ข่าวจริงหรือข่าวลวง

ตามที่ได้มีข่าวปรากฎในสื่อออนไลน์ต่างๆ ในประเด็นเรื่อง ลือ เชื้อ COVID-19 อยู่ที่ลำคอ 4 วันก่อนเข้าสู่ปอด กลั้วคอด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือ ช่วยฆ่าเชื้อได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีการแชร์ภาพ พร้อมข้อความว่า “เชื้อ COVID-19 เมื่อเข้าสู่​ร่างกายจะไป​อยู่​ที่ลำคอเป็นเวลา 4 วันก่อนเข้าสู่ปอด​ หากกลั้วคอด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือ​ทุกวัน​จะช่วยทำลายเชื้อได้​” นายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้ความคิดเห็นเชิงวิชาการว่า ข้อมูลนี้ไม่ถูกต้องตามหลักการทำงานของร่างกาย กรณีที่เชื้อไวรัสเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจหรือหลอดลม การดื่มน้ำ กลั้วคอ จะไม่สามารถช่วยกำจัดเชื้อในคอไม่ให้รุกล้ำต่อไปเข้าสู่หลอดลม และเนื้อปอดของคนได้มากนัก เพราะน้ำจะลงไปตามหลอดอาหาร ซึ่งเป็นคนละส่วนกัน ส่วนเชื้อ COVID-19 จะอยู่ที่คอ 4 วันนั้นยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันถึงเรื่องดังกล่าว

ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่ชัดเจนสนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด-19 ได้ แต่มีการศึกษาพบว่าการใช้ฟ้าทะลายโจรขนาดต่ำ ๆ (แอนโดรกราโฟไลด์ 11.2 มิลลิกรัม/วัน) กิน 5 วัน/สัปดาห์ เป็นเวลา 3 เดือน ช่วยป้องกันหวัดได้ ซึ่งนักวิจัยได้กล่าวถึงผลในการป้องกันหวัดว่า น่าจะเกิดจากฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งก็มีงานวิจัยที่สนับสนุนอยู่มากพอควรว่าฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ในส่วนตัวเองที่เก็บข้อมูลจากหมอพื้นบ้าน ก็เห็นช่วงฤดูหนาวชาวบ้านก็กินฟ้ากัน 2-3 ใบทุกวัน สำหรับผู้ประสงค์จะใช้ฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกัน ต้องกินฟ้าทะลายโจรขนาดต่ำ ๆ และต้องไม่ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ตับและไตต้องดี

เช็คชื่อ 43 จังหวัด เตือนสวม 'หน้ากากอนามัย' ออกนอกเคหสถาน ฝ่าฝืนปรับ 2 หมื่นบาท

เนื้อหานี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

สำนักประชาสัมพันธ์ กทม. ชี้แจงข้อมูลเบื้องต้นว่า การจับและปรับผู้ไม่ใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า นั้น เจตนาในการออกประกาศดังกล่าว คือการป้องกันการติดต่อของโรคจากบุคคลไปสู่บุคคล ดังนั้นเมื่อมีบุคคลอื่นอยู่ในรถด้วย จึงต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ไม่ยกเว้นแม้เป็นครอบครัวเดียวกัน เพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรคและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ แต่กรณีนั่งคนเดียวจึงอนุโลมว่าไม่ต้องใส่หน้ากาก โดยรวมถึงการอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในอาคารหรือที่ต่างๆ ด้วยจะต้องสวมหน้ากาก สำหรับในที่สาธารณะต้องใส่ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรือไม่เพราะบุคคลอื่นอาจมาใช้สถานที่นั้นต่อด้วย

สำนักประชาสัมพันธ์ กทม. ชี้แจงข้อมูลเบื้องต้นว่า การจับและปรับผู้ไม่ใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า นั้น เจตนาในการออกประกาศดังกล่าว คือการป้องกันการติดต่อของโรคจากบุคคลไปสู่บุคคล ดังนั้นเมื่อมีบุคคลอื่นอยู่ในรถด้วย จึงต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ไม่ยกเว้นแม้เป็นครอบครัวเดียวกัน เพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรคและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ แต่กรณีนั่งคนเดียวจึงอนุโลมว่าไม่ต้องใส่หน้ากาก โดยรวมถึงการอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในอาคารหรือที่ต่างๆ ด้วยจะต้องสวมหน้ากาก สำหรับในที่สาธารณะต้องใส่ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรือไม่เพราะบุคคลอื่นอาจมาใช้สถานที่นั้นต่อด้วย.... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/bangkok/839462

การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2564 ที่ผ่านมา นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.ระบุว่า ศบค.ขอความร่วมมือการเดินทางข้ามจังหวัดทั่วประเทศ และขอให้เดินทางเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ขอให้ทำกันอย่างเต็มที่ ทำกันอย่างถึงที่สุด จนถึงวันที่ 31ม.ค.นี้ และเน้นหนักในจังหวัดพื้นที่สีแดงที่มีการระบาดมากต้องแสดงหนังสือรับรองการข้ามจังหวัดด้วย เนื่องจาก การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ยังปะทุอยู่ มีผู้ติดเชื้อที่ยังหาไม่เจอ และมีผู้ติดเชื้ออยู่แต่ไม่แสดงอาการ คำแนะนำการปฏิบัติตัวระหว่างนี้ให้ห่างไกลการติดเชื้อ “การอยู่บ้าน” จึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุด โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว

เนื้อหานี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบคนสัญชาติอินเดียเข้าไทย ระหว่างวันที่ 1-20 เม.ย.2564 จำนวน 602 คน พร้อมยืนยันเป็นการเข้ามาอย่างถูกต้องและผ่านการคัดกรองโรค COVID-19 แล้ว วันนี้ (25 เม.ย.2564) รายงานข่าวจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่าชาวอินเดียเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก ว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีหน้าที่ช่วยเหลือด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กรมควบคุมโรค ในการช่วยตรวจคัดกรอง ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนเข้าประเทศ โดยจะตรวจเอกสารที่สถานทูต ประเทศต้นทางออกให้ และจะดูเงื่อนไขวีซ่าตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ และ ตามที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กำหนด เป็นหลัก หากพบว่าผิดเงื่อนไขก็ปฏิเสธการเข้าเมือง และผลักดันกลับทันที

กลุ่มบุคคลสัญชาติอินเดียที่เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา เป็นการเข้ามาตามระบบซึ่งได้จองไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่ได้เข้ามาในเที่ยวบินเช่าเหมาลำ และกลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ใช่นักศึกษาทั้งหมดแต่เป็นผู้มีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย 1 คน และที่เหลืออีก 6 คน เป็นนักศึกษาและผู้ติดตามนักศึกษา วันที่ 25 เม.ย. 2564 ในแถลงสถานการณ์โรค "โควิด-19" ประจำวัน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวคนอินเดียหนี "โควิด-19" เช่าเหมาลำเข้ามาในประเทศไทย ว่า กระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ไม่มีการเช่าเหมาลำจากอินเดีย แต่มีการดำเนินการเพื่อนำคนไทยที่อยู่ในอินเดียกลับมาประเทศไทย ซึ่งในเดือน พ.ค.จะมี 4 เที่ยวบิน เพื่อให้คนไทยได้กลับบ้าน

คู่มือป้องกันการแพร่ระบาดและการรักษาโควิด-19 (The COVID-19 Prevention and Treatment Handbook) ซึ่งสนับสนุนการจัดทำโดยมูลนิธิแจ็ค หม่า และมูลนิธิอาลีบาบา เปิดให้ดาวน์โหลดฉบับภาษาไทยแล้ว

มีคำสั่งจากศูนย์บริหารปฏิบัติการโควิด -19 ปิดสถานที่ชั่วคราวเพื่อปฏิบัติการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงของการแพร่ระบาดของโควิด-19

26 เมษา 64 - ฝ่ายกฎหมาย กทม.แจงข้อกฎหมายไม่สวมหน้ากากอนามัย หากอยู่ในยานพาหนะ หรือรถยนต์ส่วนตัว 1 คน ไม่ต้องใส่ก็ได้ แต่หากอยู่ 2 คนขึ้นไป ต้องสวมใส่ หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบ คนที่ไม่ใส่จะถูกปรับได้ตามกฎหมาย

การนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือนข้อมูล หรือ Fake News จะเข้าข่ายความผิดฐาน “นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม มาตรา 14(2) พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560

เมื่อ 26 มี.ค. 2563 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณี ที่มีการส่งต่อข้อความ ในระบบสื่อโซเชียลมีเดีย ในลักษณะที่ระบุว่า “ใครที่จะเดินทาง หรือ ขับรถ จะต้องใส่ แมสก์ ทุกคน ทุกด่านจับปรับ 200 ที่ไม่ใส่แมสก์” นั้น ขอยืนยัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้มีการจับปรับตามที่กล่าวอ้างในโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด โดยในเบื้องต้นได้รับรายงานการดำเนินคดีกับผู้ที่นำเข้าและเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จดังกล่าวในหลายพื้นที่แล้ว อย่างไรก็ตามฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนว่าการใส่หน้ากากอนามัยนั้น ก็เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อหรือติดเชื้อโรคได้

