ข่าวจริงหรือข่าวลวง

EU ได้อนุญาตดังกล่าวจริง (แม้ว่าในความเป็นจริงคือตอนนี้โควิดยังระบาดหนักในบางพื้นที่ของไทยอยู่)

เป็นเรื่องที่ยังถกเถียงกันไม่จบจนถึงปัจจุบัน ไม่ควรลากมาโยงเรื่องการเมือง

นายแพทย์อินทร์ จันแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ชี้แจงว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นผู้ป่วยนอก 1 ราย ที่เข้ารับการรักษาตัวในตึกอายุรกรรมชายซึ่งเข้ามารับมารักษาด้วยโรคทางสมอง เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการคัดกรองโรคโควิด 19 ตามกระบวนการปกติของโรงพยาบาล ปรากฏว่ามีเชื้อโควิด จึงได้ทำการแยกผู้ป่วยดังกล่าวออกจากตึกอายุรกรรมชายไปอยู่ที่ตึกผู้ป่วยโควิด 19 และทำการเฝ้าสังเกตอาการผู้เกี่ยวข้องไว้ทั้งหมดแล้ว นายแพทย์อินทร์ จันแดง ระบุด้วยว่า ทางโรงพยาบาลยะลา ได้ทำตามกระบวนการคัดกรองผู้มีความเสี่ยงทั้งหมดแล้ว ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ ที่สำคัญคือ ขอให้ญาติที่นำผู้ป่วยเข้ามารักษาในโรงพยาบาลได้แจ้งประวัติความเสี่ยงที่เป็นความจริงของการติดเชื้อโควิด 19 ให้แก่เจ้าหน้าที่ทราบด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าวขึ้น

มีหลายกรณีที่เสียชีวิตหลังจากฉีดไปได้ไม่นาน แต่ส่วนใหญ่รัฐบาลมักจะปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน แต่ก็มีบางรายที่รัฐได้ยินยอมจ่ายค่าชดเชย แต่ข่าวก็มักไม่ระบุว่า เป็นวัคซีนแบรนด์ใด แต่สำหรับในไทย มักจะได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค โดยเฉพาะถ้ามีอายุต่ำกว่า 60 ปี เนื่องจากขณะนี้วัคซีนแอสตร้าเซเนก้ายังมีจำนวนน้อยกว่าซิโนแวค(ในเมืองไทย)

งบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ยังคงมีอยู่ ส่วนบริษัทเหล่านี้หากมีสถานะเป็นบริษัทเอกชนก็อาจถือได้ว่าบริษัทเหล่านี้ไม่ได้ใช้เงินจากภาษี

1. สยามไบโอไซเอนซ์ ในขณะนี้เป็นบริษัทรับจ้างการผลิตของแอสตร้าเซนเนก้า "ภารกิจผลิตวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในครั้งนี้ บริษัทได้รับการสนับสนุนจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุขจำนวนเงินประมาณ 600 ล้านบาท" ก็อาจจะกล่าวได้ว่าประเทศไทยมีพันธะผูกพันกับบริษัท คือมีข้อตกลงหรือมีสัญญากับบริษัท 2. ปกติแล้วคงต้องซื้อกับแอสตร้าเซนเนก้า เพราะวัคซีนเป็นของแอสตร้าฯ อาจจะยกเว้นดีล 600 ล้านบาทนี้ที่ดูเหมือนซื้อกับสยามไบโอไซเอนซ์ แต่ก็คือต้องซื้อกับแอสตร้าฯ และได้รับวัคซีนที่เรียกว่าแอสตร้าฯ อยู่ดี เพราะสยามไบโอไซเอนซ์เป็นเพียงผู้ผลิตให้ ผมไม่แน่ใจว่ารัฐบาลอาจจะสั่งวัคซีนกับสยามไบโอไซเอนซ์ได้หรือไม่ แต่ถ้าสั่งกับสยามไบโอไซเอนซ์ได้ แอสตร้าก็ต้องรับรู้และยืนยัน(หรือปฏิเสธ) order นั้นด้วยอยู่ดีเพราะวัคซีนแอสตร้าทั้งหมด(ในตอนนี้)ถือเป็นของแอสตร้า ดังนั้นการซื้อกับแอสตร้าโดยตรงจึงถูกต้องแล้ว 3. "เงินทุนวงเงิน 600 ล้านบาทที่บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์รับทุนสนับสนุน ได้ระบุในสัญญาเลยว่า เมื่อผลิตวัคซีนได้ จะคืนวัคซีนเป็นมูลค่าเท่ากับจำนวนเงินทุนที่ได้รับ ดังนั้นการสนับสนุนไม่ใช่การให้เปล่า เป็นการสนับสนุนให้เกิดการผลิตวัคซีนให้ได้" จึงอาจมองได้ว่า 600 ล้านบาทนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อวัคซีน 4. ประโยคที่ว่าคนไทยจะได้วัคซีนเป็นประเทศแรกๆของโลก มีจริง โดยเป็นความเห็นของฝ่ายรัฐบาลในช่วงปี 2563 ซึ่งในขณะนั้นคาดว่าโรงงานจะผลิตวัคซีนได้ตั้งแต่ต้นปี 2564 อย่างไรก็ตามคำนี้เกิดขึ้นมาก่อนที่ธรจะออกมาวิจารณ์บริษัทนี้ (มกราคม 2564) 5. เป็นวัคซีนที่ผลิตในไทย แต่เป็นวัคซีนของแอสตร้าฯ เป็นวัคซีนและแบรนด์ของชาติตะวันตก ส่วนวัคซีนโควิดของไทยเต็มตัว เท่าที่เห็นมีข่าวออกมาคือวัคซีน ChulaCov19 ซึ่งยังอยู่ในขั้นทดลอง 6. เป็นการทำสัญญาระหว่างรัฐกับบริษัท โดยรัฐจ่ายเงิน 600 ล้านบาทและจะได้รับวัคซีนมูลค่า 600 ล้านบาท ไม่ใช่การให้เปล่า และในสถานการณ์โควิดซึ่งมีความร้ายแรงนี้อาจใช้เป็นเหตุผลสนับสนุนในการดำเนินการของรัฐได้

