รายการความเห็น


12566 ความเห็น

✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
Thanathun.
ผลิตภัณฑ์สเปรย์พ่นคอพ่นจมูกป้องกันไวรัสที่มีการโฆษณาและจำหน่ายที่จุฬาเภสัช (บริษัท จุฬา เอ็ม. ดี. จำกัด) นั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
Thanathun.
พสต์ในเพจเฟซบุ๊ก "World Health Organization Thailand" แนะนำแนวทางในการป้องกันคนในครอบครัวติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะกลุ่มคนผู้สูงอายุ ระบุว่า.. ฉลองสงกรานต์อย่างปลอดภัย เพื่อปกป้องตัวคุณเองและครอบครัวของคุณจาก โควิด-19 มีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้ - พาผู้สูงอายุไปฉีดวัคซีนหรือ ฉีดเข็มกระตุ้นก่อนสงกรานต์ - คุยกันผ่านวิดิโอคอล เพื่อหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม - สำหรับครอบครัวใหญ่ จัดเวลาไปเจอญาติผู้ใหญ่ไม่ตรงกัน - ตรวจ ATK ก่อนไปเยี่ยมญาติ - ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา - เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร - เช็กจุดสัมผัสต่างๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค - เปิดหน้าต่างเพื่อให้บ้านระบายอากาศได้ดี
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
Thanathun.
มูลธิอิสรชน #ถุงปันสุข ออกตระเวนแบ่งปันตามจุดต่างๆ พร้อมทั้งเก็บข้อมูล พูดคุย เยียวยาเบื้องต้น ช่วยประคับประคองไปก่อนเพื่อให้กลุ่มคนเหล่านั้นมีแรกสู้ต่อไป มูลนิธิอิสรชน จึงอยากเชิญชวนทุกๆท่าน ลองติดถุงปันสุข บรรจุอาหารแห้ง ของใช้จำเป็น ติดรถ หรือ ติดตัวไว้ แล้วแบ่งปันให้กับกลุ่มคนเปราะบาง คนลำบาก คนเร่ร่อน คนตกงาน ให้เขาได้มีแรง มีกำลังใจในการสู้ฝ่าฟันวิกฤตครั้งนี้
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
Thanathun.
แตงกวา แตงโม ที่อาจจะมีกรดอะมิโนบางชนิดที่ไปส่งเสริมเรื่องฮอร์โมนเพศชายได้แต่ด้วยหลักฐานในปัจจุบันยังไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งไม่สามารถสรุปได้ว่าจะไปช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศชายแต่อาจจะไปช่วยในเรื่องของอวัยวะเพศแข็งตัวได้จริง เพราะฉะนั้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นความจริงแต่ก็ไม่ปฏิเสธด้วยว่าไม่เป็นความจริงเหมือนกัน ในส่วนของเรื่องอาหารประเภทแตงจะไปล้างฮอร์โมนเพศหญิงนั้น สรุปได้อย่างคร่าว ๆ ว่าไม่เป็นความจริงในขณะนี้เพราะปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยใดที่บอกว่าอาหารประเภทแตงมีสารที่จะไปล้างฮอร์โมนเพศหญิง สรุปได้ว่าไม่ใช่เรื่องจริงที่ควรจะนำไปปฏิบัติ”
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
Thanathun.
ยังไม่มีความสัมพันธ์ที่เห็นได้ชัดเจน ระหว่างผู้หญิงท้อง กินพาราเซตามอลกับเงื่อนไขในการวินิจฉัยโรคสมาธิสั้น (ADHD) หรืออาการออทิสติกในเด็กทุกคน และยังไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับพัฒนาการหรือสติปัญญา ที่สำคัญกว่านั้น งานวิจัยยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า การใช้ยาพาราเซตามอลขณะตั้งครรภ์นั้น ส่งผลให้เกิดอาการเหล่านี้ สาเหตุของโรคทั้งสองนั้น ยังคงไม่สามารถอธิบายได้ และอาจรวมไปถึงการถ่ายทอดทางพันธุกรรมหลายอย่าง ภาวะสุขภาพ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
Thanathun.
