(2461 ข้อความ)
- 1 คนสงสัยมะนาวฆ่ามะเร็งคุณสมบัติของมะนาว เลมอน รวมทั้งผลไม้ซีตรัสชนิดอื่น ๆ ที่มีฤทธิ์คล้ายยาสมาน พ่วงด้วยปริมาณกรดวิตามิน C ที่สูงมากอยู่ในตัวเอง เหตุผลนี้จึงทำให้ผลไม้ซีตรัสเป็นพืชผลชนิดหนึ่งซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยกำจัดเซลล์ร้ายและสมานแผลของเซลล์ที่ถูกทำลายได้ด้วย โดยเฉพาะในเลมอนและมะนาว ที่ถูกค้นพบว่ามีส่วนประกอบบางอย่างที่สามารถป้องกันการเกิดเซลล์ร้ายอย่างมะเร็งไมะเร็งstd48372• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโควิดสายพันธุ์ XBB ตรวจพบยาก เป็นพิษมากกว่าเดลตา 5 เท่า และมีอัตราการตายที่สูงกว่าจากกรณีที่มีการแจ้งเตือนโดยระบุว่า โควิดสายพันธุ์ XBB ตรวจพบได้ยาก เป็นพิษมากกว่าเดลตา 5 เท่า และมีอัตราการตายที่สูงกว่านั้น ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาชี้แจงว่า ปัจจุบันสายพันธุ์โอมิครอน BN.1 และลูกหลานซึ่งมีความได้เปรียบในการแพร่กระจาย และสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่กระจายอยู่ในประเทศไทยแต่มีแนวโน้มลดลง ในขณะเดียวกัน สถานการณ์สายพันธุ์ลูกผสม XBB.1.5 XBB.1.16 และ XBB* รวมถึงลูกหลาน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและน่าจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในอนาคต ผลการเฝ้าระวังสายพันธุ์เชื้อก่อโรคโควิด 19 ในประเทศไทย ด้วยการตรวจหาสารพันธุกรรมแบบทั้งตัว ในช่วงเดือนมีนาคม 2566 พบว่าสัดส่วนสายพันธุ์ BA.2.75* และลูกหลานมีแนวโน้มลดลงจากเดิมที่พบสัดส่วน 73.02% ในสัปดาห์แรกของเดือน ลดลงเหลือ 40.00% ในสัปดาห์สุดท้าย ขณะที่สายพันธุ์ XBB* มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 12.70% ในสัปดาห์แรกของเดือน เป็น 20.00% ในสัปดาห์สุดท้าย ส่วนสายพันธุ์ XBB.1.16 ที่องค์การอนามัยโลกประกาศเป็นสายพันธุ์ที่กำลังติดตาม ซึ่งพบมากในอินเดียและมีแนวโน้มเพิ่ม บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ปัจจุบันสายพันธุ์โอมิครอน BN.1 และลูกหลานซึ่งมีความได้เปรียบในการแพร่กระจาย และสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่กระจายอยู่ในประเทศไทยแต่มีแนวโน้มลดลง ในขณะเดียวกัน ยังไม่มีหลักฐานแสดงว่า XBB.1.16 ส่งผลต่อความรุนแรงของโรค และวิธีการตรวจหาเชื้อที่ใช้ในปัจจุบันยังตรวจจับเชื้อได้อยู่std48035• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยกินอึ ฉี่ รัดษาโรคมีข่าวชาวบ้าน ลัทธิกลุ่มหนึ่งกินอึกินฉี่ด้วยความเชื่อที่ว่าสามารถบำบัดโรคต่างๆได้Thanida Toomwong• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยขี้ไคลรักษาโรค!!!การที่เรากินขี้ไคลของพระบิดาไปจะช่วยรักษาโรคได้Chayada Sakulpak• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยNasaถูกเหลือเชื่อ NASA จ้างบริษัทสตาร์ทอัพ 1 ดอลลาร์ เก็บตัวอย่างหิน 500 กรัม จากดวงจันทร์Thanyaphat Arthan• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจิตแพทย์ชี้ ลัทธิกินอึ-ฉี่ เข้าข่ายงมงาย แนะบำบัดรักษา หมอเตือนอย่ากินเสี่ยงติดเชื้อหมอเตือน "อึ-ฉี่-ขี้ไคล" มีเชื้อโรค ไม่ควรกินตามลัทธิประหลาด ย้ำเป็นของเสียไม่ควรกินจ่อ จิตแพทย์ชี้เข้าข่ายงมงาย ต้องสลายกลุ่มช่วยสลายความเชื่อ แนะนำเข้ามาบำบัดรักษามีมstd47625• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผักกระสังรักษามะเร็งเต้านมประเด็นนี้อยู่ที่มีการแชร์และเชื่อกันมากว่า ผักกระสังสามารถรักษามะเร็งเต้านม ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเคยเปิดเผยกับ hfocus.org แล้วว่าพืชสมุนไพรต่างๆที่อ้างว่ารักษามะเร็งนั้น เป็นเพียงการทดลองในห้องปฏิบัติการ ยังไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือทางวิชาการว่าสมุนไพรชนิดใดสามารถรักษามะเร็งได้std48921• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสาวจัดพิธีบวงสรวงองค์พญานาค อ้างเห็นภาพคล้ายพญานาคโผล่ขึ้นกลางน้ำ ด้านชาวอุทัยธานีในพื้นที่ แห่ร่วมพิธีตามความเชื่อสาวพระประแดง จัดพิธีบวงสรวงองค์พญานาค อ้างเห็นภาพคล้ายพญานาคโผล่ขึ้นกลางน้ำ ด้านชาวอุทัยธานี เล่าเคยเห็นเหมือนกันสมัยสาวๆตอนมาอาบน้ำที่ท่าวัด แห่ร่วมพิธีคึกคักตามความเชื่อภาคอีสานstd46296• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสิ้นเดือน เม.