รายการความเห็น


12568 ความเห็น

✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
Maymabell
หากดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินกว่าร่างกายจะสามารถรับได้ จะทำให้เกิดอาการมึนเมาจากแอลกอฮอล์และยังส่งผลให้เกิดอาการเมาค้างได้หากร่างกายขาดน้ำ โดยอาการเมาค้างนั้นจะมีอาการโดยทั่วไปคือ ปวดหัว เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย กระหายน้ำ ปากแห้ง ปวดท้อง ท้องอืด รับประทานอาหารไม่ได้ นอนไม่หลับ มือสั่น ใจสั่น เหงื่อออกเยอะกว่าปกติ หงุดหงิดง่าย และอาจจะส่งผลให้เกิดอาการซึมเศร้า โดยส่วนใหญ่อาการเมาค้างนั้นจะสามารถหายได้เองแม้จะต้องใช้เวลาสักพักเพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองแต่ก็มีวิธีแก้อาการเมาค้างอย่างหนึ่งที่เราได้ยินกันมาอย่างยาวนานนั้นก็คือ การดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปเพิ่มนิดหน่อยหากมีอาการเมาค้างจะช่วยให้หายเมาค้างได้หรือที่เรียกกันว่าการถอน ซึ่งวิธีการดังกล่าวก็ได้มีทั้งคนที่เชื่อว่าการกระทำอย่างนั้นจะสามารถแก้อาการเมาค้างได้จริง และคนที่ไม่เชื่อเพราะคิดว่ามันไม่น่าจะสามารถแก้อาการเมาค้างได้ โดยในวันนี้เราจะมาแก้ข้อสงสัยที่ว่า การดื่มแอลกอฮอล์นั้นจะช่วยแก้เมาค้างได้จริงหรือไม่ โดยเราได้สอบถามข้อมูลกับผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ปรึกษาเพื่อการเลิกสุราและการเสพติด Alcohol and Drugs Helpline Centre และได้ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ว่า “ไม่เป็นจริงค่ะ เพราะการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้คุณปวดปัสสาวะมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะนำไปสู่ภาวะขาดน้ำ เเละนั่นยิ่งเป็นสาเหตุของอาการเมาค้างได้”นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญก็ได้แนะนำวิธีแก้อาการเมาค้างที่ถูกต้องคือ พยายามทำให้ห้ร่างกายไม่ขาดน้ำ ซึ่งสามารถดื่มน้ำทดเเทนก่อนนอนหลังจากที่ดื่มเเอลกอฮอล์เสร็จ เเละยังมีวิธีต่างๆที่ใช้แก้อาการเมาค้าง เช่น -ยาแก้ปวด ช่วยเรื่องปวดหัวและปวดกล้ามเนื้อ -หากมีอาการ มือสั่น ตัวสั่น ให้ทานอาหารที่มีน้ำตาลเพราะจะช่วยให้รู้สึกตัวสั่นน้อยลง -ทานซุปจากผักหรือเนื้อสัตว์ เพราะเป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุ จะช่วยเพิ่มพลังงานได้ เเถมยังย่อยง่ายอีกด้วย -การดื่มของเหลวจืดๆ เช่น น้ำ โซดา หรือเครื่องดื่มเกลือเเร่ จะสามารถทดแทนภาวะขาดน้ำได้ ดังนั้น คำตอบสำหรับข้อสงสัยที่ว่าการดื่มแอลกอฮอล์นั้นจะช่วยแก้เมาค้างได้หรือไม่นั้นไม่เป็นความจริงและไม่สามารถแก้อาการเมาค้างได้ นายนรวัฒน์ ยอดวงค์พะเนา สาขาการสื่อสารองค์กร ภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และ Cofact ภาคตะวันออก เป็นผู้จัดทำ #CCBUUXCofact #เปิดโลกความจริงสู่สังคม
ใช้ใน 0 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
Thanathun.