"กบ" หรือสัตว์อื่นๆ ไปตบปากเด็ก เพื่อให้พูดจะไม่ช่วยเรื่องพัฒนาการการพูดของเด็กแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางอารมณ์และความรู้สึกของเด็ก ทำใฟ้เด็กเกิดความกลัว หรือเป็นการจำฝังใจจากความกลัวในวัยเด็กได้ ขณะเดียวกันอาจได้รับเชื้อโรคจากสัตว์ที่นำมาใช้ ทางปากและทางเดินหายใจอีกด้วย การนำเด็กไปพบแพทย์พัฒนาการเด็ก และพบนักแก้ไขการพูด ยิ่งจะช่วยให้คุณพ่อ คุณแม่มีแนวทางในการช่วยสอนลูกน้องให้พูดได้เร็วเขึ้นตามวัยและพัฒนาการของลูก
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน
Thanathun.
สำหรับเรื่องผิวขาวนั้น ข้อเท็จจริงคือ ในร่างกายมนุษย์ คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบหลักในเนื้อเยื่อ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้แก่ผิวหนัง ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสร้างเม็ดสีผิว การรับประทานคอลลาเจนจึงไม่มีส่วนช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้ แต่อาจมีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นและยึดหยุ่นของผิวหนังได้ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มอาสาสมัครที่รับประทานคอลลาเจนมีความชุ่มชื่นของผิวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 28 และผิวมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น ร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม (กลุ่มที่ไม่ได้รับประทานคอลลาเจน) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นอกจากนั้นริ้วรอยขนาดเล็กยังมีจำนวนน้อยลงในกลุ่มที่รับประทานคอลลาเจน
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
Thanathun.
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่อง ห้ามนำภาชนะที่ทำด้วยโฟมและบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single – use plastics) เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการสงวน อนุรักษ์ คุ้มครองดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อปะการัง ระบบนิเวศและเป็นการควบคุมลดปริมาณขยะในอุทยานแห่งชาติ
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
น้อง
อาการเจ็บหูปวดหู จากการนำเส้นผมมาปั่นและแคะหูไว้ดังนี้ "คิดว่าน่าจะเป็นจากปัจจัยอื่นมากกว่า เพราะ จริงๆเส้นผมค่อนข้างอ่อนนุ่มไม่แข็ง ไม่ทำให้มีรอยแผลหรืออะไรก็ตามข้างในหูแต่บางคนที่ใช้คอตตอนบัด อันนี้จะอันตรายกว่าเส้นผมชะด้วยซ้ำ ถ้ามีอาการเจ็บหูและเป็นตลอดทั้งวัน แนะนำให้ไปหาคุณหมอเพื่อตรวจเช็คภายใน ช่องหูเพื่อหาสาเหตุว่ามันคืออะไร
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน
น้อง
การเลือกทานอาหารสามารถเลือกเพศของลูกได้เป็นความจริง แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย ถ้าเกิดต้องการเลือกเพศของลูกจริงสามารถใช้วิธีการทำเด็กหลอดแก้วได้ ซึ่งจะเห็นผลได้ดีกว่าการเลือกรับประทานอาหาร
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
น้อง