ย. นี้ ผู้สูงอายุรับเบี้ยพิเศษ ท่านละ 2,500 บาทสิ้นเดือน เม.ย. นี้ 'ผู้สูงอายุ' รับเบี้ยพิเศษ ท่านละ 2,500 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ 'กรมกิจการผู้สูงอายุ' กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์std46224• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผลิตภัณฑ์ไวท์โรส พลาเซนต้าครีมพลาเซนต้าครีม ช่วยบำรุงให้หน้าขาวใส และลดจุดด่างดำstd46736• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผักกระสังรักษามะเร็งเต้านมเมื่อเร็วๆ นี้มีผู้ส่งข้อมูลให้ cofact.org ตรวจสอบ ว่าผักกระสังดีจริงหรือไม่ โดยโคแฟคชี้แจงข้อมูลว่าผักกระสังเป็นสมุนไพรที่มีประวัติการใช้เป็นยามายาวนาน หมอยาพื้นบ้านมักจะใช้ผักกระสังตำพอกฝี หรือคั้นเอาน้ำทาแผลฝีที่มีหนอง สาวๆ สมัยโบราณใช้น้ำต้มผักกระสังล้างหน้า ทำให้ผิวหน้าสดใส และยังนำมาสระผมทำให้ผมนุ่ม ป้องกันผมร่วง จากการศึกษาสมัยใหม่พบว่า ผักกระสังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านแบคทีเรียหลายชนิด ทั้งยังมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งจะช่วยกำจัดเนื้อตายทำให้ฝีแตกได้ง่าย และสิวยุบเร็วขึ้น แต่ผู้ที่แพ้พืชที่มีกลิ่นฉุนประเภท Mustard (พืชที่เป็นเครื่องเทศทั้งหลาย) ไม่ควรรับประทานstd46350• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผักกระสังรักษามะเร็งเต้านมการแอบอ้างสรรพคุณของผักกระสังว่าช่วยรักษามะเร็งเต้านม ด้วยการใช้ผักกระสัง นำมาตำให้ละเอียด แล้วนำไปแปะ หรือทาที่ใต้ราวนม จะช่วย รักษามะเร็งเต้านมได้นั้นจึงเป็น้อมูลเท็จManeewan Rotmala• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยลัทธิกินอึ-ฉี่ลัทธิประหลาดให้กินปัสสาวะ อุจจาระ ขี้ไคล เพื่อรักษาโรคstd48449• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยทนไม่ไหว ต่าย ชุติมา ออกมาฟาดเขียนข่าวมั่ว ชาวเน็ตเสียงแตกถกกันสนั่นไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไร หรือให้สัมภาษณ์ที่ไหน ก็ถูกเป็นที่จับตามองอย่างมาก สำหรับ ต่าย ชุติมา โดยเฉพาะเรื่องของความรัก เพราะมีแฟนคลับหลายคนยังคงเชียร์ให้ ต่าย และอดีตสามี ทิม พิธา กลับมาเป็นครอบครัวกันอีกครั้ง แม้ทั้งคู่จะยืนยันหนักแน่นว่า ตอนนี้สถานะเป็นเพียงแค่พ่อแม่ที่ดีของลูกสาวเท่านั้น ทนไม่ไหว ต่าย ชุติมา ออกมาฟาดเขียนข่าวมั่ว ชาวเน็ตเสียงแตกถกกันสนั่น ล่าสุด ดูเหมือนว่า ต่าย จะเดือดจัดเลยทีเดียว โดยเจ้าตัวได้แคปภาพข่าวจากสื่อหนึ่ง มาโพสต์ผ่านอินสตาแกรม และขีดเส้นใต้เน้นประโยคที่ว่า เจ้าตัวหัวใจไม่ว่าง กำลังคุยๆ อยู่กับหนุ่มที่อายุน้อยกว่าถึง 12 ปี โดยผู้ชายคนนี้อายุ 22 ปี ซึ่ง ต่าย ก็ได้เขียนแคปชั่นว่า "พูดตอนไหนคะว่าคุยอยู่ !!!???? ข่าวเดี๋ยวนี้ก็คือเขียนตามที่อยากจะเขียน หรือเขียนตามความรู้สึก ไม่ได้เขียนตามความจริง ??? อยากรู้ความจริงมาอ่าน #สำนักข่าวเพราะอากาศstd46630• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม ..ผักกระสังรักษามะเร็งเต้านมเมื่อเร็วๆ นี้มีผู้ส่งข้อมูลให้ cofact.org ตรวจสอบ ว่าผักกระสังดีจริงหรือไม่ โดยโคแฟคชี้แจงข้อมูลว่าผักกระสังเป็นสมุนไพรที่มีประวัติการใช้เป็นยามายาวนาน หมอยาพื้นบ้านมักจะใช้ผักกระสังตำพอกฝี หรือคั้นเอาน้ำทาแผลฝีที่มีหนอง สาวๆ สมัยโบราณใช้น้ำต้มผักกระสังล้างหน้า ทำให้ผิวหน้าสดใส และยังนำมาสระผมทำให้ผมนุ่ม ป้องกันผมร่วง จากการศึกษาสมัยใหม่พบว่า ผักกระสังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านแบคทีเรียหลายชนิด ทั้งยังมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งจะช่วยกำจัดเนื้อตายทำให้ฝีแตกได้ง่าย และสิวยุบเร็วขึ้น แต่ผู้ที่แพ้พืชที่มีกลิ่นฉุนประเภท Mustard (พืชที่เป็นเครื่องเทศทั้งหลาย) ไม่ควรรับประทาน นั่นเป็นสรรพคุณที่พอเชื่อถือได้จากหลักฐานทางวิชาการ ซึ่งทางโคแฟคเองไม่ยืนยันว่าผักกระสังรักษามะเร็งเต้านมได้ ดังนั้น การแอบอ้างสรรพคุณของผักกระสังว่าช่วยรักษามะเร็งเต้านม ด้วยการใช้ผักกระสัง นำมาตำให้ละเอียด แล้วนำไปแปะ หรือทาที่ใต้ราวนม จะช่วย รักษามะเร็งเต้านมได้นั้นจึงเป็น้อมูลเท็จstd46896• 2 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยทนไม่ไหว ต่าย ชุติมา ออกมาฟาดเขียนข่าวมั่ว ชาวเน็ตเสียงแตกถกกันสนั่นไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไร หรือให้สัมภาษณ์ที่ไหน ก็ถูกเป็นที่จับตามองอย่างมาก สำหรับ ต่าย ชุติมา โดยเฉพาะเรื่องของความรัก เพราะมีแฟนคลับหลายคนยังคงเชียร์ให้ ต่าย และอดีตสามี ทิม พิธา กลับมาเป็นครอบครัวกันอีกครั้ง แม้ทั้งคู่จะยืนยันหนักแน่นว่า ตอนนี้สถานะเป็นเพียงแค่พ่อแม่ที่ดีของลูกสาวเท่านั้นแอคปลอมPhatthananya Sathiranon• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยผักกระสังรักษามะเร็งเต้านมผักกระสังรักษามะเร็งเต้านมstd46620• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยโรคฝีดาษลิงติดจากสัตว์สู่คน เชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคฝีดาษลิงมีลักษณะคล้ายคลึงกับไวรัสไข้ทรพิษ เเละการฉีดวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษจะสามารถป้องกันโรคนี้ได้ถึง 85%Mxtinx260148• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยวันนี้พายุโกนเซิน ยังมีอิทธิพลต่อไทยจริงหรือ หลายหน่วยงานยังสั่งให้เตรียมรับมือพายุแสดงว่า หน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กรมอนามัย รวมถึงสื่อมวลชนกระแสหลัก ไม่ได้ติดตามพายุลูกนี้อย่างเป็นปัจจุบัน สร้างความคลาดเคลื่อนของข้อมูลข่าวสาร ไปสู่ประชาชน หากเชื่อตามก็จะเตรียมการรับพายุ ที่ไม่มีอยู่จริงแล้ว มท.เตือนทุกจังหวัดรับมือ พายุโกนเซิน สั่งท้องถิ่นช่วยปชช.รวดเร็ว ตลอด 24 ชั่วโมง จาก อัมรินทร์ทีวี ในวันที่ 14 กันยายน 2564 https://www.amarintv.com/news/detail/98505?fbclid=IwAR25sMPydiZ-voD6nIvCxt44rOVpspKL-m6o3A029J0QBQn-XRRmTBJuNyc กรมอนามัย กำชับศูนย์อนามัยทุกแห่ง เตรียมพร้อมรับมือพายุ “โกนเซิน” จาก MCOT NEWS FM 100.5 Mhz ในวันที่ 15 กันยายน 2564 https://news1005.mcot.net/view/614168f8e3f8e4072efca2df?fbclid=IwAR0iKa2Yhb-7DBmCL7iJLV4d_sUZohsjBi7cJfKEsYt4d8in_hVQVh5jupI พายุดีเปรสชั่นโกนเซิน ได้หมดสภาพพายุ เป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2564 (จากประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาฉบับที่ 16 (140/2564)) https://www.tmd.go.th/.../announces/2021-09-13_12052.pdfสภาพอากาศภาคอีสานสุชัย เจริญมุขยนันท• 4 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยhttps://www.bbc.com/thai/international-57752238?at_custom4=8B70BF1E-E6F2-11EB-8774-E4FE15F31EAE&at_custom2=facebook_page&at_custom3=BBC+Thai&at_medium=custom7&at_campaign=64&at_custom1=%5Bpost+type%5D&fbclid=IwAR1yh8V39HjmzI8sEDPKbYjvxSrJ7T24fwBoYaIfo59snif3lBb8DALyitEโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 4 ปีที่แล้วmeter: mostly-true--middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยน้ำเชื่อมข้าวโพด (High Fructose Corn Syrup: HFCS) ความหวานอันตราย ที่อยู่ในขนมและเครื่องดื่มแทบทุกชนิด 🌽 . น้ำตาล คือความหวานที่มากับอันตราย ทั้งสะสมเป็นไขมัน ทำให้เกิดโรคอ้วนและเบาหวาน ก่อให้เกิดการเสพติดเหมือนยา เราเน้นย้ำเรื่องอันตรายของน้ำตาลมาตลอด แต่แม้น้ำตาลจะเป็นของเสียสุขภาพ แต่จะให้ไม่กินเลยก็คงเลี่ยงลำบาก อย่างน้อยที่สุดเราก็ควรู้จักน้ำตาลที่ควรเลี่ยงที่สุด แล้วน้ำตาลแบบไหนที่อันตรายที่สุดกันล่ะ วันนี้เรามีคำตอบค่ะ . น้ำตาลที่ดี คือน้ำตาลที่ผ่านกระบวนการแปรรูปน้อยที่สุดค่ะ เช่น ความหวานจากผลไม้ น้ำผึ้ง อ้อย ความหวานในข้าวหรือมันหวาน หรือความหวานจากพืชที่พบได้ในนมหรือหญ้าหวานค่ะ ยิ่งน้ำตาลชนิดนั้นผ่านกระบวนการแปรรูปมากเท่าไหร่ อันตรายก็จะยิ่งสูงขึ้น และความหวานที่ผ่านกระบวนการแปรรูปมากที่สุดก็คือ HFCS (high fructose corn syrup) หรือน้ำเชื่อมข้าวโพดนั่นเอง . น้ำเชื่อมข้าวโพด (HFCS) เกิดจากการนำเอาน้ำตาลฟรุกโตสและน้ำตาลกลูโคสผสมกันแล้วแต่สัดส่วนที่ผู้ผลิตต้องการ ผ่านกระบวนการเพิ่มความเข้นข้นจนได้ความหวานมากกว่าน้ำตาลปกติถึง 2 เท่า เป็นประโยชน์กับอุตสาหกรรมอาหาร ช่วยลดต้นทุนได้มาก แต่เป็นอันตรายกับสุขภาพผู้บริโภคอย่างเราๆ มากค่ะ . เกิดภาวะดื้ออินซูลินได้ง่าย สาเหตุของโรคเบาหวานอันดับหนึ่ง . กินเยอะขึ้น เพราะ HFCS ไม่สามารถกระตุ้นฮอร์โมนเกรลิน หรือฮอร์โมนแห่งความอิ่มได้ เพราะแบบนี้ เวลาเราดื่มเครื่องดื่มที่มี HFCS จึงทำให้เราดื่มได้อีกเรื่อยๆ ไม่รู้สึกพอค่ะ . ภาวะไขมันพอกตับ เวลาที่เราทานน้ำตาลมากไป ร่างกายจะเก็บน้ำตาลที่ไม่ถูกใช้เป็นพลังงานในรูปไขมันที่ตับ เจ้า HFCS ร้ายกว่านั้นค่ะ เพราะร่างกายเราไม่สามารถย่อย HFCS เป็นพลังงานได้ แต่จะส่งตรงไปเก็บเป็นไขมันเลย เรียกได้ว่าเพิ่มเสี่ยงให้ตับพังพอๆ กับคนติดแอลกอฮอล์เลยค่ะ . เพิ่มเสี่ยงโรคหัวใจและมะเร็ง งานวิจัยหลายชิ้นพบว่าปริมาณ HFCS ที่ทานมีความสัมพันธ์กับการเกิดของโรคหัวใจและมะเร็งอย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ HFCS มีผลให้ร่างกายเกิดการอักเสบภายในได้มากค่ะ . ‼️แม้ HFCS จะได้ชื่อว่าเป็นน้ำเชื่อม แต่ใช่ว่ามันจะมีอยู่แต่ในเครื่องดื่มเท่านั้นนะคะ มันซ่อนตัวอยู่ในอาหารได้แทบทุกชนิด ทั้งยังมีอีกหลายชื่อด้วย เรามีวิธีสังเกตและหลีกเลี่ยง HFCS มาเป็นแนวทางให้ดังนี้ค่ะ . สังเกตส่วนประกอบบนฉลาก อาหารที่มี HFCS อาจถูกระบุบนฉลากในชื่ออื่นๆ ได้ตามส่วนประกอบและวิธีผลิต เช่น corn sugar, maize syrup, glucose/fructose syrup, isolated fructose, crystalline fructose, isoglucose, น้ำเชื่อมข้าวโพด, ไซรัปข้าวโพด, น้ำเชื่อมกลูโคส, น้ำเชื่อมฟรุคโตส, แบะแซ, ผลึกฟรุคโตส, ฟรุคโตสก้อน, ไอโซกลูโคส เป็นต้นค่ะ . อย่าเชื่อคำโฆษณาบรรจุภัณฑ์ หลายครั้งเครื่องดื่มและอาหารในซุปเปอร์มักจะติดคำว่า “น้ำตาล 0%” หรือ “sugar free” อย่าหลงเชื่อเด็ดขาดค่ะ ให้อ่านที่ส่วนผสมอีกที หาคำที่บ่งบอกว่ามี HFCS ดูค่ะ . ระวังอาหารที่มักใส่ HFCS ทานให้น้อยที่สุด เช่น น้ำสลัดสำเร็จรูป อาหารแปรรูป ขนมถุง ซีเรียล น้ำผลไม้กล่อง น้ำหวาน ครีมเทียม เครื่องดื่มชูกำลัง แยม ไอศกรีม . หัดทำอาหารทานเอง นี่คือวิธีหลีกเลี่ยง HFCS ที่ดีที่สุดค่ะ เพราะคงไม่มีใครอยากเติมของปนเปื้อนอันตรายลงในอาหารตัวเองให้สุขภาพเสียอยู่แล้ว เลือกใช้น้ำตาลที่ผ่านกระบวนการน้อยๆ มาใช้ปรุงอาหารและเครื่องดื่มกันค่ะ . เห็นไหมคะว่า HFCS นั่นอันตรายขนาดไหน นอกจากจะทำคุณติดความหวานได้ง่าย ให้เกิดโรคร้าย เพิ่มเสี่ยงโรคหัวใจ มันยังไม่มีสารอาหารและใช้เป็นพลังงานไม่ได้ด้วย HFCS กลายเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของโรคเบาหวานและโรคอ้วนทั่วโลก เพียงคุณตัดน้ำตาล HFCS ออกจากชีวิตได้สักอย่าง ความเสี่ยงโรคต่างๆ ของคุณก็จะลดลงได้มากเลยค่ะสุขภาพผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 1 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบmeter: middle2 ความเห็น
- 1 คนสงสัยศาลสั่งลงโทษผู้ขายของออนไลน์ ที่คดโกงผู้ซื้อสินค้าอย่างสาสม เพื่อนเป็นผู้พิพากษาส่งให้เพื่อน(ในกลุ่ม) อ่านแล้ว เห็นว่าเป็นประโยชน์เลยส่งต่อ มีสาระประโยชน์มากดังนี้... .......................... ผมไม่ค่อยมีเวลา จึงชอบซื้อของทางเน็ต เป็นอย่างนี้ตั้งแต่ในไทยยังไม่มีการขายของทางเน็ต ได้แต่ซื้อใน eBay มาสิบกว่าปีก่อน ตอนนี้ไทยเรามีการขายของทางเน็ตกันเพียบ ผมก็ซื้อตามปกติ และไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย จนกระทั่งได้ไปซื้อของจากค่ายดังของเยอรมัน บริษัท ล. โฆษณาในทีวีน่าเชื่อถือ ในครั้งสุดท้ายที่ซื้อ ปรากฏว่าสั่งของ ๒ ชิ้น ๆ ละ ๙๐๐ บาท พอมาส่งเราก็จ่ายเงินไป ๑,๘๐๐ บาทเลยเมื่อรับพัสดุ แต่เปิดกล่องดูมีของแค่ชิ้นเดียว แถมใบส่งของเป็นคนอื่น แต่ของอย่างเดียวกัน ผมก็ถ่ายรูปของในกล่อง พร้อม Delivery Note ส่งให้เจ้าหน้าที่ดู เจ้าหน้าที่รับปากว่าจะติดต่อในทันที....เงียบหายไปสามวัน มีคนจากบริษัทอะไรไม่รู้โทรมาสอบถาม ผมก็เล่าเรื่องแล้วก็...เงียบ หายไปอีก ๑๐ วัน ก็มีเจ้าหน้าที่ บริษัท ล. โทรมาแล้วก็...