ข่าวจริงหรือข่าวลวง

LINK : https://www.facebook.com/100000701917936/posts/3249077525125613/?d=n LINK : https://www.aei.org/wp-content/uploads/2020/03/National-Coronavirus-Response-a-Road-Map-to-Recovering-2.pdf?fbclid=IwAR22MewlZiT1AhnusgojykkTHag5Y1tK7eWWgtEZPgvxMhL6ZyhYtotGb-4

หมายเลขโทรศัพท์ 02 111 1144 เป็นเบอร์โทรศัพท์ของธนาคารกรุงไทย เพื่อสอบถามสถานะการลงทะเบียน ไม่ใช่การโทรเช็คผล และจะมีการทยอยส่งข้อความ (sms) แจ้งผลการคัดกรองแก่ผู้ผ่านเกณฑ์

เป็นข่าวปลอมครับ !! ความจริงแล้ว แม้ว่าศาสตราจารย์ Charles Lieber จะถูกจับกุมจริงในเดือนมกราคม ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา ด้วยข้อหาที่ให้การเป็นเท็จเกี่ยวกับเงินทุนที่เขาได้รับจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีอู่ฮั่น Wuhan University of Technology (หรือ WUT) แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวกับการพัฒนาหรือการสร้างเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่ ศ. Lieber ถูกจับกุมนั้น มาจากการทำงานอย่างผิดกฎหมายให้กับมหาวิทยาลัยของประเทศจีน ในการช่วยเฟ้นหาและพัฒนาผู้ที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ มาตั้งแต่ 9 ปีก่อน ซึ่งเป็นเวลายาวนานก่อนที่จะบังเอิญเกิดการระบาดของโรคขึ้น และในเอกสารการจับกุมนั้น ก็ไม่มีการพูดถึงเชื้อโคโรนาไวรัสหรืออาวุธทางชีวภาพแต่อย่างไร การจับกุม ศ. Lieber และคนจีนอีก 2 คน โดยกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกานี้ เป็นเหมือนกับสงครามทางวิชาการระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน โดยที่ Lieber โดนข้อหาเข้าร่วมกับโครงการ ของจีนอย่างผิดกฎหมาย ขณะที่อีก 2 คนนั้น คนหนึ่งชื่อว่า Yanqing Ye ซึ่งเป็นทหารของกองทัพประชาชนจีน โดนข้อหาพยายามขโมยเอกสารงานวิจัย และอีกคน คือ Zaosong Zheng โดนข้อหาขโมยสารตัวอย่างทางชีวภาพ (เซลล์มะเร็ง) จำนวน 21 หลอด ซึ่งทั้งสามรายนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน และก่อเหตุขึ้นในคนละมหาวิทยาลัย

"เจลแอลกอฮอล์เก็บไว้ในรถยนต์ ถ้าไม่มีเปลวไฟ ก็ไม่ติดไฟครับ" ในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้เราจะไม่เห็นว่าไฟลุกติดโชติช่วง แต่ไอระเหยของแอลกอฮอล์ที่ออกมาจากเนื้อเจลนั้น ก็สามารถติดไฟได้ ดังนั้น จริงๆ แล้ว การจุดไฟด้วยไฟแช็ค มีการติดไฟของแอลกอฮอล์ขึ้นแล้ว แต่มองไม่ค่อยเห็นชัด พอเอากระดาษทิชชูเข้าไปจ่อใส่ ทิชชู่มันก็เลยติดไฟขึ้นมาได้ ย้อนกลับมาที่การเก็บเจลแอลกอฮอล์ในรถยนต์ ถ้าแอลกอฮอล์อยู่ในภาชนะปิดมิดชิด และไม่มีเปลวไฟประกายไฟลามมาโดน เจลแอลกอฮอล์นั้น ก็จะไม่ได้ลุกไหม้รถยนต์อย่างที่กังวลกัน อย่างไรก็ตาม การเก็บแอลกอฮอล์ไว้ในที่ร้อน เช่น รถยนต์ที่ตากแดด ก็อาจจะทำให้เกิดการระเหยรั่วซึมของแอลกอฮอล์ออกจากภาชนะ จะทำให้ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์เจือจางลงได้ จึงไม่ควรเก็บไว้ที่ร้อนๆ นะครับ