ภาพนี้เป็นจริง เกิดที่นนทบุรี ภายหลังการไฟฟ้าได้นำเสาไฟฟ้าออกแล้ว เมื่อ มิย.2559

เพจจริง

จากเว็บสำรวจโลกขององค์การนาซ่า เผยภาพจากมุมของนักบินอวกาศให้เห็นแสงแห่งค่ำคืนในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นมหานครที่มีประชากรหนาแน่น รองลงมาคือจังหวัดชลบุรี ด้านข้างเป็นแหลมเชื่อมต่อมาเลเซียที่กั้นระหว่างอ่าวไทยกับทะเลอันดามัน ภาพนี้เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 (26 Feb 21) และมีการนำมาเผยแพร่ในสื่อโทรทัศน์ของไทย https://earthobservatory.nasa.gov/images/148346/one-night-in-bangkok

สหภาพยุโรปประกาศอนุญาตให้ผู้เดินทางจาก 11 ประเทศปลอดภัย ซึ่งรวมถึงประเทศไทย สามารถเดินทางเข้ายุโรปได้ หลังทบทวนมาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19 ทั่วโลก คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (Council of the EU) ได้ทบทวนสถานการณ์ทางระบาดวิทยาและมาตรการควบคุมโรคระบาดทั่วโลก รวมถึงไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 และตัดสินใจประกาศรายชื่อประเทศปลอดภัยล่าสุดจำนวน 11 ประเทศ

ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ

ยังไม่พบข้อมูลใดที่ยืนยันได้ แต่ทีมผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกให้ข้อสรุปว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่น่าจะหลุดออกมาจากห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัยในเมืองอู่ฮั่นประเทศจีน น่าจะแพร่มาจากสัตว์สู่คนมากกว่า

เนื้อหานี้ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ

จากการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดแล้ว ข้อมูลดังกล่าวนี้มาจากกลุ่มต่อต้านวัคซีน ที่ยกข้อมูลที่เป็นความเชื่อ หรือตรวจสอบไม่ได้ ทำให้หวาดกลัวและเข้าใจผิด โดยบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างถึง ไม่ได้เคยมีตำแหน่งดังกล่าวตามที่กล่าวอ้าง โดยเฉพาะการอ้างถึงตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนนั้น หากวิเคราะห์จากข้อเท็จจริงทั่วโลกแล้วว่า กลับไม่เป็นตามข้อความนั้น ซึ่งการฉีดวัคซีนสามารถลดอัตราการป่วยหนัก และ ลดการเสียชีวิตได้จริง ซึ่งข้อความดังกล่าว ยังจะสร้างความเข้าใจผิด ความตื่นตระหนก อาจลดโอกาสเข้าถึงวัคซีนของประชาชนที่หลงเชื่อได้ ซึ่งจะทำให้โอกาสลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ลดน้อยลงไป เป็นอันตรายต่อระบบสาธารณสุขของแต่ละประเทศได้

ยังไม่พบข่าวเปิดเผยเรื่องดังกล่าว ข้อมูนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท ตรวจสอบกับ ศ.นพ.นิพนธ์ พวงวรินทร์ ราชบัณฑิต/แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประสาทวิทยา รพ.ศิริราช ซึ่งเป็นผู้แนะนำให้ดื่มโกโก้ร้อนเพื่อบำรุงสมอง ระบุงานวิจัยของมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษรองรับว่าการดื่มโกโก้วันละ 2 ช้อนโต๊ะ หรือ 1,000 มิลลิกรัม วันละครั้งทุกวันจะช่วยบำรุงสมอง จากการทดลองต้วยตนเองพบว่าเซลล์สมองทำงานดีขึ้น ไม่ซึมเศร้า อย่างไรก็ตาม แม้โกโก้จะมีประโยชน์แต่ไม่สามารถรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้ เพียงแต่ชะลอให้เกิดโรคช้าลง

