แม่พิมพ์ชำรุด ? หรือใส่เสื้อติดกระดุมผิด ? หรือศึกษาพาณิชย์ ? คือต้นเหตุของการฝังรากลึกของการคอรัปชั่นในทุกย่อมยาก
1.ไม่มีที่ไหนในโลกหรอกครับ ที่คนจบมหาวิทยาลัยตกงานมากกว่าคนไม่จบมหาวิทยาลัย แต่สถิตินี้สะท้อนปัญหาระบบการศึกษาไทยในปัจจุบันได้ดีครับ
2.ขอวกเข้าเรื่องสาเหตุข้อสังเกตุมั้ยครับ อยู่ๆเมืองไทยก็มี “โรงเรียนอินเตอร์” เกิดขึ้นมากมาย แน่นอน ส่วนหนึ่งเป็นเด็กต่างชาติแต่อีกส่วนมาก ที่เอามารวมๆกันเป็นจำนวนหลายพันคนในวันนี้คือ “เด็กเยาวชนไทย” ครับ
3.คำถามคือคนรวยในไทยที่สามารถจ่ายค่าเทอมลูกอย่างต่ำปีละ 600,000-1,000,000 บาท มันมีมากขนาดนั้นจริงๆเหรอ?คำตอบคือ “ไม่ครับ”ประเทศเราไม่มีคนรวยมากมายขนาดนั้น
4.แล้วปัญหาคืออะไร?ปัญหาคือ เรากำลังเกิดวิกฤติหนีตายทางการศึกษาติดกระดุมผิดครับ
5.ในอดีต คุณภาพโรงเรียนในไทยไม่ต่างจากเมืองนอกเท่านี้เอาง่ายๆ ไม่ต้องสาธิต มาแตร์ เซ็นโยเชฟ สตรีวิทยา หรือพวกเซ็นต่างๆก็ได้
เอาลงมาอีกหน่อย เช่นโรงเรียนวัดดังๆ ผมว่าคุณภาพก็ยังสู้ประเทศอื่นๆในอาเซียน หรือบางประเทศในเอเชียสบาย
6.แต่วันนี้ไม่ใช่ Ranking โรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาตกหนักมากโรงเรียนจำนวนมากมีมาตรฐานต่ำกว่าสปป.ลาวแล้ว ชนะแค่เมียนม่าร์ และกัมพูชา เห็นข้อสอบที่สอบแทบอ้วก ยิ่งสอนเด็กยิ่งโง่น่าสงสารเด็กและครูมาก
7.พ่อแม่ผู้ปกครองที่ลูกๆเข้าสาธิต มาแตร์ สตรีวิทยา เซ็นต์ต่างๆไม่ได้ จึงต้องหนีตายเข้าอินเตอร์อีกพวก ขี้เกียจลุ้นโรงเรียนไทยดีๆ ก็เอาเข้าอินเตอร์ไปเลยขายบ้านขายที่ดินส่งลูก
8.ซึ่งวนกลับมาคำถามที่ว่า
คนรวยในไทยเยอะขนาดนี้จริงหรือ?
คำตอบคือเปล่าครับเพราะเกิน 60% นั้น ใช้การ “ขายทรัพย์สิน” เพื่อให้ลูกเรียนครับ
9.อย่างคนรู้จักผมหลายคน ทำงานรัฐวิสาหกิจดีๆ เงินเดือน 80,000-160,000 บาทรวมสามี-ภรรยา หักค่าใช้จ่ายรายเดือน ให้ตายก็ส่งลูก 2-3 คนเรียนอินเตอร์ไม่ไหวผมพูดถึง 700,000 X 2 คน X 12 ปี = 16.8 ล้าน
กลมๆก็ 17 ล้านหละครับหมด 17 ล้าน ยังไม่ได้เข้ามหาวิทยาลัยเลยแล้วเอาเงินที่ไหน?