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงเรื่องดังกล่าวโดยระบุว่า มีการแชร์คลิปวิดีโอกันใหญ่ว่า “วิธีตรวจสอบว่าเจลแอลกอฮอล์นั้น เป็นของแท้หรือเป็นของปลอม”โดยการเอาไปถูกกับใบเสร็จรับเงิน ถ้าละลายหมึกได้ แสดงว่าของแท้ ถ้าไม่ได้แสดงว่าของปลอม ?? เป็นเรื่องหลอกลวง ถึงแม้ในเจลจะมีแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นตัวทำละลายที่น่าจะละลายหมึกใบเสร็จได้ แต่มันมีปัจจัยแปรปรวนมากมาย ทั้งชนิดของหมึกที่ใบเสร็จ (หมึกบางตัว อาจจะไม่ละลายด้วยแอลกอฮอล์) ทั้งสารที่ใส่เพิ่มมาให้เกิดเป็นเนื้อเจล (ที่บางตัวสามารถทำให้หมึกละลายยากขึ้น) หรือแม้แต่ถ้าคิดกลับกัน เจลแอลกอฮอล์อันตรายใส่สารอื่นๆ ที่อันตรายแต่ดันละลายหมึกได้ ก็มีสิทธิที่จะมี

เนื่องจากสถานการ์ณโควิด 19 ส่งผลกระทบที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่กลับภูมิลำเนาและอาศัยอยู่แต่ในที่พัก รวมไปถึงการ work from home ครม. เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพิ่มเติม ออกนโยบายค่าไฟฟ้าฟรีกับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์

จากการที่มีแพทย์หลายท่านออกมาเตือนเรื่องหน้าฝนกับอันตรายของการแพร่กระจายไวรัสตามข่าว เนื่องจากหน้าฝนมีการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจหลายประเภท ทั้งไข้หวัด หวัดธรรมดา ซึ่งทำให้เกิดการแยกโรคได้ยาก ประกอบกับเชื้อไวรัสโควิด 19 ยังสามารถแพร่กระจายได้ในสภาวะร้อนชื้นอีกด้วย

แอลกอฮอล์ 90% หรือ 91% เข้มข้นมากเกินไป บางกรณีสารละลายที่เข้มข้นเกินไป จะทำลายที่ภายนอกของเซลล์ หรือเยื่อหุ้มเซลล์ก่อน ถึงจะเข้าไปข้างในและเกิดการฆ่าเชื้อจริง แต่หากเป็นแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% นับเป็นสัดส่วนที่เหมาะสม เพราะน้ำและแอลกอฮอล์จะเข้าไปทำลายเซลล์ทั้งหมด โดยปริมาณน้ำที่มีอยู่จะสามารถผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ เพื่อเข้าไปฆ่าเชื้อได้

จากการวิจัยเราพบว่า ผู้ป่วยโรค COVID-19 (หมายถึงมีผลตรวจเป็นบวกแล้ว) พบมี anosmia (อาการสูญเสียการได้กลิ่น) ได้ถึง 2 ใน 3 ผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่มีอาการอื่นๆ (ไข้ ไอ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล) ไม่มาก จะพบว่ามี anosmia (อาการสูญเสียการได้กลิ่น) เป็นอาการหลักถึงร้อยละ 30

