1 คนสงสัย
เรียนทุกท่าน
หากโทรศัพท์มือถือของคุณดังและคุณเห็นตัวเองปรากฏบนหน้าจอเหมือนกับกล้องถ่ายรูป อย่าสนใจมัน อย่าหันหน้าไปที่หน้าจอ และอย่าพูดจนกว่าโทรศัพท์จะหยุดเอง
ฉันเพิ่งรับสายและเห็นว่าหมายเลขผู้โทรเริ่มต้นด้วย 852 และฉันเห็นใบหน้าของฉันบนหน้าจอ
ปรากฏว่าทันทีที่คุณกดรับสาย โทรศัพท์จะถ่ายรูปคุณ (ใช้ระบบจดจำใบหน้า Face ID) หากคุณพูดกับโทรศัพท์ โทรศัพท์จะบันทึกเสียงของคุณ จากนั้นบล็อกโทรศัพท์ของคุณและใช้เนื้อหาในโทรศัพท์ โทรหาเพื่อนของคุณผ่านเทคโนโลยี AI และวิดีโอคอลกับพวกเขา
เพื่อนของคุณอาจหลงเชื่อหากพวกเขาเห็นว่าคุณหน้าตาเป็นอย่างไร

*นี่คือกลลวงใหม่ ทุกคนควรให้ความสนใจ!*
ไม่ระบุชื่อ
 •  17 วันที่แล้ว
1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
0 ความเห็น

AIผู้บริโภคเฝ้าระวังแอคปลอม

Joke.Air เลือกให้ข้อความนี้💬 มีความเห็นส่วนตัว

เหตุผล

...

ความเห็นต่าง

ยังสืบค้นไม่พบหลักฐานที่แน่ชัด ว่า แอปปลอม แอปแฮ็กมือถือ ของโจรไซเบอร์ ที่จะทำงานในลักษณะตรงตามนี้เลยทั้งหมด มันมีจริงแล้วหรือไม่

มีข้อสังเกตเช่น ถ้าเป็นเบอร์แปลกประหลาดมากก็มีโอกาสสูงที่เหยื่อจะเพิกเฉย ไม่รับสาย และนำหน้าเป็น +852 เป็นเบอร์ต่างประเทศแน่นอน (จากการสืบค้นคือ ฮ่องกง) อันนี้ก็อาจทำให้วิธีนี้ไม่ค่อยได้ผล ถ้าโจร(ที่ทำกับคนไทย)ใช้เบอร์ให้เหมือนเบอร์คนไทยทั่วไปย่อมได้ผลกว่ามากแน่

หรือ การมีคนโทรเข้าพร้อมกันกับกล้องหน้าติดด้วยนั้นก็เป็นเรื่องที่ฟังดูแปลก มันเหมือนเรากำลังถ่ายอยู่ แล้วมีคนโทรเข้ามามากกว่า จากนั้น เมื่อกดปุ่มที่คิดว่ารับสาย (เช่น ปุ่มกลางล่าง บนหน้าจอ) ก็กลายเป็นถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโออีก อันนี้อาจจะไม่แปลกแล้วก็ได้เพราะอาจจะระบบรวน ซ้อนกันระหว่างหน้าจอคนโทรเข้ากับหน้าจอกล้อง และสุดท้ายเครื่องค้าง อันนี้ก็อาจเป็นไปได้อีกเช่นกัน

แต่ก็มีเค้าความเป็นจริงอยู่บ้าง เช่น

* แอปปลอม แอปแฮ็กมือถือ ของมิจฉาชีพบางแอปก็สามารถแกล้งทำเป็นว่าเครื่องค้าง แต่ความเป็นจริงคือมันแอบทำงานอยู่เช่นดูดเงิน ดูดข้อมูลหรืออื่น ๆ

* เทคนิคการใช้เอไอปลอมเสียง ปลอมหน้าตา สามารถนำไปใช้หลอกลวงคนอื่น เช่นปลอมเสียงโทรไปยังเบอร์ที่เราเบอร์เม็มไว้ในเครื่องเรา (โดยเฉพาะ เบอร์ที่แฮ็กเกอร์ดูออกง่ายว่ารู้จักกันดี เช่นเม็มว่าเบอร์พ่อเบอร์แม่ ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา เป็นต้น) หรือ โทรหรือวิดีโอคอล หาคนที่เป็นเพื่อนกับเราในโซเชียล

ส่วนเรื่องการแอบถ่ายภาพเรานั้น พบว่า กับเครื่องมือถือบางรุ่นนั้น แอปมิจฉาชีพสามารถแอบถ่ายโดยไม่ให้รู้ตัวได้ (ไม่มีการแสดงให้เห็นเลยว่ามีกล้องกำลังถ่ายอยู่) https://www.youtube.com/watch?v=4p2IlBW6y88 ดังนั้นการที่แอปแฮ็กมือถือ จะถ่ายภาพเราแบบต้องให้เรารู้ตัว ต้องให้ภาพกล้องขึ้นบนจอด้วย ก็อาจจะไม่จำเป็นก็ได้

แต่ในที่นี้เข้าใจว่า มันโทรมาเป็นวิดีโอคอลได้จริง และมันล่อให้เรายกกล้องมาส่องหน้าเราได้จริง ซึ่งเข้าใจว่า อาจเป็นเอไอปลอมเป็นหน้าตาและเสียงของคนที่เราคุ้นเคยดี โทรมาหาเรา แต่ระบบการวิดีโอคอลปกติ ต้องรับสายก่อน หรือต้องเข้ามาอยู่ในการสนทนาก่อน เท่านั้น กล้องจึงจะทำงาน คงไม่ใช่กล้องทำงานตั้งแต่ก่อนรับสาย (หมายถึง การที่ตัวเองอยู่ในกล้องและอยู่บนจอตั้งแต่ก่อนกดรับสาย นั้นไม่น่าจะเกิดขึ้น)

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    สุนัขทหารสหรัฐฯ มียศสูงกว่าทหารควบคุมสุนัข
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ถามหน่อยค่ะถ้าเรามีเงินในบัญชีแต่ไม่มีแอปธนาคารในโทรศัพท์มันจะดูดเงินในบัญชีของเราได้มั้ยคะ⁉️
    ⚠️ ถามหน่อยค่ะถ้าเรามีเงินในบัญชีแต่ไม่มีแอปธนาคารในโทรศัพท์มันจะดูดเงินในบัญชีของเราได้มั้ยคะ⁉️ คำตอบ : โดนได้ครับ ถ้าบอกเลขบัญชี + เลขประชาชน + เลขโทรศัพท์มือถือ ให้เขาไป เขาจะไปเปิดบัญชี wallet หรือกระเป๋าเงิน ผูกกับบัญชีธนาคารเรา และโอนเงินออกไป เข้าบัญชี wallet ‼️ วิธีการคนร้าย 1. คนร้ายจะเข้ามาทำทีเป็นลูกค้าขอซื้อของออนไลน์ และขอเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ในบัตรประชาชนของผู้เสียหาย 2. คนร้ายจะนำเอาข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้น ไปเปิดบัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) ขึ้นมาใหม่ และตั้งค่าบัญชี E-Wallet ให้เชื่อมกับบัญชีธนาคารผู้เสียหาย 3. หลังจากนั้นผู้เสียหายจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์มือถือ ในทำนองว่า "คุณต้องการที่จะให้บัญชีธนาคารของคุณเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือไม่" ซึ่งการแจ้งเตือนมีข้อความค่อนข้างยาว ทำให้ผู้เสียหายหลายรายไม่อยากอ่าน และมองว่าไม่น่าจะมีอันตรายอะไรเกิดขึ้น 4. เมื่อผู้เสียหายกด "ยอมรับ" หรือ "ตกลง" บน Mobile Banking การเชื่อมระหว่างบัญชี Mobile Banking ของผู้เสียหาย กับบัญชี E-Wallet ของคนร้ายก็จะสมบูรณ์ ดังนั้น จึงทำให้คนร้ายสามารถยักย้ายถ่ายโอนเงินออกจากบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย ผ่านช่องทาง Mobile Banking ไปยังบัญชี E-Wallet ของคนร้ายจนหมดภายในเวลาไม่กี่นาทีนั่นเอง จึงขอเตือนให้ทุกคนระมัดระวัง และพยายามอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับใคร หากมีการแจ้งเตือนเข้ามาในโทรศัพท์ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน อย่าลืมอ่านข้อความที่แจ้งมาอย่างละเอียด หากอ่านแล้วไม่เข้าใจก็ยังไม่ต้องตอบตกลง เพราะไม่แน่ว่าการแตะหน้าจอเพียงครั้งเดียว อาจจะทำให้เงินในบัญชีถูกถอนออกจนหมดก็ได้ เครดิตข้อมูล และภาพ : เฟซบุ๊ก กองปราบปราม (กฎหมายตำรวจและพนักงานสอบสวน by ภูมิรพี ผลาภูมิ)✅
    Mrs.Doubt
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    แมว-สุนัข ห้ามกินกระดูก อันตรายถึงชีวิต จริงหรือ
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    Bonnie Henry เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำจังหวัดบริติชโคลัมเบียซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกในตำแหน่งนี้ เธอยังเป็นรองศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย เธอมีพื้นฐานด้านระบาดวิทยาและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและเวชศาสตร์ป้องกัน เธอยังมาจาก PEI (เกาะปรินซ์เอ็ดเวิร์ด) ภูมิปัญญาของดร. บอนนี่เฮนรี่ 1. เราอาจต้องอยู่กับ COVID-19 เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี อย่าปฏิเสธหรือตื่นตระหนก อย่าทำให้ชีวิตของเราไร้ประโยชน์ มาเรียนรู้ที่จะอยู่กับข้อเท็จจริงนี้กันเถอะ 2. คุณไม่สามารถทำลายไวรัส COVID-19 ที่เจาะผนังเซลล์ได้โดยการดื่มน้ำร้อนมากๆ อีกทั้งจะทำให้คุณเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้นด้วย 3. การล้างมือและรักษาระยะห่างทางกายภาพสองเมตรเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันของคุณ 4. หากคุณไม่มีผู้ป่วย COVID-19 ที่บ้านก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าเชื้อพื้นผิวที่บ้านของคุณ 5. ตู้สินค้า ปั๊มน้ำมัน รถเข็น และตู้เอทีเอ็ม ไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ หากมีการล้างมือบ่อย จากใช้ชีวิตตามปกติ 6. โควิด -19 ไม่มีความเสี่ยง ที่แสดงให้เห็นว่า COVID-19 ติดต่อทางอาหารได้ 7. คุณสามารถสูญเสียความรู้สึกในการดมกลิ่น ด้วยอาการแพ้ และการติดเชื้อไวรัสจำนวนมาก นี่เป็นเพียงอาการไม่เฉพาะเจาะจงของ COVID-19 8. เมื่ออยู่บ้าน คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร่งด่วนแล้วไปอาบน้ำ ไม่ควรถึงกับหวาดระแวง 9. ไวรัส COVID-19 ไม่ค้างอยู่ในอากาศเป็นเวลานาน นี่คือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่ต้องสัมผัสใกล้ชิด 10. อากาศสะอาด คุณสามารถเดินผ่านสวนและผ่านสวนสาธารณะ (เพียงแค่รักษาระยะป้องกันทางกายภาพของคุณ) 11. ควรใช้สบู่ธรรมดาเพื่อป้องกันไวรัสโควิด -19 ไม่ใช่สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรีย เพราะนี่คือไวรัสไม่ใช่แบคทีเรีย 12. คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการสั่งอาหารของคุณ แต่คุณสามารถอุ่นทั้งหมดในไมโครเวฟได้หากต้องการ 13. โอกาสที่จะนำ COVID-19 กลับบ้านพร้อมกับรองเท้าก็เหมือนกับการถูกฟ้าผ่า 2 ครั้งในหนึ่งวัน ฉันทำงานกับไวรัสมา 20 ปี การติดเชื้อไม่แพร่กระจายแบบนั้น 14. คุณไม่สามารถป้องกันไวรัสได้ด้วยน้ำส้มสายชูน้ำอ้อยและขิง! สิ่งเหล่านี้มีไว้เพื่อภูมิคุ้มกันไม่ใช่การรักษา 15. การสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน อาจจะรบกวนการหายใจและระดับออกซิเจนของคุณลดลง จงสวมใส่ในฝูงชนเท่านั้น 16. การสวมถุงมือก็เป็นความคิดที่ไม่ดีเช่นกัน ไวรัสสามารถสะสมเข้าไปในถุงมือและแพร่เชื้อได้ง่ายหากคุณสัมผัสใบหน้า ดังนั้นจึงควรล้างมือเป็นประจำ จะดีกว่า ภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลงเมื่อ ร่ายกายอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดเชื้อ แม้ว่าคุณจะกินอาหารเสริมภูมิคุ้มกัน แต่ควรจะออกจากบ้าน ไป สวนสาธารณะ / ชายหาดเป็นประจำ ภูมิคุ้มกันจะเพิ่มขึ้นตามการสัมผัส ไม่ใช่โดยการนั่งอยู่บ้านและบริโภคอาหารทอด / เผ็ด / หวานและเครื่องดื่มเติมอากาศ จงฉลาด ใช้ชีวิต รับทราบข้อมูล อย่างมีเหตุผล อย่าวิตก จนเกินไป ชีวิตจะปลอดภัย
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    แลบลิ้นป้องกันโรคสมองเสื่อมได้
    อ่านนะคะ ด้วยรัก และห่วงใยค่ะ อัลไซเมอร์จาก ดร.วิชัย เกียรติสามิภักดิ์ ยิ่ง อ่าน ยิ่งดี มี✔️✔️รู้ไว้มีประโยชน์✔️✔️ วันนี้คุณแลบลิ้นหรือยัง? ---------------- ฉันเข้าสู่วัยชราตอนปลายแล้ว(70-90) ถึงวัยนี้ตามธรรมชาติจะมีความเจ็บป่วยต่างๆ ฉันกังวลใจมากที่สุดก็คือการเป็นคนชราที่หลงลืม (อัลไซเมอร์) เพราะไม่เพียงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เท่านั้น แต่ยังเป็นภาระให้คนในครอบครัวอีกด้วย วันหนึ่ง ลูกชายกลับมาจากข้างนอก เล่าให้ฟังว่า เพื่อนที่เป็นหมอบอกเขาเรื่อง การบริหารลิ้น หมอบอกว่าการบริหารลิ้นไม่เพียงแต่ป้องกันผู้สูงอายุเป็น อัลไซเมอร์เท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาโรคอ้วน ความดันสูง หลอดเลือดสมอง หอบหืด ตาฝ้าฟาง หูอื้อ คออักเสบ ไหล่ติด นอนไม่หลับ ฯลฯได้อีกด้วย ลูกเล่าจากที่หมอบอกว่า ง่ายมาก ขอเพียงทุก ๆ วันในตอนเช้าตรู่ หลังล้างหน้าเสร็จ บริหารลิ้นหน้ากระจก ดังนี้ 1.แลบลิ้นออก แล้วหดกลับ 10 ครั้ง 2. แลบลิ้นออก ตวัดไปทางริมฝีปากซ้าย-ขวา สิ่งที่สำคัญ คือ ต้องทำทุกวัน และนี่ฉันก็ทำได้ ไม่ขาดสักวัน ทั้งปรับปรุงวิธีบริหารลิ้น ยืนหยัดทำไม่ขาดอยู่ปีเศษๆ ผลที่ได้รับคือ ไม่เพียงสมองโล่ง แต่อาการที่เคยเป็น เช่น ตาฝ้าฟาง มึนหัว กระเพาะไม่มีกำลัง น้ำมูกไหล เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แขนขาก็รู้สึกยืดหยุ่นขึ้นมาก และเชื่อมั่นว่า การบริหารลิ้น มีผลในการป้องกันโรคอัลไซเมอร์จริง เพราะงานวิจัยของแพทย์แสดงผลอย่างชัดเจนว่า เส้นประสาทลิ้นเชื่อมต่อสัมพันธ์กับสมอง และสัญญาณแรกที่บ่งชี้ว่า เข้าสู่ภาวะชราภาพ คือ อาการลิ้นแข็ง ดังนั้น การบริหารลิ้นบ่อยๆ เป็นการกระตุ้นการทำงานของสมองทางอ้อม ป้องกันสมองฝ่อได้ .... ❤️ ส่งต่อให้คนที่เรารัก❤️
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    หนูรัตน์กินมิจจู้จริงหรอ?