การรักษาความปลอดภัยด้านไซเบอร์ เพื่อปกป้องการใช้งานของลูกค้า โดยเปิดสายด่วน 1185 ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน หรือ AIS Spam Report Center ครั้งแรกในวงการธุรกิจโทรคมนาคม เพื่อให้ลูกค้าแจ้งข้อมูลเบอร์โทร และ SMS มิจฉาชีพ ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมดำเนินการตรวจสอบข้อมูลภายใน 72 ชั่วโมง
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
Thanathun.
พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และข้อกำหนด ไม่ได้ให้สิทธิ์ผู้ใดในการแอบดู แอบดัก แอบเก็บ เอาข้อมูลการโทร. การส่งข้อความ หรือการโพสต์ ของประชาชนไปโดยไม่ทำตามขั้นตอน และหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่มีอยู่
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
Thanathun.
ภัยไซเบอร์ หากพูดถึงในช่วงปัจจุบัน จะมีหลายครั้งที่ได้ยินเรื่องข่าวการโจมตีต่าง ๆ ทั้งสถาบันการเงิน, ภาคธุรกิจ และแม้แต่หน่วยงานรัฐเป็นจำนวนมากและบ่อยครั้ง แต่ในความเป็นจริงแล้วภัยไซเบอร์นั้นอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด เพราะเพียงแค่มีสมาร์ทโฟนก็สามารถเกิดขึ้นกับเราได้เช่นกัน
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
Thanathun.
ผลิตภัณฑ์สเปรย์พ่นคอพ่นจมูกป้องกันไวรัสที่มีการโฆษณาและจำหน่ายที่จุฬาเภสัช (บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด) นั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
Thanathun.
พสต์ในเพจเฟซบุ๊ก "World Health Organization Thailand" แนะนำแนวทางในการป้องกันคนในครอบครัวติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะกลุ่มคนผู้สูงอายุ ระบุว่า.. ฉลองสงกรานต์อย่างปลอดภัย เพื่อปกป้องตัวคุณเองและครอบครัวของคุณจาก โควิด-19 มีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้ - พาผู้สูงอายุไปฉีดวัคซีนหรือ ฉีดเข็มกระตุ้นก่อนสงกรานต์ - คุยกันผ่านวิดิโอคอล เพื่อหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม - สำหรับครอบครัวใหญ่ จัดเวลาไปเจอญาติผู้ใหญ่ไม่ตรงกัน - ตรวจ ATK ก่อนไปเยี่ยมญาติ - ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา - เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร - เช็กจุดสัมผัสต่างๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค - เปิดหน้าต่างเพื่อให้บ้านระบายอากาศได้ดี
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
Thanathun.
มูลธิอิสรชน #ถุงปันสุข ออกตระเวนแบ่งปันตามจุดต่างๆ พร้อมทั้งเก็บข้อมูล พูดคุย เยียวยาเบื้องต้น ช่วยประคับประคองไปก่อนเพื่อให้กลุ่มคนเหล่านั้นมีแรกสู้ต่อไป มูลนิธิอิสรชน จึงอยากเชิญชวนทุกๆท่าน ลองติดถุงปันสุข บรรจุอาหารแห้ง ของใช้จำเป็น ติดรถ หรือ ติดตัวไว้ แล้วแบ่งปันให้กับกลุ่มคนเปราะบาง คนลำบาก คนเร่ร่อน คนตกงาน ให้เขาได้มีแรง มีกำลังใจในการสู้ฝ่าฟันวิกฤตครั้งนี้
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
Thanathun.
แตงกวา แตงโม ที่อาจจะมีกรดอะมิโนบางชนิดที่ไปส่งเสริมเรื่องฮอร์โมนเพศชายได้แต่ด้วยหลักฐานในปัจจุบันยังไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งไม่สามารถสรุปได้ว่าจะไปช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศชายแต่อาจจะไปช่วยในเรื่องของอวัยวะเพศแข็งตัวได้จริง เพราะฉะนั้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นความจริงแต่ก็ไม่ปฏิเสธด้วยว่าไม่เป็นความจริงเหมือนกัน ในส่วนของเรื่องอาหารประเภทแตงจะไปล้างฮอร์โมนเพศหญิงนั้น สรุปได้อย่างคร่าว ๆ ว่าไม่เป็นความจริงในขณะนี้เพราะปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยใดที่บอกว่าอาหารประเภทแตงมีสารที่จะไปล้างฮอร์โมนเพศหญิง สรุปได้ว่าไม่ใช่เรื่องจริงที่ควรจะนำไปปฏิบัติ”
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
Thanathun.
