชะลอเทคโลโลยีอินทรีย์ปลอดภัยผลิตได้เอง 🔜 บทสรุป 🔚 1. ชนชั้นนำไทย พยายามทำลายไทย เพื่อประโยชน์ตน โคตรตระกูล 2. ชนชั้นกลางไร้ความรับผิดชอบบ้านเมือง เห็นแก่ความสุขสงบของตน มองการต่อต้านความอยุติธรรมการปกครอง เป็นความวุ่นวาย ต่อต้านการต่อสู้ประชาชน แทนที่ร่วมสู้กับประชาชน 🔜รอวันล่มสลาย!!! Cr:Line KWM
    Mrs.Doubt
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขน เสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมจริงหรือไม่
    ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขน เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทาหรือฉีดใต้วงแขน เพื่อช่วยลดความเปียกชื้นหรือป้องกันกลิ่นตัวที่เกิดจากการทำงานของต่อมเหงื่อใต้วงแขน ซึ่งเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยเข้าไปยับยั้งเหงื่อที่หลั่งจาก Eccrine sweat glands (ต่อมเหงื่อที่ทำหน้าที่หลั่งเหงื่อ เพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย) เมื่อระงับเหงื่อได้กลิ่นกายก็จะลดลง (ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://shorturl.asia/93IHs ) มะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่เกิดเนื่องจากการแบ่งตัวผิดปกติของเซลล์ท่อน้ำนมหรือต่อมน้ำนมทำให้เกิดเป็นก้อนเนื้องอก โดยหากไม่ได้รับการรักษา มะเร็งจะโตขึ้นและกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ ก่อนที่จะกระจายไปอวัยวะอื่นๆ เช่น ปอด ตับ สมอง กระดูก จนเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิต (ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.gj.mahidol.ac.th/main/knowledge-2/breast-cancer/ ) จากการสัมภาษณ์ เภสัชกร ณภัทร นวลสกุลกฤป เภสัชกรปฏิบัติการประจำร้านขายยาเภสัชกรอิ่ม ได้ให้ข้อมูลว่า “การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขนเป็นประจำ อาจเสี่ยงที่จะได้รับสารที่มีชื่อว่า อลูมิเนียมคลอไฮเดรต ซึ่งมีการศึกษาที่ระบุว่าสารชนิดนี้สามารถเปลี่ยนเป็น เอสโตรเจน คือฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งอาจจะมีความสัมพันธ์กับมะเร็งเต้านมได้ แต่สารนี้มีการใช้กันมาอย่างยาวนานในทางการแพทย์ จุดประสงค์หลักที่ใช้คือเพื่อทำให้ต่อมเหงื่อมีขนาดเล็กลง จะช่วยลดปริมาณเหงื่อ ช่วยลดการอับชื้น และลดโอกาสเกิดกลิ่นกายได้ ซึ่งสารชนิดนี้เมื่อโดนกับเหงื่อจะกลายเป็นของแข็ง และมีโอกาสน้อยมากที่ร่างกายจะดูดซึมเข้าไป ในปัจจุบันยังไม่มีรายงานที่ชัดเจนว่าสารตัวนี้มีความสัมพันธุ์กับมะเร็งเต้านมอย่างไร ดังนั้นจึงสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขนได้ตามปกติ แต่ควรเลือกแบรนด์ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขนที่เป็นที่นิยมในตลาดและมีความน่าเชื่อถือ” ทั้งนี้ เภสัชกร ณภัทร นวลสกุลกฤป ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดมะเร็งเต้านมอีกด้วยว่า “สิ่งที่สัมพันธ์กับมะเร็งเต้านม สาเหตุหลักเกิดจากคุณพ่อ คุณแม่ หรือคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม ซึ่งคือการถ่ายทอดทางพันธุกรรมนั้นเอง และอีกสาเหตุที่มีความเสี่ยงทำให้เกิดมะเร็งเต้านมคือกิจวัตรประจำวันบางอย่าง เช่น การกินอาหารที่มีไขมันสูง การมีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด หรือแม้กระทั่งการกินยาคุมต่อเนื่องนานเกิน 5ปี และไม่มีการเว้นพัก ซึ่งถ้าเกิดว่ามีความกังวลในเรื่องของมะเร็งเต้านม ก็ควรที่จะตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม และตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำ” (ข้อมูลเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567) ดังนั้น การใช้ผลิตระงับกลิ่นกายใต้วงแขนไม่ได้ทำให้มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขนที่เป็นที่รู้จัก และมีความน่าเชื่อถือด้านความปลอดภัย ทั้งนี้หากมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงเรื่องมะเร็งเต้านม ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเป็นประจำทุกปี
    Amy Onanong
     •  2 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    กัญชารักษา39โรคนี้ได้จริงไหมครับ
    💝39โรค หายได้ด้วยกัญชา ประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์💝 🍀💐เอาสิ พี่กัญออกฤทธิ์. ปราบเรียบ 39 โรค มีอะไรบ้างไปดูกันเล้ย😊🤟 1 กัญชาสามารถหยุดการแพร่กระจายของมะเร็งไม่ให้ลุกลามและกำจัดเซลมะเร็งได้ โดยไม่ทำร้ายหรือสร้างความเสียหายให้กับเซลปกติ 2 กัญชาสามารถรักษาต้อหิน 3 กัญชาสามารถป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้(thcสามารถยับยั้งเซลล์เอเบตาโปรตีนไม่ให้ผลิตสารพิษที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคอัลไซเมอร์) 4 กัญชาสามารถช่วยลดอาการอักเสบ 5 กัญชาสามารถควบคุมและรักษาโรคลมชัก 6 กัญชาสามารถลดความเจ็บปวดจากโรคระบบประสาทส่วนกลางเสื่อม 7 กัญชาสามารถรักษโรคโครห์น (Crohn’s Disease) ความผิดปกติเรื้อรังของลำไส้ใหญ่ได้ 8 กัญชาสามารถช่วยควบคุมและรักษาโรคพากินสัน 9 กัญชาสามารถลดความวิตกกังวล 10 กัญชาสามารถช่วยในการยับยั้งการสร้างสารก่อมะเร็งและปรับปรุงสุขภาพปอดได้ 11 กัญชาสามารถลดความเจ็บปวดจากเคมีบำบัด 12 กัญชาสามารถปรับปรุงอาการของโรคลูปัสหรือโรคเอสแอลอี (โรคพุ่มพวง) 13 กัญชาสามารถช่วยปกป้องสมองจากความเสียหายของโรคหลอดเลือดสมอง 14 กัญชาสามารถควบคุมกล้ามเนื้อกระตุก 15 กัญชาสามารถรักษาโรคลำไส้อักเสบ 16 กัญชาสามารถช่วยขจัดฝันร้าย 17 กัญชาสามารถปกป้องสมองจากการถูกกระทบกระแทกและการบาดเจ็บ 18 กัญชาสามารถช่วยให้เจริญอาหาร 19 กัญชาสามารถช่วยขยายหลอดลมและลดการหดตัวของหลอดลม 20 กัญชาสามารถแก้โรคบิด แก้ปวดท้อง และโรคท้องร่วง 21 กัญชาสามารถช่วยแก้อาการประจำเดือนไม่ปกติของสตรี 22 กัญชาสามารแก้โรคผิวหนังกลากเกลื้อน 