ข่าวจริงหรือข่าวลวง

เป็น account จริงของ Soumya Swaminathan ที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการจับคู่วัคซีนโควิดต่างแบรนด์กัน ท่าทีนี้มีขึ้นไม่นานหลังจากที่มีข่าวว่าไทยจะฉีดซิโนแวคเป็นเข็มหนึ่งแล้วฉีดแอสตร้าเป็นเข็มสอง (แต่ก็น่าคิดว่า หลายครั้งแล้ว ที่ท่าทีขององค์การอนามัยโลก ถูกมองว่าเข้าข้างจีน และซิโนแวคก็เป็นผลิตภัณฑ์ของจีนอีกด้วย https://www.matichonweekly.com/column/article_297097 https://themomentum.co/who-and-trump/ )

ข้อความนี้สั้นเกินไป

ตรวจหาเชื้อ (Antigen) โดยจะเก็บตัวอย่างจากทางจมูกหรือคอ ซึ่งต้องรับเชื้อมาแล้ว 5–14 วัน ถึงจะได้ผลที่แม่นยำ โดยตอนนี้ มียี่ห้อชุดตรวจ Rapid Antigen Test ที่ขึ้นทะเบียนกับ อย.แล้วมี 24 ยี่ห้อ คาดเริ่มต้น 300-400 บาท ตรวจหาภูมิคุ้มกัน (Antibody) เก็บตัวอย่างจากการเจาะเลือด จะตรวจพบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อในวันที่ 10 เป็นต้นไป จนกระทั่งหายป่วยแล้ว ตอนนี้ ชุดตรวจที่กระทรวงสาธารณสุขอนุมัติให้ใช้ตามบ้านก็คือ ชุดตรวจแบบ Antigen หรือที่เรียกว่า Rapid Antigen Test นั่นเอง ส่วนการตรวจหาภูมิคุ้มกัน เปิดให้ทดสอบตามโรงพยาบาล

มีการโฆษณาขายเครื่องตรวจโควิดแบบ Antigen Rapid Test ในราคาประมาณหนึ่งยูโรกว่าๆ ตามอัตราแลกเปลี่ยนก็จะประมาณสี่สิบกว่าบาท แต่อาจจะมีราคาน้อยลงหรือเพิ่มขึ้นกว่านี้ได้ หลักๆคือมีการบริหารทำให้ราคาถูกลงเรื่อยๆเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้ แต่ทั้งนี้ประชาชนพึงระวังในการซื้อ ในการตรวจเองอย่างถูกวิธี และ ไม่สับสับกับการตรวจแบบเจาะเลือดที่หาภูมิคุ้มกัน แต่ Antigen Rapid Test เป็นการตรวจเข้าไปในจมูก

จากกรณีที่มีคนแชร์ข้อมูลว่า บุคลากรทางการแพทย์ ที่ประจำอยู่ รพ. สนามธรรมศาสตร์ ติดเชื้อโควิด-19 ต้องกักตัวทั้งวอร์ดเกือบ 100 คน ทางโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า ข้อความดังกล่าวบิดเบือนไปจากความเป็นจริง เนื่องจากโรงพยาบาลสนาม และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อยู่คนละอาคารกัน ซึ่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ จะเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ดูแลรักษาผู้ป่วยทุกโรค ส่วนโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ จะดูแลเฉพาะโควิดเท่านั้น ซึ่งที่ระบุว่าบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด-19 นั้น เป็นบุคลากรทางการแพทย์ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ รพ.สนามธรรมศาสตร์ ยังไม่มีใครติดเชื้อโควิด-19 และยังคงทำหน้าที่ในการดูแลดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่