ยังไม่มีความสัมพันธ์ที่เห็นได้ชัดเจน ระหว่างผู้หญิงท้อง กินพาราเซตามอลกับเงื่อนไขในการวินิจฉัยโรคสมาธิสั้น (ADHD) หรืออาการออทิสติกในเด็กทุกคน และยังไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับพัฒนาการหรือสติปัญญา ที่สำคัญกว่านั้น งานวิจัยยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า การใช้ยาพาราเซตามอลขณะตั้งครรภ์นั้น ส่งผลให้เกิดอาการเหล่านี้ สาเหตุของโรคทั้งสองนั้น ยังคงไม่สามารถอธิบายได้ และอาจรวมไปถึงการถ่ายทอดทางพันธุกรรมหลายอย่าง ภาวะสุขภาพ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
Thanathun.
"กบ" หรือสัตว์อื่นๆ ไปตบปากเด็ก เพื่อให้พูดจะไม่ช่วยเรื่องพัฒนาการการพูดของเด็กแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางอารมณ์และความรู้สึกของเด็ก ทำใฟ้เด็กเกิดความกลัว หรือเป็นการจำฝังใจจากความกลัวในวัยเด็กได้ ขณะเดียวกันอาจได้รับเชื้อโรคจากสัตว์ที่นำมาใช้ ทางปากและทางเดินหายใจอีกด้วย การนำเด็กไปพบแพทย์พัฒนาการเด็ก และพบนักแก้ไขการพูด ยิ่งจะช่วยให้คุณพ่อ คุณแม่มีแนวทางในการช่วยสอนลูกน้องให้พูดได้เร็วเขึ้นตามวัยและพัฒนาการของลูก
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน
Thanathun.
สำหรับเรื่องผิวขาวนั้น ข้อเท็จจริงคือ ในร่างกายมนุษย์ คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบหลักในเนื้อเยื่อ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้แก่ผิวหนัง ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสร้างเม็ดสีผิว การรับประทานคอลลาเจนจึงไม่มีส่วนช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้ แต่อาจมีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นและยึดหยุ่นของผิวหนังได้ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มอาสาสมัครที่รับประทานคอลลาเจนมีความชุ่มชื่นของผิวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 28 และผิวมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น ร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม (กลุ่มที่ไม่ได้รับประทานคอลลาเจน) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นอกจากนั้นริ้วรอยขนาดเล็กยังมีจำนวนน้อยลงในกลุ่มที่รับประทานคอลลาเจน
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
Thanathun.
