(2462 ข้อความ)
- 1 คนสงสัยจริงหรือคะ เงินเยียวยาเกษตรกรพร้อมโอนวันที่ 15 พค 63 นี้ ได้ถึง 8.3ล้านคนธ.ก.ส. แจ้งเกษตรกร 8.3 ล้านราย เตรียมตัวให้พร้อมตรวจสอบผลการผลการโอนเงินผ่าน www.เยียวยาเกษตกร.com ได้ตั้งแต่ 15 พ.ค. ส่วนผู้ที่อยู่ระหว่างขึ้นทะเบียน ปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกร รอรับเงิน 29 พ.ค.naydoitall• 6 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยยาลดน้ำหนักที่เป็นอันตรายยาลดน้ำหนักที่มีส่วนประสมจำพวก ไซบูทรามีน เฟนเทอรมีน ออริสเเตท ฟีนิล์ทาลีน เฟนฟลูรามีน ยาขับปัสสาวะ จะทำให้เกิดอันตรายได้Mxtinx260148• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยมีผู้เสียชัวิต หลังการฉีดวัคซีน ชิโนแวค จริงหรือไม่มีผู้เสียชัวิต หลังการฉีดวัคซีน ชิโนแวค จริงหรือไม่โควิด 2019วัคซีนโควิดMrs.Doubt• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยคลื่นเสียงฆ่าเซลล์มะเร็งและรักษาโรคได้จริงๆหรือคลื่นเสียงฆ่าเซลล์มะเร็งและรักษาโรคได้จริงๆหรือมะเร็งAZ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยนัท นิสามณี เดือดโต้กลับ บิวตี้บล็อกเกอร์ หลังรีวิวลิปผ่านกล้อง UVกลายเป็นประเด็น ดราม่า ขึ้นมาทันที หลัง บิวตี้บล็อกเกอร์ รายหนึ่ง ได้ทำคลิปรีวิวลิปมันของ ยูทูบเบอร์ ชื่อดังอย่าง นัท นิสามณี โดยการทดสอบกับกล้อง UV โดยใช้หลักการที่ว่า หากลิปดังกล่าวมีส่วนผสมที่ช่วยป้องกันรังสี UV จริง เมื่อทาแล้วจะปรากฏเป็นสีดำชัดเจน แต่หลังจากที่ทดสอบปรากฏว่าลิปมันของ นัท นิสามณี ไม่ขึ้นสีดำ ด้าน บิวตี้บล็อกเกอร์ คนดังกล่าวจึงได้นำลิปของอีกแบรนด์มาทดสอบให้ดูเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างความสวยความงามผู้บริโภคเฝ้าระวังมีมstd47656• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยสเปรย์พ่นปากฟ้าทะลายโจร ตราวี เฟรช สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ลงปอดได้ผลิตภัณฑ์วี เฟรช เม้าท์ สเปรย์ โฆษณาสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ว่า สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ลงปอดได้นั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า ผลิตภัณฑ์วี เฟรช เม้าท์ สเปรย์ V FRESH MOUTH SPRAY ผลิตโดย บ. บิวตี้ คอสเมต จก. จดแจ้งไว้ว่าเป็นเครื่องสำอาง ประเภทสเปรย์ระงับกลิ่นปาก ใบรับจดแจ้งเลขที่ 65-1-6400022581 ผลิตภัณฑ์นี้เป็นเครื่องสำอาง ใช้เพื่อระงับกลิ่นปาก ไม่มีผลในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ลงปอดได้ หากผู้บริโภคหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาใช้ เพื่อหวังผลในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ลงปอด อาจเสียโอกาสในการรักษา ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้องโควิด 2019ยาสมุนไพรอย. เพิกถอนผู้บริโภคเฝ้าระวังstd47859• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
- 1 คนสงสัยทานอาหารเมนูผักต้านโควิดการสร้างความเชื่อที่ว่าการกินเจ กินมังสวิรัติ และรับประทานผลไม้ที่มีฤทธิเป็นด่างจะไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีผู้ส่งข้อความมายัง cofact.org เพื่อให้ตรวจสอบว่าข้อมูลที่มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมากว่ากินเจไม่ติดโควิดจริงหรือไม่ ประเด็นนี้ต้องย้อนไปในสื่อที่เคยนำเสนอบทความเผยแพร่ว่านักวิชาการยืนยันการกินเจ กินมังสวิรัติ ไม่ติดโควิด ไม่เป็นความจริงstd47622• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยดื่มแอลกอฮอล์แล้วจะไม่ติดโควิดผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ จะไม่ติดเชื้อโรคโควิ-19 และดื่มทุกวันจะทำให้ได้ผลที่ดีกว่าการออกกำลังกายstd47801• 2 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ
- 1 คนสงสัยBTOกลูต้า กินเเล้วเห็นผลเร็วจริงหรือไม่ส่วนผสมหลักของ กลูต้า BTO บีทีโอ 💫 Yeast Beta-Glucan : ต้านอนุมูลอิสระฟื้นฟูผิว ลดเลือนริ้วรอย ผิวหนังยืดหยุ่น มีน้ำมีนวล ชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวหนังแข็งแรง 💫 L-CARNITINE L-TARTRATE แอลคาร์นิทีน : ให้ความชุ่มชื้นต่อผิวอย่างสมดุลย์ ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และยังสามารถช่วยลดเซลลูโลท์ (CELLULITE) นอกจากนี้ ยังมีประสิทธิภาพในการลดความมันของผิว ต้านอนุมูลอิสระอย่างดีเยี่ยม มีประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย รอยด่างดำ ผิวแลดูอ่อนเยาว์ 💫 L-GLUTATHIONE แอล-กลูตาไธโอน : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เซลล์ในร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ได้เอง มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ในการปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระ ที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย และที่สำคัญยังช่วยตับในการทำลาย และขจัดสารพิษออกจากร่างกายด้วย 💫 SOYBEAN EXTRACT สารสกัดถั่วเหลือง : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ช่วยกระตุ้นสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวเรียบเนียนใส ปรับผิวให้กระจ่างใส ลดปัญหาความหมองคล้ำ 💫 GINSENG EXTRACT สารสกัดโสม : มีประสิทธิภาพสูงในการปรับสภาพของผิวพรรณ ให้เต่งตึงดูมีเลือดฝาด และดูอ่อนกว่าวัย ช่วยทำให้ผิวอ่อนนุ่มและชุ่มชื้นมากขึ้น ป้องกันการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ช่วยชะลอริ้วรอย อีกทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนของโลหิตใต้ผิวหนังให้มีมากขึ้น ช่วยต้านอนุมูลอิสระ (ANTIOXIDANT) ป้องกันการเกิดริ้วรอย ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (TYROSINASE) ที่มีส่วนสำคัญในการผลิตเม็ดสีผิว 💫 DONG QUAI EXTRACT สารสกัดจากตังกุย : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย บำรุงผิว ผิวขาวกระจ่างใส มีสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงร่างกายกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น ช่วยบำรุงสุขภาพคุณผู้หญิง รวมถึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน 💫 POMEGRANATE EXTRACT สารสกัดทับทิม : อุดมด้วยสารกลุ่ม โพลีฟีนอล และเป็น ANTI-OXIDANT ที่ดีมากต่อผิวพรรณ โดยพบว่ามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอย่างดีเยี่ยม มีประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย รอยด่างดำ ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ผลทับทิมให้ปริมาณสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าไวน์แดง และ ชาเขียว ถึง 3 เท่า 💫 ASCORBIC ACID วิตามินซี : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย เป็นตัวสร้างคอลาเจน ซึ่งเป็นเส้นใยทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆ ไว้ด้วยกัน ทำให้ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ ช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นได้ เพราะวิตามินซีสามารถให้ความความชุ่มชื้น และกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวได้จอ จอ• 2 ปีที่แล้ว
- 3 คนสงสัยเคี้ยวเม็ดมะละกอรักษามะเร็งเคี้ยวเม็ดมะละกอสุกแล้วกลืนโดยไม่ต้องกินน้ำตาม วันละ 3 เม็ด รักษามะเร็งระยะสุดท้าย เห็นผลใน 1 เดือนมะเร็งstd48316• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยจิบน้ำขมิ้นชันป้องกันมะเร็งจริงหรือไม่สารออกฤทธิ์สำคัญของขมิ้นชันมีชื่อว่า “เคอร์คิวมิน” (Curcumin) เป็นสารจากธรรมชาติในกลุ่มโพลีฟีนอล ซึ่งมีการศึกษาวิจัยมาตั้งแต่ก่อนหน้าเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ว่าสารดังกล่าวสามารถป้องกันและรักษามะเร็งได้มะเร็งผู้บริโภคเฝ้าระวังstd46332• 3 ปีที่แล้ว
- 2 คนสงสัยเคี้ยวเม็ดมะละกอรักษามะเร็ง ติดอันดับ 1 ข่าวปลอมถูกแชร์มากสุดปี 65ดีอีเอส เปิดสถิติข่าวปลอมประจำปี 2565 นโยบายภาครัฐครองแชมป์สูงสุด ส่วน เคี้ยวเม็ดมะละกอรักษามะเร็ง ข่าวปลอมถูกแชร์วนซ้ำบ่อยที่สุดอันดับ 1 น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ฝ่ายการเมือง เปิดเผย สถิติการตรวจสอบข่าวปลอม โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประจำปี 2565 (ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.2565 – 31 ธ.ค.2565) พบว่ามีข้อความข่าวที่ต้องคัดกรอง 517,965,417 ข้อความ หลังจากคัดกรองพบข้อความข่าวที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 14,859 เรื่องแบ่งเป็น โดยหมวดหมู่นโยบายรัฐ 3,772 เรื่อง ตามมาด้วย หมวดหมู่สุขภาพ 2,344 เรื่อง หมวดหมู่เศรษฐกิจ 634 เรื่อง และหมวดหมู่ภัยพิบัติ 450 เรื่องstd47676• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยพรุ่งนี้!! บขส.หยุดวิ่งไปภาคใต้ทุกเส้นทางพรุ่งนี้!! บขส. ประกาศหยุดเดินรถเส้นทางภาคใต้ทุกเส้นทาง ส่วนภาคเหนือ-อีสาน เปิดให้บริการรวม 13 เส้นทาง ผู้โดยสารที่จองตั๋วล่วงหน้าวันที่ 10-25 ก.ค.นี้ ขอคืนตั๋วได้เต็มราคาไม่หักค่าธรรมเนียมได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋วของ บขส. ก่อนเวลารถออก ไม่น้อยกว่า 3 ชมPuwxt Sky• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอภินิหารกินเจไม่มีจริง เตือนข้อมูลข่าวปลอมทานอาหารเมนูผักต้านโควิดอภินิหารกินเจไม่มีจริง เตือนข้อมูลข่าวปลอมทานอาหารเมนูผักต้านโควิด หลายครั้งความเชื่อกับความป่วยมักสวนทางกัน หนึ่งในนั้นคือการสร้างความเชื่อที่ว่าการกินเจ กินมังสวิรัติ และรับประทานผลไม้ที่มีฤทธิเป็นด่างจะไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีผู้ส่งข้อความมายัง cofact.org เพื่อให้ตรวจสอบว่าข้อมูลที่มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมากว่ากินเจไม่ติดโควิดจริงหรือไม่ ประเด็นนี้ต้องย้อนไปในสื่อที่เคยนำเสนอบทความเผยแพร่ว่านักวิชาการยืนยันการกินเจ กินมังสวิรัติ ไม่ติดโควิด ไม่เป็นความจริง ช่วงปลายเดือนมี.