1 คนสงสัย
กิข้าวแช่ตู้เย็น ก่อมะเร็งจริงหรือไม่
ไม่ระบุชื่อ
 •  6 เดือนที่แล้ว
meter: false
1 ความเห็น

มะเร็ง

thanathun เลือกให้ข้อความนี้❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง

เหตุผล

ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่บ่งชี้ได้ว่า การกินข้าวที่แช่ตู้เย็นเก็บเอาไว้ จะทำให้เป็นโรคมะเร็ง เพราะมะเร็ง

ที่มา

https://www.dailynews.co.th/news/3472748/

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    หน้ากากผ้าสปันบอนด์เป็นไมโครพลาสติก สูดดมอาจทำให้เป็นมะเร็งจริงหรือไม่
    naydoitall
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ย้อมสีผมบ่อย เสี่ยงก่อโรคมะเร็งจริงหรือไม่ ?
    ย้อมสีผมบ่อย เสี่ยงก่อโรคมะเร็งจริงหรือไม่ ? การย้อมสีผมในปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการย้อมเพื่อเปลี่ยนลุคและสไตล์ หรือการซ่อนผมขาว ได้รับการยอมรับในทุกช่วงวัย การย้อมสีผมบ่อยๆจะทำให้เราได้รับสารเคมีอย่างต่อเนื่อง แต่สารเคมีเหล่านั้นไม่สามารถทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ แต่หากการได้รับสารเคมีในน้ำยาย้อมสีผมเป็นประจำอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ (ข้อมูลจาก Harvard Medical School) ยาย้อมผมตามท้องตลาดมี 3 ประเภท ดังนี้ 1. ประเภทสีชั่วคราว ถ้าสระผมแล้วสีก็จะค่อยๆหายไป 2. ประเภทสีกึ่งถาวร หรือเรียกว่าสีโกรกผม สามารถปิดหงอกได้ไม่เกิน 30% ถ้าสระผม 5-6 ครั้ง ก็จะค่อยๆหลุดออกไป 3. ประเภทสีย้อมถาวร หรือเรียกว่าสีย้อมผม สามารถปกปิดผมได้ สระแล้วสีไม่หลุดลอก แต่วิธีนี้งานวิจัยระบุว่าจะทำให้โครโมโซมร่างกายเสียหาย ถ้าย้อมบ่อยๆเซลล์อาจจะกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็งได้ ส่วนผสมในน้ำยาย้อมผมที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย ดังนี้ 1. สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไชด์ : ทำลายเส้นผมและหนังศีรษะ ก่อให้เกิดอาการอักเสบ และระคายเคือง 2. สารฟีนิลินไดอะมีน หรือสีย้อมผมชนิดถาวร : อาจทำให้เกิดการระคายเคือง และอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งหนังศีรษะได้ 3. แอมโมเนีย : สามารถกัดเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้ผมเสีย รากผมอ่อนแอ 4. สารซิลเวอร์ไนเตรต : ทำให้เกิดการระคายได้ 5. สารเลดอะซีเตด : หากสะสมในร่างกายจะทำลายสมอง ประสาทสัมผัส และจัดอยู่ในสารก่อมะเร็ง (ข้อมูลจาก Herbplus+) เราจึงควรมีหลักการในการเลือกน้ำยาย้อมสีผม ดังนี้ 1. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน มีวันหมดอายุ วิธีใช้ ส่วนผสม และเลขที่จดแจ้งระบุไว้ชัดเจน 2. เลือกน้ำยาที่ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย 3. ทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้ง 4. เช็กความเข้มข้นของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ไม่ควรมีมากกว่า 6% เพราะจะทำให้ผมแห้ง ผมกระด้าง และอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อหนังศีรษะได้ 5. ใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผมที่มีส่วนผสมของสมุนไพรเป็นหลัก (ข้อมูลจาก Herbplus+ และ Wongnai) นอกจากนี้ คนที่ย้อมสีผมอยู่แล้ว ไม่ควรย้อมเกิน 9 ครั้งต่อปี นพ.