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่อง ห้ามนำภาชนะที่ทำด้วยโฟมและบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single – use plastics) เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการสงวน อนุรักษ์ คุ้มครองดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อปะการัง ระบบนิเวศและเป็นการควบคุมลดปริมาณขยะในอุทยานแห่งชาติ
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
น้อง
อาการเจ็บหูปวดหู จากการนำเส้นผมมาปั่นและแคะหูไว้ดังนี้ "คิดว่าน่าจะเป็นจากปัจจัยอื่นมากกว่า เพราะ จริงๆเส้นผมค่อนข้างอ่อนนุ่มไม่แข็ง ไม่ทำให้มีรอยแผลหรืออะไรก็ตามข้างในหูแต่บางคนที่ใช้คอตตอนบัด อันนี้จะอันตรายกว่าเส้นผมชะด้วยซ้ำ ถ้ามีอาการเจ็บหูและเป็นตลอดทั้งวัน แนะนำให้ไปหาคุณหมอเพื่อตรวจเช็คภายใน ช่องหูเพื่อหาสาเหตุว่ามันคืออะไร
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน
น้อง
การเลือกทานอาหารสามารถเลือกเพศของลูกได้เป็นความจริง แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย ถ้าเกิดต้องการเลือกเพศของลูกจริงสามารถใช้วิธีการทำเด็กหลอดแก้วได้ ซึ่งจะเห็นผลได้ดีกว่าการเลือกรับประทานอาหาร
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
น้อง
จริงค่ะตัวสารโบท็อกซ์จะทำการออกฤทธิ์ ฉะนั้นตัวแอนติเจนที่หุ้มสารโบท็อกซ์มาแต่ละยี่ห้อจะไม่เหมือนกัน ถ้าเรารับหลายยี่ห้อ เช่น เดือนนี้ฉีดยี่ห้อนี้ อีกสี่เดือนฉีดอีกยี่ห้อ แล้วเราก็ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ โดยที่เราไม่รู้เลยว่าร่างกายของเรารับแอนติเจนหลายชนิดเกินไป ร่างกายต้องสร้างแอนติบอดีขึ้นมาหลาย ๆ ครั้ง เพื่อกำจัดแอนติเจนออกไป อาจทำให้โบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไปทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรืออาจจะถูกทำลายด้วยเลยก็ได้ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนคือ ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะการดื้อยากับตนเอง ซึ่งทำได้ง่ายๆ คือเลือกฉีดโบท็อกซ์กับสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน, ใช้โบท็อกซ์ยี่ห้อที่มีคุณภาพ, มีแพทย์ที่มีประสบการณ์, มีความรู้-ความชำนาญเป็นผู้ดูแลและเลือกใช้ปริมาณโบท็อกซ์ที่เหมาะสมและไม่ถี่จนเกินไป เพื่อลดริ้วรอยให้ทุกคนดูอ่อนเยาว์ สวย หล่อกว่าวัยไปตลอด
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
น้อง
การเทคฮอร์โมนของสาวข้ามเพศนั้นจะมียา 2 ตัวคือเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงและกดฮอร์โมน เพศชาย การกินสารที่กดฮอร์โมนเพศชายนั้นสามารถช่วยลดฮอร์โมนเพศชายได้อยู่แล้ว ดังนั้นสาวข้ามเพศ สามารถกินอะไรก็ได้ไม่ต้องกังวล เพราะฉะนั้นสิ่งที่อยากให้สนใจไม่ใช่เรื่องของอาหารแต่เป็นเรื่องของการเข้า มารับการให้คำปรึกษาหรือช่วยดูแลที่ถูกต้อง ถึงจะพอเห็นผลในการข้ามเพศนะคะ
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
น้อง
ยาพาราเซตามอล เป็นยาที่ปลอดภัยไม่ได้ส่งผลให้ทารกในครรภ์เป็นออทิสติก ไม่ว่าจะเป็นในระยะของการตั้งครรภ์ หรือหลังคลอดลูกสามารถรับประทานได้
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
น้อง
ไม่เป็นความจริงเลย แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อที่จะประเมินพัฒนาการและตรวจรักษาเพื่อส่งต่อให้นักฝึกพูดได้ประเมินวางแผนในเรื่องของการฝึกต่อไปในอนาคตถ้าเด็กได้รับการแก้ไขเด็กก็จะกลับมาพูดได้แบบปกติจะดีกว่า