23 กัญชาสามารถแก้ปวดหัวไมเกรน 24 กัญชาช่วยรักษาการอุดตันของเส้นเลือดในสมอง 25 กัญชาสามารถช่วยบำบัดผู้ติดยาเสพติดชนิดรุนแรงเช่นเฮโรอีน 26 กัญชาสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตสูงได้ (รักษาเบาหวาน) 27 กัญชาสามารถช่วยรักษาแผลสด แผลหายยากจากเบาหวาน ให้แห้งและหายได้ 28 กัญชาช่วยทำให้มีอารมณ์เบิกบานแจ่มใสมีสมาธิและจิตใจสงบ 29 กัญชาสามารถช่วยผู้ป่วยที่ติดเชื้อHIVหรือเอดส์ให้สามารถใช้ชีวิตได้ดีขึ้น 30 กัญชาสามารถช่วยป้องกันโรคตับแข็ง 31 กัญชาสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น 32 กัญชาสามารถช่วยรักษาอาการกระดูกหักให้หายไวขึ้น และยังทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้นด้วย 33 กัญชาสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากความเสียหายของระบบปเส้นประสาททั้งร่างกายและระบบเชื่อมต่อในสมอง 34 กัญชาสามารถรักษาโรคภูมิแพ้ต่างๆได้ 35 กัญชาสามารช่วยรักษาอาการโรคปลอกประสาทอักเสบหรือโรคเอ็มเอส (MS) 36 กัญชาช่วยแก้อาการแข็งเกร็งจากอัมพฤกษ์อัมพาตได้ 37 กัญชาสามารถแก้ไข้ผอมเหลือง ไม่มีกำลัง ตัวสั่นได้ 38 กัญชาสามารถรักษาแผลในเซลล์ลำไส้ที่เกิดจาการอักเสบของโรค crohn's disease ได้ (จาการทดสอบในตาจึงอาจนำไปสู่การใช้ในผู้ป่วยเบาหวานที่กำลังจะสูญเสียตาได้อีกด้วย) 39 กัญชาสามารถช่วยต่อสู้กับโรคลูคีเมียได้ กัญชาสามารถยับยั้งอารมณ์เกรี้ยวกราดได้ นี่เป็นเพียงบางส่วนเล็กๆเท่านั้นที่กัญชาสามารถทำได้ และโปรดจำไว้ว่า กัญชาเป็นมากกว่ายา..แต่ในฐานะยา.. "กัญชาคือยาที่ปลอดภัยที่สุดในโลก" ..เท่าที่มนุษย์จะหาได้..ในเวลานี้ (กัญชาใช้เป็นยาได้ทั้งมนุษย์และสัตว์) และกัญชายังมีความลับซ่อนอยู่อีกมาก.. 🤔
    Klamongkhon Klinhom
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 2 คนสงสัย
    😢อันนี้ของจริง ไหนๆ Covid-19 ก็กลับมา ระบาดใหญ่จนได้😓 🤓ในฐานะคนเรียน จุลชีววิทยาและจบมาเป็น Microbiologist ขอให้ข้อมูลซึ่งเพิ่งหารือกับเพื่อนๆกลุ่มนักจุลชีววิทยาจนเข้าใจรายละเอียดตรงกันแล้วมาแบ่งปันดังนี้😍 1. การแพร่ระบาดในขณะนี้ ติดต่อจากสารคัดหลั่งคือเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย เป็นหลัก 2. เชื้อไวรัสไม่ได้ลอยในอากาศ มันจะตายทันทีที่ออกมาสัมผัสอากาศ ที่มันออกมากระจายได้เพราะมันอยู่ในเซลล์ของเยื่อบุจมูกปากที่หลุดออกมากับน้ำมูก น้ำลาย 3. การติดเชื้อเกิดจากการสัมผัสสารคัดหลั่งเหล่านี้และนำเซลล์เยื่อเมือกนี้ไปเข้าตาหรือทางเดินหายใจ (อวัยวะที่มีเยื่อเมือกบุ เช่น ตา จมูก ปาก) 4. ไวรัสไม่สามารถเจาะผ่านผิวหนังเข้าร่างกาย ถ้าอยู่บนพื้นผิวมันจะตายเมื่อเซลล์ของคนป่วยที่หุ้มมันอยู่แห้งตาย เพราะตัวมันเองไม่มีชีวิต มันอาศัยในเซลล์ที่มีชีวิต ถ้าเซลล์หลุดออกจากร่างกายจะหมดชีวิตในเวลาไม่นานไวรัสก็ตายตามไปด้วย ***ในส่วนของการป้องกันนั้นทำได้ดังนี้*** 