มีรายงานจริงว่าเกลือแกงที่ใช้ตามบ้านบางครั้งอาจปรากฏผลึกสีน้ำเงินขึ้นมา โดยไม่ได้เกิดจากสีพิมพ์ถุงบรรจุ แต่เป็นการเปลี่ยนสีหลังจากเกลือสัมผัสความชื้นในอากาศ จึงอาจมีสารเคมีเจือปน เช่น คอปเปอร์ซัลเฟต (จุนสี) ซึ่งเมื่อจับน้ำจะกลายเป็นผลึกสีฟ้าหรือน้ำเงินสดได้ หรืออาจเป็นปฏิกิริยาของไอโอดีนกับสารอื่น ๆ ที่ปนอยู่ อย่างไรก็ตาม สาเหตุจริงยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัด สิ่งที่แน่นอนคือ เกิดขึ้นเพราะเกลือถูกเก็บในสภาพที่ชื้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีบางอย่าง เกลือที่เปลี่ยนสีแม้ละลายน้ำได้แต่ไม่ควรบริโภค เพราะอาจมีการปนเปื้อน คำแนะนำคือเก็บเกลือในภาชนะปิดสนิท เลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ และหลีกเลี่ยงการใช้เกลือที่มีสีผิดปกติ

การที่คนงานรอดชีวิตจากเหตุถูกไฟดูด ไม่ได้เกิดจากการทำตามความเชื่อโบราณ เช่น การวางบนแผ่นสังกะสี กลบทราย หรือกรอกเหล้าขาว วิธีเหล่านี้ไม่มีผลทางวิทยาศาสตร์ต่อการดึงไฟออกจากร่างกาย เพราะกระแสไฟฟ้าจะไหลออกจากร่างทันทีเมื่อไม่สัมผัสกับแหล่งจ่ายไฟ ร่างกายมนุษย์ก็ไม่ใช่ตัวเก็บประจุที่เก็บไฟฟ้าได้ สาเหตุที่ผู้บาดเจ็บรอดมาได้จริง ๆ คือการได้รับการปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการทำ CPR ปั๊มหัวใจและช่วยหายใจทันท่วงที พร้อมกับการนำส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ดังนั้นข่าวที่ระบุว่ารอดเพราะความเชื่อเป็นการสื่อสารผิดและอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เสียเวลาอันมีค่าในการช่วยชีวิต สิ่งสำคัญที่สุดหากพบผู้ถูกไฟดูด คือรีบตัดกระแสไฟ ใช้วัสดุที่ไม่เป็นสื่อนำไฟแยกร่างออกจากไฟ และทำการ CPR พร้อมแจ้ง 1669 ทันที ความเชื่อโบราณไม่ช่วยอะไร มีแต่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากขึ้น

ปรากฏการณ์ “จันทร์สีเลือด” หรือ Blood Moon ที่จะเกิดขึ้นคืนวันที่ 7 ต่อเนื่องถึงเช้ามืด 8 กันยายน 2568 เป็นเรื่องจริง และสามารถมองเห็นได้ในประเทศไทย เป็นผลจากจันทรุปราคาเต็มดวงที่แสงอาทิตย์ลอดผ่านชั้นบรรยากาศโลก กรองแสงสีน้ำเงินออกไป เหลือแต่แสงสีแดงไปสะท้อนบนผิวดวงจันทร์ ทำให้เห็นเป็นสีแดงอิฐ ไม่ใช่ลางร้ายหรือสัญญาณเหตุการณ์บ้านเมืองอย่างที่บางความเชื่อกล่าวมา ความเชื่อโบราณในหลายวัฒนธรรม เช่น เมโสโปเตเมีย อินคา ชนพื้นเมืองอเมริกัน หรือไทย เคยมองว่าเป็นสัญญาณร้าย แต่ทางวิทยาศาสตร์ยืนยันแล้วว่าเป็นเพียงปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ปกติ ไม่มีผลกระทบต่อชีวิตมนุษย์ การพาดหัวข่าวที่โยงไปถึงความเชื่อเรื่องเหตุร้ายจึงเป็นการตีความทางวัฒนธรรม ไม่ใช่ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์

สารอะฟลาทอกซินเป็นสารพิษจากเชื้อราที่อาจปนเปื้อนในถั่วลิสง พริกป่น หรืออาหารแห้งอื่น ๆ ได้จริง และหากได้รับในปริมาณมากหรือต่อเนื่องอาจก่อให้เกิดโรคตับ ตับแข็ง หรือมะเร็งตับ แต่ไม่ได้หมายความว่าพริกป่นหรือถั่วลิสงจะเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งในไทย ข้อมูลที่แชร์ว่า “คนไทยกินเผ็ดแล้วตายเป็นแสนเพราะมะเร็ง” เป็นการสื่อสารเกินจริง เพราะสาเหตุสำคัญของมะเร็งตับในไทยมาจากไวรัสตับอักเสบบี/ซี การดื่มแอลกอฮอล์ โรคอ้วน และเบาหวานมากกว่า ขณะเดียวกัน หน่วยงานรัฐก็มีมาตรการควบคุมการปนเปื้อนสารนี้อย่างเข้มงวด ผู้บริโภคเองก็สามารถป้องกันได้ด้วยการเลือกซื้อและเก็บรักษาอาหารอย่างถูกวิธี ดังนั้นแม้การปนเปื้อนมีจริง แต่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ไม่ควรตกใจหรือแชร์ข้อมูลที่สร้างความกลัวเกินจริง

ภาพแผ่นกระดาษที่มีข้อเขียนด้วยลายมือและลงชื่อนายอนุทินนี้เป็นภาพเก่าที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กแชร์กันอย่างกว้างขวางช่วงปลายเดือนกันยายน 62 ซึ่งขณะนั้นนายอนุทินดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้จัดการออนไลน์รายงานเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 62 ว่า นายอนุทินโพสต์ภาพนี้ในเฟซบุ๊ก Anutin Charnvirakul ในเชิงขำขัน ต่อมามีผู้แชร์ภาพนี้ไปเป็นจำนวนมากและยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นเมื่อมีผู้พยายามแกะลายมือของนายอนุทินออกมาได้ใจความ ในวันเดียวกัน นายอนุทินตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับภายลายมือดังกล่าว โดยยอมรับว่าเขาเป็นผู้เขียนจริง แต่เป็นการ "เขียนมั่ว ๆ" เพื่อลองปากกาที่เพิ่งเปลี่ยนหมึกมาใหม่ พร้อมกับกล่าวชมคนที่พยายามแกะลายมือของเขาออกมาได้อย่างถูกต้อง "ผมเขียนเสร็จยังอ่าน (ลายมือตัวเอง) ไม่ออกเลย" นายอนุทินกล่าว โคแฟคตรวจสอบเฟซบุ๊ก Anutin Charnvirakul เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 68 ไม่พบภาพลายมือหวัดดังกล่าวแล้ว แต่มีภาพข้อความอวยพรปีใหม่ 2566 ที่นายอนุทินเขียนถึงข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขด้วยลายมือ พบว่าเขียนด้วยตัวบรรจงที่อ่านง่าย

งานวิจัยในลักษณะนี้มีจริง สารก่อมะเร็งนี้มีจริง จำนวนผู้เสียชีวิตไม่ปรากฏแน่ชัด แต่ไม่ถึงแสนต่อปี

เบต้ากลูแคนมิใช่ยา จึงไม่มีฤทธิ์ในการบำบัด บรรเทา หรือรักษาโรคใด ๆ

เป็นข่าวปลอม

-

-

-

-

ยกฟ้องไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ คดีนั้น

เนื้อหา … ของข้อความนี้มีทฤษฎีสมคบคิดที่ไม่สามารถยืนยันได้

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 กันยายน 2568 มีความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนถึงวันพิพากษาคดีชั้น 14 ในวันที่ 9 กันยายน โดยผู้สื่อข่าวยืนยันว่า นายทักษิณพร้อมครอบครัวเดินทางออกจากประเทศไทยแล้ว ด้วยเครื่องบินส่วนตัว Bombardier Global 7500 ออกจากสนามบินดอนเมืองเวลา 19.17 น. และมีภาพรถยนต์ของนายทักษิณออกจากอาคารผู้โดยสารเอ็มเจ็ตทันทีเวลา 19.20 น. จุดหมายปลายทางคาดว่าเป็นประเทศสิงคโปร์ โดยข้อมูลผู้โดยสารระบุมีผู้โดยสาร 5 คนและลูกเรือ 3 คน หนึ่งในนั้นคาดว่าเป็นนายทักษิณ ขณะเดียวกันบรรยากาศที่อาคารเอ็มเจ็ตพบรถหรูหลายคัน หนึ่งในนั้นคือรถตู้ของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีคมนาคม ซึ่งขับออกจากพื้นที่เวลา 18.35 น. ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ ยืนยันกับสื่อว่า นายทักษิณสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้แล้ว 100% หลังศาลยกฟ้องคดีมาตรา 112 อย่างไรก็ตาม นายทักษิณย้ำว่าจะกลับมาฟังคำพิพากษาคดีชั้น 14 ในวันที่ 9 กันยายน พร้อมกับบุตรสาว น.ส.แพทองธาร และน.ส.พิณทองทา ที่ยื่นคำขอเข้าร่วมฟังการตัดสินด้วย