จริงค่ะตัวสารโบท็อกซ์จะทำการออกฤทธิ์ ฉะนั้นตัวแอนติเจนที่หุ้มสารโบท็อกซ์มาแต่ละยี่ห้อจะไม่เหมือนกัน ถ้าเรารับหลายยี่ห้อ เช่น เดือนนี้ฉีดยี่ห้อนี้ อีกสี่เดือนฉีดอีกยี่ห้อ แล้วเราก็ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ โดยที่เราไม่รู้เลยว่าร่างกายของเรารับแอนติเจนหลายชนิดเกินไป ร่างกายต้องสร้างแอนติบอดีขึ้นมาหลาย ๆ ครั้ง เพื่อกำจัดแอนติเจนออกไป อาจทำให้โบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไปทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรืออาจจะถูกทำลายด้วยเลยก็ได้ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนคือ ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะการดื้อยากับตนเอง ซึ่งทำได้ง่ายๆ คือเลือกฉีดโบท็อกซ์กับสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน, ใช้โบท็อกซ์ยี่ห้อที่มีคุณภาพ, มีแพทย์ที่มีประสบการณ์, มีความรู้-ความชำนาญเป็นผู้ดูแลและเลือกใช้ปริมาณโบท็อกซ์ที่เหมาะสมและไม่ถี่จนเกินไป เพื่อลดริ้วรอยให้ทุกคนดูอ่อนเยาว์ สวย หล่อกว่าวัยไปตลอด
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
น้อง
การเทคฮอร์โมนของสาวข้ามเพศนั้นจะมียา 2 ตัวคือเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงและกดฮอร์โมน เพศชาย การกินสารที่กดฮอร์โมนเพศชายนั้นสามารถช่วยลดฮอร์โมนเพศชายได้อยู่แล้ว ดังนั้นสาวข้ามเพศ สามารถกินอะไรก็ได้ไม่ต้องกังวล เพราะฉะนั้นสิ่งที่อยากให้สนใจไม่ใช่เรื่องของอาหารแต่เป็นเรื่องของการเข้า มารับการให้คำปรึกษาหรือช่วยดูแลที่ถูกต้อง ถึงจะพอเห็นผลในการข้ามเพศนะคะ
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
น้อง
ยาพาราเซตามอล เป็นยาที่ปลอดภัยไม่ได้ส่งผลให้ทารกในครรภ์เป็นออทิสติก ไม่ว่าจะเป็นในระยะของการตั้งครรภ์ หรือหลังคลอดลูกสามารถรับประทานได้
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
น้อง
ไม่เป็นความจริงเลย แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อที่จะประเมินพัฒนาการและตรวจรักษาเพื่อส่งต่อให้นักฝึกพูดได้ประเมินวางแผนในเรื่องของการฝึกต่อไปในอนาคตถ้าเด็กได้รับการแก้ไขเด็กก็จะกลับมาพูดได้แบบปกติจะดีกว่า
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน
น้อง
การรับประทานคอลลาเจน ไม่ได้ช่วยให้ผิวขาว แต่จะช่วยทำให้ผิวเปล่งปลั่งไม่เหี่ยวย่น การปรับคุณภาพผิวให้ดีขึ้น ขึ้นอยู่กับ องค์ประกอบและสภาพแวดล้อมหลายอย่าง
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน
เอเลี่ยน
การรับประทานคอลลาเจน ไม่ได้ช่วยให้ผิวขาว แต่จะช่วยทำให้ผิวเปล่งปลั่งไม่เหี่ยวย้นได้ การปรับคุณภาพผิวให้ดีขึ้น ขึ้นอยู่กับ องค์ประกอบและสภาพแวดล้อมหลายอย่าง
ใช้ใน 0 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน
Ravinnipa Yaikaew
นพ.ศวัสพล คูณชัยพานิชย์ แพทย์ประจำศูนย์ Wellness Center ได้มีการให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “การดื่มน้ำเต้าหู้มีทั้งส่วนที่ดีและส่วนที่ต้องระวัง ซึ่งการดื่มน้ำเต้าหู้ทุกวันแล้วน่าใสขึ้นอาจจะถูกส่วนนึงเพราะในน้ำเต้าหู้มีโปรตีนจากถั่วเหลืองที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารที่เกี่ยวกับการป้องกันอนุมูลอิสระ เช่น สารไอโซฟลาโวนส์(Isoflavones) หลังจากบริโภคน้ำเต้าหู้ร่างกายจะเปลี่ยนสารเคมีชนิดนี้ให้เป็นสารไฟโตรเอสโตรเจน (Phytoestrogens) ที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกับเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่มีผลต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์และภาวะต่างๆที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเอสโตรเจนจึงเป็นผลดีต่อผู้หญิงถ้าหากได้รับในปริมาณที่เหมาะสมก็อาจจะช่วยเสริมสร้างในเรื่องของผิวพรรณได้ แต่ในส่วนที่อาจจะต้องระมัดระวังคือในเรื่องของกระบวนการผลิตน้ำเต้าหู้ ถ้าเกิดมีกระบวนการผลิตที่มาจากถั่วเหลืองก็ต้องระมัดระวังในเรื่องของการตัดต่อพันธุกรรมหรือการทำGMO ซึ่งอาจจะทำให้มีผลระยะยาวเกี่ยวกับการเสี่ยงในเรื่องของโรคมะเร็งหรืออีกหนึ่งปัจจัยคือในเรื่องของการปรุงแต่งรสการใส่น้ำตาลมากเกินไปซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน” ดังนั้นจากข้อสงสัยที่ว่า การดื่มน้ำเต้าหู้ทุกวันช่วยให้ผิวหน้าใสขึ้นจริงไหมนั้นเป็นความจริงแต่อาจะจะไม่ใช่ทั้งหมด ถ้าหากอยากให้ผิวหน้าใสขึ้นจะต้องทำควบคู่ไปกับการดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารที่มีโปรตีนหรืออาหารที่มีโอเมก้า3 เลือกกินผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงหรือผลไม้จำพวกเบอรี่ ล้างหน้าให้สะอาดไม่ถูหน้าแรงเกินไปเพราะอาจจะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้าได้
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
Ravinnipa Yaikaew
โดยทาง ว่าที่ร้อยตรีธนวัฒน์ ทองจีน นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ชำนาญการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในประเด็น “ข่าวลือเรื่องผีแม่ม่าย หรือโรคไหลตาย แท้ที่จริงแล้วตามหลักการทางการแพทย์คืออะไร” ดังนี้ โรคไหลตายคืออะไร โรคไหลตาย คือ โรคที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมของการนำเกลือแร่โซเดียมเข้าออกเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้เกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะขั้นรุนแรงและเสียชีวิตกะทันหันได้ สาเหตุการไหลตายในปัจจุบันที่ชัดเจน และแท้จริงคืออะไร ภาวะร่างกายขาดแร่ธาตุโพแทสเซียม ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง ส่งผลให้หัวใจเต้นแรงขึ้นและเสียชีวิตในที่สุด ปัจจัยที่เกี่ยวข้องของโรคมี 2 ประการด้วยกัน ได้แก่ การบริโภคอาหารที่มีสารพิษวันละเล็กละน้อย จนเกิดการสะสมและเป็นพิษต่อกล้ามเนื้อหัวใจ ปัจจัยต่อมาคือการขาดสารอาหารที่เป็นวิตามินบี 1 อย่างรุนแรงเฉียบพลัน ทำให้คนที่แข็งแรงอยู่ดี ๆ รู้สึกอ่อนเพลียและอยากนอน เมื่อหลับแล้วก็หัวใจวายตายเกือบจะทันที โดยโรคนี้สัมพันธ์ใกล้ชิดกับภาวะทุพโภชนาการ และสุขนิสัยการกินที่ผิด นอกจากนี้ในทางการแพทย์ในปัจจุบัน ระบุสาเหตุการไหลตาย เป็นเพราะโดยปกติหัวใจห้องบนขวาของคนเรามีเซลล์พิเศษที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้าเพื่อควบคุมให้หัวใจเต้นเป็นปกติ เมื่อเซลล์ดังกล่าวเกิดความบกพร่องจึงกระทบต่อการทำงานของกระแสไฟฟ้า ทำให้หัวใจเต้นเร็วผิดปกติหรือเต้นไม่เป็นจังหวะ และสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ไม่เพียงพอ ส่งผลให้หมดสติและอาจเสียชีวิตอย่างรวดเร็วหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ภาวะไหลตายพบได้ในคนทุกเพศทุกวัย ทว่าผู้ชายอายุ 25-55 ปี อาจเสี่ยงเกิดภาวะนี้มากกว่าคนกลุ่มอื่น สำหรับประเทศไทยพบผู้ป่วยไหลตายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด และรองลงมาคือภาคเหนือ นอกจากนี้ อุณหภูมิของร่างกายที่อยู่ในระดับสูง เช่น เมื่อมีไข้หรือดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก รวมถึงภาวะขาดน้ำ ก็อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดภาวะไหลตายได้ ทำไมโรคไหลตายถึงถูกเชื่อมโยงกับความเชื่อเรื่องของผีแม่ม่าย อาการไหลตายใช้เรียกการเสียชีวิตขณะหลับ โดยมักมีอาการหายใจไม่สะดวกอาจเกิดคล้ายการละเมอก่อนเสียชีวิต มักเกิดในผู้ชายภาคอีสานอายุระหว่าง 30-50 ปี ประชาชนจึงคิดวิธีรักษาตัวเองตามความเชื่อต่าง ๆ ว่ามาจากเรื่องของภูตผีปีศาจ เช่นการใส่ผ้าถุง การทาปากแดง ซึ่งที่ผ่านมาโรคดังกล่าวก็ไม่เป็นที่สนใจของประชาชนมากนัก จนกระทั่งมีการเสียชีวิตของชายไทยที่ไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์จำนวน 160 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชายที่มาจากภาคอีสาน และมีประวัติพันธุกรรม 18-40 % จึงเชื่อมโยงได้ว่ามีกรรมพันธุ์บางอย่างกำหนดอยู่ ทำไมโรคไหลตายถึงเกิดกับคนในชนบท - การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ คนในชนบทมักจะกลั่นเหล้าดื่มเอง ซึ่งมีส่วนผสมของเอทานอลและ เมทานอลในปริมาณสูง - การขาดสารอาหารประเภทโพแทสเซียม วิตามิน B1 แต่มักบริโภคอาหารที่เป็นพิษสะสมทีละเล็กละน้อย จนสะสมอยู่ในร่างกายมาก - การเป็นไข้สูง - การใช้ยานอนหลับ บุคคลที่มีความเสี่ยงจะเป็นโรคไหลตาย เป็นคนกลุ่มไหน ต้องมีการสังเกตตนเองอย่างไร บุคคลที่มีความเสี่ยงจะเป็นโรคไหลตาย มักเป็นกลุ่มคนที่นอนพักผ่อนน้อย ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ ขาดสารอาหารประเภทโพแทสเซียม และวิตามิน B1 อย่างรุนแรง และมีสุขนิสัยการกินที่ผิด สังเกตได้จาก คือ เกิดการเกร็งของแขนและขา หายใจเสียงดังจากการมีเสมหะในหลอดลม บางรายปัสสาวะและอุจจาระราด เพราะสูญเสียการควบคุมของระบบประสาทโดยอัตโนมัติ ผู้ป่วยจะมีใบหน้าและริมฝีปากเขียวคล้ำ จากนั้นจะเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการไหลตาย - การเป็นไข้สูง - การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ - การใช้ยานอนหลับ - ผู้ที่เสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ เช่น มีอาการท้องเสีย - การขาดสารอาหารประเภทโพแทสเซียม บทสรุปของเรื่องนี้ จึงสามารถสรุปได้ 2 รูปแบบ ทั้งในรูปแบบของความเชื่อเรื่องผีแม่ม่ายของชาวบ้านที่ต่างถูกปลูกฝังจนเหมือนกลายเป็นวัฒนธรรมประจำของพื้นที่นั้น ๆ ไปแล้ว เราจึงไม่สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงความเชื่อนั้นได้ ยกตัวอย่างจากกรณีที่พอเกิดเหตุการณ์เกี่ยวกับข่าวลื่อผีแม่ม่าย ชาวบ้านก็จะทำการอุปทานหมู่และมีการรับมือในรูปแบบเดียวกันที่ต่างพากันปฏิบัติตามความเชื่อที่ทำกันมาตลอด และในอีกรูปแบบหนึ่งถึงแม้ในหลักการทางการแพทย์จะออกมายืนยันถึงสาเหตุที่แท้จริงแล้ว แต่สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ในปัจจุบัน สิ่งที่สำคัญคือการดำเนินชีวิตด้วยทั้งหลักการทางความเชื่อและหลักการทางการแพทย์ไปพร้อม ๆ กัน เพื่อความปลอดภัยของชีวิตตนเอง เพราะผลสุดท้ายแล้วทั้งหลักการทางการแพทย์ที่มีหลักฐานเข้ามายืนยันและหลักการทางความเชื่อที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้าน เราไม่สามารถตัดสินได้เลยว่าอะไรคือหลักการที่ถูกต้องที่สุด
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน
Ravinnipa Yaikaew