ยังไม่ปิด พร้อมรับนักท่องเที่ยวต่อ และคัดกรองอย่างเคร่งครัด

ในผู้ป่วยบางรายติดเชื้อแต่มีอาการน้อยสามารถหายได้เอง สมุนไพรบางชนิดใช้บรรเทาอาการได้จริงเพียงแต่ยังไม่มีงานวิจัยรองรับ ยังไม่มีข้อมูลว่าใช้ฆ่าเชื้อโควิดได้หรือไม่ แต่ก็ช่วยในการรักษาได้ เช่นช่วยให้จมูกโล่ง ทำความสะอาดระบบทางเดินหายใจ ขับเสมหะหรือขับเชื้อออก หรือช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา เป็นต้น หรือสมุนไพรบางชนิดก็ใช้รักษาโรคอื่นที่คล้ายกันเช่นไข้หวัดอยู่แล้ว และจากการทดลองใช้ยาสมุนไพรบางชนิดกับคลัสเตอร์คนในเรือนจำ พบว่าได้ผลดีทีเดียว

ไม่ใช่ตัวมหาสมุทรหรือทะเลเองโดยตรง แต่เป็นสิ่งมีชีวิตในทะเล oceanic plankton — drifting plants, algae, and some bacteria ในมหาสมุทรหรือทะเล ในโลก ผลิตออกซิเจนรวมกันได้มากกว่าป่าไม้ในโลกรวมกัน แต่ที่ป่าไม้มีความสำคัญ เพราะอยู่ใกล้ตัวมนุษย์(จำนวนมาก)มากกว่า ดูแลรักษาได้ง่ายกว่า (ทำลายก็ง่ายกว่า) รวมถึงประโยชน์อื่น ๆ เช่นให้ร่มเงา บังแดด ให้ความร่มรื่น อาจเป็นแหล่งอาหารได้ อาจเป็นถิ่นที่อยู่ของสัตว์ป่า อาจเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เป็นต้น

ไม่ใช่ตัวมหาสมุทรหรือทะเลเองโดยตรง แต่เป็นสิ่งมีชีวิตในทะเล oceanic plankton — drifting plants, algae, and some bacteria แต่ที่ป่าไม้มีความสำคัญ เพราะอยู่ใกล้ตัวมนุษย์(จำนวนมาก)มากกว่า ดูแลรักษาได้ง่ายกว่า (ทำลายก็ง่ายกว่า) รวมถึงประโยชน์อื่น ๆ เช่นให้ร่มเงา บังแดด ให้ความร่มรื่น อาจเป็นแหล่งอาหารได้ อาจเป็นถิ่นที่อยู่ของสัตว์ป่า อาจเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เป็นต้น

ไม่ใช่ตัวมหาสมุทรเองโดยตรง แต่เป็นสิ่งมีชีวิตในทะเล แต่ที่ป่าไม้มีความสำคัญ เพราะอยู่ใกล้ตัวมนุษย์(จำนวนมาก)มากกว่า ดูแลรักษาได้ง่ายกว่า (ทำลายก็ง่ายกว่า) รวมถึงประโยชน์อื่น ๆ เช่นให้ร่มเงา บังแดด ให้ความร่มรื่น อาจเป็นแหล่งอาหารได้ อาจเป็นถิ่นที่อยู่ของสัตว์ป่า อาจเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เป็นต้น

ไม่ใช่ตัวมหาสมุทรเองโดยตรง แต่เป็นสิ่งมีชีวิตในทะเล แต่ที่ป่าไม้มีความสำคัญ เพราะอยู่ใกล้ตัวมนุษย์(จำนวนมาก)มากกว่า ดูแลรักษาได้ง่ายกว่า (ทำลายก็ง่ายกว่า) รวมถึงประโยชน์อื่น ๆ เช่นให้ร่มเงา บังแดด ให้ความร่มรื่น อาจเป็นแหล่งอาหารได้ อาจเป็นถิ่นที่อยู่ของสัตว์ป่า อาจเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เป็นต้น