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน
น้อง
การรับประทานคอลลาเจน ไม่ได้ช่วยให้ผิวขาว แต่จะช่วยทำให้ผิวเปล่งปลั่งไม่เหี่ยวย่น การปรับคุณภาพผิวให้ดีขึ้น ขึ้นอยู่กับ องค์ประกอบและสภาพแวดล้อมหลายอย่าง
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน
เอเลี่ยน
การรับประทานคอลลาเจน ไม่ได้ช่วยให้ผิวขาว แต่จะช่วยทำให้ผิวเปล่งปลั่งไม่เหี่ยวย้นได้ การปรับคุณภาพผิวให้ดีขึ้น ขึ้นอยู่กับ องค์ประกอบและสภาพแวดล้อมหลายอย่าง
ใช้ใน 0 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน
Ravinnipa Yaikaew
นพ.ศวัสพล คูณชัยพานิชย์ แพทย์ประจำศูนย์ Wellness Center ได้มีการให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “การดื่มน้ำเต้าหู้มีทั้งส่วนที่ดีและส่วนที่ต้องระวัง ซึ่งการดื่มน้ำเต้าหู้ทุกวันแล้วน่าใสขึ้นอาจจะถูกส่วนนึงเพราะในน้ำเต้าหู้มีโปรตีนจากถั่วเหลืองที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารที่เกี่ยวกับการป้องกันอนุมูลอิสระ เช่น สารไอโซฟลาโวนส์(Isoflavones) หลังจากบริโภคน้ำเต้าหู้ร่างกายจะเปลี่ยนสารเคมีชนิดนี้ให้เป็นสารไฟโตรเอสโตรเจน (Phytoestrogens) ที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกับเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่มีผลต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์และภาวะต่างๆที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเอสโตรเจนจึงเป็นผลดีต่อผู้หญิงถ้าหากได้รับในปริมาณที่เหมาะสมก็อาจจะช่วยเสริมสร้างในเรื่องของผิวพรรณได้ แต่ในส่วนที่อาจจะต้องระมัดระวังคือในเรื่องของกระบวนการผลิตน้ำเต้าหู้ ถ้าเกิดมีกระบวนการผลิตที่มาจากถั่วเหลืองก็ต้องระมัดระวังในเรื่องของการตัดต่อพันธุกรรมหรือการทำGMO ซึ่งอาจจะทำให้มีผลระยะยาวเกี่ยวกับการเสี่ยงในเรื่องของโรคมะเร็งหรืออีกหนึ่งปัจจัยคือในเรื่องของการปรุงแต่งรสการใส่น้ำตาลมากเกินไปซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน” ดังนั้นจากข้อสงสัยที่ว่า การดื่มน้ำเต้าหู้ทุกวันช่วยให้ผิวหน้าใสขึ้นจริงไหมนั้นเป็นความจริงแต่อาจะจะไม่ใช่ทั้งหมด ถ้าหากอยากให้ผิวหน้าใสขึ้นจะต้องทำควบคู่ไปกับการดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารที่มีโปรตีนหรืออาหารที่มีโอเมก้า3 เลือกกินผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงหรือผลไม้จำพวกเบอรี่ ล้างหน้าให้สะอาดไม่ถูหน้าแรงเกินไปเพราะอาจจะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้าได้
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
Ravinnipa Yaikaew
โดยทาง ว่าที่ร้อยตรีธนวัฒน์ ทองจีน นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ชำนาญการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในประเด็น “ข่าวลือเรื่องผีแม่ม่าย หรือโรคไหลตาย แท้ที่จริงแล้วตามหลักการทางการแพทย์คืออะไร” ดังนี้ โรคไหลตายคืออะไร โรคไหลตาย คือ โรคที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมของการนำเกลือแร่โซเดียมเข้าออกเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้เกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะขั้นรุนแรงและเสียชีวิตกะทันหันได้ สาเหตุการไหลตายในปัจจุบันที่ชัดเจน และแท้จริงคืออะไร