ค. 2563 ที่ผ่านมา มีการชี้แจงข้อเท็จจริงจากนักวิชาการหลายๆ ท่านว่า การกินเจ กินมังสวิรัติ ไม่ติดโควิด-19 ไม่เป็นความจริง อาทิ อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์อธิบายผ่านเพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2563 ระบุว่า “คนกินเจ ก็ติดโรคโควิด-19 ได้นะครับ เหมือนช่วงนี้ ทุกคนพยายามจะเอาความเชื่อตัวเอง มาเชื่อมโยงกับการป้องกันรักษาโรคจากเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่กันใหญ่เลย มีอาหารเสริมหลายชนิดที่แอบอ้างขายช่วงนี้ รวมไปถึงวิตามิน และสมุนไพรด้วยPrimrata Armawan• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยทานอาหารเมนูผักต้านโควิดทานอาหารเมนูผักต้านโควิดstd46620• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยเรื่องเรือไททันวันนี้ (23 มิ.ย.2566) ภารกิจค้นหาเรือดำน้ำไททันกลายเป็นโศกนาฏกรรม หลังมีรายงานการพบซากชิ้นส่วนของเรือดำน้ำไททัน หลังจากผ่านมา 4 วันเต็มที่เรือขาดการติดต่อไป ตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา และคาดว่าออกซิเจนภายในเรือจะหมดลง เมื่อช่วงเวลา 17.00 น. ของวันที่ 22 มิ.ย.2566apichaya.decha• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยใครใกล้สุวรรณภูมิรีบด่วน! บริษัทในสนามบินกว่า 30 แห่งเปิดรับสมัครงานกว่า 1,500 อัตรา ข่าวจริงไหมใครใกล้สุวรรณภูมิรีบด่วน! บริษัทในสนามบินกว่า 30 แห่งเปิดรับสมัครงานกว่า 1,500 อัตราโควิด 2019Mrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยปชช. ระวังมิจฉาชีพแฝงตัวหลอกกดลิ้งก์ ลอยกระทงออนไลน์ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยปชช. ระวังมิจฉาชีพแฝงตัวหลอกกดลิ้งก์ ลอยกระทงออนไลน์ https://ch3plus.com/news/crime/ch3onlinenews/318993 #3PlusNews #ข่าวช่อง3ผู้บริโภคเฝ้าระวังMrs.Doubt• 3 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยอนุมัติแล้วจ่ายคนละ9,100 ให้อนุบาลถึงม.6หรือปวช.อนุมัติแล้วจ่ายคนละ9,100 ให้อนุบาลถึงม.6หรือปวช.Abd Zaaq• 4 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยด่วน !! นอร์เวย์เสียชีวิต 23 คนหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เร่งสอบสวนในรายละเอียด https://www.blockdit.com/posts/60025351aa01130ce29cf61eโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้วmeter: true1 ความเห็น
- 1 คนสงสัยเขาเขียนไว้ก่อนตายเพียงวันเดียวถ้าอยากรู้ความคิดเขา…ลองอ่านดูนะ เป็นเรื่องของหญิงคนหนึ่ง ที่ป่วยเป็นมะเร็งในวัย 26 ปีเศษ เท่านั้น เธอได้เสียชีวิต หลังจากโพสต์ข้อความนี้ ลงใน Facebook เพียง 1 วัน และครอบครัวก็นำมาเผยแพร่ เพื่อให้ผู้อื่นอ่านและรับรู้ว่า..ชีวิตนี้มีค่ามากนะ ความคิดของคนใกล้ตาย รายนี้ ถือว่า ดีมาก ทุกคนควรตระหนัก สังขารมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา จงยังความไม่ประมาท ให้ถึงพร้อมเถิด เธอ ได้โพสต์ข้อความเหล่านี้ ก่อนเสียชีวิต เพียง 1 วัน ว่า มันก็แปลกอยู่นะ ที่ฉันจะต้องยอมรับความตายในวัยแค่ 26 ปีเศษเท่านั้น ความตาย เป็นสิ่งที่คนหนุ่มสาวอย่างเรามักจะเพิกเฉย เพราะเราคิดว่ายังจะมีวันพรุ่งนี้เสมอ เราจะมีชีวิตไปเรื่อยๆ ความตายเป็นเรื่องของวันข้างหน้า ที่ไม่มีใครรู้ว่า จะเกิดเมื่อไหร่ ฉันนึกภาพตัวเองตอนแก่ หน้าเหี่ยว ผมหงอกเต็มหัว……ฉันอยากได้ชีวิตแบบนั้น แต่ไม่มีใคร ควบคุมความตายได้ และ เรามักมองข้ามความตาย และพยายามไม่คิดถึงมัน ฉันก็เคยคิดว่า มันคงไม่ได้จะเกิดกับตัวเองหรือใครที่ฉันรัก ในเร็ววัน สิ่งที่ฉันอยากจะบอก คือ คุณเลิกกังวลกับ ปัญหางี่เง่าเล็กๆน้อยๆ ในแต่ละวัน ที่เกิดกับชีวิตเสียเถอะ ความเครียด อย่าไปสะสมเลย สิ่งที่เราทำได้ ควรจะเป็นการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ด้วยความรู้สึกที่ดี มีคุณค่าในตัวเอง ตัดเรื่องปัญญาอ่อนออกไปเถอะ ในช่วงเวลาที่คุณ เอาแต่บ่นกระปอดกระแปด ขอให้รู้ว่า คนอื่นก็เจอปัญหาแบบเดียวกับคุณ และ อาจจะอยู่ในเงื่อนไขที่แย่มากกว่าคุณอีก แม้บางเรื่องมันกระทบจิตใจ และ สร้างความรำคาญให้ชีวิต แต่อย่าแบกมันเอาไว้ เพราะมันจะส่งต่อผลกระทบทางลบ ต่อตัวเองและคนใกล้ชิด เมื่อคุณเริ่มไม่พอใจเรื่องอะไร ขอให้รีบเดินออกมาจากตรงนั้นก่อน หายใจเข้าลึกๆให้เต็มปอด ออกไปหาจุดมองแล้วสบายตาดีกว่า วันที่คุณเซ็งกับรถติด หรือ ช่างตัดผม ตัดให้คุณสั้นเกินไป หรือ คิดว่าตัวเองนมเล็กเกินไป หรือ มีมอเตอร์ไซต์มาตัดหน้ารถคุณ คุณปล่อยเรื่องบ้าๆ พวกนี้ทิ้งไปเถอะ มันล้วนเป็นขยะ ทำให้เราหมดความสุข บางคน เอาแต่บ่นเรื่องปัญหาจากการทำงาน หรือ อ้างแต่ว่าไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย จงสำนึกในตอนนี้เถอะว่า มันดีแค่ไหนแล้ว ที่ร่างกายคุณ ยังทำงานได้ หรือ ยังขยับเขยื้อนได้ แต่ละวันที่คุณทำงาน หรือ เดินได้ มันดูเหมือนเรื่องเล็กน้อยมากๆนะ แต่มันจะมีค่ามาก ถ้าคุณพบกับ วันที่ไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป จงรักร่างกายของตัวเองเถอะ แม้ว่ารูปร่างเราอาจจะไม่ได้เป๊ะอย่างที่อยากเป็น อยากมีก็ตาม พยายาม กินอาหารที่ใหม่ และเป็นประโยชน์ จำเอาไว้ คำว่าสุขภาพที่ดี คือ สุขภาพทั้งจิตและกาย ดี มีอารมณ์ที่ดี เลิกสนใจข้อความใดๆ ที่คุณอ่านแล้วทำให้ไม่สบายใจ เขึ่ยทิ้งไป หรือเลิกยุ่งเกี่ยวกับเพื่อน หรือใครก็ตามที ที่ทำให้คุณภาพชีวิตคุณตกต่ำ จงดีใจเถอะ ถ้าวันนี้ร่างกายคุณยังแข็งแรงดีอยู่ หรือ อาจจะแค่เป็นหวัด เมื่อยหลัง หรือ ข้อเท้าเคล็ดก็ตาม อาการพวกนี้ ไม่ทำให้ถึงตายหรอก เดี๋ยวก็หาย ต้องบ่นเรื่องต่างๆให้น้อยลง คนเรา มักจะมีความสุข ในเวลาที่ทำสิ่งดีๆให้คนอื่น จงพยายามทำให้มากๆเถิด มันเป็นบุญวาสนา บารมีนะ บางคน อาจจะคิดแต่เรื่องการซื้อชุดใหม่ ของสวยงาม เครื่องประดับ ที่จะใส่ไปงานต่างๆ โดยที่คุณไม่รู้หรอกว่า แท้จริง 1. ไม่มีใครมาสนใจนั่งดูหรอกว่า คุณใส่ชุดซ้ำหรือเปล่า 2.เอาเงินไปใช้ในสิ่งที่จำเป็นในชีวิตมากกว่า ดีกว่า เมื่อมีนัดที่ใด เมื่อไร พยายาม ไปถึงก่อนเวลา ตัวคุณเอง ก็จะได้รับความเคารพจากผู้คนที่เกี่ยวข้อง ใช้เงินของคุณไปกับประสบการณ์ที่ดีเถอะ หรือ อย่างน้อยก็อย่าผลาญเงินไปจนหมด จนคุณไม่ได้ทำอะไร ที่เป็นประโยชน์เลย จงพยายาม หาเวลา อยู่กับธรรมชาติบ้าง ดื่มด่ำ กับสิ่งรอบตัวในช่วงเวลาที่ดี ไม่ใช่เอาแต่ถ่ายรูป หรือ เล่นมือถืออย่างเดียว ชีวิตจริงไม่ใช่ความเคลื่อนไหวที่หน้าจอ หรือ คอยแต่หามุมถ่ายรูป ใช้ชีวิตกับมัน อยู่ตรงนั้น มีความสุข กับช่วงเวลานั้นๆ ให้มากขึ้นเถอะ ลองตื่นให้เช้าขึ้น ฟังเสียงนกร้อง และ ดูความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้น ควรทำงานเพื่อเลี้ยงชีพ แต่ อย่าถึงกับ พลีชีพเพื่อการทำงาน คุณต้องทำให้ หัวใจของคุณมีความสุข ไม่ต้องไปไล่ตามคนอื่น แบบที่คนอื่นทำ คุณอาจต้องการแค่ชีวิตพื้นๆ สบายๆ ที่ไม่มีความทุกข์เท่านั้น มันก็โอเคแล้วนะ! บอกรักคนที่คุณรัก จะเป็น พ่อแม่ ลูก พี่น้อง หรือ คนข้างกาย ในทุกครั้ง ที่มีโอกาส พยายามรักในทุกสิ่ง ทุกอย่างที่คุณมี คุณไม่รู้หรอกว่า คุณเหลือเวลาอยู่บนโลกใบนี้ อีกนานแค่ไหน อย่าไปเสียเวลากับปัญหาปลีกย่อยอีกเลย สิ่งสุดท้าย ถ้าคุณ สามารถ ที่จะทำอะไรดีๆ เพื่อเพื่อนมนุษย์ อย่างเช่น การบริจาคเลือด การให้ทาน จงทำทันที ที่สามารถทำได้ และ ทำเพื่อตนเอง เช่น การรักษาศีล การทำแต่สิงที่ดีๆ สิ่งที่ไม่ดีไม่ทำ การทำให้จิตสงบเย็น ฉันอาจมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ได้อีกไม่นาน จึงขอฝากไว้เพียงแค่นี้ เรียบเรียง จากบางส่วน ที่ฮอลโพสต์ ก่อนเสียชีวิตเพียง 1 วัน ขอให้เธอไปสู่สุคติเถิด Vichit Amornrojworawutสุขภาพมะเร็งมีมไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย*ชีวิตนี้มีค่ามาก*อย่าได้ปล่อยปละละเลย เป็นเรื่องของหญิงคนหนึ่ง ที่ป่วยเป็นมะเร็งในวัย 26 ปีเศษ เท่านั้น เธอได้เสียชีวิต หลังจากโพสต์ข้อความนี้ ลงใน Facebook เพียง 1 วัน และครอบครัวก็นำมาเผยแพร่ เพื่อให้ผู้อื่นอ่านและรับรู้ว่า..ชีวิตนี้มีค่ามากนะ ความคิดของคนใกล้ตาย รายนี้ ถือว่า ดีมาก ทุกคนควรตระหนัก สังขารมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา จงยังความไม่ประมาท ให้ถึงพร้อมเถิด เธอ ได้โพสต์ข้อความเหล่านี้ ก่อนเสียชีวิต เพียง 1 วัน ว่า มันก็แปลกอยู่นะ ที่ฉันจะต้องยอมรับความตายในวัยแค่ 26 ปีเศษเท่านั้น ความตาย เป็นสิ่งที่คนหนุ่มสาวอย่างเรามักจะเพิกเฉย เพราะเราคิดว่ายังจะมีวันพรุ่งนี้เสมอ เราจะมีชีวิตไปเรื่อยๆ ความตายเป็นเรื่องของวันข้างหน้า ที่ไม่มีใครรู้ว่า จะเกิดเมื่อไหร่ ฉันนึกภาพตัวเองตอนแก่ หน้าเหี่ยว ผมหงอกเต็มหัว……ฉันอยากได้ชีวิตแบบนั้น แต่ไม่มีใคร ควบคุมความตายได้ และ เรามักมองข้ามความตาย และพยายามไม่คิดถึงมัน ฉันก็เคยคิดว่า มันคงไม่ได้จะเกิดกับตัวเองหรือใครที่ฉันรัก ในเร็ววัน สิ่งที่ฉันอยากจะบอก คือ คุณเลิกกังวลกับ ปัญหางี่เง่าเล็กๆน้อยๆ ในแต่ละวัน ที่เกิดกับชีวิตเสียเถอะ ความเครียด อย่าไปสะสมเลย สิ่งที่เราทำได้ ควรจะเป็นการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ด้วยความรู้สึกที่ดี มีคุณค่าในตัวเอง ตัดเรื่องปัญญาอ่อนออกไปเถอะ ในช่วงเวลาที่คุณ เอาแต่บ่นกระปอดกระแปด ขอให้รู้ว่า คนอื่นก็เจอปัญหาแบบเดียวกับคุณ และ อาจจะอยู่ในเงื่อนไขที่แย่มากกว่าคุณอีก แม้ บางเรื่องมันกระทบจิตใจ และ สร้างความรำคาญให้ชีวิต แต่อย่าแบกมันเอาไว้ เพราะมันจะส่งต่อผลกระทบทางลบ ต่อตัวเองและคนใกล้ชิด เมื่อคุณเริ่มไม่พอใจเรื่องอะไร ขอให้รีบเดินออกมาจากตรงนั้นก่อน หายใจเข้าลึกๆให้เต็มปอด ออกไปหาจุดมองแล้วสบายตาดีกว่า วันที่คุณเซ็งกับรถติด หรือ ช่างตัดผม ตัดให้คุณสั้นเกินไป หรือ คิดว่าตัวเองนมเล็กเกินไป หรือ มีมอร์เตอร์ไซต์มาตัดหน้ารถคุณ คุณปล่อยเรื่องบ้าๆ พวกนี้ทิ้งไปเถอะ มันล้วนเป็นขยะ ทำให้เราหมดความสุข บางคน เอาแต่บ่นเรื่องปัญหาจากการทำงาน หรือ อ้างแต่ว่าไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย จงสำนึกในตอนนี้เถอะว่า มันดีแค่ไหนแล้ว ที่ร่างกายคุณ ยังทำงานได้ หรือ ยังขยับเขยื้อนได้ แต่ละวันที่คุณทำงาน หรือ เดินได้ มันดูเหมือนเรื่องเล็กน้อยมากๆนะ แต่มันจะมีค่ามาก ถ้าคุณพบกับ วันที่ไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป จงรักร่างกายของตัวเองเถอะ แม้ว่ารูปร่างเราอาจจะไม่ได้เป๊ะอย่างที่อยากเป็น อยากมีก็ตาม พยายาม กินอาหารที่ใหม่ และเป็นประโยชน์ จำเอาไว้ คำว่าสุขภาพที่ดี คือ สุขภาพทั้งจิตและกาย ดี มีอารมณ์ที่ดี เลิกสนใจข้อความใดๆ ที่ คุณอ่านแล้วทำให้ไม่สบายใจ เขึ่ยทิ้งไป หรือเลิกยุ่งเกี่ยวกับเพื่อน หรือใครก็ตามที ที่ทำให้คุณภาพชีวิตคุณตกต่ำ จงดีใจเถอะ ถ้าวันนี้ร่างกายคุณยังแข็งแรงดีอยู่ หรือ อาจจะแค่เป็นหวัด เมื่อยหลัง หรือ ข้อเท้าเคล็ดก็ตาม อาการพวกนี้ ไม่ทำให้ถึงตายหรอก เดี๋ยวก็หาย ต้องบ่นเรื่องต่างๆให้น้อยลง คนเรา มักจะมีความสุข ในเวลาที่ทำสิ่งดีๆให้คนอื่น จงพยายามทำให้มากๆเถิด มันเป็นบุญวาสนา บารมีนะ บางคน อาจจะคิดแต่เรื่องการซื้อชุดใหม่ ของสวยงาม เครื่องประดับ ที่จะใส่ไปงานต่างๆ โดยที่คุณไม่รู้หรอกว่า แท้จริง 1. ไม่มีใครมาสนใจนั่งดูหรอกว่า คุณใส่ชุดซ้ำหรือเปล่า 2.เอาเงินไปใช้ในสิ่งที่จำเป็นในชีวิตมากกว่า ดีกว่า เมื่อมีนัดที่ใด เมื่อไร พยายาม ไปถึงก่อนเวลา ตัวคุณเอง ก็จะได้รับความเคารพจากผู้คนที่เกี่ยวข้อง ใช้เงินของคุณไปกับประสบการณ์ที่ดีเถอะ หรือ อย่างน้อยก็อย่าผลาญเงินไปจนหมด จนคุณไม่ได้ทำอะไร ที่เป็นประโยชน์ฺเลย จงพยายาม หาเวลา อยู่กับธรรมชาติบ้าง ดื่มด่ำ กับสิ่งรอบตัวในช่วงเวลาที่ดี ไม่ใช่เอาแต่ถ่ายรูป หรือ เล่นมือถืออย่างเดียว ชีวิตจริงไม่ใช่ความเคลื่อนไหวที่หน้าจอ หรือ คอยแต่หามุมถ่ายรูป ใช้ชีวิตกับมัน อยู่ตรงนั้น มีความสุข กับช่วงเวลานั้นๆ ให้มากขึ้นเถอะ ลองตื่นให้เช้าขึ้น ฟังเสียงนกร้อง และ ดูความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้น ควรทำงานเพื่อเลี้ยงชีพ แต่ อย่าถึงกับ พลีชีพเพื่อการทำงาน คุณต้องทำให้ หัวใจของคุณมีความสุข ไม่ต้องไปไล่ตามคนอื่น แบบที่คนอื่นทำ คุณอาจต้องการแค่ชีวิตพื้นๆ สบายๆ ที่ไม่มีความทุกข์เท่านั้น มันก็โอเคแล้วนะ! บอกรักคน ที่คุณรัก จะเป็น พ่อแม่ ลูก พี่น้อง หรือ คนข้างกาย ในทุกครั้ง ที่มีโอกาส พยายามรักในทุกสิ่ง ทุกอย่างที่คุณมี คุณไม่รู้หรอกว่า คุณเหลือเวลาอยู่บนโลกใบนี้ อีกนานแค่ไหน อย่าไปเสียเวลากับปัญหาปลีกย่อยอีกเลย สิ่งสุดท้าย ถ้าคุณ สามารถ ที่จะทำอะไรดีๆ เพื่อเพื่อนมนุษย์ อย่างเช่น การบริจาคเลือด การให้ทาน จงทำทันที ที่สามารถทำได้ และ ทำเพื่อตนเอง เช่น การรักษาศีล การทำแต่สิงที่ดีๆ สิ่งที่ไม่ดีไม่ทำ การทำให้จิตสงบเย็น ฉันอาจมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ได้อีกไม่นาน จึงขอฝากไว้เพียงแค่นี้ เรียบเรียง จากบางส่วน ที่ฮอลโพสต์ ก่อนเสียชีวิตเพียง 1 วัน ขอให้เธอไปสู่สุคติเถิดมะเร็งมีมไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยนิยายเรื่องเงินดิจิทัลฉบับลูกทุ่ง ตอนที่2.... เอาละครับ มาถึงตอนนี้คิดว่าทุกคนคงเข้าใจแล้วนะว่าเงินดิจิทัลมันมีที่มาที่ไปอย่างไร เข้าสร้างมันมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไร แม้ว่าวัตถุประสงค์ดั้งเดิมของมันมันจะดูไม่ขาวนักก็หลิ่วตาเสียบ้าง ถ้ามันจะทำให้ท่านรวยได้เป็นหมื่นเป็นแสนล้านบาทได้ภายในห้าหกเดือนหลังที่มันออกมาใช้ ผมไม่ได้พูดเล่นๆนะ พูดเรื่องจริงเลย เรื่องเงินดิจิทัลนี้มันเป็นความฝันของนักการเงินและนักคอมพิวเตอร์ในเมืองไทยกันอย่างมาก ที่จะสร้างเหรียญดิจิทัลของคนไทยให้มันดังกระหึ่มโลก เย่างเช่นบิตคอยล์ แม้กระทั่งธนาคารพาณิชย์อย่าง ธนาคารไทยพาณิชย์เอง ก็ยังมาลงทุนในธุรกิจนี้เลย แต่มาติดขัดในกฎเกณฑ์ที่ออกมาโดย กกต., กลต., ธปท., และหน่วยงานอื่นๆอีกเยอะ เพื่อเบรกการทำธุรกิจเรื่องเงินดิจิทัลในเมืองไทย ใครจะทำธุรกิจในเรื่องนี้ต้องไปขออนุญาตจากหน่วยงานต่างๆมากมาย ที่อาจจะผ่าน อาจจะไม่ผ่าน อาจจะต้องรอฟังผลคำพิจารณา อาจะต้องรอแก้กฎหมายในสภาผู้แทนราษฎร์ก่อน ที่รวมๆแล้วไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานกี่สิบปี ธุรกิจนี้ก็เลยยังไม่รุ่งเรืองในเมืองไทย ซะที อีกประเด็นหนึ่งที่เป็นปัญหาอุปสรรคอันใหญ่หลวงของวงการเงินดิจิทัล ที่ทำให้ธุรกิจนี้ไม่มั่นคง ก็คือการรับประกันค่าเงินเหรียญที่ตนออกมาว่าจะมีค่าอย่างน้อยที่สุดเท่านี้ เท่านั้น ไม่มีวันต่ำกว่านี้ เช่นจะมีค่าต่ำสุดหนึ่งบาท ไม่มีวันต่ำกว่านี้ แม้ว่าทุกวันนี้จะมีบางเหรียญจะเริ่มมีคนออกมาค้ำประกันบ้างแล้วก็ตาม แต่ว่าเครดิตของคนค้ำประกันนั้น คนไม่ค่อยเชื่อถือ วันหนึ่งถ้าคนค้ำประกันอาจจะมุดดินหายไปแบบนาย Nakamoto จะไปตามเอากับใคร โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ผ่านมามีผู้ที่ทำธุระกิจเกี่ยวกับเงินดิจิทัลในต่างประเทศมีการล้มละลายไปแล้วหลายแห่ง พอมาถึงยุคพรรคเพื่อไทยเจ้าพ่อโปรแจ๊ค นักคิดแบบศรีธนนทชัย ก็มองออกว่า ช่องทางเดินมันจะทำอย่างไรจึงจะเลี้ยวลดผ่านวงเขาวงกตไปได้อย่างสบายบื้อ สะดือโบ๋ แก้ปัญหาข้างต้นได้ทั้งหมด ซึ่งต้องขอปรบมือให้นักคิดแห่งพรรคเพื่อไทยจริงๆ วิธีการของพรรคเพื่อไทยก็คือ 1) เอาเรื่องการแจกเงินดิจิทัล ที่มีมูลค่า 10,000 บาทให้กับประชาชน มาเป็นตัวดึงดูดเสียงสนับสนุนจากประชาชนหลายล้านคนที่ไม่รู้เรื่องในรายละเอียดของเงินแบบนี้ ทำให้เกิดความกดดันกับทุกหน่วยงานที่คุมกฎ 2) วางหมากให้นายกรัฐมนตรีควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ควบคุมบังคับบัญชาหน่วยงานต่างๆที่คุมกฎเรื่องนี้ ดังนั้นเมื่อรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยจะทำเรื่องเงินดิจิทัลนี้ แทนที่ขั้นตอนต้องมายื่นเรื่องเพื่อขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแบบ Buttom Up จากข้างล่างไปข้างบน แบบนักธุรกิจทั่วไป มันกลายเป็นการสั่งลงมาจากข้างบนลงมาข้างล่าง แบบ Top Down