ยังไม่พบหลักฐานที่น่าเชื่อถือมารองรับในเรื่องนี้ เบื้องต้นผมจึงให้เป็นการหลอกลวง เต้าข่าวขึ้นเพื่อโจมตีทางการเมือง รายละเอียดดังนี้ 1. ไฟเซอร์อยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) อยู่แล้ว ใครที่มีบัญชีหุ้นของตลาดนี้ก็สามารถซื้อได้ หรือบางกองทุนก็อาจจะมีหุ้นนี้ด้วย 2. ผู้ถือหุ้นไฟเซอร์รายใหญ่ซึ่งมีการเปิดเผยรายชื่อ มีแต่นิติบุคคลหรือบริษัท และกองทุน แทบทั้งสิ้น ไม่มีชื่อของบุคคลเดี่ยว ๆ และไม่มีชื่อของเทมาเส็ก ส่วนบริษัทต่างๆในรายชื่อนั้น แม้วจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ อันนี้ก็ไม่ทราบได้ แต่ก็มักจะมีคำกล่าวหา เช่นหาว่าแม้วซื้อทุกอย่างในโลกนี้แล้ว หรือหาว่าแม้วซื้อจักรวาลไปแล้ว เป็นต้น 3. เทมาเส็กอาจจะเคยซื้อกิจการบางอย่างของแม้วจริง แต่บริษัทเทมาเส็กโฮลดิงส์ (อังกฤษ: Temasek Holdings) เป็นกองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1975 มีกระทรวงพาณิชย์ของสิงคโปร์เป็นผู้ถือหุ้นรายเดียว แม้วซึ่งไม่มีสัญชาติสิงคโปร์ย่อมไม่มีสิทธิ์อะไรในเทมาเส็ก 4. สำนักข่าวที่เล่นประเด็นนี้ แน่นอนว่า เป็นสื่อเลือกข้างทางการเมือง ปกป้องฝ่ายอำนาจนิยม แถมด้อยค่าฝ่ายตรงข้าม 5. ภาพนี้ก็เอามาจากการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของบางคน ซึ่งก็น่าจะไม่ได้ระบุหลักฐานอ้างอิงเพิ่มเติมอะไร 6. เท่าที่เห็นคือ ชินวัตรไม่ได้เชียร์ไฟเซอร์หรือmRNAสุดโต่งอย่างที่บางสื่อพยายามด่า เช่น แพทองธารฉีดซิโนฟาร์มเพราะยังอยู่ในระหว่างการให้นมบุตร จึงเกรงว่าหากฉีดวัคซีน mRNA แล้วจะมีผลกระทบ 7. การโพสต์ไม่สนับสนุนหรือไม่ยอมรับในซิโนแวค การโพสต์สนับสนุน mRNA การเรียกร้องให้ภาครัฐจัดซื้อวัคซีน mRNA ก็มาจากข้อเท็จจริงว่าซิโนแวคมีประสิทธิภาพด้อยกว่าวัคซีน mRNA รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์บางส่วนก็เรียกร้องให้มีวัคซีน mRNA เช่นกัน แต่ก็ยังมีบางฝ่าย ดูถูกเหยียดหยาม หาว่าไม่ได้คิดเองทำเอง หาว่าทำตามคำสั่งนักการเมือง หรือบางส่วนก็นำตัวย่อมาล้อ บอกว่ามันคือมรณะบ้าง "มันนี่ รีเทิร์นทู นอร์ท อเมริกา" บ้าง (เงินจะไปเข้าบริษัทของประเทศไหน หรือใครถือหุ้น มันคงไม่ค่อยจะสำคัญเท่าไหร่แล้วนะครับในยามวิกฤตแบบนี้)

สมุนไพรบางชนิดใช้บรรเทาอาการได้จริงเพียงแต่ยังไม่มีงานวิจัยรองรับ ในผู้ป่วยบางรายติดเชื้อแต่มีอาการน้อยสามารถหายได้เอง

บางแบรนด์มีราคาเหลือเพียง 0.80 ยูโร(ซึ่งตอนนี้เท่ากับ 30 บาท 90 สตางค์)ต่อการตรวจ1ครั้งจริงๆ

บางแบรนด์มีราคาเหลือเพียง 0.80 ยูโรต่อการตรวจ1ครั้งจริงๆ

http://www.liekr.com/post_159433.html

ข้อความนี้สั้นเกินไป

ชาญ ไชยภัทรานันท์ แห่งแกรนด์ไดมอนด์ เสียชีวิตจากโควิดจริง แต่ชายในคลิปที่แชร์กันไม่ใช่ชาญ บางคนว่าอาจจะเป็นลูกชาย

เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นคำเตือนที่เตือนๆกันมาตลอดอยู่แล้วครับ ส่วนสถานการณ์ของ รพ. ดังกล่าวอาจดูได้จากเว็บหรือเพจของ รพ.