ภาวะร่างกายขาดแร่ธาตุโพแทสเซียม ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง ส่งผลให้หัวใจเต้นแรงขึ้นและเสียชีวิตในที่สุด ปัจจัยที่เกี่ยวข้องของโรคมี 2 ประการด้วยกัน ได้แก่ การบริโภคอาหารที่มีสารพิษวันละเล็กละน้อย จนเกิดการสะสมและเป็นพิษต่อกล้ามเนื้อหัวใจ ปัจจัยต่อมาคือการขาดสารอาหารที่เป็นวิตามินบี 1 อย่างรุนแรงเฉียบพลัน ทำให้คนที่แข็งแรงอยู่ดี ๆ รู้สึกอ่อนเพลียและอยากนอน เมื่อหลับแล้วก็หัวใจวายตายเกือบจะทันที โดยโรคนี้สัมพันธ์ใกล้ชิดกับภาวะทุพโภชนาการ และสุขนิสัยการกินที่ผิด นอกจากนี้ในทางการแพทย์ในปัจจุบัน ระบุสาเหตุการไหลตาย เป็นเพราะโดยปกติหัวใจห้องบนขวาของคนเรามีเซลล์พิเศษที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้าเพื่อควบคุมให้หัวใจเต้นเป็นปกติ เมื่อเซลล์ดังกล่าวเกิดความบกพร่องจึงกระทบต่อการทำงานของกระแสไฟฟ้า ทำให้หัวใจเต้นเร็วผิดปกติหรือเต้นไม่เป็นจังหวะ และสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ไม่เพียงพอ ส่งผลให้หมดสติและอาจเสียชีวิตอย่างรวดเร็วหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ภาวะไหลตายพบได้ในคนทุกเพศทุกวัย ทว่าผู้ชายอายุ 25-55 ปี อาจเสี่ยงเกิดภาวะนี้มากกว่าคนกลุ่มอื่น สำหรับประเทศไทยพบผู้ป่วยไหลตายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด และรองลงมาคือภาคเหนือ นอกจากนี้ อุณหภูมิของร่างกายที่อยู่ในระดับสูง เช่น เมื่อมีไข้หรือดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก รวมถึงภาวะขาดน้ำ ก็อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดภาวะไหลตายได้ ทำไมโรคไหลตายถึงถูกเชื่อมโยงกับความเชื่อเรื่องของผีแม่ม่าย อาการไหลตายใช้เรียกการเสียชีวิตขณะหลับ โดยมักมีอาการหายใจไม่สะดวกอาจเกิดคล้ายการละเมอก่อนเสียชีวิต มักเกิดในผู้ชายภาคอีสานอายุระหว่าง 30-50 ปี ประชาชนจึงคิดวิธีรักษาตัวเองตามความเชื่อต่าง ๆ ว่ามาจากเรื่องของภูตผีปีศาจ เช่นการใส่ผ้าถุง การทาปากแดง ซึ่งที่ผ่านมาโรคดังกล่าวก็ไม่เป็นที่สนใจของประชาชนมากนัก จนกระทั่งมีการเสียชีวิตของชายไทยที่ไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์จำนวน 160 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชายที่มาจากภาคอีสาน และมีประวัติพันธุกรรม 18-40 % จึงเชื่อมโยงได้ว่ามีกรรมพันธุ์บางอย่างกำหนดอยู่ ทำไมโรคไหลตายถึงเกิดกับคนในชนบท - การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ คนในชนบทมักจะกลั่นเหล้าดื่มเอง ซึ่งมีส่วนผสมของเอทานอลและ เมทานอลในปริมาณสูง - การขาดสารอาหารประเภทโพแทสเซียม วิตามิน B1 แต่มักบริโภคอาหารที่เป็นพิษสะสมทีละเล็กละน้อย จนสะสมอยู่ในร่างกายมาก - การเป็นไข้สูง - การใช้ยานอนหลับ บุคคลที่มีความเสี่ยงจะเป็นโรคไหลตาย เป็นคนกลุ่มไหน ต้องมีการสังเกตตนเองอย่างไร บุคคลที่มีความเสี่ยงจะเป็นโรคไหลตาย มักเป็นกลุ่มคนที่นอนพักผ่อนน้อย ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ ขาดสารอาหารประเภทโพแทสเซียม และวิตามิน B1 อย่างรุนแรง และมีสุขนิสัยการกินที่ผิด สังเกตได้จาก คือ เกิดการเกร็งของแขนและขา หายใจเสียงดังจากการมีเสมหะในหลอดลม บางรายปัสสาวะและอุจจาระราด เพราะสูญเสียการควบคุมของระบบประสาทโดยอัตโนมัติ ผู้ป่วยจะมีใบหน้าและริมฝีปากเขียวคล้ำ จากนั้นจะเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการไหลตาย - การเป็นไข้สูง - การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ - การใช้ยานอนหลับ - ผู้ที่เสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ เช่น มีอาการท้องเสีย - การขาดสารอาหารประเภทโพแทสเซียม บทสรุปของเรื่องนี้ จึงสามารถสรุปได้ 2 รูปแบบ ทั้งในรูปแบบของความเชื่อเรื่องผีแม่ม่ายของชาวบ้านที่ต่างถูกปลูกฝังจนเหมือนกลายเป็นวัฒนธรรมประจำของพื้นที่นั้น ๆ ไปแล้ว เราจึงไม่สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงความเชื่อนั้นได้ ยกตัวอย่างจากกรณีที่พอเกิดเหตุการณ์เกี่ยวกับข่าวลื่อผีแม่ม่าย ชาวบ้านก็จะทำการอุปทานหมู่และมีการรับมือในรูปแบบเดียวกันที่ต่างพากันปฏิบัติตามความเชื่อที่ทำกันมาตลอด และในอีกรูปแบบหนึ่งถึงแม้ในหลักการทางการแพทย์จะออกมายืนยันถึงสาเหตุที่แท้จริงแล้ว แต่สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ในปัจจุบัน สิ่งที่สำคัญคือการดำเนินชีวิตด้วยทั้งหลักการทางความเชื่อและหลักการทางการแพทย์ไปพร้อม ๆ กัน เพื่อความปลอดภัยของชีวิตตนเอง เพราะผลสุดท้ายแล้วทั้งหลักการทางการแพทย์ที่มีหลักฐานเข้ามายืนยันและหลักการทางความเชื่อที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้าน เราไม่สามารถตัดสินได้เลยว่าอะไรคือหลักการที่ถูกต้องที่สุด
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน
Ravinnipa Yaikaew
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวโดยอ้างอิงตามประมวลกฎหมายอาญาของประเทศไทย ต้องเรียนตามตรงว่า ยังไม่ได้มีคำพิพากษาของศาลวินิจฉัยออกมาชัดเจนหรือวางบรรทัดฐาน อาจต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไปว่า การเผยแพร่นั้นมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายมีเจตนาในการดูหมิ่น ดูถูกเหยียดหยาม หรือสบประมาทให้อับอายหรือไม่ หากเข้าเงื่อนไขในองค์ประกอบก็ถือเป็นการดูหมิ่น ก็ต้องรับโทษทางกฎหมาย แต่หากมีการเผยแพร่ในโลกสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือสื่อที่เป็นสาธารณะการเผยแพร่ภาพศพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 366/4 ระบุว่า “ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามศพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือ ปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ดังนั้น การกระทำใด ๆ ที่เข้าข่ายดูหมิ่นศพ ต้องถือว่ามีความผิดทางอาญาที่จะต้องรับโทษ ทั้งนี้ ญาติผู้ตายสามารถฟ้องร้องได้ โดยอาศัย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 366/4 กฎหมายอาญาดังกล่าว หากการเผยแพร่ออกไปมีลักษณะเข้าข่ายการดูหมิ่นศพก็มีความผิดและต้องรับโทษ โดยสังคมปัจจุบันต้องยอมรับว่ากระแสสังคมออนไลน์สามารถเผยแพร่มีเดียได้อย่างรวดเร็ว การแสดงออกทางความคิดอย่างอิสระเสรีโดยไม่คิดพิจารณาอย่างละเอียด โดยเฉพาะเมื่อมีเรื่องประเด็นเกี่ยวกับความตายน้อยคนที่จะนึกถึงสภาพจิตใจของคนที่เป็นครอบครัว คนรัก หรือญาติของผู้เสียชีวิต เราควรที่จะเคารพและให้เกียรติ การโพสต์ เผยแพร่ภาพ วิดีโอ หรือข้อมูลของผู้เสียชีวิต โดยไม่ระมัดระวังจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมการสูญเสีย ตอกย้ำและสร้างความเสียใจให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต และการเผยแพร่ภาพคนตายก็ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคม เพราะฉะนั้น เราควรหยุดการเผยแพร่ภาพศพ เพื่อเป็นการให้เกียรติ เคารพผู้เสียชีวิตและครอบครัวของผู้สูญเสีย