ยังไม่เจองานวิจัยใดที่บอกว่าการใส่หน้ากากพวกนี้นานๆในการทำงานปกติแล้วจะเกิดภาวะเลือดเป็นกรดได้ ... ภาวะเลือดเป็นกรดนี่ก็ไม่ใช่เจอกันง่ายๆด้วย ต่อให้ขาดอากาศ ก็ต้องขาดเยอะประมาณนึงถึงจะเกิดได้ บางงานวิจัยวัดค่าดู พบว่าพื้นที่ระหว่างหน้ากับหน้ากากมันจะกักคาร์บอนไดออกไซด์ไว้นิดนึง โดยเฉพาะ N95 เพราะมันใส่แน่นแนบชิดกว่า พอหายใจก็จะมีคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มนิด ออกซิเจนต่ำลงหน่อยนึง อาจจะทำให้เวียนหัว แต่ยังไม่มีการรายงานว่าใครเสียชีวิตหรือเกิดภาวะเลือดเป็นกรด แนะนำว่าถ้ารู้สึกเวียนหัวก็แค่ถอดออกนะจ๊ะ

จากมีการเผยแพร่ข้อมูลว่าถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้นจะแจกเงินทุกบ้าน 5,000 บาทนั้นไม่เป็นความจริง ทางกระทรวงการคลังได้ชี้แจงว่าปัจจุบันรัฐบาลมีมาตรการจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท สำหรับแรงงาน ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ไม่ได้อยู่ในประกันสังคมตามมาตรา 33 และได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ลงทะเบียนในเว็บไซต์ "เราไม่ทิ้งกัน" และผ่านการคัดกรองเท่านั้น

จากการที่มีดาราชาย "เอ พศิน" โพสท์ลงอินสตาแกรมว่าใส่หน้ากากนานๆเลือดจะเป็นกรด ในขณะที่ อาจารย์ เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ได้ให้ข้อมูลว่า เรื่องนี้มีทั้งส่วนจริง และส่วนไม่จริงปนกัน คือ การใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานานๆ อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพได้ แต่ไม่น่าจะใช่เรื่อง "ภาวะเลือดเป็นกรด" การที่เลือดเป็นกรด (Acidosis) คือ ภาวะความผิดปกติของเลือดในร่างกาย ที่มีค่าพีเอช (pH) ต่ำกว่าปกติ จะเกิดขึ้นเมื่อปอดไม่สามารถขจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกทางการหายใจได้เพียงพอ จึงเกิดการสะสมของก๊าซภายในร่างกายเป็นจำนวนมาก จนทำให้เลือดมีความเป็นกรดมากกว่าปกติ ส่วนการใส่หน้ากากอนามัยนั้น โดยรวมแล้ว ไม่ได้เกิดผลเสียจากการขจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกาย แต่อาจเกิดอาการ "ขาดออกซิเจน" มากกว่าและเป็นในกรณีของหน้ากาก n95 เท่านั้นเพราะว่าปิดสนิทหมด และไม่ควรใส่หน้ากาก N95นานเกิน 1 ชั่วโมง ส่วนหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทั่วไปมีช่องให้ออกซิเจนเข้าออกได้ จึงไม่น่าจะขาดออกซิเจนได้

การใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานานๆ อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพได้ แต่ไม่น่าจะใช่เรื่อง "ภาวะเลือดเป็นกรด" . ทั้งนี้ เลือดเป็นกรด (Acidosis) คือ ภาวะความผิดปกติของเลือดในร่างกาย ที่มีค่าพีเอช (pH) ต่ำกว่าปกติ ที่ควรอยู่ในช่วง 7.35-7.45 ซึ่งถ้าภาวะกรดนี้เกิดจากระบบหายใจ ก็จะเกิดขึ้นเมื่อปอดไม่สามารถขจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกทางการหายใจได้เพียงพอ จึงเกิดการสะสมของก๊าซภายในร่างกายเป็นจำนวนมาก จนทำให้เลือดมีความเป็นกรดมากกว่าปกติ . โดยภาวะเลือดเป็นกรดจากระบบหายใจ เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคทางเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรัง, การบาดเจ็บบริเวณหน้าอก, ภาวะหรือโรคอ้วน ซึ่งอาจทำให้หายใจลำบาก, การใช้ยาที่มีฤทธิ์กดประสาทอย่างไม่เหมาะสม ทำให้การหายใจลดลง, การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินปริมาณที่พอดี, ปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท, โครงสร้างของหน้าอกผิดรูปร่าง เช่น หลังค่อม, กล้ามเนื้อหน้าอกที่เกี่ยวข้องกับการหายใจไม่แข็งแรง . จะเห็นได้ว่า การใส่หน้ากากอนามัยนั้น โดยรวมแล้ว ไม่ได้เกิดผลเสียจากการขจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกาย แต่อาจเกิดอาการ "ขาดออกซิเจน" มากกว่า ในกรณีของหน้ากาก n95 . เนื้อหาจากเพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ( เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2563 )

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ายังไม่มีการประกาศใดๆ เป็นเพียงข่าวปลอม อย่างไรก็ดี รัฐบาลจำเป็นต้องเตรียมแผนล่วงหน้าหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น เพื่อรับมือกับโควิด-19 อย่างดีที่สุด

หากคุณกับคู่รักอยู่บ้านเดียวกันอยู่แล้วก็ไม่เป็นไร อย่างไรก็ตาม หากใครคนใดคนหนึ่งแสดงอาการเสี่ยงติดโรคโควิด-19 เพียงเล็กน้อย คุณทั้งสองคนต้องกักตัวเองแม้จะอยู่บ้านเดียวกัน เราไม่ควรสรุปเอาเองว่าคุณมีอาการเล็กน้อยแล้วคู่รักของคุณจะเป็นแค่นั้นเหมือนกัน รวมทั้งไวรัสโควิด 19 สามารถแพร่ระบาดกันได้ผ่านน้ำลาย เราต้องการลดความเสี่ยงตรงนี้ให้น้อยที่สุด ควรหักห้ามใจและลองสร้างสรรค์การติดต่อกันในรูปแบบใหม่ในช่วงเวลานี้จะดีกว่า

หากมีเชื้อโรคอยู่บนพื้นผิววัสดุทองแดงทั้งจากน้ำลาย หรือเชื้อโรคอื่นๆ ที่ติดอยู่ที่นิ้วมือที่สัมผัสกับปุ่มลิฟต์ เช่น แบคทีเรียหรือไวรัส จากงานวิจัยด้านชีววิทยาพบว่าอิออนของทองแดงจะเข้าไปทำลายลิพิด เมมเบรน (Lipid membrane) ของเชื้อโรคทำให้เชื้อโรคตายไปเองในที่สุด

การนำแบงค์ไปต้ม หรือใส่ไมโครเวฟเพื่อฆ่าเชื้อ เป็นวิธีที่ผิด เพราะจะเป็นสาเหตุทำให้แบงก์ ชำรุดแล้วนำไปใช้ต่อไม่ได้

“รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์” อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ค "อ๋อ มันอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์" ตอบคำถามเรื่องเชื้อโคโรน่าไวรัส อยู่บนธนบัตรได้นาน 9 วัน จริงหรือ? ไว้ว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่าเชื้อโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ 2019 จะอยู่บนธนบัตรได้นานกี่วัน โดยในโพสต์นี้ยังระบุอีกว่า มีเพียงข้อมูลจากเชื้อที่ใกล้เคียงกัน อย่างเชื้อไวัรสโรค SARS และ MERS ที่พบว่าอยู่บนพื้นผิวต่างๆ เช่น โลหะ แก้ว และพลาสติก ได้นานหลายวันจนอาจถึง 9 วัน ขณะที่ไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีชีวิตบนพื้นผิวได้เพียง 48 ชั่วโมง

เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิหน้าผากมีประโยชน์ในการคัดกรอง แต่ไม่ได้บอกว่าติดโควิด ถ้าต้องการรู้ผลที่ชัดเจนต้องทำการตรวจซ้ำหาเชื้อโควิดอีกครั้ง

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์ COVID-19 ยืนยันว่าไม่มีการประกาศเคอร์ฟิว 24 ชม. ตามที่มีกระแสข่าวออกมา พร้อมย้ำแต่หากตัวเลขไม่ลด ก็ต้องเพิ่มมาตรการ ส่วนเอกสารที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ส่งถึงผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด เพื่อเตรียมการยกระดับ ไม่ใช่ยกระดับ ดังนั้น อย่าเข้าใจผิด

องค์การอนามัยโลกได้เปลี่ยนแปลงท่าทีล่าสุด ขณะมีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากขึ้นที่บ่งชี้ถึงข้อดี ของการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลก และได้เสริมย้ำว่า ประชาชนทั่วไปสามารถสวมใส่หน้ากากผ้าที่ทำเองได้ แต่ควรเก็บหน้ากากอนามัยให้บุคลากรทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นจริงๆ

อุโมงค์พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคนั้น อย. ขอย้ำว่าส่วนใหญ่น้ำยาที่นำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ขออนุญาตใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรคบนพื้นผิวหรือวัสดุ ไม่สามารถนำมาใช้กับผิวหนังหรือร่างกายมนุษย์ได้ เนื่องจากมีส่วนประกอบที่อาจทำให้เกิดการแพ้ ระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตา ดังนั้น การนำไปฉีดพ่นบนร่างกายมนุษย์เป็นอันตราย ควรระมัดระวังอย่างยิ่ง พร้อมย้ำว่า วิธีการที่ทำได้ง่ายและได้ผลดี คือ การอาบน้ำ สระผม ทำความสะอาดร่างกายทันทีเมื่อกลับเข้าบ้าน และให้นำเสื้อผ้าไปซักด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าในน้ำร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 70-90 องศาเซลเซียส จากนั้นนำไปตากแดดให้แห้ง นั้นปลอดภัยที่สุดและสามารถทำได้โดยง่าย

รศ.นพ.อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์ จากภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ที่ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “บันทึกเรื่องน่ารู้ by Dr.Adune” เกี่ยวกับการใส่ถุงมือเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ว่าเป็นความเชื่อที่ผิด อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการแพร่เชื่อให้กระจายเป็นวงกว้าง จึงไม่แนะนำให้บุคคลทั่วไปสวมใส่ถุงมือ

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ขอเชิญชวนผู้ป่วยที่หายจากโรค COVID-19 กลับมาเป็นผู้ให้พลาสมาที่มีภูมิต้านทานต่อไวรัส ช่วยยับยั้งไม่ให้ปอดอักเสบอย่างรุนแรง เป็นประโยชน์ต่อการรักษาผู้ป่วยต่อไป พลาสมาของผู้ป่วยที่หายจากโรค COVID-19 จะมีประโยชน์อย่างมากในการใช้รักษาผู้ป่วย COVID-19 ที่มีอาการรุนแรง ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากผู้ป่วยเปรียบเสมือนเป็นเซรุ่มใช้รักษาโรค . เนื้อหาจาก กรุงเทพธุรกิจ ( เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2563 )

เคอรี่ได้ออกมาแถลงการณ์ ว่าไม่เป็นความจริง พนักงานยังคงปฏิบัติงานกันตามจำนวนปกติทั้งสิ้นกว่า 20,000 ชีวิต และสาเหตุจากการส่งลาช้าเนื่องจาก ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19 และการประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ทำให้มีพัสดุที่ต้องการจัดส่งเพิ่มจำนวนกว่าปกติ . บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะเร่งดำเนินการจัดส่งให้เร็วที่สุด . เนื้อหาจาก เพจ Kerry Express Thailand ( เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2563 )