เป็นข่าวเก่าเดือนมีนาคม2564 ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นไทยยังไม่ได้มีการฉีดให้กับประชาชนทั่วไป แต่ก็ได้เลื่อนการฉีดออกไปอีก หลัง EU พบปัญหาในบางรายหลังการฉีด

เป็นข่าวเก่าเดือนมีนา64ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้มีการฉีดให้ประชาชน มีเพียงการฉีดให้กับบุคคลในตำแหน่งสำคัญๆ

มีพิธีกรรมนี้เกิดขึ้นจริง แต่เป็นความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น และเชื้อโควิดจะแพร่กระจายทางควันได้เสียด้วยซ้ำ สำหรับการสูดดมสมุนไพรหรือควันจากยาสมุนไพร เพื่อพยายามรักษาโควิดนั้น ก็พอจะมีให้เห็นจากข่าวหรือบทความต่างๆอยู่บ้าง แต่คงจะไม่ใช่การปล่อยควันไปทั่วทั้งห้องแบบในกรณีนี้ รวมถึงผลลัพธ์อาจขึ้นกับแต่ละบุคคล และขณะนี้ยังไม่มีงานศึกษาวิจัยออกมารองรับ(เนื่องจากเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินภัยพิบัติโควิด หรือเป็นโรคอุบัติใหม่)

- เป็นภาพที่มาจากเพจจริงของทางเพจ newsxtra - เหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานของ บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ภายใน ซ.กิ่งแก้ว 21 หมู่ที่ 15 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ แม้ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้วสงบลงแล้ว แต่ค่าสารอันตรายยังสวิง หากฝนไม่ตกจะดี หวั่นกระจายไหลไปสู่พื้นที่โดยรอบ หากมีฝนตกเกิดขึ้น จะทำให้สารเคมีโดนฝนชะล้างไป และกระจายไหลไปสู่พื้นที่โดยรอบ ลงไปทางท่อระบายน้ำ ลงไปในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง อาจส่งผลต่อประชาชนในการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค จึงขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้น้ำช่วงนี้ โดยในช่วง 1-2 วันนี้ ต้องจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

เชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ใหม่ "แลมบ์ดา" (Lambda) พบครั้งแรกในประเทศเปรู ก่อนแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบเชื้อตัวนี้ใน 30 ประเทศทั่วโลก แลมบ์ดา (Lambda) ชื่อเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ใหม่ที่ต้องขีดเส้นให้ระวัง หลังมีความเป็นไปได้ที่เชื้อตัวนี้อาจระบาดแรงกว่า พบว่าไวรัสโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดานั้นมีอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อที่สูงกว่าโควิดสายพันธุ์อื่นๆ รวมถึงเดลตา ที่มีอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 38% ขณะที่ WHO จัดให้ไวรัสสายพันธุ์แลมบ์ดาอยู่ในประเภทสายพันธุ์ที่น่าจับตามอง (Variant of Interest) ลำดับที่ 7 ซึ่งเบื้องต้นมองว่ายังเป็นภัยคุกคามที่น้อยกว่าสายพันธุ์ที่น่ากังวล (Variant of Concern) อย่างอัลฟา เบตา แกมมา และเดลตา แต่จำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8 ) พ.ศ. 2564 ยกเลิก “พืชกระท่อม” จากยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 มีผลบังคับใช้ในอีก 90 วัน เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสากล และบริบทของสังคมไทยในบางพื้นที่ ในขณะนี้พืชกระท่อมยังไม่ได้ปลดล็อกถูกกฎหมาย แม้ว่ากฎหมายจะประกาศในราชกิจจานุกเบกษาแล้ว พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป หรือมีผลตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป