รายการความเห็น


11053 ความเห็น

✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
Patchaya Khamkaew
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวว่า เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดภาวะขาดแคลนอันจะเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน และเพื่อรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยและการดำรงชีวิตของประชาชน ในวันนี้กระทรวงมหาดไทย (เสนอในวันที่ 31 มีนาคม 2563) ได้นำเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดท้องที่เขตสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
anonymous
โอกาสติดสูงมากถ้าเชื้อโรคติดอยู่บนโต๊ะอาหารแล้วติดมาอยู่ในโทรศัพท์ของเรา ถือไว้ในมือ เอามาแนบหน้า มีสิทธิ์เข้าตา ปาก จมูกได้ง่ายๆโดยไม่รู้ตัว
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
Patchaya Khamkaew
การนำมะนาวหรือน้ำมะนาวหรือเกลือมาถูบริเวณหน้าผาก ไม่สามารถดูดซึมสารใดๆ ที่เป็นประโยชน์ในการบรรเทาอาการปวดไมเกรนเข้าสู่ร่างกายได้เลย นอกจากนี้ยังอาจเกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังจากความเป็นกรดอ่อนๆของมะนาวได้
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
anonymous
ข่าวฝนเหลืองที่เป็นข่าวปลอม ตามลิงค์ด้านล่างนี้
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
anonymous
"ฝนเหลือง" (Agent Orange) เริ่มสมัยยุคสงครามเวียดนามระหว่างปี 2504-2518 เพราะเป็นสารกำจัดวัชพืชชนิดรุนแรงที่ทหารอเมริกันใช้ฉีดพ่นเหนือผืนป่าอันกว้างใหญ่ของเวียดนามใต้ เพื่อทำลายป่าที่หลบซ่อนของทหารเวียดกง ไม่ใช่ฝนที่จะตกตามธรรมชาติในตอนนี้ อ่านข้อมูลฝนเหลืองตามลิงค์ด้านล่าง
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
anonymous
สถานที่ออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนสยังต้องปิดต่อไปตามประกาศของกรุงเทพมหานครฉบับที่ 4 เรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวซึ่งมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
naydoitall
การดื่มแอลกอฮอลล์จะเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานฆ่าเชื้อโรคในร่างกายได้ไม่เต็มที่ อีกทั้งการดื่มเอทิลแอลกอฮอลล์ซึ่งมีเปอร์เซนต์สูงมากกว่า 40% นั้น ร่างกายไม่สามารถรับได้ จึงเป็นการทำร้ายร่างกายมากกว่า
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
anonymous
ข้อมูลมาจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเป็นผู้ให้ข้อมูลเองโดยตรง
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
naydoitall
ล่าสุด (31 มีนาคม 2563) นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยชี้แจงผ่านการแถลงสถานการณ์ COVID-19 ถึงกระแสข่าวดังกล่าว ยืนยันว่า รองเท้าเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น ในการนำเชื้อโรคเข้าบ้าน จากการที่สวมรองเท้าเดินนอกบ้าน แล้วไปเหยียบเอาเชื้อโรคที่อยู่ตามพื้น และด้วยพฤติกรรมของคนที่จะใช้มือถอดรองเท้า ซึ่งมีความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อ เมื่อเผลอเอามือมาสัมผัสที่ใบหน้า ก็จะทำให้ติดเชื้อได้
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
⚠️️ ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
Kanomduang Edokduang
ยังไม่มีการยืนยันว่าแสงแดดสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ องค์การอนามัยโลกตอบคำถามที่เกี่ยวเนื่องว่า หลอดแสงรังสียูวี (อัลตราไวโอเลต) ไม่ควรถูกใช้ในการทำความสะอาดมือหรือส่วนใดส่วนของหนึ่งของผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ อ้างอิง https://web.facebook.com/WHOSEARO/photos/a.514495888681056/1845591085571523/?type=3&theater
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
naruemonjoy
มีการแชร์ภาพที่เหมือนกับหน้าจอข่าวสถานีโทรทัศน์ CNN พร้อมบอกว่า "การมีเซ็กส์ สามารถฆ่าเชื้อโคโรน่าไวรัสได้ เพราะอุณหภูมิในร่างกายขึ้นสูง ทำให้เชื้อตาย" ?! ภาพข่าวที่เห็นนั้น เป็นรูปของ Wolf Blitzer นักข่าวชาวอเมริกัน ของสถานี CNN และโลโก้ก็เป็นของสถานี ... แต่ทาง CNN ไม่เคยมีรายงานข่าว เกี่ยวกับการมีเซ็กซ์แล้วจะฆ่าเชื้อโคโรนาไวรัสได้ จริงๆ แล้ว ภาพนี้เป็นภาพปลอม มีการตัดต่อคำแคปชั่นต่างๆ นานา มาใส่ไว้บนภาพ รวมไปถีง "ดื่มเหล้า ฆ่าโคโรน่าไวรัส" หรือ "ว้อดก้า รักษาโคโรนาไวรัสได้" ดังนั้น จึงไม่ได้น่าเชื่อถืออะไรกับคำว่า "การมีเซ็กซ์บ่อยๆ จะฆ่าเชื้อไวรัสได้" ในขณะที่ จริงๆ แล้ว การมีเซ็กส์นั้น อาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการได้รับเชื้อโคโรน่าไวรัส เสียด้วยซ้ำ" ข้อมูลจาก https://africacheck.org/fbcheck/lots-of-sex-kills-coronavirus-no-screenshot-of-cnn-report-manipulated/ อ้างอิง: เฟสบุค อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์
ใช้ใน 2 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
naruemonjoy
ผัก ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ดอกขี้เหล็ก ยอดมะยม ใบเหลียง ยอดสะเดา มะระขี้นก ฟักข้าว ผักเชียงดา คะน้า มะรุม ผักแพว มะขามป้อม หรือมีสารกลุ่มแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารเฟลโวนอยด์ ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ลูกหม่อน และผักผลไม้หลากสี ยังช่วยเสริมการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันด้วย
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
naruemonjoy
แม้ยังไม่มีงานวิจัยรองรับ แต่อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ก็แนะนำให้ประชาชนรับประทานเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เมื่อร่างกายแข็งแรงก็ลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยได้
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
naruemonjoy
จากกรณีที่มีการพาดหัวข่าวว่า “แพทย์แนะกิน “ใบเหมียง” สร้างภูมิคุ้มกันต้านโควิด-19” ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ให้ข้อมูลว่า จากรายงานมีการพบว่าใบเหมียง หรือใบเหลียง มีสารต้านอนุมูลอิสระประเภทเบต้าแคโรทีนสูง สามารถใช้เป็นอาหารบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงได้ “แต่เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาในการต้านโรค COVID-19 ดังนั้นการเสนอข่าว (การพาดหัวข่าว) จึงต้องระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดได้”
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
💬 มีความเห็นส่วนตัว
supinya
ในช่วงเดียวกันนี้มีข่าวลือวนกลับมาในไลน์ว่ารัฐมีการออกกฎคุมการสื่อสารใหม่จากการใช้ พรก.ฉุกเฉิน ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง เป็นข่าวเก่าแล้ว มีที่มาจากหลายสาเหตุ ถ้าเห็นใครแชร์ข้อมูลลักษณะนี้วนมา ช่วยกันแจ้งแก้ไขด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
💬 มีความเห็นส่วนตัว
supinya
ควรศึกษารายละเอียดการใช้สารเคมีแต่ละประเภทว่าแบบไหนควรใช้กับพื้นผิดวัสดุ หรือ อันไหนใช้กับร่างกาย แต่ต้องมีวธีในการเจือจาง สำหรับน้ำยาซักผ้าขาว ก็ไม่ควรใช้กับร่างกาย อย่างไรก็ตามควรศึกษารายละเอียดให้รอบคอบ ปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ อาจจะลองอ่านข้อมูลเพิ่มเติมตามนี้ เราอาจไม่ต้องเข้าใจตัวสารเคมี แต่ให้รู้หลักการพื้นฐาน ว่าสินค้าตัวไหนเหมาะกับอะไร ที่สำคัญใช้แต่พอดี และ ป้องกันตนเอง ปิดปากจมูล ล้างมือหลังทำความสะอาด เป็นต้น รักษาสุขภาพกันนะคะ
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด
supinya
สารเคมีเหมาะสำหรับการใช้ทำความสะอาดพื้นผิววัสดุ เช่นซักผ้า ถูพื้น แต่ไม่ควรใช้กับร่างกาย เพราะจะมีอันตรายได้ ลองดูคำแนะนำที่นี่ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2833487143411457&id=610743119019215
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
⚠️️ ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
supinya
ถ้าใช้กับพื้นผิดวัสดุได้ แต่ไม่ควรใช้กับร่างกายเช่นล้างมือจะมีอันตราย ดูรายละเอียดคำแนะนำได้ที่นี่ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2833487143411457&id=610743119019215
ใช้ใน 0 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
น้ำชาไม่สามารถรักษาโรคแพ้อาหารได้ โปรดอย่าหลงเชื่อ มีการแชร์ให้เห็นอยู่บ่อยว่า มีน้ำชาดื่มแล้วรักษาอาการแพ้อาหารได้ ซึ่งความเป็นจริงนั้นไม่สามารถทำได้ อาการแพ้อาหาร เป็นปฏิกิริยาตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายที่เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ป่วยรับประทานอาหารบางชนิดเข้าไป โดยอาจทำให้เกิดอาการที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับทางเดินอาหารทางเดินหายใจ ผิวหนัง หรือระบบหลอดเลือดและหัวใจ ในบางรายอาจทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ชนิดรุนแรงซึ่งมีอาการที่รุนแรงและอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
กำลังเป็นที่นิยม และพูดถึงอยู่ในโลกออนไลน์กันอย่างมาก สำหรับ “ว่านจักจั่น” ที่มีลักษณะเหมือนซากจักจั่นที่ตายแล้ว และมีเหมือนต้นไม้ต้นเล็กๆ งอกออกมาจากตัวของจักจั่น เชื่อกันว่าว่านจักจั่นเป็นพืชมงคล ชาวบ้านมักเก็บไว้บูชาเพื่อความเจริญก้าวหน้าทางหน้าที่การงาน และร่ำรวยมีเงินมีทองใช้ บ้างก็นำว่านจักจั่นไปต้มน้ำดื่มทานกันเป็นกิจวัตร เพราะเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บได้สารพัด แต่อันที่จริงแล้ว นายแพทย์อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้รับรายงานพบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษจากการกินว่านจักจั่น จำนวน 2 ราย (แม่ลูกกัน) จากจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยทั้งสองคนเข้าไปหาเก็บเห็ดป่าแล้วขุดเจอว่านจักจั่น จึงนำมาทอดกินเย็นกันสองคนในช่วงเย็น จากนั้นตอนดึกของวันเดียวกัน ทั้งสองคนเริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ซึม ชัก และเกร็งกระตุก ลูกอาการหนักญาติจึงพาไปพบแพทย์ในโรงพยาบาล ส่วนแม่อาการไม่หนักให้รอที่บ้าน และญาติได้นำตัวอย่างว่านจักจั่นที่ทั้งสองคนกินก่อนมีอาการดังกล่าว มาให้แพทย์วินิจฉัยด้วย แพทย์จึงได้แจ้งทางญาติให้รีบพาผู้เป็นแม่เข้ามารับการรักษาทันที ขณะนี้ทั้งสองคนยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ซึ่งเหตุการณ์คล้ายกันแบบนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อปี 2557 ที่เกิดพร้อมกันถึง 9 ราย จากที่กินทั้งหมด 11 ราย หลังจากนำว่านจักจั่นมาทอดกินแกล้มเหล้า ทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว ชัก การรู้สึกตัวเปลี่ยน กล้ามเนื้อเกร็งกระตุก อ่อนแรง ใจสั่น และเวียนศีรษะ เป็นต้น ซึ่งทั้ง 9 ราย เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล มีผู้อาการหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 1 ราย ส่วน 2 รายที่ไม่มีอาการ เพราะกินเข้าไปแล้วรู้สึกรสชาติเฝื่อนจึงคายทิ้งก่อน ทั้งนี้ จากการสอบสวนโรคผู้ป่วยเป็นช่างรับทำโครงการหมู่บ้านจัดสรร ที่ขุดเจอว่านจักจั่นแล้วนำมาทอดกินเช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ สำหรับว่านจักจั่น ที่ชาวบ้านนำมาทอดกิน นั้น เป็นเพียงซากของจักจั่นที่ติดเชื้อราแมลงและมีอยู่ในธรรมชาติ ไม่ใช่ว่านหรือพืชที่มีต้นคล้ายเห็ดอยู่เหนือดินและหัวใต้ดินอย่างที่เข้าใจ ว่านจักจั่นจะพบมากในช่วงฤดูฝน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีความชื้นสูง เมื่อจักจั่นตัวอ่อนที่กำลังโผล่ขึ้นจากดิน เพื่อลอกคราบ จักจั่นจะอ่อนแอ จึงมีโอกาสติดเชื้อราแมลงได้ง่ายและตายในที่สุด เชื้อราแมลงก็จะเจริญเติบโตในซากจักจั่น และแทงเส้นใยออกมานอกตัวจักจั่นและเจริญโครงสร้างสำหรับสืบพันธุ์ ทำให้ดูเหมือนมีราก หรือเขาออกมาจากตัวจักจั่น ซึ่งราแมลงที่ทำให้เกิดจักจั่นติดเชื้อรานี้ มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับแมลงชนิดอื่นๆ ด้วย เช่น มด แมงมุม เพลี้ย ด้วง และหนอน เป็นต้น นายแพทย์อำนวย กล่าวต่อไปว่า จากที่ชาวบ้านนำว่านจักจั่นมาทอดกินและทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ อาจเกิดจากเชื้อราหรือจากจักจั่นหรือผลร่วมกันของทั้งเชื้อราและจักจั่น ทั้งนี้ เพราะจักจั่นสามารถอยู่ในดินได้ในระยะเวลานาน ทำให้บางคนอาจจะแพ้เชื้อรา แพ้จักจั่น หรือได้รับพิษสารเคมีที่อยู่ในดินที่ซากจักจั่นนั้นอยู่ก็ได้ ดังนั้น จึงขอเตือนประชาชนไม่ควรนำซากจักจั่นติดเชื้อรา หรือว่านจักจั่นมาบริโภค เพราะอาจเจ็บป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษ หรืออาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
