3 คนสงสัย
พิลังกาสา สมุนไพรรักษาโรคมะเร็ง
ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลประเด็นเรื่องพิลังกาสา สมุนไพรรักษาโรคมะเร็ง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากที่มีแชร์ต่อข้อมูลกันในโลกออนไลน์เกี่ยวกับ พิลังกาสา สมุนไพรรักษาโรคมะเร็ง ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า ยังไม่พบงานวิจัยที่แสดงถึงการใช้สมุนไพรพิลังการักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ เพียงแต่มีการวิจัยเพื่อตรวจหาสารประกอบที่สำคัญในผลหรือใบของพิลังกาสาและทดสอบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาระดับเซลล์ในห้องทดลองเท่านั้น โดยพบว่าพิลังกาสา ประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น สารแอนโทไซยานิน สารฟีนอลิก ฟลาโวนอยด์ เป็นต้น ทั้งนี้ควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
std46240
 •  1 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    สมุนไพรสมอไทยใช้รักษาโรคมะเร็งให้หายขาดได้ จริงหรือ
    สมอไทย เป็นสมุนไพรที่สามารถนำมาใช้ทำเป็นยาได้หลายส่วนทั้ง ดอก ผล แก่น และเปลือกต้น สารประกอบหลักที่พบในผลสมอไทย เช่น แทนนิน สารกลุ่มพอลีฟีโนลิก (กรดแกลลิค กรดแอลลาจิก และคอริลาจิน) วิตามินเอ และซี สารเหล่านี้มีฤทธิ์ในต้านอนุมูลอิสระ สามารถนำมาใช้รักษาโรคมะเร็งได้
    naydoitall
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สูตรยาต้มสมุนไพรรักษาโรคมะเร็ง รักษาได้ จริงหรือ
    มีการเผยแพร่ข้อมูลสูตรยาแก้มะเร็งทุกชนิด และสูตรสมุนไพรสมานฉันท์ ที่ประกอบด้วยสมุนไพรหลายชนิด เช่น หัวร้อยรู ไม้สักหิน ข้าวเย็นเหนือ โกฐจุฬา ข้าวเย็นใต้ กำลังเสือโคร่ง ม้ากระทืบโรง ช้างน้าว จ้อนเน่า ตะไคร้ต้น และฟ้าทะลายโจร สามารถรักษาได้ จริงหรือ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สมุนไพรหญ้าพันงูขาว ช่วยรักษาโรคมะเร็งลำไส้ได้ จริงหรือคะ
    มีการเผยแพร่เรื่อง สมุนไพรหญ้าพันงูขาว ช่วยรักษาโรคมะเร็งลำไส้ หญ้างูขาวเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาหลายด้าน ถูกนำมาใช้ในตำหรับยาสมุนไพรพื้นบ้านมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เช่น ซาโปนิน อัลคาลอยด์ เทอร์พีนอยด์ และฟลาโวนอยด์ แต่ใช้รักษามะเร็งได้หรือคะ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    อย่าเชื่อ! รักษา "มะเร็งระยะสุดท้าย" ด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย
    กรณีที่มีผู้โพสต์แนะนำผู้ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้รักษาด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้ โดยผักจิงจูฉ่าย (Artemisia lactiflora) เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศจีนนิยมนำมาใช้ปรุงอาหารอุดมไปด้วยวิตามิน ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น สารเบต้าแคโรทีน ไรโบฟลาวิน และแอสคอบิกแอซิด ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ และช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตามงานวิจัยที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่อยู่ในระดับห้องทดลอง และปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งหลัก ๆ มี 3 วิธี ได้แก่ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และรังสีรักษา ซึ่งทั้งนี้การรับฟังข้อมูลที่ไม่ผ่านการพิจารณาหรือตรวจสอบข้อเท็จจริง อาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนและอาจลดโอกาสการรักษาทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02 2026800
    std46556
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 7 คนสงสัย
    อย่าเชื่อ! รักษา "มะเร็งระยะสุดท้าย" ด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย
    กรณีที่มีผู้โพสต์แนะนำผู้ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้รักษาด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้ โดยผักจิงจูฉ่าย (Artemisia lactiflora) เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศจีนนิยมนำมาใช้ปรุงอาหารอุดมไปด้วยวิตามิน ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น สารเบต้าแคโรทีน ไรโบฟลาวิน และแอสคอบิกแอซิด ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ และช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตามงานวิจัยที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่อยู่ในระดับห้องทดลอง และปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งหลัก ๆ มี 3 วิธี ได้แก่ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และรังสีรักษา ซึ่งทั้งนี้การรับฟังข้อมูลที่ไม่ผ่านการพิจารณาหรือตรวจสอบข้อเท็จจริง อาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนและอาจลดโอกาสการรักษาทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02 2026800 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้
    std46777
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ย้อมสีผมบ่อย เสี่ยงก่อโรคมะเร็งจริงหรือไม่ ?