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
Ravinnipa Yaikaew
พญ.นันทิดา สาลักษณ แพทย์เฉพาะทางผิวหนังและอาจารย์ด้านผิวหนัง วิทยาลัยนานาชาติมหาวิทยาลัยมหิดลได้ให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า“สำหรับคำถามที่ว่าน้ำซาวข้าวมีส่วนช่วยในการรักษาโรคผิวหนังได้จริงหรือไม่ ได้มีการสืบค้นร่วมกับคุณหมอทางด้านแผนไทยที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล พบว่าน้ำซาวข้าวได้มีการกล่าวถึงไว้ในคัมภีร์หลักของทางแผนไทยเกี่ยวกับการรักษาโรคผิวหนังแต่จะกล่าวถึงในส่วนของการรักษาฝีที่ผิวหนัง โดยน้ำซาวข้าวเชื่อว่ามีฤทธิ์เย็นสามารถที่จะช่วยบรรเทาโรคผิวหนังที่มีความร้อนได้แต่น้ำซาวข้าวใช้เป็นตัวทำละลายตัวยาที่มีการบดเป็นแท่งไว้แล้วซึ่งประกอบด้วยสมุนไพรมากกว่า10ชนิด ดังนั้นการใช้น้ำซาวข้าวจึงต้องมีการใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่น” นอกจากนี้พญ.นันทิดาได้มีการให้คำแนะนำสำหรับคนที่เป็นโรคผิวหนัง“สำหรับคนที่เป็นโรคผิวหนัง หมอแนะนำว่าควรจะรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เนื่องจากผื่นผิวหนังอาจเกิดได้จากสาเหตุหลากหลายชนิด เช่นการอักเสบ ภูมิแพ้ การติดเชื้อหรือแม้แต่เซลล์ที่ผิดปกติ ดังนั้นจึงไม่ควรพยายามรักษาด้วยตนเอง” ข้อมูลจาก พญ.นันทิดา สาลักษณ แพทย์เฉพาะทางผิวหนังและอาจารย์ด้านผิวหนัง วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
Ravinnipa Yaikaew
ทนพญ. ปภัสรา อุณอนันต์ นักเทคนิคการแพทย์ ได้ให้ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ว่า “ในความเป็นจริงแล้ว การรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด เป็นเพียงค่านิยมของกลุ่มคนรักสุขภาพ ซึ่งเชื่อกันว่ากรุ๊ปเลือดมีสารเคมีในการย่อยอาหารที่แตกต่างกัน จึงมีการจัดหมวดหมู่อาหารให้เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือด ถ้าในกรณีที่รับประทานอาหารไม่เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือด อาจทำให้ร่างกายย่อยอาหารได้ไม่ดีพอ ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืด มีแก๊สในกระเพาะอาหารได้” นอกจากนี้ ทนพญ. ปภัสรา ยังได้ชี้แจงให้ทราบเพิ่มเติมว่า การรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดจะส่งผลอะไรกับร่างกายบ้างทั้งข้อดีและข้อเสีย “ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากพอที่เชื่อถือได้มาสนับสนุนแนวคิดการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด ดังนั้น การรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดจึงไม่ได้มีส่วนสำคัญมากเท่าไหร่ แต่ถ้าหากสนใจการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด สามารถทำตามได้ ไม่ได้มีอันตรายอะไรกับสุขภาพ ยกเว้นอาหารบางอย่างไม่เหมาะสมกับผู้ที่มีอาการแพ้อาหารอยู่แล้ว ดังนั้นควรระมัดระวังในส่วนนี้ ในส่วนของน้ำหนัก ต้องดูจากปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อายุ เพศ โรคประจำตัว และการเลือกรับประทานอาหาร เป็นต้น แต่หากต้องการมีสุขภาพที่ดี น้ำหนักตรงตามมาตรฐาน BMI ควรเน้นการรับประทานอาหารที่มีกากใย ผักผลไม้ ลดของทอดมันในทุกกรุ๊ปเลือด ซึ่งการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อน้ำหนักตัว”
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว