743 ข้อความ
- 1 คนสงสัย“กปภ.” แชมป์ข่าวปลอมลวงโลก เตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อนายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึง ผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมวันที่ 31 มี.ค. - 6 เม.ย.ว่า พบข้อความที่เข้ามา 3,156,017 ข้อความ มีข้อความที่ต้องตรวจสอบ (Verify) 195 ข้อความ แบ่งเป็นข้อความที่มาจาก Social listening จำนวน 157 ข้อความ ข้อความที่มาจาก Line Official จำนวน 37 ข้อความ Website จำนวน 1 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องตรวจสอบ 117 เรื่อง ดีอีเอสได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจ เป็น 4 กลุ่ม คือกลุ่มที่ 1 ข่าวปลอมเรื่องนโยบายรัฐบาล 50 เรื่อง กลุ่มที่ 2 ข่าวปลอมเรื่องผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย 47 เรื่อง กลุ่มที่ 3 ข่าวปลอมเรื่องภัยพิบัติ 11 เรื่อง กลุ่มที่ 4 ข่าวปลอมเศรษฐกิจ 9 เรื่อง ทั้งนี้ จากการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบล่าสุดได้รับผลการตรวจสอบ 62 เรื่อง อยู่ระหว่างประสานงาน 49 เรื่อง จึงอยากเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ ข่าวปลอมที่มีคนสนใจสูงสุด 10 อันดับมีอาทิ อันดับที่ 1 : เจ้าหน้าที่การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ติดต่อขอเลขบัญชีธนาคาร เพื่อคืนเงินค่าน้ำประปาเกิน อันดับที่ 2 : ผลิตภัณฑ์ L’ebss Ampoule Skin booster ใช้ฉีดใบหน้า อันดับที่ 3 : โทรศัพท์มือถือส่งผลต่อคลื่นสมอง ทำให้ก่อนนอนไม่สงบ หลับยาก อันดับที่ 4 :กฟภ.ส่ง SMS ให้ประชาชนตรวจสอบสิทธิการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า อันดับที่ 5 : เหงื่อซึมออกจากมือ แสดงว่ามีปัญหาทางหัวใจ อันดับที่ 6 : สปสช.ส่ง SMS แจ้งอัปเดตข้อมูลบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า อันดับที่ 7 : กรมการจัดหางาน รับสมัครผู้ช่วยโปรโมตวิดีโอและสินค้า อันดับที่8:บางจาก และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดลงทุนซื้อกองทุนรวมหุ้น PCL เพียง 1,056 บาท รับปันผล 29%.std46402• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดิบ ทำให้ร่างกายขาดน้ำหน้าแรก Main navigation หน้าแรก ข่าว เฟคนิวส์ สุขภาพปฐมภูมิ โรคอุบัติใหม่ รายงาน Infographic ชุมชนสุขภาพ Search Tuesday, 24 January 2023 ข่าวปลอม! กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดิบ ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ตามที่มีการแชร์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นเรื่องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดิบ จะถูกดูดน้ำย่อยในลำไส้ ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีบทความเตือนว่า กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดิบจะดูดน้ำย่อยในลำไส้ เกิดอาการขาดน้ำ จนทำให้เกิดภาวะช็อกได้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดิบ ไม่สามารถดูดน้ำย่อยในลำไส้ได้ จึงไม่ทำให้ร่างกายขาดน้ำ เพราะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทำมาจากแป้ง ผ่านการทำให้สุกได้ด้วยน้ำร้อน ก่อนจะนำไปทอดในน้ำมัน หรือนำไปอบแห้ง ผู้บริโภคมักจะนำมาต้มหรือใส่น้ำร้อนอีกครั้งก่อนรับประทาน เมื่อนำมาเติมน้ำร้อน หรือต้ม เส้นบะหมี่จะดูดน้ำ จนพองตัวในระดับหนึ่ง ตัวเส้นจะอ่อนนุ่ม ง่ายต่อการบริโภค หากนำมากินดิบจะเหมือนกับการกินแป้งหรือขนมปังเข้าไปในร่างกาย ไม่สามารถไปดูดน้ำย่อยในลำไส้ หรือทำให้ร่างกายขาดน้ำได้อย่างที่เข้าใจกัน แต่การกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดิบอาจทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้องได้ โดยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่อ 1 ซอง มีปริมาณโซเดียมที่สูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณโซเดียมที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ปริมาณโซเดียมที่แนะนำให้รับประทาน คือ 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน หากกินมากเกินไปจะทำให้เกิดอาหารกระหายน้ำ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไต ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ จึงไม่ควรบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกินวันละ 2 ซองstd46677• 2 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยดื่มน้ำเปล่าแล้วทำให้ตัวบวมจริงหรอการที่เราดื่มน้ำเป็นจำนวนมากมันจะทำให้เราตัวบวม เเบบนี้ได้จิงหรอu64042060117• 4 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยสาวไต้หวันเสียชีวิตกระทันหัน ผลชันสูตรพลิกศพเป็น.. - - - คุณต้องดู! ล่าสุด, ในไต้หวัน จู่ๆ เด็กหญิงคนหนึ่งเสียชีวิตจากเลือดออกจากทวารทั้งเจ็ดโดยไม่ทราบสาเหตุ จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น วินิจฉัยว่าเธอเสียชีวิตจากพิษสารหนู สารหนูมาจากไหน? ศาสตราจารย์โรงเรียนแพทย์ได้รับเชิญให้ช่วยในการสืบสวน ศาสตราจารย์ตรวจสอบสิ่งที่อยู่ในท้องของผู้ตายอย่างระมัดระวัง ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ความลึกลับของการตายอย่างกะทันหันถูกเปิดเผย ศาสตราจารย์กล่าวว่า “ผู้ตายไม่ได้ฆ่าตัวตาย และเขาก็ไม่ได้ถูกฆ่าตาย แต่ตายเพราะไม่รู้ “มันฆ่า” ทุกคนถึงกับงง ศาสตราจารย์กล่าวว่า: "สารหนูถูกผลิตขึ้นในช่องท้องของผู้ตาย" ผู้ตายได้กิน "วิตามินซี" ทุกวันก่อนที่เขาจะเสียชีวิต นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย ปัญหาคือเธอกินกุ้งเยอะมากในมื้อเย็น ตัวกุ้งเองก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ดังนั้นเธอสบายดีแม้ว่าเธอจะกินข้าวที่บ้านก็ตาม แต่ผู้ตายกิน "วิตามินซี" ไปพร้อมๆ กัน ปัญหาอยู่ตรงนี้! นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา โดยค้นพบจากการทดลองแล้วว่า อาหารเปลือกนิ่ม เช่น กุ้ง มีสารประกอบสารหนูเพนตะโพแทสเซียมสารหนูจำนวนมากซึ่งมีความเข้มข้นค่อนข้างสูง เมื่อสารนี้เข้าสู่ร่างกายแล้ว ไม่มีผลเป็นพิษต่อร่างกาย แต่, หลังจากรับประทาน “วิตามินซี” แล้ว เนื่องจากผลกระทบทางเคมี สารหนูเพนทาโปแตสเซียมดั้งเดิมปลอดสารพิษ (สารหนูแอนไฮไดรด์ เรียกอีกอย่างว่าสารหนูเพนทอกไซด์ มีสูตรทางเคมีคือ (As05) เปลี่ยนเป็นสารหนูไตรโพแทสเซียมที่เป็นพิษ (สารหนูแอนไฮไดรด์) หรือที่เรียกว่าสารหนูไตรออกไซด์ มีสูตรทางเคมีคือ (As203) นี่คือสิ่งที่คนทั่วไปเรียกว่าสารหนู! สารหนูมีฤทธิ์เป็นพิษต่อโปรโตพลาสซึม สามารถทำให้เส้นเลือดฝอยเป็นอัมพาตได้ ยับยั้งการทำงานของเมอร์แคปโตเมอร์ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดไขมันในตับ, เนื้อร้ายส่วนกลางของกลีบตับ, การอุดตันของหัวใจ, ตับ, ไตและลำไส้, เนื้อร้ายของเซลล์เยื่อบุผิว และการขยายตัวของเส้นเลือดฝอย ดังนั้นเขาจึงถูกวางยาพิษและเสียชีวิต เลือดออกจากทวารทั้งเจ็ดเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น; เพื่อเป็นการเตือนสติ ในขณะที่รับประทาน "วิตามินซี" ควรหลีกเลี่ยงกุ้ง ปัจจุบันเครื่องดื่มหลายชนิดมีวิตามินซี กุ้ง + วิตามินซี = พิษ ยาแก้หวัด + โค้ก = ยาพิษ ทุเรียน+โคล่า=พิษ ทุเรียน+ไวน์ก็เทียบเท่ากับพิษในกรณีร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ห้ามดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 8 ชั่วโมงก่อนและหลังรับประทานทุเรียน รวมทั้งไก่โชชู เป็ดขิง และอาหารที่มีแอลกอฮอล์อื่นๆ อ่านแล้ว กรุณาอย่าขี้เหนียว แบ่งปันกับเพื่อนและญาติรอบตัวคุณ!สุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 4 เดือนที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยสาวไต้หวันเสียชีวิตกระทันหัน ผลชันสูตรพลิกศพเป็น.. - - - คุณต้องดู! ล่าสุด, ในไต้หวัน จู่ๆ เด็กหญิงคนหนึ่งเสียชีวิตจากเลือดออกจากหลุมเจ็ดหลุมโดยไม่ทราบสาเหตุ ค้างคืน, เขารีบลงนรกและชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น วินิจฉัยว่าเขาเสียชีวิตจากพิษสารหนู สารหนูมาจากไหน? ศาสตราจารย์โรงเรียนแพทย์ได้รับเชิญให้ช่วยในการสืบสวน ศาสตราจารย์ตรวจสอบสิ่งที่อยู่ในท้องของผู้ตายอย่างระมัดระวัง ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ความลึกลับของการตายอย่างกะทันหันถูกเปิดเผย ศาสตราจารย์กล่าวว่า “ผู้ตายไม่ได้ฆ่าตัวตาย และเขาก็ไม่ได้ถูกฆ่าตาย แต่ตายเพราะไม่รู้ “มันฆ่า” ทุกคนถึงกับงง ศาสตราจารย์กล่าวว่า: "สารหนูถูกผลิตขึ้นในช่องท้องของผู้ตาย" ผู้ตายยังจะรับประทาน "วิตามินซี" ทุกวันก่อนที่เขาจะเสียชีวิต นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย ปัญหาคือเธอกินกุ้งเยอะมากในมื้อเย็น ตัวกุ้งเองก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ดังนั้นเธอสบายดีแม้ว่าเธอจะกินข้าวที่บ้านก็ตาม แต่ผู้ตายกิน "วิตามินซี" ไปพร้อมๆ กัน ปัญหาอยู่ตรงนี้! นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา โดยค้นพบจากการทดลองแล้วว่า อาหารเปลือกนิ่ม เช่น กุ้ง มีสารประกอบสารหนูเพนตะโพแทสเซียมสารหนูจำนวนมากซึ่งมีความเข้มข้นค่อนข้างสูง เมื่อสารนี้เข้าสู่ร่างกายแล้ว ไม่มีผลเป็นพิษต่อร่างกาย แต่, หลังจากรับประทาน “วิตามินซี” แล้ว เนื่องจากผลกระทบทางเคมี สารหนูเพนทาโปแตสเซียมดั้งเดิมปลอดสารพิษ (สารหนูแอนไฮไดรด์ เรียกอีกอย่างว่าสารหนูเพนทอกไซด์ มีสูตรทางเคมีคือ (As05) เปลี่ยนเป็นสารหนูไตรโพแทสเซียมที่เป็นพิษ (สารหนูแอนไฮไดรด์) หรือที่เรียกว่าสารหนูไตรออกไซด์ มีสูตรทางเคมีคือ (As203) นี่คือสิ่งที่คนทั่วไปเรียกว่าสารหนู! สารหนูมีฤทธิ์เป็นพิษต่อโปรโตพลาสซึม สามารถทำให้เส้นเลือดฝอยเป็นอัมพาตได้ ยับยั้งการทำงานของเมอร์แคปโตเมอร์ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดไขมันในตับ, เนื้อร้ายส่วนกลางของกลีบตับ, การอุดตันของหัวใจ, ตับ, ไตและลำไส้, เนื้อร้ายของเซลล์เยื่อบุผิว และการขยายตัวของเส้นเลือดฝอย ดังนั้นเขาจึงถูกวางยาพิษและเสียชีวิต เลือดออกจากทวารทั้งเจ็ดเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น; เพื่อเป็นการเตือนสติ ในขณะที่รับประทาน "วิตามินซี" ควรหลีกเลี่ยงกุ้ง ปัจจุบันเครื่องดื่มหลายชนิดมีวิตามินซี กุ้ง + วิตามินซี = พิษ ยาแก้หวัด + โค้ก = ยาพิษ ทุเรียน+โคล่า=พิษ ทุเรียน+ไวน์ก็เทียบเท่ากับพิษในกรณีร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ห้ามดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 8 ชั่วโมงก่อนและหลังรับประทานทุเรียน รวมทั้งไก่โชชู เป็ดขิง และอาหารที่มีแอลกอฮอล์อื่นๆ ก่อนอ่าน, กรุณาอย่าขี้เหนียว แบ่งปันกับเพื่อนและญาติรอบตัวคุณ!สุขภาพไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้วmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยดร.วาดะในญี่ปุ่นสนับสนุนการเรียกคนที่อายุมากกว่า 70 ปีว่า "คนที่โชคดี" แทนที่จะเรียก "ผู้สูงอายุ" เขาสรุปเคล็ดลับที่คนอายุ 70 ปี กลายเป็น "ผู้โชคดี" เป็น "42 ประโยค" ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 70 ปีไม่จำเป็นต้องตรวจร่างกายเป็นประจำเพราะ "มาตรฐานของสุขภาพ" แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เขายังพูดว่า "อย่าเชื่อสิ่งที่หมอพูด" เนื่องจากแพทย์ติดต่อกับ "คนไข้" จึงไม่เข้าใจว่าสุขภาพคืออะไร ในขณะเดียวกัน เขายังต่อต้านการใช้ยาหลายชนิดในระยะยาวของผู้สูงอายุ และสนับสนุนให้ "ใช้ยาเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น" กล่าวอีกนัยหนึ่ง "การรับประทานยาเพื่อป้องกันบางสิ่ง" ไม่สมเหตุสมผลเลย ตามมุมมองนี้ ผู้สูงอายุไม่จำเป็นต้องกินยานอนหลับบ่อย ๆ การอดนอนขณะอายุมากขึ้นเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ และไม่มีใครตายเพราะโรคนอนไม่หลับ. ตลอด 24 ชั่วโมง นอนเมื่อไหร่ก็ได้ ตื่นเมื่อไรก็ได้ นี่คือสิทธิพิเศษของผู้สูงอายุ นอกจากนั้น ระดับคอเลสเตอรอลที่ผู้สูงอายุโดยทั่วไปเป็นห่วง แม้จะสูงในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวล เพราะคอเลสเตอรอลเป็นวัตถุดิบสำหรับร่างกายในการสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกัน ยิ่งเซลล์ภูมิคุ้มกันมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งในผู้สูงอายุก็ยิ่งลดลงเท่านั้น นอกจากนั้น ฮอร์โมนเพศชายส่วนหนึ่งยังประกอบด้วยคอเลสเทอรอลด้วย. ถ้าระดับคอเลสเตอรอลต่ำเกินไป สุขภาพกายและจิตใจของผู้ชายจะไม่ยั่งยืน เช่นเดียวกัน ความดันโลหิตสูงไม่สำคัญเลย มากกว่า 50 ปีมาแล้ว ภาวะทุโภชนาการของมนุษย์แพร่หลาย. ดังนั้น เมื่อความดันโลหิตสูงถึงประมาณ 150 เส้นเลือดจะแตก. แต่มีไม่กี่คนที่ขาดสารอาหารในทุกวันนี้ ดังนั้นแม้แต่ความดันโลหิตมากกว่า 200 ก็จะไม่ทำให้หลอดเลือดแตก. ดร.วาดะสรุปเคล็ดลับที่คนอายุ 70 ปี กลายเป็น "คนมีโชค" เป็น "42 ประโยค" ดังนี้ 1. เดินต่อไป 2. หายใจลึก ๆ เมื่อคุณรู้สึกหงุดหงิด 3. ออกกำลังกายเพื่อไม่ให้ร่างกายรู้สึกตึง 4. ดื่มน้ำมากขึ้นเมื่อเปิดเครื่องปรับอากาศในฤดูร้อน 6. ยิ่งเคี้ยวมากเท่าไหร่ ร่างกายและสมองก็จะยิ่งมีพลังมากขึ้นเท่านั้น 7. ความจำเสื่อมไม่ใช่เพราะอายุ แต่เพราะไม่ใช้สมองในระยะยาว 8. ไม่ต้องกินยาเยอะ 9. ไม่จำเป็นต้องจงใจลดความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือด 13. ทำในสิ่งที่เธอรัก ไม่ใช่สิ่งที่เธอเกลียด 15. ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าอยู่บ้านตลอดเวลา 16. กินอะไรก็ได้ ร่างกายอ้วนก็พอดี 17. ทำทุกอย่างอย่างพิถีพิถัน 18. อย่าจัดการกับคนที่คุณเกลียด 20. แทนที่จะต่อสู้กับโรคจนถึงที่สุดจะดีกว่าที่จะอยู่กับมัน 21. "รถต้องมีทางขึ้นเขา" คือมนต์วิเศษที่ทำให้คนแก่มีความสุข 24. ถ้าเผลอหลับ ห้ามฝืน 25. ทำสิ่งที่มีความสุขดีที่สุดเพื่อกระตุ้นการทำงานของสมอง 27. หา "หมอครอบครัว" ก่อนเวลา 28. อย่าอดทนหรือบังคับตัวเองมากเกินไป ไม่มีอะไรผิดปกติกับการเป็น "คนแก่ที่ไม่ดี" 31. เลิกเรียนแล้วจะแก่ 32. อย่าโลภอยากได้ของไร้สาระ มันเป็นสิ่งที่ดีที่จะมีทุกอย่างที่คุณมีตอนนี้ 33. ความบริสุทธิ์เป็นสิทธิพิเศษของผู้สูงอายุ 34. ยิ่งมีปัญหามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเท่านั้น 36. ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น 37. อยู่อย่างสบาย ๆ วันนี้ 38. ความปรารถนาเป็นต้นกำเนิดของอายุยืน 39. ใช้ชีวิตอย่างมองโลกในแง่ดี 40. คนร่าเริงจะเป็นที่นิยม 41. กฎแห่งชีวิตอยู่ในมือของคุณเอง 42. ยอมรับทุกอย่างอย่างสงบ FORTUNATE 04/12/2022 · by deemagclinic · in neuropsychiatry · 10 Comments Let’sสุขภาพไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยลองดู สัก 1 เดือนไม่เสียเงิน / กลุ่มแพทย์ชาวญี่ปุ่น ยืนยันว่า "น้ำอุ่น"มีประสิทธิภาพ ในการแก้ปัญหาสุขภาพได้ 100% เช่น: 1 ไมเกรน 2 ความดันโลหิตสูง 3 ความดันโลหิตต่ำ 4 อาการปวดข้อ 5 เพิ่มขึ้นและลดลง ของการเต้นของหัวใจ อย่างฉับพลัน 6 โรคลมชัก 7 เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล 8 ไอ 9 ไม่สบายตัว 10 หอบหืด 11 ไอแบบช่วง 12 การอุดตันของหลอดเลือดดำ 13โรคที่เกี่ยวข้องกับมดลูกและปัสสาวะ 14 ปัญหาในกระเพาะอาหาร 15 การย่อยอาหารไม่ดี 16 โรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา หู และลำคอ 17 ปวดศีรษะ #ใช้น้ำอุ่นอย่างไร# ลุกขึ้นในตอนเช้า และดื่มน้ำอุ่นประมาณ 4 แก้ว เมื่อท้องว่างเปล่า คุณอาจจะไม่สามารถที่จะทำให้ได้ 4 แก้วในตอนที่เริ่มต้น แต่ไม่ช้าคุณจะทำได้..... #หมายเหตุ: อย่าพึ่งกินอะไรตามหลังจากดื่มน้ำผ่านไป 45 นาที การบำบัดด้วยน้ำอุ่นจะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพภายใน หรืออาการทัองผูก เช่น ○โรคเบาหวาน ภายใน 30 วัน ○ความดันโลหิต ใน 30 วัน ○ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ใน 10 วัน ○มะเร็งทุกชนิด ภายใน 9 เดือน ○การอุดตันของเส้นเลือด ใน 6 เดือน ○การย่อยอาหารไม่ดี ใน 10 วัน ○มดลูกและโรคที่เกี่ยวข้อง ใน 10 วัน ○ปัญหาจมูกหูและลำคอ ใน 10 วัน ○โรคหัวใจ ใน 30 วัน ○ปวดหัว / ไมเกรน ใน 3 วัน ○คอเลสเตอรอล ภายใน 4 เดือน ○โรคลมชักและอัมพาตอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 9 เดือน ○หอบหืด ภายใน 4 เดือน #พึงระลึกไว้เสมอว่า น้ำเย็นจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ หากน้ำเย็นไม่ส่งผลต่อคุณในวัยเด็ก ก็จะเป็นอันตรายต่อคุณในวัยชรา #น้ำเย็นจะปิด 4 หลอดเลือดดำของหัวใจและทำให้หัวใจวาย เครื่องดื่มเย็นเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอาการหัวใจวาย #นอกจากนี้ยังสร้างปัญหาในตับ ทำให้ไขมันติดอยู่กับตับ คนส่วนใหญ่รอการปลูกถ่ายตับเป็นเหยื่อของการดื่มน้ำเย็น #*น้ำเย็นส่งผลกระทบต่อผนังภายในของกระเพาะอาหาร มีผลต่อลำไส้ใหญ่ และส่งผลต่อมะเร็ง ##โปรดอย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ เพื่อตัวคุณเอง บอกให้ใครบางคนซึ่งอาจช่วยชีวิตคนอื่นได้สุขภาพมะเร็งไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: false2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยแรงนะ ญี่ปุ่นวิจารณ์ไทย แต่เป็นเรื่องจริง วันนี้มาดูญี่ปุ่นวิจารณ์ไทยกันบ้าง อ่านแล้วแสบทั้งไส้และทั้งทรวงเลย เห็นทีคนไทยต้องกลับมาพิจารณาตนเองครั้งใหญ่แล้วครับ นายเซ็ทซึโอะ อิอุจิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นประจำกรุงเทพ (Japan External Trade Organization,Bangkok : JETRO Bangkok) ระบุว่า ไทยอาจไม่เป็นประเทศที่น่าสนใจในการลงทุน เหมือนที่ผ่านมาในสายตาของนักลงทุนญี่ปุ่น โดยได้แสดงทรรศนะถึง “จุดอ่อน” ของคนไทยไว้ 10 ข้อ คือ 1.คนไทยรู้จักหน้าที่ของตัวเองต่ำมาก โดยเฉพาะ หน้าที่ต่อสังคม คือ เป็นประเภท มือใครยาวสาวได้สาวเอา เกิดเป็นธุรกิจการเมืองธุรกิจราชการ ธุรกิจการศึกษา ทำให้ประเทศชาติ ล้าหลังไปเรื่อยๆ 2.การศึกษายังไม่ทันสมัย คนไทยจะเก่งแต่ภาษาของตัวเอง ทำให้ขาดโอกาสในการแข่งขันกับต่างชาติในเวทีต่าง ๆ ไม่กล้าแสดงออก ขี้อายไม่มั่นใจในตัวเอง จึงตามหลังชาติอื่น คนมีฐานะจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอก เพื่อโอกาสที่ดีกว่า 3. มองอนาคตไม่เป็น คนไทยมากกว่า 70% ทำงานแบบไร้อนาคตทำแบบวันต่อวัน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ น้อยคนนักที่จะทำงาน แบบเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน มีเป้าหมายในอนาคตที่ชัดเจน 4.ไม่จริงจังในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ทำแบบผักชีโรยหน้า หรือทำด้วยความเกรงใจ ต่างกับคนญี่ปุ่นหรือยุโรปที่จะให้ความสำคัญกับ สัญญาหรือข้อตกลงอย่างเคร่งครัด เพราะหมายถึง ความเชื่อถือในระยะยาว ปัจจุบันคนไทยถูกลดเครดิตความน่าเชื่อถือด้านนี้ลงเรื่อย ๆ 5.การกระจายความเจริญยังไม่เต็มที่ ประชากรประมาณ 60-70% ที่อยู่ห่างไกล จะขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเอง และชุมชนซึ่งเป็น หน้าที่ของภาครัฐที่ต้องส่งเสริม 6.การบังคับกฎหมายไม่เข้มแข็ง และดำเนินการ ไม่ต่อเนื่อง ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก ปราบปรามไม่จริงจัง การดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีอำนาจ หรือบริวารจะทำแบบเอาตัวรอดไปก่อน ไม่มีมาตรฐาน 7. อิจฉาตาร้อน สังคมไทยไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษ เลี้ยงเป็นศรีธนญชัย ยกย่องคนมีอำนาจ มีเงินโดยไม่สนใจภูมิหลัง โดยเฉพาะคนที่ล้มบนฟูก แล้วไปเกาะผู้มีอำนาจ เอาตัวรอด คนพวกนี้ร้ายยิ่งกว่าผู้ก่อการร้าย ดีแต่พูด มือไม่พายเอาเท้ารานํ้า ทำให้คนดีไม่กล้าเข้ามาเพราะกลัวเปลืองตัว 8.เอ็นจีโอค้านลูกเดียว เอ็น จีโอ บางกลุ่มอิงอยู่กับ ผลประโยชน์ บ่อยครั้งที่ต้องเสียโอกาสอย่างมหาศาล เพราะการค้านหัวชนฝา เหตุผลจริง ๆ ไม่ได้พูดกัน 9.ยังไม่พร้อมในเวทีโลก การสร้างความน่าเชื่อถือ ในเวทีการค้าระดับโลกยังขาดทักษะและทีมเวิร์คที่ดีทำให้สู้ประเทศเล็ก ๆ อย่างสิงคโปร์ไม่ได้ 10. เลี้ยงลูกไม่เป็น ปัจจุบัน เด็กไทยขาดความอดทน ไม่มีภูมิคุ้มกันเป็นขี้โรคทางจิตใจ ไม่เข้มแข็ง เพราะการเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน ไม่สอนให้ลูก ช่วยตัวเอง ไม่กระตือรือร้น ในการช่วยตนเองขวนขวาย แสวงหา ค้นหาตัวเองและไม่สอนให้สำนึกผิดชอบต่อสังคม -------!!! แรงมากครับ และยอมรับทุกข้อ คำถามคือ..แล้วเราจะ เริ่มต้นแก้ไขกันอย่างไรดีครับ เป็นหน้าที่คนไทยทุกคนนะครับข่าวการเมือง เสียดสีมีมไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข้อมูลจาก รองศาสตราจารย์ Bonnie HenryBonnie Henry รองศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย เธอมีพื้นฐานด้านระบาดวิทยาและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและเวชศาสตร์ป้องกัน เธอยังมาจาก PEI (เกาะปรินซ์เอ็ดเวิร์ด) ภูมิปัญญาของดร. บอนนี่เฮนรี่ เกี่ยวกับ COVID - 19 1. เราอาจต้องอยู่กับ COVID-19 เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี อย่าปฏิเสธหรือตื่นตระหนก อย่าทำให้ชีวิตของเราไร้ประโยชน์ มาเรียนรู้ที่จะอยู่กับข้อเท็จจริงนี้กันเถอะ 2. คุณไม่สามารถทำลายไวรัส COVID-19 ที่เจาะผนังเซลล์ได้โดยการดื่มน้ำร้อนมากๆ อีกทั้งจะทำให้คุณเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้นด้วย 3. การล้างมือและรักษาระยะห่างทางกายภาพสองเมตรเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันของคุณ 4. หากคุณไม่มีผู้ป่วย COVID-19 ที่บ้านก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าเชื้อพื้นผิวที่บ้านของคุณ 5. ตู้สินค้า ปั๊มน้ำมัน รถเข็น และตู้เอทีเอ็ม ไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ หากมีการล้างมือบ่อย จากใช้ชีวิตตามปกติ 6. โควิด -19 ไม่มีความเสี่ยง ที่แสดงให้เห็นว่า COVID-19 ติดต่อทางอาหารได้ 7. คุณสามารถสูญเสียความรู้สึกในการดมกลิ่น ด้วยอาการแพ้ และการติดเชื้อไวรัสจำนวนมาก นี่เป็นเพียงอาการไม่เฉพาะเจาะจงของ COVID-19 8. เมื่ออยู่บ้าน คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร่งด่วนแล้วไปอาบน้ำ ไม่ควรถึงกับหวาดระแวง 9. ไวรัส COVID-19 ไม่ค้างอยู่ในอากาศเป็นเวลานาน นี่คือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่ต้องสัมผัสใกล้ชิด 10. อากาศสะอาด คุณสามารถเดินผ่านสวนและผ่านสวนสาธารณะ (เพียงแค่รักษาระยะป้องกันทางกายภาพของคุณ) 11. ควรใช้สบู่ธรรมดาเพื่อป้องกันไวรัสโควิด -19 ไม่ใช่สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรีย เพราะนี่คือไวรัสไม่ใช่แบคทีเรีย 12. คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการสั่งอาหารของคุณ แต่คุณสามารถอุ่นทั้งหมดในไมโครเวฟได้หากต้องการ 13. โอกาสที่จะนำ COVID-19 กลับบ้านพร้อมกับรองเท้าก็เหมือนกับการถูกฟ้าผ่า 2 ครั้งในหนึ่งวัน ฉันทำงานกับไวรัสมา 20 ปี การติดเชื้อไม่แพร่กระจายแบบนั้น 14. คุณไม่สามารถป้องกันไวรัสได้ด้วยน้ำส้มสายชูน้ำอ้อยและขิง! สิ่งเหล่านี้มีไว้เพื่อภูมิคุ้มกันไม่ใช่การรักษา 15. การสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน อาจจะรบกวนการหายใจและระดับออกซิเจนของคุณลดลง จงสวมใส่ในฝูงชนเท่านั้น 16. การสวมถุงมือก็เป็นความคิดที่ไม่ดีเช่นกัน ไวรัสสามารถสะสมเข้าไปในถุงมือและแพร่เชื้อได้ง่ายหากคุณสัมผัสใบหน้า ดังนั้นจึงควรล้างมือเป็นประจำ จะดีกว่า ภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลงเมื่อ ร่ายกายอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดเชื้อ แม้ว่าคุณจะกินอาหารเสริมภูมิคุ้มกัน แต่ควรจะออกจากบ้าน ไป สวนสาธารณะ / ชายหาดเป็นประจำ ภูมิคุ้มกันจะเพิ่มขึ้นตามการสัมผัส ไม่ใช่โดยการนั่งอยู่บ้านและบริโภคอาหารทอด / เผ็ด / หวานและเครื่องดื่มเติมอากาศ จงฉลาด ใช้ชีวิต รับทราบข้อมูล อย่างมีเหตุผล อย่าวิตก จนเกินไป ชีวิตจะปลอดภัยโควิด 2019Mrs.Doubt• 4 ปีที่แล้วmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยไร้วี่แวว ! เกือบครบวัน 4 ลูกเรือประมงไทย ยังไม่ถึงฝั่งไทย หลังนำตัวถึงเกาะสองของเมียนมาตั้งแต่ช่วงเย็น 5 ธ.ค. นี้ อ้างรอคำสั่งส่วนกลาง ส่วนญาติเดินทางไปเยี่ยม . 📌 อ่านเพิ่มเติม www.thaipbs.or.th/news/content/346984 . #ข่าวไทยพีบีเอส #ข่าวที่คุณวางใจ #ThaiPBSอันดามันไม่ระบุชื่อ• 7 เดือนที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเฟซบุ๊คช่วยลดโลกร้อนศูนย์ต่อต้านความเกลียดชังดิจิทัล (Center for Countering Digital Hate) และสถาบันเพื่อการหารือเชิงยุทธศาสตร์ (Institute for Strategic Dialogue) บอกว่า เฟซบุ๊กเข้าไปจัดการกับโพสต์ที่พยายามทำให้คนเข้าใจผิดเรื่องโลกร้อนไม่ถึง 10% ของโพสต์ที่มีเนื้อหาแบบนี้ทั้งหมดstd48146• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย"ดีอีเอส" เตือนอย่าคลิกลิงก์ข่าวปลอมแบงก์ใหญ่ปล่อยกู้ผ่านเอสเอ็มเอสสรุปผลการมอนิเตอร์ และรับแจ้งข่าวปลอมประจำสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 4-10 ก.พ. 65 พบข้อมูลเชิงลึก (Insight) ว่า ข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจมากสุด 10 อันดับแรก หลายข่าวเป็นประเด็นเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในชีวิตประจำวัน ทั้งเรื่องแบงก์ใหญ่เปิดสินเชื่อประชาชนรายย่อยแบบง่ายๆ จนไม่ควรหลงเชื่อ หรือโครงการเราชนะเฟส 4 จะแจกเงินเพิ่มKiws• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยFacebook มีส่วนทำให้คนปฏิเสธข่าวสารเรื่อง โลกร้อน จริงไหมมีงานวิจัยอ้างว่าเฟซบุ๊กไม่ระงับเนื้อหาที่บอกว่าโลกร้อนเป็นเรื่องโกหก นั่นแสดงว่า แนวคิดปฏิเสธเรื่องโลกร้อนว่าไม่มีอยู่จริง นั้นมีอยู่ในระบบสภาพอากาศtwiningno• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข้อเสียของยาลดความอ้วนยาลดความอ้วน นอนไม่หลับ ยาลดความอ้วน จะเข้าไปกดประสาท ทำให้ประสาทส่วนกลางสั่งการให้อดอาหาร ทำให้มีผลข้างเคียงเพราะร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่ควรได้รับเช่น ผิวแห้ง ปากแห้ง คอแห้ง คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะpocky18b• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย#แจ้งเตือนสัมผัสโควิด #ใช้ในไทยได้แล้ว 🤩 ใครเปิดใช้แล้วบ้าง? ตอนนี้ฟีเจอร์การแจ้งเตือนสัมผัสเชื้อโควิด เปิดใช้งานในไทยได้แล้วนะหลังรอมากเนิ่นนาน โดยเจ้าตัวนี้จะช่วยเตือนตอนเราเกิดมีความเสี่ยงทั้งไปสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ หรือไปในพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้ออยู่ บอกเลยว่ามีติดเครื่องไว้ก็ทำให้อุ่นใจในระดังนึง เพราะตอนนี้ยอดผู้ติดเชื้อก็ยังเยอะอยู่ ส่วนใครยังไม่ได้เปิดใช้ก็ไปทำตามนี้ได้เล้ย~ 👉🏻 ขั้นตอนตามนี้เลยฮะ - ไปที่ตั้งค่า - เลือกการแจ้งเตือนการสัมผัสเชื้อ - กดเปิดใช้ - แล้วจะเด้งหน้าแจ้งเตือนการสัมผัสเชื้อขึ้นมา เลือกดำเนินการต่อ - เลือกประเทศไทย ⚠️ตรงนี้ถ้าใครขึ้นว่าการแจ้งเตือนการสัมผัสเชื้อไม่มีให้ใช้ตอนนี้ให้กดเสร็จสิ้นแล้วลองทำใหม่นะ ของเปย์เป้ทำ 2 รอบถึงได้ฮะ⚠️ - จะขึ้นข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขมาให้ เลื่อนลงไปข้างล่างแล้วกดยอมรับ - กดเปิดใช้ - จะขึ้นว่าการแจ้งเตือนการสัมผัสเชื้อถูกเปิดใช้งานอยู่ ให้กดถัดไป - จะขึ้นว่าให้ข้อมูลเพื่อช่วยทำความเข้าใจการแพร่กระจายของ COVID-19 ให้กดแชร์ก็เสร็จแล้วฮะ 🤩 หรือใครอยากดูไปทีละขั้นตอนก็นี่เลย >> https://ppro.pro/3EPkGUm 😍 ปันโปรมีช่องทางอื่นให้ติดตามด้วยนะ IG : https://ppro.pro/3rH0tLB TikTok : https://ppro.pro/3AdgAmw Twitter : https://ppro.pro/3gn3LND กดติดตามไว้ ไม่พลาดทุกโปรโมชันดี ๆ ที่เปย์เป้จัดให้ ❤️ #ปันโปร #ปันโปรบอกข่าว #SaveForMoreโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยกระทรวงพาณิชย์ ลดราคาสินค้าจำเป็น 72 รายการ ลดสูงสุดถึง 58% ถึง 30 มิย. 63เพื่อช่วยเหลือประชาชนในภาวะวิกฤตที่กำลังเผชิญการระบาดของ COVID-19้ ทำรายได้ลดลงผู้ผลิตสินค้า รวมทั้งห้างค้าปลีกพร้อมให้ความร่วมมือลดราคาสินค้าร้อยละ 5-58 ในสินค้าจำเป็น 6 หมวด จำนวน 72 รายการ ได้แก่ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ข้าวสาร น้ำมันปาล์ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และนม หมวดอาหารปรุงสำเร็จแช่แข็ง ลดราคาผ่านเซเว่น-อีเลฟเว่น และซีพีเฟรชมาร์ท หมวดซอสปรุงรส เช่น ซีอิ้วขาว-ซีอิ๋วดำตราเด็กสมบูรณ์ ซอสหอยนางรม เต้าเจี้ยว หมวดของใช้ประจำวัน เช่น กระดาษชำระ แป้งเด็ก ยาสีฟัน แปรงสีฟัน และผ้าอนามัย หมวดผลิตภัณฑ์ชำระร่างกาย เช่น สบู่ แชมพู โฟมล้างหน้า หมวดผลิตภัณฑ์ซัก-ล้าง เช่น น้ำยาทำความสะอาดผ้า น้ำยาล้างขวดนม และน้ำยาทำความสะอาดพื้น รวมแล้ว 72 รายการ ในห้างที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ลดราคาร้อยละ 5 - 58 ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2563โควิด 2019anonymous• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเชื้อไวรัสโคโรนาสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสทางอากาศ (airborne transmission)นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC" ระบุถึงข้อมูลล่าสุด ที่สนับสนุนว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ระยะฟักตัว สามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสทางอากาศ (airborne transmission) ไม่ต่างจากวัณโรค ปัจจุบันมีหลักฐานจากการทดลองในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถล่องลอยมีชีวิตอยู่ในอากาศนานถึง 3 ชั่วโมงโควิด 2019naruemonjoy• 5 ปีที่แล้วmeter: mostly-false--middle3 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอุดร โควิดอุดรธานี พบผู้ติดเชื้อโควิดรายแรก ชายไทยอายุ 30 เปิดไทม์ไลน์ผู้เสี่ยงกว่า 500 คนโควิด 2019qweasd• 5 ปีที่แล้วmeter: true2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยใต้หน้ากากประชาธิปไตยก้าวไกล... 1. การแก้ไข ม. 112 เป็นเพียงเป้าหลอก เพราะก้าวไกลรู้อยู่แล้วว่าตนเพียงพรรคเดียว ไม่สามารถดำเนินการได้ตามช่องทางรัฐสภาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะสมัยประชุมนี้หรือสมัยประชุมไหน แต่ที่ยังต้องชูประเด็นแก้ไข ม. 112 ก็เพื่อต้องการสร้างประเด็นความขัดแย้งขึ้นในสังคมไทย ความจริงแล้วคือหลุมพรางที่วางไว้ 2. แผนการปฏิรูปกองทัพ นี่ต่างหากคือของจริง ระเบิดลูกโตอยู่ตรงนี้ การยกเลิก กอรมน. การลดขนาดกองทัพให้มีขนาดจิ๋ว แต่อ้างว่าทรงประสิทธิภาพ (จิ๋วแต่แจ๋ว) ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ยกเลิก ร.