หลังจากผู้ตายได้รับวัคซีนแล้วถึงเริ่มมีอาการแสดงให้เห็น ญาติของผู้ตายจึงเข้าใจว่าเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน และไม่คิดว่าอาการจะรุนแรงขึ้นจนทำให้เสียชีวิตเช่นนี้ แต่ทางโรงพยาบาลกลับระบุสาเหตุว่าเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัว จึงตัดสินใจส่งศพภรรยาไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง

สำนักข่าว AFP Thailand ได้ทำการตรวจสอบข่าวนี้พบว่าไม่เป็นความจริง สืบเนื่องจาก โพสต์เฟซบุ๊กจำนวนมากได้แชร์บทความข่าวเกี่ยวกับนโยบายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประเทศสิงคโปร์ พร้อมคำกล่าวอ้างว่าสิงคโปร์ได้ปฎิเสธการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคและโมเดอร์นา และหันไปใช้วัคซีนโคโรนาแวคซึ่งผลิตโดยบริษัทซิโนแวคของประเทศจีนแทน คำกล่าวอ้างนี้ทำให้เข้าใจผิด บทความดังกล่าวไม่ได้รายงานว่าประชาชนสิงคโปร์ปฎิเสธการฉีดวัคซีนของของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคหรือโมเดอร์นา ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2564 รัฐบาลสิงคโปร์ยังคงใช้ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคและโมเดอร์นาเป็นวัคซีนหลัก ในขณะที่วัคซีนโคโรนาแวค หรือซิโนแวค เป็นวัคซีนทางเลือกที่มีอยู่ในคลินิกเอกชน

ไม่จริงนะคะ...ไม่ควรแชร์ต่อค่ะ.... การแชร์ข้อความในลักษณะนี้ผ่าน LINE จะไม่สามารถนับจำนวนใด ๆ ได้ จึงจะไม่มีใครได้เงินจากการแชร์ต่อค่ะ หลักสำคัญของการแชร์เพื่อให้ได้เงินบริจาค ต้องมี 3 องค์ประกอบ คือ 1 ใครจ่ายเงิน 2 จ่ายถึงเมื่อไหร่ 3 นับจำนวนยังไง รับชมเพิ่มเติมได้จากคลิปนี้ได้ค่ะ จากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ค่ะ ชัวร์ก่อนแชร์ FACT CHECK EXPERT : หลอกบริจาค ปลอมกุศล ความสุขทางใจที่ไปไม่ถึง https://youtu.be/QL_4s_j9wEQ

"ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯ ปลอดภัย Safe Bangkok" ซึ่งเป็นเพจทางการของโครงการความร่วมมือระหว่าง กทม.กับหอการค้าไทย ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกรพ.จำนวน 25 จุด ได้ออกมาชี้แจงถึงข้อมูลดังกล่าว โดยระบุว่า “ข่าวแจ้งการรับวัคซีนใหม่ ไม่เป็นความจริง” ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ

กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เปิดให้เช็กข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับประชาชนทั่วไปที่ ไม่ได้ใช้แอปพลิเคชั่นหมอพร้อม และสำหรับเจ้าหน้าที่ตามพื้นที่กำหนดไว้ให้คนที่ฉีดวัคซีนเข้าพื้นที่ได้

เนื้อหานี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ศบค.จังหวัดยะลา ออกคำสั่ง ที่ 99/2564 1.ปิดตลาดในเขตอำเภอธารโตทุกแห่ง 2.ร้านขายของชำ ร้านสะดวกซื้อ ให้ซื้อขายได้แต่ห้ามเข้าไปในร้าน ตั้งแต่วันที่ 15-30 มิถุนายน 64

เนื้อหานี้ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ

จริงบางส่วน เพราะข้อมูลดังกล่าวหมายถึงตัวเลขวัคซีนที่มีการฉีดประเทศไทยเป็นอันดับสามจากแการแถลงของกระทรวงอุดมศึกษา อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบตามจำนวนสัดส่วนประชากร พบว่า ประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนมากที่สุดคือ สิงคโปร์ รองลงมาเป็นกัมพูชา บรูไน มาเลเซีย ฯลฯ 1. อินโดนีเซีย 31,195,606 โดส (7.1% ของประชากร) 2. ฟิลิปปินส์ 6,470,776 โดส (4.3% ของประชากร) 3. ไทย 5,667,058 โดส (6.3% ของประชากร) 4. กัมพูชา 5,128,310 โดส (16.5% ของประชากร) 5. สิงคโปร์ 4,392,067 โดส (42.5% ของประชากร) 6. มาเลเซีย 3,944,987 โดส (8.3% ของประชากร) 7. เมียนมา 2,994,900 โดส (N/A ของประชากร) 8. เวียดนาม 1,411,548 โดส (1.4% ของประชากร) 9. ลาว 1,054,356 โดส (9.5% ของประชากร) 10. บรูไน 61,225 โดส (11.3% ของประชากร)