วีรวุฒิ อิ่มสาราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่ยังไม่เคยย้อมผมไม่ควรย้อมสีผม โดยเฉพาะคนที่ผมบางหรือผมน้อยอยู่แล้ว เพราะการย้อมผมทำให้รากผมไม่แข็งแรง ผมหลุดร่วงได้ง่าย หากสะสมในร่างกาย อาจทำร้ายสมอง ประสาทสัมผัส ที่สำคัญยังจัดอยู่ในสารก่อมะเร็งด้วยเช่นกัน และ นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้กล่าวไว้ว่า น้ำยาย้อมสีผมยังเป็นอันตรายต่อช่างทำผม เพราะเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีมากกว่าผู้ที่ย้อมผม เนื่องจากต้องสัมผัสกับสารเคมีที่มาจากน้ำยาต่างๆเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม จากการทบทวนวรรณกรรมงานวิจัยต่างๆ พบว่ายังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่ายาย้อมสีผมเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ได้ ดังนั้นเวลาที่ย้อมสีผมควรอยู่ในที่ที่ระบายอากาศได้ดี มีการสวมถุงมือ และใส่หน้ากากป้องกันสารเคมีทุกครั้ง (สาธิตา แสวงลาภ, ฤดีรัตน์ มหาบุญปี ติ, อัจฉรา นราศรี, 2562) (ข้อมูลจาก Herbplus+,สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณะสุข) เครือข่าย : ชมรมสื่อสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
    apinya25460
     •  2 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ข้าวสุกแช่เย็น
    เพราะยิ่งหุงสุกนำไปแช่เย็นนอกจากสรรพคุณยังคงตัวเหมือนเดิม ที่เพิ่มขึ้นกว่านั้นคือ ยิงกินยิ่งผอม ดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน แถมลดอาการเสี่ยงโรคร้ายอย่างมะเร็งได้อีกด้วย โดยอาหารประเภทแป้งสามารถจำแนกแบ่งประเภทหลากหลาย อาทิ ขนมปัง เส้นก๊วยเตี๋ยว สปาเก็ตตี้ และ ข้าว เป็นต้น แป้งของเหล่านี้เมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้วร่างกายจะทำปฏิกิริยาย่อยเป็นโมเลกุลน้ำตาล จากนั้นเข้าสู่กระบวนการดูดซึมสู่กระแสเลือด ทว่าจะมีแป้งบางส่วนที่ไม่ถูกย่อยสลายและดูดซึมในลำไส้เล็กของมนุษย์ คือ Resistant starch (Rs) แป้งทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ หรือ สตาร์ชที่ให้พลังงานต่ำ ส่งผลให้มีคุณสมบัติเทียบเท่าเส้นใยอาหาร สามารถผ่านเข้าไปถึงลำไส้ใหญ่และถูกย่อยโดยจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่ได้ผลิตภัณฑ์เป็นกรดไขมันสายสั้นๆ ที่เอื้อต่อการเจริญของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ ช่วยสร้างความแข็งแรงให้แก่เซลล์ผนังลำไส้ใหญ่ ผลจากการย่อยที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ ทำให้ร่างกายได้รับปริมาณพลังงานในระดับต่ำกว่าปกติ หรือทำหน้าที่คล้ายกับใยอาหาร ซึ่งหากบริโภคเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคทางอายุรกรรม เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง ซึ่งแป้งทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์หรือสตาร์ชที่ให้พลังงานต่ำ ได้แก่พืชตระกูลถั่วต่างๆ กล้วย มันฝรั่ง พาสต้า ขนมปัง และ อาหารหลักของประเทศไทยเรา อย่าง “ข้าว” ซึ่งจากการวิจัยกลุ่มแบ่งข้าวเป็นสามประเภทคือ ข้าวหุงสุกใหม่ ข้าวหุงสุกที่ตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง 10 ชั่วโมง และข้าวหุงสุกที่นำไปแช่ตู้เย็น (4องศาเซลเซียส) 24 ชั่วโมง แล้วค่อยอุ่นรับประทาน พบว่าข้าวที่ผ่านการแช่ตู้เย็นมานั้นส่งผลดีต่อระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่าข้าวหุงสุกใหม่ ร่างกายจะได้รับสารอาหารของ RS มากกว่า ผู้ที่รับประทานข้าวข้าวหุงสุกใหม่ๆ นั้นเอง