ด. เพราะก้าวไกลตระหนักดีว่ากองทัพจะอยู่เคียงข้างสถาบันพระมหากษัตริย์เสมอ ตราบใดที่กองทัพยังมีความเข้มแข็ง ย่อมไม่อาจโยกคลอนสถาบันพระมหากษัตริย์ที่หยั่งรากฝังลึกในดินแดนสุวรรณภูมิแห่งนี้มากว่า 1,000 ปีได้ จะโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ ก่อนอื่นต้องทำให้กองทัพที่เข้มแข็งอ่อนแอลง ทำให้ประชาชนสิ้นศรัทธาต่อทหารพระราชา โดยการสร้างข่าวลบให้เกิดขึ้นในกองทัพไปพร้อมๆกับการยกเลิก กอรมน. ร.ด. ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และเปลี่ยนแปลงการบริหารจัดการกองทัพให้ย่อหย่อนลง กลายเป็นคณะปาหี่ที่ไม่มีทั้งกำลัง อาวุธ และงบประมาณ 3. กอรมน. จะเป็นหน่วยทหารหน่วยแรกที่ถูกก้าวไกลยุบทันทีที่ได้เป็นรัฐบาล ตามด้วย ร.ด. และยกเลิกการเกณฑ์ทหาร /ยกเลิกหน่วยทหารสามารถทำได้ทันทีไม่ต้องผ่านสภา 4. กอรมน. เป็นหน่วยทหารที่ทำหน้าที่หาข่าว และสร้างสัมพันธมนชน หากสามารถจัดการกับ กอรมน. ลงได้ก็เท่ากับปิดหูปิดตากองทัพและสถาบันได้ 5. การนำพลเรือนเข้าแทนที่ กอรมน. เท่ากับเป็นการสร้างการข่าวและสัมพันธมนชน เสริมความแข็งแกร่งให้กับก้าวไกลเตรียมพร้อมเผด็จศึกขั้นเด็ดขาด เพราะก้าวไกลเชื่อว่าจะสามารถยึดกุมพลเรือนได้ง่ายดายยิ่งกว่ากองทัพ เนื่องจากพลเรือนไม่ได้ถูกปลูกฝังให้จงรักภักดีต่อสถาบันอย่างเข้มข้นเช่นเดียวกับกองทัพ 6. ยอมให้สหรัฐเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทย เมื่อถึงเวลาเกิดความวุ่นวายภายในขึ้น ก้าวไกลก็จะใช้กองทัพสหรัฐที่มีศักยภาพสูงกว่ากำหราบ กองทัพของประเทศ ทหารพระราชาที่ถูกบั่นทอนกำลังลงด้วยวิธีการอันแยบยลก็จะกลายเป็นแค่มดปลวกที่ถูกบดขยี้ลงอย่างง่ายดาย 7. การยุยงปลุกปั่นให้มีการแบ่งแยกดินแดน บิดเบือนประวัติศาสตร์ด้ามขวาน กอบกู้รัฐมุสลิมปาตานี จะกลายเป็นชนวนเหตุของการแบ่งแยกดินแดนทั้งประเทศ เหนือล้านนา อีสานล้านช้าง เกิดความวุ่นวายภายในขึ้น 8. เมื่อสถานการณ์สุกงอม ทุกอย่างเข้าสู่สภาวะเสื่อม เป้าหมายสุดท้ายของก้าวไกลก็คือการเปลี่ยนประเทศให้เป็นสาธารณรัฐไทย 9. เมื่อสิ้นสุดการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ม.112 จะยังคงมีอยู่หรือไม่ล้วนไม่สำคัญอีกต่อไป นี่หรือประเทศที่ท่านทั้งหลายเฝ้าถวิลหา ประเทศที่อาจมีความเท่าเทียม แต่จะไร้ซึ่งความสงบสุข แล้วความเท่าเทียมที่ถวิลหานั้นจะอยู่กับเราได้นานเพียงใด กานต์ ปิงเมือง 15 ก.ค. 66ข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยปคบ.-อย.ทลายโกดังสินค้า จับครีมปลอม เลียนแบบยี่ห้อดังทีมดารานักแสดง พรีเซ็นเตอร์ ผลิตภัณฑ์ทาใบหน้ายี่ห้อหนึ่ง เข้าติดตามคดีปลอมแปลงสินค้าจัดจำหน่ายให้ประชาชน โดยตำรวจ ปคบ.ร่วมกับ อย.บุกปิดโกดังสินค้า ยึดผลิตภัณฑ์ได้มากกว่า 4,000 กล่อง วันนี้ (8 มิ.ย.2564) ตำรวจ ปคบ.และเจ้าหน้าที่ อย.เข้าตรวจค้นโกดังเก็บสินค้า ซอยกำนันแม้น 13 แขวงคลองบางพราน เขตบางบอน พบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ยี่ห้อ ดร.จิลล์ จำนวน 4,400 กล่อง และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Facial Mark BLOOD ORANGE จำนวน 38,400 ซอง หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีการลักลอบผลิตเครื่องสำอางประเภทครีมทาใบหน้าและจัดจำหน่ายในราคาถูกกว่าราคาท้องตลาด จึงสงสัยว่าอาจเป็นการปลอมแปลงสินค้า พ.ต.อ.เนติ วงศ์กุหลาบ ผู้กำกับการ 4 ปคบ.เปิดเผยว่า การตรวจค้นจับผู้ต้องหาชาวจีนได้ 1 คน และพบว่าสินค้าในโกดังทั้งหมดเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางปลอม ผลสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาสารภาพว่าอยู่เมืองไทยมานานและทราบว่าผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนี้มีชื่อเสียง มีดารา นักแสดงหลายคนเป็นพรีเซ็นเตอร์ จึงเลือกปลอมสินค้ายี่ห้อโดยผลิตในต่างประเทศและนำเข้ามาติดสลากเลียนแบบนี้ ก่อนจำหน่ายในตลาดออนไลน์ และจัดจำหน่ายในราคาถูกกว่าราคาปกติค่อนข้างมาก ด้านเภสัชกรหญิง สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการ อย.กล่าวว่า การตรวจสอบเบื้องต้น ผลิตภัณฑ์ล็อตของผู้ต้องหา ผลิตไม่ตรงตามสูตรที่แจ้งไว้กับทาง อย. และไม่ได้ผลิตในโรงงานที่แจ้งไว้เช่นกัน จีงมีความชัดเจนว่าเป็นผลิตภัณฑ์ปลอม ส่วนสูตรผสมที่ปลอมขึ้น ยังไม่ได้ตรวจแยกสารว่าจะมีอันตรายต่อผู้ใช้หรือไม่ ตำรวจยังระบุด้วยว่าที่ผู้ต้องหาจัดจำหน่ายราคาถูก แล้วผู้บริโภคหลงเชื่อ เพราะอ้างว่าสินค้าซื้อตัดล็อตของไม่เสียภาษี และขายในที่ราคาถูก เตือนประชาชนควรระวังการซื้อของในราคาถูกกว่าราคาโดยทั่วไปจนเกินปกติ หรือซื้อกับบริษัทโดยตรง ขณะเดียวกัน ทีมดารานักแสดง ผู้เป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์เข้าร่วมติดตามการจับผู้ต้องหา เปิดเผยว่า อยากให้ประชาชนระมัดระวังการเลือกซื้อสินค้าผ่านตัวแทน หรือช่องทางอื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ หรือหน้าร้านของสินค้าโดยตรง เพราะเห็นว่ามีราคาถูก แต่สินค้าปลอมเมื่อซื้อไปใช้แล้ว แม้อาจจะไม่เกิดผลร้าย แต่ก็อาจจะไม่เกิดคุณ หรือประโยชน์ต่อผู้บริโภค เป็นการสูญเงินเปล่า นอกจากนี้ อย.เตือนผู้บริโภคก่อนซื้อยา ผลิตภัณฑ์สมุนไพร อาหาร เครื่องสำอาง ควรตรวจสอบข้อมูลอนุญาตทาง Oryor Smart Application หรือเว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th ก่อนทุกครั้ง และไม่ซื้อเครื่องสำอางที่ไม่มีเลขจดแจ้ง ไม่มีฉลากหรือแสดงฉลากเป็นภาษาต่างประเทศ หรือที่มีราคาถูกเกินไป และอย่าหลงเชื่อโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณที่เกินไปจากความเป็นเครื่องสำอาง สำหรับผู้กระทำความผิด เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ฐาน "ขายเครื่องสำอางปลอม" มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, "ขายเครื่องสำอางที่มีฉลากไม่ถูกต้อง" มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, "ขายเครื่องสำอางที่มิได้จดแจ้ง" มีอัตราโทษ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ฐาน "จำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร" มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับความสวยความงามอย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังธนวิชญ์ วินารัตน์• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโควิด-19 ภูมิต้านทานหลังฉีดวัคซีน AstraZeneca 1 เข็ม ยง ภู่วรวรรณ ทางศูนย์ได้ศึกษาภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีน AstraZeneca ในคนไทย หลังเข็มแรกเป็นระยะเวลา 1 เดือน จำนวน 61 คน เป็นการรายงานเบื้องต้น ภูมิต้านทานที่ตรวจพบ มีการตอบสนอง ตรวจวัดภูมิต้านทานได้ถึงร้อยละ 96.7 เมื่อเปรียบเทียบกับการตรวจวัดภูมิต้านทานในผู้ป่วยที่หายจากการติดเชื้อ เป็นระยะเวลา 4- 8 สัปดาห์ตรวจพบได้ร้อยละ 92.4 ดังแสดงในรูป ระดับภูมิต้านทานที่ตรวจวัดได้ มีค่าตัวกลางเรขาคณิตเท่ากับ 40.61 u/ml เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่หายจากการติดเชื้อ มีค่าเท่ากับ 60.86 u/ml ดังแสดงในรูป พบว่าระดับภูมิต้านทานที่พบเพศหญิงจะให้ระดับภูมิต้านทานที่สูงกว่าเพศชาย อายุที่น้อยกว่า 60 ปีจะมีระดับภูมิต้านทานที่สูงกว่าผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ขณะนี้กำลังรอวิเคราะห์ข้อมูลที่มีจำนวนมากขึ้นกว่านี้ และจะมีการตรวจเลือดหาภูมิต้านทานก่อนฉีดเข็มที่ 2 อีก 1 ครั้ง และหลังเข็ม 2 แล้ว 1 เดือนภูมิต้านทานน่าจะมีระดับสูงมาก และอยู่นาน จากข้อมูลดังกล่าวพอสรุปได้ว่าแม้จะฉีดวัคซีน AstraZeneca เพียงเข็มเดียว ระดับภูมิต้านทานที่ตรวจวัดได้ก็เป็นที่น่าพอใจ มีอยู่ 1 ราย ที่ฉีดวัคซีน Sinovac เข็มแรกแล้วเกิดอาการแพ้ เลยฉีดเข็มที่ 2 ใน 3 อาทิตย์ต่อมา ด้วยวัคซีน AstraZeneca และตรวจเลือดเมื่อ 1 เดือนหลังฉีดวัคซีน AZ พบระดับภูมิต้านทานสูงมากสูงถึง 241 u/ml อย่างไรก็ตามยังไม่มีการศึกษาการฉีดวัคซีนเปลี่ยนชนิดกัน ในกรณี ที่เกิดเหตุการฉีดวัคซีนต่างชนิดกัน ขอความกรุณาติดต่อผมขอตรวจภูมิต้านทานด้วย เพื่อเก็บเป็นข้อมูลและรวมถึงอาการข้างเคียงที่อยากทราบมาก และการเปลี่ยนชนิดของวัคซีนเป็นเรื่องที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง การปูพรมฉีดเข็มเดียวไปก่อนให้ได้ประชากรมากที่สุด ด้วยวัคซีน AstraZeneca จะได้ประโยชน์สูงสุดแล้วตามด้วยกระตุ้นอีก 10 ถึง 12 สัปดาห์ต่อมา หรือนานกว่านั้น หมายความว่าในช่วง 3 เดือนแรก น่าจะปูพรมการฉีดวัคซีนไปเลย ถ้าฉีดได้เดือนละ 10 ล้านคน ก็สามารถปูพรมไปได้ถึง 30 ล้านคนทีเดียว แล้วหลังจากนั้นก็ตามกระตุ้นรวมทั้งฉีดรายใหม่เพิ่มขึ้นด้วย ก็จะได้เป้าหมายอย่างรวดเร็ว และถ้ามีวัคซีนชนิดอื่นมาเสริมด้วยแล้ว จะทำให้การให้วัคซีนกับประชาชนหมู่มากประสบผลสำเร็จเร็วยิ่งขึ้น #หมอยงโควิด 2019วัคซีนโควิดไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยBonnie Henry เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำจังหวัดบริติชโคลัมเบียซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกในตำแหน่งนี้ เธอยังเป็นรองศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย เธอมีพื้นฐานด้านระบาดวิทยาและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและเวชศาสตร์ป้องกัน เธอยังมาจาก PEI (เกาะปรินซ์เอ็ดเวิร์ด) ภูมิปัญญาของดร. บอนนี่เฮนรี่ 1. เราอาจต้องอยู่กับ COVID-19 เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี อย่าปฏิเสธหรือตื่นตระหนก อย่าทำให้ชีวิตของเราไร้ประโยชน์ มาเรียนรู้ที่จะอยู่กับข้อเท็จจริงนี้กันเถอะ 2. คุณไม่สามารถทำลายไวรัส COVID-19 ที่เจาะผนังเซลล์ได้โดยการดื่มน้ำร้อนมากๆ อีกทั้งจะทำให้คุณเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้นด้วย 3. การล้างมือและรักษาระยะห่างทางกายภาพสองเมตรเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันของคุณ 4. หากคุณไม่มีผู้ป่วย COVID-19 ที่บ้านก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าเชื้อพื้นผิวที่บ้านของคุณ 5. ตู้สินค้า ปั๊มน้ำมัน รถเข็น และตู้เอทีเอ็ม ไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ หากมีการล้างมือบ่อย จากใช้ชีวิตตามปกติ 6. โควิด -19 ไม่มีความเสี่ยง ที่แสดงให้เห็นว่า COVID-19 ติดต่อทางอาหารได้ 7. คุณสามารถสูญเสียความรู้สึกในการดมกลิ่น ด้วยอาการแพ้ และการติดเชื้อไวรัสจำนวนมาก นี่เป็นเพียงอาการไม่เฉพาะเจาะจงของ COVID-19 8. เมื่ออยู่บ้าน คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร่งด่วนแล้วไปอาบน้ำ ไม่ควรถึงกับหวาดระแวง 9. ไวรัส COVID-19 ไม่ค้างอยู่ในอากาศเป็นเวลานาน นี่คือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่ต้องสัมผัสใกล้ชิด 10. อากาศสะอาด คุณสามารถเดินผ่านสวนและผ่านสวนสาธารณะ (เพียงแค่รักษาระยะป้องกันทางกายภาพของคุณ) 11. ควรใช้สบู่ธรรมดาเพื่อป้องกันไวรัสโควิด -19 ไม่ใช่สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรีย เพราะนี่คือไวรัสไม่ใช่แบคทีเรีย 12. คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการสั่งอาหารของคุณ แต่คุณสามารถอุ่นทั้งหมดในไมโครเวฟได้หากต้องการ 13. โอกาสที่จะนำ COVID-19 กลับบ้านพร้อมกับรองเท้าก็เหมือนกับการถูกฟ้าผ่า 2 ครั้งในหนึ่งวัน ฉันทำงานกับไวรัสมา 20 ปี การติดเชื้อไม่แพร่กระจายแบบนั้น 14. คุณไม่สามารถป้องกันไวรัสได้ด้วยน้ำส้มสายชูน้ำอ้อยและขิง! สิ่งเหล่านี้มีไว้เพื่อภูมิคุ้มกันไม่ใช่การรักษา 15. การสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน อาจจะรบกวนการหายใจและระดับออกซิเจนของคุณลดลง จงสวมใส่ในฝูงชนเท่านั้น 16. การสวมถุงมือก็เป็นความคิดที่ไม่ดีเช่นกัน ไวรัสสามารถสะสมเข้าไปในถุงมือและแพร่เชื้อได้ง่ายหากคุณสัมผัสใบหน้า ดังนั้นจึงควรล้างมือเป็นประจำ จะดีกว่า ภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลงเมื่อ ร่ายกายอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดเชื้อ แม้ว่าคุณจะกินอาหารเสริมภูมิคุ้มกัน แต่ควรจะออกจากบ้าน ไป สวนสาธารณะ / ชายหาดเป็นประจำ ภูมิคุ้มกันจะเพิ่มขึ้นตามการสัมผัส ไม่ใช่โดยการนั่งอยู่บ้านและบริโภคอาหารทอด / เผ็ด / หวานและเครื่องดื่มเติมอากาศ จงฉลาด ใช้ชีวิต รับทราบข้อมูล อย่างมีเหตุผล อย่าวิตก จนเกินไป ชีวิตจะปลอดภัยโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: false1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยลองดู สัก 1 เดือนไม่เสียเงิน / กลุ่มแพทย์ชาวญี่ปุ่น ยืนยันว่า "น้ำอุ่น"มีประสิทธิภาพ ในการแก้ปัญหาสุขภาพได้ 100% เช่น: 1 ไมเกรน 2 ความดันโลหิตสูง 3 ความดันโลหิตต่ำ 4 อาการปวดข้อ 5 เพิ่มขึ้นและลดลง ของการเต้นของหัวใจ อย่างฉับพลัน 6 โรคลมชัก 7 เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล 8 ไอ 9 ไม่สบายตัว 10 หอบหืด 11 ไอแบบช่วง 12 การอุดตันของหลอดเลือดดำ 13โรคที่เกี่ยวข้องกับมดลูกและปัสสาวะ 14 ปัญหาในกระเพาะอาหาร 15 การย่อยอาหารไม่ดี 16 โรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา หู และลำคอ 17 ปวดศีรษะ #ใช้น้ำอุ่นอย่างไร# ลุกขึ้นในตอนเช้า และดื่มน้ำอุ่นประมาณ 4 แก้ว เมื่อท้องว่างเปล่า คุณอาจจะไม่สามารถที่จะทำให้ได้ 4 แก้วในตอนที่เริ่มต้น แต่ไม่ช้าคุณจะทำได้..... #หมายเหตุ: อย่าพึ่งกินอะไรตามหลังจากดื่มน้ำผ่านไป 45 นาที การบำบัดด้วยน้ำอุ่นจะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพภายใน หรืออาการทัองผูก เช่น ○โรคเบาหวาน ภายใน 30 วัน ○ความดันโลหิต ใน 30 วัน ○ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ใน 10 วัน ○มะเร็งทุกชนิด ภายใน 9 เดือน ○การอุดตันของเส้นเลือด ใน 6 เดือน ○การย่อยอาหารไม่ดี ใน 10 วัน ○มดลูกและโรคที่เกี่ยวข้อง ใน 10 วัน ○ปัญหาจมูกหูและลำคอ ใน 10 วัน ○ปัญหาผู้หญิง ใน 15 วัน ○โรคหัวใจ ใน 30 วัน ○ปวดหัว / ไมเกรน ใน 3 วัน ○คอเลสเตอรอล ภายใน 4 เดือน ○โรคลมชักและอัมพาตอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 9 เดือน ○หอบหืด ภายใน 4 เดือน #พึงระลึกไว้เสมอว่า น้ำเย็นจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ หากน้ำเย็นไม่ส่งผลต่อคุณในวัยเด็ก ก็จะเป็นอันตรายต่อคุณในวัยชรา #น้ำเย็นจะปิด 4 หลอดเลือดดำของหัวใจและทำให้หัวใจวาย เครื่องดื่มเย็นเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอาการหัวใจวาย #นอกจากนี้ยังสร้างปัญหาในตับ ทำให้ไขมันติดอยู่กับตับ คนส่วนใหญ่รอการปลูกถ่ายตับเป็นเหยื่อของการดื่มน้ำเย็น #*น้ำเย็นส่งผลกระทบต่อผนังภายในของกระเพาะอาหาร มีผลต่อลำไส้ใหญ่ และส่งผลต่อมะเร็ง ##โปรดอย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ เพื่อตัวคุณเอง บอกให้ใครบางคนซึ่งอาจช่วยชีวิตคนอื่นได้นลดความอ้วนมะเร็งไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle1 ความเห็น