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวโดยอ้างอิงตามประมวลกฎหมายอาญาของประเทศไทย ต้องเรียนตามตรงว่า ยังไม่ได้มีคำพิพากษาของศาลวินิจฉัยออกมาชัดเจนหรือวางบรรทัดฐาน อาจต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไปว่า การเผยแพร่นั้นมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายมีเจตนาในการดูหมิ่น ดูถูกเหยียดหยาม หรือสบประมาทให้อับอายหรือไม่ หากเข้าเงื่อนไขในองค์ประกอบก็ถือเป็นการดูหมิ่น ก็ต้องรับโทษทางกฎหมาย แต่หากมีการเผยแพร่ในโลกสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือสื่อที่เป็นสาธารณะการเผยแพร่ภาพศพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 366/4 ระบุว่า “ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามศพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือ ปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ดังนั้น การกระทำใด ๆ ที่เข้าข่ายดูหมิ่นศพ ต้องถือว่ามีความผิดทางอาญาที่จะต้องรับโทษ ทั้งนี้ ญาติผู้ตายสามารถฟ้องร้องได้ โดยอาศัย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 366/4 กฎหมายอาญาดังกล่าว หากการเผยแพร่ออกไปมีลักษณะเข้าข่ายการดูหมิ่นศพก็มีความผิดและต้องรับโทษ โดยสังคมปัจจุบันต้องยอมรับว่ากระแสสังคมออนไลน์สามารถเผยแพร่มีเดียได้อย่างรวดเร็ว การแสดงออกทางความคิดอย่างอิสระเสรีโดยไม่คิดพิจารณาอย่างละเอียด โดยเฉพาะเมื่อมีเรื่องประเด็นเกี่ยวกับความตายน้อยคนที่จะนึกถึงสภาพจิตใจของคนที่เป็นครอบครัว คนรัก หรือญาติของผู้เสียชีวิต เราควรที่จะเคารพและให้เกียรติ การโพสต์ เผยแพร่ภาพ วิดีโอ หรือข้อมูลของผู้เสียชีวิต โดยไม่ระมัดระวังจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมการสูญเสีย ตอกย้ำและสร้างความเสียใจให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต และการเผยแพร่ภาพคนตายก็ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคม เพราะฉะนั้น เราควรหยุดการเผยแพร่ภาพศพ เพื่อเป็นการให้เกียรติ เคารพผู้เสียชีวิตและครอบครัวของผู้สูญเสีย
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
Ravinnipa Yaikaew
พญ.นันทิดา สาลักษณ แพทย์เฉพาะทางผิวหนังและอาจารย์ด้านผิวหนัง วิทยาลัยนานาชาติมหาวิทยาลัยมหิดลได้ให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า“สำหรับคำถามที่ว่าน้ำซาวข้าวมีส่วนช่วยในการรักษาโรคผิวหนังได้จริงหรือไม่ ได้มีการสืบค้นร่วมกับคุณหมอทางด้านแผนไทยที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล พบว่าน้ำซาวข้าวได้มีการกล่าวถึงไว้ในคัมภีร์หลักของทางแผนไทยเกี่ยวกับการรักษาโรคผิวหนังแต่จะกล่าวถึงในส่วนของการรักษาฝีที่ผิวหนัง โดยน้ำซาวข้าวเชื่อว่ามีฤทธิ์เย็นสามารถที่จะช่วยบรรเทาโรคผิวหนังที่มีความร้อนได้แต่น้ำซาวข้าวใช้เป็นตัวทำละลายตัวยาที่มีการบดเป็นแท่งไว้แล้วซึ่งประกอบด้วยสมุนไพรมากกว่า10ชนิด ดังนั้นการใช้น้ำซาวข้าวจึงต้องมีการใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่น” นอกจากนี้พญ.นันทิดาได้มีการให้คำแนะนำสำหรับคนที่เป็นโรคผิวหนัง“สำหรับคนที่เป็นโรคผิวหนัง หมอแนะนำว่าควรจะรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เนื่องจากผื่นผิวหนังอาจเกิดได้จากสาเหตุหลากหลายชนิด เช่นการอักเสบ ภูมิแพ้ การติดเชื้อหรือแม้แต่เซลล์ที่ผิดปกติ ดังนั้นจึงไม่ควรพยายามรักษาด้วยตนเอง” ข้อมูลจาก พญ.นันทิดา สาลักษณ แพทย์เฉพาะทางผิวหนังและอาจารย์ด้านผิวหนัง วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
Ravinnipa Yaikaew
ทนพญ. ปภัสรา อุณอนันต์ นักเทคนิคการแพทย์ ได้ให้ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ว่า “ในความเป็นจริงแล้ว การรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด เป็นเพียงค่านิยมของกลุ่มคนรักสุขภาพ ซึ่งเชื่อกันว่ากรุ๊ปเลือดมีสารเคมีในการย่อยอาหารที่แตกต่างกัน จึงมีการจัดหมวดหมู่อาหารให้เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือด ถ้าในกรณีที่รับประทานอาหารไม่เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือด อาจทำให้ร่างกายย่อยอาหารได้ไม่ดีพอ ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืด มีแก๊สในกระเพาะอาหารได้” นอกจากนี้ ทนพญ. ปภัสรา ยังได้ชี้แจงให้ทราบเพิ่มเติมว่า การรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดจะส่งผลอะไรกับร่างกายบ้างทั้งข้อดีและข้อเสีย “ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากพอที่เชื่อถือได้มาสนับสนุนแนวคิดการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด ดังนั้น การรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดจึงไม่ได้มีส่วนสำคัญมากเท่าไหร่ แต่ถ้าหากสนใจการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด สามารถทำตามได้ ไม่ได้มีอันตรายอะไรกับสุขภาพ ยกเว้นอาหารบางอย่างไม่เหมาะสมกับผู้ที่มีอาการแพ้อาหารอยู่แล้ว ดังนั้นควรระมัดระวังในส่วนนี้ ในส่วนของน้ำหนัก ต้องดูจากปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อายุ เพศ โรคประจำตัว และการเลือกรับประทานอาหาร เป็นต้น แต่หากต้องการมีสุขภาพที่ดี น้ำหนักตรงตามมาตรฐาน BMI ควรเน้นการรับประทานอาหารที่มีกากใย ผักผลไม้ ลดของทอดมันในทุกกรุ๊ปเลือด ซึ่งการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อน้ำหนักตัว”
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
Ravinnipa Yaikaew
จากประเด็นฟันผุ ทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดได้จริงหรือ การติดเชื้อในกระแสเลือด เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินคำนี้อยู่บ่อย ๆ ซึ่งการติดเชื้อในกระแสเลือดสามารถเกิดขึ้นได้ หากร่างกายเรามีบาดแผลก็จะทำให้เชื้อโรคสามารถเข้าไปสู่กระแสเลือดได้ เพราะฉะนั้นในช่องปากก็เช่นเดียวกัน โดยในช่องปากของเราเป็นแหล่งรวมของเชื้อโรคมากมาย ถ้าหากมีแผลเลือดออกในช่องปาก หรือมีฟันผุลุกลามจนถึงชั้นโพรงประสาทฟัน ก็มีโอกาสที่เชื้อโรคเหล่านี้จะเข้าไปสู่ในกระแสเลือด หรือติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ทั้งนี้จะเกิดความอันตรายเพิ่มเติมหากคนไข้มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ หรือว่าลิ้นหัวใจรั่ว โดยบริเวณหัวใจจะมีภาวะความผิดปกติอยู่แล้ว ถ้าหากเชื้อโรคในช่องปากเข้าสู่กระแสเลือด และไปทำให้เกิดการติดเชื้อบริเวณหัวใจ ซึ่งจะส่งผลอันตรายมากต่อตัวคนไข้ได้มากกว่าคนไข้ปกติทั่วไปที่สุขภาพแข็งแรง
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
Ravinnipa Yaikaew