    Klamongkhon Klinhom
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    เมื่อวาน นักข่าวของคลื่นวิทยุ FM101 ก็โทรมาสัมภาษณ์เรื่อง "การทำ ice bathing นอนแช่น้ำแข็ง" นี้เหมือนกันครับ ... ซึ่งผมก็เตือนไปว่า วิธีแช่น้ำแข็งนี้ มันเป็นวิธีการรักษาของนักกีฬาที่เกิดอาการปวดบวมอักเสบกล้ามเนื้อ แต่ไม่ได้จะไปฆ่าเชื้อโรคในร่างกายอย่างที่เชื่อกันตามแนวรักษาทางเลือกแบบนั้น แถมจะมีอันตรายเอาด้วย กับคนที่มีปัญหาทางโรคหัวใจ หรือเกิดภาวะ hypothermal ร่างกายผิดปรกติจากอุณหภูมิต่ำเกินไปด้วยครับ --------------- (รายงานข่าว) กรณี นักร้องชื่อดังอย่าง แพท วง KLEAR โพสต์คลิปตัวเองนอนแช่น้ำแข็งในถีง ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมระบุว่า เป็นการทำ Ice Bathing ตามข้อมูลมีการบรรยายสรรพคุณ ว่า เป็นการกระตุ้นเซลล์คนเป็นมะเร็ง และเป็นโควิด ทำแล้วอาการดีขึ้น ล่าสุด ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ชี้ทางการแพทย์ไม่มีงานวิชาการรองรับว่าการทำ Ice Bathing จะช่วยรักษาหรือยับยั้งเซลล์โรคมะเร็งได้ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลิปวิดีโอ ที่ น.ส.รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย หรือ แพท วง KLEAR โพสต์คลิปลงในอินสตาแกรมส่วนตัว เป็นคลิปที่เธอลงไปนอนแช่ในถังน้ำที่มีน้ำแข็งอยู่เต็มถัง พร้อมข้อความระบุว่า “มาแชร์ประสบการณ์ Ice Bathing ครั้งที่สองในชีวิต” เนื้อหาของโพสต์นี้ แพท บอกว่า Ice Bathing คือ การน็อคเชื้อโรคในตัว ฆ่าเซลล์ที่ไม่ค่อยดี เซลล์ที่มีสิทธิ์กลายพันธุ์ หรือ ส่วนอักเสบในร่างกาย แพท เชื่อว่า การทำแบบนี้เป็นการกระตุ้นให้เซลล์ที่แข็งแรงดีมากขึ้น แพทย์ ยัน Ice Bathing รักษาเซลล์มะเร็งไม่ได้ หลังนักร้องดังอ้างทำแล้วอาการดีขึ้น นอกจากนี้ ยังบอกด้วยว่า “คนที่ป่วยหนักมาก ๆ แม้แต่โควิดหรือเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ถ้าได้ลงน้ำแข็ง อาการก็จะดีขึ้นทุกคน” โดยภายหลังคลิปนี้ถูกโพสต์มีคนเข้าไปแสดงความสนใจ บางคนถามแพทว่าทำเองที่บ้านได้ไหม ซึ่งแพทบอกว่าทำได้ พร้อมแนะนำวิธีการ ทีมข่าว PPTV ตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้กับนายแพทย์สกานต์ บุญนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ถึงการทำ ice bathing แล้วจะช่วยรักษารักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือไม่ แพทย์ ยัน Ice Bathing รักษาเซลล์มะเร็งไม่ได้ หลังนักร้องดังอ้างทำแล้วอาการดีขึ้น โดย คุณหมอสกานต์ กล่าวว่า ไม่เคยมีข้อมูลว่าวิธีการดังกล่าวรักษาหรือยับยั้งเซลล์โรคมะเร็งได้ แม้ว่าในทางการแพทย์ จะมีวิธีการใช้ความเย็นรักษาผู้ป่วยมะเร็งจริง แต่วิธีการที่ใช้จะต้องมีอุปกรณ์เครื่องมือ มีอุณหภูมิเย็นติดลบหลายองศา และมีแพทย์เป็นผู้รักษาใกล้ชิด รวมถึง ไม่ใช่การลงไปแช่ทั้งตัวตามที่ปรากฎ เพราะการลงไปแช่น้ำแข็งทั้งตัว มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัวอื่น เช่น โรคหัวใจ เนื่องจากการทำ ice bathing จะทำให้อุณหภูมิในร่างกายเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว อาจกระตุ้นให้เกิดโรคหัวใจได้ง่าย
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    มีการวิจัยพบว่า ข้าวสุก ที่ผ่านการแช่ตู้เย็น ส่งผลดีต่อระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่าข้าวหุงสุกใหม่📌
    Resistant Starch (RS) หมายถึง แป้งนั้น ทนต่อการย่อยต่อเอนไซม์ สามารถไหลผ่านทางเดินอาหารโดยที่ร่างกายไม่ต้องย่อย ไม่ถูกดูดซึมเข้าร่างกาย งานวิจัยพบว่า RS ทำให้ภาวะไวต่ออินซูลินดีขึ้น ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความอยากอาหาร และมีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร พบได้ในอาหาร ที่ถูกทำให้สุกแล้ว เมื่อเย็นตัวลง จึงเกิดการจัดเรียงตัวของอะไมโลสใหม่ เช่น มันฝรั่งและข้าว การทำให้เย็นตัวลง ทำให้แป้งคืนตัว (Retrogradation) และ ทำให้แป้งกลายเป็นแป้งที่ทนต่อการย่อย อันเกิดจากกระบวนการทางเคมี RS มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง ช่วยในการขับถ่าย ระบายท้อง ลดน้ำหนัก คุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่ รวมไปถึงลดคลอเลสเตอรอลในเลือด มีการวิจัยพบว่า ข้าวสุก ที่ผ่านการแช่ตู้เย็น ส่งผลดีต่อระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่าข้าวหุงสุกใหม่📌 สรุป คือ คนที่หุงข้าวทีละมากๆ แล้วเก็บแช่เย็นไว้ พอจะกินก็นำออกมาอุ่น ร่างกายจะได้รับ RS มากกว่าคนที่กินข้าวหุงสุกใหม่ๆ ช่วยในเรื่องการขับถ่าย คุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดระดับคลอเรสเตอรอลในเลือด ส่งผลให้สามารถลดน้ำหนักได้ดี ขอขอบคุณ ข้อมูล : สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
    Mrs.Doubt
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สูตรชาแก้โรคเก๊าต์ ตะไคร้-ใบเตย ทำง่ายหายปวดเข่า-ลืมเก๊าต์-ไม่ต้องพึ่งยา ไม่น่าเชื่อ แค่ “ตะไคร้ กับ ใบเตย” ก็เป็น “สูตรสมุนไพรแก้โรคเก๊าต์” ได้จริง
    สูตรชาแก้โรคเก๊าต์ ตะไคร้-ใบเตย ทำง่ายหายปวดเข่า-ลืมเก๊าต์-ไม่ต้องพึ่งยา ไม่น่าเชื่อ แค่ “ตะไคร้ กับ ใบเตย” ก็เป็น “สูตรสมุนไพรแก้โรคเก๊าต์” ได้จริง เตรียมส่วนผสมดังนี้คือ 1. ตะไคร้ 5 ต้น 2. ใบเตย 3 ใบ 3. น้ำสะอาด 2 ลิตร (หากต้องการทำให้ดื่มได้หลายวัน ให้เพิ่มสัดส่วนตามสูตร) วิธีทำ ใส่น้ำในหม้อ ทุบตะไคร้ใส่หม้อ ใส่ใบเตยลงไป ต้มให้เดือดพล่าน เมื่อเดือดแล้วให้ลดไฟลงกลางๆ ปิดฝาต้มต่ออีก 15 นาที ห้ามเปิดฝา เมื่อครบ 15 นาทีแล้ว ปิดไฟ ยกหม้อลง ทิ้งไว้ให้เย็น จะได้น้ำชาตะไคร้-ใบเตย จะเก็บใส่ขวดแช่ตู้เย็นไว้ก็ได้ วิธีกิน ให้นำมาดื่มแทนน้ำเปล่าติดต่อกัน 1 สัปดาห์ สรรพคุณสมุนไพรของตะไคร้ กับ ใบเตย จะช่วยล้างกรดยูริกในเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของการปวดเข่าจากโรคเก๊าต์ได้ดีมาก ลืมปวดเข่า ลืมเก๊าต์ ลืมกินยาไปได้เลย *สูตรนี้ได้รับการยืนยันจากผู้เป็นเก๊าต์ว่าได้ผลดีเกินคาดจริงๆ ผลข้างเคียง อาจทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น วิธีแก้คือ ให้หลีกเลี่ยงการดื่มก่อนเข้านอน 2 ชั่วโมง ******* ******* ชีวอโรคยา แบ่งปันความรู้ทั่วไป เพื่อเป็นวิทยาทาน เพื่อความพอเพียง เพื่อสุขภาพที่ดี โปรดใช้วิจารณญาณ และใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานไปต่อยอดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตนเอง ไม่ตอบคำถามเพิ่มเติม ไม่รับปรึกษาปัญหาสุขภาพ เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ประจำหน้าเพจ สงวนลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ 2558 แชร์ได้ห้ามคัดลอกไปโพสต์ใหม่ เรียบเรียงโดย ชีวอโรคยา อ้างอิงข้อมูลจาก แพทย์พื้นบ้าน /ตำราโบราณ / สมุนไพรหมอศุภ ภาพโดย ชีวอโรคยา สงวนลิขสิทธิ์ ชีวอโรคยา อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดีไม่พึ่งสารเคมี ไม่ต้องรอให้ป่วยไปเสียค่ารักษาพยาบาลราคาแพง Cr ชีวอโรคยา
    Mrs.Doubt
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    คู่มรณะ อาหารกินคู่กันแล้วอันตราย จริงหรือไม่
    ด่วน...คู่มรณะ ผลการวิจัยล่าสุดของศาสตราจารย์ Mome Kaowa แห่งสถาบัน Manosatra พบว่า ...: !!!อ า ห า ร ที่ กิ น คู่ กั น . . . อั น ต ร า ย ! ! 1. กินทุเรียนกับ น้ำอัดลม ให้พิษร้าย มากกว่าพิษงูเห่า! 2. เต้าหู้กับน้ำผึ้ง ห้ามรับประทานด้วย กันจะทำให้หูหนวก ... 3. น้ำเต้าหู้ ห้ามใส่ น้ำตาลแดง จะทำให้ เสียวิตามิน 4. มันฝรั่งกับกล้วย ทุกชนิด ห้าม รับประทานรวมกัน จะทำให้หน้าเป็นฝ้า 5. หัวไชเท้ากับผลไม้ ทุกชนิด ห้าม รับประทานรวมกัน จะทำให้เกิดคอพอก 6. กล้วยกับเผือก ห้ามรับประทานด้วย กัน จะทำให้ท้องอืด 7. บวบ ซือกวย ไชเท้า ห้ามรับประทานวัน เดียวกัน จะทำให้เป็น เบาหวาน ทำให้เชื้อ อสุจิอ่อนไม่แข็งแรง 8. กล้วย+มะละกอ +แตงโม ห้าม รับประทานด้วยกัน จะทำให้เป็นโรคไตกับโรคเบาหวาน 9. มังคุดกับน้ำตาล กินรวมกันจะทำให้เสียชีวิต 10. ผักป๋วยเล้ง ห้าม รับประทาน กับเต้าหู้ จะทำให้เป็นนิ่วที่ไขสันหลัง 11. น้ำผึ้ง ห้ามชงด้วย น้ำที่ร้อนจะทำให้เสีย วิตามิน 12. ส้มกับมะนาว ห้าม รับประทานด้วยกัน จะทำให้กระเพาะทะลุ 13. ปลาทุกชนิด ห้ามต้มกับผักกาดดอง จะทำให้เป็นโรคมะเร็ง 14. ขิงดอง ห้ามเข้า ตู้เย็น กินแล้วจะเป็น โรค มะเร็ง 15. น้ำข้าว ห้ามใส่กับ นม จะทำให้เสียวิตามิน 16.น้ำเต้าหู้กับนมสด ห้ามใส่ไข่ เพราะจะทำ ให้ท้องผูกและเส้นเลือดตีบ 17. ถั่วลิสงกับฟักทอง ห้ามรับประทานรวม กัน จะทำให้ทำร้าย ร่างกายและลำไส้ อักเสบ 18. มันเทศกับลูกพลับ ห้ามรับประทานรวม กัน จะทำให้เกิดนิ่ว ในกระเพาะอาหาร 19. เหล้าขาวกับลูก พลับ ห้ามรับประทาน ด้วยกันจะทำให้เป็นพิษ 20. เหล้าขาวกับเบียร์ ห้ามรับประทานด้วย กัน จะทำให้เส้นเลือด ในสมองแตก 21. หัวไชเท้ากับเห็ด หูหนู ทั้งดำและขาว ห้ามรับประทารด้วย กัน จะเป็นโรคผิวหนัง * * มีนักท่องเที่ยว ชาวจีนวัยเพียง28ปี รายหนึ่ง ตอนมาเที่ยว เมืองไทยได้รับประทานทุเรียนไปจำนวนมาก หลังจากนั้นก็ดื่มน้ำอัดลม สารคาเฟอินในน้ำ อัดลมก่อให้เกิดความ ดันโลหิตสูงขึ้นอย่าง รวดเร็ว ทำให้หัวใจ วายอย่างเฉียบพลัน + + ประเทศไทย ได้ออกกฎอย่าง ชัดเจนไว้ว่า ภายใน 8 ชั่วโมงหลังจาก การรับประทานทุเรียน เป็นจำนวนมาก ห้ามดื่ม น้ำอัดลม เป็นอันขาด ! ! * ทุเรียนก่อให้เกิด แก๊สในกระเพาะสูงเลยทีเดียว ...เพื่อชาติอันเป็นที่รักยิ่งของเรา โปรดแชร์ด่วนเพื่อ ญาติมิตรและเพื่อนคนไทย🎃🍊🍏🍋🍎🍅🍓🍑🍐🍌🍉🍈🌽🍠🍆🍑🌶🍍🍦🍼
    Mrs.Doubt
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false