คำตอบคือขายที่ดินของปู่ย่าตายายครับ
10.เพื่อสร้าง “ทุน” เพื่อให้เข้ามหาวิทยาลัยดี เพื่อไม่ให้ตกงาน เช่นหมอ สถาปัตย์ วิศวะ ไบโอเคมี จีโนม เอไอในจุฬาฯ, มหิดล, มอ.หาดใหญ่, มข., มช., บางมด, ลาดกระบังนะ ที่มีโอกาสได้งานสูง
11.ดีขึ้นไปอีก คือส่งเรียนมหาวิทยาลัยดีเมืองนอกเน้นนะครับ ส่งไปมหาวิทยาลัยดีเมืองนอก
ไม่ใช่แค่ส่งไปเมืองนอก แล้วไปเข้ามหาวิทยาลัยอะไรก็ไม่รู้เป็นห้องแถวขายปริญญา
12.ถ้าสำเร็จตามนี้หมด 17 ล้านแรก ก็จะได้ลูก 2 คน ที่เข้าจุฬาฯ หรือ มช. ได้ “แน่ๆ” หรือไปถึงมหาวิทยาลัยดีๆในอังกฤษ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อเมริกาได้เพื่อจบแล้ว “ไม่ตกงาน”ส่วนค่าเทอมมหาวิทยาลัย ก็ว่ากันอีกรอบ ขายที่ดินกันอีกผืนหรือหลายผืน
13.นี่แหละครับความเป็นจริงของปัญหาการ “ขายที่เพื่อหาทางหนีตายให้ลูก” จากระบบการศึกษาที่ล้มเหลว"ศึกษาพาณิชย์"เพื่อการถอนทุนคอรัปชั่นจึงฝังรากลึกด้วยความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา "มือใครยาวสาวได้สาวเอา"
14.นักการเมืองถึงกับพลั้งปากว่าเป็นฝ่ายค้านอดอยากปากแห้ง "รักชาติจนน้ำลายไหล"
15.เพื่อไม่ให้ลูกตัวเองตกอยู่ใน 60% ของการจบมหาวิทยาลัยแล้วตกงานเพราะตัวเลขนี้เกิดจาก
16. เรียนโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาที่ห่วย วิชาการเรียนห่วย เอาแต่ท่องจำ ไม่สอน critical thinking ไม่สร้าง growth mindset ยังเรียนแบบเดิมไม่รู้จะเอาไปทำอะไรอยู่เลย
17.แล้วไปเข้ามหาวิทยาลัยที่ห่วยต่อเรียนเพื่อให้ได้วุฒิปริญญาตรี ทำการเรีนวิชาที่ล้าสมัย ไม่ตรงความต้องการของตลาดแรงงาน "ไม่มีหลักสูตรรองรับอนาคต" ที่เป็นยุทธศาสตร์ของพื้นที่และชุมชน เช่นยุทธศาสตร์ 5เชียงกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ 4 เหลี่ยมเศรษฐกิจ(ไทย เมียนม่าร์ จีน สปป.ลาว)เอาแต่ ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง เน้นแต่แต่งตัวสวย พิธีการเยอะชอบงานสบายขายของเก่า
18.ข้อสอบเน้นปรนัยเลือกคำตอบครูตรวจง่ายเรียนมาทั้งปีมาวัดผลการเรียนกันไม่กี่วันไม่กี่ชั่วโมง ถ้าเป็นแบบอัตนัยครูตรวจยากให้คะแนนยาก ต้องคิด เขียน ตอบต่างกันแต่ตรงเป้าหมาย ต่างวิธีคิด มีวิธีทำแต่เป้าหมายเดียวกัน
19.ครูเองก็ต้องทำผลงานเพื่อปรับวุฒิให้ตัวเองเพื่อให้ได้ตำแหน่งทางวิชนการ งานสูงขึ้นเงินเดือนมากขึ้นไม่สนใจพัฒนาระบบสารสนเทศการศึกษาต่อนักเรียนของครูเองก็ยังเอาตัวเองไม่รอด
20.บุคคลากรทางการศึกษา ทั้งระบบเน้นปรับวุฒิ/เรียนจบง่าย/รายได้สูง/ไม่รับผิดชอบต่อสังคมศาสตร์ที่จะเกิดและที่เป็นไปในอนาคต
21.ครูจัดระเบียบตัวเองด้านเศรษฐกิจและสังคมยังไม่ได้ไม่มีวุฒิภาวะเป็นหนี้สินมาก กว่าที่จะมีความตั้งใจที่จะไปสอนเด็กทำให้คุณภาพการศึกษาตกต่ำลงในอัตราเร่งขึ้น
22.การเรียนป.โท /ป.เอก วิทยานิพนธ์ ไม่ได้เอาไปใช้จริงให้ขับเคลื่อนสังคมได้ เรียนทำเพื่อให้จบ พาอาจารย์ไปดูงานต่างประเทศช่วยกันจ่ายดูแลอาจารย์ก็จบเกม ได้ปรับชั้นยศตำแหน่งเงินเดือน
23.ห่วย 2 เด้ง เด็กมันถึงตกงาน
พ่อแม่คนไหนไม่มีที่ดินให้ขายแพงๆ
โอกาสการศึกษาลูกก็ต่ำเตี้ย แพ้เด็กสปป.ลาว
ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาเกิดขึ้นในอัตราที่เพิ่มขึ้นปัญหานี้สร้างโดยผู้ใหญ่ครับ
24.รัฐบาลใหม่ต้องแก้ด่วน ชุมชนร้าง ภูมิปัญญาสูญหาย ไม่มีคนสืบสานต่อ มีแต่คนชรา ปราชญ์ชาวบ้านหาย สูญพันธุ์ โรงเรียนร้าง วัดร้าง หลักสูตรที่ผูกกับท้องถิ่นไม่มี ต้องทำงานหากินในเมืองใหญ่แล้วส่งเงินให้พ่อแม่เลี้ยงลูกตัวเอง ถ้าพ่อแม่เสียชีวิต ลูกกับหลานเกิดช่องว่างทางสังคม เกิดปัญหายาเสพติด เด็กติดเกมพนัน ท้องก่อนแต่ง ปัญหาหย่าร้างสูง
25.ไม่รู้จักหน้าที่ตนเองและความรับผิดชอบต่อครอบครัว และสังคมเพราะว่า"เลิกเรียนวิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรม" การหย่าร้างสูง ภาคภูมิใจที่เอาความรู้ที่เรียนมาไปเอาเปรียบสังคมทุกมิติ(แก๊งคอลเซ็นเตอร์) แล้วยังภูมิใจ
26.หาเงินโดยเอาสุขภาพตนเองไปแลกเงินในทุกมิติ สุดท้ายเงินที่หามาได้ก็ซื้อสุขภาพคืนมาไม่พอจ่ายเพาะว่าเลิกเรียนวิขาสุขศึกษา แม้พุทธวจน ได้กล่าวไว้ว่า" คนไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ"
27.ประเทศไทยมีโรงเรียนกวดวิชา และสอนพิเศษมากที่สุดในโลกในทุกระดับชั้น และทุกสาขาวิชาอาชีพ นี่แหละ คือต้นตอของการตกต่ำด้านการศึกษา คิดไม่เป็น เก็งข้อสอบ ต้องท่องจำ เพราะว่าเจ้าของโรงเรียน พิเศษ กวดวิชาและต้องการให้นักเรียนสอบได้ " เป็นการศึกษาพาณิชย์ " และเป็นต้นทางสาเหตุ และปัจจัยที่ต้องคอร์รัปชั่นถอนเงินทุนคืน ที่ต้องเสียเงินไปเพื่อการศึกษาเรียนพิเศษ กวดวิขาเพิ่มคนจนๆไม่มีสิทธิ์นะครับ
28.มีการขายปริญญาดร.กิติมศักดิ์โดยต้อวจ่ายเงินมีคนมาเสนอให้ผมผ่านไปอีก1ปีจะให้ตำแหน่งศาสตราจารย์ โดยต้องจ่ายเงินเดือนผมไม่ตอบรับปริญญา กระดาษ แต่ผมขอเป็นปราชญ์ชาวบ้านในปริญญาชีวิต เป็น นักคิด นักพัฒนา ด้านสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ มีความสุข ภูมิใจที่มีคนเรียกว่าครูอาจารย์ ได้รับเขิญบรรยายพิเศษในหลายเรื่อง
ในปัญหาของสังคม และความมั่นคงของมนุษยชาติอยู่อย่างมีความสุข มีคุณค่าและมีคุณภาพ
Facebook: Pongprom Yamarat
CD.ชูศักดิ์ ไตรศรี ศิลป์ 0819509566
นักวิชาการอิสระ ด้นการศึกษา ปราชญ์ชาวบ้าน นักคิด นักพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์
1.ไม่มีที่ไหนในโลกหรอกครับ ที่คนจบมหาวิทยาลัยตกงานมากกว่าคนไม่จบมหาวิทยาลัย แต่สถิตินี้สะท้อนปัญหาระบบการศึกษาไทยในปัจจุบันได้ดีครับ
2.ขอวกเข้าเรื่องสาเหตุข้อสังเกตุมั้ยครับ อยู่ๆเมืองไทยก็มี “โรงเรียนอินเตอร์” เกิดขึ้นมากมาย แน่นอน ส่วนหนึ่งเป็นเด็กต่างชาติแต่อีกส่วนมาก ที่เอามารวมๆกันเป็นจำนวนหลายพันคนในวันนี้คือ “เด็กเยาวชนไทย” ครับ
3.คำถามคือคนรวยในไทยที่สามารถจ่ายค่าเทอมลูกอย่างต่ำปีละ 600,000-1,000,000 บาท มันมีมากขนาดนั้นจริงๆเหรอ?คำตอบคือ “ไม่ครับ”ประเทศเราไม่มีคนรวยมากมายขนาดนั้น
4.แล้วปัญหาคืออะไร?ปัญหาคือ เรากำลังเกิดวิกฤติหนีตายทางการศึกษาติดกระดุมผิดครับ
5.ในอดีต คุณภาพโรงเรียนในไทยไม่ต่างจากเมืองนอกเท่านี้เอาง่ายๆ ไม่ต้องสาธิต มาแตร์ เซ็นโยเชฟ สตรีวิทยา หรือพวกเซ็นต่างๆก็ได้
เอาลงมาอีกหน่อย เช่นโรงเรียนวัดดังๆ ผมว่าคุณภาพก็ยังสู้ประเทศอื่นๆในอาเซียน หรือบางประเทศในเอเชียสบาย
6.แต่วันนี้ไม่ใช่ Ranking โรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาตกหนักมากโรงเรียนจำนวนมากมีมาตรฐานต่ำกว่าสปป.ลาวแล้ว ชนะแค่เมียนม่าร์ และกัมพูชา เห็นข้อสอบที่สอบแทบอ้วก ยิ่งสอนเด็กยิ่งโง่น่าสงสารเด็กและครูมาก
7.พ่อแม่ผู้ปกครองที่ลูกๆเข้าสาธิต มาแตร์ สตรีวิทยา เซ็นต์ต่างๆไม่ได้ จึงต้องหนีตายเข้าอินเตอร์อีกพวก ขี้เกียจลุ้นโรงเรียนไทยดีๆ ก็เอาเข้าอินเตอร์ไปเลยขายบ้านขายที่ดินส่งลูก
8.ซึ่งวนกลับมาคำถามที่ว่า
คนรวยในไทยเยอะขนาดนี้จริงหรือ?
คำตอบคือเปล่าครับเพราะเกิน 60% นั้น ใช้การ “ขายทรัพย์สิน” เพื่อให้ลูกเรียนครับ
9.อย่างคนรู้จักผมหลายคน ทำงานรัฐวิสาหกิจดีๆ เงินเดือน 80,000-160,000 บาทรวมสามี-ภรรยา หักค่าใช้จ่ายรายเดือน ให้ตายก็ส่งลูก 2-3 คนเรียนอินเตอร์ไม่ไหวผมพูดถึง 700,000 X 2 คน X 12 ปี = 16.8 ล้าน
กลมๆก็ 17 ล้านหละครับหมด 17 ล้าน ยังไม่ได้เข้ามหาวิทยาลัยเลยแล้วเอาเงินที่ไหน?
คำตอบคือขายที่ดินของปู่ย่าตายายครับ
10.เพื่อสร้าง “ทุน” เพื่อให้เข้ามหาวิทยาลัยดี เพื่อไม่ให้ตกงาน เช่นหมอ สถาปัตย์ วิศวะ ไบโอเคมี จีโนม เอไอในจุฬาฯ, มหิดล, มอ.หาดใหญ่, มข., มช., บางมด, ลาดกระบังนะ ที่มีโอกาสได้งานสูง
11.ดีขึ้นไปอีก คือส่งเรียนมหาวิทยาลัยดีเมืองนอกเน้นนะครับ ส่งไปมหาวิทยาลัยดีเมืองนอก
ไม่ใช่แค่ส่งไปเมืองนอก แล้วไปเข้ามหาวิทยาลัยอะไรก็ไม่รู้เป็นห้องแถวขายปริญญา
12.ถ้าสำเร็จตามนี้หมด 17 ล้านแรก ก็จะได้ลูก 2 คน ที่เข้าจุฬาฯ หรือ มช. ได้ “แน่ๆ” หรือไปถึงมหาวิทยาลัยดีๆในอังกฤษ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อเมริกาได้เพื่อจบแล้ว “ไม่ตกงาน”ส่วนค่าเทอมมหาวิทยาลัย ก็ว่ากันอีกรอบ ขายที่ดินกันอีกผืนหรือหลายผืน
13.นี่แหละครับความเป็นจริงของปัญหาการ “ขายที่เพื่อหาทางหนีตายให้ลูก” จากระบบการศึกษาที่ล้มเหลว"ศึกษาพาณิชย์"เพื่อการถอนทุนคอรัปชั่นจึงฝังรากลึกด้วยความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา "มือใครยาวสาวได้สาวเอา"
14.นักการเมืองถึงกับพลั้งปากว่าเป็นฝ่ายค้านอดอยากปากแห้ง "รักชาติจนน้ำลายไหล"
15.เพื่อไม่ให้ลูกตัวเองตกอยู่ใน 60% ของการจบมหาวิทยาลัยแล้วตกงานเพราะตัวเลขนี้เกิดจาก
16. เรียนโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาที่ห่วย วิชาการเรียนห่วย เอาแต่ท่องจำ ไม่สอน critical thinking ไม่สร้าง growth mindset ยังเรียนแบบเดิมไม่รู้จะเอาไปทำอะไรอยู่เลย
17.แล้วไปเข้ามหาวิทยาลัยที่ห่วยต่อเรียนเพื่อให้ได้วุฒิปริญญาตรี ทำการเรีนวิชาที่ล้าสมัย ไม่ตรงความต้องการของตลาดแรงงาน "ไม่มีหลักสูตรรองรับอนาคต" ที่เป็นยุทธศาสตร์ของพื้นที่และชุมชน เช่นยุทธศาสตร์ 5เชียงกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ 4 เหลี่ยมเศรษฐกิจ(ไทย เมียนม่าร์ จีน สปป.ลาว)เอาแต่ ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง เน้นแต่แต่งตัวสวย พิธีการเยอะชอบงานสบายขายของเก่า
18.ข้อสอบเน้นปรนัยเลือกคำตอบครูตรวจง่ายเรียนมาทั้งปีมาวัดผลการเรียนกันไม่กี่วันไม่กี่ชั่วโมง ถ้าเป็นแบบอัตนัยครูตรวจยากให้คะแนนยาก ต้องคิด เขียน ตอบต่างกันแต่ตรงเป้าหมาย ต่างวิธีคิด มีวิธีทำแต่เป้าหมายเดียวกัน
19.ครูเองก็ต้องทำผลงานเพื่อปรับวุฒิให้ตัวเองเพื่อให้ได้ตำแหน่งทางวิชนการ งานสูงขึ้นเงินเดือนมากขึ้นไม่สนใจพัฒนาระบบสารสนเทศการศึกษาต่อนักเรียนของครูเองก็ยังเอาตัวเองไม่รอด
20.บุคคลากรทางการศึกษา ทั้งระบบเน้นปรับวุฒิ/เรียนจบง่าย/รายได้สูง/ไม่รับผิดชอบต่อสังคมศาสตร์ที่จะเกิดและที่เป็นไปในอนาคต