1. ใส่มาสก์เพื่อป้องกัน 2 ทาง 1.1 สำหรับคนที่ติดเชื้อใส่แล้วป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อได้เพราะเวลาไอจามเซลล์เยื่อบุซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของไวรัสมีขนาดใหญ่กว่ารูของผ้าจะออกมาไม่ได้ ไม่ต้องห่วงว่าไวรัสจะเล็กกว่าและออกมาได้เพราะไวรัสอยู่ในเซลล์เยื่อเมือกอีกที 1.2 สำหรับคนที่ไม่เป็น การใส่มาสก์ช่วยป้องกันสารคัดหลั่งกระเด็นมาเข้าหน้าหรือจมูกปากและถ้ากระเด็นมาติดที่มาสก์ เชื้อก็ไม่เข้าเพราะมันอยู่ในเยื่อบุซึงใหญ่กว่ารูผ้า นอกจากนี้การใส่มาสก์ช่วยลดโอกาสที่มือจะไปสัมผัส ตา จมูก ปาก 2. ใส่ faceshield ช่วยป้องกันไม่ให้สารคัดหลั่งกระเด็นมาโดนมาสก์ และยังช่วยป้องกันไม่ให้สารคัดหลั่งที่อาจหลุดรอดจากมาสก์กระเด็นออกไปยังผู้อื่น 3. การล้างมือ สำคัญมากๆ เพราะมือคืออวัยวะที่นำเชื้อไม่ว่าจะมีสารคัดหลั่งตกอยู่ที่พื้นผิวใดๆไปเข้า ตา จมูก ปาก แม้แต่การใส่/ถอดมาสก์ ก็ต้องระมัดระวังว่าสารคัดหลั่งที่เปื้อนมาสก์จะโดนมือ และมือนำไปเข้าตา จมูก ปาก ดังนั้นต้องท่องจำไว้เสมอว่า "เราต้องไม่เอามือที่ยังไม่ฟอกล้างสะอาดไปโดนหน้า" 4. ผม โดยเฉพาะผมยาว เป็นที่ๆมีสารคัดหลั่งมาติดได้ง่ายมาก ถ้ามีคนไอใกล้ๆแล้วเสมหะเล็กๆกระเด็นมาติด เมื่อเราเสยผมมือเปื้อนทันที และถ้ามือโดนหน้าโดยไม่ล้างก็นำเชื้อเข้าแล้ว ดังนั้นถ้ามีโอกาสเมื่อกลับเข้าบ้านควรอาบน้ำสระผมทันที และ"เราต้องไม่เอามือที่ยังไม่ฟอกล้างสะอาดไปโดนหน้า" 5. เสื้อผ้า เหมือนกับเรื่องผม ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีเมื่อเข้าบ้านและแช่น้ำใส่น้ำยาซักไว้แค่นี้ไวรัสก็ตายแล้ว 6. ถอดรองเท้าไว้นอกห้องก็เพียงพอแล้ว ไวรัสไม่ได้ทนจนติดรองเท้ากลับไปในบ้านได้ แต่เชื้อแบคทีเรียทนได้ เราถอดก็ดีเป็นการรักษาความสะอาด 🌸หวังใจว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์พอจะช่วยบรรเทาภาระของบุคคลากรทางการแพทย์ที่กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่และหนักหนาสาหัสเป็นที่สุดครั้งนี้ลงได้บ้าง🌼 ปล: ขอเชิญแบ่งปันกันตามสะดวกค่ะทุกๆท่าน ไม่ต้องให้เครดิตแหม่มหรอกค่ะเพราะนี่เป็นการรวบรวมความเห็นจากนักจุลชีววิทยาหลายๆคนค่ะ
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    กัญชาช่วยให้หลับสบายจริงหรือ
    โรคนอนไม่หลับ หรืออาการหลับยาก ถือว่าเป็นอาการที่พบได้ทั่วไปในกลุ่มคนทุกช่วงวัย โดยส่วนมากมักจะมีต้นเหตุมาจากความเครียดและความวิตกกังวล และสาเหตุอื่นๆที่พบได้น้อยกว่าเช่น โรคซึมเศร้า อาการเจ็บปวด หรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด และบางครั้งอาการนอนไม่หลับก็ไม่ได้มีแค่หนึ่งต้นเหตุ ทำให้ผู้ป่วยบางคนไม่สามารถรักษาอาการนอนไม่หลับให้หายขาดได้ กัญชาทางการแพทย์จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกและความหวังใหม่ที่ช่วยให้นอนหลับง่ายและสบายขึ้น กัญชาทางการแพทย์/ยาระงับประสาท การที่กัญชาทางการแพทย์สามารถช่วยให้ผู้ป่วยนอนหลับดีขึ้นได้ก็เพราะว่ากัญชานั้นออกฤทธิ์ได้เหมือนยาระงับประสาทครับ โดยผู้ป่วยที่ได้ลองใช้กัญชาจะรู้สึกถึงความผ่อนคลายไปจนถึงง่วงนอนได้เลย อีกทั้งยังมีการพัฒนากัญชาทางการแพทย์บางสายพันธ์สำหรับรักษาโรคนอนไม่หลับโดยเฉพาะ ซึ่งเอฟเฟคท์การทำให้นอนหลับดีขึ้นจะมาจากสารแคนนาบินอยที่พบได้ในกัญชาคือ THC นั่นเอง กัญชาช่วยให้นอนหลับได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม การใช้ปริมาณที่พอดีและไม่เยอะเกินไปนั้นมีประโยชน์หลายอย่างรวมถึงการช่วยเรื่องโรคนอนไม่หลับ แต่ถ้าใช้มากเกินไป ประโยชน์ที่เคยมีก็จะสูญเปล่า และอาจจะถูกแทนที่ด้วยอาการทางจิตอย่างเช่นอาการวิตกกังวลแทนได้ ดังนั้นควรจะใช้รักษาภายใต้การดูแลของแพทย์จะดีที่สุดครับ การใช้กัญชาเพื่อช่วยในการนอนหลับนั้นช่วยลดวงจร REM Sleep (วงจรที่เวลาหลับแล้วจังหวะชีพจรและการหายใจจะเร็วขึ้น เป็นช่วงที่ทำให้เกิดการฝัน และสมองใช้งานหนักพอๆกับตอนตื่น) และช่วยให้หลับลึก แต่ถ้าใช้ไปนานๆเข้า อาการหลับลึกก็อาจจะน้อยลง รวมถึงสารTHCก็จะทำให้หลับเร็วขึ้นได้ด้วยครับ ใช้กัญชารักษาปลอดภัยแค่ไหน ในตอนนี้งานวิจัยเกี่ยวกับกัญชารักษาโรค รวมไปถึงโรคนอนไม่หลับ อาจจะยังใหม่อยู่และมีไม่มากนัก ดังนั้นจะพูดว่ากัญชาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของการรักษาโรคนอนไม่หลับนั้นก็อาจจะยังไม่ได้ในตอนนี้ และเราเองก็ไม่อาจแก้ปัญหานอนไม่หลับด้วยปลายเหตุโดยใช้กัญชาเป็นตัวเลือกแรก แต่ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการใช้ยานอนหลับเพราะกัญชาทางการแพทย์อาจจะทำให้หลับนานกว่าและหลับสนิทกว่าการใช้ยานอนกลับ ที่มีผลข้างเคียงมากกว่าการใช้กัญชา ตามที่บอกไปข้างต้นนะครับ อาการนอนไม่หลับ นั้นมีหลายสาเหตุ และไม่ควรใช้กัญชาเป็นการรักษาอย่างแรกถ้าไม่เคยรับการรักษาอย่างอื่น ซึ่งบางครั้งอาจจะมีวิธีแก้ปัญหาอื่นๆเช่นการออกกำลังกาย การทำสมาธิ หรือการใช้สมุนไพรบำบัดที่ทำให้หลับง่ายขึ้นและไม่มีผลข้างเคียง แต่ถ้าลองมาหลายวิธีแล้วไม่หายขาด ก็อาจจะปรึกษาแพทย์และใช้กัญชาบำบัดควบคู่ไปได้เช่นกันครับ โรคนอนไม่หลับจะรักษาง่ายกว่าถ้าลองใช้วิธีรักษาหลายๆทาง และการจัดการกับความเครียด กัญชาบำบัดก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกได้ครับ
    maxchowxingxing
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ทีมวิจัยจุฬาฯ คิดค้นสเปรย์ใช้สำหรับพ่นหน้ากากผ้า ช่วยกันน้ำ-กรองเชื้อโรค เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19