    นางสาวสัภัชญา ชาวคูเวียง หรือ หนูรัตน์ มีข่าวว่ากินมิจจู้ สุนัขของตัวเองที่เลี้ยงไว้ โดยสังเกตได้จากช่วงหลัง ที่หนูรัตน์ ไม่มีมิจจู้ออกไลฟ์เลย แต่เหตุผลที่แท้จริงที่มิจจู้หายไป ก็มาจากการที่ตัวของมิจจู้ป่วย และได้เสียชีวิตลง หลังจากนั้น หนูรัตน์ก็ได้ออกมาโพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัวถึงการจากไปของมิจจู้ ทำให้ชาวเน็ตหายสงสัยในข่าวนี่ และแสดงความเสียใจแก่มิจจู้และตัวหนูรัตน์
    std47893
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ห้ามเลี้ยงสุนัขและแมว
    ห้ามเลี้ยงสุนัขและแมว ผู้เขียนคือ หนู (เนาวรัตน์ เปาว์อินทร์ ) ผู้ป่วยคือคุณแม่ของหนู เมื่อวานสามพี่น้องมาประชุมกันที่คอนโดตูน ทราบว่า ไขกระดูกแม่ที่ไม่สร้างเลือด และหลังจากให้เลือดสามถุงแล้วก็หายไป วัดเลือดได้เหลือ 19% ซึ่งต่ำมาก อันตราย ปกติคนทั่วไป ต้องมีเลือดในร่างกายต่ำสุด 29% ก็แย่แล้ว หมอเลยเช็คต่อว่าเป็นเพราะเหตุใด ก็ได้ผลว่า การที่ไขกระดูกไม่สร้างเลือดเกิดจากเชื้อไวรัส Parabola มีอยู่ในร่างกาย เชื้อนี้ ได้รับจากสุนัขและแมว เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายก็จะดูดเลือด การรักษาต้องฉีดยาฆ่าเชื้อ 2 เข็ม วันละเข็ม และกลับบ้านหลังจากฉีดยาครึ่งชั่วโมง (ราคาเข็มละ หนึ่งแสนบาท) ค่าพักรอผล ก่อนกลับบ้าน 1,600 บาท หลังจากนั้นอีกหนึ่งอาทิตย์เช็คร่างกายติดตามผล ถ้าหายก็จบการรักษา ถ้ายังไม่หายก็ฉีดต่อ จึงบอกให้ทราบกันถ้วนทั่วว่า อย่าอยู่ใกล้ชิดสุนัขและแมว เชื้อไวรัสเข้าร่างกายเราเมื่อใดไม่รู้ และมันจะฟักตัวถึง 4-5 ปี เราจึงจะทราบผล น้องนำไปปรึกษาหัวหน้าแพทย์ทางโลหิตได้รับคำตอบเช่นเดียวกัน เราบอกเพื่อเป็นวิทยาทาน เพราะไม่เคยรู้เรื่องเช่นนี้มาก่อนเลย
    Mrs.Doubt
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเช่น สุนัขเข้าอุทยานจริงหรือคะ
    นายกันฐกิตฐ์ ทิพย์ทองพูน อาสาสมัครช่างภาพเขาใหญ่ กล่าวว่า ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวได้รับภาพมาจากกลุ่มนักอนุรักษ์บนเขาใหญ่ ที่ไปเจอเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยที่เห็นและถ่ายภาพได้มีหมาอย่างน้อย 3 ตัวที่พบนักท่องเที่ยวแอบลักลอบนำขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทั้งที่มีระเบียบบังคับอยู่แล้วว่าห้ามนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดขึ้นไป เพราะเสี่ยงต่อการเกิดโรคจากสัตว์บ้านสู่สัตว์ป่า สัตวแพทย์ ระบุว่าการนำสัตว์เลี้ยงขึ้นไปอุทยาน เช่น หากไปถ่ายมูลไว้ และมีสัตว์ป่ามากิน อาจเสี่ยงจะติดโรคจากสัตว์เลี้ยง และทำให้สัตว์ป่ามีสุขภาพอ่อนแอ ตามพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติแล้ว ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท จริงหรือคะ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จริงหรือ การกินอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เสี่ยงพบพยาธิใบไม้ตับ แถมพยาธิชนิดนี้อยู่ในตัวคนได้นานถึง 26 ปี
    การกินอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบเสียงเป็นพยาธิใบไม้ตับ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า โรคพยาธิใบไม้ตับ มีสาเหตุมาจากหนอนพยาธิที่มีชื่อเรียกว่า “พยาธิใบไม้ตับ” โรคนี้เกิดได้ในคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด เช่น แมว สุนัข เป็นต้น ซึ่งสามารถอาศัยอยู่ในท่อน้ำดีของตับคนได้นานถึง 26 ปี
    naydoitall
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    .. หมาล่า หรือพริกแห้งที่ส่งมาจากเมืองจีน เป็นพริกที่เก็บเกี่ยวโดยใช้สารโซดาไฟ พ่นให้ใบเหี่ยวแห้ง แล้วร่อนเอาพริกออกมา บดแล้วผสมกับสีย้อมผ้า เวลากินจะรู้สึกชาๆที่ปาก เป็นอันตรายต่อตับและร่างกายทุกส่วน ประเทศญี่ปุ่นประเทศไต้หวัน เขาห้ามนำเข้ามาขายแล้ว แต่คนไทย ยังเอามากินกันอยู่
    ไม่ระบุชื่อ
     •  8 เดือนที่แล้ว
    meter: false