21.ครูจัดระเบียบตัวเองด้านเศรษฐกิจและสังคมยังไม่ได้ไม่มีวุฒิภาวะเป็นหนี้สินมาก กว่าที่จะมีความตั้งใจที่จะไปสอนเด็กทำให้คุณภาพการศึกษาตกต่ำลงในอัตราเร่งขึ้น
22.การเรียนป.โท /ป.เอก วิทยานิพนธ์ ไม่ได้เอาไปใช้จริงให้ขับเคลื่อนสังคมได้ เรียนทำเพื่อให้จบ พาอาจารย์ไปดูงานต่างประเทศช่วยกันจ่ายดูแลอาจารย์ก็จบเกม ได้ปรับชั้นยศตำแหน่งเงินเดือน
23.ห่วย 2 เด้ง เด็กมันถึงตกงาน
พ่อแม่คนไหนไม่มีที่ดินให้ขายแพงๆ
โอกาสการศึกษาลูกก็ต่ำเตี้ย แพ้เด็กสปป.ลาว
ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาเกิดขึ้นในอัตราที่เพิ่มขึ้นปัญหานี้สร้างโดยผู้ใหญ่ครับ
24.รัฐบาลใหม่ต้องแก้ด่วน ชุมชนร้าง ภูมิปัญญาสูญหาย ไม่มีคนสืบสานต่อ มีแต่คนชรา ปราชญ์ชาวบ้านหาย สูญพันธุ์ โรงเรียนร้าง วัดร้าง หลักสูตรที่ผูกกับท้องถิ่นไม่มี ต้องทำงานหากินในเมืองใหญ่แล้วส่งเงินให้พ่อแม่เลี้ยงลูกตัวเอง ถ้าพ่อแม่เสียชีวิต ลูกกับหลานเกิดช่องว่างทางสังคม เกิดปัญหายาเสพติด เด็กติดเกมพนัน ท้องก่อนแต่ง ปัญหาหย่าร้างสูง
25.ไม่รู้จักหน้าที่ตนเองและความรับผิดชอบต่อครอบครัว และสังคมเพราะว่า"เลิกเรียนวิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรม" การหย่าร้างสูง ภาคภูมิใจที่เอาความรู้ที่เรียนมาไปเอาเปรียบสังคมทุกมิติ(แก๊งคอลเซ็นเตอร์) แล้วยังภูมิใจ
26.หาเงินโดยเอาสุขภาพตนเองไปแลกเงินในทุกมิติ สุดท้ายเงินที่หามาได้ก็ซื้อสุขภาพคืนมาไม่พอจ่ายเพาะว่าเลิกเรียนวิขาสุขศึกษา แม้พุทธวจน ได้กล่าวไว้ว่า" คนไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ"
27.ประเทศไทยมีโรงเรียนกวดวิชา และสอนพิเศษมากที่สุดในโลกในทุกระดับชั้น และทุกสาขาวิชาอาชีพ นี่แหละ คือต้นตอของการตกต่ำด้านการศึกษา คิดไม่เป็น เก็งข้อสอบ ต้องท่องจำ เพราะว่าเจ้าของโรงเรียน พิเศษ กวดวิชาและต้องการให้นักเรียนสอบได้ " เป็นการศึกษาพาณิชย์ " และเป็นต้นทางสาเหตุ และปัจจัยที่ต้องคอร์รัปชั่นถอนเงินทุนคืน ที่ต้องเสียเงินไปเพื่อการศึกษาเรียนพิเศษ กวดวิขาเพิ่มคนจนๆไม่มีสิทธิ์นะครับ
28.มีการขายปริญญาดร.กิติมศักดิ์โดยต้อวจ่ายเงินมีคนมาเสนอให้ผมผ่านไปอีก1ปีจะให้ตำแหน่งศาสตราจารย์ โดยต้องจ่ายเงินเดือนผมไม่ตอบรับปริญญา กระดาษ แต่ผมขอเป็นปราชญ์ชาวบ้านในปริญญาชีวิต เป็น นักคิด นักพัฒนา ด้านสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ มีความสุข ภูมิใจที่มีคนเรียกว่าครูอาจารย์ ได้รับเขิญบรรยายพิเศษในหลายเรื่อง
ในปัญหาของสังคม และความมั่นคงของมนุษยชาติอยู่อย่างมีความสุข มีคุณค่าและมีคุณภาพ
Facebook: Pongprom Yamarat
CD.ชูศักดิ์ ไตรศรี ศิลป์ 0819509566
นักวิชาการอิสระ ด้นการศึกษา ปราชญ์ชาวบ้าน นักคิด นักพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์