เพื่อที่การแก้ไขกฎระเบียบต่างๆที่ขัดขวางการทำงานในโครงการนี้ ให้มันคล่องตัว หรืออนุมัติมาเลย แบบหลักการที่ว่ากฎนั้นคนออกมาได้ คนก็แก้ได้ แก้แล้วอะไรมันจะเกิด ก็ไม่รู้แล้ว แม้กระทั่งผู้ว่าแบ็งค์ชาติท่านยังเรียกมานั่งคุยเลย ถึงแม้ว่าไม่เปิดเผยเรื่องที่คุยกัน เราก็เดาได้ว่าคุยกันเรื่องอะไร 3) ปัญหาที่เป็นจุดอ่อนที่สุดของเงินดิจิทัล คือการประกันค่าเงินขั้นต่ำของเหรียญที่ต้องทำให้คนเชื่อมั่นว่าค่าเงินจะมั่นคง ทางพรรคก็บอกว่า รัฐบาลไทยจะค้ำประกันว่าค่าเงินของเหรียญที่พรรคออกมานั้นจะเท่ากับหนึ่งบาท หลังจากออกเหรียญไปแล้วหกเดือน ผู้ถือเหรียญสามารถนำมาขึ้นเงินกับรัฐบาลได้ ในอัตรา หนึ่งเหรียญต่อหนึ่งบาท โดยไม่ได้ระบุวันหมดอายุ หรือวันที่สิ้นสุดของการเอาเหรียญมาแลกเป็นเงินสดแดงๆ นั่นคือไม่ว่ารัฐบาลท่านเศรษฐาจะหมดสมัยไปด้วยสาเหตุอะไรก็ตามรัฐบาลใหม่ที่มาก็ต้องให้แลกเงินต่อไปในอัตราหนึ่งบาทเช่นเดิม นี่คือสววรค์ของพวกฟอกเงินชัดๆ ที่ไม่มีรัฐบาลใดในโลกนี้ที่จะกล้าออกมาค้ำประกันเงินดิจิทัลที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้ออก เห็นไม๊ครับ ไม่ให้ผมปรบมือให้ได้อย่างไร เพราะกุนซือแห่งพรรคเพื่อไทยสามารแก้ปัญหาทั้งสามข้อที่เป็นจุดอ่อนของเงินดิจิทัลของโลกได้อย่างสวยงาม ไชโย! ไชโย! ไชโย! ขอให้โครงการนี้ของพรรคเพื่อไทยสำเร็จโดยเร็ว....... ไม่ใช่ผมอยากได้เงินหมื่นบาทที่จะมาแจกนะครับ เงินแค่หมื่นบาทมันกระจอกสำหรับผม เพราะโครงการนี้มันจะทำเงินให้ผมหลายแสนบาท หรืออาจจะหลายล้านบาท หรืออาจะหลายร้อยล้านบาทหากผมมีแรงทำ คุณคิดออกหรือยังว่าเราจะทำเงินกันได้อย่างไร? ผมหมดเวลาเขียนต่อพอดี ผมอยากให้ท่านไปลองคิดดูสักพักว่าเราจะทำเงินจำนวนมากๆจากโครงการนี้ได้อย่างไร? แล้วผมจะมาเฉลย มาดูว่าที่ท่านคิดกับที่ผมคิดมีอะไรตรงกันบ้าง และอะไรที่ไม่ตรงกันแต่เอามาปรับใช้หาประโยชน์จากโครงการนี้ไปด้วยกัน เขียนมาถึงตอนนี้มีคนข้างห้องตะโกนถียงกับโฆษกทีวีว่า “แล้วมันจะเอาเงิน 560,000 ล้านบาทมาจากไหนมาแจกให้ชาวบ้าน?” ทำให้ผมนึกถึงประเด็นนี้ขึ้นได้ ผมจะเฉลยคร่าวๆตรงนี้ก่อน แล้วจะอธิบายรายละเอียดต่อไปภายหลัง คำตอบของผมก็คือ มันจะมีคนมาขอขึ้นเป็นเงินสดแดงๆน้อยมาก น้อยพอๆกับภาษีมูลค่าเพิ่มที่รัฐบาลคาดการว่าจะเก็บมาได้นั่นแหละ ส่วนที่เหลือทำไมมันไม่มีคนมาขึ้นเงินหว่า???? ............ ผมจะมาเฉลยในตอนที่สามครับ ..... ...ณรงค์ กุลาข่าวการเมือง เสียดสีไม่ระบุชื่อ• 2 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัย##วิกฤตมหาวิทยาลัย Lay off อาจารย์ - ขาย - ยุบเลิกกิจการ เผยแพร่: 26 ส.ค. 2561 07:29 โดย: ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ผู้อำนวยการหลักสูตร Ph.D. และ M.Sc. (Business Analytics and Data Science) สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ผมต้องออกมายอมรับว่าตัวเองพยากรณ์พลาดไปมาก เพราะได้เขียนบทความว่า เมื่อมหาวิทยาลัยไทยต้อง lay off อาจารย์และเจ้าหน้าที่ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2561 แต่สิ่งที่ผมคาดไว้กลับเกิดขึ้นไวกว่าที่ผมพยากรณ์ไว้มาก วันก่อนลูกศิษย์ผมที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนมาเล่าให้ฟังว่าตัวเธอเองต้องรับหน้าที่ไปบอกเพื่อนอาจารย์ว่าต้อง lay off แล้วเพราะไม่มีภาระงานสอน มหาวิทยาลัยต้องเลิกจ้างโดยไม่มีความผิดใด ๆ มีมหาวิทยาลัยเอกชนหนึ่งแห่ง ได้ขายให้กลุ่มทุนจีนแล้ว และเปลี่ยนผู้บริหารชุดใหม่ และเริ่ม lay off อาจารย์ที่สอนได้แต่ภาษาไทยและภาษาอังกฤษออกไป และเริ่มหาอาจารย์ชาวจีนที่สอนเป็นภาษาจีนได้เข้ามาทำงานแทน ไม่มีนักเรียนไทยเพียงพอแล้ว เด็กไทยมีอัตราการเกิดต่ำมาก เราเป็นสังคมสูงอายุรุนแรงมาก ถ้าไม่มีนักศึกษาจีนเลยไม่มีทางไปรอดสำหรับมหาวิทยาลัยเอกชน และที่ผ่านมาก็เอาเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาเป็นเครื่องจูงใจให้เด็กมากู้เงินแล้วเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนกันมาก แต่ก็ไม่ยั่งยืนและไปไม่รอด นอกจากนี้ยังมีมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง มีนักเรียนจีนเยอะ เด็กนักเรียนไทยหายไปมากกว่าสองในสาม กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาให้ได้ข้อตกลงเพื่อจะซื้อขายกัน แน่นอนว่าทุนจีนจะเป็นคนซื้ออีกเช่นกัน ยังไม่ได้ราคาที่ลงตัว ผมได้ยินข่าวมาว่ากลุ่มทุนจีนที่ทำธุรกิจพานักเรียนจีนเข้ามาเรียนในประเทศไทยจะลงทุนซื้อมหาวิทยาลัยเอกชนเอง และบริหารเอง และหาอาจารย์จีนมาสอนเอง และหานักเรียนจีนมาเรียนด้วยตัวเอง ครบวงจรอย่างยิ่งครับ เข้าใจว่าจะทำหอพักและร้านอาหารรอบมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำไป เรื่องนี้น่าจะมีเค้าความจริง ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวลแต่อย่างใด ที่น่ากังวลกว่าคือนักเรียนมาแล้วไม่เรียนกลับมาสนใจแต่ค้าขายรอบมหาวิทยาลัยหรือมาทำธุรกิจอย่างอื่น เรื่องนี้ต่างหากที่ไทยเราโดยเฉพาะตรวจคนเข้าเมืองต้องดำเนินการจริงจังได้แล้ว เอาเป็นว่า ณ บัดนี้ เริ่มมีการ lay off อาจารย์มหาวิทยาลัยที่ไม่มีภาระการสอนกันแล้วอย่างเป็นเรื่องเป็นราวหลายๆ ที่ครับ ที่แย่สุดคือ รองอธิการบดี หรือ คณบดี ไม่ลงไปพูดกับผู้ถูก lay off เอง แต่ให้หัวหน้าภาควิชาลงไปพูด ทำไมไม่ลงไปบอกเองหนอ สาขาวิชาที่เสี่ยงจะถูก lay off คือสาขาวิชาที่ไม่มีนักศึกษาเรียนครับได้แก่ เศรษฐศาสตร์ วันก่อนอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยออกมาพูดเองเลย สถิติคณิตศาสตร์ฟิสิกส์ วิทยาการคอมพิวเตอร์การจัดการระบบสารสนเทศ วิชาพวกนี้ยากไป เด็กไทยไม่อยากเรียน ปรัชญาประวัติศาสตร์ วิชาพวกนี้จบไปไม่มีงานโดยตรง เด็กไทยก็ไม่อยากเรียน อาจารย์มหาวิทยาลัยในสาขาวิชาพวกนี้น่าจะไปก่อนครับผม เอาเข้าจริงเห็นอาจารย์ในสาขาวิชาเหล่านี้เริ่มถูก lay off แล้วครับ ส่วนสาขาวิชาบางสาขากลับขาดแคลนหนักมาก เช่น พยาบาลศาสตร์ ผลิตเท่าไหร่ก็ไม่พอ หาอาจารย์พยาบาลก็ยากลำบากเหลือเกิน สาขาแพทย์ก็ขาดแคลนแต่ไม่เท่าพยาบาล เพราะเราเข้าสังคมผู้สูงอายุ การเจ็บป่วยก็มากขึ้น ต้องการคนดูแลมากขึ้น การปรับตัวเป็นเรื่องจำเป็นมาก โดยเฉพาะการปรับตัวหลังถูก lay off จะไปทำอะไร อายุก็มากแล้ว และอยู่ใน comfort zone ในมหาวิทยาลัยมีอำนาจเหนือนักศึกษา และหลายคนไม่ได้ทำงานจริง ๆ มานานมาก สอนหนังสืออย่างเดียว จนทำอะไรไม่เป็นแล้วก็มีมาก TCAS รอบนี้ หนักหนามากครับ ระบบห่วย ซับซ้อน และซ้ำซ้อนมากเกินไป เพราะทุกมหาวิทยาลัยแย่งเด็กที่มีจำกัดมาก มีที่นั่งให้เรียนมากกว่าจำนวนเด็กที่อยากเข้าเรียนมหาวิทยาลัย วันก่อนได้สนทนากับรองเลขาธิการ สกอ. ได้เล่าให้ผมฟังว่าปีที่ผ่านมามีมหาวิทยาลัยไทยขอเลิกกิจการไปสองแห่ง และขณะนี้มีการยื่นเรื่องเพื่อขอปิดมหาวิทยาลัยอีก 5 แห่ง มีบางมหาวิทยาลัยในต่างจังหวัดเล็ก ๆ รับเด็กได้สิบกว่าคนทั้งมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ไม่รอด ต้องเลิกกิจการแน่นอน ปีหน้าน่าจะหนักหนากว่านี้ TCAS ปีนี้ที่มีปัญหามาก ส่วนหนึ่งคือนักเรียนสมัครน้อย และเกิดการชิงเปรต แย่งเด็กกัน TCAS เที่ยวนี้เอาเข้าจริงคือ 7 รอบ (รวม 3/1 และ 3/2) ใช้เวลานานเกือบครึ่งปี และมีระบบสอบมากกว่า 50 ระบบ มหาวิทยาลัยแย่งเด็กกันเพราะสถานการณ์เช่นข้างบน รอดูครับ มีแต่จะเลวร้ายลงไปกว่านี้ พวกมหาวิทยาลัยราชภัฎ ในต่างจังหวัด ที่นักศึกษาลดลงมากก็มีการเลิกจ้างและเลย์ออฟอาจารย์ที่เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยกันมากมาย ที่ยังอยู่กันไล่ไม่ได้คืออาจารย์มหาวิทยาลัยที่เป็นข้าราชการเท่านั้น ซึ่งก็เหลืออยู่ไม่มากนัก พวกพนักงานมีสัญญากันไม่กี่ปีตอนนี้จะเริ่มถูกเลย์ออฟครับ ถ้าไม่มีภาระงานสอน และไม่มีภาระงานอย่างอื่น ใครจะขึ้นมาเป็นคณบดี อธิการบดี รองอธิการบดี โปรดเตรียมตัวมาทำหน้าที่นี้เพื่อความอยู่รอดของหน่วยงานของตัวเอง โปรดเตรียมตัวไปศาลปกครองด้วย ขอให้โชคดีกันนะครับ มหาวิทยาลัยของรัฐก็อย่าชะล่าใจ มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ จะมีวิธีการบริหารที่เด็ดขาดกว่า เช่น สาขาวิชาไหน ไม่มีนักศึกษาเรียนพอแล้วทำให้ขาดทุน ก็ต้องยุบไป ต้องเกลี่ยอาจารย์ไปสอนในสาขาวิชาที่มีนักศึกษา หากปรับตัวไม่ได้หรือไม่มีสาขาวิชาไหนต้องการก็ต้องลาออกไป ไม่ต่อสัญญาจ้าง จะถูกบีบให้ออก เพราะไม่มี value และ ไม่มี contribution อะไรที่มาทดแทนกันได้ หรือไม่ก็ให้โอกาสให้ไปเขียนหลักสูตรมาใหม่ ทำให้มีนักศึกษามาเรียนให้ได้ เวลานี้สถานการณ์มหาวิทยาลัยไทย ย่ำแย่มาก ไม่มีนักศึกษา และอาจารย์กำลังจะถูก lay off มากขึ้นเรื่อยๆ ประเทศเล็กๆ มีมหาวิทยาลัยมากเกือบสามร้อยแห่ง ยุบๆ ไปบ้าง หรือยุบรวมกันไปบ้าง มากกว่าครึ่งหนึ่งยังเหลือแหล่เกินพอเพียง โรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาก็ควรยุบไปบ้างครับ ตำแหน่งครูก็ยุบลงไปรวมกันในโรงเรียนใหญ่กว่าได้ครับ ที่พูดมานี้ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำอำมหิต หรือไม่เห็นใจครูบาอาจารย์มหาวิทยาลัย แต่สถานการณ์จะเป็นนายของทุกคน เด็กไม่มี เงินไม่มี ก็ไม่มีเงินจะจ้าง สถานการณ์จะบีบให้ผู้บริหารต้องบีบอาจารย์มหาวิทยาลัยลาออกไปครับ ดังนั้นอาจารย์มหาวิทยาลัย ควรมีอาชีพอื่นหรือแหล่งรายได้อื่นสำรองได้แล้วครับ ที่จะเอาทุนไปเรียนต่อปริญญาเอกก็คิดกันให้ดี ๆ กลับมาอาจจะไม่มีนักศึกษาให้สอน แล้วต้องไปทำงานธุรการก็ได้ ใครจะไปรู้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ สวัสดีอาจารย์มหาวิทยาลัยไทย นี่คือความจริงอันเจ็บปวดที่ท่านกำลังต้องเผชิญ แต่ที่ผมห่วงยิ่งกว่าคือเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัย ซึ่งมีจำนวนมากยิ่งกว่าอาจารย์มหาวิทยาลัย และมีวุฒิการศึกษาน้อยกว่าอาจารย์ ซึ่งน่าจะถูกเลย์ออฟไปด้วย จะไปอยู่ที่ไหน จะไปทำงานอะไรหลังถูก lay off นี่ก็เป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก เพราะโอกาสน่าจะน้อยกว่าอาจารย์มหาวิทยาลัยค่อนข้างมาก ก็ต้องเตรียมตัวกันให้ดีครับ.ข่าวการเมืองไม่ระบุชื่อ• 3 ปีที่แล้ว