ไอซ์แลนด์ถือเป็นประเทศเดียวในโลกที่ “ไม่มียุง” แม้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างนอร์เวย์ สกอตแลนด์ และกรีนแลนด์จะมียุงหลายสายพันธุ์ แต่สภาพอากาศที่โหดร้ายของไอซ์แลนด์ทำให้ยุงไม่สามารถแพร่พันธุ์ได้ วัฏจักรการแข็งตัวและละลายของน้ำที่เกิดซ้ำในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิ ทำลายไข่และตัวอ่อนก่อนกลายเป็นยุงเต็มวัย อีกทั้งบ่อน้ำพุร้อนในประเทศก็มีอุณหภูมิและองค์ประกอบทางเคมีที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต แม้ว่ายุงบางตัวอาจโดยสารมากับเครื่องบินมาถึงไอซ์แลนด์ได้ แต่ก็ไม่สามารถตั้งรกรากได้ถาวร อย่างไรก็ตาม ภาวะโลกร้อนกำลังทำให้ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงอบอุ่นขึ้น อาจก่อให้เกิดน้ำนิ่งที่ไม่แข็งตัวนานพอสำหรับยุงจะอยู่รอดและสืบพันธุ์ได้ นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าสถานะปลอดยุงของไอซ์แลนด์อาจไม่ยั่งยืนในอนาคต ถึงอย่างนั้น ความเสี่ยงจากยุงพาหะนำโรคเขตร้อน เช่น ยุงลาย ซึ่งแพร่ไข้เลือดออกหรือชิคุนกุนยา ยังคงต่ำมาก เพราะสภาพอากาศยุโรปตอนเหนือไม่เหมาะสมต่อการแพร่เชื้อ แม้ในปี 2080 ก็ตาม.

วันที่ 4 ก.ย. 2568 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางออกนอกประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว Bombardier Global 7500 จากสนามบินดอนเมือง หลังผ่านการตรวจสอบเอกสารและพาสปอร์ตที่ถูกปลดล็อกแล้ว โดยในตอนแรกมีรายงานว่าจะเดินทางไปสิงคโปร์พร้อมครอบครัว เครื่องออกจากดอนเมืองเวลา 19.17 น. และใช้เส้นทางลัดขึ้นสู่อ่าวไทยเนื่องจากสภาพอากาศ ก่อนเข้าสู่น่านฟ้ามาเลเซีย บินที่ความสูง 40,000 ฟุต ซึ่งเป็นระดับความสูงสำหรับเส้นทางตะวันตก สร้างข้อสงสัยว่าปลายทางอาจไม่ใช่สิงคโปร์ ต่อมาเครื่องบินเพิ่มระดับไปที่ 43,000 ฟุต บินวน 2 รอบ ก่อนเข้าสู่น่านฟ้าอินเดีย ปากีสถาน โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมเวลาบิน 7.21 ชั่วโมง ซึ่งนานกว่าปกติเที่ยวบินกรุงเทพ–ดูไบที่ใช้เวลาราว 6 ชั่วโมง ในที่สุด เครื่องลงจอดที่ดูไบแทนสิงคโปร์ โดยนายทักษิณโพสต์ผ่าน X ยืนยันว่าไม่สามารถลงที่สิงคโปร์ได้ จึงเปลี่ยนแผนปลายทาง.

คลิปไวรัล “จิงโจ้ขึ้นเครื่องบิน” ที่หลายคนแชร์กันจริงๆ แล้วเป็นคลิปปลอม สร้างจาก AI โดยศิลปินดิจิทัลชื่อ Infinite Unreality ซึ่งมักผลิตคลิปแนวสมจริง แต่ไม่ใช่เหตุการณ์จริง หากสังเกตดีๆ จะพบจุดผิดปกติหลายอย่าง เช่น มุมคลิปมีโลโก้รูปอินฟินิตี้ ♾️ เป็นสัญลักษณ์ของผู้สร้างคลิป เสียงโต้เถียงของผู้โดยสารกับเจ้าหน้าที่ก็ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ทั้งที่ควรเป็นภาษาอังกฤษหากถ่ายในออสเตรเลีย นอกจากนี้ จิงโจ้ยังไม่สามารถถือบอร์ดดิ้งพาสได้จริง และไม่สามารถนำออกนอกออสเตรเลียโดยไม่อยู่ในกรงตามกฎหมาย อีกทั้งตัวอักษรบนเสื้อกั๊กของมันอ่านไม่ออก ไม่ใช่ภาษาสากลอย่างที่ควรเป็น และที่สำคัญจิงโจ้ไม่ได้เดิน 2 ขาตามปกติแบบในคลิป แต่จะเคลื่อนไหวโดยการกระโดด ดังนั้นคลิปนี้แม้จะดูสมจริงและชวนขำ แต่ก็สะท้อนให้เห็นความก้าวหน้าของ AI ที่สามารถสร้างสื่อเนียนจนหลอกตาได้ง่าย และน่ากังวลในแง่การเผยแพร่ข้อมูลปลอมในอนาคต.

วันที่ 5 กันยายน 2565 สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยพายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ที่พัดขึ้นฝั่งบริเวณเมืองสุกุโมะ จังหวัดโคจิ เกาะชิโกกุ เมื่อคืนที่ผ่านมา อิทธิพลพายุทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นสถิติใหม่ เสี่ยงน้ำท่วม ดินถล่ม และคลื่นลมแรงทั่วชายฝั่งแปซิฟิก สำนักข่าว NHK รายงานว่า พายุซึ่งก่อตัวใกล้เกาะอามามิโอชิมะเมื่อ 4 ก.ย. ได้ถล่มคิวชูและชิโกกุ เกิดน้ำท่วมขังและดินถล่มหลายพื้นที่ หมู่บ้านชิโมกิตายามะ จ.นารา มีฝนสะสม 80 มม.ใน 1 ชั่วโมง ส่วนเมืองคุมาโนะ จ.มิเอะ วัดได้ 63 มม. ขณะที่เมืองสึโนะ จ.มิยาซากิ วัดปริมาณฝนในรอบ 24 ชั่วโมงถึง 465.5 มม. ทำลายสถิติสูงสุด ศูนย์อุตุนิยมฯ คาดว่าพายุจะเคลื่อนตัวเลียบชายฝั่งแปซิฟิก ทำให้หลายภูมิภาคยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยคาดการณ์ฝนสะสม 24 ชั่วโมงจนถึงคืนวันที่ 5 ก.ย. ภูมิภาคโทไกสูงสุด 250 มม. คินกิและคันโต-โคชินสูงสุด 200 มม. ชิโกกุสูงสุด 180 มม. และโทโฮกุสูงสุด 150 มม. เจ้าหน้าที่เตือนประชาชนเฝ้าระวังดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน ฟ้าผ่า ลมแรง คลื่นสูง และทอร์นาโด.

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 กันยายน 2568 มีความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนถึงวันพิพากษาคดีชั้น 14 ในวันที่ 9 กันยายน โดยผู้สื่อข่าวยืนยันว่า นายทักษิณพร้อมครอบครัวเดินทางออกจากประเทศไทยแล้ว ด้วยเครื่องบินส่วนตัว Bombardier Global 7500 ออกจากสนามบินดอนเมืองเวลา 19.17 น. และมีภาพรถยนต์ของนายทักษิณออกจากอาคารผู้โดยสารเอ็มเจ็ตทันทีเวลา 19.20 น. จุดหมายปลายทางคาดว่าเป็นประเทศสิงคโปร์ โดยข้อมูลผู้โดยสารระบุมีผู้โดยสาร 5 คนและลูกเรือ 3 คน หนึ่งในนั้นคาดว่าเป็นนายทักษิณ ขณะเดียวกันบรรยากาศที่อาคารเอ็มเจ็ตพบรถหรูหลายคัน หนึ่งในนั้นคือรถตู้ของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีคมนาคม ซึ่งขับออกจากพื้นที่เวลา 18.35 น. ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ ยืนยันกับสื่อว่า นายทักษิณสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้แล้ว 100% หลังศาลยกฟ้องคดีมาตรา 112 อย่างไรก็ตาม นายทักษิณย้ำว่าจะกลับมาฟังคำพิพากษาคดีชั้น 14 ในวันที่ 9 กันยายน พร้อมกับบุตรสาว น.ส.แพทองธาร และน.ส.พิณทองทา ที่ยื่นคำขอเข้าร่วมฟังการตัดสินด้วย.

สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 5 กันยายน 2568 ศบ.ทก. รายงานภาพรวม 11 จุดใน 7 จังหวัดปกติ กองทัพยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง กรณีชาวกัมพูชาประท้วงใกล้หลักเขตแดนที่ 46 เพราะไม่พอใจที่ถูกขอให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำกว่า 170 หลังคาเรือน ขณะนี้ได้รับการควบคุมและคลี่คลายแล้ว โดยมีการประสานกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อป้องกันเหตุยั่วยุ เมื่อวันที่ 4 กันยายน คณะ ICRC ได้เข้าเยี่ยมเชลยศึกกัมพูชา 18 นาย ที่ถูกควบคุมตัวในกองทัพภาคที่ 2 ทุกนายมีสุขภาพแข็งแรง การดำเนินการนี้สะท้อนการยึดมั่นของไทยต่อหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ขณะที่วันนี้ กองบัญชาการกองทัพไทยจัดพิธีสดุดีวีรชนทหารกล้า 15 นาย ที่เสียชีวิตเพื่อปกป้องอธิปไตย และร่วมไว้อาลัยประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะชายแดนเมื่อ 24 กรกฎาคม 2568 โดยมีการวางพวงมาลา พิธีบำเพ็ญกุศล และสวดมนต์เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ล่วงลับ.

ข่าวที่เผยแพร่ว่า “ทักษิณ ชินวัตร โดนจับอีกแล้ว” จากเพจ Facebook และเว็บไซต์ timronews จัดเป็นข่าวที่ ไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจาก 1. พาดหัวข่าวชวนเชื่อ/ชี้นำ โดยมีการใช้คำว่า “เฮทั้งประเทศ” และ “โดนจับอีกแล้ว” เพื่อเร้าอารมณ์ผู้อ่าน 2. ภาพประกอบเป็นภาพตัดต่อ ไม่ใช่ภาพจริงจากสื่อที่มีความน่าเชื่อถือ 3. เนื้อหาข่าวมีน้อยมาก ไม่ให้รายละเอียดเชิงลึก ไม่มีการอ้างอิงแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ 4. ไม่พบการยืนยันจากสื่อหลักหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันมีเพียงการรายงานว่านัดฟังคำสั่งศาล ยังไม่มีการจับกุมจริง

เนื้อหา … ของข้อความนี้มีความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ยังไม่มีแหล่งที่มาที่ชัดเจน

กรุงเทพมหานครเดินหน้าจัดบริการหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ในเดือนกันยายน 2568 เปิดให้บริการระหว่างวันที่ 2 – 30 กันยายน ทีมสัตวแพทย์จะออกไปตามพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้บริการแก่ประชาชนที่เลี้ยงสุนัขและแมว บริการที่ครอบคลุม ได้แก่ การทำหมัน ฉีดวัคซีนป้องกันโรค และฝังไมโครชิปสำหรับสุนัข กทม. จัดโครงการนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยลดปัญหาสัตว์จร เพิ่มความรับผิดชอบของเจ้าของสัตว์เลี้ยง และเสริมสร้างสุขอนามัยในชุมชน นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน และสร้างความสะดวกให้ผู้เลี้ยงที่ไม่สามารถนำสัตว์ไปโรงพยาบาลสัตว์ได้ง่าย สรุปแล้วเป็น ข่าวจริง ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและชุมชนโดยรวม

เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2568 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กเผยแพร่คลิปน้ำท่วม พร้อมข้อความอ้างว่ากัมพูชากำลังขอความช่วยเหลือจากไทย คลิปดังกล่าวถูกแชร์และคอมเมนต์จำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เต็มไปด้วยความรู้สึกด้านลบและไม่ต้องการให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบพบว่าคลิปนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ในกัมพูชา แต่เป็นน้ำท่วมที่วัดคูหาสุวรรณ จ.สุโขทัย ของไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา มีทั้งเพจวัดและสื่อไทยยืนยันตรงกันว่าคือเหตุการณ์เดียวกัน คลิปถูกนำมาบิดเบือนและใส่คำบรรยายปลอมทั้งภาษาไทยและภาษาเขมร สรุปคือเป็น ข่าวเท็จที่สร้างขึ้นเพื่อปลุกกระแสความเกลียดชังระหว่างคนไทยกับกัมพูชา