แผ่นหยกให้ความร้อน เร่งการขับสารพิษหรือของเสียออกจากร่างกาย เพิ่มประสิทธิภาพของระบบต่าง ๆ  เช่น ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบประสาท ระบบกล้ามเนื้อ สามารถใช้ในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต หรือโรคมะเร็ง อยากบอกว่าข้อความพวกนี้ โอ้อวดเกินจริงทั้งนั้น  อย. เช็คชัวร์แล้ว ไม่พบข้อมูลการขออนุญาตด้านเครื่องมือแพทย์ ของแผ่นหยกให้ความร้อน และยังไม่พบสรรพคุณและประโยชน์ใด ๆ เหมือนที่โฆษณาเอาไว้เลย นอกจากนี้หากซื้อมาใช้ อาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงจากผลของความร้อนโดยคาดไม่ถึง เช่น อาจกระตุ้นให้ภาวะของโรครุนแรงมากขึ้น และยังอาจเกิดอันตรายร้ายแรงจากผลของกระแสไฟฟ้าดูดจากไฟรั่ว ไฟฟ้าลัดวงจร การเกิดเพลิงไหม้ หรือการเกิดอันตรายที่เกิดจากการใช้อย่างผิดวิธี ตลอดจนเกิดภาวะผื่นแดงหรืออาการแพ้ต่าง ๆ ได้ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณา ก่อนซื้อก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ควรสังเกตและพิจารณาว่ามีการโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินจริงหรือไม่ และมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือสนับสนุนหรือไม่ ระวังเสียเงินโดยไม่มีความจำเป็น เสียเวลา และเสียโอกาสในการรักษาโรคอย่างถูกต้องอีกด้วยนะ
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
หลายคนอาจเคยได้ยิน “เหรียญควอนตั้ม” ผ่านทางสื่อต่าง ๆ และทางการขายตรง โดยโฆษณาในลักษณะอวดอ้างสรรพคุณว่าสามารถรักษาได้สารพัดโรค เช่น ป้องกันการแข็งตัวและการเกิดลิ่มเลือดในกระแสเลือด ช่วยขจัดเซลล์ไขมัน โปรตีนส่วนเกิน และสารพิษตกค้างอื่น ๆ ช่วยลดอาการซึมเศร้า สามารถรักษาแผลเรื้อรังในโรคเบาหวาน ใช้รักษาโดยการสวมใส่ ดื่ม ทาน และชำระล้างบาดแผล เป็นต้น ซึ่งโฆษณาดังกล่าวเป็นการระบุสรรพคุณและข้อบ่งใช้ต่าง ๆ ที่เข้าข่ายเป็นเครื่องมือแพทย์ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจะต้องขออนุญาตนำเข้าเครื่องมือแพทย์ และขออนุญาตโฆษณาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และจะต้องมีเอกสารทางวิชาการที่น่าเชื่อถือสนับสนุนข้อกล่าวอ้างดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม “เหรียญควอนตั้ม” ที่โฆษณาอวดอ้างนั้น ยังไม่มีผลการศึกษาวิจัยที่น่าเชื่อถือได้มารองรับแต่อย่างใด ฉะนั้น อย่างหลงเชื่อ เพราะนอกจากจะเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์แล้ว ยังอาจทำให้เสียโอกาสในการรักษาโรคอย่างถูกต้องอีกด้วยนะ หากจะทำการรักษาโรค ควรไปพบแพทย์ เพื่อจะได้ทำการรักษาได้อย่างถูกวิธีและมีความมีความปลอดภัย
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
นึกว่ามีแค่เขาเอาปัสสาวะมาดื่มกิน โดยอ้างว่าเสริมสุขภาพหรือรักษาโรคเท่านั้นนะ ยังมีเอามาล้างตาหยอดตากันแบบนี้ด้วยหรอ ไปกันใหญ่แล้วนะครับ! บางคนเชื่อไปว่าปัสสาวะจะปราศจากเชื้อโรคใดๆ ซึ่งไม่จริงนะครับ !! เพราะถึงแม้ว่าปัสสาวะที่ร่างกายผลิตมาจากไต และเก็บไว้ในกระเพาะปัสสาวะนั้น จะไม่ควรมีเชื้อโรคใดปนอยู่ด้วยก็ตาม ..แต่เมื่อปัสสาวะเคลื่อนผ่านท่อทางเดินปัสสาวะออกมานอกร่างกาย มันก็จะชะล้างสิ่งสกปรกที่อยู่ในท่อทางเดินปัสสาวะ ซึ่งรวมถึงเชื้อโรคต่างๆด้วยถ้ามีอยู่ออกมาด้วย ถ้าเป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่ก่อโรคอะไร เข้าตาก็คงยังไม่เป็นอันตรายมากนัก แต่ถ้าคนนั้นบังเอิญเป็นโรคอื่นๆอยู่ เช่น โรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ฯลฯ ก็เป็นการหาเรื่องเอาเชื้อโรคไปป้ายตาตัวเอง จะตาบอดเอาได้ง่ายๆนะครับ
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
แก้คนเป็นลม โดยการเอานิ้วจิกริมฝีปาก ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์นะครับ อย่าเสียเวลาทำตาม เรื่องแชร์แปลกๆ เรื่องใหม่ กำลังฮอตไวรัลเลยตอนนี้ ... อ้างว่า หมอสอนให้เวลาเจอคนกำลังวูบหมดสติ ให้เอาเล็บนิ้วหัวแม่มือจิกตรงริมฝีปากใต้ร่องจมูก ทำให้ฟื้นได้ ... ไม่ใช่แนะนำทางการแพทย์แต่อย่างไรนะครับ ! วิธีปฐมพยาบาลคนเป็นลมหมดสติ (ในกรณีที่ชีพจรและการหายใจเป็นปกติ) คือ 1. ห้ามคนมุงดู ให้ผู้เป็นลมนอนราบในที่ร่ม บนพื้นแห้ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก 2. คลายเครื่องรดกุมออก เช่น ปลดกระดุมเสียทั้งนอกและใน แกะเข็มขัดออก เปิดเสียให้กว้าง ควรถอดรองเท้าและถุงเท้าด้วย 3. อาจใช้พัดโบกด้วยลมอ่อนๆ 4. ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามหน้า ตัว หน้าผาก แขนขา ไม่ควรเช็ดที่ท้อง เพราะความเย็นจะทำให้ลำไส้หดตัว อาจอาเจียนได้ 5. อาจใช้พิมเสน หรือการบูรขยี้ให้ละเอียด ทาลงบนริมฝีปากบน ถ้าไม่มีอาจใช้ยาหม่องทาบางๆ ถ้ามีแอมโมเนียอาจชุบสำลีพอหมาดๆ แกว่งไปมาใกล้ๆจมูก (ไม่ควรเอาไปรอที่จมูกเพราะอาจฉุนเกินไป) 6. อาจใช้วัสดุใกล้ๆตัว เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า ย่าม กระสอบ ที่นุ่มๆรองขาให้สูง เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ 7. ถ้าอากาศเย็นหรือหนาวควรให้อยู่ในที่อบอุ่น หรือเมื่อคลายเครื่องรัดกุมแล้ว อาจใช้ผ้าคลุมตัวไว้ เมื่อฟื้นแล้วควรไต่ถามถึงสาเหตุ ถ้าสงสัยว่าจะเป็นโรคที่ต้องรักษา ควรไปขอคำแนะนำจากแพทย์
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว
❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง
admin
ข่าวแชร์ในสื่อโซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลายว่า การดื่มกาแฟที่ผสมเนย (Butter) ลงไปในทุก ๆ เช้า จะมีประโยชน์ต่อร่างกายหลาย ๆ ด้าน เช่น ช่วยลดน้ำหนัก ป้องกันความรู้สึกหิว เร่งการเผาผลาญ ป้องกันความเมื่อยล้า อ่อนล้า และทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าตลอดทั้งวัน ซึ่งตามความจริง เนย (Butter) เป็นไขมันที่เกิดจากน้ำนมสัตว์ มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง การบริโภคเนยในปริมาณที่มากเกินไป จะส่งผลให้เกิดไขมันในหลอดเลือด เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ที่สำคัญไม่สามารถช่วยลดน้ำหนักหรือเร่งการเผาผลาญได้ 
ใช้ใน 1 ข้อความ4 ปีที่แล้ว