- 1 คนสงสัยอ่านหน่อยนะ เตรียมตัวไว้นะ คนเยอะแยะบอกเราว่า ทำอย่างไรจึงจะไม่ติดไวรัสโคโรน่า แต่ไม่ยักมีใครสักคนบอกว่า ถ้าเกิดติดไวรัสแล้ว จะต้องทำอย่างไร ขอบคุณนะ คุณพยาบาลในจักรภพอังกฤษที่รวบรวมคำแนะนำนี้ให้เรา นี่เป็นคำแนะนำที่มีเหตุผลบางประการ จากพยาบาลทั่วไปในอังกฤษ นี่เป็นสิ่งที่ดิฉันเจอคำแนะนำว่า แรกที่สุดต้องทำอย่างไร จึงจะหลีกพ้นจากการติดไวรัส: • ล้างมือให้สะอาดหมดจด รักษาอนามัยร่างกาย อยู่ห่างๆ ผู้คน แต่ที่ดิฉันไม่เคยเห็นเลย คือ คำแนะนำว่า ถ้าเกิดติดไวรัสขึ้นมาจริงๆ จะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ซึ่งนี่อาจจะเกิดขึ้นกับพวกเราได้นะ ดังนั้น ในฐานะเป็นพยาบาลเพื่อนใกล้บ้าน ดิฉันขอให้คำแนะนำบางประการ: ถ้าคุณ เกิดติดเชื้อ โควิด-19 ขึ้นมา คุณต้องรู้จักเตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อน คล้ายๆกับว่า คุณรู้แล้วว่าคุณโดนไอ้เจ้าเชื้อทางเดินลมหายใจเล่นงานเข้าแล้ว เช่น เป็นมีภาวะหลอดลมอักเสบ หรือ ภาวะปอดบวม คุณต้องนึกไว้นะว่าอาการเหล่านี้จะเกิดกับตัวคุณ คุณต้องเริ่มทำสิ่งต่อไปนี้เดี๋ยวนี้เลย : ให้แสงแดดชะโลมทั่วตัววันละ 20 นาทีทุกวัน (หรือมากที่สุดเท่าที่จะทำได้) แสงแดดจะเพิ่มระดับไวตามิน D ให้คุณมากมาย นี่จะไปเสริมความสามารถของภูมิคุ้มกันของตัวคุณ ถ้ามีกำลังทรัพย์ ให้กินอาหารเสริมดีๆ ร่วมกับไวตามิน C 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน รวมทั้ง สังกะสี ซิลิเนียม และ สารกลูทาไธโอน น้ำมันตับปลายี่ห้อ Scott’s Emulsion ก็เป็นอาหารบำรุงชั้นดีทีเดียว (น้ำมันตับปลาค้อด) สิ่งที่คุณจำเป็นต้องซื้อล่วงหน้าเข้าไว้ก่อน คือ: *กระดาษ Kleenex* *ยาพาราเซตามอล Paracetamol* *ยาแก้ไอ ตามที่ชอบ (ให้ดูฉลากยาด้วย เพื่อให้แน่ใจว่า ยาแก้ไอจะไม่มียาพาราเซตามอลไปเพิ่มอีก) *ยาอมผสมสังกะสี *สะเปรย์พ่นคอ เช่น Andolex หรือ TCP *น้ำผึ้งกับมะนาวก็ได้นะ ดีทีเดียวละ ! ยาหม่อง Vicks* vaporub ก็ดีนะ คนใช้กันเยอะ *เครื่องลดความชื้น ก็ควรจะซื้อมาใช้ในห้องที่คุณจะนอนทั้งคืน (คุณอาจจะใช้วิธีอาบน้ำอุ่นจากฝักบัว และนั่งในห้องน้ำ หายใจเอาไอน้ำเข้าตัวก็ได้นะ) ถ้าคุณเคยเป็นหอบหืด และหมอเคยจ่ายยาพ่นให้ ต้องแน่ใจนะว่า มันยังไม่หมดอายุ ให้หายาพ่นมาสำรองไว้นะ *อาหารการกิน* นี่เป็นเวลาเหมาะแก่การทำอาหารดีๆกิน ให้ทำซุบไว้เยอะๆเลย ใส่ตู้เย็นเอาไว้ พร้อมทุกเมื่อ *น้ำ น้ำ น้ำ* ตุนไว้เลยนะ ของเหลวใสๆที่คุณชอบนั่นแหละ เอาไว้ดื่มกิน น้ำประปาก็น่าจะดีนะ บางครั้งบางคราวคุณอาจนะต้องใช้ *การจัดการกับอาการที่เกิดขึ้น เมื่อมีไข้สูงกว่า 38°c ให้กินยา Paracetamol จะดีกว่ายา Ibuprofen. *พักผ่อนเยอะๆ * คุณไม่ควรออกจากบ้านนะ ! ถึงแม้ว่าคุณรู้สึกดีขึ้น ไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ก็อาจจะมีเชื้อไวรัสอยู่กับตัวไปตั้ง 14 วัน ดังนั้น คนแก่กับคนที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว อย่าไปใกล้เขานะ *ใส่ถุงมือและหน้ากากอนามัย* เพื่อป้องกันไม่ให้กระจายเชื้อไปให้คนอื่นในบ้านของคุณเอง *กักตัว* ในห้องนอน ถ้าคุณไม่ได้อยู่แต่ลำพัง ให้บอกเพื่อนและคนในครอบครัวให้ วางสิ่งที่จะส่งให้คุณไว้ภายนอก เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสติดต่อ *ทำความสะอาด* ซักผ้าปูที่นอน เสื้อผ้าบ่อยๆ และล้างห้องน้ำด้วยน้ำยาทำความสะอาดด้วย *คุณไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล เว้นไว้แต่ว่า คุณกำลังหายใจลำบาก หรือมีไข้สูงมาก(มากกว่า 39°C) แล้ว ใช้หยูกยาต่างๆ ไม่ได้ผล กับผู้ใหญ่ ที่มีสุขภาพดีแล้ว 90% สามารถดูแลได้ที่บ้าน โดยการพักผ่อน ดื่มน้ำ กินยาที่หาซื้อได้จากร้านขายยา ถ้าคุณกังวล หรือไม่สบายใจ รู้สึกว่า ตัวเองอาการจะหนักขึ้น *ความเสี่ยงที่มีอยู่แล้ว* ถ้าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับสภาพปอด (เช่น หายใจติดขัด ถุงลมโป่งพอง มะเร็งปอด) หรือกำลังได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ต้องคุยกับหมอแล้วละว่า คุณควรจะทำอย่างไร หากคุณเกิดไม่สบายขึ้นมา *สำหรับเด็กๆ* พ่อแม่ออกจะโล่งใจว่า โคโรนาไวรัส ญาติดีกับเด็กมาก มันมักจะเป็นไม่กี่วันก็หาย (แต่มันก็ยังเป็นเชื้อโรคติดต่อนะ) จึงต้องคำนึงถึงสภาพเด็กๆ ด้วย . *ให้มีสติและตระเตรียมตามควรแก่เหตุ* แล้วทุกอย่างจะไม่เสียหาย จะบอกคุณเอาไว้ว่า ค่า pH ของโคโรนาไวรัสทั้งหลาย มีได้ตั้งแต่ 5.5 ถึง 8.5. สิ่งที่เราต้องทำ ในการจัดการกับไวรัสโคโรนา คือ เราต้องกินอาหารที่มีฤทธิ์เป็นด่าง โดยมีค่า pH สูงกว่าของไวรัส ดังที่บอกไว้ข้างบนนี้ อาหารเหล่านั้น เช่น *มะนาวฝรั่ง - 9.9pH* *มะนาว - 8.2pH* *อะโวคาโด - 15.6pH* *กระเทียม - 13.2pH* *มะม่วง - 8.7pH* *ส้มเขียวหวาน - 8.5pH* *สับปะรด - 12.7pH* *ดอกเก็กฮวย(?) - 22.7pH* *ส้ม - 9.2pH* คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณติดไวรัสโคโรนาเข้าให้แล้ว? 1. คันคอ 2. คอแห้ง 3. ไอแห้งๆ 4. มีไข้ตัวร้อน 5. หายใจถี่ หอบ 6. ไม่ได้กลิ่น และไม่รู้รส 7. นิ้วเท้า มีสีเขียวคล้ำ หรือดำ ดังนั้น เมื่อใดมีอาการอย่างนี้ให้กินน้ำอุ่น ร่วมกับน้ำมะนาวเข้าไปเลย อย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ กรุณาส่งต่อๆไปให้คนในครอบครัวและเพื่อนๆด้วยนะโควิด 2019ไม่ระบุชื่อ• 5 ปีที่แล้ว1 คนว่า ไม่อยู่ในขอบเขตการตรวจสอบ

ไม่พบข้อความที่คุณค้นหา
หากคุณสงสัยว่าข้อความที่พบเป็นข่าวลวง ข่าวลือ หรือ ข้อความหลอก ที่ยังไม่พบใน Cofact กรุณาคลิกที่
สร้างข้อความ