เมื่อช่วงค่ำของวันเสาร์ที่ 24 เม.ย.64 มีรายงานจากทางเจ้าหน้าที่ว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 13 คน ลักลอบหลบหนีออกจากศูนย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพยาเสพติดจังหวัดนราธิวาส ซึ่งถูกแปรเป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ของ จ.นราธิวาส โดยผู้ติดเชื้อได้ช่วยกันขุดดินใต้กำแพงศูนย์ฯ แล้วหลบหนีออกไป โดยบางส่วนเป็นอดีตผู้ต้องขังคดียาเสพติดของเรือนจำใน จ.นราธิวาส ด้วย วันนี้ ( 25 เม.ย.64 ) ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เผยถึงกรณีกระแสข่าวว่า มีนักโทษที่ติดโควิดหลบหนีจากที่คุมขัง (ศูนย์บำบัดยาเสพติดกองร้อย อส.) จ.นราธิวาส ว่า จากการตรวจสอบไปยัง จ.นราธิวาส พบว่ารายชื่อผู้หลบหนี จำนวน 13 คน มีรายชื่อตรงกับผู้ได้รับปล่อยตัว จำนวน 7 คน ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ ตาม พ.ร.บ. ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 ไม่ใช่นักโทษของเรือนจำจังหวัดนราธิวาส และทางสถานตรวจพิสูจน์ฯได้มีหนังสือให้ปล่อยตัวบุคคลดังกล่าวไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.64 ซึ่งทั้ง 13 คน มีภาวะความเสี่ยงจึงต้องนำตัวเข้ากักโรค ในกองร้อย อส. อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนาม อยู่ในการดูแลของทหาร โดยผ่านการกักโรคไปแล้ว 7 วัน แต่กลับเกิดการหลบหนี ซึ่งล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมตัวนำกลับไปยังค่ายเรียบร้อยแล้ว

ศบค.เผย "ไม่จริง" คนอินเดียเช่าเหมาลำเข้าไทย นำคนไทยกลับบ้านเท่านั้น สั่งชะลอออกใบอนุญาตต่างชาติในอินเดียมาไทย เวลา 11.30 น. วันที่ 25 เม.ย. 2564 ในแถลงสถานการณ์โรค "โควิด-19" ประจำวัน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวคนอินเดียหนี "โควิด-19" เช่าเหมาลำเข้ามาในประเทศไทย ว่า กระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ไม่มีการเช่าเหมาลำจากอินเดีย แต่มีการดำเนินการเพื่อนำคนไทยที่อยู่ในอินเดียกลับมาประเทศไทย ซึ่งในเดือน พ.ค.จะมี 4 เที่ยวบิน เพื่อให้คนไทยได้กลับบ้าน

การฉีดวัคซีนแล้วจะแพ้หรือไม่แพ้ ขึ้นอยู่กับแต่ละตัวบุคคล ไม่เกี่ยวกับการดื่ม กินอาหารใดๆ

หลายจังหวัดออกมาตรการนี้ รวมถึงกรุงเทพด้วย เชคได้ที่ลิงก์ด้านล่าง

หลายจังหวัดออกมาตรการนี้รวมถึงกรุงเทพด้วย

"นพ.มนูญ" ยกผลการทดลอง ชี้สวมหน้ากาก 2 ชั้น ช่วยลดการแพร่-รับเชื้อโควิด เนื่องจาก เวลาเราใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หน้ากากไม่ได้แนบชิดกับใบหน้า มีช่องว่างด้านข้างและด้านบน ทำให้เวลาหายใจเข้าและออก อากาศบางส่วนจะผ่านช่องทางนี้ แทนที่อากาศทั้งหมดจะผ่านการกรองของหน้ากากด้านหน้า การสวมหน้ากากผ้าทับบนหน้ากากอนามัย ช่วยทำให้หน้ากากอนามัยแนบชิดกับใบหน้ามากขึ้น ลดช่องว่างรอบหน้ากากอนามัย โดยไม่ทำให้ผู้สวมใส่อึดอัดหรือหายใจลำบาก

คลิปข่าวนี้มาจากเพจ TNN World รายงานวิกฤติผู้ติดเชื้อในอินเดียรอบใหม่พุ่งสูง จนเกินความพร้อมของโรงพยาบาลจะรับไหว ขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จนต้องมีการสุมกองฟืนเผาศพหมู่ เป็นภาพที่เศร้าสลดมาก (คำเตือน ภาพมีความละเอียดอ่อนทางจิตใจ) https://fb.watch/54_ns4dOwx/

สำนักข่าว AFP ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นข่าวลวง ซึ่งทางมูลนิธิของบิล เมลินดา เกตต์ ได้ออกมาขอร้องให้พลเมืองเน็ตหยุดแชร์จดหมายลวงเรื่องไวรัสฉบับนี้ และ หนังสือพิมพ์ The Sun ก็ได้ลบข่าวดังกล่าวออกไปแล้วบอกว่าเป็นความเข้าใจผิด ทาง AFP ก็ได้สรุปว่าเป็นจดหมายปลอมซึ่งมีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน The Sun has reportedly apologised and removed the erroneous letter from its website. A spokesperson for The Sun told British newspaper The Independent that it “mistakenly published a spoof story”.

ตามที่ได้มีข่าวปรากฎในสื่อออนไลน์ต่างๆ ในประเด็นเรื่อง ใช้ไฟฉายมือถือส่องเบรกเกอร์ไฟ ทำให้เกิดระเบิดได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

https://mobile.facebook.com/OhISeebyAjarnJess/posts/1132682093881509/?_rdc=1&_rdr