    ทีมวิจัย ผศ.ดร.ภญ.จิตติมา ลัคนากุล คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คิดค้นนวัตกรรมสเปรย์มีชื่อว่า ชีลด์พลัส โพรเทคติ้ง สเปรย์ (Shield+ Protecting Spray) ปราศจากสารที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ใช้สำหรับพ่นหน้ากากผ้า โดยสเปรย์จะทำหน้าที่เป็นตัวกรองของหน้ากากผ้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัส น้ำและละอองสารคัดหลั่ง สเปรย์ดังกล่าว ได้ผ่านการวิจัยและทดสอบประสิทธิภาพเปรียบเทียบระหว่างหน้ากากผ้าก่อนสเปรย์และหลังสเปรย์ พบว่า หน้ากากผ้าที่ผ่านการพ่นสเปรย์ด้วย Shield+ Protecting Spray เกิดการเชื่อมต่อของเส้นใยผ้ามากขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพในการกรองอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอนเพิ่มขึ้น 83% และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองเชื้อโรคในน้ำลายและในอากาศได้มากขึ้น 93% และ 142% ตามลำดับ นอกจากคุณสมบัติในการกรองอนุภาคและเชื้อโรคแล้ว หน้ากากผ้าที่ผ่านการใช้สเปรย์ยังพบว่ามีคุณสมบัติในการกันน้ำที่ดีกว่า สเปรย์นี้จึงสามารถใช้เพิ่มประสิทธิผลของหน้ากากผ้าทั่วไป ทำให้ประชาชนหันมาใช้หน้ากากผ้าแทนหน้ากากอนามัยได้อย่างมั่นใจ เปิดโอกาสให้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์มีเหลือเพียงพอให้บุคลากรทางการแพทย์และช่วยลดปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลน และยังเป็นการช่วยลดขยะได้ ในขณะนี้ทางทีมวิจัยและเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนได้เริ่มผลิต 10,000 ขวด พ่นหน้ากากได้ประมาณ 240,000 ชิ้น โดยแจกให้กับบุคคลเบื้องหลังที่ทำงานหนักเพื่อตอบสนองนโยบายการหยุดเชื้อเพื่อชาติ ซึ่งประกอบด้วย ทีมสนับสนุนบริการทางการแพทย์ พนักงานขับรถส่งของให้กับโรงพยาบาล ตำรวจและทหารประจำด่านสกัด COVID-19 และพนักงานเก็บขยะที่ช่วยดูแลจัดการของเสียจากครัวเรือน อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสนับสนุนทีมงานวิจัยของจุฬาฯ ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมบริจาคได้ที่ https://taejai.com/th/d/savethailandspraymask/ โดยเงินบริจาคที่ได้รับจะถูกนำไปใช้ในการผลิต Shield+ Protecting Spray เพื่อนำไปแจกจ่าย และส่งเสริมให้มีการใช้หน้ากากผ้าแทนหน้ากากอนามัยในบุคคลทั่วไป ภายใต้สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในขณะนี้
    anonymous
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    น้ำสับปะรด ร้อนๆ ..................................... กรุณากระจายมัน !! กรุณากระจายมัน !! ศาสตราจารย์ เฉิน Huiren จากโรงพยาบาลกองทัพบกปักกิ่ง เน้นว่า หากทุกคนที่ได้รับข่าวนี้ สามารถ ทำสำเนา เป็น สิบเล่ม ไปให้คนอื่นได้ อย่างน้อย หนึ่งชีวิต จะได้รับ การช่วยชีวิต ...   ฉันได้ทำหน้าที่ของฉันไปแล้ว และหวังว่าคุณจะทำได้เช่นกัน ขอขอบคุณ! น้ำสับปะรด ร้อน สามารถช่วยคุณได้ ตลอดชีวิต น้ำสับปะรด ร้อน สามารถ ฆ่าเซลล์มะเร็ง ได้ 1 ให้ตัดชิ้นเนื้อสับปะรด 2-3 ชิ้น ลงในถ้วย ใส่น้ำร้อน มันจะเป็น "น้ำอัลคาไลน์" ดื่มทุกวัน มันดี สำหรับทุกคน 2 สับปะรด ร้อน ปล่อยสาร ต่อต้านมะเร็ง ซึ่งเป็น ความก้าวหน้า ล่าสุด ในการ รักษาโรคมะเร็ง ที่มี ประสิทธิภาพ ในการแพทย์ 3 ผลสับปะรด ร้อน มีผลต่อ การฆ่า ซีสต์ และเนื้องอก พิสูจน์แล้วว่า สามารถ ซ่อมแซมมะเร็ง ทุกชนิด 4 น้ำสับปะรด ร้อน สามารถฆ่าเชื้อโรค และสารพิษ ออกจากร่างกายได้ทั้งหมด เนื่องจากการแพ้ / แพ้ 5 ประเภทของยา ที่มีสารสกัด จากสับปะรด ทำลาย เฉพาะเซลล์ที่มีความรุนแรง เท่านั้น แต่จะไม่ส่งผล ต่อเซลล์ ที่มีสุขภาพดี ..................................... นอกจากนี้ กรดอะมิโนและสับปะรด โพลีฟีนอลในน้ำสับปะรด สามารถควบคุมความดัน โลหิตสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการอุดตัน ของหลอดเลือดภายใน ปรับการไหลเวียนโลหิต และลดการอุดตันในเลือด   หลังจากอ่าน บอกคนอื่น ครอบครัว เพื่อน ๆ ดูแลสุขภาพของคุณเอง ..    กรุณา อย่าซ่อนข้อความ ... กรุณากระจายมัน ออกไป และคุณจะช่วยชีวิตผู้คน .....................................
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    กัญชารักษาโรคซึมเศร้าได้จริงไหม?
    ในปัจจุบัน กัญชาถูกพูดถึงมากขึ้นในแง่ของสรรพคุณทางยา และหนึ่งในโรคที่หลายคนสงสัยว่ากัญชาจะช่วยรักษาได้คือ โรคซึมเศร้า แต่ความจริงแล้ว กัญชาช่วยรักษาโรคซึมเศร้าได้จริงหรือไม่? ต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่า กัญชาไม่ได้เป็นยาที่รักษาโรคซึมเศร้าได้โดยตรง แต่สาร CBD ที่อยู่ในกัญชา มีศักยภาพในการช่วยบรรเทาอาการบางอย่าง เช่น ความวิตกกังวล การนอนไม่หลับ และอาการปวดเรื้อรัง ซึ่งเป็นอาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรคซึมเศร้า (ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.rama.mahidol.ac.th ) กัญชามีกลไกเข้าไปลดการกระตุ้นในสมอง ทำให้อาการดีขึ้นร่วมกับการนอนหลับ ส่วนการใช้กับโรคซึมเศร้า ยังไม่มีผลการวิจัยที่ชัดเจน ในทางกลับกันพบว่าอาจจะส่งผลเสียต่อการดำเนินโรค ตัวอย่างเช่น กลุ่มโรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคอารมณ์สองขั้ว โรคจิตเภท ปัญหานอนไม่หลับ ส่วนในด้านกลไกการทำงาน สันนิษฐานว่าสารในกัญชาอาจช่วยรักษาโรคซึมเศร้าได้โดยการปรับระดับสารสื่อประสาทในสมอง เช่น เซโรโทนินและโดปามีน ซึ่งเกี่ยวข้องกับอารมณ์และความสุขนั่นเอง (ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://suicide.dmh.go.th/abstract/details.asp?id=3607 ) ดังนั้น แม้ว่าจะมีหลักฐานบางส่วนบ่งชี้ว่ากัญชามีสารช่วยบรรเทาอาการของโรคซึมเศร้าได้ แต่การใช้กัญชาในการรักษาโรคซึมเศร้ายังคงเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาและวิจัยเพิ่มเติม การตัดสินใจใช้กัญชาในการรักษาควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอแพทย์จะประเมินสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย และแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
    Pongsapak Laonet
     •  1 เดือนที่แล้ว
    meter: false