1 คนสงสัย
สมุนไพรขันทองพยาบาท ใช้รักษาโรคมะเร็ง
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ แจ้งเตือนข่าวปลอม “สมุนไพรขันทองพยาบาท ใช้รักษาโรคมะเร็ง”
ตามที่มีกระแสข่าวทางสื่อออนไลน์ โดยระบุว่า “ขันทองพยาบาทรักษาโรคมะเร็งได้หายขาด” กรมการแพทย์ โดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ขันทองพยาบาทไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคมะเร็งและไม่สามารถนำมาใช้รักษามะเร็งได้

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขันทองพยาบาท เป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ในตำรับยาสมุนไพรพื้นบ้าน มีกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น อัลคาลอยด์ ซาโปนิน ฟลาโวนอยด์ เป็นต้น จากผลการศึกษาวิจัยระดับเซลล์ในห้องปฏิบัติการ พบว่า สารนี้อาจมีส่วนในการยับยั้งเซลล์มะเร็งในหลอดทดลอง แต่ผลดังกล่าวเป็นเพียงงานวิจัยเบื้องต้น และยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าขันทองพยาบาทช่วยรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์
std46240
 •  1 ปีที่แล้ว
1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
0 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)
std47949 เลือกให้ข้อความนี้⚠️️ ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ

เหตุผล

ไม่เป็นความจริง

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    สธ.เตือน! หยุดส่งต่อข้อมูลเท็จ "โรคมะเร็ง" ต้องตรวจสอบก่อนแชร์
    เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดกิจกรรม “วันมะเร็งโลก” โดยมีนายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ นายแพทย์สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ คณะผู้บริหาร ภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน บุคลากรสาธารณสุข อสม. และ ประชาชน เข้าร่วมงาน นายอนุทิน กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนทั่วโลก ประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ปีละประมาณ 140,000 คน เสียชีวิตประมาณ 80,000 คน โรคมะเร็งที่พบมาก 5 อันดับแรก คือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง และมะเร็งปากมดลูก กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาโรคมะเร็งมาโดยตลอด โดยได้ผลักดันการดูแลรักษาโรคมะเร็งเข้าสู่ชุดสิทธิประโยชน์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและนำสู่การปฏิบัติ เพิ่มขึ้นหลายประการ ได้แก่ การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงด้วยการตรวจอุจจาระ หากพบความผิดปกติก็สามารถตรวจคัดกรองต่อด้วยการส่องกล้องตรวจลำไส้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยการตรวจหายีนผิดปกติ ในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม และ การคัดกรองรอยโรคเสี่ยงมะเร็งและมะเร็งช่องปาก นอกจากนี้ยังสนับสนุนสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจากวิธี PAP smear เป็นการคัดกรองด้วยวิธีการตรวจ HPV test ทำให้ความไวและความแม่นยำในการคัดกรองโรคสูงขึ้น และเมื่อคัดกรองพบว่าเป็นโรคมะเร็งแล้ว ก็สามารถเข้าสู่การรักษาได้อย่างรวดเร็ว สามารถลัดขั้นตอนการส่งต่อในระบบปกติโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ตามนโยบาย “มะเร็งรักษาได้ทุกที่” (Cancer Anywhere) ซึ่งการวินิจฉัยเร็วและรักษาเร็ว เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วย ตั้งแต่เริ่มโครงการวันที่ 1 มกราคม 2564 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยใช้สิทธิ์มะเร็งรักษาได้ทุกที่แล้วกว่า 325,000 คน หรือ กว่า 2,900,000 