เงียบ หายไปอีก ๕ วัน ก็มีเจ้าหน้าที่โทรมาอีก ผมเลยบอกว่า "ผมเป็นผู้บริโภคที่ดี จ่ายเงินก่อนเห็นสินค้า (ตามกฎของคุณ) คุณได้เงินผมไปแล้วแต่สินค้าผมได้ไม่ครบ เพราะคุณส่งผิด เวลาผ่านเป็นเดือนยังไม่เรียบร้อย แค่ส่งของให้ผมอีกชิ้นมันยากหรือครับ ความผิดของคุณทำไมผมต้องมารับกรรมนั้นด้วย ผมให้เวลา ๗ วัน เกินจากนั้นไปเจอกันในศาล" เจ้าหน้าที่ก็วางสายไปอย่างไม่พอใจ เพราะได้ยินเสียงแข็ง ๆ ของผมที่เริ่มมีอารมณ์ เย็นวันที่ ๗ ผมก็นั่งพิมพ์ภาพที่ถ่ายส่งให้ดูตอนเปิดกล่อง หลักฐานอย่างอื่นไม่มีอะไรเลย เช้าวันรุ่งขึ้นผมเดินไปศาลแขวงในเขตที่ผมสั่งซื้อของทางอินเตอร์เน็ต ศาลที่มีเขตอำนาจเหนือบ้านผมนั่นเอง เพื่อให้เจ้าพนักงานศาลช่วยจัดการให้ เริ่มเข้าสาระครับ กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคบัญญัติให้ต้องมีเจ้าพนักงานศาล ทำหน้าที่ร่างฟ้องให้ผู้บริโภคเรียกกันว่า "เจ้าพนักงานคดี" ช่วยค้นหาหลักฐานทางทะเบียนของจำเลยให้ กรณีนี้คือหนังสือรับรองบริษัท ศาลจะนัดเร็วครับ ประมาณ ๓๐ วันได้เจอกัน ไม่เสียค่าธรรมเนียม ไม่ยุ่งยากอะไรเลย เพราะกฎหมายนี้สร้างเพื่อคุ้มครองใครครับ....แน่นอน ผู้บริโภค เจ้าพนักงานศาลร่างคำฟ้องให้ผมเสร็จเรียบร้อยโดยไม่ต้องมีทนายความ ให้ผมลงชื่อในเอกสารหลายอย่าง แล้วพาไปยื่นที่เคาเตอร์รับฟ้อง ได้วันนัดเป็นอันเสร็จเรียบร้อย หลังจากได้รับคำฟ้องผมแล้ว บริษัท ล. โทรหาบอกจะคืนเงิน ๙๐๐ บาท ผมบอกว่าตอนนี้จะตกลงอะไรให้ไปคุยกันในศาล เลยได้ส่งอีเมล์ให้ผม บอกว่าได้รับของที่ผมส่งคืนแล้ว ๒ ชิ้น ผมก็เริ่มฉุนเล็กน้อย จะเอามาเป็นทริกในคดีหรือเปล่าว่าผมคืนของเอง ไว้เจอกัน ส่งสองสามครั้ง แถมส่งข้อความมือถืออีกต่างหาก ทีอย่างนี้ดำเนินการรวดเร็วฉับไวในทันที ในวันศาลนัด ทางบริษัท ล. เตรียมทนายความที่จ้างจากนอกบริษัท ล. นิติกรของบริษัท และผู้จัดการ เตรียมเอกสารมาปึกใหญ่ ศาลถามว่าคุณไม่ส่งของใช่ไหม เขาก็ขอไกล่เกลี่ย ในห้องไกล่เกลี่ย ผู้จัดการก็ขอโทษ ทนายเริ่มรู้ว่าผมต้องการเดินไปตรงจุดไหน ทนายความในและนอกห้องพิจารณาก็ทักทายยกมือไหว้ เรียกท่าน หน้าบัลลังก์ก็รู้จัก พอรู้สถานะเราการพูดคุยก็ง่ายขึ้นเยอะ ทนายความไม่โย้เย้เรื่องมากตามสไตล์ ในที่สุดก็ยอมตามฟ้องทุกประการ จ่ายเงินคืนให้ผม ๙๐๐ บาท พร้อมค่าเสียเวลาค่าโมโหอีก ๒๐,๐๐๐ บาท หลังจากทำสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว ๑๕ วัน และแถมคูปองลดราคามาอีก ๑,๐๐๐ บาท ผมก็เอาเงินที่ได้ไปทำบุญ อยากให้รู้ว่า..... กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคนั้น บัญญัติไว้สำหรับผู้บริโภค 1.ไม่ต้องมีทนายความ 2.ไม่ต้องหาหลักฐานของฝ่ายผู้ประกอบธุรกิจ 3.มีเจ้าพนักงานศาลร่างคำฟ้องให้เรียบร้อย 4.แถมหากต้องสืบพยาน ศาลถามให้เลย ไม่ต้องรู้อะไรมากครับ แค่รู้ว่าเราเสียหาย เสียเปรียบอย่างไร 5.คุ้มครองไม่ว่าเรื่องการซื้อขาย การให้บริการ สินค้าไม่ดี ไม่มีคุณภาพ ส่งของไม่ครบ สินค้ามีปัญหากับเนื้อตัวร่างกาย เรียกว่าได้หมด 6.แถมหน้าที่นำสืบตามที่เราฟ้องตกกับฝ่ายผู้ประกอบธุรกิจ 7.ที่สำคัญไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม และค่าส่งหมายเลย สรุปง่าย ๆ ไม่เสียเลยสักบาทก็แล้วกัน คนไทยยังรู้เรื่องนี้น้อย แถมยังยอมเสียเปรียบอย่างไม่น่าเชื่ออีกจำนวนมาก หากเราโดนกระทำและเสียหาย การนิ่งเฉย คือการทำลายระบบ เพราะเราไม่ต่อต้านผู้ไม่สุจริต กลับสนับสนุนให้เขาเหิมเกริมกล้าปฏิบัติแย่ๆ กับลูกค้าอีกนับจำนวนไม่ถ้วน การกระทำของผมในครั้งนี้ ไม่ได้ทำเพื่อเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท แต่ทำให้เขาไม่กล้าไปปฏิบัติแย่ ๆ กับประชาชนอีกจำนวนมาก นั่นคือสิ่งที่ผมชนะ .หวังว่าจะเป็นประโยชน์ครับ.ผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย📍พาราเซตามอล ยาพิษสามัญประจำบ้าน Paracetamol Common Household Poisonous Medicine คนไทยเกือบทุกคน รู้จักยาแก้ปวดลดไข้ ชื่อ พาราเซตามอล และเข้าใจว่า เป็นยาที่ใช้รักษาโรคได้ เพราะเวลามีไข้ กินแล้วไข้หาย พอมีไข้อีกก็กินอีก จนกลายเป็นความเชื่อว่า เวลามีไข้ต้องกินยาพาราเซตามอล ปัญหาที่คนไทยไม่รู้ก็คือ ยาพาราเซตามอล มีไว้แค่บรรเทาอาการ ไม่ได้ช่วยให้โรคหาย และยังเป็นยาที่มีอันตราย แม้กินเพียงไม่กี่เม็ด ก็อาจก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อตับ และไตได้อย่างรุนแรง ขนาดสูงสุดของ ยาพาราเซตามอล ที่เคยเป็นที่ยอมรับ คือไม่เกิน 2000- 3000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับ พาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม 4-6 เม็ด เนื่องจากเป็นยาที่มีฤทธิ์อ่อน คนส่วนใหญ่ จึงนิยมกินพาราเซตามอลครั้งละสองเม็ด และความที่เป็นยาออกฤทธิ์สั้น จำเป็นต้องกินกันบ่อย ๆ ทุก 4-6 ชั่วโมง ทำให้มีโอกาสที่คนไข้จะได้รับยาในขนาดที่เป็นพิษได้สูง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีรายงานต่อเนื่อง ถึงการรับประทานยาพาราเซตามอล ในขนาดที่เข้าใจว่าปลอดภัย แต่ลงเอยด้วยการที่ผู้ป่วยเสียชีวิต ส่งผลให้ องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ได้สั่งยกเลิก พาราเซตามอล ในขนาด 500 มก และให้ขายเพียงขนาด 325 มก เท่านั้น ยาที่แพทย์ใช้รักษาพิษของพาราเซตามอล มีชื่อว่า N-acetyl cysteine หรือ แนค (NAC) ในประเทศไทย แนค (NAC) ได้ถูกจดทะเบียนเป็นยาละลายเสมหะ ที่มีชื่อทางการค้าว่า Fluimucil, Naclong, หรือ Flemex AC OD ขนาดที่ใช้คือ 600 มิลลิกรัม ต่อวัน เนื่องจากเป็นยาที่แทบจะไม่มีผลข้างเคียง จึงสามารถกินต่อเนื่องได้ทุกวัน แม้ในคนที่ไม่มีเสมหะก็ตาม ผู้เขียน จึงขอแนะนำให้คนทุกคน เลี่ยงการใช้ยาพาราเซตามอล โดยไม่จำเป็น ถ้ามีไข้ควรเลือกวิธีเช็ดตัวลดไข้ แต่หากจำเป็นต้องใช้ยาพารา ก็ควรกินแนค (NAC) ร่วมด้วย เวลาที่คนไข้ที่มีไข้ และมาโรงพยาบาลด้วยปัญหาตับอักเสบ แพทย์ส่วนใหญ่ จะคิดถึงแต่โรคติดเชื้อที่ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบ และไม่ได้คิดว่า ตับอักเสบนั้น อาจเป็นผลจากยาพาราเซตามอล ตัวอย่างเช่น คนที่เป็นโรคไข้เลือดออก คนไข้เหล่านี้จะมีไข้สูงตลอดวัน หลังจากการกินยาพาราเซตามอล ไข้ก็ลดลงไม่มาก สักพักไข้ก็กลับมาสูงอีก ทำให้คนไข้ต้องใช้ยาพาราเซตามอลอยู่เรื่อย ๆ โดยไม่ได้ตระหนักว่า ในคนที่เป็นโรคไข้เลือดออก และตับมีการทำงานที่บกพร่องอยู่แล้ว การใช้ยาพาราเซตามอล แม้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้เกิดภาวะตับอักเสบรุนแรงมากขึ้นถึงขั้นเสียชีวิต ผู้เขียนเคยได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยอายุ 16 ปี รายหนึ่ง ที่มาโรงพยาบาลด้วยโรคไข้เลือดออก มีระดับเอนซัยม์ตับสูงมาก (SGPT > 4000) และอยู่ในสภาพไม่รู้สึกตัว ญาติได้รับแจ้งไปว่าเด็กคงไม่รอดชีวิต หลังจากที่ผู้เขียนไปดูในตอนดึก ก็ได้สั่งการรักษาด้วยการใช้ แนค (NAC) ขนาดสูงหยดทางหลอดเลือด วันรุ่งขึ้น ระดับเอนซัยม์ตับก็ลดลงเกือบ 10 เท่า เด็กเริ่มรู้สึกตัว และกลับบ้านได้ใน 3 วันต่อมา ไม่เพียงแต่ ยาพาราเซตามอล จะมีพิษต่อตับ แต่ยังมีพิษต่อไตอีกด้วย ผู้เขียนมีคนไข้ทีมาด้วยปัญหาไตวายโดยไม่ทราบสาเหตุ พอซักประวัติก็ทราบว่า คนไข้กินพาราเซตามอลวันละ 1-2 เม็ด เกือบทุกวัน บางรายก็บอกว่า ปวดศีรษะ พอตรวจดูก็พบว่าเป็นความดันโลหิตสูง เมื่อได้ยาลดความดัน อาการปวดศีรษะก็หาย มีอยู่รายหนึ่งที่กินพาราเซตามอลทุกวัน เพราะกินแล้วไม่ปวดไม่เมื่อย ทำงานได้ดี เลยเข้าใจผิดว่าเป็นยาชูกำลัง กินได้ทุกวัน ลงท้ายก็กลายเป็นโรคไตวายเรื้อรัง ผู้เขียนเคยได้รักษาคนไข้ตั้งครรภ์ 26 สัปดาห์ ที่มาโรงพยาบาลด้วยอาการ ไม่มีปัสสาวะมา 3 วัน ซักประวัติพบว่า ผู้ป่วยมีปัญหาปวดน่องอย่างรุนแรง จึงไปคลินิก ได้ยาฉีดแก้ปวด วันละเข็มติดต่อกันสามวัน หลังจากนั้น ปัสสาวะลดลงจนกระทั่งไม่มีปัสสาวะออก ผู้เขียนจึงได้ให้ NAC ขนาดสูงเข้าทางหลอดเลือด และตามด้วยการล้างไต ภายหลังการล้างไตได้ 3 ชั่วโมง ผู้ป่วยก็เริ่มมีปัสสาวะออกมาเรื่อย ๆ จำนวนมาก และการทำงานของไตก็กลับสู่สภาพปกติ และคลอดบุตรเป็นปกติในสองเดือนถัดมา ขอย้ำว่า พาราเซตามอล ไม่ใช่ยาวิเศษ แต่เป็นยาที่มีพิษ ไม่ควรคิดว่า จะกินเท่าไรก็มีอันตราย หรือคิดว่า ทุกครั้งที่เป็นไข้ จำเป็นต้องกินยาพาราเซตามอล แนะนำว่าการเช็ดตัวลดไข้ จะปลอดภัยกว่าการใช้ยา เพราะการกินยาพาราเซตามอลพร่ำเพื่อ เพราะเข้าใจว่าช่วยให้หายจากโรค อาจส่งผลให้เราหายไปจากโลกแทนได้ครับ ดร.นพ. พัฒนา เต็งอำนวย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์โรคไตผู้บริโภคเฝ้าระวังไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยข่าวปลอม! ผลิตภัณฑ์ไวท์โรส พลาเซนต้าครีม ช่วยบำรุงให้หน้าขาวใส และลดจุดด่างดำวันนี้ (3 พ.