จากข้อมูลงานวิจัยขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) สำนักงานตอบสนองและการฟื้นฟู (OR&R) ประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานความเป็นไปได้สูงที่อาหารทะเลจะมีการปนเปื้อนน้ำมันดิบที่มีสารก่อมะเร็งหลากหลายประเภท เช่น PAHs และ DOSS มากกว่ามาตรฐานในบริเวณที่มีน้ำมันดิบรั่วไหล จากพฤติกรรมของสัตว์ทะเล ผ่านการดูดซับผ่านผิวหนังหรือการกินน้ำของสัตว์ทะเลจนเกิดการสะสมภายในร่างกาย อย่างไรก็ตามหากพื้นที่เกิดเหตุมีการตรวจสอบแล้วพบว่าค่าสารปนเปื้อนอยู่ในระดับปกติ รวมถึงมีการเก็บตัวอย่างอาหารทะเล และมีการจัดการกับเหตุการณ์น้ำมันดินรั่วได้อย่างถูกต้อง พื้นที่ดังกล่าวก็สามารถทำการประมง และรับประทานอาหารทะเลได้อย่างปกติ เนื่องจากการปนเปื้อนอยู่ในระดับมาตรฐาน รวมถึงงานวิจัยจากสถาบันวิจัยอ่าวเม็กซิโก (GoMRI) ร่วมมือกับโครงการวิทยาลัยซีแกรนท์แห่งชาติและ องค์กรบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่าการปนเปื้อนสามารถเกิดได้หลายแบบ สัตว์ทะเลบางชนิดอาจได้รับการปนเปื้อนโดยตรง ซึ่งสัตว์บางชนิดสามารถซึมซับสารเคมีแค่ชั้นผิวหนัง บางชนิดซึมซับถึงอวัยภายใน หรือการปนเปื้อนแบบห่วงโซ่อาหารทีมีการปนเปื้อนสะสมเป็นทอด ๆ ตลอดจนห่วงโซ่สุดท้าย นั้นคือมนุษย์ ที่อาจจะได้รับการปนเปื้อนสะสมจากการกินอาหารทะเล ทั้งนี้ได้มีการแนะนำการตรวจสอบเบื้องต้นด้วยวิธีการสังเกตหากสัตว์ทะเลที่นำมามีกลิ่นน้ำมันหรือคราบน้ำมันปนเปื้อน จะไม่สามารถรับประทานได้ แต่ถ้าอาหารทะเลนั้นไม่มีกลิ่นน้ำมันหรือคาบน้ำมันปนเปื้อน และนำมาปรุงสุก ก็จะสามารถรับประทานได้ปกติ (Larissa J. Graham et al, 2015). น้ำมันดิบประกอบด้วยธาตุหลักสองชนิด คือ คาร์บอน (C) และไฮโดรเจน (H) ซึ่งการปนเปื้อนหรือการรั่วไหลของจังหวัดระยอง มีสาเหตุมาจากกิจกรรมของมนุษย์ ระหว่างการผลิต การขนส่ง และการแปรรูป เมื่อน้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณมาก จะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต สุขภาพของสัตว์ทะเลหรือสิ่งมีชีวิตโดยรอบพื้นที่ (Bo et al., 2017) โดยความรุนแรงกรณีน้ำมันรั่วที่ระยองจัดอยู่ในระดับ (tier ll) คือ มีน้ำมันรั่วอยู่ในช่วง 20,000-1,000,000 ลิตร (Pollution Control Department, 2010) น้ำมันดิบเป็นของเหลวมีสีค่อนข้างดำและหนืด บางทีอาจมีกลิ่นฉุนเพราะมีแก็สไข่เน่าปนอยู่ บางครั้งอาจมีสารอื่น ๆ ด้วย เช่น กำมะถัน (S) ไนโตรเจน 👎 และออกซิเจน (O) เป็นต้น คราบน้ำมันที่ลอยอยู่บนผิวน้ำจะทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลง และปิดกั้นการสังเคราะห์แสงของแพลงก์ตอนพืช สาหร่าย และพืชน้ำต่าง ๆ เมื่อมีการปนเปื้อนคราบน้ำมันจะเกิดการสะสมสารพิษในห่วงโซ่อาหาร จนถึงผู้บริโภคขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งคือมนุษย์นั้นเอง
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
Thanathun.
ขณะนี้ยังไม่มีผลวิจัยทางการแพทย์ที่ออกมายืนยันว่า วิธีกลั้นหายใจสามารถใช้เช็กการติดเชื้อโควิด-19 ได้ รวมถึงขณะนี้การตรวจหาเชื้อโควิด-19 ยังไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว
◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน
Thanathun.
การถือศีลอดเป็นผลดีต่อสุขภาพของเรา เพราะมันช่วยให้เราให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรากินและเวลาที่เรากิน อย่างไรก็ตาม ขณะที่การถือศีลอดนาน 1 เดือนอาจจะไม่เป็นไร แต่ก็ไม่แนะนำให้อดอาหารต่อเนื่อง"การอดอาหารต่อเนื่องไม่เป็นวิธีที่ดีสำหรับการลดน้ำหนักในระยะยาว เพราะสุดท้ายแล้ว ร่างกายของคุณจะหยุดเปลี่ยนไขมันมาเป็นพลังงาน และจะหันไปใช้กล้ามเนื้อแทน นี่ไม่ดีต่อสุขภาพ เพราะนั่นจะทำให้ร่างกายเริ่มเข้าสู่ภาวะ 'อดอยาก'
ใช้ใน 1 ข้อความ3 ปีที่แล้ว