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการเข้าถึงยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เช่น การตรวจวินิจฉัยด้วย PET scan ยารักษาโรคมะเร็งชนิดใหม่ สารสกัดกัญชาเพื่อลดอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษา และการสนับสนุนอุปกรณ์ราคาแพง เช่น เครื่องฉายแสงให้กับโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยรอคอยการรักษาจำนวนมาก ทั่วประเทศ ทั้งนี้สมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งสากล (UICC) ได้กำหนดให้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็น “วันมะเร็งโลก” โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Uniting our voices and taking action ร่วมส่งพลังเสียงและลงมือทำ” มุ่งเน้นการร่วมกันหยุดการส่งต่อข้อมูลเท็จด้านโรคมะเร็ง (Fake Cancer News) และให้กำลังใจกับผู้ป่วยโรคมะเร็งให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้โดยเร็ว นอกจากการดำเนินงานของภาครัฐแล้ว สิ่งสำคัญคือความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการรับผิดชอบต่อสังคม ไม่สร้างมลภาวะหรือสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ ลดพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
    std47626
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    เมล็ดปลาไหลเผือก รักษาโรคมะเร็งได้ จริงหรือ
    คลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่เกี่ยวกับเรื่องของการรักษาโรคมะเร็ง ด้วยเมล็ดปลาไหลเผือก สามารถรักษาได้ จริงหรือ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    รักษา "มะเร็งระยะสุดท้าย" ด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย
    กรณีที่มีผู้โพสต์แนะนำผู้ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้รักษาด้วยการดื่มน้ำปั่นผักจิงจูฉ่าย ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าผักจิงจูฉ่ายช่วยรักษามะเร็งระยะสุดท้ายในมนุษย์ได้ โดยผักจิงจูฉ่าย
    std46418
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ข่าวปลอม อย่าแชร์! เล่นมือถือนาน ๆ ทำให้หน้าเบี้ยวผิดรูป
    ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเตือนภัยในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องเล่นมือถือนานๆ ทำให้หน้าเบี้ยวผิดรูป ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีการเตือนภัยว่าการเล่นมือถือเป็นระยะเวลานาน จนทำให้พักผ่อนน้อย ส่งผลให้ปลายประสาทที่เลี้ยงใบหน้าอักเสบ หน้าผิดรูป ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงว่า การพักผ่อนน้อย หรือการเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก และปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน โดยเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ทำหน้าที่เลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า เมื่อมีความผิดปกติของเส้นประสาทจะทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง หรือมีลักษณะขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก ยิ้มไม่ขึ้น มักเป็นใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่ง สาเหตุการเกิดมีหลายปัจจัย เช่น เกิดตามหลังอุบัติเหตุบริเวณเส้นประสาทโดยตรง, การติดเชื้อบริเวณต่อมน้ำลายใกล้ๆเส้นประสาท, การพบเนื้องอกกดเบียดเส้นประสาท หรือเกิดจากการอักเสบของตัวเส้นประสาทเอง (Bell’s palsy) เป็นต้น สำหรับภาวะเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ หรือ Bell’s palsy นั้น การอักเสบของเส้นประสาทดังกล่าวเกิดขึ้นเอง โดยไม่ได้มีสาเหตุที่สรุปได้ชัดเจน แต่อาจสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัสเริม หรืองูสวัด ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีกที่เกิดขึ้นเร็วระยะเวลาภายใน 48 ชั่วโมง เช่นกล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรง ขยับไม่ได้ เช่น หลับตาไม่สนิท มุมปากตก รับประทานอาหารและดื่มน้ำลำบาก ร่วมกับอาจมีอาการหูข้างนั้นได้ยินเสียงก้องกว่าปกติ รับรสผิดปกติ เป็นต้น เมื่อมีอาการผิดปกติที่สงสัยภาวะดังกล่าว ควรรีบมาพบแพทย์ โดยการรักษาโรคนี้ประกอบด้วยการรักษาด้วยยาหากผู้ป่วยมาพบแพทย์ในช่วงแรกที่มีอาการ ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวดีขึ้น ร่วมกับการทำกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าในระยะยาว ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆและเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ การพักผ่อนน้อย ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่ชัดเจน หน่วยงานที่ตรวจสอบ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข AFNCAFNCTHAILANDข่าวปลอมศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมหน้าเบี้ยวเล่นมือถือโทรศัพท์มือถือ ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง website 2378 ข่าวปลอม อย่าแชร์! กินเม็ดชานมไข่มุก ทำให้เป็นโรคมะเร็ง ข่าวปลอม ผลิตภัณฑ์สุขภาพ 2 กรกฎาคม 2566 | 16:30 น. website 2374 ข่าวปลอม อย่าแชร์! อาหารอุ่นไมโครเวฟ อันตรายแถมเสี่ยงมะเร็ง ข่าวปลอม ผลิตภัณฑ์สุขภาพ 2 กรกฎาคม 2566 | 13:30 น. ข่าวล่าสุด website 2384 ข่าวปลอม อย่าแชร์! ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชวนลงทุนหุ้น รับปันผล 30,000 บาทต่อเดือน การเงิน-หุ้น website 2383 ข่าวปลอม อย่าแชร์! กรมการจัดหางาน เปิดโครงการ “ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน” ให้คนไทยมีรายได้เสริม นโยบายรัฐบาล-ข่าวสาร website 2382 สธ. เปิดตัวรถฟอกไตเคลื่อนที่นวัตกรรมต้นแบบคันแรกของไทย จริงหรือ? นโยบายรัฐบาล-ข่าวสาร website 2381 ข่าวปลอม อย่าแชร์! เพจ SAO Trading ในเครือของ AOT เปิดให้ลงทุนเริ่มต้น 1,000 บาท การเงิน-หุ้น website 2380 ข่าวปลอม อย่าแชร์! กรมพัฒนาธุรกิจฯ รับสมัครพนักงานนำเที่ยว รายได้ 1,500 บาท/วัน นโยบายรัฐบาล-ข่าวสาร เมนูหลัก หน้าแรก แจ้งเบาะแสข่าวและติดตาม คลังความรู้ ข่าวสาร ดาวน์โหลดคู่มือประชาชน เกี่ยวกับการใช้งาน ตัวช่วยเหลือในการเข้าถึงเว็บไซต์ นโยบายรักษาความลับข้อมูลส่วนตัว line facebook twiter twiter twiter call สายด่วน : 1111 ต่อ 87 Logo Copyright © 2023 ANTI-FAKE NEWS CENTER THAILAND ขออนุญาตใช้คุกกี้เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอเนื้อหาที่ดีให้กับท่าน ทั้งนี้ ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะดูแลและรักษาความปลอดภัยข้อมูลของท่านเป็นอ
    สุริยนต์ พักแดงพันธ์
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    เปลือก และแก่นต้นตะโกนา รักษาโรคมะเร็งได้ จริงหรือ
    จากที่มีการแชร์สรรพคุณของต้นตะโกนาในส่วนของเปลือก และแก่น ว่าสามารถใช้เป็นยารักษาโรคมะเร็งได้ จริงหรือคะ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จริงหรือ ต้นบานเย็น ช่วยรักษาโรคมะเร็ง
    ต้นบานเย็น ช่วยรักษาโรคมะเร็ง
    naydoitall
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สมุนไพรสมอไทยใช้รักษาโรคมะเร็งให้หายขาดได้ จริงหรือ
    สมอไทย เป็นสมุนไพรที่สามารถนำมาใช้ทำเป็นยาได้หลายส่วนทั้ง ดอก ผล แก่น และเปลือกต้น สารประกอบหลักที่พบในผลสมอไทย เช่น แทนนิน สารกลุ่มพอลีฟีโนลิก (กรดแกลลิค กรดแอลลาจิก และคอริลาจิน) วิตามินเอ และซี สารเหล่านี้มีฤทธิ์ในต้านอนุมูลอิสระ สามารถนำมาใช้รักษาโรคมะเร็งได้
    naydoitall
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ใส่ผ้าอนามัยนาน ทําให้เป็นโรคมะเร็งปากมดลูก เป็นความเชื่อที่ผิด