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ไวท์โรส พลาเซนต้าครีม ช่วยบำรุงให้หน้าขาวใส และลดจุดด่างดำ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีการแนะนำผลิตภัณฑ์ ไวท์โรส พลาเซนต้าครีม ช่วยบำรุงให้หน้าขาวใส และลดจุดด่างดำ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า จากฐานข้อมูลใบรับจดแจ้งเครื่องสำอางไม่พบชื่อผลิตภัณฑ์ “ไวท์โรส พลาเซนต้าครีม” จึงได้ไปตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ พบว่าอย. ได้เคยประกาศผลวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ “ไวท์โรส พลาเซนต้าครีม ครีมรกแกะ หน้าขาวใสลดจุดด่างดำ” ว่าพบสารประกอบของปรอท (Mercury compound) ซึ่งเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารห้ามใช้ จัดเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัย อาจทำให้เกิดการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำ ผิวบางลง และเกิดพิษสะสมของสารปรอท ทำให้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และไตอักเสบ ขอแนะนำให้ประชาชนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ มีฉลากภาษาไทยที่ระบุชื่อที่ตั้งผู้ผลิต/ผู้นำเข้า เลขที่ใบรับจดแจ้งอย่างชัดเจน หากไม่แน่ใจสามารถตรวจสอบข้อมูลการได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ อย. ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข https://www.fda.moph.go.th/Pages/HomeP_D2.aspx หรือโทร. 02-590-7000 ได้ในเวลาราชการ บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว พบสารประกอบของปรอท (Mercury compound) ซึ่งเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารห้ามใช้ จัดเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัย อาจทำให้เกิดการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำ ผิวบางลง และเกิดพิษสะสมของสารปรอท ทำให้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และไตอักเสบ หน่วยงานที่ตรวจสอบ นักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข แสดงเพิ่มเติม ผลิตภัณฑ์ 1,795 ยอดนิยม ประเด็นฮิต “อิมเมจ เดอะวอยซ์” เหนื่อย หมดแรงจะโมโหแล้ว พ้อช่วยออกไปสักทีได้ไหม? “อุ้ม ลักขณา” แซ่บกว่าเมอร์เมด กับบิกินีฝาหอยสุดกร้าวใจ แหล่งที่พักหรูหราของผู้สูงอายุใน กรุงเทพมหานคร: มีราคาไม่แพง (ดูราคา) บ้านพักของผู้สูงอายุ | ค้นหาโฆษณา | Sponsored อ่านต่อ ถอยดีกว่า! "ปิยบุตร" แนะ "ก้าวไกล" หันไปเป็นฝ่ายค้าน หาก ส.ส.-ส.ว.ยังไม่ยอมในประเด็นแก้ ม.112 บ้านตู้คอนเทนเนอร์มีค่าใช้จ่ายเท่าไรในปี 2566? (ราคาอาจช็อก) บ้านคอนเทนเนอร์ | ค้นหาโฆษณา | Sponsored ค้นหาเลย อ่านเพิ่มเติม ข่าวที่เกี่ยวข้อง 338 ข่าวปลอม! ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Happy One รักษาริดสีดวงทวาร มาสร้างบ้านในฝันกับ NocNoc NocNoc แพลตฟอร์มสำหรับคนแต่งบ้าน | Sponsored ซื้อเลย ข่าวปลอม! ผลิตภัณฑ์ D-CONTACT X ลดความเสี่ยงเกิดต้อหิน ต้อกระจก ลดอาการเยื่อบุตาแห้ง ตาเมื่อยล้า ตาบอดกลางคืน57 ข่าวปลอม! ผลิตภัณฑ์ D-CONTACT X ลดความเสี่ยงเกิดต้อหิน ต้อกระจก ลดอาการเยื่อบุตาแห้ง ตาเมื่อยล้า ตาบอดกลางคืน 230 ข่าวปลอม! ผลิตภัณฑ์ Collagen Complex ช่วยเสริมสร้างกระดูก ฟื้นฟูเนื้อเยื่อกระดูกอ่อน และเร่งการสร้างเซลล์ใหม่ 1,556 ขอ อย.แปรรูป "กัญชา-กัญชง" เพียบ เป็นอาหาร 80 รายการ เครื่องสำอาง 754 รายการ แสดงเพิ่มเติม ข่าวในหมวดล่าสุด 1 ข่าวปลอม! ผลิตภัณฑ์สยามโอสถแก้ปัญหาปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะกระปริบกระปรอย หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ติดเชื้อระบบกระเพาะปัสสาวะ 2 ลิฟต์ขึ้นบันไดเป็นเทรนด์ในปี 2566 - ดูตัวเลือกวันนี้ (ลิฟต์บันได | ค้นหาโฆษณา | Sponsored) 3 ข่าวปลอม! สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเผยเลขลับเฉพาะวงใน งวด 1 พ.ย. 65 4 ข่าวปลอม! ย่านางแดงช่วยรักษาโรคกรดไหลย้อน ข่าวอื่นในหมวด ปวดข้อ ปวดเข่า ปวดหลัง คอ บ่า ไหล่ ลุกโอ๊ยนั่งโอ๊ย เดินมีเสียงดังก๊อบแก๊บ ตอนนี้มีเฮ พบทางออกแล้ว งานวิจัยสำเร็จแล้ว งาดำสายพันธุ์ไทยที่ถูกวิจัยกว่า 16 ปี ถือเป็นอีกทางเลือกในการดูแลสุขภาพในระยะยาว ปลอดภัยจากผลข้างเคียงที่จะตามมา น้ำมันงาดำสกัดเย็น | Sponsored คลิกที่นี่ 6.6 Mega WOW Sale Shop More to Save More Lazada_TH | Sponsored ซื้อเลย Phuket: เตียงที่ขายไม่ออกเกือบฟรี (ดูราคา) ค้นพบว่าเตียงอัจฉริยะที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของเราสามารถยกระดับประสบการณ์การนอนของคุณได้อย่างไร - ถึงเวลาสำหรับการพักผ่อนที่คู่ควรแล้วหรือยัง เตียงอัจฉริยะ | ค้นหาโฆษณา | Sponsored คลิกที่นี่ Phuket: ราคาบ้านสำเร็จรูปในปี 2023 อาจทำให้คุณทึ่ง บ้านสำเร็จรูป | ค้นหาโฆษณา | Sponsored คลิกที่นี่ Tops Online ส่งความสดและความสุขถึงบ้านคุณ ช็อปปุ๊บ ลดเลยทันที 100 บาท พร้อมส่งฟรี Tops Online | Sponsored ซื้อเลย ติดตามข่าวสารผ่านทาง LINE ติดตามทุกข่าวสารผ่านทาง LINE MGR Online Application Download on the App StoreAndroid app on Google Play ติดตาม MGR Online โลโก้ สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ นโยบายความเป็นส่วนตัว นโยบายการใช้คุกกี้ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ เกี่ยวกับเรา ติดต่อเรา © 2014-2023 mgronline.com. All rights reserved. MGR Online ใช้คุกกี้ (Cookies) MGR Online ใช้คุกกี้ เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อนำเสนอ ประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับผู้อ่านบนเว็บไซต์ และ แอพพลิเคชั่น เงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์ และ นโยบายสิทธิส่วนบุคคล ยอมรับความสวยความงามอย. เพิกถอนธนวิชญ์ วินารัตน์• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเขย่าขวดน้ำช่วยเพื่อแก๊สออกซิเจน"เขย่าขวดน้ำ ไม่ได้จะทำให้โมเลกุลของน้ำเล็กลง นะครับ" จู่ๆ ก็มีคลิปนี้ออกมาไวรัลกัน เป็นคุณผู้หญิงสูงอายุท่านหนึ่ง ออกมาสาธิตวิธีการ ที่อ้างว่าสามารถทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้น !? โดยการให้เอาน้ำขวดมาเขย่ากระแทกแรงๆ 20 ครั้ง บอกว่าจะทำให้โมเลกุลของน้ำเปลี่ยนจากขนาดใหญ่เป็นขนาดเล็ก และทำให้ออกซิเจนในขวดลงไปในน้ำมากขึ้น เวลาดื่ม ให้อมไว้สักครู่ก่อนกลืน จะรู้สึกได้ว่าน้ำนุ่มนวลขึ้น และร่างกายมีออกซิเจนสูงขึ้น !? ไม่จริงนะครับ !! ทำอย่างนั้น ไม่ได้ทำให้โมเลกุลของน้ำเล็กลง และก็ไม่ได้เพิ่มออกซิเจนเข้าไปในน้ำมากมายขึ้นด้วย โมเลกุลของน้ำ ก็คือ H2O อย่างที่เราคุ้นเคยกันนั่นแหละ ประกอบด้วยไฮโดรเจน 2 อะตอมและออกซิเจน 1 อะตอม ซึ่งขนาดโมเลกุลก็ไม่ได้เล็กไปกว่านี้แล้ว อาจเป็นไปได้ว่าคำว่า "น้ำโมเลกุลใหญ่" "น้ำโมเลกุลเล็ก" อาจจะโดยเอามาจากเรื่องของการเกิด "คลัสเตอร์" ของกลุ่มโมเลกุลของน้ำ ที่มาอยู่รวมกันรูปของเหลว ที่ในทางเคมีฟิสิกส์แล้ว ถ้าเราให้พลังงานมากๆ กับคลัสเตอร์โมเลกุลที่มีขนาดใหญ่ ก็สามารถทำให้โมเลกุลของน้ำกระจายตัวออกจากกัน หรืออาจพูดได้ว่าคลัสเตอร์มีขนาดเล็กลง ถึงเรื่องทำนองนี้ มักจะถูกเอาไปอ้างทำ "เครื่องกรองน้ำโมเลกุล พลังแม่เหล็ก" หลอกขายชาวบ้านกันอยู่เรื่อยๆ ว่าทำน้ำโมเลกุลเล็กได้ แล้วอ้างว่าจะดีขึ้นกับร่างกาย เพราะน้ำจะซึมซาบเข้าสู่เซลล์ต่างๆ ได้ดีขึ้น แต่นั่นก็ไม่จริงอีกนะครับ เพราะเวลาโมเลกุลของน้ำเข้าสู่เซลล์ของร่างกาย มันจะเข้าเรียงหนึ่ว ทีละโมเลกุล H2O ตามปกติอยู่แล้ว ไม่ว่า cluster ของน้ำจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม และถ้าการให้พลังงานกับน้ำจนคลัสเตอร์เล็กลงได้อย่างที่ว่า (ซึ่งจริงๆ ก็โม้นั่นแหละ) เมื่อทิ้งน้ำเอาไว้ มันก็จะคายพลังงานออก และกลับเข้าสู่สภาวะเดิม กลับมาเรื่องคลิปไวรัลที่เห็นนั้น ก็ขอสรุปอีกทีว่า เขย่าให้ตายยังไง ก็ไม่ได้ทำให้โมเลกุลของน้ำเล็กลงแน่ๆ แล้วก๊าซออกซิเจน ก็ไม่ได้ลงไปละลายเพิ่มขึ้นในน้ำมากสักเท่าไหร่หรอก จากการเขย่าแบบนั้น .. ถ้าอยากให้ออกซิเจนเยอะๆ ก็ไปอยู่ในที่ที่อากาศบริสุทธิ์ แล้วหายใจเต็มปอดเข้าออกเยอะๆ ครับ แค่นั้นก็ได้แล้ว 555 ปล. สงสัยที่คลิปนี้ดังได้ เพราะคนกำลังกลัวเรื่องติด covid แล้วขาดออกซิเจน ... พอๆ กับที่คนไปตามหาซื้อออกซิเจนกระป๋อง กะจะมาสูดดมกันเลย ... ซึ่งไม่เวิร์คนะครับ จริงๆ มันต้องใช้ออกซิเจนเป็นปริมาณมาก และแรงดันสูงขึ้นนะครับ ในการรักษาคนที่มีอาการปอดอักเสบจากโรคโควิด !!std48354• 2 ปีที่แล้ว

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