    ย้อมสีผมบ่อย เสี่ยงก่อโรคมะเร็งจริงหรือไม่ ? การย้อมสีผมในปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการย้อมเพื่อเปลี่ยนลุคและสไตล์ หรือการซ่อนผมขาว ได้รับการยอมรับในทุกช่วงวัย การย้อมสีผมบ่อยๆจะทำให้เราได้รับสารเคมีอย่างต่อเนื่อง แต่สารเคมีเหล่านั้นไม่สามารถทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ แต่หากการได้รับสารเคมีในน้ำยาย้อมสีผมเป็นประจำอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ (ข้อมูลจาก Harvard Medical School) ยาย้อมผมตามท้องตลาดมี 3 ประเภท ดังนี้ 1. ประเภทสีชั่วคราว ถ้าสระผมแล้วสีก็จะค่อยๆหายไป 2. ประเภทสีกึ่งถาวร หรือเรียกว่าสีโกรกผม สามารถปิดหงอกได้ไม่เกิน 30% ถ้าสระผม 5-6 ครั้ง ก็จะค่อยๆหลุดออกไป 3. ประเภทสีย้อมถาวร หรือเรียกว่าสีย้อมผม สามารถปกปิดผมได้ สระแล้วสีไม่หลุดลอก แต่วิธีนี้งานวิจัยระบุว่าจะทำให้โครโมโซมร่างกายเสียหาย ถ้าย้อมบ่อยๆเซลล์อาจจะกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็งได้ ส่วนผสมในน้ำยาย้อมผมที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย ดังนี้ 1. สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไชด์ : ทำลายเส้นผมและหนังศีรษะ ก่อให้เกิดอาการอักเสบ และระคายเคือง 2. สารฟีนิลินไดอะมีน หรือสีย้อมผมชนิดถาวร : อาจทำให้เกิดการระคายเคือง และอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งหนังศีรษะได้ 3. แอมโมเนีย : สามารถกัดเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้ผมเสีย รากผมอ่อนแอ 4. สารซิลเวอร์ไนเตรต : ทำให้เกิดการระคายได้ 5. สารเลดอะซีเตด : หากสะสมในร่างกายจะทำลายสมอง ประสาทสัมผัส และจัดอยู่ในสารก่อมะเร็ง (ข้อมูลจาก Herbplus+) เราจึงควรมีหลักการในการเลือกน้ำยาย้อมสีผม ดังนี้ 1. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน มีวันหมดอายุ วิธีใช้ ส่วนผสม และเลขที่จดแจ้งระบุไว้ชัดเจน 2. เลือกน้ำยาที่ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย 3. ทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้ง 4. เช็กความเข้มข้นของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ไม่ควรมีมากกว่า 6% เพราะจะทำให้ผมแห้ง ผมกระด้าง และอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อหนังศีรษะได้ 5. ใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผมที่มีส่วนผสมของสมุนไพรเป็นหลัก (ข้อมูลจาก Herbplus+ และ Wongnai) นอกจากนี้ คนที่ย้อมสีผมอยู่แล้ว ไม่ควรย้อมเกิน 9 ครั้งต่อปี นพ.วีรวุฒิ อิ่มสาราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่ยังไม่เคยย้อมผมไม่ควรย้อมสีผม โดยเฉพาะคนที่ผมบางหรือผมน้อยอยู่แล้ว เพราะการย้อมผมทำให้รากผมไม่แข็งแรง ผมหลุดร่วงได้ง่าย หากสะสมในร่างกาย อาจทำร้ายสมอง ประสาทสัมผัส ที่สำคัญยังจัดอยู่ในสารก่อมะเร็งด้วยเช่นกัน และ นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้กล่าวไว้ว่า น้ำยาย้อมสีผมยังเป็นอันตรายต่อช่างทำผม เพราะเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีมากกว่าผู้ที่ย้อมผม เนื่องจากต้องสัมผัสกับสารเคมีที่มาจากน้ำยาต่างๆเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม จากการทบทวนวรรณกรรมงานวิจัยต่างๆ พบว่ายังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่ายาย้อมสีผมเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ได้ ดังนั้นเวลาที่ย้อมสีผมควรอยู่ในที่ที่ระบายอากาศได้ดี มีการสวมถุงมือ และใส่หน้ากากป้องกันสารเคมีทุกครั้ง (สาธิตา แสวงลาภ, ฤดีรัตน์ มหาบุญปี ติ, อัจฉรา นราศรี, 2562) (ข้อมูลจาก Herbplus+,สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณะสุข) เครือข่าย : ชมรมสื่อสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
    apinya25460
     •  2 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สมุนไพรขันทองพยาบาท ใช้รักษาโรคมะเร็ง
    สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ แจ้งเตือนข่าวปลอม “สมุนไพรขันทองพยาบาท ใช้รักษาโรคมะเร็ง” ตามที่มีกระแสข่าวทางสื่อออนไลน์ โดยระบุว่า “ขันทองพยาบาทรักษาโรคมะเร็งได้หายขาด” กรมการแพทย์ โดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ขันทองพยาบาทไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคมะเร็งและไม่สามารถนำมาใช้รักษามะเร็งได้ นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขันทองพยาบาท เป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ในตำรับยาสมุนไพรพื้นบ้าน มีกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น อัลคาลอยด์ ซาโปนิน ฟลาโวนอยด์ เป็นต้น จากผลการศึกษาวิจัยระดับเซลล์ในห้องปฏิบัติการ พบว่า สารนี้อาจมีส่วนในการยับยั้งเซลล์มะเร็งในหลอดทดลอง แต่ผลดังกล่าวเป็นเพียงงานวิจัยเบื้องต้น และยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าขันทองพยาบาทช่วยรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์
    std46240
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ผักปลาบ และหญ้าปักกิ่ง ใช้รักษาโรคมะเร็งได้ จริงหรือ
    มีการเผยแพร่ข้อมูลสมุนไพรผักปลาบ และหญ้าปักกิ่ง ว่าเป็นสมุนไพรใช้รักษาโรคมะเร็งนั้น ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า สมุนไพรทั้งสองชนิดไม่สามารถนำมาใช้รักษามะเร็งในมนุษย์ได้ โดยผักปลาบ และหญ้าปักกิ่งเป็นพืชสมุนไพรไทย ใช้เป็นส่วนประกอบในตำหรับยาพื้นบ้าน สมุนไพรเหล่านี้มีสารสำคัญที่ชื่อว่า glycosphingolipid และ phytosteryl glucoside ผลการศึกษาวิจัยระดับเซลล์ในห้องปฏิบัติการพบว่า สารเหล่านี้อาจมีส่วนช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งในหลอดทดลองได้ จริงหรือ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    แจกสูตรยาสมุนไพร รักษาโรคมะเร็งได้ทุกชนิด จริงหรือ
    แนะนำสูตรรักษาโรคมะเร็ง ด้วยการให้นำกระดูกงูเห่า หัวข้าวเย็นเหนือ หัวข้าวเย็นใต้ ทิ้งถ่อน แก่นมะเกลือ และมะเดื่อปล้อง มาต้มผสมกันและดื่ม รักษาโรคมะเร็ง
    naydoitall
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สมุนไพรหนามแท่ง ใช้รักษาโรคมะเร็ง จริงหรือ
    หนามแท่ง หรือมะเค็ด (Catunaregam tomentosa (Blume ex DC.) Triveng.) เป็นไม้ยืนต้นที่พบได้ทุกภาคของประเทศไทย มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น ไกลโคไซด์ ซาโปนิน และแทนนิน จึงมีการนำลำต้น ใบ ผล และราก มาใช้เป็นส่วนประกอบในตำรับยาพื้นบ้าน สามารถใช้รักษาโรคมะเร็งได้
    naydoitall
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false