    ใส่ผ้าอนามัยนาน ทําให้เป็นโรคมะเร็งปากมดลูก ข้อมูลเท็จ! อย่าเชื่อ! ใส่ผ้าอนามัยนาน ทําให้เป็นโรคมะเร็งปากมดลูก ความจริงของมะเร็งปากมดลูก เกิดจากอะไร วิธีป้องกันมะเร็งปากมดลูก ทำได้หรือไม่ พบคำเตือนในโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ใส่ผ้าอนามัยนาน ทําให้เป็นโรคมะเร็งปากมดลูก เป็นความเชื่อที่ผิด ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้อง โดยข้อมูลวิชาการไม่พบความเกี่ยวข้องการใส่ผ้าอนามัยนานเกินไปกับการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก แม้ว่า ใส่ผ้าอนามัยนาน ทําให้เป็นโรคมะเร็งปากมดลูก จะเป็นเรื่องไม่จริง แต่การใส่ผ้าอนามัยนานเกินไป ใช้ผ้าอนามัยแผ่นเดิมตลอดทั้งวัน ไม่เปลี่ยนแผ่นใหม่เลย จะส่งผลให้เกิดอันตรายได้ เพราะการใส่ผ้าอนามัยโดยไม่เปลี่ยนจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเกิดเชื้อราได้ ควรทำตามคำแนะนำระหว่างมีประจำเดือน ดังนี้
    std48306
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    รับประทาน กระเทียมดำป้องกันมะเร็งได้ จริงหรือ
    นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กระเทียมดำ (Black Garlic) หมายถึง กระเทียมสด (Allium sativum L.) ที่ผ่านกระบวนการหมักบ่ม (fermentation) เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน ทำให้กระเทียมเปลี่ยนเป็นสีดำ มีเนื้อสัมผัส กลิ่นรส และสารสำคัญในกระเทียมเปลี่ยนแปลงไป จากการศึกษาพบว่ากระเทียมดำมีสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอล ซึ่งอาจมีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง อย่างไรก็ตาม งานวิจัยที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่เป็นการศึกษาในระดับห้องปฏิบัติการหรือในสัตว์ทดลอง ซึ่งยังไม่มีรายงานผลทางคลินิกในด้านการป้องกันโรคหรือปริมาณรับประทานที่สามารถป้องกันมะเร็งได้ จริงหรือคะ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    น้ำสับปะรด ร้อนๆ ..................................... กรุณากระจายมัน !! กรุณากระจายมัน !! ศาสตราจารย์ เฉิน Huiren จากโรงพยาบาลกองทัพบกปักกิ่ง เน้นว่า หากทุกคนที่ได้รับข่าวนี้ สามารถ ทำสำเนา เป็น สิบเล่ม ไปให้คนอื่นได้ อย่างน้อย หนึ่งชีวิต จะได้รับ การช่วยชีวิต ...   ฉันได้ทำหน้าที่ของฉันไปแล้ว และหวังว่าคุณจะทำได้เช่นกัน ขอขอบคุณ! น้ำสับปะรด ร้อน สามารถช่วยคุณได้ ตลอดชีวิต น้ำสับปะรด ร้อน สามารถ ฆ่าเซลล์มะเร็ง ได้ 1 ให้ตัดชิ้นเนื้อสับปะรด 2-3 ชิ้น ลงในถ้วย ใส่น้ำร้อน มันจะเป็น "น้ำอัลคาไลน์" ดื่มทุกวัน มันดี สำหรับทุกคน 2 สับปะรด ร้อน ปล่อยสาร ต่อต้านมะเร็ง ซึ่งเป็น ความก้าวหน้า ล่าสุด ในการ รักษาโรคมะเร็ง ที่มี ประสิทธิภาพ ในการแพทย์ 3 ผลสับปะรด ร้อน มีผลต่อ การฆ่า ซีสต์ และเนื้องอก พิสูจน์แล้วว่า สามารถ ซ่อมแซมมะเร็ง ทุกชนิด 4 น้ำสับปะรด ร้อน สามารถฆ่าเชื้อโรค และสารพิษ ออกจากร่างกายได้ทั้งหมด เนื่องจากการแพ้ / แพ้ 5 ประเภทของยา ที่มีสารสกัด จากสับปะรด ทำลาย เฉพาะเซลล์ที่มีความรุนแรง เท่านั้น แต่จะไม่ส่งผล ต่อเซลล์ ที่มีสุขภาพดี ..................................... นอกจากนี้ กรดอะมิโนและสับปะรด โพลีฟีนอลในน้ำสับปะรด สามารถควบคุมความดัน โลหิตสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการอุดตัน ของหลอดเลือดภายใน ปรับการไหลเวียนโลหิต และลดการอุดตันในเลือด   หลังจากอ่าน บอกคนอื่น ครอบครัว เพื่อน ๆ ดูแลสุขภาพของคุณเอง ..    กรุณา อย่าซ่อนข้อความ ... กรุณากระจายมัน ออกไป และคุณจะช่วยชีวิตผู้คน .....................................
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false