- 2 คนสงสัยน้ำอุ่น มีประสิทธิภาพแก้ปัญหาสุขภาพได้ 100 % จริงหรือลองดู สัก 1 เดือนไม่เสียเงิน / กลุ่มแพทย์ชาวญี่ปุ่น ยืนยันว่า "น้ำอุ่น"มีประสิทธิภาพ ในการแก้ปัญหาสุขภาพได้ 100% เช่น: 1 ไมเกรน 2 ความดันโลหิตสูง 3 ความดันโลหิตต่ำ 4 อาการปวดข้อ 5 เพิ่มขึ้นและลดลง ของการเต้นของหัวใจ อย่างฉับพลัน 6 โรคลมชัก 7 เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล 8 ไอ 9 ไม่สบายตัว 10 หอบหืด 11 ไอแบบช่วง 12 การอุดตันของหลอดเลือดดำ 13โรคที่เกี่ยวข้องกับมดลูกและปัสสาวะ 14 ปัญหาในกระเพาะอาหาร 15 การย่อยอาหารไม่ดี 16 โรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา หู และลำคอ 17 ปวดศีรษะ #ใช้น้ำอุ่นอย่างไร# ลุกขึ้นในตอนเช้า และดื่มน้ำอุ่นประมาณ 4 แก้ว เมื่อท้องว่างเปล่า คุณอาจจะไม่สามารถที่จะทำให้ได้ 4 แก้วในตอนที่เริ่มต้น แต่ไม่ช้าคุณจะทำได้..... #หมายเหตุ: อย่าพึ่งกินอะไรตามหลังจากดื่มน้ำผ่านไป 45 นาที การบำบัดด้วยน้ำอุ่นจะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพภายใน หรืออาการทัองผูก เช่น ○โรคเบาหวาน ภายใน 30 วัน ○ความดันโลหิต ใน 30 วัน ○ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ใน 10 วัน ○มะเร็งทุกชนิด ภายใน 9 เดือน ○การอุดตันของเส้นเลือด ใน 6 เดือน ○การย่อยอาหารไม่ดี ใน 10 วัน ○มดลูกและโรคที่เกี่ยวข้อง ใน 10 วัน ○ปัญหาจมูกหูและลำคอ ใน 10 วัน ○ปัญหาผู้หญิง ใน 15 วัน ○โรคหัวใจ ใน 30 วัน ○ปวดหัว / ไมเกรน ใน 3 วัน ○คอเลสเตอรอล ภายใน 4 เดือน ○โรคลมชักและอัมพาตอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 9 เดือน ○หอบหืด ภายใน 4 เดือน #พึงระลึกไว้เสมอว่า น้ำเย็นจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ หากน้ำเย็นไม่ส่งผลต่อคุณในวัยเด็ก ก็จะเป็นอันตรายต่อคุณในวัยชรา #น้ำเย็นจะปิด 4 หลอดเลือดดำของหัวใจและทำให้หัวใจวาย เครื่องดื่มเย็นเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอาการหัวใจวาย #นอกจากนี้ยังสร้างปัญหาในตับ ทำให้ไขมันติดอยู่กับตับ คนส่วนใหญ่รอการปลูกถ่ายตับเป็นเหยื่อของการดื่มน้ำเย็น #*น้ำเย็นส่งผลกระทบต่อผนังภายในของกระเพาะอาหาร มีผลต่อลำไส้ใหญ่ และส่งผลต่อมะเร็ง ##โปรดอย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ เพื่อตัวคุณเอง บอกให้ใครบางคนซึ่งอาจช่วยชีวิตคนอื่นได้ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 2 คนสงสัยได้ข้อมูลจาก คุณ พงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร มติชน อ่านเลย! มีประโยชน์ช่วยคนได้ครับ.... ท่านผู้นี้ชื่อจริงไชยวรรณ พิมพนิช คนส่วนมากเรียกติดปากว่าพ่อเลี้ยงวรรณ เป็นคนแม่สอดจ.ตาก มีอาชีพทำการเกษตร ปลูกมันสำปะหลังปลูกอ้อย ปลูกส้ม สุดท้ายก็มาปลูกกล้วยส่งต่างประเทศ ก็ทำมาสิบกว่าปีแล้ว มีลูกชายสามคนจบปริญญาโทด้านการเกษตรทั้งสามคน คนโตเรียนพืชไร่ คนที่สองเรียนพืชสวน คนที่สามเรียนส่งเสริมการเกษตร ปัจจุบันอายุก็หกสิบกว่าแล้ว ปกติจะเป็นคนชอบออกกำลังกาย สุขภาพก็แข็งแรงดี เพื่อนๆหรือคนรู้จักจะชมว่าทำไมอายุมากขนาดนี้ถึงแข็งแรงเดินเหินได้สบาย @ เข้าตรวจอาการที่โรงพยาบาล @ อยู่มาไม่นานเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเกิดอาการปวดที่หลังและไม่หายประมาณ 2 เดือนกว่า รักษาหลายวิธีทั้งแช่น้ำอุ่นและให้หมอนวด ก็ไม่หาย วันหนึ่งไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯเพื่อนเป็นหมอ อาตมาเล่า(ขณะที่เล่า..บวชแล้ว) ให้เพื่อนฟังว่าปวดหลังมา สองเดือนกว่าแล้วไม่หายสักที เพื่อนก็นิ่งแล้วมองหน้ากันเขาไม่พูดอะไร สักพักเพื่อนก็พูดขึ้นมาว่าเอกซเรย์หน่อยดีไหม เพราะคนปกติปวดธรรมดาทั่วๆไป กล้ามเนื้ออักเสบเอ็นพลิก ใช้เวลาประมาณ 3 อาทิตย์ก็หายแล้ว แต่พ่อเลี้ยงวรรณ ปวดจากหลังลามมาถึงหน้าอก 2 เดือนแล้วไม่หายต้องเอกซเรย์หน่อย พอเอกซ์เรย์เสร็จ ก็เห็นว่ามันมีรอยจุดด่างๆอยู่ 2 จุด หมอบอกว่ายังไม่แน่ใจนะต้องเข้าเครื่องสะแกน เข้าเครื่อง สะแกน 1 ชั่วโมง ก็ยังไม่ทราบผล พอออกมาจากเครื่องสะแกนก็กลับบ้าน หมอบอกว่า 10 โมงเช้าพรุ่งนี้ค่อยมาฟังผล เพราะ ฟิมล์ผลตรวจจะออกมาวันพรุ่งนี้ รุ่งขึ้น 10 โมงเช้าก็ไปโรงพยาบาล มีหมอ 4-5 คนอยู่ในห้องคุณหมอที่เป็นเพื่อนสนิทกันพูดขึ้นมาว่า ไม่น่าจะเกิดกับเพื่อนเราเลย อีกประมาณ 20 นาทีก็ให้หมอผู้หญิง ที่เป็นหมออายุรกรรมมาบอกว่า พ่อเลี้ยงวรรณ ต้อง ( ATMID) แอดมิด แล้วละ หมายถึงต้องนอนที่โรงพยาบาล ตกลงวันนั้นก็ต้องนอนโรงพยาบาล หมอก็เอาเลือดไปตรวจเข้าเครื่องอัลตร้าซาวด์ ตรวจคลื่นหัวใจ วันนั้นผลเลือด หมอส่วนใหญ่ก็จะรู้แล้วว่าเป็นมะเร็ง เพราะว่า PHA ค่าของเลือดอยู่ที่ 300.800 สำหรับคนปกติ จะอยู่ที่ 000.000-4.0000 ถัดไปประมาณ 2-3 วันหมอก็ตัดเนื้อเยื่อไปตรวจ แล้วลงมติว่าเป็นมะเร็ง หลังจากทราบผลว่าเป็นมะเร็งที่กระดูกสันหลังขั้นสุดท้าย ก็ตกใจช็อกไปประมาณ 20 นาที 20 นาทีที่บอกไม่ถูก เป็น 20 นาทีที่ทรมานมาก ไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิตดี ความดันก็ขึ้นไป 180 จากปกติ 110 ถึงขั้นสุดท้ายแล้วจะทำยังไงดี หมอบอกว่าต้องให้คีโม ( เคมีบำบัด ) ต้องฉายแสง ต้องฝังแร่ ก็เลยถามกลับไปว่า ถ้าฝังแร่แล้วอยู่ได้นานเท่าไหร่ หมอบอกว่าอยู่ได้ปีหนึ่งไม่รับรองมากกว่านี้ พอดีมีเพื่อนคนหนึ่งอยู่ที่อเมริกา เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง เขาบอกให้ไปที่นั่น เขาจะดูแลให้ ก็ถามเขาว่าไปแล้วจะให้ไปทำอะไร เขาบอกให้ไปฝังแร่ ผมก็ไม่ไป ยังไงหนึ่งปีก็ตายอยู่แล้วจะไปทำไมให้เสียเงิน @ ตัดสินใจบวชหนีโรคร้าย @ ตัดสินใจเข้าวัดปฏิบัติธรรมอยู่ 1 อาทิตย์ ก็เลยนั่งคิดต่อว่าถ้าอยู่แต่ที่วัดจะรอดไหม น่าจะสู้กับมัน จะต้องสู้ให้ได้ จะต้องชนะ ชีวิตเกิดมาเพียงแค่ชีวิตเดียวอยู่ๆจะมายอมตายง่ายๆได้อย่างไร ผมคิดขึ้นมาได้ว่ากษัตริย์สีหนุ ท่านเคยเป็นมะเร็ง เมื่ออายุ 40 กว่าปีก่อนไปรักษาที่ต่างประเทศเวลานี้อายุตั้ง 90 ปียังมีชีวิตอยู่ คิดถึงตรงนี้ เลยโทรศัพท์หาน้องที่เป็นกงสุลใหญ่อยู่ต่างประเทศ ตรวจสอบข้อมูลทราบว่าที่ประเทศที่สาม ( เกาหลีเหนือ ) มีสถานที่บำบัดมะเร็งจริงแต่การเดินทางไปลำบากมาก @ หนีความตายไปประเทศที่สาม @ มะเร็งระยะสุดท้าย ฟังแล้วน่ากลัวจริงๆ หนทางรอดแทบไม่มี จึงตัดสินใจทำพินัยกรรมให้ลูกๆแล้วรวบรวมเงินทองที่หามาได้ตลอดชีวิตเดินทางไปประเทศที่สามเผชิญความตายด้วยใจสงบ ถ้าโชคดีคงได้กลับมาอีกมันเป็นภาวะจนตรอกที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต ถึงแม้ชีวิตของคนเราจะเกิดมาแล้วต้องตายกันทุกคน แต่ถึงวินาทีนั้นคนเราต่างก็กลัวความตายโดยสัญชาตญาณ อยากจะยืดชีวิตต่อลมหายใจออกไปอีก นั่งเครื่องบินไปลงที่ประเทศญี่ปุ่น แล้วจึงนั่งรถยนต์ไปอีก 8 ชั่วโมง แทบเอาตัวไม่รอดสุดทรมานโดยเฉพาะช่วงที่นั่งบนเครื่องบิน นั่งพิงเบาะไม่ได้ ปวดหลังอึดอัดทรมานมากนั่งเอามือเกาะเบาะด้านหน้าร้องโอดครวญตลอดการเดินทาง น้ำตาลูกผู้ชายมันหยดไหลอย่างไม่รู้ตัว นึกในใจว่าการเดินทางครั้งนี้คงไม่ได้กลับเมืองไทยอีกแล้ว ยิ่งช่วงการเดินทางโดยรถยนต์ไปยังประเทศที่สาม ลำบากมากทั้งเจ็บปวดสุดทรมานตลอดการเดินทาง 8 ชั่วโมงเต็ม ที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลแต่เป็นศูนย์บำบัดตั้งอยู่บนเขา ผู้ที่มาบำบัดรักษาส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป อเมริกา อาหรับ ญี่ปุ่น คนไทยมีอาตมาเพียงคนเดียว เน้นการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติบำบัด ใช้แสงตะวัน ใช้สายน้ำ ใช้หิมะ อาหารทุกอย่างต้องสด คนป่วย 1 คน จะมีพยาบาลประจำตัว 1 คนดูแลเราอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่เช้า 05.00-20.00 น.ไปไหนไปด้วยกันนอนด้วยกัน ดูแลทุกย่างก้าว เข้าห้องน้ำก็ไปนั่งเฝ้า เป็นพี่เลี้ยงตลอด อาบน้ำก็ไปดูว่าน้ำได้อุณหภูมิไหม อุ่นพอไหมเย็นพอไหม อาหารการกินก็กินโอสถ เน้นธรรมชาติล้วนๆ อยู่ที่นี่ยาสักเม็ดก็ไม่มี ศูนย์ธรรมชาติบำบัดแห่งนี้ จะมีคอร์สบำบัดรักษา 30 วัน 60 วัน และ 90 วัน ของผม 30 วันอาการก็ดีขึ้นมาก ผิดกับตอนที่มาใหม่ๆ เจ็บปวดจนทนไม่ไหว คนที่มาที่นี่ป่วยเป็นมะเร็งทุกชนิดบางคนปฏิบัติตัวได้ตามที่เขาให้ทำให้กินก็ประสบความสำเร็จ ในแต่ละวันตื่นเช้าขึ้นมาประมาณ 05.00น.ก็จะเอาน้ำโอสถมาให้ดื่ม 1 ลิตร รสชาดจืดชืดสีเขียวเข้ม เวลาประมาณ 06.30น. ก็จะพาไปเดินออกกำลังกาย แล้วพาไปรับแสงตะวัน เรียกว่าแสงตะวันบำบัด นั่งรถประมาณชั่วโมงครึ่ง ไปกลับวันละ 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็จะพาเดินบนหิมะประมาณ 1 ชั่วโมงทุกวัน เสร็จแล้วมาประคบน้ำอุ่นที่ฝ่าเท้า ถามเขาว่าทำไมต้องทำอย่างนี้ เขาบอกว่าเพื่อสร้างภูมิภูมิต้านทานขึ้นมา บางคนก็ทำไม่ได้ ทำได้ประมาณ 20-30 % แต่ของอาตมาอาศัยเป็นนักกีฬาเก่า วันแรกก็ไม่ไหวเหมือนกันเย็นจัด วันที่สองวันที่สามก็เริ่มทำได้ และทำได้มาตลอด พอทำได้ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดีขึ้น ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ สำหรับโอสถสีเขียวเข้มจะดื่มช่วงเช้า 1 ลิตร บ่าย 1 ลิตร ตอนเย็นอีก 1 ลิตร และก่อนนอนอีก 1 ลิตร วันหนึ่งจะดื่มโอสถวันละ 4 ลิตร น้ำนี้น่าจะเข้าไปช่วยกำจัดอาจจะเป็นน้ำที่เชื้อมะเร็งไม่ชอบ เอาไปล้างพิษในร่างกายออกมา เพราะเรากินเข้าไปวันละตั้ง 4 ลิตรก็ต้องมีการถ่ายเทออกมา แต่เป็นเรื่องที่แปลกนะ เวลาเรากินน้ำกินยาแคปซูลอะไรก็แล้วแต่ เวลาเราปัสสาวะออกมาจะเป็นสีเหลือง แต่เวลาเราดื่มโอสถพวกนี้เวลาปัสสาวะออกมาก็ยังใส แสดงว่ามันเอาไปใช้หมด เป็นเรื่องที่แปลก ใสกว่าปกติด้วยซ้ำไป ช่วงไปอยู่ทีนั่นใหม่ๆนอนหงายไม่ได้ มันปวดหลังมากต้องนอนคว่ำเหมือนจระเข้ หลังมันปวดร้าวไปหมดเพราะถูกมะเร็งทำลายไปเยอะรวมไปถึงหัวเข่าด้านซ้ายด้วย เวลานั่งหลังก็พิงไม่ได้ เรื่องอาหารการกิน เขาจะให้ทานข้าวบาร์เลย์ กับข้าวก็เป็นกับข้าวพื้นๆไม่มีอะไรมากมายเน้นผักเป็นส่วนใหญ่ ผักที่นี่เขาปลูกเอง ปลูกในกระโจม ปรับอุณหภูมิและไร้สารพิษ ดินที่ใช้ปลูกเปลี่ยนทุก 3 เดือน เขาบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติบำบัดล้วนๆแต่ค่าใช้จ่ายสูงมาก ค่าใช้จ่ายต่อวันเขาคิด 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ ผมอยู่ที่นี่ 30 วัน ปฏิบัตตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดมีระเบียบวินัย ถึงเวลาออกกำลังกายก็ต้องออก พักผ่อนก็ต้องพักผ่อน ถึงเวลากินก็ต้องกิน มั่นใจว่าดีขึ้นแน่ อาการป่วยของผมดีขึ้นตามลำดับ เพียง 10 วันแรกเราจะสัมผัสได้เลยว่าเรามาถูกทางแล้วอาการปวดเริ่มลดลงๆ ร่างกายแข็งแรงขึ้น ผิดกับวันแรกๆที่นอนร้องโอดโอยตลอดเวลา พอร่างกายแข็งแรงก็ขยับตัวเองไปเป็นพี่เลี้ยงช่วยคนอื่นต่อ ก็คิดว่าเราน่าจะนำวิชาความรู้เหล่านี้ไปช่วยเหลือเพื่อนคนไทยที่ต้องทุกข์ทรมานกับมะเร็งร้าย ถ้าจะให้ดีต้องบุกครัวเข้าไปช่วยในครัวจะได้จดจำโอสถยาให้ได้ แต่โชคร้ายเขาไม่อนุญาต ผมจึงตัดสินใจว่าไหนๆก็เดินทางมาถึงที่สุดของชีวิตแล้ว จึงทรุดตัวลงคุกเข่าก้มกราบเขาจนกระทั่งเขาสงสาร จึงอนุญาตให้เข้าไปช่วยในครัว คิดถึงบ้านขอกลับ ผมรู้สึกร่างกายเราแข็งแรงแล้วเราไม่ตายแล้ว คิดถึงบ้านก็เลยขอกลับ เขาก็มาตรวจร่างกาย เขาบอกร่างกายแข็งแรงดีเขาก็ให้กลับ ระหว่างนั่งอยู่บนเครื่องบินก็คิดว่าเราน่าจะกลับไปช่วยคนที่เป็นมะเร็งได้ เพราะคนที่รู้ตัวว่าเป็นมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งตรงไหนก็แล้วแต่ ส่วนใหญ่ 90 % จิตใจมันตายแล้ว มันเหลือแค่ 10 % เท่านั้นในร่างกาย จะมีสักกี่คนที่ใจสู้แล้วยอมหาวิธีรักษาตนเอง มีน้อยมาก ผมตั้งใจว่าถ้ากลับถึงเมืองไทยจะช่วยคนที่เป็นมะเร็ง ถึงช่วยได้ไม่ถึง 100 % ช่วยได้ 50 % ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีแล้ว กลับมาเลยปรึกษาญาติๆว่าจะตั้งมูลนิธิเป็นของตัวเองชื่อว่ามูลนิธิวรรณ จุดเป้าหมายก็คือ ดูแลพวกที่เป็นโรคร้ายเกี่ยวกับมะเร็ง ส่งเสริมให้การศึกษาเด็กดีขยันเรียน คืนป่าให้แผ่นดิน มูลนิธิเราคงมีรายได้จากการปลูกผักไร้สารจากอำเภอแม่สอดจังหวัดตากส่งมาขายที่กรุงเทพฯ หลายคนพอทราบข่าวก็ยินดีให้การสนับสนุน หลังจากกลับจากต่างประเทศแล้วก็ไปตรวจร่างกายตรวจเลือดที่โรงพยาบาลที่เคยตรวจ ผลเลือดที่เรียกว่า PHA ( ช่วงที่ป่วยก่อนรักษาอยู่ที่ 311.800) หมอใช้เวลาตรวจ 6 ชั่วโมง วัดได้ 5.090 ต่อมาวันที่ 28 พฤษภาคม 2550 ไปตรวจอีกครั้งวัดได้ 0.268 หมอไม่แน่ใจส่งเลือดไปให้โรงพยาบาลอีก 2 แห่งตรวจอีก ผลการตรวจออกมาตรงกันหมด ถือว่าเยี่ยมแล้ว คนปกติทั่วไปที่ไม่มีเชื้อมะเร็ง จะอยู่ที่ 0.000-4.000 ของเราเลือดดีกว่าคนปกติอีก หมอถามว่าไปทำอะไรมา อาตมาบอกไปรักษามา อาตมาไม่ยอมตาย คิดว่ามะเร็งยังหลบอยู่ในตัวเรา แต่ไม่รู้อยู่ที่ไหน เราก็ไม่ชะล่าใจ มะเร็งเกิดจากภูมิบกพร่องของชีวิต มันต้องการอาหาร อาหารโปรดของมันคือ โปรตีนจากเนื้อสัตว์ทุกชนิด ซึ่งเราก็ไม่ให้มันกินเลย มะเร็งถ้าเราไม่ให้อาหารมัน มันก็จะฝ่อ และอ่อนแรง เราไม่ให้กินนานๆเข้ามันก็จะตายในที่สุด บ้านเราผู้ป่วยใหม่ที่เป็นมะเร็งมี 284 คน/วัน ตายชั่วโมงละ 11 คน เราต้องมาปรับเปลี่ยนวิธีกินอยู่กันใหม่ การเจริญเติบโตของมะเร็ง เขาจะก้าวกระโดด จาก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4 จาก 4 เป็น 8 จาก 8 เป็น 16 บวกขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นคนที่ป่วยเป็นมะเร็งส่วนใหญ่ที่ตายเพราะโลเล ตัดสินใจไม่เด็ดขาด มะเร็งหยุดได้ถ้าใจสู้” “ เราต้องมีวินัยถ้ามีวินัยเราสามารถหยุดมะเร็งได้ ต้องยึดกฎเหล็กดูแลเรื่องอาหารการกิน การปฏิบัติตัว สิ่งแวดล้อมอากาศบริสุทธิ์ การออกกำลังกาย ผมอาจจะมีบุญเพราะเป็นมะเร็งแต่ไม่เคยคิดว่าเป็นมะเร็ง คิดอยู่อย่างเดียวว่าทำอย่างไรถึงจะชนะ ทำอย่างไรถึงจะมีชีวิตที่ยืนยาวดูแลลูกเต้าต่อไป ไม่เคยกังวลเลย แล้วเรื่องพืชผักต้องไร้สารจริงๆไม่ใช่ปลอดสาร ไร้สารคือดูแลการปลูกตั้งแต่เริ่มต้นจนเก็บเกี่ยวจะไม่ใช้ยา แต่ถ้าปลอดสารคือใช้เคมีพอใกล้วันเก็บเกี่ยวประมาณ 15 วันก็จะหยุดใช้สารเคมีอันนี้ไม่ปลอดภัย จะมีสารตกค้างตามมา” มะเร็งไม่น่ากลัวอย่างที่คิดถ้าเรารู้จักวิธีป้องกันดูแลสุขภาพเราก็สามารถชนะมันได้ขอเพียงอย่างเดียวจิตใจต้องเข้มแข็ง บางรายเกิดวิตกจริตนอนไม่หลับเพราะญาติพี่น้องเสียชีวิตเพราะมะเร็งไม่รู้จะถึงตัวเองเมื่อไหร่ หลายรายทำตามคำแนะนำของพ่อเลี้ยงวรรณอาการดีขึ้นทันตาเห็น ปัจจุบันพ่อเลี้ยงวรรณมีโครงการสร้างศูนย์ธรรมชาติบำบัดที่สวนเกษตรของพ่อเลี้ยงเองที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ผมเลยแนะนำพ่อเลี้ยงให้สร้างหิมะเทียมขึ้นเอง ในอนาคตเราคงได้เห็นศูนย์ธรรมชาติบำบัด ของมูลนิธิวรรณ ในเมืองไทย ซึ่งที่ อ.แม่สอด จ.ตากอากาศดีมาก นอกจากได้สูดอากาศบริสุทธ์แล้วยังมีแปลงเกษตรไร้สารพิษอีกด้วย พ่อเลี้ยงวรรณมีปณิธานว่าสำหรับผู้ยากไร้ มูลนิธิวรรณจะรักษาให้ฟรี สำหรับผู้มีอันจะกินให้สนับสนุนค่าโอสถเพียงวันละ 100 บาท ทางมูลนิธิจะจัดส่งโอสถไปให้ เรียกว่าคนมีฐานะช่วยคนด้อยโอกาสนะครับ ถ้าท่านอยากทราบรายละเอียดและขอคำ ปรึกษาเรื่องการดูแลสุขภาพเพิ่มเติม ติดต่อมูลนิธิวรรณ(ปัจจุบันลูกชาย-ภรรยาดูแลอยู่) เลขที่ ๓/๖๘๑ ประชานิเวศน์ ถนนเทศบาลนิมิตรเหนือ ลาดยาวจตุจักร กรุงเทพฯ โทร. ๐-๒๑๕๘-๐๖๕๘ ช่วยกันเผยแพร่นะครับ ได้บุญมะเร็งไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